คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความฝันที่ 1 : ความฝันที่ถูกสร้างขึ้น
ความฝันที่
1
ความฝันที่ถูกสร้างขึ้น
เกล็ดหิมะร่วงโรยจากท้องฟ้าปกคลุมผืนดินจนกลายเป็นสีขาวโพลน
สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ถูกหิมะปกคลุมเช่นกัน
บางต้นก็ผลัดใบจนเหลือเพียงแต่กิ่งก้าน บนเส้นทางเดินท่ามกลางหมู่ต้นไม้มุ่งหน้าสู่ยอดเขา
เด็กชายผู้สวมเสื้อลายอิจิมัตสึและใส่ต่างหูลายไพ่ดอกไม้กำลังใช้เส้นทางนั้นเพื่อเดินทางกลับบ้าน
คามาโดะ
ทันจิโร่ คือชื่อของเขา
เขาเป็นเด็กชายที่มีเส้นผมและดวงตาสีแดงโดดเด่นต่างจากคนอื่นๆ
ในครอบครัว ทันจิโร่เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ปัจจุบันครอบครัวของเขามีคุณแม่และน้องชายน้องสาวอีกห้าคน
ถือเป็นครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว
ครอบครัวของทันจิโร่ใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาที่ห่างจากตัวเมืองออกมา
ในแต่ละวันคนในบ้านจะช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง รายได้หลักของบ้านคือการเผาถ่านไม้และนำไปขายในหมู่บ้านซึ่งทันจิโร่และน้องชายคนรอง
‘ทาเคโอะ’ จะเป็นคนดูแลเรื่องนี้ ส่วนในด้านการทำอาหารหรืองานบ้านอื่นๆ รวมทั้งดูแลน้องคนสุดท้อง
‘โรคุตะ’ จะเป็นหน้าที่ของคุณแม่และลูกสาวคนโต
‘เนซึโกะ’ ส่วนน้องชาย ‘ชิเงรุ’ และน้องสาวคนเล็ก ‘ฮานาโกะ’ จะช่วยแบ่งเบาภาระงานของพี่ๆ
แม้จะเป็นครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย
ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย แต่ทุกคนก็มีความสุขมากๆ เป็นชีวิตที่แสนเรียบง่ายและสงบสุข
หน้าหนาวปีนี้อากาศไม่ร้ายแรงนัก
ทันจิโร่จึงสามารถเดินทางลงจากภูเขาเพื่อไปขายถ่านไม้ที่หมู่บ้านได้โดยไม่ยากลำบากนัก
ถ่านไม้ที่ครอบครัวคามาโดะเป็นคนเผาถือเป็นถ่านไม้คุณภาพดีที่สุดในแถบนี้
เนื่องจากเป็นครอบครัวที่ทำงานเกี่ยวกับไฟมาหลายชั่วอายุคน แต่เพราะอาศัยอยู่แถบที่ผู้คนไม่พลุกพล่านจึงทำให้ในแต่ละครั้งที่ลงมาขายถ่านที่หมู่บ้านจะขายถ่านได้ไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่
หากโชคดีบางครั้งจะมีพ่อค้าจากต่างหมู่บ้านเข้ามารับซื้อถ่านไปทั้งหมดเหมือนเช่นในวันนี้
ทำให้ทันจิโร่สามารถเดินทางกลับบ้านได้เร็วขึ้นกว่าทุกครั้ง
‘ดีจังเลยนะที่วันนี้หิมะไม่ได้ตกหนัก
ไม่อย่างนั้นล่ะก็คงต้องค้างแรมที่อื่นอีกหนึ่งคืนแน่ๆ เลย’
ทันจิโร่คิดพลางมุ่งหน้าตรงไป
ในใจนึกถึงสีหน้าดีใจของบรรดาน้องๆ ที่จะได้ทานของอร่อยจากในหมู่บ้าน
ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรือขนมต่างๆ
‘อา... ดีจังเลยนะ ข้าไม่ได้เห็นสีหน้าดีใจของพวกน้องๆ
มานานแค่ไหนแล้วนะ... ใบหน้าสุดท้ายที่ได้เห็นของทุกคนน่ะ...มันคือ...’
