ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แวร์ซายน์
วันต่อมา วูลแฟร์ต้องสั่งให้ช่างตัดเสื้อของตระกูลมาวัดตัวแวมไพร์หนุ่ม พลางช่วยทำผมให้กับฟีเรนเซด้วยการเกล้าผมก่อนมัดเป็นโบว์
"ข้าจัดผมเองได้"ฟีเรนเซโวยวาย
"ทำไมแวมไพร์นี่ดื้อเป็นบ้าเลยโว้ย"วูลแฟร์พูดกลับกัดฟัน"เอาเสร็จแล้ว"
"ชุดนี้ดูเข้ากับท่านดีนะ"คนใช้สาวพูดพลางจัดเสื้อคลุมยาวที่ตัดจากผ้าซาตินสีน้ำเงินอมม่วงปิดสะโพก ชายเสื้อปักเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวและดางประกายพรึกหลายดวง นุ่งกางเกงรัดขาสีขาวไข่มุก ใส่ถุงเท้ายาว เสื้อชั้น ในเป็นเชิ้ต มี จีบระบายที่อกและแขน มีเสื้อตัวสั้น ทับก่อนใส่เสื้อคลุมน้ำเงินอมม่วงอีกที ผมสีน้ำตาลอมดำถูกมัดไว้ท้ายทอยก่อนผูกด้วยโบว์สีดำ
"ท่านใส่ชุดราชสำนักของข้านี่ ท่านก็ดูดีนะเนี่ย"เสียงเด็กหนุ่มพูดก่อนที่ตัวของฟีเรนเซเกือนล้มจ้ำเบ้าลงเพราะน้ำหนักของวูลแฟร์ที่กดเขาจากข้างหลัง
"มันจะดีกว่านี้มากถ้าท่านลุกจากตัวข้า"ฟีเรนเซดันแวร์วูฟหนุ่มจนกระเด็นไปชนโต๊ะพลางจัดเสื้อผ้าไม่ให้ยับ"ชุดสีกรมท่าของท่าน ใส่แล้วดูดีนี่"
วูลแฟร์ยิ้ม"คนในตระกูลข้านิยมสีเข้มอยู่แล้ว โดยเฉพาะสีโทนมืดและสีโทนเย็น"วูลแฟร์ยิ้มพลางสะบัดวิกสีขาวอย่างมั่นใจตัวเอง
ประมาณ 3วันทั้งสองก็มาถึงพระราชวังแวร์ซายน์
"โออ่ามาก แต่ไม่อลังการเท่าซาน เปโตร บาซิลิกา(มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์)"ฟีเรนเซพูด
"ไว้ตอนกลับ ข้าจะพาท่านไปเที่ยวปารีส"วูฟแฟร์พูดพลางส่งยิ้มให้แวมไพร์หนุ่ม
"ข้าอยากไปดูมหาวิหารชาตร์มากกว่า ข้าอยากไปสวดมนต์ที่นั่น"ฟีเรนเซพูด
"ไปสิ ข้าเองก็ไม่อยากเข้าปารีสซักเท่าไหร่"วูฟแฟร์พูดพลางลงจากรถม้าก่อนจะเดินเข้าไปในพระราชวังแวร์ซายน์พร้อมฟีเรนเซ
'ชายหนุ่มข้างมองซิเออร์ลูแปงเป็นใครกันเนี่ย''ผิวขาวราวกับนมวัว ปากแดงดุจกุหลาบ ผมสีดำอมน้ำตาลดุจต้นสน ดวงตาสีขาวเป็นประกายราวกับเพชร''โอ้ เขาเป็นใครกันน่ะ'แต่ละคนต่างคิดและเพื้อฝัน
