ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Kimetsu no Yaiba] 無限の夢 : Infinity dream : ความฝันนิรันดร์

    ลำดับตอนที่ #3 : ความฝันที่ 3 : ความฝันที่เป็นความจริง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 63




    ความฝันที่ 3


    ความฝันที่เป็นความจริง

     

     




    ข้อที่หนึ่ง ความฝันครั้งนี้เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับความฝันเดิม


    ข้อที่สองคือ ความฝันนี้เป็นช่วงเวลา 1 ปี ก่อนที่ครอบครัวของข้าจะถูกสังหารและเนซึโกะจะกลายเป็นอสูร 


    ข้อสุดท้ายคือ ความฝันนี้เกิดขึ้นที่บ้านเดิมของข้า บนภูเขานอกหมู่บ้าน


    ทันจิโร่ทบทวนคำตอบของคำถามทั้งหมดให้ขึ้นใจ เขาพร้อมที่จะบอกเล่าคำตอบให้คุณชิโนบุฟังแล้ว เพียงแค่รอเวลาที่จะตื่นกลับไปที่โลกจริงเท่านั้น


    ไม่นานนักอาหารก็ถูกปรุงเสร็จ เนซึโกะก็เข้ามาเรียกทันจิโร่ให้ไปทานอาหารพร้อมหน้ากับครอบครัว อาหารมื้อนั้นถือเป็นมื้อที่วุ่นวายกว่าที่คิดเพราะพวกน้องๆ เอาแต่ถามพี่ชายคนโตของบ้านด้วยความเป็นห่วง ในหลายวันที่ผ่านมา... สภาพเลือดอาบคอของทันจิโร่หลอกหลอนติดตาทุกคนอยู่เสมอ จนเผลอคิดไปว่าหากโชคร้ายกว่านี้ พี่ชายผู้ใจดีคนนี้คงถูกฉีกร่างเป็นชิ้นๆ และกลายเป็นอาหารของหมีป่าไปแล้วก็ได้


    ทันจิโร่กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เขารู้สึกว่าพวกน้องๆ จะจินตนาการได้น่าสยองเกินไปแล้ว


    หลังจากรับฟังทุกคนแล้ว ทันจิโร่ก็ได้แต่บอกว่าจะระวังตนเองให้มากขึ้นด้วยสีหน้าสำนึกผิด ทำให้ทุกคนในครอบครัวรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง คืนนั้นทันจิโร่เข้านอนเร็วกว่าใคร เขาบอกว่ากับครอบครัวว่าตนเองต้องการพักผ่อน แต่อันที่จริงคือเขาต้องการกลับไปที่โลกแห่งความจริงต่างหาก





     

    เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเพดานไม้ของห้องพักในคฤหาสน์ผีเสื้อ เขากลับมาที่โลกจริงแล้ว แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากครั้งก่อนคือรอบข้างมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์สลัวที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างข้างเตียงเท่านั้น อีกทั้งเสาหลักแมลงก็ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ด้วย


    เด็กหนุ่มนอนมองเพดานกะพริบตาปริบๆ ในเมื่อเป็นเวลากลางคืนแบบนี้ คุณชิโนบุคงกลับไปนอนที่ห้องของตนเองแล้ว ถ้าจะให้คำตอบของคำถามก็คงต้องรอให้ถึงวันรุ่งขึ้นก่อน คิดได้ดังนั้นทันจิโร่จึงหลับตาลงเพื่อนอนพักผ่อน


    แล้วเขาก็ลืมตาตื่นใน ความฝันเดิม อีกครั้ง


    แสงแดดอบอุ่นยามเช้าส่องผ่านเข้ามาผ่านทางบานหน้าต่าง ทันจิโร่ยันตัวลุกนั่งแล้วมองไปรอบๆ ห้อง ปกติแล้วทุกคนในบ้านคามาโดะจะปูฟูกนอนรวมกันที่ห้องกลางบ้าน แต่ในบ้านก็มีห้องเก่าของคุณแม่ที่ใช้เก็บยาและอุปกรณ์การรักษาอยู่ พื้นที่ว่างในห้องนั้นก็จะใช้เป็นที่สำหรับนอนพักรักษาด้วย


    ทันจิโร่นอนพักในห้องนี้ตลอดตั้งแต่ที่ได้รับแผลที่ลำคอนี้มา คุณแม่บอกว่าเขาหลับไปถึง 7 วันเต็ม นั่นทำให้เด็กชายรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะเวลาในฝั่งโลกจริงเพิ่งจะผ่านไปแค่ 1 วันเท่านั้น


    อาจจะไม่แปลกก็ได้... ในเมื่อที่นี่เป็นความฝัน...สินะ?


    แม้จะรู้ว่าเป็นแค่เพียงฝัน แต่มันก็ดูประหลาดเกินไป...สมจริงเกินไป จนเหมือนไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดา...


    “บางที... ฉันคิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่ความฝันธรรมดาก็ได้ค่ะ”


    คุณชิโนบุเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ...นี่ไม่ใช่ความฝันธรรมดาแล้ว มันราวกับเป็นความจริงในช่วงเวลา 1 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้ดูมีพิรุธ ทันจิโร่จึงตัดสินใจที่จะทำตัวเป็นปกติ ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนที่เคยทำมาตลอด ก็คือช่วยงานบ้าน ตัดไม้ เผาถ่าน แล้วนำไปขายที่หมู่บ้าน


    แน่นอนว่าคุณแม่คัดค้าน เธออยากให้ทันจิโร่ฟื้นตัวจนหายดีก่อนถึงจะไปทำงานใช้แรงแบบเดิมได้ ทันจิโร่จึงขอช่วยงานบ้านธรรมดาๆ เท่าที่ทำได้แทน จวบจนตะวันลับขอบฟ้า ทุกคนในบ้านพากันเข้านอนเรียบร้อย ทันจิโร่ก็เช่นกัน เขาหลับตาลงด้วยความหวังว่าเขาจะได้ตื่นมาเล่าให้คุณชิโนบุฟังซะที


