ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    vampire renaissance (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : พบกับมนุษย์หมาป่า(เปลี่ยนชื่อตอน)

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 59


    ชายแดนอิตาลี-ฝรั่งเศส ค.ศ 1722

    "ท่านวูลแฟร์ ศพนี้ดูเหมือนไม่ใช่ฝีมือมนุษย์หมาป่านะครับ"ชายหนุ่มผมสีทองพูดพลางชายตาดูศพขุนนางคนหนึ่งที่นอนคอขาดอย่างน่าสังเวช

    "มันไม่ใช่มนุษย์หมาป่าแน่"เด็กหนุ่มผมดำสวมวิกสีขาวในชุดแต่งกายสตรีแบบราชสำนักแวร์ซายน์บอก    เด็กหนุ่มหนุ่มคนนี้ร่างสูงใหญ่เกินเด็กวัยเดียวกัน  ผิวสีขาวดุจแสงจันทร์ ดวงตาสีแสงจันทร์ ร่างกายกำยำ ผมยาวถึงสะโพก ตามแบบมนุษย์หมาป่าฝรั่งเศส"คนในตระกูลเราไม่สามารถหักคอใครได้ขนาดนี้"

    "ดูเหมือนจะมีแวมไพร์เข้ามาในเขตของเรานะครับ คุณชาย"ชายวัยกลางคนกล่าวกับวูลแฟร์

    "เหลวไหล"วูลแฟร์กล่าว"แวมไพร์ที่ทำแบบนี้ได้จะมีพวกแวมไพร์ชั้นสูงในอิตาลีเท่านั้น  อีกอย่าง ฝรั่งเศสขึ้นชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่ามาก  หลายตระกูลใหญ่ก็ล้วนเป็นมนุษย์หมาป่ามาหลายร่น  บางตระกูลมีสมาชิกจะผูกพันธะชีวิตกับแวมไพร์เพื่อร่วมกันใช้ชีวิตอันเป็นนิรันด์ก็เถอะ"วูลแฟร์กล่าว

    ชายหนุ่มผมทองเปิดประตูรถม้าให้วูลแฟร์

    "ถ้าท่านเจอแวมไพร์ตัวเป็นๆละครับ"ชายหนุ่มผมทองกล่าวกับวูลแฟร์

    "ถ้าเป็นหนุ่ม ข้าจะจับทำเมีย  ถ้าแก่แล้ว  ฆ่าเสีย"วูลแฟร์กลาวแล้วหัวเราะ




    ขณะเดียวกัน ที่โบสถ์ของหมู่บ้าน

    "ดูจากลักษณะแล้ว ไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"นักบวชที่คอยชันสูตรศพ"แต่น่าจะเป็น...................แวมไพร์"

    คำพูดของนักบวชทำให้ทุกคนต่างหน้าซีด ขณะเดียวกัน ที่กลางตลาดในหมู่บ้านลูแปง

    "เขาลือว่าเป็นฝีมือของแวมไพร์"พ่อค้าแก่ขายเนื้อคนหนึ่งพูด

    "บ้าน่ะ ที่นี่อยู่ในการดูแลของตระกูลการ์กาซอนและลูแปง สวยตระกูลนั่นเป็นพวกมนุษย์หมาป่า มีเหรอจะให้แวมไพร์เข้ามาในอณาเขตนี้ได้"แม่ค้าขายชีสพูด

    "แต่ขอบใจมันมากนะ  พวกพระและขุนนางชั่วที่ชอบกดขี่พวกเราถูกมันฆ่าจนไม่มีใครมาทำร้ายเราอีก"แม่ค้าขายขนมปังพูดพลางนวดแป้งต่อ 

    "ว่าแต่เจ้ารู้จักหนุ่มนิรนามผิวซีดคนนั้นปล่าว เค้าเคยมาช่วยเจ้าจากพวกขุนนางชั่วที่รีดไถพวกเรา"พ่อค้าขายไวน์พูด

