ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พบกับมนุษย์หมาป่า(เปลี่ยนชื่อตอน)
ชายแดนอิตาลี-ฝรั่งเศส ค.ศ 1722
"ท่านวูลแฟร์ ศพนี้ดูเหมือนไม่ใช่ฝีมือมนุษย์หมาป่านะครับ"ชายหนุ่มผมสีทองพูดพลางชายตาดูศพขุนนางคนหนึ่งที่นอนคอขาดอย่างน่าสังเวช
"มันไม่ใช่มนุษย์หมาป่าแน่"เด็กหนุ่มผมดำสวมวิกสีขาวในชุดแต่งกายสตรีแบบราชสำนักแวร์ซายน์บอก เด็กหนุ่มหนุ่มคนนี้ร่างสูงใหญ่เกินเด็กวัยเดียวกัน ผิวสีขาวดุจแสงจันทร์ ดวงตาสีแสงจันทร์ ร่างกายกำยำ ผมยาวถึงสะโพก ตามแบบมนุษย์หมาป่าฝรั่งเศส"คนในตระกูลเราไม่สามารถหักคอใครได้ขนาดนี้"
"ท่านอยู่ในห้องนี้อย่าไปไหนเด็จขาด"เด็กหนุ่มสั่งเสียงเข้ม"เพราะข้ายังไม่รู้ว่าถ้าใครมาพบท่าน ท่านอาจถูกฉีกเป็นชิ้นๆได้"เด็กหนุ่มพูดพลางเปิดประตู
หลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปงถอนหายใจและดื่มไวน์อย่างเบื่อหน่าย
"ท่านวูลแฟร์ ศพนี้ดูเหมือนไม่ใช่ฝีมือมนุษย์หมาป่านะครับ"ชายหนุ่มผมสีทองพูดพลางชายตาดูศพขุนนางคนหนึ่งที่นอนคอขาดอย่างน่าสังเวช
"มันไม่ใช่มนุษย์หมาป่าแน่"เด็กหนุ่มผมดำสวมวิกสีขาวในชุดแต่งกายสตรีแบบราชสำนักแวร์ซายน์บอก เด็กหนุ่มหนุ่มคนนี้ร่างสูงใหญ่เกินเด็กวัยเดียวกัน ผิวสีขาวดุจแสงจันทร์ ดวงตาสีแสงจันทร์ ร่างกายกำยำ ผมยาวถึงสะโพก ตามแบบมนุษย์หมาป่าฝรั่งเศส"คนในตระกูลเราไม่สามารถหักคอใครได้ขนาดนี้"
"ดูเหมือนจะมีแวมไพร์เข้ามาในเขตของเรานะครับ คุณชาย"ชายวัยกลางคนกล่าวกับวูลแฟร์
"เหลวไหล"วูลแฟร์กล่าว"แวมไพร์ที่ทำแบบนี้ได้จะมีพวกแวมไพร์ชั้นสูงในอิตาลีเท่านั้น อีกอย่าง ฝรั่งเศสขึ้นชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่ามาก หลายตระกูลใหญ่ก็ล้วนเป็นมนุษย์หมาป่ามาหลายร่น บางตระกูลมีสมาชิกจะผูกพันธะชีวิตกับแวมไพร์เพื่อร่วมกันใช้ชีวิตอันเป็นนิรันด์ก็เถอะ"วูลแฟร์กล่าว
ชายหนุ่มผมทองเปิดประตูรถม้าให้วูลแฟร์
"ถ้าท่านเจอแวมไพร์ตัวเป็นๆละครับ"ชายหนุ่มผมทองกล่าวกับวูลแฟร์
"ถ้าเป็นหนุ่ม ข้าจะจับทำเมีย ถ้าแก่แล้ว ฆ่าเสีย"วูลแฟร์กลาวแล้วหัวเราะ
ขณะเดียวกัน ที่โบสถ์ของหมู่บ้าน
"ดูจากลักษณะแล้ว ไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"นักบวชที่คอยชันสูตรศพ"แต่น่าจะเป็น...................แวมไพร์"
คำพูดของนักบวชทำให้ทุกคนต่างหน้าซีด ขณะเดียวกัน ที่กลางตลาดในหมู่บ้านลูแปง