    ทว่าเมื่อเด็กหนุ่มลืมตาตื่นที่คฤหาสน์ผีเสื้อ รอบข้างก็เป็นเวลากลางคืนอีกแล้ว


    อะไรเนี่ย... ข้าหลับข้ามวันเหรอ..? ทันจิโร่คิดด้วยความมึนงง


    แน่นอนว่า ถ้าหากเป็นเวลากลางคืนคุณชิโนบุก็เข้านอนเช่นเดิม ทันจิโร่จึงทำอะไรมากไม่ได้ เขานอนหลับลง แล้วตื่นขึ้นอีกครั้งในความฝัน ใช้ชีวิตปกติ ช่วยงานบ้าน ทำกิจวัตรประจำวันที่นั่น 1 วันแล้วเข้านอน จากนั้นก็ลืมตาตื่นขึ้นมาที่คฤหาสน์ผีเสื้อในเวลากลางคืน


    เป็นแบบนี้ติดต่อกันถึง 5 คืน


    ในคืนล่าสุด ทันจิโร่ถึงกับทนไม่ไหว เขาใช้ชีวิตในความฝันนานถึง 5 วันแล้วแต่กลับไม่เคยตื่นมาตอนกลางวันเลยสักครั้ง


    นี่มันแปลกเกินไปแล้ว... หรือว่าความฝันนั่นทำให้ข้าตื่นขึ้นมาแค่เพียงตอนกลางคืนเท่านั้น? ทันจิโร่คิดด้วยความสงสัย ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาเพื่อปฏิเสธความคิดนั่น ไม่ใช่... คราวก่อนข้าก็ตื่นตอนกลางวันนี่นา ...จะว่าไปในฝันนั่น คุณแม่บอกว่าข้านอนหลับไป 7 วันทั้งที่เวลาในโลกจริงผ่านไปแค่วันเดียว...


    ทันจิโร่กวาดสายตามองรอบห้องเพื่อหาบางอย่างมาพิสูจน์สิ่งที่เขาคิดอยู่ ในที่สุดเด็กหนุ่มก็หาเจอ มันคือแจกันบนโต๊ะตรวจของคุณชิโนบุซึ่งมีเงาจากแสงจันทร์ทอดยาวอยู่ เขารู้สึกคุ้นๆ ว่าในการตื่นแต่ละรอบเงาจากแสงจันทร์จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยในทิศทางเดียว บ่งบอกได้ว่าดวงจันทร์มีการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องกันในทุกครั้งที่เขาตื่นขึ้น


    หรือว่า... ทั้ง 5 คืนในโลกฝันที่ข้านอนหลับ ...เมื่อตื่นขึ้นในโลกความจริง ทั้งหมดเป็นคืนเดียวกัน?


    ถ้าคิดแบบนั้นหมายความว่าทุกครั้งที่ใช้เวลาในความฝันฝัน 1 วัน โลกความเป็นจริงจะผ่านไปไม่นานเท่านั้น และเมื่อรวมกับที่ฝันคราวก่อนที่ในความฝันนั้น 7 วัน เวลาในโลกจริงผ่านไปแค่วันเดียว ทั้งหมดบ่งบอกได้ว่า


     ...เวลาในฝันกับเวลาในโลกจริงไม่สัมพันธ์กันสินะ


    ทันจิโร่สรุปความคิด เขาไม่อยากเสี่ยงกับความสัมพันธ์ด้านเวลาที่ไม่คงที่ของความฝันนั้น เด็กหนุ่มอาจจะวนเวียนอยู่ในฝันนานหลายสัปดาห์โดยที่ยามเช้าของโลกความจริงไม่มาถึงก็ได้


    เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะ...ไม่นอนหลับอีก เขาพยายามทำทุกอย่างไม่ให้นอนหลับ เช่นเล่นต่อคำกับตัวเองหรือใช้ปราณเพ่งจิตทั่วร่างเพื่อดึงสติตัวเองเอาไว้จนถึงเช้า แม้ว่ามันจะทำให้เขาตาค้างไปหลายชั่วโมงก็ตาม






     

    ยามเช้าที่แสนสดใสก็มาถึง แสงอาทิตย์อันอบอุ่นลอดผ่านบานหน้าต่างของคฤหาสน์ ภาพด้านนอกหน้าต่างคือสวนดอกไม้อันชุ่มช่ำที่มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนอยู่ ชิโนบุมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มพลางเดินตรงไปที่ห้องพักของคามาโดะ ทันจิโร่


    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทันจิโร่คุง”


    เธอเอ่ยทักทายคนในห้องก่อนจะต้องชะงักไปเมื่อเห็นเด็กหนุ่มบนเตียงหน้าตาซีดเซียว ใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนอดนอน ทันจิโร่พยายามส่งเสียงทักทายออกไป


    “อรุณ...สวัสดิ์...ครับ คุณ...ชิโนบุ”


    “ตายจริง ทำไมหน้าตาอิดโรยแบบนั้นกันคะ?” เธอถามคนป่วยด้วยความเป็นห่วง พลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง “ฉันบอกให้พักผ่อนเยอะๆ แล้วนะคะ แต่สภาพเธอเหมือนนอนไม่เพียงพอเลย หรือว่าเธออยากให้ฉันช่วยทำให้เธอนอนหลับแบบยาวๆ งั้นเหรอคะ?”


    ประโยคสุดท้าย แม้จะกล่าวด้วยสีหน้าประดับรอยยิ้มงดงาม แต่ก็มือขวาของเสาหลักแมลงก็กำหมัดขึ้นยกขู่เด็กหนุ่มตรงหน้าด้วย


    “ขอโทษ...ด้วยนะครับ!” ทันจิโร่รีบกล่าวขอโทษ แล้วอธิบายเหตุผล “แต่ถ้าข้าไม่ทำแบบนี้... ข้าอาจจะต้อง...ติดอยู่ในฝันนั่นอีกนานแน่เลยครับ”


    คำพูดนั้นทำให้ชิโนบุต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในความฝันนั่น แล้วทันจิโร่จึงได้บอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความไม่สัมพันธ์กันของระยะเวลาในความฝันกับในโลกจริงด้วย


    “ระยะเวลาไม่สัมพันธ์กันสินะคะ... งั้นที่ฉันคิดไว้ก็อาจจะเป็นจริงก็ได้...”


