ตอนที่ 29 : LAST CH 100% + ลงCUT
CHAPTER 25
คนรับใช้ของพระราชา
“สรุปแล้วที่กล่าวว่ามิสเตอร์แอชตัน คลินน์ เป็นผู้ลงมือฆ่ามิสซิสแคลเลคแฮนเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ”
“…ไม่จริงครับ นั่นเป็นการใส่ความ”
เสียงรอบบริเวณดังกระหึ่มทันที ผู้สื่อข่าวหลายสำนักพิมพ์ต่างก็มีปฏิกิริยาต่างออกไป บ้างสงสัย บ้างครุ่นคิด แอชตันนั่งกอดอกและยิ้มมุมปากอย่างสุภาพเท่านั้น
หลังจากการประกาศโอนหุ้นในมือของอัลเบิร์ต คลินน์ ให้กับเขาอย่างเต็มตัว บริษัทยักษ์ใหญ่ก็เกิดการกวาดล้าง หุ้นจากผู้บริหารทั้งหมดถูกกว้านซื้อและจัดการมอบมันให้กับคนที่เหมาะสม และแน่นอน แอชตันเป็นคนจัดหามาเองกับมือ ข่าวนั้นจึงดังกระหึ่มบวกกับแอชตันที่ตัดสินใจจะแถลงข่าว
ชาร์ลีเป็นคนจัดการเชิญทั้งอลันและหมอร็อบส์ เข้ามาเพื่อตั้งการแถลงข่าวครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันเลย รู้แค่ว่าชาร์ลีเป็นคนจัดการไปคุยกับสองคนนั้น และสคริบทั้งหมดก็ถูกเขียนด้วยเจ้าของตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคลตัวดี
ทำตัวเหมือนหมาผู้ซื่อสัตย์ไม่มีผิด
“แล้วฆาตกรครั้งนี้เป็นใครคะ”
หลังจากจบคำถาม ความเงียบก็ครอบคลุมบริเวณ แอชตันเลิกคิวหนึ่งข้างและหันไปมองกับไอเด็กเวรที่กำลังหันมามองเขาพอดี
สายตาที่เหมือนขอความเห็นนั่น แอชตันไหวไหล่และไม่ได้ตอบอะไร เรียกสายตาขุ่นเคืองเล็กๆได้อย่างดีเยี่ยม แอชตันคิดว่านี่มันก็เกินความคาดหมายไปแล้วที่สองคนนี้ตัดสินใจมาแถลงข่าวร่วมกันกับเขา
“เรื่องนั้น...”
.
.
.
.
.
“คุณนี่มันเหลือเกินจริงๆที่รัก”
แอชตันครางในลำคอแผ่วเบาเมื่อถูกประกบจูบอย่างหนักหน่วง ห้องน้ำแคบๆนี่ไม่ใช่ที่ที่ผู้ชายร่างใหญ่สองคนอัดกันเข้าไปได้เลย แต่ใครจะรู้ ชาร์ลีทำได้ หมอนั่นจับเขายัดเข้ามาแล้วเอาแต่ตะโบมจูบเจ็บปากไปหมด
“อ่า..นั่นสินะ” แอชตันยิ้มรับ
“คุณไปหาหลักฐานพวกนี้มาจากไหนกันแน่ครับท่านประธาน”
หลักฐานที่ว่าเขาสามารถโบยความผิดทั้งหมดไปให้กับคนตายที่ไม่มีตัวตนน่ะเหรอ?
แอชตันนึกในใจ เขาเตรียมการทั้งหมดนี่มาซักพักแล้ว ถึงแม้ว่าสุดท้ายถ้าเขากำจัดอลันไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็จะมีแผนสำรอง เขาก็แค่หาแพะรับบาปมาซักคน หาข้อมูลที่สามารถโบ้ยความผิดให้กับคนคนนั้นได้ ปลอมแปลงแม้กระทั้งข้อมูลบัตรประชากร ขนาดชื่อนามสกุลเขาก็ยังเป็นคนคิดทั้งหมด
อำนาจเงินมันสามารถทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ อยู่ที่ว่าจะใช้มันในทางไหน :)
“My Secret” แอชตันแสร้งยิ้มที่คิดว่าชาร์ลีชอบ แอชตันชอบแววตาเคลิบเคลิ้มที่ชาร์ลีมองเขานะ แต่...
“x!” ชาร์ลีสบถเสียงดังลั่น งอตัวลงกับพื้นและเงยหน้ามองแอชตันอย่างขุ่นเคือง
“Sorry”
แอชตันหัวเราะเยาะ เขาเปิดประตูออกจากห้องน้ำโดยไม่สนใจคนที่โดนกระแทกของรักจนหน้าเขียว แต่ก่อนที่จะเดินกลับไปยังลานจอดรถ เสียงของอลันก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“แอชตัน”
“…”
เขาหันกลับไปมอง อลันมีสีหน้าอึกอักอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเขาขยับตัวเพื่อหันกลับไปหา เด็กนั่นสะดุ้งละตัวสั่นเล็กๆ แอชตันนึกถึงตอนเขาเงื้อมีดใส่อีกฝ่ายได้ดี
“ธุระอะไร”
“เรื่องทั้งหมด...”
“ฉันจะคิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”
“ทำไม...” อลันถามด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ แอชตันมองลึกเข้าไปข้างใน สีเฮเซลนัทเกิดประกายสับสน สีตาของไอเด็กนี้ทำให้เขานึกถึงแอนนา
“ฉันกับแกเลิกแล้วต่อกัน แกยอมเสนอหน้ามาแถลงข่าวแก้ต่างให้ฉันแค่นั้นมันก็พอแล้ว และฉันไม่ต้องการคำขอโทษหรือว่าคำขอบคุณจากปากแก ฉันต้องการแค่ให้เราทั้งคู่ไม่ต้องมีเรื่องติดค้างกันอีกก็แค่นั้น”
แววตาสีเทาอ่อนโชนแสงลงเล็กน้อย สุดท้ายแอชตันก็ยังคงใจอ่อนกับคำว่าครอบครัวเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นความเกลียดที่มีมันก็ไม่ได้ลดลง แอชตันเลยเลือกที่จะปล่อยวาง ตัดขาดสายสัมพันธ์นี่ซะและไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรอีก ความลับที่มีแค่เขาที่รู้ เรื่องบัดซบนั่น ไม่ว่าใครก็จะไม่มีทางได้รู้มันอีก
มันจะตายไปพร้อมกับเขานั่นแหละ
แต่ว่า...