"เขาลือว่าเป็นฝีมือของแวมไพร์"พ่อค้าแก่ขายเนื้อคนหนึ่งพูด
"บ้าน่ะ ที่นี่อยู่ในการดูแลของตระกูลการ์กาซอนและลูแปง สวยตระกูลนั่นเป็นพวกมนุษย์หมาป่า มีเหรอจะให้แวมไพร์เข้ามาในอณาเขตนี้ได้"แม่ค้าขายชีสพูด
"แต่ขอบใจมันมากนะ พวกพระและขุนนางชั่วที่ชอบกดขี่พวกเราถูกมันฆ่าจนไม่มีใครมาทำร้ายเราอีก"แม่ค้าขายขนมปังพูดพลางนวดแป้งต่อ
"ว่าแต่เจ้ารู้จักหนุ่มนิรนามผิวซีดคนนั้นปล่าว เค้าเคยมาช่วยเจ้าจากพวกขุนนางชั่วที่รีดไถพวกเรา"พ่อค้าขายไวน์พูด
"ไม่รู้นะ เขามักสวมสร้อยคอไพลินมีผิวซีดและมีตาสีขาวขุ่น แต่งตัวเหมือนเป็นพวกอายุร้อยๆปีงั้นน่ะ"โสเภณีนางหนึ่งที่มาซื้อขนมปังก้อนพูดขึ้น"แต่เรื่องแวมไพร์น่ะ ข้าเชื่อร้อยเปอร์เซนต์"
"ยังไงเหรอ"แม่ค้าขายขนมปังพูดขึ้น
"มีเศรษฐีคนหนึ่งมาใช้บริการข้า บอกว่ามีนักปีนเข้าและนักเดินทางและพ่อค้าเห็นคนมีปีกค้างคาวสีดำขนาดด้านละ2เมตรกว่าบินอยู่บนฟ้า"โสเภณีพูด"ป้า ข้าขอซื้อ2ก้อน ส่วนนี่ 200 ลีฟ"
"ข้าก็เคยได้ยินนะ ขุนนางคนหนึ่งบอกว่ามีพ่อค้าจากอิตาลีพบค้างคาวยักษ์บินบนฟ้าก่อนจะหลบซ่อนเข้าไปในมหาวิหารร้าง"แม่ค้าขายปลาร่างใหญ่กล่าว
"จะเป็นแวมไพร์จริงหรือไม่ก็ช่างเหอะ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงปราสาทพวกลูแปงละก็ แวมไพร์นั่นมั่นได้ถูกจับเผาแน่"พ่อค้าขายปลา ผู้เป็นสามีของแม่ค้าขายปลาร่างใหญ่กล่าว
"ดูจากลักษณะแล้ว ไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"นักบวชที่คอยชันสูตรศพ"แต่น่าจะเป็น...................แวมไพร์"
คำพูดของนักบวชทำให้ทุกคนต่างหน้าซีด ขณะเดียวกัน ที่กลางตลาดในหมู่บ้านลูแปง
"เขาลือว่าเป็นฝีมือของแวมไพร์"พ่อค้าแก่ขายเนื้อคนหนึ่งพูด
"บ้าน่ะ ที่นี่อยู่ในการดูแลของตระกูลการ์กาซอนและลูแปง สวยตระกูลนั่นเป็นพวกมนุษย์หมาป่า มีเหรอจะให้แวมไพร์เข้ามาในอณาเขตนี้ได้"แม่ค้าขายชีสพูด
"แต่ขอบใจมันมากนะ พวกพระและขุนนางชั่วที่ชอบกดขี่พวกเราถูกมันฆ่าจนไม่มีใครมาทำร้ายเราอีก"แม่ค้าขายขนมปังพูดพลางนวดแป้งต่อ
"ว่าแต่เจ้ารู้จักหนุ่มนิรนามผิวซีดคนนั้นปล่าว เค้าเคยมาช่วยเจ้าจากพวกขุนนางชั่วที่รีดไถพวกเรา"พ่อค้าขายไวน์พูด
"ไม่รู้นะ เขามักสวมสร้อยคอไพลินมีผิวซีดและมีตาสีขาวขุ่น แต่งตัวเหมือนเป็นพวกอายุร้อยๆปีงั้นน่ะ"โสเภณีนางหนึ่งที่มาซื้อขนมปังก้อนพูดขึ้น"แต่เรื่องแวมไพร์น่ะ ข้าเชื่อร้อยเปอร์เซนต์"