    ชิโนบุพูดขึ้นหลังฟังสิ่งที่ทันจิโร่บอก ก่อนที่เธอจะสบตากับเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ทันจิโร่คุงคะ สิ่งที่ฉันให้ไปหาคำตอบในความฝันนั้น เธอได้มาแล้วสินะคะ เป็นยังไงบ้าง?”


    “ครับ... ข้อแรก ความฝันนั้นเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับความฝันเดิมจริงๆ ข้อสอง ความฝันนั้นเป็นช่วงเวลา 1 ปี ก่อนที่ครอบครัวของข้าจะถูกสังหารและเนซึโกะจะกลายเป็นอสูร และข้อสุดท้ายคือ ความฝันนี้เกิดขึ้นที่บ้านเดิมของข้า บนภูเขานอกหมู่บ้านครับ


    “สถานที่บ้านหลังเดิมและช่วงเวลา1 ปี ก่อนที่ครอบครัวของจะถูกสังหาร... เข้าใจล่ะ อย่างนี้นี่เองสินะ” เสาหลักแมลงพึมพำกับตนเอง ก่อนจะลุกขึ้นไปที่โต๊ะตรวจร่างกายแล้วหยิบกระดาษเอกสารบางอย่างบนชั้นวางและกล่องไม้ขนาดใหญ่กว่าหนึ่งฝ่ามือ จากนั้นก็กลับมานั่งที่เดิม


    ชิโนบุวางเอกสารและกล่องนั่นที่ตักของตนเองก่อนจะเอ่ยขึ้น


    “เอาล่ะค่ะ ก่อนที่ฉันจะบอกเรื่องความฝันนั่น ฉันขอเล่าอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ครั้งล่าสุดของทันจิโร่คุงหน่อยนะคะ”


    “การต่อสู้ครั้งล่าสุด...ที่ย่านโคมแดงน่ะเหรอครับ...?”


    “ใช่ค่ะ” ชิโนบุยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ทันจิโร่คุง... ขอถามอะไรสักหน่อยนะคะ ตัวคุณในตอนนี้....รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติหรือต่างไปจากเดิมมั้ยคะ?”


    “ต่างไปจากเดิม...?” ทันจิโร่เอ่ยทวน เขานึกถึงสภาพร่างกายตนเองที่มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด เด็กหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อรู้แล้วว่ามีอะไรผิดปกติ “กลิ่น...! ข้าไม่ได้กลิ่นอะไรเลย!? ...ไม่สิ ยังได้กลิ่นอยู่ แต่มันเบาบางลงมากจนเหมือนไม่ได้กลิ่นเลยล่ะครับ”


    พูดไปทันจิโร่ก็รู้สึกสับสนในตัวเองไปด้วย แปลกจัง...สิ่งสำคัญแบบนี้ทำไมข้าถึงไม่สังเกตนะ?


    “ว่าแล้วเชียว... คงเพราะพิษของอสูรและบาดแผลจากการต่อสู้ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อทันจิโร่คุงจริงๆ ด้วยสินะคะ...” เสาหลักแมลงเอ่ยขึ้นก่อนจะอธิบายต่อ


    “ในการต่อสู้ที่ผ่านมา ทันจิโร่คุงได้รับพิษของอสูรเข้าไปค่ะ ถึงคุณอุซุยจะบอกว่าพิษพวกนั้นถูกมนต์อสูรของคุณเนซึโกะเผาทำลายจนหมดแล้ว แต่มันยังมีผลกระทบต่อร่างกายหลงเหลืออยู่ ซึ่งในกรณีของทันจิโร่คุงที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณกรามล่างจากการโจมตีของเคียวที่มีพิษของอสูร การรับสัมผัสกลิ่นในโพรงจมูกที่อยู่ใกล้กันก็ได้รับผลกระทบไปด้วยค่ะ ทำให้ไม่สามารถรับรู้กลิ่นได้ดีเท่าเดิม...”


    ใบหน้าของทันจิโร่เริ่มเป็นกังวล ชิโนบุจึงรีบอธิบายต่อ “แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เท่าที่ฉันตรวจดู ร่างกายของทันจิโร่คุงกำลังฟื้นฟูอยู่เรื่อยๆ ค่ะ คิดว่าอีกสักประมาณ 1 เดือน คงจะกลับเป็นปกติแล้วค่ะ”


    “ค่อยยังชั่ว...” เด็กหนุ่มถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าพึ่งประสาทสัมผัสการรับรู้กลิ่นในการต่อสู้มาก หากไม่สามารถรับรู้กลิ่นได้เหมือนเดิม อาจมีผลร้ายแรงถึงชีวิตได้เลยล่ะครับ ถ้าเป็นประมาณ 1 เดือนล่ะก็ร่างกายข้าคงจะฟื้นตัวด้วยเหมือนกันน่ะครับ”


    “ค่ะ ฉันก็หวังให้เป็นแบบนั้นเช่นกันค่ะ” ชิโนบุยิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “แต่ว่า...ระหว่างนี้ร่างกายของทันจิโร่คุงจะอ่อนแอลงมาก ยิ่งถ้าได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคหรือกลิ่นอายอสูรอาจทำให้มีอาการป่วยร้ายแรงแทรกซ้อนได้ ฉันจึงต้องจัดห้องพักเป็นแบบเดี่ยว ฆ่าเชื้อทุกอย่าง และออกคำสั่งให้ทุกคนงดเข้าเยี่ยมจนกว่าทันจิโร่คุงจะหายดีค่ะ”


    “งดเยี่ยม...? ทุกคนเลยเหรอครับ... เนซึโกะก็ด้วย?” ทันจิโร่ถามด้วยความกังวล


    ชิโนบุพยักหน้ารับ แล้วสบตากับเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาเด็ดขาด “ใช่ค่ะ ถึงคุณเนซึโกะจะเป็นน้องสาวของทันจิโร่คุง แต่เธอก็เป็นอสูรนะคะ ฉันไม่อยากให้ทันจิโร่คุงป่วยหนักกว่าเดิม เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจและทำตามที่ฉันบอกด้วยนะคะ”