"ดิฉัน เจน โรซาลีเย เดอ ซีมอร์"หล่อนพูดจบ พอดีที่เพลงจบพอดี"รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบกับคนในตระกูลเมดิชีอันยิ่งใหญ่และทรงเกียรติ"
"ท่าทางคุณจะชอบแวร์ซายน์มากสิท่า"ฟีเรนเซพูด
"อ๋อไม่เลยค่ะ สำหรับฉัน แวร์ซายน์เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก งานเลี้ยงจัดทุกวัน พอมารี อองตัวเนตออกมาในชุดราตรีทีราคาหลายแสนฟรังก์และท่าทีที่ยิ่งยโสของพวกโปลินยัก"เจนพูดด้วยสีน่าที่เบื่อหน่าย
"ขอโทษครับ มาดมัวแซลซีมอร์ ผมขอคุยกับมองซิเออร์เมดิชีแป๊บเดียวครับ"จู่ๆ วูลแฟร์ก็เข้ามาดึงฟีเรนเซห่างๆเจน
"อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปหาเพื่อนด้านนั้นก่อน โชคดีนะคะมองซิเออร์เมดิชี"เจนกลัวพลังเดินไปที่ประตูห้องกระจก
"ข้าจัดผมเองได้"ฟีเรนเซโวยวาย
"ทำไมแวมไพร์นี่ดื้อเป็นบ้าเลยโว้ย"วูลแฟร์พูดกลับกัดฟัน"เอาเสร็จแล้ว"
"ชุดนี้ดูเข้ากับท่านดีนะ"คนใช้สาวพูดพลางจัดเสื้อคลุมยาวที่ตัดจากผ้าซาตินสีน้ำเงินอมม่วงปิดสะโพก ชายเสื้อปักเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวและดางประกายพรึกหลายดวง นุ่งกางเกงรัดขาสีขาวไข่มุก ใส่ถุงเท้ายาว เสื้อชั้น ในเป็นเชิ้ต มี จีบระบายที่อกและแขน มีเสื้อตัวสั้น ทับก่อนใส่เสื้อคลุมน้ำเงินอมม่วงอีกที ผมสีน้ำตาลอมดำถูกมัดไว้ท้ายทอยก่อนผูกด้วยโบว์สีดำ
"ท่านใส่ชุดราชสำนักของข้านี่ ท่านก็ดูดีนะเนี่ย"เสียงเด็กหนุ่มพูดก่อนที่ตัวของฟีเรนเซเกือนล้มจ้ำเบ้าลงเพราะน้ำหนักของวูลแฟร์ที่กดเขาจากข้างหลัง
"มันจะดีกว่านี้มากถ้าท่านลุกจากตัวข้า"ฟีเรนเซดันแวร์วูฟหนุ่มจนกระเด็นไปชนโต๊ะพลางจัดเสื้อผ้าไม่ให้ยับ"ชุดสีกรมท่าของท่าน ใส่แล้วดูดีนี่"
วูลแฟร์ยิ้ม"คนในตระกูลข้านิยมสีเข้มอยู่แล้ว โดยเฉพาะสีโทนมืดและสีโทนเย็น"วูลแฟร์ยิ้มพลางสะบัดวิกสีขาวอย่างมั่นใจตัวเอง
.........................................................................................
