ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Kimetsu no Yaiba] 無限の夢 : Infinity dream : ความฝันนิรันดร์

    ลำดับตอนที่ #2 : ความฝันที่ 2 : ความฝันที่อาจจะไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดา

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 63



    ความฝันที่ 2


    ความฝันที่อาจจะไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดา

     




     

    บ้านทรงญี่ปุ่นหลังเล็กตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางภูเขา ทิวทัศน์โดยรอบถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ภายในห้องครัวของบ้านมีกลิ่นหอมของข้าวหุงใหม่และซุปมิโสะลอยฟุ้ง สาวน้อยหน้าตาน่ารักในชุดกิโมโนลายอาสะโนะฮะและแม่ของเธอกำลังทำอาหารกันอย่างขะมักเขม้น


    พวกเธอคือ คามาโดะ เนซึโกะ ลูกสาวคนโตของบ้านคามาโดะ และ คามาโดะ คิเอะ ผู้เป็นแม่


    วันนี้ลูกชายคนโตของบ้าน ทันจิโร่ ลงไปขายถ่านไม้ที่หมู่บ้าน ส่วนทาเคโอะผ่าฟืนอยู่ที่ลานด้านหลังบ้านเพื่อเตรียมไม้สำหรับเผาถ่านครั้งหน้า ชิเงรุและฮานาโกะหลังจากช่วยจัดเก็บและพับผ้าเสร็จแล้วก็ออกไปเล่นกันที่หน้าบ้านเพื่อรอพี่ชายคนโตกลับมา และน้องชายคนเล็ก โรคุตะก็นอนอยู่ในเปลพลางส่งเสียงอ้อแอ้ออกมาเป็นบางครั้ง


    บ้านคามาโดะเป็นครอบครัวใหญ่ แต่กลับสูญเสียเสาหลักของบ้านอย่างคุณพ่อไป ทำให้แม่และพี่ชายคนโตต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว


    เนซึโกะเข้าใจดีว่าทั้งแม่และทันจิโร่ต้องเสียสละเพื่อทุกคนในบ้านอยู่เสมอ เธอจึงอยากช่วยทั้งสองคนให้มากที่สุด เนซึโกะจึงพยายามช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง รวมทั้งการซ่อมแซมเสื้อผ้าและสิ่งของในบ้านเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด


    เสียงพูดคุยด้วยน้ำเสียงร่าเริงดังมาจากหน้าประตูบ้าน เรียกให้เนซึโกะและคิเอะหันไปมองตามต้นเสียง


    “ด้านนอกมีเสียงดังแบบนี้ สงสัยทันจิโร่คงกลับมาแล้วสินะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น ก่อนจะกล่าวกับเด็กหญิงข้างกาย “เนซึโกะ ช่วยไปตามทาเคโอะที่หลังบ้านให้แม่หน่อย ทุกคนคงจะหิวแย่แล้วล่ะ”


    “ได้ค่ะ” เนซึโกะตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะไปเรียกทุกคนมาเตรียมทานอาหารด้วยเลยนะคะ วันนี้มีของโปรดของพวกน้องๆ ด้วย คงจะดีใจมากแน่เลย”


    มื้อเย็นวันนี้เป็นการทานอาหารที่ออกจะวุ่นวายเล็กน้อยเนื่องจากการแย่งกับข้าวที่ชอบของพวกน้องๆ ถึงจะมีเสียงเอะอะบ้างแต่ก็เป็นบรรยากาศที่แสนอบอุ่นเหมือนในทุกๆ วัน


    แต่ในวันนี้มีบางอย่างที่ผิดปกติไป


    เนซึโกะมองไปยังพี่ชายคนโต แม้ว่าทันจิโร่ยังคงพูดคุยกับคนในบ้านแบบปกติ แต่ดูเหมือนกำลังเขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งมีสีหน้าเคร่งเครียดเป็นบางครั้ง


    ดูเหมือนพี่จะมีเรื่องกังวลใจอยู่รึเปล่านะ? เด็กหญิงในชุดลายอาสะโนะฮะคิด


    ปกติแล้วในบ้านคามาโดะ คนที่รับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้ดีที่สุดจะเป็นทันจิโร่ เขามีความสามารถพิเศษในการรับรู้กลิ่นที่ยอดเยี่ยม รับรู้กลิ่นของสิ่งรอบตัวได้ในระยะหลายสิบเมตร รวมไปถึงกลิ่นของอารมณ์มนุษย์ด้วย


    ถึงเนซึโกะจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้พี่ชายกำลังกังวลใจอยู่


    เอาไว้หลังทานมื้อเย็นแล้วค่อยเข้าไปคุยกับพี่ดีกว่า...


