ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    vampire renaissance (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : แวร์ซายน์

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 59


    วันต่อมา วูลแฟร์ต้องสั่งให้ช่างตัดเสื้อของตระกูลมาวัดตัวแวมไพร์หนุ่ม พลางช่วยทำผมให้กับฟีเรนเซด้วยการเกล้าผมก่อนมัดเป็นโบว์
    "ข้าจัดผมเองได้"ฟีเรนเซโวยวาย

    "ทำไมแวมไพร์นี่ดื้อเป็นบ้าเลยโว้ย"วูลแฟร์พูดกลับกัดฟัน"เอาเสร็จแล้ว"

    "ชุดนี้ดูเข้ากับท่านดีนะ"คนใช้สาวพูดพลางจัดเสื้อคลุมยาวที่ตัดจากผ้าซาตินสีน้ำเงินอมม่วงปิดสะโพก ชายเสื้อปักเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวและดางประกายพรึกหลายดวง นุ่งกางเกงรัดขาสีขาวไข่มุก ใส่ถุงเท้ายาว เสื้อชั้น ในเป็นเชิ้ต มี จีบระบายที่อกและแขน มีเสื้อตัวสั้น ทับก่อนใส่เสื้อคลุมน้ำเงินอมม่วงอีกที  ผมสีน้ำตาลอมดำถูกมัดไว้ท้ายทอยก่อนผูกด้วยโบว์สีดำ

    "ท่านใส่ชุดราชสำนักของข้านี่ ท่านก็ดูดีนะเนี่ย"เสียงเด็กหนุ่มพูดก่อนที่ตัวของฟีเรนเซเกือนล้มจ้ำเบ้าลงเพราะน้ำหนักของวูลแฟร์ที่กดเขาจากข้างหลัง

    "มันจะดีกว่านี้มากถ้าท่านลุกจากตัวข้า"ฟีเรนเซดันแวร์วูฟหนุ่มจนกระเด็นไปชนโต๊ะพลางจัดเสื้อผ้าไม่ให้ยับ"ชุดสีกรมท่าของท่าน ใส่แล้วดูดีนี่"

    วูลแฟร์ยิ้ม"คนในตระกูลข้านิยมสีเข้มอยู่แล้ว โดยเฉพาะสีโทนมืดและสีโทนเย็น"วูลแฟร์ยิ้มพลางสะบัดวิกสีขาวอย่างมั่นใจตัวเอง
     
    .........................................................................................

    ประมาณ 3วันทั้งสองก็มาถึงพระราชวังแวร์ซายน์  

    "โออ่ามาก แต่ไม่อลังการเท่าซาน เปโตร บาซิลิกา(มหาวิหารเซนต์ ปีเตอร์)"ฟีเรนเซพูด

    "ไว้ตอนกลับ ข้าจะพาท่านไปเที่ยวปารีส"วูฟแฟร์พูดพลางส่งยิ้มให้แวมไพร์หนุ่ม 

    "ข้าอยากไปดูมหาวิหารชาตร์มากกว่า ข้าอยากไปสวดมนต์ที่นั่น"ฟีเรนเซพูด

    "ไปสิ ข้าเองก็ไม่อยากเข้าปารีสซักเท่าไหร่"วูฟแฟร์พูดพลางลงจากรถม้าก่อนจะเดินเข้าไปในพระราชวังแวร์ซายน์พร้อมฟีเรนเซ 

    ข้างหน้าเป็นพระราชวังอันวิจิตรงดงามที่สร้างมาในยุคศิลปะบาโรก ซึ่งนิยมการตกแต่งแบบเต็มที่ ทั้งทาสีทอง หินอ่อนและอัญมณี

    "ที่นี่สร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ใช้เงินไปเยอะมากจนทำให้ฝรั่งเศสเกือบล้มละลาย แต่ประเทศพึ่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสมัยนี้ ประเทศถึงกับล้มละลายและผู้คนอดอยาก"วูฟแฟร์พูด

    "หึ ขนาดวซาน เปโตร บาซิลิกายังสร้างนานตั้ง120ปี ใช้ศิลปินหลายคนเช่น โดนาโต ดันเจโล บรามันเตราฟาเอลจูลิอาโน ดา ซานกาลโลการ์โล มาเดอร์โน และ มีเกลันเจโล"ฟีเรนเซพูดยิ้มๆ"ที่นั่น  
    ใช้หินอ่อนหลายก้อนและภาพวาดและรูปปั้นของนักบุญที่วิจิตรงดงามเป็นอย่างมาก"