    "ไม่รู้นะ เขามักสวมสร้อยคอไพลินมีผิวซีดและมีตาสีขาวขุ่น แต่งตัวเหมือนเป็นพวกอายุร้อยๆปีงั้นน่ะ"โสเภณีนางหนึ่งที่มาซื้อขนมปังก้อนพูดขึ้น"แต่เรื่องแวมไพร์น่ะ ข้าเชื่อร้อยเปอร์เซนต์"

    "ยังไงเหรอ"แม่ค้าขายขนมปังพูดขึ้น

    "มีเศรษฐีคนหนึ่งมาใช้บริการข้า บอกว่ามีนักปีนเข้าและนักเดินทางและพ่อค้าเห็นคนมีปีกค้างคาวสีดำขนาดด้านละ2เมตรกว่าบินอยู่บนฟ้า"โสเภณีพูด"ป้า ข้าขอซื้อ2ก้อน ส่วนนี่ 200 ลีฟ"

    "ข้าก็เคยได้ยินนะ  ขุนนางคนหนึ่งบอกว่ามีพ่อค้าจากอิตาลีพบค้างคาวยักษ์บินบนฟ้าก่อนจะหลบซ่อนเข้าไปในมหาวิหารร้าง"แม่ค้าขายปลาร่างใหญ่กล่าว

    "จะเป็นแวมไพร์จริงหรือไม่ก็ช่างเหอะ  ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงปราสาทพวกลูแปงละก็ แวมไพร์นั่นมั่นได้ถูกจับเผาแน่"พ่อค้าขายปลา ผู้เป็นสามีของแม่ค้าขายปลาร่างใหญ่กล่าว

    "ข้าว่าเป็นไปได้นะ เพราะมนุษย์หมาป่าไม่ยอมให้พวกแวมไพร์มาเพ่นพ่านแบบนี้"แม่ค้าขายขนมปังกล่าว


    .......................................................
       
    ในมหาวิหารร้างบนเขาสูงซึ่งล้อมไปด้วยป่าสน   ฝูงวิญญาณสีขาว รุมล้อมชายหนุ่มผู้มีผิวขาวราวกับแสงจันทร์  หากแต่ผิวกายของเขาเรืองแสง ดวงตาและนัยน์ตาสีขาวดุจแสงดวงจันทรา  ปากซีด เขี้ยวยาวและคมดุจเขี้ยวงูและขาวสะอาดราวกับนม

    "ฟีเรนเซ"ร่างสีขาวโปร่งของวิญญาณเด็กสาวผมทองคนหนึ่งเรียกชายผิวขาวซีด"ท่านควรจะหนีนะ เพราะตอนนี้หมาป่าตระกูลลูแปงและการ์กาซอนตามล่าท่านแล้ว"

    "พวกเขาจะฆ่าข้าอย่างั้นหรอ"ฟีเรนเซกล่าว

    "พวกเขาไม่ฆ่าท่าน  แต่จะจับท่านขังไว้ในคุกใต้ดิน"วิญาณเด็กสาวคนนั้นกล่าว

    "ขอบใจนะ แต่สำหรับข้า ข้าไม่กลัวหรอก หมาป่าน่ะ"แวมไพร์หนุ่มพูดกับวิญญาณของเด็กสาว  

    ตูม!!!!ทั้งวิญาณทุกดวงและฟีเรนเซหันไปมองก็พบรถม้าคันหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งตกลงไปในแม่น้ำหุบเหวลึก

    "แย่ล่ะสิ รถม้าของพวกตระกูลลูแปง"วิญญาณของชายชราคนนึงพูด

    "ท่านจะทำอะไร"วิญญาณเด็กสาวร้องเมื่อเห็นฟีเราเซกางปีก

    "ช่วยคน"แวมไพร์หนุ่มพูดจบก็พุ่งลงสู่หุบเหวพลางโฉบเอาร่างสูงของเด็กหนุ่ม
     ผิวสีขาวดุจแสงจันทร์ ใบหน้าสันคม หากดูจากรูปร่างแล้ว เด็กหนุ่มดูสูงกว่าฟีเรนเซหนึ่งเซน-ขึ้นมาที่วิหารร้างก่อนทำการปฐมพยาบาล