ประมาณ 3วันทั้งสองก็มาถึงพระราชวังแวร์ซายน์
"โออ่ามาก แต่ไม่อลังการเท่าซาน เปโตร บาซิลิกา(มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์)"ฟีเรนเซพูด
"ไว้ตอนกลับ ข้าจะพาท่านไปเที่ยวปารีส"วูฟแฟร์พูดพลางส่งยิ้มให้แวมไพร์หนุ่ม
"ข้าอยากไปดูมหาวิหารชาตร์มากกว่า ข้าอยากไปสวดมนต์ที่นั่น"ฟีเรนเซพูด
"ไปสิ ข้าเองก็ไม่อยากเข้าปารีสซักเท่าไหร่"วูฟแฟร์พูดพลางลงจากรถม้าก่อนจะเดินเข้าไปในพระราชวังแวร์ซายน์พร้อมฟีเรนเซ
ข้างหน้าเป็นพระราชวังอันวิจิตรงดงามที่สร้างมาในยุคศิลปะบาโรก ซึ่งนิยมการตกแต่งแบบเต็มที่ ทั้งทาสีทอง หินอ่อนและอัญมณี
"ที่นี่สร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ใช้เงินไปเยอะมากจนทำให้ฝรั่งเศสเกือบล้มละลาย แต่ประเทศพึ่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสมัยนี้ ประเทศถึงกับล้มละลายและผู้คนอดอยาก"วูฟแฟร์พูด
"หึ ขนาดวซาน เปโตร บาซิลิกายังสร้างนานตั้ง120ปี ใช้ศิลปินหลายคนเช่น โดนาโต ดันเจโล บรามันเต, ราฟาเอล, จูลิอาโน ดา ซานกาลโล, การ์โล มาเดอร์โน และ มีเกลันเจโล"ฟีเรนเซพูดยิ้มๆ"ที่นั่น ใช้หินอ่อนหลายก้อนและภาพวาดและรูปปั้นของนักบุญที่วิจิตรงดงามเป็นอย่างมาก"
"ที่นี่สร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ใช้เงินไปเยอะมากจนทำให้ฝรั่งเศสเกือบล้มละลาย แต่ประเทศพึ่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสมัยนี้ ประเทศถึงกับล้มละลายและผู้คนอดอยาก"วูฟแฟร์พูด
"หึ ขนาดวซาน เปโตร บาซิลิกายังสร้างนานตั้ง120ปี ใช้ศิลปินหลายคนเช่น โดนาโต ดันเจโล บรามันเต, ราฟาเอล, จูลิอาโน ดา ซานกาลโล, การ์โล มาเดอร์โน และ มีเกลันเจโล"ฟีเรนเซพูดยิ้มๆ"ที่นั่น ใช้หินอ่อนหลายก้อนและภาพวาดและรูปปั้นของนักบุญที่วิจิตรงดงามเป็นอย่างมาก"
"ต่างจากที่นี่ ภายนอกสวยงดงาม แต่ภายในฟอนเฟะ เหลวแหลกยิ่งนัก"วูลแฟร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหน่อยหน่าย"หลุยส์ที่ 16 และราชินีของเขา มารี อองตัวเนตใช้ใจแบบไม่ดูกระเป๋าตังค์ตัวเองจนถังแตก(หมดตูด)"
"หึๆ ใช้จ่ายอะไรบ้างล่ะ"ฟีเรนเซถาม
"หลายอย่าง หลุยส์ใช้เงินช่วยอเมริกาในการประกาศอิสระภาพจากอังกฤษ ผลคือเงินท้องพระคลังหายไปเกือบครึ่ง อีกครึ่งตกไปอยู่ในมือของชนชั้นสูง ดีไซเนอร์และร้านตัดเสื้อผ้าชื่อดังในปารีส จัดปาร์ตี้เป็นว่าเล่นทุกคืน แค่พิธีต่างๆไม่เท่าไหร่ แต่ทั้งหมดในแวร์ซายน์นี่สูบเงินจากผู้คนตามที่ต่างๆไปเยอะเลยนะ"วูลแฟร์เล่าพลางหัวเราะ
ทันทีที่ถึงพระราชวงแวร์ซายน์ ฟีเรนเซกลายเป็นที่ดึงดูดของพวกขุนนางและชนชั้นสูงในพระราชวังแวร์ซายน์