    “...เข้าใจแล้วครับ”


    แม้จะคิดถึงน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันถึง 1 เดือน แต่ถ้าคุณหมอประจำตัวสั่งห้ามก็คงต้องปฏิบัติตามแต่โดยดี เพื่อที่จะให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงไวๆ


    เด็กสาวในชุดฮาโอริลายผีเสื้อรู้สึกยินดีที่ทันจิโร่ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี เธอจึงสามารถพูดเข้าเรื่องประเด็นหลักที่ต้องการพูดของวันนี้ได้  “อย่างที่บอกไป ว่าตอนนี้ร่างกายของทันจิโร่คุงรับผลกระทบจากอสูรได้ง่าย ทำให้เธอได้รับผลจากสิ่งนี้ด้วยค่ะ”


    กล่าวจบ เสาหลักแมลงก็เปิดกล่องไม้บนตักแล้วหยิบบางอย่างออกมา มันมีลักษณะคล้ายที่เจาะปลายแหลม ทันจิโร่จำได้ในทันทีเพราะเขาเคยเห็นมันมาก่อนในระยะประชิดและแผลลึกบริเวณท้องที่เกือบคร่าชีวิตของเด็กหนุ่มก็มาจากมันด้วยเช่นกัน


    “คุณชิโนบุ....ที่เจาะนั่น...! ของอสูรข้างแรมบนรถไฟนี่ครับ!?”


    “ใช่ค่ะ” ชิโนบุพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเช่นเคย “ในการต่อสู้ที่รถไฟสายความฝันนิรันดร์ จากรายงานการต่อสู้ครั้งนั้น อสูรข้างแรมที่หนึ่งได้ใช้มนตร์อสูรทำให้นักล่าอสูรหลับแล้วหลอกใช้เด็กกลุ่มหนึ่งให้เข้าไปในความฝันเพื่อทำลายแก่นแห่งจิตใจ


    อสูรตนนั้นได้มอบของสองอย่างให้กับเด็กพวกนั้น คือเชือกที่ทำให้เข้าไปในความฝันของผู้ที่อยู่อีกฝากของเชือกได้และที่เจาะปลายแหลมสำหรับทำลายแก่นแห่งจิตใจ ซึ่งของทั้งหมดที่ว่านั่นสร้างจากอสูรตนนั้นทำให้หลังจากที่สังหารอสูรข้างแรมที่หนึ่งได้แล้ว สิ่งของดังกล่าวเกือบทั้งหมดจึงได้สลายหายไป”


    เจ้าของคฤหาสน์ผีเสื้อเบนสายตามองที่เจาะปลายแหลมที่ตนถืออยู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น  


    “...ยกเว้นที่เจาะอันนี้เพียงชิ้นเดียวค่ะ มันเป็นสิ่งของเพียงชิ้นเดียวที่หลงเหลืออยู่ในบริเวณนั้น ไม่ได้สลายไปหลังจากอสูรตนนั้นตาย ...ฉันจึงคิดว่ามันน่าสนใจค่ะ เลยเก็บไว้เพื่อใช้ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือของอสูร ที่เจาะนี้มีกลิ่นอายอสูรอยู่ ถ้าหากปล่อยให้อาบแสงอาทิตย์มันอาจจะสลายหายไปได้ ฉันจึงต้องเก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงแดดอย่างในกล่องไม้นี้”


    เด็กสาวพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พลางยื่นเอกสารบนตักให้ทันจิโร่ได้อ่านมัน


    “นี่เป็นเอกสารที่ฉันบันทึกเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยที่เจาะปลายแหลมชิ้นนี้ทั้งหมดค่ะ จากการศึกษามาระยะหนึ่ง ฉันค้นพบว่าที่เจาะนี่มีผลเกี่ยวกับความฝันและการนอนหลับค่ะ ...ฉันจะแสดงให้ดูนะคะ”


    พูดจบเธอก็ขยับเก้าอี้ให้ห่างจากทันจิโร่ออกมา แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่มองเห็นได้ ก่อนที่เสาหลักแมลงจะนำขวดยาบางอย่างที่ซ่อนในเสื้อคลุมออกมา แล้วใช้ที่เจาะในที่เธอถืออยู่จุ่มลงในยาขวดนั้น เมื่อน้ำยาในขวดอาบปลายแหลมของที่เจาะแล้ว มันก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด


    ไม่รอช้า เด็กสาวผู้สวมฮาโอริลายผีเสื้อจัดการดึงดาบเพลิงสุริยันของตนเองออกจากปลอกดาบข้างกาย ดาบที่มีลักษณะเล็กและบางจนไม่อาจใช้ฟันศีรษะอสูรได้ แต่ส่วนปลายของดาบนั้นจะอาบพิษดอกฟูจิไว้เพื่อใช้มันในการสังหารอสูร


    ทันจิโร่ยังคงจดจำดาบเล่มนี้ได้ มันเคยเกือบจะสังหารเนซึโกะที่ภูเขานาตากุโมะมาแล้ว


    ชิโนบุใช้ส่วนกลางของใบดาบเคาะลงไปที่ปลายแหลมของที่เจาะ 3 ครั้ง ทันใดนั้น ที่เจาะก็เรืองแสงสีแดงจางๆ พร้อมปล่อยละอองสีแดงจางออกมาปกคลุมรอบกายของชิโนบุดูคล้ายกับกลุ่มเมฆหมอกเบาบางในยามเช้า เพียงแค่ได้สัมผัสกับละอองหมอกนั้นก็รู้สึกอบอุ่นราวกับอยู่บนเปลนอนพร้อมมีเสียงเพลงขับกล่อมให้


    เป็นสัมผัสที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบเงียบ อ่อนโยนและอบอุ่น... น่าแปลก...ทั้งหมดไม่ควรเป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้จากอาวุธของอสูรเลยสักนิด


     หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 1 นาที ละอองหมอกสีแดงจางก็หายไป ชิโนบุเก็บดาบเข้าปลอกดาบ แล้วนำที่เจาะปลายแหลมเก็บลงกล่องเช่นเดิม จากนั้นเธอก็อธิบายให้ทันจิโร่ฟัง


    “วิธีใช้ก็อย่างที่เห็นเมื่อสักครู่ค่ะ เมื่ออาบพิษของดอกฟูจิบริเวณส่วนปลายแหลมของที่เจาะจนมันกลายเป็นสีแดงเลือด แล้วใช้ดาบเพลิงสุริยันเคาะลงไปตรงนั้น 3 ครั้ง จะทำให้ที่เจาะนั่นปลดปล่อยมนต์อสูรออกมาค่ะ มันเป็นมนต์อสูรแบบอ่อนๆ ที่สามารถกล่อมคนที่ป่วย จิตใจฟุ้งซ่านหรือฝันร้าย ค่อยๆ สงบลงค่ะ ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นแล้วก็ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้นด้วยค่ะ


    แน่นอนว่าการใช้มนตร์อสูรเพื่อการรักษาพยาบาล ถูกคนส่วนใหญ่ในหน่วยพิฆาตอสูรคัดค้าน เพราะกลัวผลข้างเคียงที่จะตามมารวมถึงอคติที่มีต่ออสูร ทุกคนเลยอยากให้ทำลายมันทิ้งไป ฉันจึงต้องระงับการจิวัยนี้ไประยะหนึ่ง


    แต่เมื่อเดือนก่อน คุณเนซึโกะได้ใช้มนต์อสูรโลหิตของเธอเผาทำลายพิษของอสูรตนอื่นได้ นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่ามนต์อสูรไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป ฉันจึงได้ร้องขอให้วิจัยเรื่องที่เจาะต่อจนเสร็จสิ้นค่ะ และที่อยู่ในมือของทันจิโร่คุงคือผลการวิจัยทั้งหมดที่ฉันค้นพบค่ะ”


    ทันจิโร่รับฟังเรื่องดังกล่าวด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ชิ้นส่วนของอสูรหลังจากที่เจ้าของตายไปแล้วมักจะหายไปด้วยเสมอ แต่ชิ้นนี้กลับไม่หายไปนับว่าแปลกพอสมควร และอีกความรู้สึกคือเขารู้สึกชื่นชมชิโนบุ แม้จะโกรธจนอยากจะทำลายพวกอสูร แต่ถ้าหากเป็นสิ่งที่ทำประโยชน์ต่อคนในหน่วยได้ เธอก็พร้อมที่จะทุ่มเทกับมัน


      เอกสารที่เสาหลักแมลงให้มาเขียนถึงผลของการใช้งาน อาการต่างๆ ที่เป็นข้อบ่งชี้ รวมไปถึงการทดลองต่างๆ หลายสิบวิธีเพื่อทำค้นหาการทำงานของที่เจาะนั่น


    เด็กหนุ่มอ่านเอกสารเข้าใจแค่เพียงบางส่วน เพราะส่วนที่เหลือคุณชิโนบุใช้ภาษาตะวันตกเขียนทั้งนั้นซึ่งเขาไม่เคยเรียนมาก่อน แต่เท่าที่อ่านก็เข้าใจเพียงพอแล้ว ทันจิโร่จึงยื่นเอกสารกลับให้เสาหลักแมลง ซึ่งเธอก็รับไว้แล้วเอ่ยต่อ


    “โดยปกติ การจะใช้วิธีนี้ในการรักษาจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยซะก่อน เว้นแต่ผู้ป่วยคนนั้นมีอันตรายถึงชีวิต จำเป็นต้องให้การรักษาอย่างเร่งด่วนค่ะ  


    ในกรณีของทันจิโร่คุง... ช่วงที่เธอนอนหลับมาตลอด 1 เดือน ฉันใช้การรักษาด้วยยาแบบปกติมาตลอดจนกระทั่งเมื่อคืนก่อน...คืนก่อนวันที่ทันจิโร่คุงจะตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปเป็นเวลานาน ทันจิโร่คุงมีไข้สูงมากอีกทั้งค่าสัญญาณชีพทั้ง การเต้นของหัวใจ การหายใจ ความดันเลือดมากเกินเกณฑ์ปกติ กระสับกระส่ายเหมือนกำลังฝันร้าย และมีหัวใจหยุดเต้น 1 ครั้งด้วยค่ะ”


    เด็กสาวผู้ประดับผมด้วยเครื่องประดับลายผีเสื้อพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสง่างามเช่นเดิม แม้ว่าเนื้อหาที่พูดจะทำให้คนฟังอึ้งตาค้างไปแล้วก็ตาม


    “เอ๊ะ...!? อะไรนะครับ!? หัวใจหยุดเต้น!?


    “ใช่ค่ะ วุ่นวายกันน่าดูเลย” ชิโนบุยิ้มรับสบายๆ “ทั้งฉัน อาโออิและคานาโอะต้องช่วยกันกดหัวใจเป็นพันครั้งเพื่อทำให้หัวใจของทันจิโร่คุงกลับมาทำงานได้น่ะค่ะ”


    ได้ยินดังนั้นทันจิโร่จึงกล่าวเสียงอ่อยด้วยความรู้สึกผิด “...ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนนะครับ”


    “แหม...ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ แค่ทันจิโร่คุงลืมตาตื่นแบบนี้ได้ฉันก็ดีใจแล้วค่ะ”


    ชิโนบุยังคงรอยยิ้มงดงามของเธอเอาไว้ ก่อนจะอธิบายต่อ “แต่ถึงจะทำให้หัวใจของทันจิโร่คุงกลับมาเต้นได้แล้ว แต่มันยังคงเร็วกว่าปกติและอาการอื่นๆ ไม่ลดลงเลย ฉันกังวลว่าหัวใจอาจจะหยุดเต้นอีกจึงได้ใช้มนต์อสูรในการรักษาทันจิโร่คุงค่ะ”


    “ใช้มนต์อสูร...ของที่เจาะอันนั้นเหรอครับ?”


