ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นักเรียนหมอขอเมาท์

    ลำดับตอนที่ #15 : เมาท์ : ยามเมื่อหนูอยู่ ม.ปลาย

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 53


                   

               หวัดดีค่ะ พี่เป็นนศพ.ปี 3 วันนี้ก็ จะมา เล่าประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาน๊านนาน ว่ากว่าพี่จะได้มาเรียนหมอนี่ยากเย็นแค่ไหน - -‘’

               ก็เริ่มจากม. 3ก่อนละกัน พี่เสียใจมากอ่ะนะที่ตอนม. 3พี่สอบเข้ารร.มัธยม ปลายชื่อดังแห่งหนึ่งไม่ติด มันเจ็บจึ้กๆ แบบว่าพี่พยายามอ่านหนังสือเป็นครั้งแรกในรอบสิบห้าปี แล้วก็หวังว่ามันจะติด แต่ก็ไม่อ่ะ พี่ก็เก็บความเสียใจไว้  มาใช้เป็นประโยชน์ พี่คิดว่าสอบเข้าม. 4  ไม่ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะติดหมอให้ดู

               ตั้งแต่พี่ขึ้นม.4 พี่ก็พยายามอ่านหนังสือมากขึ้น เคยตื่นตอนตี 4 มาอ่านเคมี!! (แต่หลังจากนั้นเดือนนึง ก็เลิก เพราะโคตรง่วง = =)   พี่เริ่มจากวิชาที่ชอบมากที่สุด คือ ชีวะ ส่วนวิชาอื่นก็ช่างมันไปก่อน ระหว่างม.4 พี่ก็เรียนพิเศษเหมือนคนอื่นๆ เรียนฟิสิกส์ เลข เคมี อังกฤษ

               พอขึ้นม. 5 พี่ก็อ่านชีวะอยู่เหมือนเดิม วิชาอื่นก็เรียนพิเศษไป  จนถึงเดือนกันยาปีนั้น พี่ก็ไปสอบสอวน. ปรากฏว่าสอบติดด้วยคะแนนเฉียดๆ พี่ดีใจมาก ฮ่าฮ่า อยากเข้ามานานแล้ว ก็เรียนตอนเดือน ต.ค. กับเดือนมี.ค.    พี่ว่าค่ายนี้ คุ้มนะ ถึงจะเสียเวลาเรียนพิเศษอย่างอื่น เพราะมันเรียนทั้งวัน มีทั้ง lecture และ lab แต่ว่าเนื้อหาที่ ได้ก็แน่นมาก ลึกขนาดที่พี่เข้ามาเรียนหมอตอนปี 1 ยังไม่เคยเรียน     จากการเข้าค่ายพี่ก็รู้สึกว่า เนื้อหาชีวะแม่นมาก ก็เลยไม่เรียนพิเศษแล้ว พี่ก็วางแผนตอนม.5 เทอม 2 นี่ว่า ไอ้วิชาที่เหลือทำไงดีวะ  เอาทีละวิชาละกัน



    อันแรกก็ เคมี พี่ก็รู้สึกว่าเรียนอุ๊ มาครบแล้ว ทำโจทย์ท้ายบทตลอด  คิดว่าคงจะพอได้  ก็เริ่มอ่านทวนๆ ทำโจทย์ตอนปิดเทอมขึ้นม.6 พอ เปิดเทอมม.6 พี่ก็เลิกทำเคมีไป ไปดูเลขกับฟิสิกส์แทน เนื่องจากปิดเทอมพี่ต้องเรียนสอวน. ทำให้ลงคอร์สเอนท์ฯ ตอนปิดเทอมไม่ได้ ก็เลยต้องลงตอนเปิดเทอมแทน

               ระหว่างที่เรียนเลขพี่ก็ทำสรุปเลขเป็นบทๆ ย่อๆ พวกสูตร วิธีคิดไรงี้ ดูมันจะลำบากที่ทำ แต่พอทำเสร็จแล้วเอามาใช้ก็คุ้มมาก พี่แนะนำสำหรับคนที่เรียนเท่าไหร่ก็จำไม่ได้สักทีอย่างพี่ ก็น่าจะทำ (ถ้ามีเวลาด้วยนะ)

               พอเรียนจบคอร์สเอนท์ฯ พี่ก็เริ่มทำโจทย์เอนท์ฯตั้งแต่ ปี 33-50 ค่อยๆทำอาทิตย์ละ 2-3 พ.ศ. แล้วก็ดูแนวโน้มคะแนนว่ามันดีขึ้นไหม ถ้าคะแนนเริ่มตก ก็ต้องกลับมาทวนสรุปใหม่นะ  พี่ทำโจทย์ในห้องเรียน ส่วนใหญ่  พี่เชื่อว่าน้องต้องมีวิชาที่อาจารย์สอน โคตรน่าเบื่อเลย สักวิชาอยู่แล้ว น้องก็เอาเวลามาทำโจทย์แทน จะรู้สึกดี ฮ่าฮ่า ประหยัดเวลาตอนกลางคืน เอาไปอ่านอย่างอื่นได้อีก