'ชายหนุ่มข้างมองซิเออร์ลูแปงเป็นใครกันเนี่ย''ผิวขาวราวกับนมวัว ปากแดงดุจกุหลาบ ผมสีดำอมน้ำตาลดุจต้นสน ดวงตาสีขาวเป็นประกายราวกับเพชร''โอ้ เขาเป็นใครกันน่ะ'แต่ละคนต่างคิดและเพื้อฝัน
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในห้องกระจกและสวนภายในพระราชวังแวร์ซายน์ เป็นงานเลี้ยงสวมหน้ากากเต้นรำกันอย่างหรูหรา
ไม่น่านนักดนตรีก็บรรเลงขึ้น"ขอเต้นรำคู่กับท่านนะครับ มาดอนนา"ฟีเรนเซพูดภาษาฝรั่งเศสปนอิตาลีพลางก้มหัวเพื่อทำความเคารพ หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ดูงดงามราวกับรูปสลักวีนัสถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย "ยินดีค่ะ" เธอตอบพลางทำความเคารพ เสียงเปียโน ฟลุต(ขลุ่ย) ไวโอลิน วิโอลา เชลโลและฮาร์ปดังขึ้น
"ท่านเป็นคนอิตาลีใช่ไหมคะ"สตรีคนนั้นถามฟีเรนเซขณะเต้นรำด้วยกัน
"ครับ"ชายหนุ่มรับคำ
"ท่านมาจากไหนหรือคะ โรม มิลานหรือว่าเนเปิลส์"หญิงสาวคนนั้นเริ่มสนใจในตัวฟีเรนเซ
"ผมเป็นชาวทัสกานี มาจากฟลอเรนซ์ครับ"ฟีเรนเซตอบ
"โอ้ จริงหรือนี่ ท่านชื่ออะไรหรือคะ"หญิงสาวคนนั้นถาม
"ผม ฟีเรนเซ เดอ เมดิชีครับ"ฟีเรนเซ
ไม่น่านนักดนตรีก็บรรเลงขึ้น"ขอเต้นรำคู่กับท่านนะครับ มาดอนนา"ฟีเรนเซพูดภาษาฝรั่งเศสปนอิตาลีพลางก้มหัวเพื่อทำความเคารพ หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ดูงดงามราวกับรูปสลักวีนัสถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย "ยินดีค่ะ" เธอตอบพลางทำความเคารพ เสียงเปียโน ฟลุต(ขลุ่ย) ไวโอลิน วิโอลา เชลโลและฮาร์ปดังขึ้น
"ท่านเป็นคนอิตาลีใช่ไหมคะ"สตรีคนนั้นถามฟีเรนเซขณะเต้นรำด้วยกัน
"ครับ"ชายหนุ่มรับคำ
"ท่านมาจากไหนหรือคะ โรม มิลานหรือว่าเนเปิลส์"หญิงสาวคนนั้นเริ่มสนใจในตัวฟีเรนเซ
"ผมเป็นชาวทัสกานี มาจากฟลอเรนซ์ครับ"ฟีเรนเซตอบ
"โอ้ จริงหรือนี่ ท่านชื่ออะไรหรือคะ"หญิงสาวคนนั้นถาม
"ผม ฟีเรนเซ เดอ เมดิชีครับ"ฟีเรนเซ
"ดิฉัน เจน โรซาลีเย เดอ ซีมอร์"หล่อนพูดจบ พอดีที่เพลงจบพอดี"รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบกับคนในตระกูลเมดิชีอันยิ่งใหญ่และทรงเกียรติ"
"ท่าทางคุณจะชอบแวร์ซายน์มากสิท่า"ฟีเรนเซพูด
"อ๋อไม่เลยค่ะ สำหรับฉัน แวร์ซายน์เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก งานเลี้ยงจัดทุกวัน พอมารี อองตัวเนตออกมาในชุดราตรีทีราคาหลายแสนฟรังก์และท่าทีที่ยิ่งยโสของพวกโปลินยัก"เจนพูดด้วยสีน่าที่เบื่อหน่าย
"ขอโทษครับ มาดมัวแซลซีมอร์ ผมขอคุยกับมองซิเออร์เมดิชีแป๊บเดียวครับ"จู่ๆ วูลแฟร์ก็เข้ามาดึงฟีเรนเซห่างๆเจน
"อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปหาเพื่อนด้านนั้นก่อน โชคดีนะคะมองซิเออร์เมดิชี"เจนกลัวพลังเดินไปที่ประตูห้องกระจก
..................................................................