    "ต่างจากที่นี่  ภายนอกสวยงดงาม แต่ภายในฟอนเฟะ เหลวแหลกยิ่งนัก"วูลแฟร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหน่อยหน่าย"หลุยส์ที่ 16 และราชินีของเขา มารี อองตัวเนตใช้ใจแบบไม่ดูกระเป๋าตังค์ตัวเองจนถังแตก(หมดตูด)"

    "หึๆ ใช้จ่ายอะไรบ้างล่ะ"ฟีเรนเซถาม

    "หลายอย่าง หลุยส์ใช้เงินช่วยอเมริกาในการประกาศอิสระภาพจากอังกฤษ ผลคือเงินท้องพระคลังหายไปเกือบครึ่ง อีกครึ่งตกไปอยู่ในมือของชนชั้นสูง ดีไซเนอร์และร้านตัดเสื้อผ้าชื่อดังในปารีส  จัดปาร์ตี้เป็นว่าเล่นทุกคืน  แค่พิธีต่างๆไม่เท่าไหร่ แต่ทั้งหมดในแวร์ซายน์นี่สูบเงินจากผู้คนตามที่ต่างๆไปเยอะเลยนะ"วูลแฟร์เล่าพลางหัวเราะ

    ทันทีที่ถึงพระราชวงแวร์ซายน์   ฟีเรนเซกลายเป็นที่ดึงดูดของพวกขุนนางและชนชั้นสูงในพระราชวังแวร์ซายน์

    'ชายหนุ่มข้างมองซิเออร์ลูแปงเป็นใครกันเนี่ย''ผิวขาวราวกับนมวัว ปากแดงดุจกุหลาบ ผมสีดำอมน้ำตาลดุจต้นสน ดวงตาสีขาวเป็นประกายราวกับเพชร''โอ้ เขาเป็นใครกันน่ะ'แต่ละคนต่างคิดและเพื้อฝัน

    งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในห้องกระจกและสวนภายในพระราชวังแวร์ซายน์   เป็นงานเลี้ยงสวมหน้ากากเต้นรำกันอย่างหรูหรา
     
    ไม่น่านนักดนตรีก็บรรเลงขึ้น"ขอเต้นรำคู่กับท่านนะครับ  มาดอนนา"ฟีเรนเซพูดภาษาฝรั่งเศสปนอิตาลีพลางก้มหัวเพื่อทำความเคารพ  หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ดูงดงามราวกับรูปสลักวีนัสถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย "ยินดีค่ะ" เธอตอบพลางทำความเคารพ เสียงเปียโน ฟลุต(ขลุ่ย) ไวโอลิน วิโอลา เชลโลและฮาร์ปดังขึ้น

    "ท่านเป็นคนอิตาลีใช่ไหมคะ"สตรีคนนั้นถามฟีเรนเซขณะเต้นรำด้วยกัน

    "ครับ"ชายหนุ่มรับคำ

    "ท่านมาจากไหนหรือคะ โรม มิลานหรือว่าเนเปิลส์"หญิงสาวคนนั้นเริ่มสนใจในตัวฟีเรนเซ

    "ผมเป็นชาวทัสกานี มาจากฟลอเรนซ์ครับ"ฟีเรนเซตอบ

    "โอ้ จริงหรือนี่ ท่านชื่ออะไรหรือคะ"หญิงสาวคนนั้นถาม

    "ผม ฟีเรนเซ เดอ เมดิชีครับ"ฟีเรนเซ

    "ดิฉัน เจน โรซาลีเย เดอ ซีมอร์"หล่อนพูดจบ พอดีที่เพลงจบพอดี"รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบกับคนในตระกูลเมดิชีอันยิ่งใหญ่และทรงเกียรติ"

    "ท่าทางคุณจะชอบแวร์ซายน์มากสิท่า"ฟีเรนเซพูด

    "อ๋อไม่เลยค่ะ สำหรับฉัน แวร์ซายน์เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก งานเลี้ยงจัดทุกวัน พอมารี  อองตัวเนตออกมาในชุดราตรีทีราคาหลายแสนฟรังก์และท่าทีที่ยิ่งยโสของพวกโปลินยัก"เจนพูดด้วยสีน่าที่เบื่อหน่าย

    "ขอโทษครับ มาดมัวแซลซีมอร์ ผมขอคุยกับมองซิเออร์เมดิชีแป๊บเดียวครับ"จู่ๆ วูลแฟร์ก็เข้ามาดึงฟีเรนเซห่างๆเจน

    "อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปหาเพื่อนด้านนั้นก่อน โชคดีนะคะมองซิเออร์เมดิชี"เจนกลัวพลังเดินไปที่ประตูห้องกระจก
     
    ..................................................................
     
