ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แวมไพร์
2 วันถัดมา
เป็นจริงดังที่คำของทหารสอดแนม ทหารของดยุควาเลนตินัวเดินทางมาถึงฟลอรเรนซ์ทันทีและเริ่มการโจมตีทันที
และที่ร้ายไปกว่านั้น ฟลอเรนซ์ จวนเจียนจะแตกแล้ว
"นายท่าน พวกเชซารีบุกเข้ามาในเมืองแล้วขอรับ"เด็กหนุ่มกล่าวกับบรรดาผู้คนในตระกูลเดอ เมดิชี ผู้คนในตระกูลเมดิชีทั้งผู้ชายอยู่ในอาภรณอย่างหรูหรา ผู้หญิงสวมหมวกผ้าคลุมผมทั้งในแบบพระจันทร์เสียง เปิดหน้าผากแบบฝรั่งเศส บางคนสวมหมวกทรงหน้าจั่วแบบอังกฤษ หรือไม่คลุมผมแต่ไว้ผม สวมเสื้อและกระโปรงบานในชุดกำมะหยี่ ขนสัตว์และผ้าไหมสีโทนเย็น โดยเสื้อตัวยาวของพวกเธอจะยาวถึงพื้น แขนยาว พองรัดเป็นปล้อง ๆ บางคนใส่ในแบบฝรั่งเศส ซึ่งลักษณะเหมือนกัน แต่แขนกว้างพับตลบเป็นขอบใหญ่ ผู้ชายไว้ผมยาวประบ่า มีผมปกหน้าผาก สวมหมวกใบเล็ก ๆ คล้ายมงกุฎตกแต่งด้วย ขนนกและเพชรพลอยโดยหมวกส่วนใหญ่ทำจากผ้ากำมะหยี่ตัดเป็นรูปวงกลม ร้อยเชือกโดยรอบผูกพอดีศีรษะ เหลือไว้เป็นโบว์เล็กๆบนหมวกจะประดับเพชร นิลจินดาพลอยมีการตกแต่งด้วยลูกไม้บริเวณริมขอบหมวก สวมเสื้อคลุมยาว แขนพองกลาง และสวมรัฟฟ์(Ruff)หรือแผงคอสีขาวจีบระบายอยู่
ทุกคนต่างอยู่ในอารมณ์ที่โกรธแค้นและตื่นตระหนก
ชายวัยกลางคน ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลกำหมัดแน่น
"ตระกูลเมดิชี ไม่เคยก้มหัวให้ใครในแผ่นดินอิตาลี"เขากล่าว"พวกเจ้าทุกคนหนีไปซะ"
"ท่านลุง ท่านไปกับพวกเราเถิด"ฟีเรนเซกล่าวอย่างหนักแน่น
"อย่าเอาชีวิตของเจ้ามาเสี่ยง ฟีเรนเซ"ผู้เป็นหัวหน้าตระกูลกล่าวพลางวางมือบนบ่าของฟีเรนเซ
"ข้าไม่กลัว ขอแห่ชีวิตของข้าได้ปกป้องฟลอเรนซ์ก็พอ"ฟีเรนเซกล่าวต่อ
โครม!!!!!!!!!!!!!!!
