ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    vampire renaissance (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : แวมไพร์

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 59



    2 วันถัดมา

    เป็นจริงดังที่คำของทหารสอดแนม   ทหารของดยุควาเลนตินัวเดินทางมาถึงฟลอรเรนซ์ทันทีและเริ่มการโจมตีทันที

    และที่ร้ายไปกว่านั้น  ฟลอเรนซ์  จวนเจียนจะแตกแล้ว

    "นายท่าน    พวกเชซารีบุกเข้ามาในเมืองแล้วขอรับ"เด็กหนุ่มกล่าวกับบรรดาผู้คนในตระกูลเดอ เมดิชี    ผู้คนในตระกูลเมดิชีทั้งผู้ชายอยู่ในอาภรณอย่างหรูหรา   ผู้หญิงสวมหมวกผ้าคลุมผมทั้งในแบบพระจันทร์เสียง เปิดหน้าผากแบบฝรั่งเศส  บางคนสวมหมวกทรงหน้าจั่วแบบอังกฤษ หรือไม่คลุมผมแต่ไว้ผม สวมเสื้อและกระโปรงบานในชุดกำมะหยี่ ขนสัตว์และผ้าไหมสีโทนเย็น โดยเสื้อตัวยาวของพวกเธอจะยาวถึงพื้น แขนยาว พองรัดเป็นปล้อง ๆ  บางคนใส่ในแบบฝรั่งเศส ซึ่งลักษณะเหมือนกัน แต่แขนกว้างพับตลบเป็นขอบใหญ่ ผู้ชายไว้ผมยาวประบ่า มีผมปกหน้าผาก สวมหมวกใบเล็ก ๆ คล้ายมงกุฎตกแต่งด้วย ขนนกและเพชรพลอยโดยหมวกส่วนใหญ่ทำจากผ้ากำมะหยี่ตัดเป็นรูปวงกลม ร้อยเชือกโดยรอบผูกพอดีศีรษะ เหลือไว้เป็นโบว์เล็กๆบนหมวกจะประดับเพชร นิลจินดาพลอยมีการตกแต่งด้วยลูกไม้บริเวณริมขอบหมวก   สวมเสื้อคลุมยาว แขนพองกลาง และสวมรัฟฟ์(Ruff)หรือแผงคอสีขาวจีบระบายอยู่

    ทุกคนต่างอยู่ในอารมณ์ที่โกรธแค้นและตื่นตระหนก

    ชายวัยกลางคน  ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลกำหมัดแน่น

    "ตระกูลเมดิชี ไม่เคยก้มหัวให้ใครในแผ่นดินอิตาลี"เขากล่าว"พวกเจ้าทุกคนหนีไปซะ"

    "ท่านลุง   ท่านไปกับพวกเราเถิด"ฟีเรนเซกล่าวอย่างหนักแน่น

    "อย่าเอาชีวิตของเจ้ามาเสี่ยง  ฟีเรนเซ"ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลกล่าวพลางวางมือบนบ่าของฟีเรนเซ

    "ข้าไม่กลัว   ขอแห่ชีวิตของข้าได้ปกป้องฟลอเรนซ์ก็พอ"ฟีเรนเซกล่าวต่อ

    โครม!!!!!!!!!!!!!!!

    "พวกมันบุกเข้ามาแล้ว"เสียงทหารยามตะโกนเมื่อประตูของปาลาซโซ  เวคิโอ หรือวังที่ทำการของรัฐบาลผู้ปกครองแห่งฟลอเรนซ์ พังทลาย

    "พวกเจ้าหนีไปซะ!!!!!!!"เสียงผู้นำตระกูลตะโกน

    "ฟีเรนเซ  ไปกับเราเถิด"เบนกล่าว

    "ไม่  ข้าจะอยู่ที่นี่  พวกเจ้ารีบไปเถิด"ฟีเรนเซกล่าว   พวกลูกพี่ลูกน้องทั้งสี่คนเข้ามาโอบกอดเขา

    "ระวังตัวเจ้าให้ดีด้วย"ลูคากระซิบ

    "พวกเจ้าก็ด้วย"ฟีเรนเซกระซิบ

    เคร้ง!!! ดาบของผู้นำตระกูลกระทบกับทหารของพวกบอร์เจียอย่าดุเดือน

    เพียงไม่นานพวกที่เหลืออยู่ รวมทั้งฟีเรนเซ ถูกกุมตัวทั้งหมด

    ฉัวะ!!!!!!!!ฉับพลัน ชายหนุ่มในชุดเกราะแบบแม่ทัพโรมันของจูเลียซ ซีซาร์ก้าวเดินเข้ามาและฆ่าผู้นำตระกูลเมดิชีอย่างเลือดเย็น

    "ท่านลุง"ฟีเรนเซตะโกนก้องด้วยความตกใจ

    ชายหนุ่มผิวสีแบบหนุ่มสเปน ซึ่งมีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่หน้าตาชั่วร้ายราวกับรูปสลักของจักรพรรดิ์เนโรเดินเข้ามาใกล้และดอมดมใบหน้าของฟีเรนเซ