    เนซึโกะคิดพลางทานอาหารต่อ แต่ทานไปได้ไม่นานนัก ทันจิโร่ก็รวบตะเกียบวางไว้แล้วกล่าวขอคุณสำหรับอาหาร จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้น


    “...ข้าเพิ่งนึกได้ว่าลืมของเอาไว้ที่ระหว่างทางกลับบ้าน ข้าขอกลับไปเอานะครับ”


    ทุกคนที่คุยเอะอะกันอยู่พากันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่คิเอะจะพยักหน้ารับ


    “เข้าใจแล้ว รีบกลับบ้านนะลูก”


    ทันจิโร่เดินเข้าไปในครัวเพื่อขอเอาตะกร้าไม้สานไปด้วย ทำให้คิดได้ว่าสิ่งของที่ลืมไว้คงมีขนาดใหญ่หรือไม่ก็มีจำนวนมาก ระหว่างนั้นทุกคนในครอบครัวก็หันมาสบตากันเองชั่วขณะ เนื่องจากตอนที่พูดบอกเมื่อครู่ พี่ชายคนโตของบ้านนั้นพูดพลางกัดฟันแน่น เบะปากแถมตาเหลือกมองฟ้า เป็นใบหน้าที่ดูยังไงก็แปลกประหลาดสุดๆ


    พี่เขาโกหก...


    เนซึโกะรู้ได้ในทันที เพราะทันจิโร่เป็นคนที่โกหกไม่เก่ง เวลาจะพูดโกหกทีไรก็มักจะทำสีหน้าแปลกๆ ดูมีพิรุธอยู่เสมอ


    หลังจากเด็กชายในชุดคลุมลายอิจิมัตสึเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับตะกร้าไม้สานใบนั้น  เนซึโกะจึงรวบตะเกียบแล้วกล่าวบอกกับทุกคน


    “ข้าจะตามพี่ทันจิโร่ไปนะคะ รู้สึกกังวลใจนิดหน่อยน่ะค่ะ”


    พวกน้องๆ มองหน้ากันเองด้วยสีหน้างุนงง พวกเขาคงรู้ว่าพี่ทันจิโร่ทำหน้าแปลกๆ แต่ไม่มีใครติดใจสงสัยอะไรยกเว้นเนซึโกะ คิเอะเงียบไปชั่วครู่ เธอเองก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาบ้างแล้ว


    “เนซึโกะ ระวังตัวด้วยนะ”


    “ค่ะ”


    สาวน้อยรับคำ เธอเดินออกจากบ้านไปพลางมองหาพี่ชายไปด้วย น่าแปลกที่เนซึโกะก็แทบจะเดินตามออกมาในทันทีที่พี่ชายออกไป แต่เธอกลับเห็นแค่แผ่นหลังของทันจิโร่จากระยะไกลๆ เท่านั้น


    พี่...!? ทำไมถึงต้องรีบวิ่งแบบนั้นกัน! นั่นมันทางเข้าไปในป่านะ!’


    เธอคิดอย่างหวั่นวิตกแล้วรีบวิ่งตามไป ด้วยช่วงขาที่สั้นกว่าและกำลังกายที่น้อยกว่าเด็กผู้ชาย ทำให้เธอวิ่งไม่ทัน พี่ชายของเธอหายไปจากลานสายตาซะแล้ว แต่เนซึโกะก็ไม่ยอมแพ้ เธอวิ่งไปตามทางเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พบเข้าจนได้


    ทันจิโร่กำลังนั่งคุกเข่ากลางพื้นหิมะ โดยมีแสงอาทิตย์ยามพลบค่ำทอดอยู่เบื้องหลัง


    เจอพี่แล้ว!’