"ยังไงเหรอ"แม่ค้าขายขนมปังพูดขึ้น
"มีเศรษฐีคนหนึ่งมาใช้บริการข้า บอกว่ามีนักปีนเข้าและนักเดินทางและพ่อค้าเห็นคนมีปีกค้างคาวสีดำขนาดด้านละ2เมตรกว่าบินอยู่บนฟ้า"โสเภณีพูด"ป้า ข้าขอซื้อ2ก้อน ส่วนนี่ 200 ลีฟ"
"ข้าก็เคยได้ยินนะ ขุนนางคนหนึ่งบอกว่ามีพ่อค้าจากอิตาลีพบค้างคาวยักษ์บินบนฟ้าก่อนจะหลบซ่อนเข้าไปในมหาวิหารร้าง"แม่ค้าขายปลาร่างใหญ่กล่าว
"จะเป็นแวมไพร์จริงหรือไม่ก็ช่างเหอะ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงปราสาทพวกลูแปงละก็ แวมไพร์นั่นมั่นได้ถูกจับเผาแน่"พ่อค้าขายปลา ผู้เป็นสามีของแม่ค้าขายปลาร่างใหญ่กล่าว
"ข้าว่าเป็นไปได้นะ เพราะมนุษย์หมาป่าไม่ยอมให้พวกแวมไพร์มาเพ่นพ่านแบบนี้"แม่ค้าขายขนมปังกล่าว
.......................................................
"อย่าบอกนะว่าเจ้าเป็น"ชายผู้นั้นเริ่มลนลาน เมื่อเห็นเขี้ยวที่คมและเป็นเงาราวกับนมออกมาจากปากของฟีเรนเซ
"ใช่ ข้าเป็นแวมไพร์"ชายหนุ่มพูดจบก็กระชากศรีษะชายผู้เคราะห์ร้ายนั้นทันที ศรีษะของเขาหลุดออกจากร่างอย่างง่ายดาย
.......................................................
ในมหาวิหารร้างบนเขาสูงซึ่งล้อมไปด้วยป่าสน ฝูงวิญญาณสีขาว รุมล้อมชายหนุ่มผู้มีผิวขาวราวกับแสงจันทร์ หากแต่ผิวกายของเขาเรืองแสง ดวงตาและนัยน์ตาสีขาวดุจแสงดวงจันทรา ปากซีด เขี้ยวยาวและคมดุจเขี้ยวงูและขาวสะอาดราวกับนม
"ฟีเรนเซ"ร่างสีขาวโปร่งของวิญญาณเด็กสาวผมทองคนหนึ่งเรียกชายผิวขาวซีด"ท่านควรจะหนีนะ เพราะตอนนี้หมาป่าตระกูลลูแปงและการ์กาซอนตามล่าท่านแล้ว"
"พวกเขาจะฆ่าข้าอย่างั้นหรอ"ฟีเรนเซกล่าว
"พวกเขาไม่ฆ่าท่าน แต่จะจับท่านขังไว้ในคุกใต้ดิน"วิญาณเด็กสาวคนนั้นกล่าว
"ขอบใจนะ แต่สำหรับข้า ข้าไม่กลัวหรอก หมาป่าน่ะ"แวมไพร์หนุ่มพูดกับวิญญาณของเด็กสาว
ตูม!!!!ทั้งวิญาณทุกดวงและฟีเรนเซหันไปมองก็พบรถม้าคันหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งตกลงไปในแม่น้ำหุบเหวลึก
"แย่ล่ะสิ รถม้าของพวกตระกูลลูแปง"วิญญาณของชายชราคนนึงพูด
"ท่านจะทำอะไร"วิญญาณเด็กสาวร้องเมื่อเห็นฟีเราเซกางปีก
"ช่วยคน"แวมไพร์หนุ่มพูดจบก็พุ่งลงสู่หุบเหวพลางโฉบเอาร่างสูงของเด็กหนุ่ม ผิวสีขาวดุจแสงจันทร์ ใบหน้าสันคม หากดูจากรูปร่างแล้ว เด็กหนุ่มดูสูงกว่าฟีเรนเซหนึ่งเซน-ขึ้นมาที่วิหารร้างก่อนทำการปฐมพยาบาล