อลันหลับตาแน่นทันทีที่เขาวางฝ่ามือลงบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มนั่นและลูบมันเบาๆ มุมปากที่ติดรอยยิ้มเยาะออกมาเสมอปรากฏความอ่อนโยนเจือจางโดยที่แอชตันและอลันเองก็ไม่รู้ตัว
“โชคดีล่ะ”
ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน
ครั้งสุดท้ายที่แอชตันได้ทำหน้าที่พี่ชายทั้งที่ตลอดชีวิตนี้ไม่ได้ทำเลย…
“อลันคุยอะไรกับคุณเหรอ?”
ชาร์ลีถามขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังนั่งดูรายการภาพยนตร์ในจอโทรทัศน์หลังกลับจากงานแถลงข่าวและจัดข้าวของทั้งหมดเสร็จ นั่นเหนื่อยไม่น้อยเลยกับการยัดทุกอย่างของแอชตันเข้ามาไว้ในคอนโดที่นี่
ใช่ แอชตันตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่กับเขาแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน
เหมือนคู่แต่งงานชะมัด
“ก็ไม่มีอะไร หมอนั่นแค่มาขอบคุณ” แอชตันเคี้ยวขนมในมือและตอบเรียบๆ
“โอเค”
ชาร์ลีว่าอย่างไม่ใส่ใจ ค่อยๆไล้มือไปตามหน้าขาของแอชตันช้าๆ แอชตันเหลือบมองเขาก่อนจะส่งเสียงเหอะในลำคอ
“หิวเหรอ?”
“หิวคุณ”
ชาร์ลีกระซิบชิดใบหู ขบเม้มเบาๆและโอบกอดเอวสอบแน่นของแอชตันเอาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหนาซุกไซ้เข้าที่ซอกคอ มืออีกข้างแอบสอดเข้าชั้นในยี่ห้อดังของแอชตันอย่างแนบเนียน
เสื้อผ้ากลายเป็นสิ่งไม่จำเป็น หลายวันมานี่พวกเขามีเซ็กส์กันแทบทุกเวลา ทุกส่วนของตารางบ้านไม่มีที่ไหนเลยที่ชาร์ลีกับแอชตันไม่เคยสำลักความสุขจนตัวแทบลอย ยกเว้นห้องเก็บของ...
แอชตันเคยห้ามเขาเข้าไป และชาร์ลีก็ทำตาม
“ในห้องเก็บของมีอะไรหรือเปล่าที่รัก”
ชาร์ลีใช้มือยึดขาอีกฝ่ายไว้และดึงเข้าหาตัว ร่างของแอชตันไถลไปกับโซฟาตัวนุ่ม ท่อนแขนขาวสว่างจัดการโอบรอบคอเขาและดึงรั้งลงมาเพื่อแลกเปลี่ยนลมหายใจด้วยความเร่าร้อน
“คุณอยากรู้หรือเปล่าล่ะ” แอชตันยิ้มเย็น ชาร์ลีหัวเราะร่วนพร้อมดึงชั้นในสีเข้มของแอชตันลงมาจนหมด
เขาโน้มตัวลงต่ำและจัดการปรนเปรอท่อนเนื้อตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน แอชตันครางในลำคอด้วยความเสียดวูบ นิ้วเรียวยาวขยุ้มกลุ่มผมสีเข้มแล้วดึงทึ้งตามแรงอารมณ์ ชาร์ลีดูดกลืนตัวตนของร่างโปร่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆจนเกิดเสียงเฉอะแฉะขึ้นเป็นระยะ ส่งปลายนิ้วไปทักทายช่องทางเปียกเยิ้มก่อนหน้าอย่างอดใจไม่อยู่ถึงแม้ว่าพึ่งจะใช้งานไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนี้ก็ตาม
บอกแล้วว่าตลอดหลายวันมานี้พวกเขาสนุกกันบ่อยจริงๆ
“I wanna know”
“ถ้าอย่างนั้น...”
แอชตันลากเสียงยาว ค่อยๆใช้ปลายเท้าเกี่ยวขอบชั้นในหลุดลงจากช่วงเอวได้รูป ความใหญ่โตเรียกอาการสูดลมหายใจของแอชตันได้อย่างดี ฝ่าเท้าไล้ไปตามสีข้างของชาร์ลีช้าๆและหยุดลง ปล่อยแรงทั้งหมดลงดื้อๆเพื่อเกยท่อนขากับหัวไหล่เพื่อให้ชาร์ลีได้เห็นอะไรๆที่มันชัดเจน
เมื่อขาเกยอยู่บนไหล่ สะโพกแน่นก็ส่ายคลึงกับความเร่าร้อนอย่างเนิบช้า เสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นอย่างชัดเจน แอชตันหัวเราะในลำคออย่างร้ายกาจ และยิ่งแนบตัวเองเข้ากับความแข็งขึงเพื่อยั่วยวน
“คงต้องรออีกซักครึ่งชั่วโมง”
เซ็กส์ภายใน30นาทีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ชายสองคนจะห้ามใจไหว ทั้งแอชตันและชาร์ลีรู้ดีว่าพวกเขาควรออมแรงสำหรับครั้งนี้
เพราะว่าหลังจาก30นาทีต่อจากนี้ต่างหากถึงจะเป็นของจริง...
“คุณคิดว่าข้างในมีอะไร?”