    เนซึโกะคิดด้วยความดีใจ แต่เธอกลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นพี่ชายหยิบมีดทำครัวออกมาจากตะกร้าไม้สานแล้วออกแรงกดมีดลงกับลำคอของตน เพียงพริบตาเดียวร่างนั้นก็ล้มลงไปบนพื้นในทันที


    “พี่คะ!?


    เด็กหญิงในชุดกิโมโนลายอาสะโนะฮะกรีดร้อง เธอมองเห็นว่าทันจิโร่ยังพอขยับตัวได้แม้มันจะอ่อนแรงเต็มที แต่นั่นเป็นการจับมืดยกขึ้นสูงเพื่อแทงซ้ำลงบนลำคออีกครั้ง เนซึโกะจึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วออกแรงหยุดข้อมือของพี่ชายไว้ก่อนที่คมมีดจะถึงลำคอ


    แม้จะหยุดมีดไว้ได้ แต่บาดแผลเดิมก็มีเลือดไหลออกมาทุกขณะ จนย้อมพื้นหิมะรอบกายให้เป็นสีแดงฉาน


    “พี่คะ! ทำใจดีๆ ไว้นะ! พี่ทันจิโร่!...ตอบข้าสิ! ไม่เอานะ...ขอร้องล่ะ! พี่อย่าตายนะ!


    เนซึโกะร้องตะโกนด้วยความกระวนกระวาย รู้สึกขอบตาร้อนผ่าว เด็กหญิงร้องไห้ในขณะที่ฉีกชายผ้ากิโมโนบางส่วนเพื่อช่วยห้ามเลือดให้ทันจิโร่ ระหว่างนั้นความคิดของเธอก็ฟุ้งซ่านเต็มไปด้วยความสับสน


    ทำไมล่ะ? ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้...


    เธอไม่เคยรู้มาก่อน พี่ชายไม่เคยแสดงท่าทีกังวลหรือวิตกอะไรมาก่อนเลย ทำไมถึงฆ่าตัวตายล่ะ พี่ชายที่อ่อนโยนและใจดีที่สุดคนนั้น


    ขอโทษนะ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่ต้องเก็บความกังวลใจอะไรเอาไว้ พี่ชายต้องทำงานหนัก ต้องอดทนและเสียสละอะไรหลายๆ อย่างเสมอมา... ขอโทษที่ข้าไม่เคยรู้ตัวมาก่อน


    หยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงหล่นจากใบหน้า มือที่กำลังพันผ้าห้ามเลือดสั่นระริก เนซึโกะกลัวว่าจะต้องสูญเสียพี่ชายไปทั้งแบบนี้ ในขณะที่ความเศร้าเสียใจและสิ้นหวังเข้าเกาะกุมหัวใจของเด็กหญิงเธอกลับรู้สึกได้ถึงฝ่ามืออบอุ่นที่กำลังลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา


    ใบหน้าของทันจิโร่ระบายรอยยิ้มบางเบา เขาพยายามพูดบางอย่างออกมา แม้จะมีเพียงเสียงหอบหายใจที่หลุดพ้นริมฝีปากออกไป แต่เนซึโกะรู้สึกได้ว่าพี่ชายกำลังปลอบประโลมเธออยู่


    แม้จะมีลมหายใจจะรวยรินแต่พี่ทันจิโร่ก็ยังคงเป็นห่วงเธอ...พี่ทันจิโร่ยังคงอ่อนโยนและใจดีอยู่เสมอ


    ทันใดนั้นแววตาของเนซึโกะก็เปล่งประกายความมุ่งมั่น ฝ่ามือทั้งสองกำหมัดแน่น


    ไม่...ข้าไม่ยอมแพ้หรอก...


    สาวน้อยในชุดกิโมโนลายอาสะโนะฮะตัดสินใจแบกร่างของพี่ชายขึ้นบนหลัง แล้วออกเดินทางกลับไปที่บ้าน แม้เธอจะไม่สามารถรีบวิ่งเต็มฝีเท้าอย่างที่ใจต้องการเพราะน้ำหนักของพี่ชายมากเกินกว่าที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ จะแบกวิ่งไปไหว และนั่นยังทำให้การเดินทางยังเต็มไปด้วยความทุลักทุเลเกือบจะหกล้มหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็มุ่งตรงไปอย่างแน่วแน่


    ให้ข้าได้ขอบคุณ...ให้ข้าได้ตอบแทนพี่... อย่าให้พี่ต้องหายไปทั้งแบบนี้...!’