     ต่อไปเป็น ฟิสิกส์  พี่จะบอกว่า โคตรเกลียดวิชานี้รุนแรง แต่เรียนพิเศษจบ พี่ยังจำไม่ได้ ทำโจทย์ก็ไม่ได้  ทำไงดี  พี่ก็เลยเก็บตัวอยู่กับ บ้านสองอาทิตย์ตอนเดือนตุลา อ่านฟิสิกส์ตั้งแต่บทแรก แล้วก็ทำโจทย์ท้ายบททุกบท  อ่านตั้งแต่เก้าโมง ถึงตีหนึ่ง  แต่ไม่ได้อ่านตลอดนะ ก็พักกินข้าว ดูละครตอนเย็นบ้าง รู้สึกได้ว่าถึกมาก เวลาพี่ทำโจทย์ก็ฟังเพลงไปด้วย ก็พอจะหายเครียดได้บ้าง  แล้วมันก็เห็นผลนะน้อง จะบอกว่าพี่รู้สึกว่าทำโจทย์ได้มากขึ้น แถมคะแนนพื้นฐานวิศวะ ยังได้ดีอีก ไม่น่าเชื่อออ!!

               พี่แนะนำว่า วิชาไหนที่เราไม่ค่อยถนัด เราควรจะเข้าชนมันซะ อย่าไปทิ้ง !!  ฟิสิกส์ เป็นอีกวิชาที่ไม่ควรทิ้งเพราะเป็นวิชาที่โจทย์ไม่ยาก แนวเดิมตลอด ถ้าใครจำได้ก็ทำได้เลย  พี่ว่าชีวะโจทย์ยังยากกว่า เลย  ย้อนกลับมาเคมี พี่ก็ลืมๆไปบ้าง ก็เลยลงคอร์สตะลุยโจทย์ของอุ๊  ตอนเดือนตุลา ก็ช่วยได้มากนะ  ก็เลยเคมีเอาแค่นั้นละกัน เพราะพี่ก็ถนัดด้วย เลยวางใจ
     

    ต่อไปก็ อังกฤษ พี่ทำโจทย์ไม่ค่อยได้ ก็เลยเริ่มทำตอนเทอมสอง  ทำ แต่โจทย์เอนท์ฯ ขี้เกียจอ่านเนื้อหา คะแนนก็ได้ประมาณ 60-70 ก็ โอเคล่ะ คงทำไม่ได้มากกว่านี้แล้วแหละ แล้วก็ท่องศัพท์ครูสมศรีเอา ท่องมาตั้งแต่ ม.5 เทอม 2 จนถึงม. 6 เทอม 2 จบไปสองสามเล่มสมุด ก็ช่วยในการทำโจทย์ได้ดี

               ถ้าน้องคนไหนยังไม่ได้เริ่มท่องศัพท์ พี่ว่าก็ยังไม่สายไปนะ แนะนำให้ท่องตอนที่จะไม่กินเวลาอ่านวิชาอื่น เช่น ในรถเมล์ หรือตอนเข้าแถวตอนเช้า มันดูเป็นเวลาที่เรามองไม่เห็น แต่ก็มีค่ามากนะ 



               ส่วนวิช าไทย-สังคม    พี่ไปเรียนคอร์สตะลุยโจทย์ของดาว้องก์ ก็ดีมาก ทวนเนื้อหาครบดี แล้วก็เริ่มอ่านเนื้อหาตอนปลายปีม.6  มันเป็นวิชาท่องจำก็คิดว่าน่าจะอ่านสุดท้าย โชคดีที่รร.พี่ปิดเร็ว ปิดตั้งแต่เดือนก.พ. ทำให้พี่ว่างจนถึงมีนากว่าจะสอบ ก็เลยอ่านไทย สังคม  ชีวะ ช่วงนี้  แล้ว ก็ทวนๆสูครเลข ฟิสิกส์ไรงี้  เรื่องการอ่านก็จบเท่า นี้แหละมั้งนะ



    พี่ก็ไม่ได้ อยากให้น้องเอาพี่เป็นตัวอย่างทุกอันนะ แค่เอามาปรับใช้ก็โอเคแล้ว แต่ม.6 เรา ก็ควรตัดอะไรที่ไม่จำเป็นไปบ้างนะ เช่น ดูซีรี่ส์ เล่นเกมส์ อ่านนิยาย เล่นเอ็ม ไรงี้ เอาให้น้อยลง ใครมีแฟนก็คุยให้น้อยๆหน่อย ไม่ก็คุยกันก็ชวนกันอ่านหนังสือไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลา  น้องต้องรู้จักบริหารเวลาให้เป็น  ที่พี่อยากเน้นก็คือ ไม่ว่าน้องจะอ่านหนังสือยังไงก็แล้วแต่ พี่ขอเน้นให้ทำโจทย์จะดีที่สุด ถ้าเราไม่ฝึกทำ ก็เหมือนเราแค่ฝึกวิชาแต่เราไม่เคยเอาไปใช้จริงๆ  ถึงเวลาสอบจะทำไม่ได้นะ   

               สุดท้ายที่อยากฝากไว้ ก็คือ พี่เชื่อว่าคนที่เข้าหมอได้ ไม่ใช่แค่คนเก่ง แต่เป็นคนที่พยายาม คนที่ขยันด้วยยย!!  ถ้า น้องมีความพยายาม พี่เชื่อว่าความสำเร็จต้องอยู่ในมือน้องแน่  ขอให้น้องมีกำลังใจสู้ที่จะอ่านหนังสือ สู้เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่น้องรักด้วย  ขอให้พลังจงอยู่ในมือน้องทุกคนนะ !!!!!!!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×