ตอนที่ 4 : CH 3 100% CUT
CHAPTER 3 100%
[Sweet dream]
ฉากตัดสามารถหาได้ใน ธัญวลัย google และแฟนเพจ นะคะ
CUT
“กลับบ้านดีๆนะคะคุณชาร์ลี”
“ครับ” เขาตอบรับของมิสนาตาเซีย ออกจากบริษัทในเวลาเลิกงานแล้วตรงกับคอนโดทันที แฟ้มรายชื่อบุคคลที่เขายังคัดแยกไม่เสร็จมีเหลืออีกเป็นกองจนต้องหอบกลับมาทำต่อที่บ้าน
เพราะภาพนั่นแท้ๆ...
เขาสะบัดหัวไปมา ไล่ความคิดภาพริมฝีปากของแอชตันที่กลืนน้ำของเขาไปมันติดตาตลอดทั้งวัน ชาร์ลีวางงานทั้งหมดลงบนโต๊ะทำงาน จัดการธุระส่วนตัวแล้วกลับมานั่งทำงานต่อให้เสร็จ
สี่ทุ่ม...
ชาร์ลีมองนาฬิกา ปิดแฟ้มงานทั้งหมดที่ตนคัดแยกและเรียบเรียงไว้เสร็จหมดแล้ว นวดขมับไล่ความเมื่อยล้า ปิดไฟเรียบร้อยพลางเดินไปล้มตัวนอนบนเตียง แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นการแจ้งเตือนของแอพฯแชทที่เด้งขึ้นมาเมื่อห้านาทีที่แล้ว เขากดเปิดดูก็พบข้อความของแอชตัน
Ashton>>> มื้อเที่ยงอร่อยดี
Charlie>>> อร่อยก็ทานบ่อยๆสิครับท่านประธาน
Ashton>>> ปากดีนะครับผู้จัดการฝ่ายบุคคล
ชาร์ลีขำเบาๆกับข้อความที่ถูกส่งมา นัยต์ตาสีสนิมเป็นประกายเมื่อนึกถึงใบหน้าที่มีรอยมุมปากเหยียดๆเสมอนั่น ปกติพวกเขามักจะคุยกันผ่านแอพฯแชทเมื่อมีเวลาว่าง ว่างจริงๆหรือไม่ก็อีกฝ่ายอยากจะคุย เพราะเขาไม่ใช่พวกติดโทรศัพท์มือถือเท่าไหร่
Charlie>>> ผมรู้ว่าคุณชอบ ยังไม่นอนอีกหรอ?
Ashton>>> ยัง ดูผลการรายงานการประชุมทั้งหมดอยู่
Charlie>>> เหงาก็ไม่บอกผมดีๆนะครับ
Ashton>>> อยากโดนย้ายไปแผนกทำความสะอาดมั้ยครับมิสเตอร์ชาร์ลี
Charlie>>> ผมล้อเล่นขำๆน่า
Ashton>>> เค้กที่ฝึกทำ แม่ผมทานแล้วนะ
Charlie>>> อือฮึ
Ashton>>> แม่ผมบอกว่าอร่อย
Charlie>>> ก็ดีแล้วนี่
เวลาผ่านไปพอสมควร เห็นว่าอีกฝ่ายอ่านแต่ไม่ตอบก็เข้าใจว่าอาจจะไม่อยากคุยต่อ เขาปิดหน้าจอ แต่ข้อความก็เด้งมาใหม่อีกครั้ง
Ashton>>> ขอบคุณนะ...ดีใจที่คุณช่วยสอน
Ashton>>> แล้วก็... Sweet dream, sweetheart
....ไม่ต้องพิมพ์ตอบ คำง่ายๆสั้นๆจากอีกคนทำให้ชาร์ลีกดปิดมือถือแล้วเข้านอน เขารู้ตัวว่าตอนนี้หน้าของเขาต้องยิ้มกว้างขนาดที่ว่าต้องตกใจตัวเองแน่ๆ
“Sweet dream my honey…” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้น เปลือกตาหนาค่อยๆปิดลงจนหลับสนิท ชาร์ลีคิดว่าเขาต้องนอนฝันดีมากแน่ๆในคืนนี้
เจ้านายคนสำคัญบอกฝันดีทั้งที ไม่ฝันดีสิแปลก...
[[ ASHTON PART ]]
‘เด็กดี..แบบนั้นแหละ’ ท่ามกลางเสียงครางแบบสุขสมจากเตียงกว้าง ฝ่ามือขนาดเล็กกลับเย็นเฉียบขึ้นทุกครั้งราวกลับกำลังหวาดกลัว
‘แบบนั้น แอชตัน ทำอีกสิ’
ไม่.....