"ข้าอยู่ที่ไหน"วูลแฟร์กล่าวนั้นพูด
"มหาวิหารร้าง"ฟีเรนเซพูดพลางก่อกองไฟ
"มหาวิหารร้าง ที่นี่ไม่มีคนกล้ามาเหยียบเป็นร้อยๆปีนี่หรือว่า"เด็กหนุ่มคนนั้นพูด ไม่นานเสียซวบซาบมาจากพุ่มไม้
"หวัดดีคุณชายลูแปง"ชายหนุ่มชุดดำพูดขึ้น"ถึงเวลาของท่านแล้ว"เมื่อพูดจบเขาก็ลั่นปืนมา
"ขอบใจนะ แต่สำหรับข้า ข้าไม่กลัวหรอก หมาป่าน่ะ"แวมไพร์หนุ่มพูดกับวิญญาณของเด็กสาว
ตูม!!!!ทั้งวิญาณทุกดวงและฟีเรนเซหันไปมองก็พบรถม้าคันหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งตกลงไปในแม่น้ำหุบเหวลึก
"แย่ล่ะสิ รถม้าของพวกตระกูลลูแปง"วิญญาณของชายชราคนนึงพูด
"ท่านจะทำอะไร"วิญญาณเด็กสาวร้องเมื่อเห็นฟีเราเซกางปีก
"ช่วยคน"แวมไพร์หนุ่มพูดจบก็พุ่งลงสู่หุบเหวพลางโฉบเอาร่างสูงของเด็กหนุ่ม ผิวสีขาวดุจแสงจันทร์ ใบหน้าสันคม หากดูจากรูปร่างแล้ว เด็กหนุ่มดูสูงกว่าฟีเรนเซหนึ่งเซน-ขึ้นมาที่วิหารร้างก่อนทำการปฐมพยาบาล
"ข้าอยู่ที่ไหน"วูลแฟร์กล่าวนั้นพูด
"มหาวิหารร้าง"ฟีเรนเซพูดพลางก่อกองไฟ
"มหาวิหารร้าง ที่นี่ไม่มีคนกล้ามาเหยียบเป็นร้อยๆปีนี่หรือว่า"เด็กหนุ่มคนนั้นพูด ไม่นานเสียซวบซาบมาจากพุ่มไม้
"หวัดดีคุณชายลูแปง"ชายหนุ่มชุดดำพูดขึ้น"ถึงเวลาของท่านแล้ว"เมื่อพูดจบเขาก็ลั่นปืนมา
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!กระสุนเงินถูกยิงออกมาจากปืนก่อนแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หมับ!!!!!!!แวมไพร์หนุ่มรับทันก่อนจะถึงตัววูลแฟร์
"หมาป่าไม่สามารถรับลูกปืนได้"ฟีเรนเซโยนลูกปืนทิ้งไปอย่างไม่ไยดีได้อย่างสบาย ก่อนขว้างกับไป"แต่โทษทีที่ข้าไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"
"หมาป่าไม่สามารถรับลูกปืนได้"ฟีเรนเซโยนลูกปืนทิ้งไปอย่างไม่ไยดีได้อย่างสบาย ก่อนขว้างกับไป"แต่โทษทีที่ข้าไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"
"อย่าบอกนะว่าเจ้าเป็น"ชายผู้นั้นเริ่มลนลาน เมื่อเห็นเขี้ยวที่คมและเป็นเงาราวกับนมออกมาจากปากของฟีเรนเซ
"ใช่ ข้าเป็นแวมไพร์"ชายหนุ่มพูดจบก็กระชากศรีษะชายผู้เคราะห์ร้ายนั้นทันที ศรีษะของเขาหลุดออกจากร่างอย่างง่ายดาย
"ให้ตายเหอะ ข้าโคตรเกลียดเลือดมนุษย์มากเลย"ฟีเรนเซบ่นพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก
เคร้ง!!!!!!!