    “ถูกต้องแล้วค่ะ ทันทีที่ใช้ อาการของทันจิโร่คุงดีขึ้นแบบทันตาเห็นเลยค่ะ ทั้งอุณหภูมิร่างกาย ความดันเลือด การหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจ กลับเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาไม่นาน อาการกระสับกระส่ายก็หายไปด้วยค่ะ


    โดยปกติผลของมันคือการทำให้นอนหลับง่ายขึ้น สบาย รู้สึกดีจนไม่อยากลุกจากเตียง แต่ของทันจิโร่คุงเป็นคนแรกเลยนะคะที่ฝันแบบชัดเจนเหมือนต้องมนต์อสูรดั้งเดิมของที่เจาะนั่น ฉันเลยคิดดูหลายๆ ทางว่าเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง และพอทันจิโร่คุงบอกคำตอบของสิ่งที่ฉันสงสัยทั้งสามข้อให้ฉันแล้ว ฉันก็คิดออกทันทีเลยค่ะ”


    ทันจิโร่นิ่งสงบเงียบ ตั้งใจฟังทุกอย่างที่เด็กสาวตรงหน้าพูด เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามทันจิโร่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้นจนรู้สึกได้


     “ทันจิโร่คุง เคยคิดไหมคะ... ทำนองว่า ถ้าหากย้อนกลับไปได้... ก็อยากจะอยู่กับครอบครัวอย่างสงบสุขตลอดไปอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ”


    เด็กหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีแดงนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาของเขาฉายแววอาลัยอาวรณ์เมื่อนึกถึงทุกคนในครอบครัวที่ได้จากไป


    “ข้าเคยคิดครับ... ข้ายังคงคิดถึงทุกคนอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยลืมเรื่องของทุกคนเลยไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม....” ฉับพลันดวงตาของทันจิโร่ก็เปล่งประกายฉายแววความมุ่งมั่นและเข้มแข็ง “แต่ข้ารู้ตัวดีว่ามันเป็นความจริงในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว ข้าสูญเสียครอบครัวไปแล้ว และ...ไม่อาจหวนกลับไปได้อีกแล้วครับ”


    เมื่อพูดจบความเงียบก็เข้าปกคลุมทั่วบริเวณ เสาหลักแมลงมองเด็กหนุ่มตรงหน้านิ่งๆ ทันจิโร่เป็นเด็กที่เข้มแข็งและอ่อนโยนยิ่งกว่าใคร เธอรู้ดี แม้ว่าเขาต้องประสบเรื่องเลวร้ายแค่ไหนเขาก็จะมุ่งหน้าไป...ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ ปล่อยวางอดีตเพื่อทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อช่วยน้องสาวให้กลับเป็นมนุษย์ให้ได้...


    แต่ถึงอย่างนั้น...


    “แม้จะรู้แก่ใจดี ...แต่ลึกๆ แล้วในใจของคามาโดะคุงก็ปรารถนาแบบนั้นสินะคะ... ปรารถนาให้ทุกคนยังคงมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข” ชิโนบุกล่าว สีหน้าระบายยิ้มบางๆ “และบางที...ความปรารถนานั้นอาจจะแรงกล้ากว่าที่คิดได้นะคะ แรงกล้าจนทำให้เธอได้พบเจอกับพวกเขาอีกครั้ง...และได้รับโอกาสที่จะแก้ไขมัน”


    ทันจิโร่เบิกตากว้าง ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าอึ้งๆ “คุณชิโนบุกำลังจะบอกว่า... ความฝันนั่นคือมนต์อสูรจากที่เจาะปลายแหลมที่ทำให้ข้าย้อนกลับไปในอดีตผ่านทางความฝันงั้นเหรอครับ?”


    “ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้นนะคะ ...แต่ไม่ใช่ค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมาเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้น


    “ฉันเคยอ่านนวนิยายที่ประพันธ์จากคนฝั่งตะวันตก ว่าด้วยเครื่องจักรกลที่ใช้ข้ามกาลเวลาจากปัจจุบันสู่อดีตหรืออนาคตได้ มันอาจจะดูเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่จากการที่พวกเรานักล่าอสูรต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอย่างอสูรก็ดูเป็นเรื่องเพ้อฝันสำหรับคนทั่วไปเช่นกันค่ะ และอีกทั้งมนต์อสูรโลหิตของอสูรก็สามารถสร้างสิ่งต่างๆ นอกเหนือจินตนาการได้มากมาย ฉันเลยคิดว่าการย้อนเวลาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ค่ะ


    ...แต่ถ้าเป็นการย้อนเวลาจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจะส่งผลถึงปัจจุบันด้วย... จากที่ทันจิโร่คุงเล่าว่าใช้มีดตัดคอของตนเองเพื่อตื่นจากฝัน แผลนั้นก็เป็นแผลใหญ่ที่มีเลือดออกมาพอสมควร  เพราะฉะนั้นถ้าเป็นการย้อนอดีตจริงๆ ทันจิโร่คุงจะต้องมีแผลเป็นบริเวณคอค่ะ


    เพราะฉะนั้น...ขอฉันพิสูจน์ดูหน่อยได้มั้ยคะ? ว่ามีรอยแผลนั่นจริงๆ รึเปล่า” ชิโนบุเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ตำแหน่งผ้าพันแผลบริเวณลำคอจนถึงคางของทันจิโร่ ซึ่งเด็กหนุ่มตอบอนุญาตแต่โดยดี


    เด็กสาวผู้รวบผมตึงและประดับผมด้วยที่ประดับลายผีเสื้อค่อยๆ ปลดผ้าพันแผลบริเวณคอของทันจิโร่ออกก่อนจะตรวจดูให้แน่ใจว่ามีรอยแผลที่ต้องการพิสูจน์หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะตรวจอย่างไรก็พบแค่เพียงแผลถูกแทงบริเวณคางถึงกรามล่างที่ได้จากอสูรข้างขึ้นที่ย่านเริงรมณ์เท่านั้น  


    “ไม่มีเลยนะคะ รอยแผลที่คล้ายรอยมีดบริเวณคอ” เด็กสาวร่างเล็กเอ่ยขึ้น พลางพันผ้าพันแผลใหม่ที่บริเวณเดิม


     “นั่นหมายความว่า ข้าไม่ได้ย้อนเวลาไปในอดีตสินะครับ” ทันจิโร่สรุปความเข้าใจของตนเอง แล้วเอ่ยถามด้วยความสับสน “ถ้าอย่างนั้น...มันคืออะไรล่ะครับ ความฝันนั่น...?”