ดวงตาสีเทาสว่างเบิกกว้าง ก้มลงมองที่มือของตัวเอง คราบเลือดสีแดงสดถูกชโลมไปทั่วทั้งฝ่ามือที่กำมีดไว้แน่น ริมฝีปากบางเฉียบสั่นระริกพยายามที่จะส่งเสียงแต่กลับไม่มีเสียงอะไรออกมาเหมือนกับคนเป็นใบ้ ร่างของเด็กสิบขวบทรุดลงไปนั่งกับพื้นพรมกำมะหยี่เนื้อดีพลางขยับถอยหลังเพื่อหนีจากภาพตรงหน้า
อย่าเข้ามา...
กึก!
สัมผัสเย็นๆจากเหล็กแท่งกระทบเข้าแผ่นหลังอย่างแรงจากการขยับตัวหนีแบบไม่คิดชีวิตจนร่างเล็กๆต้องหยุดชะงัก กระถดตัวให้ชิดเข้ากับซี่เหล็กที่เรียกว่ากรงขังที่ล้อมรอบระหว่างเขากับ’เธอ’ให้มากที่สุด
‘อย่าหนีสิ’
‘ย...อย่า…’
‘เธอกำลังพูดกับใคร?’ เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้น เรือนร่างงดงามค่อยๆพยุงตัวขึ้นมาจากเตียงกว้าง ค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ
บอกว่าอย่าเข้ามา!
ตึก...ตึก...
เสียงเท้าที่ย่ำไปตามระหว่างพื้นกำมะหยี่ดังขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้มันจะเบามากแต่กลับดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าแทบทนไม่ไหว ร่างทั้งร่างสั้นระริกรั้งวงแขนกอดตัวเองซุกหน้าลงกับฝ่ามือเพื่อหลบหลีกความหวาดกลัวที่ตีตื้นขึ้นจนแทบจะอาเจียน
‘เด็กดี…’
‘ผ ผมขอร้อง อ..’
‘ชู่วววว อย่าทำหน้าแบบนั้น ได้โปรด ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ’ มือขาวๆตัดกับเล็บที่แดงสดจิกเข้าที่คางเล็กได้รูปให้เชิดขึ้น ดวงตาสีเทาสว่างที่เคยส่งประกายสดใสถูกลบเลือนด้วยม่านน้ำตาแทนที่ด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากบางพยายามที่จะส่งเสียงอีกครั้งแต่ก็ทำได้แต่ครางอื้ออึงเมื่อสัมผัสได้ถึงของเหลวกลิ่นคาวจากตัวคนตรงหน้า
‘หืม ทำไมร้องไห้แบบนั้น’ ดวงตาสีดำสนิทมองที่มาของของเหลวด้วยสายตาพออกพอใจ แลบลิ้นเลียริมฝีปากจนชุ่มเมื่ออารมณ์วาบหวามได้โหมกระพือขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยๆฉาบด้วยรอยยิ้มใจดี เธอรั้งฝ่ามือขาวซีดขึ้นมาสัมผัสกับรอยกรีดขนาดใหญ่เหวอะหวะที่กลางหน้าอก เรือนร่างอวบอัดงดงามกระตุกเกร็งเมื่อปลายนิ้วเล็กๆสะกิดโดนจุดไวสัมผัส เธอออกแรงให้มือเล็กกดลงไปจนกระทั่งเลือดข้นๆทะลักออกมาจากปากแผลส่งกลิ่นคาวอบอวลไปทั่ว
‘ฉันรู้ว่าเธอต้องชอบมัน ใช่ไหม?’
‘อ...อะ...’
‘รอยที่เธอกรีดน่ะ...ชอบใช่ไหม!!!’
เฮือก!
ร่างสูงโปร่งสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างรุนแรง เหงื่อกาฬไหลอาบไปทั่วหน้าผากและใบหน้า เขาหอบหายใจแรงถี่เพื่อลดอาการหวาดกลัวในอกให้กลับไปเป็นปกติ
ฝันร้ายอีกแล้ว...
หลังจากเหตุการณ์ตั้งแต่เขาอายุ10ขวบ ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะนอนหลับแบบฝันดีได้เหมือนคนทั่วไป ยาแก้เครียดถูกนำมาใช้งานจนเป็นเรื่องเคยชินพอดีกับเสียงนาฬิกาส่งเสียงดังเพื่อเตือนเวลาตื่นนอน เขาหันกลับไปมองกดปิดมันแล้วลุกไปทำภารกิจส่วนตัวต่างๆจนเสร็จ
มื้อเช้าง่ายๆอย่างขนมปังปิ้งกับกาแฟดำถูกนำมาเป็นมื้อเช้า แอชตันนั่งละเลียดขนมปังในมือช้าๆ ในหัวครุ่นคิดไม่ตกเกี่ยวกับอาการหวาดผวามานานนับสิบกว่าปีที่เขาต้องเผชิญ เขาไม่เคยไปหาหมอจิตแพทย์เพื่อถามอาการเหล่านั้นโดยตรง ได้แต่ปล่อยผ่านไป คิดว่ามันอาจจะหายในสักวัน แต่มันกลับไม่ใช่ เขาฝันร้ายมากขึ้นทุกๆคืน เหตุการณ์วัยเด็กย้อนกลับมาหลอกหลอนกระตุ้นความทรงจำที่เลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับย้ำว่าเขาไม่มีทางกลับไปเป็นคนปกติแบบเดิมได้อีก
Rrrrrrr…..