"พวกมันบุกเข้ามาแล้ว"เสียงทหารยามตะโกนเมื่อประตูของปาลาซโซ เวคิโอ หรือวังที่ทำการของรัฐบาลผู้ปกครองแห่งฟลอเรนซ์ พังทลาย
"พวกเจ้าหนีไปซะ!!!!!!!"เสียงผู้นำตระกูลตะโกน
"ฟีเรนเซ ไปกับเราเถิด"เบนกล่าว
"ไม่ ข้าจะอยู่ที่นี่ พวกเจ้ารีบไปเถิด"ฟีเรนเซกล่าว พวกลูกพี่ลูกน้องทั้งสี่คนเข้ามาโอบกอดเขา
"ระวังตัวเจ้าให้ดีด้วย"ลูคากระซิบ
"พวกเจ้าก็ด้วย"ฟีเรนเซกระซิบ
เคร้ง!!! ดาบของผู้นำตระกูลกระทบกับทหารของพวกบอร์เจียอย่าดุเดือน
เพียงไม่นานพวกที่เหลืออยู่ รวมทั้งฟีเรนเซ ถูกกุมตัวทั้งหมด
ฉัวะ!!!!!!!!ฉับพลัน ชายหนุ่มในชุดเกราะแบบแม่ทัพโรมันของจูเลียซ ซีซาร์ก้าวเดินเข้ามาและฆ่าผู้นำตระกูลเมดิชีอย่างเลือดเย็น
"ท่านลุง"ฟีเรนเซตะโกนก้องด้วยความตกใจ
ชายหนุ่มผิวสีแบบหนุ่มสเปน ซึ่งมีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่หน้าตาชั่วร้ายราวกับรูปสลักของจักรพรรดิ์เนโรเดินเข้ามาใกล้และดอมดมใบหน้าของฟีเรนเซ
จุ๊บบบ!!!!!!!เชซาเรจุมพิตลงที่ปากของฟีเรนเซและถอนออกไม่นาน
"งดงาม"เชซาเรชม"ข้าไม่เคยเห็นชายใครในอิตาลีจะงดงามดุจรูปสลักอันติโนอุสเช่นเจ้า"
"หึๆ ข้ายอมถูกเผาบนกองฟอนดีกว่าต้องถูกปีศาจโสมมอย่างเจ้าย่ำยี"ฟีเรนเซกล่าวเย้ยหยัน"ทุด!!!! ไอ้พวกสเปนเดนตาย ไอ้สัตว์นรกหน้าขนวาลนเซีย"
เชซาเรมองฟีเรนเซอย่าชั่วร้าย
ผัวะ!!!!!!!เขาตบหน้าหนุ่มน้อยแห่งตระกูลเมดิชี่จนหน้าเขาสะบัดไปตามแรงตบ
"ถึงแม้ข้าจะเป็นสัตว์นรก แต่เจ้า"เชซาเรกล่าวพลางเลียริมฝีปาก"ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี เจ้าจะไม่ต่างอะไรจากหมูที่ถูกเชือด"
"เอามันไปโรม ในสภาพเป็นๆ ห้ามมีรอยขีดข่วนบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น"เชซาเรตะคอกนายทหาร"หาไม่ พวกเจ้าจะถูกเชือดคอทีหลัง"
กรุงโรม ในห้องใต้ปราสาทซานแองเจอโล
"ปล่อยข้าๆ"เสียงของฟิเรนเซตะโกนก้อง ร่างสูงดิ้นพล่านบนเตียงไม้ที่มีโซ่ล่ามอยากแน่นหนา
"โชคร้ายนะฟีเรนเซ ที่เจ้าดันรอดชีวิตในสงคราม ข้ากำลังหาหนูทดลองยาของท่านดยุคแห่งมินชินพอดี"เชซาเรพูดพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย
"เชซาเร บอร์เจีย ข้าขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า ต่อให้ข้าเป็นหนูทดลองยาปีศาจของตระกูลเจ้าจนหมดลมหายใจ ข้าขอสาปแช่งเจ้า ตระกูลเจ้าด้วย เมื่อใดก็ตามที่โรดิโก บอร์เจียลาโลกนี้ไป ขอให้เจ้าต้องเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนไม่มีที่สิงสถิต และถูกฆ่าตายอย่างหน้าสมเพชและขอให้ศพของเจ้าถูกเหยียบย่ำจากคนทุกชนชั้นวรรณะ"ฟีเรนเซคำรามอย่างเคียดแค้น
"ปากดีอย่างเจ้า จะมีชีวิตถึงวันพรุ่งนี้รึปล่าวยังไม่รู้ กรอกยามันได้"เชซาเรสั่ง
ชายฉกรรจ์หกคนจับแขนและขาของฟีเรนเซไว้จนเขาขยับตัวไม่ได้ก่อนจะกรอกยาสีม่วงเข้าไปในปากจนหมดถ้วยทดลอง
"อ๊าก!!!!!"ชายหนุ่มชาวฟลอเรนซ์คำรามลั่นก็จากสลบเพราะยาเริ่มออกฤทธิ์ เขาสลบลงไป
"เริ่มการทดลองได้"เชซาเรสั่ง พวกนักเล่นแปรธาตุเริ่มทดลองด้วยการกรอกยาสีแดงก่ำเข้าปาก
"มันตายยัง"เชซาเรพูดขึ้น
"ท่านฟีเรนเซไม่ตาย แต่"นักแปรธาตุคนนั้นพูด"เขากลายเป็นแวมไพร์"
"ฆ่ามันซะ"ดยุคแห่งวาเลนตินัวร์สั่งพลางเดินออกจากห้องพร้อมทหารองครักษ์
"พระคุณของท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมที่ท่านช่วยปีศาจตนหนึ่งไว้"แวมไพร์หนุ่มก้มคารวะพลางจุมพิตมือคาร์ดินาล
"โรดิโกและตระกูลบอร์เจียต่างหากปีศาจ เจ้าแค่ปีศาจในกายแต่ใจน่ะมิใช่"คาร์ดินาลบอก"รถม้าอยู่ด้านนอก จงรีบไปเถิด"
"ผลการทดลองล้มเหลวขอรับ ท่านเชซาเร"นักแปรธาตุคนหนึ่งพูด
"มันตายยัง"เชซาเรพูดขึ้น
"ท่านฟีเรนเซไม่ตาย แต่"นักแปรธาตุคนนั้นพูด"เขากลายเป็นแวมไพร์"
"ฆ่ามันซะ"ดยุคแห่งวาเลนตินัวร์สั่งพลางเดินออกจากห้องพร้อมทหารองครักษ์
"เอายังไงดีครับ"นักเล่นแปรธาตุลูกมือกล่าวกับหัวหน้า
"เราต้องไปจากโรม"หัวหน้านักเล่นแปรธาตุกล่าวพลางเดินออกจากห้องทดลอง
...................................................................................................................................................................................................................