ทว่า ฟีเรนเซก็ไม่รอด เขาถูกจับด้วยโซ่หนา
"จับข้าทำไม ข้าอุตส่าห์ช่วยเจ้า ไอ้หมาเนรคุณ"เขาเกรี้ยวกราด
"ขอโทษด้วย ข้าไม่อาจปล่อยท่านไปได้ถึงแม้ท่านจะทีพระทีพระคุณก็เถอะ แต่ท่านอยู่ในเขตของตระกูลเรา แวมไพร์เป็นตัวอันตรายสำหรับที่นี่"วูลแฟร์กล่าวเป็นภาษาอิตาลีและพยักหน้าให้บ่าวไพร่ของตนมัดฟีเรนเซให้แน่นด้วยโซ่เหล็ก
ทว่า ฟีเรนเซก็ไม่รอด เขาถูกจับด้วยโซ่หนา
"จับข้าทำไม ข้าอุตส่าห์ช่วยเจ้า ไอ้หมาเนรคุณ"เขาเกรี้ยวกราด
"ขอโทษด้วย ข้าไม่อาจปล่อยท่านไปได้ถึงแม้ท่านจะทีพระทีพระคุณก็เถอะ แต่ท่านอยู่ในเขตของตระกูลเรา แวมไพร์เป็นตัวอันตรายสำหรับที่นี่"วูลแฟร์กล่าวเป็นภาษาอิตาลีและพยักหน้าให้บ่าวไพร่ของตนมัดฟีเรนเซให้แน่นด้วยโซ่เหล็ก
"พามันไปที่ปราสาท หาอะไรคลุมตัวมันด้วย"วูลแฟร์กล่าว"อ้อ ที่สำคัญ มัดปากมันด้วยโซ่ด้วย"วูลแฟร์กล่าว
ที่ปราสาทของตระกูลวูลแฟร์
"ท่านอยู่ในห้องนี้อย่าไปไหนเด็จขาด"เด็กหนุ่มสั่งเสียงเข้ม"เพราะข้ายังไม่รู้ว่าถ้าใครมาพบท่าน ท่านอาจถูกฉีกเป็นชิ้นๆได้"เด็กหนุ่มพูดพลางเปิดประตู
"แล้วทำไมต้องล่ามข้าเหมือนหมาด้วย"ฟีเรนเซกล่าวอย่างไม่พอใจ เพราะข้อมือขวาถูกล่ามไว้กับหัวเตียงของวูลแฟร์
"เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านไปทำร้ายใครไง"วูลแฟร์กล่าวด้วยน้ำเสียงกวนๆ
"ขอโทษ ข้าไม่ชอบเลือดมนุษย์หมาป่า"ฟีเรนเซกล่าวตอบ
"ข้าเองก็ไม่ได้ชอบเลือดและเนื้อแวมไพร์เหมือนกัน"วูลแฟรกล่าวเสียงกวน
"ต่างกัน แค่มนุษย์หมาป่าได้กลิ่นข้า มันก็แห่กันมาแล้วนี่"ฟิเรนเซพูด"นี่มันปีเท่าไหร่"
"ปี ค.ศ 1722" เด็กหนุ่มร่างสูงตอบ"อยู่แต่ในห้องนี้แหละ ไม่ต้องไปไหน อ้อ!! ไอ้ชุดที่มีแผงขอยาวๆเป็นกิ้งก่านั่นเปลี่ยนซะ เชยมากถ้าแต่งตัวแบบนี้ออกนอกปราสาท"
"น้อยๆหน่อย ชุดนี้เป็นที่นิยมมากเลยนะในยุคของข้าน่ะ" แวมไพร์หนุ่มโวยวาย
"ต่างกัน แค่มนุษย์หมาป่าได้กลิ่นข้า มันก็แห่กันมาแล้วนี่"ฟิเรนเซพูด"นี่มันปีเท่าไหร่"
"ปี ค.ศ 1722" เด็กหนุ่มร่างสูงตอบ"อยู่แต่ในห้องนี้แหละ ไม่ต้องไปไหน อ้อ!! ไอ้ชุดที่มีแผงขอยาวๆเป็นกิ้งก่านั่นเปลี่ยนซะ เชยมากถ้าแต่งตัวแบบนี้ออกนอกปราสาท"
"น้อยๆหน่อย ชุดนี้เป็นที่นิยมมากเลยนะในยุคของข้าน่ะ" แวมไพร์หนุ่มโวยวาย
"ใช่ ยุคของท่านคือเรอเนสซองส์ แต่นี้คือยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางสติปัญญานะ"วูลแฟร์กล่าวและเดินออกไป