"มีอะไรก็พูดมาตรงๆ"ฟีเรนเซพูดเมื่อเห็นท่าทีที่แปลกๆของวูลแฟร์
สวบ!!!วูลแฟร์เข้าจูบฟีเรนเซอย่างหนักหน่วง ฟีเรนเซแทบจะหายใจไม่ออก
"มีอะไรพูดมา"ฟีเรนเซกล่าว
"ข้าไม่ชอบ เวลาที่ท่านไปพูดจากับสตรีอื่น"วูลแฟร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"มันเป็นสิทธิ์ของข้า"แวมไพร์หนุ่มพูดเสียงเรียบ
ฟึ่บ!!!! "นี่ท่านคิดยั่วโมโหข้างั้นหรือ"วูลแฟร์ตะคอกพลากใช้มือขวาดึงเสื้อตรงบริเวณอกของฟีเรนเซเข้ามา
"เจ้าเป็นอะไรของเจ้า"ฟีเรนเซพูดอย่างมีน้ำโห
"ท่านดูไม่ออกเหรอ"วูลแฟร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเจือเจ็บปวด ฟีเรนเซส่ายหน้ารัว
"ข้ารักท่าน ตั้งแต่ท่านช่วยข้ามาที่เหว จนมาอยู่ในปราสาท ข้าแอบชอบท่านมาโดยตลอด"พลางจ้องใบหน้าแวมไพร์หนุ่มสีหน้าเจ็บปวดราวกับโดนกระสุนเงิน
"บ.....บ้า"ฟีเรนเซแค่นด่าออกมา"เจ้ามันบ้า"
วูลแฟร์รวบมือทั้งสองของฟีเรนเซไปนาบที่หน้าออกของตนเอง ทำให้แวมไพร์หนุ่มรู้สึกว่าแวร์วูฟตรงหน้าตนรักตนมากเพียงใด เขาดึงมือของเขาคืนก่อนจะเดินหนีแต่วูลแฟร์กอดเขาจากด้านหลังไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาหนี
"ท่านจะด่าจะว่าอะไร หรือทำร้ายให้ข้าเจ็บปวดเท่าไหร่ ข้าก็ยินดีรับมัน แต่ขออย่างเดียว อย่าหนีหายไปจากข้าเลย"วูลแฟร์พูด
ฟีเรนเซชายตามองแวร์วูฟหนุ่ม"แวมไพร์กับแวร์วูฟ ถ้าเป็นชายหญิงครองรักกันยังพออนุโลมได้แต่ข้าและเจ้าเป็นบุรุษทั้งคู่ การที่บุรุษร่วมรักร่วมเพศเดียว มันเป็นการฝืนกฏของธรรมชาตินะ โลกสร้างชายและหญิงให้เกิดมาเพื่อร่วมรักและสืบเผ่าพันธ์ุนะ"เขาใช้เหตุและผลอธิบาย
"แล้วท่านจะใช้เหตุผลนั่นมาเป็นตัวขัดขวางทำไม ความรักธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งพระเจ้า ท่านไม่ได้กำหนด แต่เป็นใจเรากำหนดต่างหาก"เด็กหนุ่มอธิบายแวมไพร์ที่เขากอดอยู่"อีกอย่างกฏแห่งการใช้ชีวิตอันเป็นนิรันด์นั้น ไม่จำกับเพศอยู่แล้ว"
"ข้าไม่ชอบ เวลาที่ท่านไปพูดจากับสตรีอื่น"วูลแฟร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"มันเป็นสิทธิ์ของข้า"แวมไพร์หนุ่มพูดเสียงเรียบ
ฟึ่บ!!!! "นี่ท่านคิดยั่วโมโหข้างั้นหรือ"วูลแฟร์ตะคอกพลากใช้มือขวาดึงเสื้อตรงบริเวณอกของฟีเรนเซเข้ามา
"เจ้าเป็นอะไรของเจ้า"ฟีเรนเซพูดอย่างมีน้ำโห
"ท่านดูไม่ออกเหรอ"วูลแฟร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเจือเจ็บปวด ฟีเรนเซส่ายหน้ารัว