วันรุ่งขึ้นในวันถัดมา
ชายหนุ่มผิวขาวซีดถูกล่ามบนเตียงค่อยๆลืมตาขึ้นมา นัยน์ตาเขาสีขาวซีด เขาอ้าปากหายใจ พลางขยับโซ่ออก ปรากฏว่าเขากระชากมันออกอย่างง่ายดาย เขามองตนเองในกระจก ปรากฏว่า เขาไม่มีเงาในกระจก
"ไม่จริง"ฟีเรนเซครางออกมา
"ยอมรับเสียเถอะ ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี ตอนนี้เจ้าเป็นแวมไพร์เต็มตัว"เสียงอ่อนโยนดีงขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของคาร์ดินาลรูปหนึ่ง
"คาร์ดินาลโรเวเล"ฟีเรนเซพูดขึ้น"ท่านมาเพื่อจับข้าไปเผาทั้งเป็นใช่ไหม"
"หึๆ ถ้าข้าทำเช่นนั้น ข้าคงต้องมาพร้อมกับเพชฆาตกระมัง"คาร์ดินาลโรเวเลพูดขึ้น"ข้าจะบอกว่า เจ้าควรจะหนีจากโรม ไปยังวิหารร้างที่เทือกเขาแอลป์ ซ่อนตัวที่นั่นอย่าให้ใครรู้ก็พอ"
"ก่อนไปข้าขออะไรอย่างหนึ่ง"ฟีเรนเซ"ข้าขอสารภาพบาปที่ข้าได้ก่อขึ้น ข้าได้เสียวิญาณให้แกปีศาจในร่างมนุษย์และในอนาคต ข้าต้องทำร้ายและฆ่าคนอื่นมากมายนับไม่ถ้วน ขอพระเป็นเจ้าโปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด"
"พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดชะตาของเจ้าแล้ว จงใช้ปีกและเขียวของเจ้าช่วยเหลือผู้คนเถิด"คาร์ดินาลพูดด้วยน้ำเสียงเรีบก่อนเอามือวางบนหัวแวมไพร์หนุ่ม
"อาเมน"ฟีเรนเซแตะที่ไหล่ซ้ายก่อนไปที่ไหล่ขวาและเลื่อนไปที่หน้าท้องก่อนจะแตะหน้าผาก
ชายหนุ่มผิวขาวซีดถูกล่ามบนเตียงค่อยๆลืมตาขึ้นมา นัยน์ตาเขาสีขาวซีด เขาอ้าปากหายใจ พลางขยับโซ่ออก ปรากฏว่าเขากระชากมันออกอย่างง่ายดาย เขามองตนเองในกระจก ปรากฏว่า เขาไม่มีเงาในกระจก
"ไม่จริง"ฟีเรนเซครางออกมา
"ยอมรับเสียเถอะ ฟีเรนเซ เดอ เมดิชี ตอนนี้เจ้าเป็นแวมไพร์เต็มตัว"เสียงอ่อนโยนดีงขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของคาร์ดินาลรูปหนึ่ง
"คาร์ดินาลโรเวเล"ฟีเรนเซพูดขึ้น"ท่านมาเพื่อจับข้าไปเผาทั้งเป็นใช่ไหม"
"หึๆ ถ้าข้าทำเช่นนั้น ข้าคงต้องมาพร้อมกับเพชฆาตกระมัง"คาร์ดินาลโรเวเลพูดขึ้น"ข้าจะบอกว่า เจ้าควรจะหนีจากโรม ไปยังวิหารร้างที่เทือกเขาแอลป์ ซ่อนตัวที่นั่นอย่าให้ใครรู้ก็พอ"
"ก่อนไปข้าขออะไรอย่างหนึ่ง"ฟีเรนเซ"ข้าขอสารภาพบาปที่ข้าได้ก่อขึ้น ข้าได้เสียวิญาณให้แกปีศาจในร่างมนุษย์และในอนาคต ข้าต้องทำร้ายและฆ่าคนอื่นมากมายนับไม่ถ้วน ขอพระเป็นเจ้าโปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด"
"พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดชะตาของเจ้าแล้ว จงใช้ปีกและเขียวของเจ้าช่วยเหลือผู้คนเถิด"คาร์ดินาลพูดด้วยน้ำเสียงเรีบก่อนเอามือวางบนหัวแวมไพร์หนุ่ม
"อาเมน"ฟีเรนเซแตะที่ไหล่ซ้ายก่อนไปที่ไหล่ขวาและเลื่อนไปที่หน้าท้องก่อนจะแตะหน้าผาก
"ก่อนเจ้าไป ข้าจงสวมสร้อยไพลินศักดิ์สิทธิ์นี้ไหว้ เจ้าจะสามารถรู้เรื่องราวทั้งหมดบนโลกมนุษย์ได้และดื่มยานี่ซะ ร่างกายจะจะสามารถทนต่อแสงอาทิตย์ได้และจะระยิบระยับดุจเพชร"คาร์ดินาลโรเวเลพูดพลางยื่นสร้อยไพลินที่ออกแบบมาเป็นไม้กางเขนโดยใจกลางมันเป็นไพลิน ส่วนปีกของกางเขนทำจากเพชรและทองคำขาวนี้ให้
"พระคุณของท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมที่ท่านช่วยปีศาจตนหนึ่งไว้"แวมไพร์หนุ่มก้มคารวะพลางจุมพิตมือคาร์ดินาล
"โรดิโกและตระกูลบอร์เจียต่างหากปีศาจ เจ้าแค่ปีศาจในกายแต่ใจน่ะมิใช่"คาร์ดินาลบอก"รถม้าอยู่ด้านนอก จงรีบไปเถิด"
ฟีเรนเซอยู่ในชุดฮูดสีดำและก้าวขึ้นบนรถม้า รถม้าควบออกจากโรมทันที
ผ่านมาไม่กี่10วัน
"ท่านฟีเรนเซครับ ตอนนี้เราอยู่ที่ชายแดนฝรั่งเศสแล้วนะครับ"สารถีกล่าวกับชายหนุ่มผิวซีด
ฟีเรนเซก้าวลงจากรถม้า และไปยืนที่ชายเหว
"ตรงนี้ ที่ที่ข้าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่"ฟีเรนเซกล่าวพลางอ้าแขนออกกว้าง
"ข้าน้อยคงต้องขอลาก่อน"สารถีกล่าวกับแวมไพร์หนุ่ม
"สหาย ท่านมีพระคุณต่อข้ายิ่งนัก"ฟีเรนเซกล่าวและโอบกอดสารถี
"ขอพระเจ้าคุ้มครองท่านเถิด"สารถีโอบกอดแวมไพร์ร่างใหญ่ตอบ
"เช่นกันสหาย"ฟีเรนเซกล่าว พลางเดินลงไปที่ขอบเหว
ฟูบ!!!!!ชายหนุ่มโดดลงไปในหุบเหว
ฟืบ!!!!บางสิ่งบางอย่างงอกออกมาจากหลังของฟีเรนเซ มันคือปีกค้างคาวขนาดใหญ่สีดำดุจราตรี
วูบ!!!!!!วูบ!!!!!!!ปีกของแวมไพร์หนุ่มกระพือและบินไปทั่วหุบเหว
"วู้วววววววว!!!!!"ฟีเรนเซร้องตะโกนด้วยความดีใจ"ข้าบินได้ ข้าบินได้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ"
"โชคดีนะครับท่านฟีเรนเซ่ เราคงได้พบในอีกไม่ช้านี้"สารถีกล่าว "ไวซูเวอุส ปอมเปอินุส"
บรึมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!รถม้าระเบิดเป็นจุล สารถีสวมฮูดและดีดนิ้ว ร่างของเขาค่อยๆจางหายไปในอากาศ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น