หลังจากเซ็กส์จานด่วนจบไปหมาดๆ พวกเขาก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตู ชาร์ลีพินิจพิเคราะห์มันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะตอบ
“เหมือนในหนังหรือนิยายอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า...แบบว่าของเล่นเซ็กส์น่ะ”
“หึ” แอชตันส่ายหัว มือหมุนลูกบิดออกและเปิดมันอย่างช้าๆ
“อยากรู้ก็ดูเอาเอง”
แอชตันเบี่ยงตัวหลบ ชาร์ลีเดินเข้าไปในห้องนั่นทีละก้าว จากความมืดจนแทบไม่เห็นอะไร แต่ชาร์ลีรู้สึกได้ว่าในห้องนี้มันค่อนข้างโล่ง ออกจะไม่น่าใช่ห้องที่เขาไม่ควรเข้าไปด้วยซ้ำ แต่หางตาของเขาก็เห็นความวาววับอยู่ตรงผนัง เมื่อสังเกตดีๆมันมีอยู่แทบทุกที่
พรึ่บ
!!!...
“พระเจ้า...” ชาร์ลีครางอย่างไม่เชื่อสายตา
มีแต่รูปเขา รูปของเขาเต็มไปหมด!!!
ไฟในห้องสว่างขึ้นเมื่อแอชตันเปิดมัน ชาร์ลีหันมองไปรอบๆห้องที่มีแต่หน้าของเขาแปะอยู่ทุกพื้นที่บนผนัง ทุกอิริยาบถ กิน นอน ตื่น อาบน้ำ จนกระทั่งระหว่างมีเซ็กส์ ชาร์ลีมองภาพต่างๆด้วยสายตานิ่งงันสลับกับอุปกรณ์ทางเพศไม่กี่อย่างบนโต๊ะข้างตัว
“คุณ...”
“มันเป็นรสนิยมน่ะ” แอชตันที่เอนตัวพิงกรอบประตูพูดขึ้นมาลอยๆ เดินตรงมาหาเขาและลูบไปตามรูปพวกนั้นด้วยแววตาสนอกสนใจ
“เมื่อไหร่ที่ผมมีความสัมพันธ์กับใคร โสเภณี คนรัก หรือว่าอะไรอื่นๆ ผมมักจะแปะรูปเอาไว้ในห้องนี้ มันเหมือนกับว่าผมได้มองอยู่ตลอดเวลา”
แอชตันดึงรูปออกมาจากผนังหนึ่งใบ เรือนร่างเปลือยเปล่าของชาร์ลีเอนนอนไปกับเตียงกว้าง แอชตันจูบลงไปบนรูปใบนั้นแล้วเลียเบาๆ ชาร์ลีขนลุกซู่ เนื้อตัวเริ่มร้อนลุ่มเมื่อสายตาของแอชตันชักจะออกอาการหยาบโลนจนปิดไม่มิด
“แต่ไม่เคยมีใครมีรูปจนล้นผนังแบบคุณหรอกนะ”
“คุณนี่แม่ง!” ชาร์ลีสบถในลำคออย่างหยาบคาย เพียงแค่นึกถึงลิ้นร้อนๆกำลังลากเลียไปตามร่างกายชาร์ลีก็แทบทนไม่ไหว
เขาจัดการพลิกร่างโปร่งแนบไปกับผนังห้อง ดันใบหน้าได้รูปนั่นเบียดกับรูปของเขาแรงๆ ชาร์ลีสอดมือเขาไปในกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนและขยุ้มเต็มมือ
“อ่าห์...”
แอชตันครางในลำคออย่างสุขสม ลำคอเหยียดตึงและแหงนเงย ขยับขาออกกว้างอย่างรู้ใจเพื่อให้ชาร์ลีได้สอดช่วงเอวสอบเข้ามา ฝ่ามือหนานั่นออกแรงกระชากสลับกดหน้าเขาลงไปกับรูปเหล่านั้นซ้ำๆ แอชตันแทบจะบ้าเมื่อมองไปยังรูปภาพอิริยาบถต่างๆของคนข้างหลัง
“เลียหน่อยที่รัก...”
เสียงเข้มกระซิบบอก ความใหญ่โตกำลังเปียกชื้นได้ที่ ชาร์ลีที่ตัวหอบโยนยิ่งหายใจแรงขึ้นเมื่อแอชตันเริ่มเลียรูปของเขาอย่างช้าๆ
“อื้อ!”
“อย่าหยุด! แบบนั้นแหละที่รัก...ดี”
แอชตันกระพริบตาไล่หยาดน้ำออกไปลวกๆ ความเสียวกระสันเร่งเร้าให้เขายิ่งไล้ปลายลิ้นไปตามรูปทีละใบเพื่อระบายอารมณ์ เรียวขาสั่นกระตุกเมื่อความใหญ่โตสอดเข้ามาแล้วกระแทกจนปลายเท้าเขาเขย่งเป็นจังหวะ ใบหน้าถูกกดลงแนบกับผนังซ้ำๆจนคราบน้ำใสๆเปื้อนเต็มใบหน้า
เสียงครางดังลั่นคลอไปกับเสียงกระทบกระแทก ชาร์ลีเหลือบมองแส้ขี่ม้าขนาดสั้นๆกระชับมือบนโต๊ะข้าง เขาหยุดสะโพกกะทันหันเรียกเสียงสบถขัดใจจากร่างรองได้ได้ดีเยี่ยม
เพี้ยะ!
“อ๊า!”
แผ่นหลังขาวๆแอ่นหยัดจนสุดจนความใหญ่โตแทบจะหลุดออก ชาร์ลีคว้าเอวแอชตันไว้แน่นและสวนเอวกลับเข้าไปอย่างดุดัน ปลายหนังแบนๆฟาดลงไปบนแผ่นหลังนั้นอีกครั้งพร้อมหยัดเอวเข้าหาบั้นท้ายแน่นอีกครั้ง
“Ahh..x..”