    เนซึโกะเร่งรีบพาพี่ชายกลับบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ตาม ในที่สุดเธอก็เดินผ่านป่าและพื้นหิมะกลับมาถึงบ้านจนได้ เด็กหญิงเลื่อนบานประตูบ้านออกพลางตะโกนออกมาสุดเสียง


    “แม่คะ! ช่วยรักษาพี่ทันจิโร่ให้ที พี่เขาได้รับบาดเจ็บ!


    เสียงของเนซึโกะทำให้ทุกคนในบ้านรีบเข้ามาหา ทันทีที่เห็นร่างชุ่มเลือดของพี่ชายคนโต น้องเล็กอย่างชิเงรุและฮานาโกะถึงกับร้องไห้ออกมา ทาเคโอะเองก็สะอื้นแต่พยายามอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ ความวุ่นวายตรงหน้าทำให้คิเอะผู้เป็นแม่รีบเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในทันที


    “ทุกคนหลีกทางหน่อย! เนซึโกะ พาทันจิโร่ไปที่ห้องแม่แล้วอยู่ช่วยแม่รักษาทันจิโร่ ส่วนทาเคโอะไปดูแลน้องๆ อย่าให้วุ่นวาย อยู่ในห้องของพวกลูกอย่างสงบ แม่ต้องใช้สมาธิ”


    คิเอะพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ซึ่งเนซึโกะและทาเคโอะก็ปฏิบัติตามในทันที


    เพราะครอบครัวคามาโดะเป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่บนภูเขาแค่เพียงครอบครัวเดียว หากมีใครเจ็บป่วยแล้วต้องพาไปหาหมอในหมู่บ้าน จะทำได้ล่าช้าเนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลอาจรักษาได้ไม่ทันท่วงที คิเอะ ผู้เป็นแม่จึงได้ร่ำเรียนวิชาแพทย์มาจากหมอในบ้านเกิดก่อนจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่ ทำให้เธอสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยที่ไม่ร้ายแรงนักได้


     “พี่เป็นยังไงบ้างคะแม่ ลมหายใจแผ่วลงทุกที”


    หลังจากนำร่างของทันจิโร่เข้ามาในห้อง คิเอะก็ตรวจร่างกายลูกชาย โดยเฉพาะบริเวณแผลที่ลำคอ เนซึโกะมองการทำงานของแม่พลางถามด้วยท่าทีกังวลใจ


    “โชคดีที่แผลไม่ลึกมาก ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่...” คิเอะเอ่ยด้วยความสงบนิ่งแม้ว่าในใจจะรู้สึกกังวลไม่แพ้กัน “แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เลือดออกเยอะมากแบบนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย เนซึโกะช่วยไปหยิบกล่องยาบนชั้นด้านในแม่ให้ที แล้วเตรียมน้ำร้อนสำหรับต้มทำความสะอาดอุปกรณ์ให้แม่ด้วย”


    “ค่ะ!


    คืนนั้นบ้านคามาโดะมีแสงไฟสว่างตลอดทั้งคืน บ่งบอกถึงความทุ่มเทในการช่วยชีวิตพี่ชายคนโตของบ้าน การเย็บปิดแผลเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีอาการติดเชื้ออื่นๆ แทรกซ้อน แต่ทันจิโร่กลับยังไม่ตื่นขึ้นมาแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปเกือบ 7 วันแล้ว สมาชิกในบ้านต่างภาวนาให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมาให้เร็วที่สุด

     

     

     



    เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าคือเพดานไม้เก่าๆ ที่คุ้นเคย เด็กชายเจ้าของเรือนผมสีแดงกวาดสายตามองไปรอบห้องก็พบกับเครื่องใช้ในบ้านที่จัดเรียงอยู่ในตำแหน่งเดิม ทันจิโร่จำได้ในทันทีว่านี่คือบ้านที่เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวมานับสิบปี อาการเจ็บปวดบริเวณลำคอทำให้เขายกมือขึ้นสัมผัสเบาๆ ก่อนจะพบว่ารอบคอของตนเองมีผ้าพันแผลพันไว้