    ไม่ต้องรอนาน ชิโนบุก็เอ่ยขึ้นถึงคำตอบที่เธอคิดว่าตรงกับสถานการณ์ตอนนี้ของทันจิโร่ ทั้งด้านเวลาและสถานที่ ความไม่สัมพันธ์กันของระยะเวลาของทั้งสองโลก ...คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุด


     “...โลกคู่ขนาน ...ถ้าเป็นโลกคู่ขนานล่ะก็...อาจจะเป็นไปได้ค่ะ”


    “โลกคู่ขนาน...เหรอครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม


    ชิโนบุอธิบายด้วยรอยยิ้มเช่นเคย “ฉันเคยศึกษาแนวคิดต่างๆ ของคนจากโลกฝั่งตะวันตกมากมายค่ะ หนึ่งในนั้นเคยมีคนกล่าวว่า โลกเราน่ะมีทางเลือกเกิดขึ้นมากมาย และเกิดขึ้นตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่ทันจิโร่คุงเจอกับฉันครั้งแรกบนภูเขานาตากุโมะ ตอนนั้นคุณโทมิโอกะเลือกตัดสินใจต่อสู้กับฉันเพื่อปกป้องเธอกับน้องสาว ทำให้ทันจิโร่คุงยังมีชีวิตรอดถึงตอนนี้


    แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณโทมิโอกะไม่ได้เลือกที่จะทำแบบนั้นล่ะคะ? ถ้าเขาลืมเรื่องของพวกเธอสองคนไปและคิดว่าคุณเนซึโกะเป็นอสูรธรรมดาทั่วๆ ไป จะเกิดอะไรขึ้น? คุณเนซึโกะอาจถูกฉันสังหารไปตั้งแต่ตอนนั้นหรือเธออาจจะคลั่งแล้วลงมือฆ่าฉันไปแล้วก็ได้ ทันจิโร่คุงไม่มีทางรู้หรอกค่ะเพราะคุณโทมิโอกะไม่ได้เลือกทางนั้น นั่นจึงทำให้เกิดอีกโลกขึ้นมา โลกที่คุณโทมิโอกะช่วยปกป้องพวกเธอ และโลกที่เขาไม่ได้ช่วยปกป้องพวกเธอยังไงล่ะคะ


    สรุปก็คือ โลกทั้งหลายน่ะมีความสัมพันธ์ที่ทับซ้อนกันอยู่ แต่ทุกๆ ครั้งที่มีทางเลือกเกิดขึ้นในชีวิต อีกตัวเลือกที่ไม่ได้เลือกจะเกิดเป็นอีกโลกหนึ่งที่แตกต่างออกไป โลกพวกนั้นจะดำเนินต่อไปและไม่มีความสัมพันธ์กับโลกเดิมอีกแล้ว ทุกๆ ครั้งที่ต้องเลือกก่อให้เกิดโลกที่แตกต่างออกไปมากมาย โลกทั้งหมดจะถูกเรียกว่า โลกคู่ขนานค่ะ”


    ทันจิโร่พยายามทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา ก่อนจะพูดขึ้นมาบ้าง


    “ถ้าโลกคู่ขนานทั้งหมดจะแตกต่างกันและไม่มีความสัมพันธ์กับโลกเดิมอีกแล้ว หมายความว่าในโลกคู่ขนานต่างๆ ก็มีตัวข้า คุณ ชิโนบุ แล้วก็คนอื่นๆ ด้วยเหมือนกันสินะครับ เพียงแต่เราจะไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวของตัวเองในอีกโลก...”


    “โดยปกติก็เป็นแบบนั้นล่ะค่ะ” ชิโนบุเอ่ยเห็นด้วย ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มงาม “แต่จะมีบางครั้งที่ผู้คนรับรู้ถึงโลกอื่นที่แตกต่างไปหรืออาจจะรู้สึกว่าคุ้นเคยกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเพราะตัวเขาในโลกคู่ขนานอื่นได้เผชิญกับเหตุการณ์นั้นมาแล้วก็ได้”


    เด็กสาวร่างเล็กหันมาสบตากับทันจิโร่อย่างมีนัยยะ


    “...ในกรณีของทันจิโร่คุง ฉันคิดว่ามันคือการเชื่อมต่อกับตนเองที่อยู่ในโลกแห่งนั้น ด้วยปณิธานของทันจิโร่คุงรวมกับพลังมนต์อสูรจากที่เจาะของอสูรแห่งฝันจึงช่วยนำพาทันจิโร่ไปยังโลกนั้นค่ะ เพื่อทำตามที่ตนปรารถนา...การช่วยชีวิตครอบครัวของตนเอง


    ทันจิโร่คุงในโลกนั้นยังคงเป็นหนุ่มน้อยขายถ่านธรรมดาๆ แต่ทันจิโร่คุงในโลกนี้น่ะเป็นนักล่าอสูรแล้ว เธอเติบโต ฝึกฝน พัฒนาจนมีความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจมากกว่าตัวเธอที่เป็นเพียงเด็กขายถ่าน อีกทั้งตัวเธอในโลกนี้ยังมีพลังมนต์อสูรช่วยผลักดันด้วย เมื่อตัวตนทั้งสองเชื่อมต่อกัน ตัวตนของทันจิโร่คุงจึงสามารถควบคุมตนเองในโลกนั้นได้อย่างสมบูรณ์ไงล่ะคะ”


    เมื่อรับทราบถึงข้อมูลทั้งหมด ทันจิโร่ก็ใช้เวลาประมวลไม่นานก็ได้คำตอบออกมา


    “หมายความว่า... ตอนที่ข้าตื่นในความฝัน นั่นคือร่างของคามาโดะ ทันจิโร่ในโลกคู่ขนานแห่งหนึ่ง สินะครับ ...โลกที่เหมือนอดีตของข้า” เด็กหนุ่มนิ่งเงียบไปชั่วครู่เพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ทันจิโร่สบตากับเสาหลักแมลงเมื่อเขาคิดบางอย่างออกมาได้


    “ถ้าหากตัวข้าที่รู้ว่าอีก 1 ปีต่อมาจะเกิดอะไรขึ้น เข้าไปยับยั้งเหตุการณ์นั้นเอาไว้...ครอบครัวของข้าในโลกนั้นก็จะมีชีวิตรอดสินะครับ?”