แอชตันหายใจหอบ ความแสบตึงกำลังเล่นงานผิวหนัง ฝ่ามือกำแน่นจนขึ้นข้อขาว เรียวขายาวสั่นน้อยๆพร้อมๆกับของเหลวสีขาวข้นกำลังไหลออกมาเป็นทางจากการร่วมรักครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ใช่หรือเปล่า”
ชาร์ลีถามเสียงแหบพร่า มองแผ่นหลังขาวๆกำลังขึ้นรอยฟาดอย่างเต็มรักของเขา ในอกเต้นกระหน่ำ ชาร์ลีไม่เคยได้ยินเสียงครางสูงๆจากแอชตันเลยซักครั้ง แต่เขาพึ่งได้ยินมันมาเมื่อกี้ตอนที่เขาฟาดแส้ลงไป ยิ่งฟาดก็ยิ่งรัด เขารู้สึกดีจนแทบจะระเบิด
ชาร์ลีเริ่มเข้าใจทีละน้อยแล้วว่าการเห็นร่างกายของคนรักสั่นกระตุกอย่างเจ็บปวดมันก็ชวนรู้สึกดีไปอีกแบบ...
เพี้ยะ!
“อึก! ม..ไม่เคย” แอชตันตอบออกมาเสียงเครือ
“หึ”
“ชาร์ลี!”
“เงียบ!”
เพี้ยะ!
“อ๊า! อะ...”
แอชตันสาบานว่าเขาพึ่งเข้าใจว่าทำไมต้องร้องเสียงสูงเวลาโดนทรมาน มันยิ่งกว่าความรู้สึกดี ความเจ็บแสบสลับกันเด่นชัดควบคู่ไปกับความเสียดเสียว ชาร์ลีไม่ได้กระแทกเอวเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เอวสอบนั่นกดอัดเข้ามาทุกครั้งที่เจ้าตัวฟาดหลังเขา และมันแทบจะทำให้แอชตันระเบิดออกมาตรงนั้น
“มองผม...” แอชตันหันกลับไปแต่ก็ถูกดันหัวกลับมาตรงหน้าเหมือนเดิม
“มอง...”
แอชตันมองตรงไปข้างหน้า รูปที่ชาร์ลีกำลังถึงจุดสุดยอด เขาเคยถ่ายเอาไว้และนำมันมาติดในห้องนี้ ใบหน้าคมเข้มและแววตาคมกริบดูดิบเถื่อนกำลังจ้องมาที่แอชตัน ชาร์ลีกำลังจ้องเขา
“อยากได้อะไรที่รัก...”
ชาร์ลีกระซิบชิดใบหู เอาคางเกยไหล่อีกคนเอาไว้และเลื่อนมือไปกอบกุมความร้อนด้านหน้าด้วยมือแทน เขาเร่งจังหวะถี่กระชั้นต่างจากด้านหลังที่ไม่มีการขยับเขยื้อน มองรูปของตัวเองด้วยแววตากระหาย ถึงแม้ความร้อนชื้นข้างในจะโอบรัดจนเจียนคลั่งขนาดไหน เขาจะไม่ทำให้แอชตันได้สุขสมหากยังไม่คิดจะร้องขอ
เขาอยากให้แอชตันเสียวจนแทบบ้าจนต้องร้องขอให้เขาเติมเต็มบ้างก็เท่านั้น
“ได้โปรดชาร์ลี...” แววตาสีเทาอ่อนดูเลื่อนลอย แอชตันมองตรงไปที่รูปของเขา ชาร์ลียิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นก่อนจะมอบรางวัลให้กับแอชตันเต็มรัก
เพี้ยะ!!!!
“อ่าห์..ร.แรงอีก!!!!”
เพี้ยะ!!!!!
“แบบนั้น อ๊า..!!!!”
แอชตันทิ้งทั้งลำตัวช่วงบนแนบไปกับผนังอย่างหมดแรง เสียงชื้นแฉะ แรงกระทบอันหนักหน่วงและเสียงเนื้อปริแตกดังสลับกันวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา แอชตันทำได้แค่ร้องขอความรุนแรงจากชาร์ลี ยิ่งอีกฝ่ายรุนแรงเท่าไหร่เขายิ่งสุขสมจนแทบบ้า บั้นท้ายหนั่นแน่นขยับสวนกลับไปด้วยความเร่าร้อนและถูกให้รางวัลก้วยการเฆี่ยนอย่างรุนแรงซ้ำๆจนถึงจุดสูงสุดของอารมณ์
“Ah…x!!”
ชาร์ลีหยุดมือทันทีที่แอชตันครางออกมาครั้งสุดท้าย ช่วงล่างกระตุกและดูดรัดลูกชายของเขาแน่นพร้อมๆกับที่ปลดปล่อยออกมา มือหนาโยนแส้ทิ้งไปลวกๆและช้อนช่วงเอวเพรียวไว้แทน พรมจูบไปตามแผ่นหลังประดับรอยเลือดซิบๆชวนใจสั่นอย่างปลอบประโลม
เขายังไม่เสร็จ ชาร์ลีรู้สึกเหมือนทุกอย่างมันไม่พอ
ต้องการมากกว่านี้...
“อะ”
ผ้าปิดตาและสายรัดข้อมือถูกใช้เป็นชิ้นต่อไป แอชตันถูกอุ้มไปวางบนเก้าอี้ทรงสูง ท่อนขาถูกจับแยกพาดเกยกับตัวพนักวางแขนจนทั้งหมดเปิดเปลือย แขนถูกมัดไปด้านหลังและดวงตาถูกปิดสนิท
“อืมมม...”
แอชตันหายใจแผ่ว ริมฝีปากอ้าออกเปิดรับนิ้วหนาเข้ามาเกาะเกี่ยว ลากลิ้นไปตามความยาวและใช้ปากครอบดูดมันเบาๆ ใต้เก้าอี้รู้สึกได้ถึงความของเหลวกำลังไหลออกมา ความเย็นของเครื่องปรับอากาศยิ่งทำให้แอชตันสั่นสะท้าน
ในอกเต้นกระหน่ำ สิ่งที่แอชตันไม่เคยได้รู้สึกถึงมันมาก่อนกำลังเล่นงานเขา ชาร์ลีถอนนิ้วออกมาและใช้มันกดกลับเข้าไปยังช่องทางร้อนจัดอีกครั้ง
“อ่าห์...”