เด็กชายผมแดงชะงักกึกเมื่อรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ภาพของคนในครอบครัวที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานปรากฏขึ้นมาในความทรงจำ
ซากศพที่กระจัดกระจายไปทั่วบ้าน กลิ่นคาวเลือดในตอนนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ
น้องสาวที่กลายเป็นอสูร ดาบสีดำที่สะบั้นลงบนลำคอของอสูร
ปราณวารีและระบำฮิโนะคามิคางุระ...
ความทรงจำมากมายไหลผ่านเข้ามาในหัว
ทันจิโร่เบิกตากว้าง เขารีบออกวิ่งในทันทีตั้งใจให้กลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุด
เขานึกออกแล้ว
ชีวิตของเขามันเคยสงบสุขมาก่อนจนกระทั่งครอบครัวโดนอสูรฆ่าตาย
น้องสาวที่เหลือรอดเพียงคนเดียวกลับกลายเป็นอสูรไม่อาจใช้ชีวิตใต้แสงอาทิตย์ได้อีก
ทันจิโร่จึงฝึกฝนและเข้าร่วมกับหน่วยพิฆาตอสูรเพื่อหาทางให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์
ทั้งๆ
ที่เป็นแบบนั้น แต่ทำไมภาพตรงหน้าของเขาถึงได้...
“พี่ทันจิโร่กลับมาแล้ว!”
“ยินดีต้อนรับกลับนะคะพี่ทันจิโร่!”
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เจอร่างเล็กๆ
ของเด็กสองคนที่กำลังเล่นด้วยกัน ทันทีที่เห็นพี่ชายคนโตทั้งสองคนก็เอ่ยต้อนรับแล้วพากันวิ่งเข้ามากอดและออดอ้อนพี่ชายเหมือนทุกครั้ง
รอยยิ้มของฮานาโกะและชิเงรุยังคงสดใสเหมือนภาพในความทรงจำ ทันจิโร่ยิ้มรับพลางเอ่ยทักทายน้องชายและน้องสาว
แม้ในใจจะรู้สึกสับสนและหวาดหวั่นกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ก็ตาม
“พี่กลับมาแล้วล่ะฮานาโกะ
ชิเงรุ...” ทันจิโร่พูดขึ้น พยายามคงสีหน้าไว้ไม่ให้แสดงความผิดปกติใดๆ
“วันนี้พี่ซื้อของอร่อยๆ มาฝากด้วยล่ะ”
ได้ยินดังนั้นเด็กน้อยทั้งสองจึงรีบเข้ามาดูในตะกร้าสะพายหลังของพี่ชาย
ในนั้นบรรจุทั้งอาหารและขนมเป็นจำนวนมากทำเอาเด็กๆ ยิ้มกว้างกว่าเดิม
“ว้าว! ขนมเยอะแยะเลย!!”
“อยากกินเร็วๆ
จัง!
ขอข้ากินเลยได้ไหม?”
“ไม่ได้นะ
ชิเงรุ!
ขนมน่ะต้องกินกับทุกคนสิ!”
“แต่ข้าหิวนี่นา! ฮานาโกะเองก็หิวใช่มั้ยล่ะ?”
“เอาล่ะๆ
เรากลับเข้าไปในบ้านกันก่อนเถอะ” พี่ชายคนโตของบ้านตัดสินใจห้ามทัพ
พลางลูบศีรษะน้องๆ เชิงปลอบประโลม “ข้าได้กลิ่นอาหารโปรดของพวกเจ้าด้วย
แม่กับเนซึโกะคงเตรียมอาหารเสร็จแล้วล่ะ
ไว้หลังจากกินอาหารเย็นแล้วเราค่อยกินขนมกับทุกคนก็ได้นะ แบบนี้ดีมั้ย?”