    "มีอะไรก็พูดมาตรงๆ"ฟีเรนเซพูดเมื่อเห็นท่าทีที่แปลกๆของวูลแฟร์

    สวบ!!!วูลแฟร์เข้าจูบฟีเรนเซอย่างหนักหน่วง  ฟีเรนเซแทบจะหายใจไม่ออก

    "มีอะไรพูดมา"ฟีเรนเซกล่าว

    "ข้าไม่ชอบ เวลาที่ท่านไปพูดจากับสตรีอื่น"วูลแฟร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

    "มันเป็นสิทธิ์ของข้า"แวมไพร์หนุ่มพูดเสียงเรียบ 

    ฟึ่บ!!!! "นี่ท่านคิดยั่วโมโหข้างั้นหรือ"วูลแฟร์ตะคอกพลากใช้มือขวาดึงเสื้อตรงบริเวณอกของฟีเรนเซเข้ามา

    "เจ้าเป็นอะไรของเจ้า"ฟีเรนเซพูดอย่างมีน้ำโห

    "ท่านดูไม่ออกเหรอ"วูลแฟร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเจือเจ็บปวด ฟีเรนเซส่ายหน้ารัว

    "ข้ารักท่าน ตั้งแต่ท่านช่วยข้ามาที่เหว จนมาอยู่ในปราสาท ข้าแอบชอบท่านมาโดยตลอด"พลางจ้องใบหน้าแวมไพร์หนุ่มสีหน้าเจ็บปวดราวกับโดนกระสุนเงิน

    "บ.....บ้า"ฟีเรนเซแค่นด่าออกมา"เจ้ามันบ้า"

    วูลแฟร์รวบมือทั้งสองของฟีเรนเซไปนาบที่หน้าออกของตนเอง  ทำให้แวมไพร์หนุ่มรู้สึกว่าแวร์วูฟตรงหน้าตนรักตนมากเพียงใด เขาดึงมือของเขาคืนก่อนจะเดินหนีแต่วูลแฟร์กอดเขาจากด้านหลังไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาหนี

    "ท่านจะด่าจะว่าอะไร หรือทำร้ายให้ข้าเจ็บปวดเท่าไหร่ ข้าก็ยินดีรับมัน แต่ขออย่างเดียว อย่าหนีหายไปจากข้าเลย"วูลแฟร์พูด 

    ฟีเรนเซชายตามองแวร์วูฟหนุ่ม"แวมไพร์กับแวร์วูฟ ถ้าเป็นชายหญิงครองรักกันยังพออนุโลมได้แต่ข้าและเจ้าเป็นบุรุษทั้งคู่ การที่บุรุษร่วมรักร่วมเพศเดียว มันเป็นการฝืนกฏของธรรมชาตินะ โลกสร้างชายและหญิงให้เกิดมาเพื่อร่วมรักและสืบเผ่าพันธ์ุนะ"เขาใช้เหตุและผลอธิบาย

    "แล้วท่านจะใช้เหตุผลนั่นมาเป็นตัวขัดขวางทำไม ความรักธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งพระเจ้า ท่านไม่ได้กำหนด แต่เป็นใจเรากำหนดต่างหาก"เด็กหนุ่มอธิบายแวมไพร์ที่เขากอดอยู่"อีกอย่างกฏแห่งการใช้ชีวิตอันเป็นนิรันด์นั้น  ไม่จำกับเพศอยู่แล้ว"

    "แต่ข้าไม่ได้รักเจ้า"ฟีเรนเซกล่าวเสียงเบา

    "กลับไปที่งานเลี้ยงก่อนเถอะ"ฟีเรนเซพูด

    "ท่านห้ามเต้นรำ หรือพูดจากับหญิงใดนะ"วูลแฟร์พูดพลางจ้องฟีเร็นเซด้วยสายตาจริงจัง

    "ถ้าข้าไม่ฟังเจ้าล่ะ"ฟีเรนเซพูดจายียวน

    "ข้าก็จะทำแบบนี้ไง"วูลแฟร์พูดพลางรวบตัวฟีเรนเซจากด้านหน้าก่อนประกบริมฝีปากของตนเข้ากับริมฝีปากของแวมไพร์หนุ่ม และรวบตัวมากอดพลางจะฉีกเสื้อผ้าของฟีเรนเซแทบจะแหละเป็นชิ้นๆ

    "เดี๋ยว ยังไม่ใช่ตอนนี้"ฟีเรนเซดันวูลแฟร์ออกไป"ถ้าวันไหนข้าพร้อม ข้ายินดีมอบให้ท่าน"

    "ข้าจะรอ"วูลแฟร์กล่าวพลางจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยพาฟีเรนเซกลับไปยังงานเลี้ยง
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×