“คุณโอเคไหม” แอชตันพยักหนาเบาๆ ชาร์ลียิ้มขึ้นมาบางๆอย่างพึ่งพอใจ
“ดี”
ปลายนิ้วถูกถอนออกไป แทนที่ด้วยสัมผัสเย็นวาบของปลายเท้า ฝ่าเท้าถูกเกลี่ยด้วยปลายนิ้วแผ่วเบาสลับกับริมฝีปากร้อนๆกำลังกดจูบไปตามหน้าเท้าของเขาช้าๆ แอชตันตัวแข็งทื่อ ยิ่งตามองไม่เห็นสัมผัสนั้นก็ยิ่งชัดเจน
“ชาร์ลี...”
แอชตันเลียริมฝีปากจนเปียกชุ่ม หน้าเท้าของเขากำลังถูกโลมเลียด้วยลิ้นร้อนชื้น สัมผัสวูบวาบนิ่มหยุ่นชวนรู้สึกดีกำลังจากผ่านส่วนข้อเท้า...ค่อยๆขยับต่ำลงจนกดผ่านร่องนิ้วทีละข้อ แอชตันรู้สึกหัวหมุน ท้องน้อยเริ่มปั่นป่วนอีกครั้งเมื่อชาร์ลีใช้ฟันขบกัดปลายนิ้วอย่างแรง
“อ่าห์!...”
เขาว่าปลายเท้าเป็นจุดรับอารมณ์ แอชตันเชื่อสนิทใจ ยิ่งชาร์ลีตวัดลิ้นเขายิ่งเสียวซ่านไปทั้งตัว เรียวขาสั่นกระตุกน้อยๆสลับกับครางเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากดูดปลายนิ้วเท้าของเขาอย่างแรง
“คิดว่าผมกำลังดูดของคุณสิ”
เสียงทุ้มแหบเจือด้วยความเร่าร้อนสั่ง ภาพในหัวปรากฏขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม ภาพของชาร์ลีที่กำลังดูดกลืนตัวตนของเขาจนคับปาก เสียงดูดกลืนดังก้องในหัวซ้ำๆยิ่งกระตุ้นอารมณ์อย่างห้ามไม่อยู่ แอชตันครางเสียงหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อระบายความอัดแน่นทั้งหมด
“คุณแข็งจัดและ..เยิ้ม...”
ชาร์ลีจงใจขบกัดปลายนิ้วเท้าแรงๆ แอชตันสะดุ้งสุดตัว ความเจ็บแล่นเข้าสู่ใจกลางเมื่อนึกภาพถึงส่วนหัวของเขากำลังถูกฟันนั่นขบจังๆ ความร้อนผ่าวกระตุกสั่น ชาร์ลีมองภาพนั่นด้วยความพึงพอใจ
“ผมกำลังทำอะไร”
“เลีย...ของผม”
“หึ”
แอชตันใกล้จะขาดใจ ชาร์ลีลากปลายลิ้นขึ้นมาตามปลีน่องจนถึงซอกขา ทิ้งรอยขบกัดฝังลึกจนได้เลือดเต็มไปหมด ไม่ว่าจะกัดตรงไหน แอชตันไม่มีสติเหลือพอที่จะคิด เขาเห็นแค่ภาพของชาร์ลีที่กำลังขบกัด ดูดดุนลูกรักของเขาจนมันปวดหนึบไปทั้งท่อน
“คุณอยากได้อะไร...”
คำถามนี้ถูกใช้อีกครั้ง ชาร์ลีลากปลายนิ้วปัดผ่านซอกขาขาวและขยับวางเอวสอบไว้ตรงกลาง รอยยิ้มและแววตากระหายเด่นชัดท่ามกลางความสลัวของแสงไฟ
“ไอนั่น...เอาเข้ามา”
“ขอสิ”
“Please Sir”
ไม่ทันจบคำ แอชตันก็ต้องหลุดครางออกมาอีกครั้งเมื่อถูกเติมเต็มด้วยไอนั่นที่เจ้าตัวร้องขอ ชาร์ลีมองภาพเหล่านี้ด้วยความรู้สึกอัดแน่นในขณะที่ปรนเปรอเจ้านายสุดที่รักอย่างเต็มใจ
ชาร์ลีได้จดจำภาพที่ไม่เคยได้เห็นเอาไว้ในใจ เซ็กส์ในห้องไม่ได้เกิดขึ้นเพียงสุ่มๆ แต่เป็นเพราะวันนี้เป็นวันที่ทั้งเขาและแอชตันจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมาทั้งหมด ดื่มดำกับความเสียวซ่านจนแทบล้นทะลัก เปิดเปลือยทุกอย่างออกมาในห้องนี้
ขอแค่ช่วงเวลานี้ที่ชาร์ลีจะได้ใช้มันควบคุมคนตรงหน้า สุดเหวี่ยงและพึงพอใจกับมันให้มากที่สุดก็พอ...
.
.
.
.
.
ความเย็นเฉียบของผ้าปูที่นอนข้างๆเป็นสัญญาณให้ชาร์ลีลืมตาตื่นขึ้นมาทันที เสียงน้ำกระทบกันดังเอื่อยแว่วเข้ามาในโสตประสาท ชาร์ลีถอนหายใจอย่างโล่งอกและล้มตัวนอนอีกครั้ง
จุ้บ...
ชาร์ลียิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเอง กดจูบลงบนที่ว่างข้างตัวอย่างอารมณ์ดี บทเจ้านายผู้โหดเหี้ยมก็เยี่ยมไม่เลวสำหรับเขา เพราะเขาได้เห็นสีหน้าสุขจนแทบทะลักทลายของแอชตัน มันมากพอที่จะทำให้เขาเสร็จออกมาอีกครั้งโดยไม่แตะต้องลูกชายเลยด้วยซ้ำ
“หือ” หางตาเหลือบไปเห็นซองเอกสารสีน้ำตาลเข้มบนหัวเตียง ชาร์ลีหยิบมันลงมาและเปิดดูด้านใน
ใบเปลี่ยนนามสกุลและ...ใบสมรส
“เปิดดูของของคนอื่นไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรือไงฮึ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล”
“นิดหน่อยเองที่รัก” ชาร์ลียิ้มแห้งๆแต่ก็ยังคงถือซองไว้แน่น
“สงสัยอะไรรึไง”
“ไม่สงสัยสิแปลก นี่มัน...”