ได้ยินดังนั้นชิเงรุและฮานาโกะจึงสงบศึกกันในทันที
ทั้งสองคนเอ่ยเสียงใส“ดีเลย งั้นรีบเข้าไปในบ้านกันเถอะ พี่ทันจิโร่!”
หลังจากนั้นทุกคนในบ้านก็มารวมตัวกัน
ทั้งคุณแม่ เนซึโกะ ทาเคโอะ ฮาโนโกะ ชิเงรุและโรคุตะ
ทุกคนร่วมกันจัดสำรับอาหารและนั่งทานอาหารพร้อมหน้ากัน พวกน้องๆ
บางคนก็ขอแย่งกับข้าวในจานของทันจิโร่บ้าง เป็นความวุ่นวายเล็กๆ ที่คนในบ้านคุ้นเคยกันดี
ทันจิโร่มองภาพตรงหน้าด้วยความคิดถึง
‘ถ้าในความเป็นจริง...ข้าได้ทานอาหารพร้อมหน้ากับครอบครัวแบบนี้ก็คงจะดีสินะ...’
แต่มันเป็นไปไม่ได้
ทันจิโร่สูญเสียครอบครัวไปแล้ว น้องสาวคนเดียวที่เหนืออยู่ก็กลายเป็นอสูร ไม่อาจมานั่งทานอาหารของมนุษย์พร้อมหน้ากันแบบนี้ได้อีกแล้ว
ทันจิโร่รู้ตัวแล้วว่าเขากำลังพบเจอกับอะไร
เหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับสิ่งที่เขาเคยพบเจอมาแล้ว
...การที่ได้พบกับครอบครัวที่ตายไปแล้วและได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข
เขาเคยเห็นมันมาก่อน...
ใน ’ความฝัน’
มนต์อสูรโลหิตของอสูรข้างแรมที่หนึ่ง
‘เอนมุ’ อสูรข้างแรมที่ทันจิโร่เคยสังหารตอนขึ้นรถไฟสายที่ชื่อ ‘รถไฟแห่งฝันนิรันดร์’ เป็นมนต์อสูรที่สามารถรังสรรค์ความฝันขึ้นมาเพื่อหลอกล่อเหยื่อและทำลายแก่นแห่งจิตใจ
มันสามารถสร้างความฝันแบบใดขึ้นมาก็ได้ไม่ว่าจะมีความสุขหรือเป็นทุกข์
‘นี่ข้าโดนมนต์อสูรนั่นเล่นงานอีกแล้วงั้นเหรอ...?’ ทันจิโร่คิดก่อนจะหลับตาลงแล้วใช้ประสาทสัมผัสรับรู้กลิ่นที่ลอยฟุ้งในอากาศ
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของอาหาร กลิ่นของคนในครอบครัว ต้นไม้ ใบหญ้า จนในที่สุดเขาก็พบกลิ่นหนึ่งที่แตกต่างไปจากปกติ
‘ใช่จริงๆ ด้วย... มีกลิ่นอสูรจางๆ ปะปนอยู่ เป็นกลิ่นที่เบาบางยิ่งกว่าในความฝันบนรถไฟครั้งนั้นซะอีก
...แถมยังได้กลิ่นแค่ครู่เดียวแล้วมันก็หายไปเลย
ราวกับรู้ตัวแล้วว่าถูกข้าค้นพบแล้ว อสูรตนนั้นคงเป็นผู้สร้างความฝันนี้สินะ’
ในความฝันที่เอนมุสร้างขึ้นเมื่อครั้งนั้น
ทันจิโร่สามารถตื่นจากความฝันที่สร้างจากมนต์อสูรได้เพราะเนซึโกะ
เธอใช้มนต์อสูรโลหิตของเธอเผาร่างของพี่ชาย