"มาดามเมนีก้า"วูลแฟร์สั่งกับแม่บ้าน
"เจ้าค่ะคุณชาย"เมนีก้ากล่าว
"อาบน้ำสัตว์เลี้ยงตัวดูดเลือดในห้องข้าด้วย และเอาเสื้อผ้าของมันไปซักด้วย"วูลแฟร์กล่าว"ข้าพึ่งได้มันมาจากดินแดนใต้เทือกเขาแอลป์"
"ได้เจ้าค่ะ คุณชาย"มาดามเมนีก้ากล่าวพลางเดินเข้าไปในห้องของวูลแฟร์
"เออ"มาดามคนใช้อ้ำอึ้งเพราะนางพูดภาษาอิตาลีไม่เป็น
"พูดภาษาฝรั่งเศสกับข้าก็ได้ มาดอนนา"ฟีเรนเซกล่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสเจือด้วยภาษาอิตาลีอย่างให้เกียรติ
"คุณชายวูลแฟร์ให้ข้ามาอาบน้ำให้ท่านเจ้าค่ะ"มาดามเมนีก้ากล่าว
"เริ่มได้เลยมาดอนนา"ฟีเรนเซกล่าว
มาดามเข้ามาพร้อมสาวใช้จำนวน 8 คน ที่ยกอ่างไม้เข้ามาด้วย
สาวใช้ต้มน้ำอุ่นและเทจนเต็ม มาดามเมนีก้าถอดเสื้อของฟีเรนเซ
"ผิวกายท่านงดงามมากเลยนะเจ้าคะ"มาดามเมนีก้ากล่าว"ถ้าท่านวูลแฟร์งดงามดุจรูปปั้นดาวิดที่ฟลอเรนซ์ละก็ ท่านก็คงงดงามดุจรูปปั้นของแอนติโนอุสนะเจ้าคะ"
"วูลแฟร์"ฟีเรนเซกล่าวขึ้นอย่างสงสัย"เด็กหนุ่มร่างยักษ์คนนั้นเหรอ"
"เจ้าคะ"มาดามเมนีก้ากล่าว
ฟีเรนเซใส่ชุดแบบเรอเนสซองส์ซึ่งเป็นชุดแบบอิตาลีในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งมีผ้าคลุมยาวสีกรมท่าซึ่งตัดจากกำมะหยี่และชุดด้านในซึ่งมีเชดตัดจากผ้าไหมสีแสงจันทร์ กางเกงรัดรูปขายาว ผมสีดำซึ่งยาวจนถึงเท้าถูกตัดให้เข้าทรงโดยยาวประบ่าและถูกหวี ให้มีระเบียบ และฟีเรนเซ ไม่ลืมรัฟหรือแผงคอจีบระบายสีขาว
ไม่นาน สมาชิกในตระกูลลูแปงและการ์กาซอนก็เข้ามาในห้องของวูลแฟร์ ทุกคนมองฟีเรนเซอย่างสนใจและอยากรู้อยากเห็น ซุบซิบกัน
"ทุกท่าน นี่คือ ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี เป็นแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ที่มหาวิหารร้างตรงชายแดน เขาเป็นสาเหตุในการพบศพของพวกขุนนางแวร์ซายน์ที่๔กฆาตกรรมที่ชายแดนอิตาลี"วูฟแฟร์แนะนำพลางพยัดเพยิดไปที่แวมไพร์หนุ่ม ฟีเรนเซก้มหัวให้เล็กน้อย
บรรดามนุษย์หมาป่าตระกูลการ์กาซอนและลูแปงต่างจ้องมาที่ฟีเรนเซเป็นสายตาเดียว พวกแวร์วูฟอาวุโสต่างมองเขาอย่างพิจารณา ขณะที่พวกแวร์วูฟหนุ่มต่างมองเขาเป็นของแปลก ขณะแวร์วูฟสาวมองเขาอย่างหลงไหลในความงาม
"ยินดีต้อนรับ มองซิเออร์เมดิชี "เสียงหลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปงพูดพลางจับมือของฟีเรนเซ และตามด้วยผู้นำตระกูลการ์กาซอนจับมือกับเขา