เสียงสมาร์ทโฟนยี่ห้อชั้นนำดังขึ้น มองเบอร์ปลายทางก็ยอมหยิบขึ้นมากดรับไม่ให้เสียเวลา ทั้งที่เวลาปกติเขาจะไม่รับมือถือนอกซะจากเวลางานหรือเป็นคนในครอบครัว
[สวัสดี]
[หลับสบายดีนะครับท่านประธาน]
[ฮึ..อยากปั่นประสาทผมตั้งแต่เช้ารึไงชาร์ลี??]
สาบานว่าเขาได้ยินเสียงขำเบาๆมาจากปลายสาย รอยยิ้มบางๆถูกแต่งแต้มใบหน้าคมหวานในขณะที่กำลังคนช้อนในแก้วกาแฟดำเล่นๆ
[ถ้าการปั่นประสาททำให้คุณยอมบอกฝันดีแบบเมื่อคืนอีก ผมจะปั่นมันทุกวัน]
[.....]
[มีอะไรรึเปล่า คุณดูเงียบๆ ฝันร้าย??]
[นิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอก] เขาโกหก แอชตันแค่นยิ้มกับตัวเอง หยุดมือที่คนช้อนกลับมานวดขมับของตัวเองแบบเหนื่อยหน่าย คำถามจากอีกฝ่ายจี้ใจดำจนจุกแปลกๆในอก เขาลุกขึ้นไปคว้าสูทสีดำมาใส่ขณะที่พูดกับปลายสายไปด้วย
[ผมจะวางแล้วครับมิสเตอร์ชาร์ลี]
[เฮ้! จะรีบไปไหน ผมยังอยากคุยกับคุณอยู่นะ]
[อาฮะ แต่ผมต้องขับรถ] เขาเหลือบมองนาฬิกา เข็มสั้นชี้ไปที่เลขแปดตรง เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มเข้างาน เขาเหยียดยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อหาเรื่องแกล้งคนปลายสายได้สำเร็จ
[คุณมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงบริษัทนะชาร์ลี]
[เดี๋ยว! ผมเข้างานเก้าโมงครึ่ง มันอีกตั้งหนึ่งชั่วโมง]
[อ่า...นั่นสินะ ผมคิดถึงคุณน่ะ เลยอยากเจอเร็วๆ]
[…]
[เก้าโมงเจอกันครับ ถ้าช้า อย่าลืมว่าผมจะจับคุณขึงขึ้นเพดาน] แล้วเขาก็กดวางสายไปดื้อๆ ยิ้มให้ความสุขเล็กๆที่ได้กลั่นแกล้งอีกคนเล่นๆ ตั้งแต่ได้รู้จักกับชาร์ลี เขารู้สึกว่าชีวิตมันมีเรื่องน่าสนุกขึ้นมาเยอะมาก อาจจะเป็นเพราะได้แกล้ง เขาถึงได้สนุกจนแทบจะลืมทุกอย่างรอบตัวไปเสียสนิท
ลืมทุกอย่าง....
ถ้าหากได้พูดมันออกไปให้ชาร์ลีรู้...
ความคิดชั่ววูบแวบเข้ามาในหัว แอชตันส่ายหน้าเล็กน้อย เรื่องเกี่ยวกับตัวเขามันเลวร้ายมากพอที่จะไม่อยากให้ใครรับรู้ทั้งสิ้น เขาไม่อยากให้ใครมองเขาเหมือนตัวประหลาดทั้งนั้น...
‘คุณดูเงียบๆ ฝันร้าย ??’
แต่ถ้าเป็นชาร์ลี หมอนั่นจะรังเกียจเขา มองเขาแบบแปลกๆหรือเปล่านะ....