มันเป็นไฟที่สามารถลบล้างมนต์อสูรโลหิตของอสูรตนอื่นได้ หากเนซึโกะใช้ไฟของเธอเผาทำลายตั๋วรถไฟที่เป็นตัวการที่ทำให้ต้องมนต์อสูร
จะทำให้สามารถตื่นจากฝันนั้นได้
แต่เพราะในคราแรก
เธอไม่รู้ว่าต้องทำลายสิ่งใดจึงจะทำให้ทันจิโร่ตื่นขึ้นมา จึงใช้ไฟเผากระตุ้นเพื่อเรียกพี่ชายในความฝัน
แม้จะยังไม่ทำให้ตื่นขึ้นมาแต่มนต์อสูรของเนซึโกะก็ส่งผลให้ร่างกายของทันจิโร่ในความฝันเปลี่ยนแปลงไป
จากเด็กชายขายถ่านกลายเป็นเด็กหนุ่มนักล่าอสูร
และในท้ายที่สุด
คำพูดของคุณพ่อในความฝันนั้น คำพูดที่ทำให้ทันจิโร่กลับสู่ความเป็นจริงได้
“ทันจิโร่ จับดาบและตัดในสิ่งที่ควรตัด”
คำพูดนั้นบอกใบ้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างความตายในฝันกับการตื่นในความเป็นจริง
เขาจึงได้ใช้ดาบนิจิรินสะบั้นคอของตนเองแล้วสามารถตื่นขึ้นมาในโลกความเป็นจริงได้
‘หากนี่เป็นความฝันที่สร้างจากมนต์อสูรโลหิตอีกแล้วล่ะก็ แสดงว่าข้ากำลังถูกอสูรโจมตีอยู่! ถ้าไม่รีบตื่นล่ะก็อาจเกิดเรื่องร้ายแรงได้’
ต้องรีบตื่นให้เร็วที่สุด
ในฝันครั้งนี้ทันจิโร่ไม่ได้มีดาบนิจิรินอยู่เป็นอาวุธคู่กาย
เขาจึงต้องมองหาอาวุธอื่นที่จะใช้ตื่นจากฝัน ของมีคมที่อยู่ในบ้านมีเพียงขวานกับมีดที่ใช้ทำครัวเท่านั้น
ทันจิโร่ไม่รอช้า เขาลุกขึ้นแล้วเอ่ยบอกกับครอบครัวว่าตนเองลืมของบางอย่างเอาไว้ระหว่างทางกลับบ้าน
จึงอยากจะกลับไปเอาของสิ่งนั้นกลับมา
“เข้าใจแล้ว
รีบกลับบ้านนะลูก”
ทันทีที่คุณแม่พยักหน้ารับ
ทันจิโร่ทำทีเป็นเดินไปหยิบตะกร้าในครัว พร้อมกับหยิบมีดทำครัวออกไปด้วย
เขาเดินออกจากบ้านแล้วรีบวิ่งตรงเข้าไปในป่าลึก เมื่อเข้าป่ามาได้ลึกพอสมควรแล้ว เด็กชายจึงนั่งคุกเข่าลงพลางแนบคมมีดลงที่ลำคอของตนเอง
เหมือนกับครั้งแรกที่เขาใช้ดาบตัดคอของตนเองเพื่อออกจากความฝันนั่น
‘ต้องรีบตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้!’
คมมีดเชือดเฉือนลำคอ
เลือดสีแดงฉานไหลทะลักพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง
น่าแปลกที่คราวนี้เขากลับไม่ตื่นในทันที ร่างของทันจิโร่ล้มลงบนพื้นหิมะ
เจ็บปวดเกินกว่าจะขยับร่างกาย สายตาพร่ามัว หูเริ่มไม่ได้ยินเสียงอะไร ลมหายใจก็ติดขัดไปหมด
‘น่าแปลก...ทำไม...คราวนี้ถึง...ยังไม่ตื่นสักทีนะ...?’
หรือเพราะว่า...