    "ข้าอยู่ที่ไหน"วูลแฟร์กล่าวนั้นพูด

    "มหาวิหารร้าง"ฟีเรนเซพูดพลางก่อกองไฟ

    "มหาวิหารร้าง ที่นี่ไม่มีคนกล้ามาเหยียบเป็นร้อยๆปีนี่หรือว่า"เด็กหนุ่มคนนั้นพูด ไม่นานเสียซวบซาบมาจากพุ่มไม้

    "หวัดดีคุณชายลูแปง"ชายหนุ่มชุดดำพูดขึ้น"ถึงเวลาของท่านแล้ว"เมื่อพูดจบเขาก็ลั่นปืนมา

    ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!กระสุนเงินถูกยิงออกมาจากปืนก่อนแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว

    หมับ!!!!!!!แวมไพร์หนุ่มรับทันก่อนจะถึงตัววูลแฟร์

    "หมาป่าไม่สามารถรับลูกปืนได้"ฟีเรนเซ
    โยนลูกปืนทิ้งไปอย่างไม่ไยดีได้อย่างสบาย ก่อนขว้างกับไป"แต่โทษทีที่ข้าไม่ใช่มนุษย์หมาป่า"

    "อย่าบอกนะว่าเจ้าเป็น"ชายผู้นั้นเริ่มลนลาน เมื่อเห็นเขี้ยวที่คมและเป็นเงาราวกับนมออกมาจากปากของฟีเรนเซ

    "ใช่ ข้าเป็นแวมไพร์"ชายหนุ่มพูดจบก็กระชากศรีษะชายผู้เคราะห์ร้ายนั้นทันที  ศรีษะของเขาหลุดออกจากร่างอย่างง่ายดาย

    "ให้ตายเหอะ  ข้าโคตรเกลียดเลือดมนุษย์มากเลย"ฟีเรนเซบ่นพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก

    เคร้ง!!!!!!!

    ทว่า ฟีเรนเซก็ไม่รอด เขาถูกจับด้วยโซ่หนา

    "จับข้าทำไม ข้าอุตส่าห์ช่วยเจ้า ไอ้หมาเนรคุณ"เขาเกรี้ยวกราด

    "ขอโทษด้วย ข้าไม่อาจปล่อยท่านไปได้ถึงแม้ท่านจะทีพระทีพระคุณก็เถอะ แต่ท่านอยู่ในเขตของตระกูลเรา แวมไพร์เป็นตัวอันตรายสำหรับที่นี่"วูลแฟร์กล่าวเป็นภาษาอิตาลีและพยักหน้าให้บ่าวไพร่ของตนมัดฟีเรนเซให้แน่นด้วยโซ่เหล็ก

    "พามันไปที่ปราสาท   หาอะไรคลุมตัวมันด้วย"วูลแฟร์กล่าว"อ้อ  ที่สำคัญ   มัดปากมันด้วยโซ่ด้วย"วูลแฟร์กล่าว




    ที่ปราสาทของตระกูลวูลแฟร์

    "ท่านอยู่ในห้องนี้อย่าไปไหนเด็จขาด"เด็กหนุ่มสั่งเสียงเข้ม"เพราะข้ายังไม่รู้ว่าถ้าใครมาพบท่าน  ท่านอาจถูกฉีกเป็นชิ้นๆได้"เด็กหนุ่มพูดพลางเปิดประตู

    "แล้วทำไมต้องล่ามข้าเหมือนหมาด้วย"ฟีเรนเซกล่าวอย่างไม่พอใจ  เพราะข้อมือขวาถูกล่ามไว้กับหัวเตียงของวูลแฟร์

    "เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านไปทำร้ายใครไง"วูลแฟร์กล่าวด้วยน้ำเสียงกวนๆ

    "ขอโทษ  ข้าไม่ชอบเลือดมนุษย์หมาป่า"ฟีเรนเซกล่าวตอบ

    "ข้าเองก็ไม่ได้ชอบเลือดและเนื้อแวมไพร์เหมือนกัน"วูลแฟรกล่าวเสียงกวน

    "ต่างกัน แค่มนุษย์หมาป่าได้กลิ่นข้า มันก็แห่กันมาแล้วนี่"ฟิเรนเซพูด"นี่มันปีเท่าไหร่"