    ข้าฝันอีกแล้ว...แถมยังกลับมาที่เดิมได้จริงๆ ด้วย... แถมยังแผลที่ลำคอนี่... แสดงว่าที่คุณชิโนบุพูดมีความเป็นไปได้สูงเลยสินะ


    ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ทันจิโร่นึกไปถึงคำพูดของเสาหลักแมลงที่เธอได้กล่าวขึ้นมาเมื่อครั้งที่ทันจิโร่ยังคง ตื่นอยู่


    “...ทันจิโร่คุงช่วยเล่าเกี่ยวกับความฝันนั่นให้ฉันฟังทีได้มั้ยคะ? บางที...ฉันคิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่ความฝันธรรมดาก็ได้ค่ะ”


    ได้ยินดังนั้นประกอบกับสีหน้านิ่งอึ้งเมื่อสักครู่ของชิโนบุทำให้ทันจิโร่เล่าความฝันของตนเองออกมา ทั้งบรรยากาศที่คุ้นเคยของครอบครัว ความสมจริง การกระทำทุกอย่างรวมไปถึงกลิ่นอายอสูรที่พบในความฝันนั้นด้วย


    “หมายความว่ายังไงเหรอครับ? ที่ว่าไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดา...?”


    หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดจบ ทันจิโร่จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย ชิโนบุทำท่าทางจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมาก่อนที่เธอจะเงียบไปเหมือนกำลังครุ่นคิด ครู่เดียวเด็กสาวในชุดฮาโอริลายผีเสื้อก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง


    “...อืม ฉันไม่อยากจะรีบด่วนตัดสินใจเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญมากนะคะ มันอาจจะเป็นแค่ความฝันธรรมดาหรืออาจจะไม่ใช่แค่นั้นก็ได้ค่ะ”


    ชิโนบุจับคางพลางใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เอ่ยขึ้น “เอาอย่างนี้นะคะ ขอฉันพิสูจน์สิ่งที่ฉันคิดหน่อยค่ะ ...หากทันจิโร่คุงนอนหลับแล้วฝันอีกครั้งล่ะก็ ช่วยหาคำตอบต่อไปนี้ให้ฉันหน่อยนะคะ”


    เสาหลักแมลงชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว


    “ข้อแรก ฉันอยากให้ทันจิโร่คุงสังเกตว่ามันเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับความฝันเดิมหรือไม่ค่ะ” เด็กสาวชูนิ้วที่สองและสามเพิ่มมา “ข้อที่สองคือช่วงเวลา ข้อสุดท้ายคือสถานที่ ขอแบบที่แน่นอนเลยนะคะ ว่าในความฝันนั้นเป็นสถานที่ไหนและเมื่อไหร่ ฉันขอคำตอบแค่เพียงสามข้อเท่านั้นค่ะ”


    “แค่นั้นเองเหรอครับ?”


    “ใช่ค่ะ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว”


    สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรกันนะ...? ไม่ใช่แค่ความฝันธรรมดา... แล้วมันคืออะไรกันล่ะ?


    ทันจิโร่ได้เพียงแต่ครุ่นคิด เพราะชิโนบุไม่ยอมบอกคำตอบจนกว่าเขาจะนอนหลับแล้วฝันเรื่องเดิมพร้อมทั้งหาคำตอบทั้งสามมาให้เธอได้เท่านั้น


    จากการที่ตื่นขึ้นมาในสภาพที่ได้รับการรักษาพยาบาลแล้วบนฟูกในบ้านหลังเดิมที่คุ้นเคย อีกทั้งแผลบริเวณลำคอตำแหน่งเดียวกันกับที่เขาปาดคอของตัวเองไปเมื่อฝันครั้งก่อนทำให้ยืนยันคำตอบของเสาหลักแมลงได้บางส่วนแล้วว่า นี่เป็นฝันคราวนี้ต่อเนื่องจากครั้งก่อนและสถานที่นี้คือบ้านเดิมของครอบครัวคามาโดะ


    ปัญหาต่อไปคือ ช่วงเวลา


    หากคิดตามในหลักความจริง การที่ทุกคนในครอบครัวยังมีชีวิตอยู่ยกเว้นคุณพ่อ หมายความว่าช่วงเวลานี้อยู่ในช่วงเวลาหลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิตจนถึงก่อนที่จะถึงคืนนั้น...คืนที่ทุกคนถูกสังหาร 


    แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ ในเมื่อเหตุการณ์ในความฝันที่สร้างโดยอสูรข้างแรมที่หนึ่ง เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นค่ำคืนนั้นไปแล้วและทุกคนยังมีชีวิตอยู่ดีโดยที่ไม่ได้พบเจออสูร


    ทันจิโร่ไม่อยากรีบด่วนสรุปจนกว่าจะแน่ใจในคำตอบ


    ในขณะที่คิดวนไปมาอยู่นั้น เสียงเลื่อนบานประตูก็เรียกความสนใจของทันจิโร่ น้องชายคนรองของบ้านคามาโดะ ทาเคโอะ ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับสำรับอาหารในมือ ทันทีที่เห็นพี่ชายตื่นขึ้นมาแล้วทาเคโอะถึงกับหลั่งน้ำตาแล้วร้องตะโกนด้วยความดีใจ


    “พี่ทันจิโร่! พี่ฟื้นแล้ว!” ทาเคโอะหันไปตะโกนนอกห้อง “ทุกคนนนน! พี่ทันจิโร่ฟื้นแล้ววววว!!


    เสียงเอะอะตึงตังเหมือนคนกำลังรีบวิ่งสุดชีวิตดังออกมาจากนอกห้อง ครู่เดียวก็มีคนวิ่งมาถึง ร่างเล็กของฮานาโกะและชิเงรุพุ่งเข้ามากอดทันจิโร่ก่อนใคร  


    “ฮืออออ! ในที่สุดพี่ทันจิโร่ก็ตื่นแล้ว”


    “พวกข้าเป็นห่วงมากๆ นึกว่าพี่จะไม่ตื่นซะแล้ว”


    แรงปะทะของเด็กทั้งสองทำเอาทันจิโร่ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาถึงกับเซไปเล็กน้อย พี่ชายคนโตโอบกอดน้องๆ พลางลูบศีรษะปลอบประโลมโดยไม่ลืมที่จะกวักมือเรียกน้องชายคนรองจอมวางมาดให้เข้ามากอดด้วย


    “อา... ทุกคน พี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ”


    หลังจากพี่น้องคามาโดะกอดกันกลมอยู่พักใหญ่ ทันจิโร่ก็คลายอ้อมกอดแล้วถามหาถึงคนอื่นๆ ในบ้าน ก็ได้คำตอบว่าคุณแม่และเนซึโกะออกไปเก็บของป่า ส่วนน้องคนสุดท้องเพิ่งนอนหลับไป ทาเคโอะพูดขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในคืนที่พี่ชายคนโตได้รับบาดเจ็บ


    “พี่เนซึโกะบอกว่าคืนนั้น... ระหว่างที่พี่กลับไปเอาของที่ลืมไว้พี่ก็ถูกหมีป่าที่ไม่ได้จำศีลทำร้ายเอา ถ้าโดนเข้าจังๆ พี่อาจตายไปแล้วก็ได้... ดีแล้วล่ะที่พี่รอดมาได้...”


    ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาทันจิโร่ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ


    “...หมีป่า!?”


    ความคิดของทันจิโร่ประมวลผลเร็วจี๋ เอ๊ะ...!? ไม่ใช่มีดทำครัวแต่เป็นหมีป่างั้นเหรอ!? หมายความว่าข้าฝันเป็นเรื่องราวใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องราวที่ต่อเนื่องกับครั้งก่อน... งั้นที่คุณชิโนบุบอกก็ไม่ใช่น่ะสิ...!?


    ระหว่างที่ความคิดกำลังฟุ้งซ่านอยู่นั้น ก็มีเสียงหวานเอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน


    “เอาล่ะๆ ทุกคนออกไปได้แล้ว ถ้ายังรบกวนพี่ทันจิโร่อยู่แบบนี้พี่เขาก็ไม่ได้พักผ่อนน่ะสิ”


    “พี่เนซึโกะ! ยินดีต้อนรับกลับครับ!” ชิเงรุทักทายเสียงใส


    “กลับมาแล้วจ้ะ” ลูกสาวคนโตของบ้านยิ้มรับ “แม่เขากำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัวน่ะ วันนี้มีหน่ออ่อนต้นทาระด้วย แม่เลยอยากให้ทุกคนเข้าไปช่วยหน่อย จะเตรียมของโปรดให้พี่ทันจิโร่ ฉลองที่พี่เขาฟื้นไงล่ะ”