“ใบสมรส”
แอชตันไหวไหล่และตอบออกมาเอง ก่อนจะเคลื่อนยายตัวเองออกจากประตูห้องน้ำมาเป็นหน้าตักของเขา ชาร์ลีหัวเราะชอบใจ เหลือบมองรอยเฆี่ยนจากความรักของเขาอย่างมันเขี้ยว
“ผมคิดว่าผมอ่านหนังสือออกนะ”
“ปากดี” ชาร์ลีเบ้หน้าออกมานิดๆ แรงตบเมื่อกี้ทำเอาเขาหน้าหัน คงเส้นคงวาความแสบสันได้ดีเยี่ยม
“มานี่สิ”
แอชตันเปลี่ยนมาคว้ามือของเขาเอาไว้และลากให้มาด้วยกัน ลิฟต์ถูกกดขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า ชาร์ลีคิดหวั่นในใจว่าแอชตันของเขาคงไม่นึกคึกอยากระเล่นเสียวกันบนขอบปูนเนื้อดีหรอกนะ
“เห้!”
“ชู่ว...” แอชตันกระซิบให้เขาเงียบ ชาร์ลีที่ถูกปิดตาเอาไว้แน่นไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ เขาเพียงแค่เดินตามแอชตันไปเท่านั้น
จนกระทั่งปลายเท้าหยุดนิ่ง ชาร์ลีไม่ได้ยินเสียงอะไรในหัว แอชตันปล่อยมือและทิ้งเขาเอาไว้ตรงนั้น
“แอชตัน”
“คุณเล่นอะไรอยู่ที่รัก ไม่ใช่ว่าแก้ผ้ารอผมอยู่หรอกนะ” ชาร์ลีพยายามติดตลก แต่นั่นก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา
“แอชตัน”
“...”
“แอชตัน!”
!!!
ผ้าปิดตาถูกกระชากออกอย่างแรง ชาร์ลีขณะเกิดอารมณ์ร้อนๆเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยแทนเมื่อสิ่งที่เขาเห็นคือแอชตันที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา
“แอชตัน...”
ชาร์ลีเรียกอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ เขาหันมองซ้ายมองขวาอย่างุนงงและสับสนท่ามกลางดาดฟ้าที่ไม่มีอะไรเลยเรียกรอยยิ้มเหยียดจากริมฝีปากคู่สวยนั่นได้โดยทันที
“มองผมชาร์ลี”
“...” ชาร์ลีหยุดการกระทำทุกอย่างและหันมาสนใจกับคนตรงหน้าทันที
“โอเคว่าที่ผ่านๆมาเราเริ่มต้นกันด้วยเซ็กส์ มันไม่ใช่ความรัก ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”
“ผมคิดว่าคุณมันจอมสอดรู้สอดเห็น ผมอยากจะอัดหน้าคุณให้คว่ำกับเรื่องที่คุณไปเจอไอเด็กเวรนั่นตอนนั้น ฮ่ะๆ แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญหรอก” แอชตันหัวเราะเบาะๆและส่ายหัวกับตัวเอง
“ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกมันเกิดขึ้นตอนไหน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักมันเป็นยังไง แต่ชาร์ลี คุณทำให้ผมเจ็บปวดมากกับสายตาที่คุณมองผมในคืนนั้น และทั้งหมดนั้นมันทำให้ผมรู้...”
ชาร์ลีนึกไปถึงตอนที่เขามองแอชตันด้วยความตกใจในคืนที่สารภาพออกมาว่าฆ่าแอนนา นึกกี่ครั้งเขาก็ยังรู้สึกผิดไม่หาย แต่นั่น...
“คุณยังไม่พูดคำนั้นกับผม ผมรู้ว่าคำนั้นมันคืออะไร และผมจะพูดมันกับคุณ ที่นี่ ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้”
ร่างโปร่งคุกเข่าลง กล่องแหวนกำมะหยี่เปิดออกเผยให้เห็นแหวนเงินเรียบๆภายในถึงสองวง ชาร์ลีเบิกตากว้างจนแทบถลน
สาบานว่าเขาไม่ได้ฝันไป
“ผมรักคุณ ชาร์ลี”
แอชตันพยายามที่จะยิ้มให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะตัวเองคิดว่าทำได้ แต่มันก็เป็นเพียงรอยยิ้มเหยียดๆขึ้นมาข้างมุมปากเท่านั้น แต่นั่นไม่สำคัญเลยในเมื่อแววตานั่นสั่นไหวบ่งบอกความรู้สึกในใจทั้งหมด
“Will you marry me?”
ชาร์ลีสูดหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกรุนแรงกำลังพุ่งออกมาจากอก ชาร์ลีเบือนหน้าหนีและพยายามอย่างมากที่จะซ่อนสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเห็น
ใจเขาสั่น เขาไม่รู้จะบรรยายมันออกมาเป็นยังไง ทุกอย่างมันตื้อและเหนือสิ่งอื่นใด...ชาร์ลีกำลังดีใจ
บางทีนี่อาจจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาตั้งแต่เกิดมาเลยก็ได้
“ผมไม่อยากใช้นามสกุลเดียวกับฆาตกรหรอกนะ” ไม่รู้ด้วยความเขินหรืออะไร ชาร์ลีหยอกเย้าแอชตันด้วยคำพูดเสียดแทงอันรุนแรง แต่กลับได้เสียงหัวเราะออกมาจากร่างโปร่งแทน
“ผมเปลี่ยนนามสกุลแล้ว ถ้าคุณจะสังเกตเห็นมันอยู่ในซอง”
“…”
“ชาร์ลี ผมเจ็บเข่า”
“...”