    "ปี ค.ศ 1722" เด็กหนุ่มร่างสูงตอบ"อยู่แต่ในห้องนี้แหละ ไม่ต้องไปไหน อ้อ!! ไอ้ชุดที่มีแผงขอยาวๆเป็นกิ้งก่านั่นเปลี่ยนซะ เชยมากถ้าแต่งตัวแบบนี้ออกนอกปราสาท"

    "น้อยๆหน่อย ชุดนี้เป็นที่นิยมมากเลยนะในยุคของข้าน่ะ" แวมไพร์หนุ่มโวยวาย

    "ใช่  ยุคของท่านคือเรอเนสซองส์  แต่นี้คือยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางสติปัญญานะ"วูลแฟร์กล่าวและเดินออกไป

    "มาดามเมนีก้า"วูลแฟร์สั่งกับแม่บ้าน

    "เจ้าค่ะคุณชาย"เมนีก้ากล่าว

    "อาบน้ำสัตว์เลี้ยงตัวดูดเลือดในห้องข้าด้วย  และเอาเสื้อผ้าของมันไปซักด้วย"วูลแฟร์กล่าว"ข้าพึ่งได้มันมาจากดินแดนใต้เทือกเขาแอลป์"

    "ได้เจ้าค่ะ  คุณชาย"มาดามเมนีก้ากล่าวพลางเดินเข้าไปในห้องของวูลแฟร์

    "เออ"มาดามคนใช้อ้ำอึ้งเพราะนางพูดภาษาอิตาลีไม่เป็น

    "พูดภาษาฝรั่งเศสกับข้าก็ได้  มาดอนนา"ฟีเรนเซกล่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสเจือด้วยภาษาอิตาลีอย่างให้เกียรติ

    "คุณชายวูลแฟร์ให้ข้ามาอาบน้ำให้ท่านเจ้าค่ะ"มาดามเมนีก้ากล่าว

    "เริ่มได้เลยมาดอนนา"ฟีเรนเซกล่าว

    มาดามเข้ามาพร้อมสาวใช้จำนวน 8 คน ที่ยกอ่างไม้เข้ามาด้วย

    สาวใช้ต้มน้ำอุ่นและเทจนเต็ม   มาดามเมนีก้าถอดเสื้อของฟีเรนเซ 

    "ผิวกายท่านงดงามมากเลยนะเจ้าคะ"มาดามเมนีก้ากล่าว"ถ้าท่านวูลแฟร์งดงามดุจรูปปั้นดาวิดที่ฟลอเรนซ์ละก็   ท่านก็คงงดงามดุจรูปปั้นของแอนติโนอุสนะเจ้าคะ"

    "วูลแฟร์"ฟีเรนเซกล่าวขึ้นอย่างสงสัย"เด็กหนุ่มร่างยักษ์คนนั้นเหรอ"

    "เจ้าคะ"มาดามเมนีก้ากล่าว

    ฟีเรนเซใส่ชุดแบบเรอเนสซองส์ซึ่งเป็นชุดแบบอิตาลีในยุคเรอเนสซองส์   ซึ่งมีผ้าคลุมยาวสีกรมท่าซึ่งตัดจากกำมะหยี่และชุดด้านในซึ่งมีเชดตัดจากผ้าไหมสีแสงจันทร์   กางเกงรัดรูปขายาว  ผมสีดำซึ่งยาวจนถึงเท้าถูกตัดให้เข้าทรงโดยยาวประบ่าและถูกหวี  ให้มีระเบียบ  และฟีเรนเซ  ไม่ลืมรัฟหรือแผงคอจีบระบายสีขาว




    ไม่นาน   สมาชิกในตระกูลลูแปงและการ์กาซอนก็เข้ามาในห้องของวูลแฟร์   ทุกคนมองฟีเรนเซอย่างสนใจและอยากรู้อยากเห็น ซุบซิบกัน