มีดทำครัวนั้นแตกต่างจากดาบนิจิริน มีดไม่ได้คมถึงขั้นที่ทำให้ตายทันทีเหมือนดาบ
คิดได้ดังนั้น
ทันจิโร่จึงรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายยกมีดขึ้นสูงโดยที่ชี้ปลายมีดมาที่คอของตนเอง
หวังจะแทงซ้ำอีกครั้งให้ถึงตายในทันที ทว่าคมมีดนั้นกลับถูกหยุดเอาไว้ได้ซะก่อน
ภาพที่ปรากฏบนสายตาเลือนรางคือเด็กสาวในชุดกิโมโนลายอาสะโนฮะ
เธอเป็นคนรั้งแขนของพี่ชายเอาไว้เต็มแรง เนซึโกะพูดอะไรบางอย่างด้วยท่าทีกระวนกระวาย
แต่ด้วยตาที่พร่ามัวกับหูที่ไม่ได้ยินเสียงใด ทำให้ทันจิโร่ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่
แต่เขายังรู้สึกได้ถึงกลิ่นความเศร้า
เสียใจ กับน้ำตาของคนตรงหน้าที่หยดลงบนใบหน้าของเขา
ทันจิโร่ใช้ความพยายามสุดท้ายเอื้อมมือขึ้น
ลูบศีรษะของน้องสาวเบาๆ ใบหน้าระบายรอยยิ้มบางเบา เด็กชายอยากจะพูดบอกกับเธอแต่กลับมีเพียงเสียงหอบหายใจที่หลุดพ้นริมฝีปากออกไป
‘ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ เนซึโกะ พี่ไม่ได้ตายจากไปไหน... พี่แค่ต้องลืมตาตื่นและกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้นเอง
เพื่อช่วยให้เธอได้กลับมาเป็นมนุษย์ ได้ใช้ชีวิตภายใต้แสงอาทิตย์ไงล่ะ เพราะฉะนั้น...
อย่าร้องไห้เลยนะ...’
ทันจิโร่คิดก่อนจะหลับตาลง
แล้วทุกอย่างก็ดำมืดไป
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือเพดานไม้ของห้องพักฟื้นในคฤหาสน์ผีเสื้อ
ทันจิโร่กะพริบตาเพื่อปรับสายตาก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง ในห้องนี้เป็นห้องพักเตียงเดี่ยวต่างกับห้องที่เคยมาพักฟื้นคราวก่อน
ข้างเตียงมีสายท่อระโยงระยางต่อเข้ากับแขนทั้งสองข้าง
“ในที่สุดก็ลืมตาสักทีนะคะ
ทันจิโร่คุง”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากบริเวณข้างประตูห้อง
เด็กสาวร่างเล็กผู้สวมฮาโอริลายผีเสื้อและมีผมรวบตึงประดับด้วยเครื่องประดับผมลายผีเสื้อกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้กับโต๊ะตรวจร่างกาย
เสาหลักแมลง ‘โคโจ
ชิโนบุ’ ยังคงมีรอยยิ้มงดงามประดับบนใบหน้าอยู่เสมอ
“คุณชิโนบุ...?”
ทันจิโร่เอ่ยเรียกคนตรงหน้า
ชิโนบุพยักหน้ารับก่อนจะเดินมานั่งใกล้ๆ เตียงของทันจิโร่
“หลังการต่อสู้ที่ย่านโคมแดง
เธอหลับไปตั้งหนึ่งเดือนเลยนะคะ บาดแผลของเธอยังไม่หายดีเลยค่ะ ทันจิโร่คุงต้องทานยาแล้วพักผ่อนให้เยอะๆ
นะคะ”
“ขอบคุณมากเลยครับ...
คุณชิโนบุ”
เด็กหนุ่มผู้สวมต่างหูลายไพ่ดอกไม้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
ก่อนจะถามถึงสหายร่วมศึกด้วยความเป็นห่วง “แล้ว... คนอื่น... เป็นยังไงบ้างครับ..?”