“Please answer me Darling”
เกิดความเงียบรอบตัว แอชตันที่คุกเข่าอยู่ซักพักแล้วเริ่มใจสั่น เขากลัวว่าสิ่งที่รู้สึกอาจจะไม่ตรงกับอีกฝ่าย แต่ในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นและบอกกับชาร์ลีว่าทั้งหมดนั้นมันก็แค่มุก คำตอบที่ทำให้เขายิ้มได้ก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“Yes…I will”
ชาร์ลีโถมเข้ามากอดเขาทั้งตัวและซุกหน้าเข้ากับซอกคอ กระชับกอดแรงจนแอชตันหายใจไม่ออก ฝ่ามือลูบแผ่นหลังกว้างที่กำลังสั่นระริกอย่างแผ่วเบา
“I Love You…”
“I Know” แอชตันหัวเราะอย่างเป็นสุข คอยลูบหลังปลอบทาสผู้ซื่อสัตย์ที่ตอนนี้น้ำตากำลังไหลลงเสื้อเขาเป็นดวงๆ
ไม่คิดเลยว่าชีวิตของเขาจะได้ขอใครซักคนแต่งงาน ตอนนี้มันเป็นจริงแล้ว กับคนที่ร่างกายหนาล่ำกว่าเขา แอชตันไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถหาความสุขที่มากมายได้จากที่ไหนอีกเมื่อเขาได้ยินคำตอบรับนั้น
“คนไม่มีนามสกุลน่ะ อยู่บนโลกนี้ไมได้หรอกนะ” แอชตันแหย่ขำๆ
“หยุดล้อปมชีวิตผมซักทีเถอะ” ชาร์ลีกัดลงบนซอกคอขาวแรงๆ แอชตันเบ้หน้าแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
เขารู้มาว่าชาร์ลีไม่มีนามสกุล อีกฝ่ายให้เหตุผลว่าไม่อยากจะใช้นามสกุลใครทั้งนั้นในเมื่อเจ้าตัวก็อยู่ตัวคนเดียว นั่นจึงเป็นข้อสงสัยว่าใครๆในบริษัทต่างก็เรียกเขาว่ามิสเตอร์ชาร์ลีแอชตันหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้งเมื่อไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ได้เรียกชื่อต้นของอีกฝ่าย
“แล้วนามสกุลใหม่ของคุณคืออะไรล่ะ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามคำถามนี้ขึ้นมา แอชตันก็อดหัวเราะไม่ได้
“คิงส์...”
“…”
“คุณมันแสบเหลือเหลือเกินที่รัก”
“ไม่อย่างนั้นจะรัดคุณไว้ได้อยู่หมัดเหรอฮึ”
“ฮ่าๆๆๆ!!” ทั้งสองคนอดหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างช่วยไมได้
“ไม่คิดเลยว่าผมจะเป็นฝ่ายถูกขอแต่งงาน”
“ผมก็ไม่คิดจะถูกขอแต่งงานเหมือนกันหรอกนะ”
“งั้นผมยอมก็ได้”
“หมาที่ดีย่อมทำตามคำสั่งเข้านาย”
“งั้นหมาตัวนี้ขอกัดคุณให้จมเขี้ยวซักทีเถอะที่รัก”
ร่างแอชตันลอยหวือขึ้นห้อยหัวอยู่ตรงแผ่นหลังกว้าง ชาร์ลีแบกเขาขึ้นบ่าแล้วตรงกลับเข้าไปที่ลิฟต์เพื่อที่จะพาเขาไปกัดให้จมเขี้ยวตามที่อีกฝ่ายว่าไว้
คิงส์... ในที่นี้หมายถึงคนรับใช้ของพระราชา แอชตันจงใจเลือกนามสกุลนี้ก็เพราะชาร์ลี เจ้าตัวเปรียบเหมือนทาสผู้ซื่อสัตย์ของเขา จงรักภักดีและคอยให้การช่วยเหลือ แต่ในทางกลับกัน คิงส์ตรงตัวในที่นี้ยังหมายถึงพระราชา และก็เป็นชาร์ลีอีกนั่นแหละที่พลิกบทตัวเองและกุมหัวใจของเขาเอาไว้ในกำมืออีกฝ่าย แอชตันตกเป็นทาสและยอมรับสถานั้นแต่โดยดีด้วยความรู้สึกที่ฝังลึกลงไปในจิตใจ
เขาขาดชาร์ลีไม่ได้ ในขณะเดียวกัน หมอนั่นก็ขาดเขาไมได้เช่นกัน...
เพราะฉะนั้น นามสกุลคิงส์นี่แหละจึงเหมาะสมที่สุด
ถึงแม้ว่าความรักเขาพวกเขาจะเกิดขึ้นมาจากความบิดเบี้ยวก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ
แต่ถ้าหากว่านั่นคือรัก ต่อให้มันบิดเบี้ยวแค่ไหนก็ยังคงเป็นความรักอยู่ดี
เขาจะไม่สนว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดนี่จะจบลงอีกภายในกี่ปี แต่แอชตันจะทำเพื่อให้ความสัมพันธ์ครั้งนี่อยู่ในนานที่สุดเท่าที่เขาจะรักษาไว้ได้ ชาร์ลีเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว ต่อให้พระเจ้าจะมาพรากไปจากเขา เขาไม่มีวันยอม
“ผมจะทำให้คุณร้องครางทั้งคืนเลยที่รัก”
“ถ้าทำได้ ก็ลองดู...”
.
.
.
.
.
.
.
“คุณชาร์ลีคะ!”
“ครับมิสนาตาเซีย”
“ท่านประธานเรียกหาคุณค่ะ”
“ขอบคุณครับ ผมจะรีบตามไป”
พนักงานสาวได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารับและหันหลังเดินออกมา แต่เพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกขัดไว้เสียก่อน
“มิสนาตาเซีย”
“คะ?”
“ต่อไปนี้เรียกผมว่ามิสเตอร์คิงส์ด้วยนะครับ”
“ค..ค่ะ!”