    "ทุกท่าน นี่คือ ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี  เป็นแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ที่มหาวิหารร้างตรงชายแดน    เขาเป็นสาเหตุในการพบศพของพวกขุนนางแวร์ซายน์ที่๔กฆาตกรรมที่ชายแดนอิตาลี"วูฟแฟร์แนะนำพลางพยัดเพยิดไปที่แวมไพร์หนุ่ม ฟีเรนเซก้มหัวให้เล็กน้อย

    บรรดามนุษย์หมาป่าตระกูลการ์กาซอนและลูแปงต่างจ้องมาที่ฟีเรนเซเป็นสายตาเดียว  พวกแวร์วูฟอาวุโสต่างมองเขาอย่างพิจารณา ขณะที่พวกแวร์วูฟหนุ่มต่างมองเขาเป็นของแปลก ขณะแวร์วูฟสาวมองเขาอย่างหลงไหลในความงาม

    "ยินดีต้อนรับ มองซิเออร์เมดิชี  "เสียงหลุยส์  เชอมอง เดอ ลูแปงพูดพลางจับมือของฟีเรนเซ  และตามด้วยผู้นำตระกูลการ์กาซอนจับมือกับเขา

    แวมร์วูฟบริวารจับเก้าอี้มาให้เหล่าแวร์วูฟ   ฟีเรนเซมีความรู้สึกว่าตนเหมือนกำลังถูกไต่สวนศรัทธา

    "ท่านกลายเป็นแวมไพร์ได้อย่างไรรึ  มองซิเออร์เมดิชี"แวร์วูฟหญิงชราพูดกับเขา

    "อ๋อ ผมโดนใช้เป็นหนูทดลองโดยพวกบอร์เจียครับ"แวมไพร์หนุ่มตอบ

    "ต๊ายจริงหรือเนี่ย"แวร์วูฟหญิงกล่าวอย่าตื่นตระหนก

    "ท่านเป็นชาวกรุงโรมเหรอ"แวร์วูฟหลุยส์  เชอมอง เดอ ลูแปง  ผู้นำตระกูลกล่าวพลางรินไวน์และยื่นให้ฟีเรนเซ

    "เปล่า ผมเป็นคนฟลอเรนซ์ครับ  ชื่อของผม ฟีเรนเซ มาจากชื่อเมืองฟลอเรนซ์ในภาษาอิตาลี"ฟีเรนเซกล่าวและรับไวน์"ขอบคุณครับ ซินยอเรีย ลูแปง"

    "ท่านพึ่งอยู่ในฝรั่งเศส  คงยังไม่รู้ขนบธรรมเนียมราชสำนักแบบฝรั่งเศส"หลุยส์  เชอมอง เดอ ลูแปง กล่าวพลางดื่มไวน์

    "ข้าจะเป็นผู้สอนเขาเอง ท่านพ่อ"ลูแปงกล่าว

    หลุยส์  เชอมอง เดอ ลูแปงถอนหายใจและดื่มไวน์อย่างเบื่อหน่าย

    "ข้าเกรงว่าเจ้าจะล่วงเกินมองซิเออร์เมดิชี่นะสิ"หลุยส์  เชอมอง เดอ ลูแปงกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย 

    "มันจะไม่เป็นเช่นนั้น"ลูแปงกล่าวและยิ้มกลุ่มกลิ่ม

    "ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนี้  พ่อก็ไม่ขัดใจหรอก"ผู้นำตระกูลลูแปงกล่าว"หากวูลแฟร์ทำอะไรให้มองซิเออร์ลำบากใจละก็ ข้าขออภัยแทนท่านด้วย"หลุยส์กล่าวกับฟีเรนเซ

    "ผมไม่ถือสาหรอกครับ"ฟีเรนเซกล่าว

    "ข้าขอตัวนะมองซิเออร์"หลุยส์  เชอมอง เดอ ลูแปง กล่าวพลางค้อมศรีษะอย่างให้เกียรติ  ทุกคนในตระกูลก้มหัวให้เล็กน้อย ฟีเรนเซก้มหัวแบบชาวอิตาลี  ทุกคนเดินออกไปเหลือแต่วูลแฟร์และฟีเรนเซ

    ฟูบ!!!!!!!