    ได้ยินดังนั้นทาเคโอะ ชิเงรุและฮานาโกะจึงเอ่ยขอตัวไปช่วยแม่ในครัว ทำให้ในห้องตอนนี้เหลือเพียงแค่ทันจิโร่กับเนซึโกะ ลูกสาวคนโตของบ้านเดินเข้ามาแล้วนั่งลงบริเวณใกล้ฟูกของพี่ชาย ด้วยความที่อยากให้แน่ใจว่าตกลงแล้ว ความฝัน ครั้งนี้ต่อเนื่องจากคราวก่อนหรือไม่ ทันจิโร่จึงได้เอ่ยถามน้องสาวขึ้น


    “...เนซึโกะ ...หมีป่าที่ว่า...”


    ไม่ต้องให้รอนาน สาวน้อยในชุดกิโมโนลายอาสะโนะฮะก็พูดตอบความจริงออกมา


    “ไม่มีหรอกค่ะ หมีป่านั่นน่ะ...” เธอระบายยิ้มฝืดเฝื่อน “แต่จะให้บอกทุกคนว่าข้าเห็นพี่ใช้มีดฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ อย่างน้อย...ก็จนกว่าข้าจะยืนยันได้ว่า พี่ต้องการฆ่าตัวตายจริงๆ”


    เนซึโกะอยากจะเชื่อว่าพี่ชายของเธอไม่ได้ต้องการฆ่าตัวตายจริงๆ อยากจะเชื่อว่ามันต้องมีเรื่องราวอะไรมากกว่านั้น ทว่าสิ่งที่เห็นต่อหน้าต่อตาในตอนนั้น ทั้งคมมีดที่เปื้อนเลือดสีแดงฉานในมือของทันจิโร่ กลับเข้ามาคัดค้านความคิดนั้นอยู่เสมอ เธอจึงเฝ้ารอที่จะได้ฟังความจริงนั้นจากพี่ชาย


    กลิ่นอารมณ์ของเนซึโกะที่ทันจิโร่รับรู้ได้บ่งบอกถึงความสับสน กังวลใจ เคร่งเครียด ...และเชื่อมั่นในอะไรบางอย่าง เมื่อรับรู้ได้เช่นนั้นทันจิโร่จึงตัดสินใจเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา


    “...นี่ เนซึโกะ ถ้าพี่บอกว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจจะตายจริงๆ เนซึโกะจะเชื่อพี่รึเปล่า...?”


    แค่เพียงคำพูดนั้นก็ทำให้เนซึโกะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจได้ อย่างน้อยพี่ชายของเธอก็ไม่ได้ต้องการตายจากไปทั้งแบบนี้แน่ๆ


    “เชื่อค่ะ” เธอตอบด้วยความจริงใจ “พี่ทันจิโร่เป็นคนใจดีและอ่อนโยนที่สุดที่ข้าเคยเจอ พี่มีแต่ความจริงใจ ตรงไปตรงมาอยู่เสมอ เพราะงั้น...ไม่ว่าพี่จะพูดอะไรข้าก็จะเชื่อค่ะ ฉะนั้นได้โปรดเล่าให้ข้าฟังเถอะค่ะ  ว่าทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วย”


    “....ขอบคุณนะที่เชื่อใจพี่” น้ำเสียงจริงใจและกลิ่นของความเชื่อมั่นจากน้องสาว ทำให้ทันจิโร่ระบายยิ้มบางๆ ด้วยความดีใจ แม้จะเป็นในความฝัน เนซึโกะก็ยังเป็นเนซึโกะคนเดิมที่เขารู้จัก เขาจึงอยากจะเล่าถึงสาเหตุที่ตนทำแบบนั้นลงไปให้เธอรู้เช่นกัน


    แต่ว่าในตอนนี้น่ะ...เขาไม่สามารถเล่าอะไรออกไปได้ทั้งนั้น จนกว่าจะได้คำตอบจากเสาหลักแมลงว่าเขากำลังพบเจออะไรอยู่กันแน่