นาตาเซียหน้าแดงวาบอย่างไม่ทราบเหตุผล หล่อนหยักหน้ารับและรีบเดินออกมาจากห้องของผู้จัดการสุดหล่อโดยเร็วที่สุด
จะไม่ให้หล่อนหน้าแดงได้ยังไง ก็ในเมื่อผู้ชายที่หลอนเคยแอบอยากได้มาไว้ในครอบครองกำลังใช้นามสกุลเดียวกันกับCEOของบริษัท
หล่อนไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่หล่อน่าลากทั้งสองคนนั้นเขาจะลากกันเอง!!
ชาร์ลียิ้มอย่างเหนื่อยใจพลางเหลือบตามองไปยังป้ายหน้าห้องทำงานของเขาที่พึ่งเปลี่ยนใหม่
‘Charlie King’
ดูเหมือนเขาจะเห่อนามสกุลที่ได้มาใหม่นี่อย่างถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้วล่ะ
‘ทำไมต้องขอแต่งงานบนดาดฟ้า?’
‘ผมก็แค่อยากให้มันดูโรแมนติก...มั้ง’
‘ทั้งที่มีแค่ดาดฟ้าโล่งๆเลยเนี่ยนะ?’
‘มีแค่ความรู้สึกของผมก็พอ’
แต่ก็ดีแล้วล่ะนะ...
เท่านี้เขาก็จะได้เป็นเจ้าของท่านประธานสุดที่รักเต็มตัวเสียที
The End…….
100%
ปลื้มมาก!!! ไม่รู้จะพูดอะไรเลย นิยายเรื่องนี้ใช้เวลาปีกว่าๆเลยในการแต่งเรื่องราวทั้งหมด รู้สึกดีใจมากๆเพราะนี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่งจบ รู้สึกว่าเรารักตัวละครทั้งหมดในนี้มากๆ ทั้งชาร์ลี แอชตัน อลัน ร็อบส์ หรือตัวละครอื่นๆ ขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะที่ยังติดตามมาจนถึงขนาดนี้ นักอ่านท่านใหม่ๆด้วย ^^ ดีใจจัง5555 คอมเม้นต์แต่ละคอมเม้นต์มีความหมายกับเรามากๆเลยนะคะ TT เขามาเช็คบ่อยๆ แต่อย่างว่าละเนอะ เราอัพช้า555นักอ่านหายหมด -..-
มาพูดถึงตอนจบ...แอชตัน หนูจะแมนมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะลูก มีอย่างที่ไหนขอเขามาเป็นสามี//แค่กๆ 555 ส่วนชาร์ลีนางก็ไม่ได้เคืองอะไร ออกจะชอบนิดๆได้ของแถมเป็นนามสกุลด้วย เราจงใจใช้ชื่อนี้มานานแล้ว พี่นักเขียนคนนึงก็เคยถามว่าทำไมเวลาใช้มิสเตอร์ถึงไม่มีนามสกุล ก็เพราะเหตุนี้แหละค่ะ ตอนจบคือให้แอชตันขอนางมาเป็นสามี555 ส่วนเรื่องความแค้น ความสัมพันธ์อะไรเทือกๆนั่นคือส่วนตัวมองว่าแอชตันน่าจะอยากให้มันตายไปกับตัวเองดีกว่าค่ะ หากว่าอลันรู้เข้าก็คงไม่จบไม่สิ้น แอชตันถือว่าแข็งแกร่งมากนะคะถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมา เขาคอนโทรตัวเองอยู่ แต่อลันไม่ค่ะ ถ้าเกิดรู้ขึ้นมาทุกอย่างจะหลุดทันที และแอชตันไม่ต้องการความวุ่นวาย ขอปลงทุกอย่างแล้ไม่ต้องยุ่งกันดีกว่า ส่วนทางพ่อ...อืมมม ขอหุ้นมาแล้ว บริษัทนี้ก็ตกเป็นของนาง คงไม่มีอะไรจะไปหาอีกแล้วแหละค่ะ นอกจากงานกุศลบลาๆอาจจะต้องสร้างภาพนิดนึง^^
ยังเหลือพวกบทส่งท้ายกับตอนพิเศษอื่นๆเนอะ ความใฝ่ฝันของเราคือการรวมเล่มค่ะ 5555 แต่คงไม่มีใครซื้อ ดังนั้น!! ใครอพอจะแนะนำโรงพิมพ์ดีๆเพื่อให้เราทำเล่มเก็บไว้ดูเล่นเองบ้าง เสนอมาได้เลยค่ะ!!
สำหรับตอนนี้ยาวนิดนึง TT หวังว่านักอ่านจะสนุกกันนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ยังคงติดตามกันอยู่ เนื้อหาอะไรไม่เหมาะสมอย่าแบนเราเลย กราบล่ะTT ไปแล้วค่ะ ฝันดีนะคะทุกคน รักมากๆๆๆ//โปรยจูบ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดีใจมากกกกกที่สุดท้ายนางก็ได้มาความสุขกับคนที่รัก ฮือออ
ขอบคุณคนเขียนที่แต่งเรื่องราวแซ่บๆเผ็ชๆแบบนี้ให้อ่านกันนะคะ ชอบมากค่ะะ
อะแหละ คงวุ่นวายกันน่าดู ให้ความลับมันอยู่แค่นี้เถอะ และ ห้องเก็บของของแอชนั้นนนนนนน เผ็ชมากค่ะ ปลุกอะไรใหม่ ๆ ในตัวชาร์ล อิอิ
ดีใจที่แอชตันเข้มแข็งขนาดนี้
ส่วนคุณพ่อก็อย่าพยายามมีลูกอีกเลยนะ รับไม่ได้ถ้าต้องปล่อยเชื้ออะไรออกมาอีก ถึงคุณพ่อจะรักคุณแม่มากแค่ไหนแต่การทำลายชีวิตเด็กคนนึงมันก็ทำให้รู้สึกถึงความโรแมนติกของคุณพ่อไม่ได้เลย
ดีใจืี่แอชตันเข้มแข็ง และได้เจอชาลี
ปล.แอบสงสารความนกของอนาตาเซีย ฮ่าๆ