    “มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแบบนั้นอยู่ค่ะ” ชิโนบุเอ่ยขึ้น เพียงแค่สบตากันเธอก็รู้แล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคิดอะไรอยู่ ถ้ามีโอกาส...ก็อยากจะช่วยครอบครัวเอาไว้ให้ได้ เสาหลักแมลงจึงกล่าวคำเตือนออกมาในทันที


    “แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะคะ โลกคู่ขนานแห่งนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับโลกที่พวกเราอยู่ โลกทั้งสองแบ่งแยกกันโดยสิ้นเชิง ถึงเธอจะทำอะไรลงไปก็ไม่มีทางส่งผลถึงโลกนี้” ดวงตาของชิโนบุฉายแววจริงจังจนสัมผัสได้


    “ใช่ค่ะ...แม้ว่าเธอจะช่วยครอบครัวได้ แต่ในโลกนี้ ครอบครัวของเธอก็ไม่ฟื้นคืนชีพกลับมาหรอกนะคะ”


    ความเงียบเข้าปกคลุมโดยรอบอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นความเงียบที่ไม่นานนัก ทันจิโร่เป็นคนเอ่ยทำลายความเงียบในที่สุด


    “...แต่ถ้าข้าไม่ทำอะไรเลย ในโลกนั้น... ครอบครัวของข้าจะประสบกับเรื่องราวเดิมที่ข้าเคยพบเจอใช่มั้ยครับ ทุกคนจะถูกฆ่า... เนซึโกะจะกลายเป็นอสูร”


    “ถูกต้องแล้วค่ะ ...เพราะมันคือความจริงที่ทันจิโร่คุงได้ประสบมาแล้ว” เด็กสาวเจ้าของคฤหาสน์ผีเสื้อเอ่ยความจริงอันโหดร้ายออกมา “และเมื่อทันจิโร่คุงในตอนนี้สามารถเชื่อมต่อกับตัวเธอในโลกนั้นได้ เธอจึงมีโชคชะตาที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องราวโศกนาฏกรรมเดิมอีกครั้งค่ะ”


    ทันจิโร่เงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่แววตาจะฉายแววเจิดจ้าด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอน


    “ถ้าอย่างนั้น... ข้าจะหยุดยั้งเหตุการณ์นั้น! แม้ว่าครอบครัวของข้าจะไม่กลับมา แต่สำหรับในโลกแห่งนั้น...ทุกคนคือครอบครัวของข้าเช่นกัน


    เรื่องราวทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น... ถ้าข้าสามารถหยุดยั้งมันได้ ข้าก็จะทำ! ข้าไม่อยากให้ครอบครัวของข้าต้องประสบกับโชคชะตาเช่นเดิมอีกแล้ว ...ข้าอยากจะช่วยทุกคน ให้ทุกคนมีชีวิตรอดและใช้ชีวิตปกติสุข ข้าต้องปกป้องทุกคนให้ได้!


    เขาจะหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันโหดร้ายนั่นเอง

     

     


    = = = = = = = = = = = = = = = =100% = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

    19 / 1 / 63 (100%)

     สวัสดีค่า

    ตอนนี้ทั้งเนื้อหาทั้งบทพูดเยอะมากกกกกกก ถ้าอ่านแล้วงงๆ แนะนำให้อ่านใหม่อีกรอบนะคะ (ถ้ายังงงอยู่ก็ถามได้เลยนะคะ ;w; ) ตอนนี้เฉลยหลายอย่างจริงๆ ค่ะ แถมยังไซไฟสุดๆ ไปเลย จักรกลข้ามเวลา! โลกคู่ขนาน! 555

    อันที่จริงฟิคนี้สร้างขึ้นจากแนวคิด What if เป็นหลักเลยค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันนั้นครอบครัวของทันจิโร่ไม่ถูกฆ่า? หรือจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนนู้น คนนี้ คนนั้นไม่ตาย อะไรแบบนี้ค่ะ แต่จะให้ตั้งชื่อ What if เป็นชื่อฟิคก็คงจะสปอยเกินไป

    ถ้าตั้งว่า ‘Fic Kimetsu no Yaiba เมื่อข้าต้องเข้าไปอยู่ในร่างของคามาโดะ ทันจิโร่ในต่างโลก...อ้าว! ข้าก็คือคามาโดะ ทันจิโร่ เหมือนกันนะ!’ ก็รู้สึกเหมือนว่านี่เป็นฟิคแนว OC ทันจิโร่ต้องโดนทรัคซังส่งไปต่างโลกแน่นอน แถมชื่อยังยาวโคตรๆ อีกต่างหาก 555 สุดท้ายเลยใช้ชื่อปัจจุบันเป็นชื่อเรื่องนี่แหละค่ะ

    ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้นต์หรือกดปุ่มให้กำลังใจได้นะคะ!

    แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่า

    El Psy Congroo

     

     

    22 / 1 / 63 (100%)

     สวัสดีค่า

    ขอกลับมารีไรท์บางส่วนให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นหน่อยนะคะ

    ปล. อยากอ่านฟิค KnY ในเด็กดีที่ไม่มี OC แล้วทันจิโร่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก (เน้นความสัมพันธ์มากกว่าความรักจะดีมากเลยค่ะ) ใครรู้จักแนวนี้รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ อยากอ่านมากกกก

    เข้าไปคุยกันที่แฮชแท็ก #ทันจิโร่ในความฝันนิรันดร์ ได้น้า

    แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่า

    El Psy Congroo

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×