     “แต่เนซึโกะช่วยรอพี่หน่อยได้รึเปล่า...?” ทันจิโร่เอ่ยด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ “มันยังไม่ถึงเวลาที่ควร... จนกว่าพี่จะแน่ใจจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวพี่กันแน่ เมื่อถึงตอนนั้น... พี่สัญญา... พี่จะบอกเธอทั้งหมดเลย”


    คำกล่าวนั้นทำให้เนซึโกะนิ่งเงียบไป รอยยิ้มของพี่แฝงความรู้สึกซับซ้อนหลายอย่าง เธอจึงไม่อยากจะรบเร้าพี่ชายไปมากกว่านี้ เด็กหญิงจึงยิ้มรับคำ “ได้ค่ะ ข้าจะรอพี่นะคะ”


    หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว เนซึโกะจึงคิดว่าตนควรจะให้พี่ชายได้พักผ่อนได้แล้ว เธอจึงเอ่ยบอกพี่ชายแล้วขอตัวออกไปช่วยเตรียมอาหารบ้าง ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวออกจากห้องก็มีเสียงของทันจิโร่ดังขึ้นจากด้านหลัง


    “ขอโทษนะ เนซึโกะ พี่ขอถามอะไรแปลกๆ หน่อยได้มั้ย?” เสียงของเด็กชายฟังดูตะกุกตะกักมากกว่าทุกที “เอ่อ...ตอนนี้เธออายุเท่าไหร่แล้ว?”


    “คะ...?” เนซึโกะถึงกับผงะไปชั่วขณะ ทำไมทันจิโร่ถึงถามอายุเธอด้วย มันเป็นเรื่องปกติที่รู้กันอยู่แล้วนี่นา แม้จะรู้สึกแปลกๆ ปนงงๆ ไปบ้าง เธอก็ตอบแต่โดยดี “ปีนี้...ก็อายุ 11 ปีแล้วค่ะ”


    “อ่า...ขอบคุณนะ เนซึโกะ”


    “ไม่เป็นไรค่ะพี่ พักผ่อนให้เยอะๆ นะคะ ถ้าเตรียมอาหารเสร็จแล้วข้าจะเข้ามาเรียกค่ะ”


    กล่าวจบเธอก็เดินออกไปจากห้อง ทันจิโร่มองส่งน้องสาวจนเธอเลื่อนปิดบานประตู เขาจึงได้คิดวิเคราะห์หาคำตอบสุดท้ายที่ตนเพิ่งได้รับมา ...คำตอบที่เสาหลักแมลงต้องการ


     ถ้าเนซึโกะอายุ 11 ปี แสดงว่าตอนนี้ข้าอายุ 12 ปีสินะ... ทันจิโร่นึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ชั่วพริบตาเดียวเขาก็นึกออก ในเมื่อมันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แปรเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล


    หมายความว่า... ช่วงเวลาในตอนนี้คือก่อนหน้าเหตุการณ์นั้น 1 ปี ...เหตุการณ์ที่ครอบครัวของข้าถูกอสูรสังหาร และเนซึโกะถูกทำให้กลายเป็นอสูร

     


    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = (100%)= = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

    13 / 1 / 63 (100%)

    สวัสดีค่ะ

    เนื้อเรื่องฟิคตอนนี้จะดราม่าหน่อยๆ แต่เราไม่ค่อยถนัดแต่งดราม่าเท่าไหร่อาจจะอ่านแล้วติดขัดบ้างนะคะ คงได้แต่ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ ถึงจะพัฒนาขึ้น

    จริงๆ แล้วเราชอบแต่งแนวตลกคอมเมดี้มากๆ เลยนะ แบบตบมุกโบ๊ะบ๊ะ เฮฮาอะไรแบบนี้ คงได้แต่เฝ้ารอให้เซนอิทสึออกมาถึงจะได้แต่ง (ซึ่งคงอีกสักพักเลยล่ะ 555)

    อ้อ! ตอนนี้เรามีแท็คประจำฟิคแล้วนะคะ #ทันจิโร่ในความฝันนิรันดร์ เข้าไปเวิ่นเว้อกันได้น้า

    ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้นต์หรือกดปุ่มให้กำลังใจได้นะคะ!

    แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการค่า

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×