บรรดามนุษย์หมาป่าตระกูลการ์กาซอนและลูแปงต่างจ้องมาที่ฟีเรนเซเป็นสายตาเดียว พวกแวร์วูฟอาวุโสต่างมองเขาอย่างพิจารณา ขณะที่พวกแวร์วูฟหนุ่มต่างมองเขาเป็นของแปลก ขณะแวร์วูฟสาวมองเขาอย่างหลงไหลในความงาม
"ยินดีต้อนรับ มองซิเออร์เมดิชี "เสียงหลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปงพูดพลางจับมือของฟีเรนเซ และตามด้วยผู้นำตระกูลการ์กาซอนจับมือกับเขา
แวมร์วูฟบริวารจับเก้าอี้มาให้เหล่าแวร์วูฟ ฟีเรนเซมีความรู้สึกว่าตนเหมือนกำลังถูกไต่สวนศรัทธา
"ท่านกลายเป็นแวมไพร์ได้อย่างไรรึ มองซิเออร์เมดิชี"แวร์วูฟหญิงชราพูดกับเขา
"อ๋อ ผมโดนใช้เป็นหนูทดลองโดยพวกบอร์เจียครับ"แวมไพร์หนุ่มตอบ
"ต๊ายจริงหรือเนี่ย"แวร์วูฟหญิงกล่าวอย่าตื่นตระหนก
"ท่านกลายเป็นแวมไพร์ได้อย่างไรรึ มองซิเออร์เมดิชี"แวร์วูฟหญิงชราพูดกับเขา
"อ๋อ ผมโดนใช้เป็นหนูทดลองโดยพวกบอร์เจียครับ"แวมไพร์หนุ่มตอบ
"ต๊ายจริงหรือเนี่ย"แวร์วูฟหญิงกล่าวอย่าตื่นตระหนก
"ท่านเป็นชาวกรุงโรมเหรอ"แวร์วูฟหลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปง ผู้นำตระกูลกล่าวพลางรินไวน์และยื่นให้ฟีเรนเซ
"เปล่า ผมเป็นคนฟลอเรนซ์ครับ ชื่อของผม ฟีเรนเซ มาจากชื่อเมืองฟลอเรนซ์ในภาษาอิตาลี"ฟีเรนเซกล่าวและรับไวน์"ขอบคุณครับ ซินยอเรีย ลูแปง"
"ท่านพึ่งอยู่ในฝรั่งเศส คงยังไม่รู้ขนบธรรมเนียมราชสำนักแบบฝรั่งเศส"หลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปง กล่าวพลางดื่มไวน์
"ข้าจะเป็นผู้สอนเขาเอง ท่านพ่อ"ลูแปงกล่าว
หลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปงถอนหายใจและดื่มไวน์อย่างเบื่อหน่าย
"ข้าเกรงว่าเจ้าจะล่วงเกินมองซิเออร์เมดิชี่นะสิ"หลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปงกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย
"มันจะไม่เป็นเช่นนั้น"ลูแปงกล่าวและยิ้มกลุ่มกลิ่ม
"ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนี้ พ่อก็ไม่ขัดใจหรอก"ผู้นำตระกูลลูแปงกล่าว"หากวูลแฟร์ทำอะไรให้มองซิเออร์ลำบากใจละก็ ข้าขออภัยแทนท่านด้วย"หลุยส์กล่าวกับฟีเรนเซ
"ผมไม่ถือสาหรอกครับ"ฟีเรนเซกล่าว
"ข้าขอตัวนะมองซิเออร์"หลุยส์ เชอมอง เดอ ลูแปง กล่าวพลางค้อมศรีษะอย่างให้เกียรติ ทุกคนในตระกูลก้มหัวให้เล็กน้อย ฟีเรนเซก้มหัวแบบชาวอิตาลี ทุกคนเดินออกไปเหลือแต่วูลแฟร์และฟีเรนเซ
ฟูบ!!!!!!!