    จุ๊บบบ!!!!!!!เชซาเรจุมพิตลงที่ปากของฟีเรนเซและถอนออกไม่นาน

    "งดงาม"เชซาเรชม"ข้าไม่เคยเห็นชายใครในอิตาลีจะงดงามดุจรูปสลักอันติโนอุสเช่นเจ้า"

    "หึๆ  ข้ายอมถูกเผาบนกองฟอนดีกว่าต้องถูกปีศาจโสมมอย่างเจ้าย่ำยี"ฟีเรนเซกล่าวเย้ยหยัน"ทุด!!!! ไอ้พวกสเปนเดนตาย ไอ้สัตว์นรกหน้าขนวาลนเซีย" 

    เชซาเรมองฟีเรนเซอย่าชั่วร้าย

    ผัวะ!!!!!!!เขาตบหน้าหนุ่มน้อยแห่งตระกูลเมดิชี่จนหน้าเขาสะบัดไปตามแรงตบ

    "ถึงแม้ข้าจะเป็นสัตว์นรก    แต่เจ้า"เชซาเรกล่าวพลางเลียริมฝีปาก"ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี   เจ้าจะไม่ต่างอะไรจากหมูที่ถูกเชือด"

    "เอามันไปโรม  ในสภาพเป็นๆ ห้ามมีรอยขีดข่วนบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น"เชซาเรตะคอกนายทหาร"หาไม่  พวกเจ้าจะถูกเชือดคอทีหลัง"


    กรุงโรม  ในห้องใต้ปราสาทซานแองเจอโล

    "ปล่อยข้าๆ"เสียงของฟิเรนเซตะโกนก้อง  ร่างสูงดิ้นพล่านบนเตียงไม้ที่มีโซ่ล่ามอยากแน่นหนา

    "โชคร้ายนะฟีเรนเซ  ที่เจ้าดันรอดชีวิตในสงคราม ข้ากำลังหาหนูทดลองยาของท่านดยุคแห่งมินชินพอดี"เชซาเรพูดพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย

    "เชซาเร บอร์เจีย ข้าขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า ต่อให้ข้าเป็นหนูทดลองยาปีศาจของตระกูลเจ้าจนหมดลมหายใจ ข้าขอสาปแช่งเจ้า ตระกูลเจ้าด้วย เมื่อใดก็ตามที่โรดิโก บอร์เจียลาโลกนี้ไป ขอให้เจ้าต้องเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนไม่มีที่สิงสถิต และถูกฆ่าตายอย่างหน้าสมเพชและขอให้ศพของเจ้าถูกเหยียบย่ำจากคนทุกชนชั้นวรรณะ"ฟีเรนเซคำรามอย่างเคียดแค้น

    "ปากดีอย่างเจ้า จะมีชีวิตถึงวันพรุ่งนี้รึปล่าวยังไม่รู้  กรอกยามันได้"เชซาเรสั่ง

    ชายฉกรรจ์หกคนจับแขนและขาของฟีเรนเซไว้จนเขาขยับตัวไม่ได้ก่อนจะกรอกยาสีม่วงเข้าไปในปากจนหมดถ้วยทดลอง

    "อ๊าก!!!!!"ชายหนุ่มชาวฟลอเรนซ์คำรามลั่นก็จากสลบเพราะยาเริ่มออกฤทธิ์ เขาสลบลงไป

    "เริ่มการทดลองได้"เชซาเรสั่ง  พวกนักเล่นแปรธาตุเริ่มทดลองด้วยการกรอกยาสีแดงก่ำเข้าปาก   

    "ผลการทดลองล้มเหลวขอรับ ท่านเชซาเร"นักแปรธาตุคนหนึ่งพูด

    "มันตายยัง"เชซาเรพูดขึ้น

    "ท่านฟีเรนเซไม่ตาย     แต่"นักแปรธาตุคนนั้นพูด"เขากลายเป็นแวมไพร์"

    "ฆ่ามันซะ"ดยุคแห่งวาเลนตินัวร์สั่งพลางเดินออกจากห้องพร้อมทหารองครักษ์

    "เอายังไงดีครับ"นักเล่นแปรธาตุลูกมือกล่าวกับหัวหน้า

    "เราต้องไปจากโรม"หัวหน้านักเล่นแปรธาตุกล่าวพลางเดินออกจากห้องทดลอง

    ...................................................................................................................................................................................................................