    "ทำอะไรของเจ้า"ฟิเรนเซกล่าวเสียงเขียว   เมื่อฟิเรนเซถูกวูลแฟร์ตรึงด้วยมือของวูลแฟร์

    "ข้าขอเริ่มการสอนเลยละกัน"วูลแฟร์กล่าวและดึงทึ้งเสื้อของฟีเรนเซ

    "ข้าถอดเองได้"ฟีเรนเซตวาดและถอดเสื้อท่อนบน   เหลือไว้แต่กางเกงรัดรูปของเขา   เช่นเดียวกับวูลแฟรืที่ถอดเสื้อผ้าท่อนบนของเขา

     "หึๆ   ร่างกายท่านนี่ขาวเรืองแสงราวกับดวงจันทร์เลยนะ"วูลแฟร์ยิ้มและดอมดมร่างกายของฟีเรนเซ"ข้าชอบกลิ่นท้องทุ่งและน้ำหอมแบบทัสกานีนะ"

    วูลแฟร์ก้มมองใบหน้าฟีเรนเซและก้มมาใกล้อีก

    "อุ๊บบบบ!!!!!!!!!!"ฟีเรนเซตกใจเมื่อวูลแฟร์จูบปากตนและนำลิ้นอันเร่าร้อนมาเล่นในปากของฟีเรนเซ

    "หอม"วูลแฟร์หอบ"ข้าได้กลิ่นกุหลาบจากกายท่าน"

    "..............."ฟีเรนเซฉงนใจ

    "ท่านรู้มั๊ยว่า ถ้ามนุษย์หมาป่าตัวผู้ได้กลิ่นดอกไม้และขนมหวานจากแวมไพร์เพศผู้ รู้มั๊ย มันหมายความว่าไง"วูลแฟร์กล่าวและเอาใบหน้ากระซิบข้าหูฟีเรนเซ"แปลว่า มันเจอคู่ของมันไง"

    "อย่า    ได้โปรด"ฟีเรนเซขอร้องวูลแฟร์อย่างน่าสงสาร"ข้าพึ่งรู้จักท่าน  ยังไม่รู้นิสัยของท่านเลย"

    วูลแฟร์ได้สติทันที

    "อภัยให้ข้าด้วย"วูลแฟร์กล่าว"มาดามเมนีก้า"

    "เจ้าค่ะคุณชาย"เมนีก้าแอบอยู่หลังประตูกล่าวเสียงสั่น

    "อาบน้ำให้ข้าและคุณชายเมดิชีด้วย"วูลแฟร์กล่าวและคว้าเชิ้ตของตน


    ฟีเรนเซอาบน้ำเสร็จ   กลิ่นกายหอมหวนราวกับดอกกุหลาบในแคว้นทัสกานีอันเป็นถิ่นกำเนิด   วูลแฟร์เดินเข้ามาในเสื้อคลุมยาวแบบผ้าลินินขาว

    "ท่านขึ้นมานอนบนเตียงข้าก็ได้"วูลแฟร์กล่าว    ฟีเรนเซไม่ปฏิเสธ  เขาก้าวขึ้นมานอนหันหลังให้ฟีเรนเซ

    "ขอพระเจ้าคุ้มครองท่าน"ฟีเรนเซกล่าวและหลับตาลง

    "เช่นกัน"วูลแฟร์กล่าว

    เมื่อรู้ว่าฟีเรนเซหลับสนิท  วูลแฟร์ก็เข้าจัดท่านอนให้ฟีเรนเซหันหน้ามาทางเขา

    "ท่านนี่ทำให้ข้าหลงไหลนะ  รู้มั๊ย"วูลแฟร์กล่าวและดับเทียน ดึงผ้าห่มขาวมาห่มและโอบกอดแวมไพร์หนุ่มชาวอิตาลี

    "เนื้อของท่านอุ่นมากนะ  ต่างกับแวมไพร์ทั่วไปที่ข้าเคยพบนะ"วูลแฟร์กล่าวและหลับตาสนิทเพื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×