"ทำอะไรของเจ้า"ฟิเรนเซกล่าวเสียงเขียว เมื่อฟิเรนเซถูกวูลแฟร์ตรึงด้วยมือของวูลแฟร์
"ข้าขอเริ่มการสอนเลยละกัน"วูลแฟร์กล่าวและดึงทึ้งเสื้อของฟีเรนเซ
"ข้าถอดเองได้"ฟีเรนเซตวาดและถอดเสื้อท่อนบน เหลือไว้แต่กางเกงรัดรูปของเขา เช่นเดียวกับวูลแฟรืที่ถอดเสื้อผ้าท่อนบนของเขา
"หึๆ ร่างกายท่านนี่ขาวเรืองแสงราวกับดวงจันทร์เลยนะ"วูลแฟร์ยิ้มและดอมดมร่างกายของฟีเรนเซ"ข้าชอบกลิ่นท้องทุ่งและน้ำหอมแบบทัสกานีนะ"
วูลแฟร์ก้มมองใบหน้าฟีเรนเซและก้มมาใกล้อีก
"อุ๊บบบบ!!!!!!!!!!"ฟีเรนเซตกใจเมื่อวูลแฟร์จูบปากตนและนำลิ้นอันเร่าร้อนมาเล่นในปากของฟีเรนเซ
"หอม"วูลแฟร์หอบ"ข้าได้กลิ่นกุหลาบจากกายท่าน"
"..............."ฟีเรนเซฉงนใจ
"ท่านรู้มั๊ยว่า ถ้ามนุษย์หมาป่าตัวผู้ได้กลิ่นดอกไม้และขนมหวานจากแวมไพร์เพศผู้ รู้มั๊ย มันหมายความว่าไง"วูลแฟร์กล่าวและเอาใบหน้ากระซิบข้าหูฟีเรนเซ"แปลว่า มันเจอคู่ของมันไง"
"อย่า ได้โปรด"ฟีเรนเซขอร้องวูลแฟร์อย่างน่าสงสาร"ข้าพึ่งรู้จักท่าน ยังไม่รู้นิสัยของท่านเลย"
วูลแฟร์ได้สติทันที
"อภัยให้ข้าด้วย"วูลแฟร์กล่าว"มาดามเมนีก้า"
"เจ้าค่ะคุณชาย"เมนีก้าแอบอยู่หลังประตูกล่าวเสียงสั่น
"อาบน้ำให้ข้าและคุณชายเมดิชีด้วย"วูลแฟร์กล่าวและคว้าเชิ้ตของตน
ฟีเรนเซอาบน้ำเสร็จ กลิ่นกายหอมหวนราวกับดอกกุหลาบในแคว้นทัสกานีอันเป็นถิ่นกำเนิด วูลแฟร์เดินเข้ามาในเสื้อคลุมยาวแบบผ้าลินินขาว
"ท่านขึ้นมานอนบนเตียงข้าก็ได้"วูลแฟร์กล่าว ฟีเรนเซไม่ปฏิเสธ เขาก้าวขึ้นมานอนหันหลังให้ฟีเรนเซ
"ขอพระเจ้าคุ้มครองท่าน"ฟีเรนเซกล่าวและหลับตาลง
"เช่นกัน"วูลแฟร์กล่าว
เมื่อรู้ว่าฟีเรนเซหลับสนิท วูลแฟร์ก็เข้าจัดท่านอนให้ฟีเรนเซหันหน้ามาทางเขา
"ท่านนี่ทำให้ข้าหลงไหลนะ รู้มั๊ย"วูลแฟร์กล่าวและดับเทียน ดึงผ้าห่มขาวมาห่มและโอบกอดแวมไพร์หนุ่มชาวอิตาลี
"เนื้อของท่านอุ่นมากนะ ต่างกับแวมไพร์ทั่วไปที่ข้าเคยพบนะ"วูลแฟร์กล่าวและหลับตาสนิทเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น