“หึ” ทำได้แต่ส่ายหัวไปเรื่อยเหมือนไม่คิดอะไรมาก พิงตัวไปกับเบาะรถทอดสายตาออกไปยังท้องถนน เมื่อเห็นว่ามันติดไฟแดง แอชตันหลับตาลง แค่คิดว่าชาร์ลีจะมองเขาด้วยสายตาแบบไหนมันก็ทำให้รู้สึกแย่พอๆกัน
ขออ้อนวอนกับพระเจ้า ได้โปรด อย่าให้หมอนั่นมองว่าเขาน่ารังเกียจทีเถอะ
[[ CHALIE PART ]]
“มิสเตอร์แซ็กส์ ผมว่าเอกสารชิ้นนี้มันมีปัญหานิดหน่อย”
“ครับ ผมจะแก้ให้”
“ถ้าส่งในช่วงเช้าของพรุ่งนี้ได้จะดีมากครับ” ชาร์ลีลอบมองอีกฝ่าย มิสเตอร์แซ็กส์ ชายแก่อ้วนลงพุงที่อยู่ในบริษัทนี้ในแผนกฝ่ายบุคคลมาเกือบสิบปี ถือว่าเป็นของโบราณประจำแผนก ไม่ใช่เพราะอวุโสอะไรนักหรอก ก็แค่คนขี้เกียจที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอะไรตั้งแต่เข้ามาจนถึงปัจจุบัน เงินเดือนคงที่เสมอต้นเสมอปลายจนเขาเองยังต้องทึ่งเล็กๆ ถึงจะแก่ตัว แต่การระงับอารมณ์ให้เป็นกลับไม่มี นั่นคือสิ่งที่เขาระอาอยู่ลึกๆ
“ครับ” มิสเตอร์แซ็กส์ว่า คว้าหมับเอกสารที่เขาส่งให้แล้วรีบเดินหันหลังไปทันทีโดยไม่หันกลับมามอง เขาบิดตัวเล็กน้อย เหลือบมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเลิกงานพอดี ทั้งวันนี้เขาอุตส่าห์ไปถึงบริษัทแปดโมงสี่สิบห้าเพื่อมารออีกฝ่ายตามนัดด้วยแค่คำว่าคิดถึงคำเดียว...
ฟังดูบ้าแต่มันก็เป็นไปแล้ว เขารีบขับรถมาที่บริษัท ไม่สนใจว่าใครจะด่าพ่อล่อแม่หรือชูนิ้วกลางไล่ท้ายมาติดๆ แต่วันนี้ทั้งวันกลับไม่เห็นท่านประธานบริษัทแม้แต่เงา ขนาดถามมิสนาตาเซียที่รู้เรื่องของชาวบ้านมากกว่าครอบครัวตัวเองยังได้คำตอบแค่ว่าไม่รู้
ชาร์ลีเปิดประตูห้องพัก เข้าไปอาบน้ำจัดการธุระของตัวเองจนเสร็จถึงได้กลับมาเปิดมือถือ เข้าแอพฯแชทที่คุยกับแอชตันค้างไว้ มองข้อความเก่าที่อีกฝ่ายตอบฝันดีกลับมานิ่งๆ บางทีแอชตันอาจจะไม่ว่างหรือไม่ก็ติดธุระทางบ้าน เขาเข้าใจดีถึงจุดนี้และจะไม่ก้าวก่าย ข้อนิ้วหนาเรียวพิมพ์ส่งข้อความกลับไป ชาร์ลีก็ปิดไฟนอนทันทีเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงห้าทุ่ม หลับตานอนนิ่งๆนึกถึงข้อความที่ส่งไปเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะได้รับรู้
Charlie>>> Sweet dream, sweetheart
และหวังว่าแอชตันคงจะหลับฝันดีเหมือนที่เขาฝันดีแบบเมื่อคืน...
TALK
100% นะคะ เรื่องฉากตัด สามารถหาในกูเกิ้ลโลด พิมพ์ชื่อเรื่องหาในธัญวลัยได้เลยนะคะ หรือไม่ก็แฟนเพจ Michaels Ken และเวลามีฉากตัด ก็จะเป็นกธัญวลัยตลอดเนอะกับหน้าแฟนเพจตลอดเน้อออ สำหรับ100% ที่เหลือ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยากจะบอกว่า แอชตันน่าสงสารนะ ปัญหาชีวิตของแอชตันเป็นอะไรที่ถ้าไม่ได้รับการเยียวยาจะทำให้มันแย่ลงเรื่อยๆ ไม่เป็นไรค่ะ เรามีชาร์ลีคอยช่วยอยู่ >< สำหรับตอนนี้ ขอบคุณทุกยอดวิว ทุกคอมเม้นต์ และทุกเฟบนะคะที่ยังติดตามไม่ไปไหน และสามารถติชมได้เรื่อยๆเลยนะคะ 1 เฟบ 1 คอมเมนต์ 1 ร้อยล้านกำลังใจน้าา ตอนต่อไปจะพยายามมาให้เร็วว ขอบคุณทุกคนมากจริงๆค่ะ !!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คิดถึงไรต์มว้ากกกกก ดีใจที่กลับมา
ปล.ทำไมเราหาncไม่เจอนะ ฮื่อออออออ