    วันรุ่งขึ้นในวันถัดมา

    ชายหนุ่มผิวขาวซีดถูกล่ามบนเตียงค่อยๆลืมตาขึ้นมา นัยน์ตาเขาสีขาวซีด เขาอ้าปากหายใจ พลางขยับโซ่ออก ปรากฏว่าเขากระชากมันออกอย่างง่ายดาย เขามองตนเองในกระจก ปรากฏว่า เขาไม่มีเงาในกระจก

    "ไม่จริง"ฟีเรนเซครางออกมา

    "ยอมรับเสียเถอะ  ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี  ตอนนี้เจ้าเป็นแวมไพร์เต็มตัว"เสียงอ่อนโยนดีงขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของคาร์ดินาลรูปหนึ่ง

    "คาร์ดินาลโรเวเล"ฟีเรนเซพูดขึ้น"ท่านมาเพื่อจับข้าไปเผาทั้งเป็นใช่ไหม"

    "หึๆ ถ้าข้าทำเช่นนั้น ข้าคงต้องมาพร้อมกับเพชฆาตกระมัง"คาร์ดินาลโรเวเลพูดขึ้น"ข้าจะบอกว่า เจ้าควรจะหนีจากโรม ไปยังวิหารร้างที่เทือกเขาแอลป์ ซ่อนตัวที่นั่นอย่าให้ใครรู้ก็พอ" 

    "ก่อนไปข้าขออะไรอย่างหนึ่ง"ฟีเรนเซ"ข้าขอสารภาพบาปที่ข้าได้ก่อขึ้น  ข้าได้เสียวิญาณให้แกปีศาจในร่างมนุษย์และในอนาคต ข้าต้องทำร้ายและฆ่าคนอื่นมากมายนับไม่ถ้วน ขอพระเป็นเจ้าโปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด"

    "พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดชะตาของเจ้าแล้ว จงใช้ปีกและเขียวของเจ้าช่วยเหลือผู้คนเถิด"คาร์ดินาลพูดด้วยน้ำเสียงเรีบก่อนเอามือวางบนหัวแวมไพร์หนุ่ม

    "อาเมน"ฟีเรนเซแตะที่ไหล่ซ้ายก่อนไปที่ไหล่ขวาและเลื่อนไปที่หน้าท้องก่อนจะแตะหน้าผาก
     
    "ก่อนเจ้าไป ข้าจงสวมสร้อยไพลินศักดิ์สิทธิ์นี้ไหว้ เจ้าจะสามารถรู้เรื่องราวทั้งหมดบนโลกมนุษย์ได้และดื่มยานี่ซะ ร่างกายจะจะสามารถทนต่อแสงอาทิตย์ได้และจะระยิบระยับดุจเพชร"คาร์ดินาลโรเวเลพูดพลางยื่นสร้อยไพลินที่ออกแบบมาเป็นไม้กางเขนโดยใจกลางมันเป็นไพลิน ส่วนปีกของกางเขนทำจากเพชรและทองคำขาวนี้ให้



    "พระคุณของท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมที่ท่านช่วยปีศาจตนหนึ่งไว้"แวมไพร์หนุ่มก้มคารวะพลางจุมพิตมือคาร์ดินาล
    "โรดิโกและตระกูลบอร์เจียต่างหากปีศาจ  เจ้าแค่ปีศาจในกายแต่ใจน่ะมิใช่"คาร์ดินาลบอก"รถม้าอยู่ด้านนอก จงรีบไปเถิด"

    ฟีเรนเซอยู่ในชุดฮูดสีดำและก้าวขึ้นบนรถม้า     รถม้าควบออกจากโรมทันที



    ผ่านมาไม่กี่10วัน 

    "ท่านฟีเรนเซครับ  ตอนนี้เราอยู่ที่ชายแดนฝรั่งเศสแล้วนะครับ"สารถีกล่าวกับชายหนุ่มผิวซีด

    ฟีเรนเซก้าวลงจากรถม้า  และไปยืนที่ชายเหว

    "ตรงนี้ ที่ที่ข้าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่"ฟีเรนเซกล่าวพลางอ้าแขนออกกว้าง

    "ข้าน้อยคงต้องขอลาก่อน"สารถีกล่าวกับแวมไพร์หนุ่ม

    "สหาย ท่านมีพระคุณต่อข้ายิ่งนัก"ฟีเรนเซกล่าวและโอบกอดสารถี

    "ขอพระเจ้าคุ้มครองท่านเถิด"สารถีโอบกอดแวมไพร์ร่างใหญ่ตอบ

    "เช่นกันสหาย"ฟีเรนเซกล่าว  พลางเดินลงไปที่ขอบเหว

    ฟูบ!!!!!ชายหนุ่มโดดลงไปในหุบเหว

    ฟืบ!!!!บางสิ่งบางอย่างงอกออกมาจากหลังของฟีเรนเซ   มันคือปีกค้างคาวขนาดใหญ่สีดำดุจราตรี

    วูบ!!!!!!วูบ!!!!!!!ปีกของแวมไพร์หนุ่มกระพือและบินไปทั่วหุบเหว

    "วู้วววววววว!!!!!"ฟีเรนเซร้องตะโกนด้วยความดีใจ"ข้าบินได้    ข้าบินได้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ"

    "โชคดีนะครับท่านฟีเรนเซ่  เราคงได้พบในอีกไม่ช้านี้"สารถีกล่าว "ไวซูเวอุส ปอมเปอินุส"

    บรึมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!รถม้าระเบิดเป็นจุล สารถีสวมฮูดและดีดนิ้ว ร่างของเขาค่อยๆจางหายไปในอากาศ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×