“เซ็นอิทสึคุงกับอิโนะสุเกะคุงยังไม่ได้สติเลยค่ะ
คงนอนหลับไปอีกสักพักใหญ่ๆ ส่วนเสาหลักเสียง คุณอุซุยเขาได้ภรรยาดูแลดีค่ะ พักไม่นานก็กลับมาแข็งแรงดีแล้วล่ะค่ะ”
ทันจิโร่นึกทึ่งในความแข็งแกร่งของเสาหลักเสียงคนนั้นจริงๆ
“ก่อนหน้านี้
ฉันบอกพวกอาโออิกับเด็กคนอื่นๆ ให้แล้วล่ะค่ะ
ว่าอย่ารบกวนทันจิโร่คุงมากนักเพราะแผลยังไม่หายดี” ชิโนบุเอ่ยด้วยรอยยิ้มสบายๆ “อีกสักเดี๋ยวฉันจะไปแจ้งพวกเธอให้นะคะ
ว่าทันจิโร่คุงฟื้นแล้ว เด็กพวกนั้นเป็นห่วงทันจิโร่มากๆ เลยนะคะ
ถ้ารู้ว่าทันจิโร่คุงฟื้นแล้วจะคงดีใจมากเลยค่ะ”
“ต้องขอบคุณจริงๆ...
เลยนะครับคุณชิโนบุ...”
“ค่ะ
พักผ่อนเยอะๆ นะคะ” เสาหลักแมลงกล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืนตั้งใจจะให้คนเจ็บได้นอนพักผ่อนอย่างสงบ
แต่เธอกลับรู้สึกได้ว่าเด็กหนุ่มกำลังมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้กังวลใจอยู่
ชิโนบุจึงเอ่ยถามขึ้น
“มีเรื่องอะไรกังวลใจอยู่รึเปล่าคะ? ทันจิโร่คุง”
“เปล่าหรอกครับ...
ข้าแค่ฝันแปลกๆ” ทันจิโร่บอกพลางนึกถึงฝันเมื่อครู่
ความรู้สึกของคมมีดยังคงติดอยู่ที่คอของเขา “เป็นฝันที่สมจริงมากจนนึกว่าข้าต้องมนต์อสูรโลหิตแบบเดียวกับเหตุการณ์บนรถไฟครั้งนั้นเข้าซะแล้ว...
แต่ดูเหมือนว่าข้าคงเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ”
ชิโนบุนิ่งอึ้งไปในทันทีก่อนจะพยายามทำสีหน้าให้กลับมามีรอยยิ้มนิ่งสงบเหมือนเคย
“...ทันจิโร่คุงช่วยเล่าเกี่ยวกับความฝันนั่นให้ฉันฟังทีได้มั้ยคะ?”
เสาหลักแมลงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้น “บางที...ฉันคิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่ความฝันธรรมดาก็ได้ค่ะ”
=
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = (100%)= = = = = = = = = = = = = = = = = = =
24
/ 12 / 62 (100%)
สวัสดีค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่า KazeRi นะคะ
เขียนฟิคนี้ด้วยแรงติ่งคิเมทสึ และความเมนทันจิโร่ล้วนๆ ค่ะ เนื้อเรื่องหลักของอาจารย์เข้ช่วงนี้กำลังปวดตับได้ที่ เลยมาแต่งฟิคเยียวยาใจนี่ล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะเยียวยาหรือปวดตับมากกว่าเดิมกันแน่ 555
ฟิคนี้ปรับเปลี่ยนบางอย่างจากเนื้อเรื่องหลักนิดหน่อย แต่จะพยายามคงคาแร็กเตอร์ตัวละครเอาไว้ให้เหมือนของดั้งเดิมมากที่สุดนะคะ เพราะเราชอบทันจิโร่ที่สดใสเป็นดวงตะวันของทุกคนในเรื่องคิเมทสึมากๆ เลยค่ะ
ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้นต์หรือกดปุ่มให้กำลังใจได้นะคะ!
แล้วเจอกันใหม่ค่า
ความคิดเห็น