"ข้ารักท่าน ตั้งแต่ท่านช่วยข้ามาที่เหว จนมาอยู่ในปราสาท ข้าแอบชอบท่านมาโดยตลอด"พลางจ้องใบหน้าแวมไพร์หนุ่มสีหน้าเจ็บปวดราวกับโดนกระสุนเงิน
"บ.....บ้า"ฟีเรนเซแค่นด่าออกมา"เจ้ามันบ้า"
วูลแฟร์รวบมือทั้งสองของฟีเรนเซไปนาบที่หน้าออกของตนเอง ทำให้แวมไพร์หนุ่มรู้สึกว่าแวร์วูฟตรงหน้าตนรักตนมากเพียงใด เขาดึงมือของเขาคืนก่อนจะเดินหนีแต่วูลแฟร์กอดเขาจากด้านหลังไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาหนี
"ท่านจะด่าจะว่าอะไร หรือทำร้ายให้ข้าเจ็บปวดเท่าไหร่ ข้าก็ยินดีรับมัน แต่ขออย่างเดียว อย่าหนีหายไปจากข้าเลย"วูลแฟร์พูด
ฟีเรนเซชายตามองแวร์วูฟหนุ่ม"แวมไพร์กับแวร์วูฟ ถ้าเป็นชายหญิงครองรักกันยังพออนุโลมได้แต่ข้าและเจ้าเป็นบุรุษทั้งคู่ การที่บุรุษร่วมรักร่วมเพศเดียว มันเป็นการฝืนกฏของธรรมชาตินะ โลกสร้างชายและหญิงให้เกิดมาเพื่อร่วมรักและสืบเผ่าพันธ์ุนะ"เขาใช้เหตุและผลอธิบาย
"แล้วท่านจะใช้เหตุผลนั่นมาเป็นตัวขัดขวางทำไม ความรักธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งพระเจ้า ท่านไม่ได้กำหนด แต่เป็นใจเรากำหนดต่างหาก"เด็กหนุ่มอธิบายแวมไพร์ที่เขากอดอยู่"อีกอย่างกฏแห่งการใช้ชีวิตอันเป็นนิรันด์นั้น ไม่จำกับเพศอยู่แล้ว"
"แต่ข้าไม่ได้รักเจ้า"ฟีเรนเซกล่าวเสียงเบา
"กลับไปที่งานเลี้ยงก่อนเถอะ"ฟีเรนเซพูด
"ท่านห้ามเต้นรำ หรือพูดจากับหญิงใดนะ"วูลแฟร์พูดพลางจ้องฟีเร็นเซด้วยสายตาจริงจัง
"ถ้าข้าไม่ฟังเจ้าล่ะ"ฟีเรนเซพูดจายียวน
"ข้าก็จะทำแบบนี้ไง"วูลแฟร์พูดพลางรวบตัวฟีเรนเซจากด้านหน้าก่อนประกบริมฝีปากของตนเข้ากับริมฝีปากของแวมไพร์หนุ่ม และรวบตัวมากอดพลางจะฉีกเสื้อผ้าของฟีเรนเซแทบจะแหละเป็นชิ้นๆ
"กลับไปที่งานเลี้ยงก่อนเถอะ"ฟีเรนเซพูด
"ท่านห้ามเต้นรำ หรือพูดจากับหญิงใดนะ"วูลแฟร์พูดพลางจ้องฟีเร็นเซด้วยสายตาจริงจัง
"ถ้าข้าไม่ฟังเจ้าล่ะ"ฟีเรนเซพูดจายียวน
"ข้าก็จะทำแบบนี้ไง"วูลแฟร์พูดพลางรวบตัวฟีเรนเซจากด้านหน้าก่อนประกบริมฝีปากของตนเข้ากับริมฝีปากของแวมไพร์หนุ่ม และรวบตัวมากอดพลางจะฉีกเสื้อผ้าของฟีเรนเซแทบจะแหละเป็นชิ้นๆ
"เดี๋ยว ยังไม่ใช่ตอนนี้"ฟีเรนเซดันวูลแฟร์ออกไป"ถ้าวันไหนข้าพร้อม ข้ายินดีมอบให้ท่าน"
"ข้าจะรอ"วูลแฟร์กล่าวพลางจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยพาฟีเรนเซกลับไปยังงานเลี้ยง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น