ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Kimetsu no Yaiba] 無限の夢 : Infinity dream : ความฝันนิรันดร์

    ลำดับตอนที่ #1 : ความฝันที่ 1 : ความฝันที่ถูกสร้างขึ้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.53K
      107
      25 ธ.ค. 62


    ความฝันที่ 1


    ความฝันที่ถูกสร้างขึ้น

     




    เกล็ดหิมะร่วงโรยจากท้องฟ้าปกคลุมผืนดินจนกลายเป็นสีขาวโพลน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ถูกหิมะปกคลุมเช่นกัน บางต้นก็ผลัดใบจนเหลือเพียงแต่กิ่งก้าน บนเส้นทางเดินท่ามกลางหมู่ต้นไม้มุ่งหน้าสู่ยอดเขา เด็กชายผู้สวมเสื้อลายอิจิมัตสึและใส่ต่างหูลายไพ่ดอกไม้กำลังใช้เส้นทางนั้นเพื่อเดินทางกลับบ้าน


    คามาโดะ ทันจิโร่ คือชื่อของเขา


    เขาเป็นเด็กชายที่มีเส้นผมและดวงตาสีแดงโดดเด่นต่างจากคนอื่นๆ ในครอบครัว ทันจิโร่เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ปัจจุบันครอบครัวของเขามีคุณแม่และน้องชายน้องสาวอีกห้าคน ถือเป็นครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว


    ครอบครัวของทันจิโร่ใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาที่ห่างจากตัวเมืองออกมา ในแต่ละวันคนในบ้านจะช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง รายได้หลักของบ้านคือการเผาถ่านไม้และนำไปขายในหมู่บ้านซึ่งทันจิโร่และน้องชายคนรอง ทาเคโอะ จะเป็นคนดูแลเรื่องนี้ ส่วนในด้านการทำอาหารหรืองานบ้านอื่นๆ รวมทั้งดูแลน้องคนสุดท้อง โรคุตะ จะเป็นหน้าที่ของคุณแม่และลูกสาวคนโต เนซึโกะ ส่วนน้องชาย ชิเงรุ และน้องสาวคนเล็ก ฮานาโกะ จะช่วยแบ่งเบาภาระงานของพี่ๆ


    แม้จะเป็นครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย แต่ทุกคนก็มีความสุขมากๆ  เป็นชีวิตที่แสนเรียบง่ายและสงบสุข


    หน้าหนาวปีนี้อากาศไม่ร้ายแรงนัก ทันจิโร่จึงสามารถเดินทางลงจากภูเขาเพื่อไปขายถ่านไม้ที่หมู่บ้านได้โดยไม่ยากลำบากนัก ถ่านไม้ที่ครอบครัวคามาโดะเป็นคนเผาถือเป็นถ่านไม้คุณภาพดีที่สุดในแถบนี้ เนื่องจากเป็นครอบครัวที่ทำงานเกี่ยวกับไฟมาหลายชั่วอายุคน แต่เพราะอาศัยอยู่แถบที่ผู้คนไม่พลุกพล่านจึงทำให้ในแต่ละครั้งที่ลงมาขายถ่านที่หมู่บ้านจะขายถ่านได้ไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่ หากโชคดีบางครั้งจะมีพ่อค้าจากต่างหมู่บ้านเข้ามารับซื้อถ่านไปทั้งหมดเหมือนเช่นในวันนี้ ทำให้ทันจิโร่สามารถเดินทางกลับบ้านได้เร็วขึ้นกว่าทุกครั้ง


    ดีจังเลยนะที่วันนี้หิมะไม่ได้ตกหนัก ไม่อย่างนั้นล่ะก็คงต้องค้างแรมที่อื่นอีกหนึ่งคืนแน่ๆ เลย


    ทันจิโร่คิดพลางมุ่งหน้าตรงไป ในใจนึกถึงสีหน้าดีใจของบรรดาน้องๆ ที่จะได้ทานของอร่อยจากในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรือขนมต่างๆ


    อา... ดีจังเลยนะ ข้าไม่ได้เห็นสีหน้าดีใจของพวกน้องๆ มานานแค่ไหนแล้วนะ... ใบหน้าสุดท้ายที่ได้เห็นของทุกคนน่ะ...มันคือ...


    เด็กชายผมแดงชะงักกึกเมื่อรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ


    ภาพของคนในครอบครัวที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานปรากฏขึ้นมาในความทรงจำ ซากศพที่กระจัดกระจายไปทั่วบ้าน กลิ่นคาวเลือดในตอนนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ น้องสาวที่กลายเป็นอสูร ดาบสีดำที่สะบั้นลงบนลำคอของอสูร ปราณวารีและระบำฮิโนะคามิคางุระ...


    ความทรงจำมากมายไหลผ่านเข้ามาในหัว ทันจิโร่เบิกตากว้าง เขารีบออกวิ่งในทันทีตั้งใจให้กลับไปถึงบ้านให้เร็วที่สุด


    เขานึกออกแล้ว


    ชีวิตของเขามันเคยสงบสุขมาก่อนจนกระทั่งครอบครัวโดนอสูรฆ่าตาย น้องสาวที่เหลือรอดเพียงคนเดียวกลับกลายเป็นอสูรไม่อาจใช้ชีวิตใต้แสงอาทิตย์ได้อีก ทันจิโร่จึงฝึกฝนและเข้าร่วมกับหน่วยพิฆาตอสูรเพื่อหาทางให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์


    ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น แต่ทำไมภาพตรงหน้าของเขาถึงได้...


    “พี่ทันจิโร่กลับมาแล้ว!


    “ยินดีต้อนรับกลับนะคะพี่ทันจิโร่!


    เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เจอร่างเล็กๆ ของเด็กสองคนที่กำลังเล่นด้วยกัน ทันทีที่เห็นพี่ชายคนโตทั้งสองคนก็เอ่ยต้อนรับแล้วพากันวิ่งเข้ามากอดและออดอ้อนพี่ชายเหมือนทุกครั้ง รอยยิ้มของฮานาโกะและชิเงรุยังคงสดใสเหมือนภาพในความทรงจำ ทันจิโร่ยิ้มรับพลางเอ่ยทักทายน้องชายและน้องสาว แม้ในใจจะรู้สึกสับสนและหวาดหวั่นกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ก็ตาม


    “พี่กลับมาแล้วล่ะฮานาโกะ ชิเงรุ...” ทันจิโร่พูดขึ้น พยายามคงสีหน้าไว้ไม่ให้แสดงความผิดปกติใดๆ “วันนี้พี่ซื้อของอร่อยๆ มาฝากด้วยล่ะ”


    ได้ยินดังนั้นเด็กน้อยทั้งสองจึงรีบเข้ามาดูในตะกร้าสะพายหลังของพี่ชาย ในนั้นบรรจุทั้งอาหารและขนมเป็นจำนวนมากทำเอาเด็กๆ ยิ้มกว้างกว่าเดิม 


    “ว้าว! ขนมเยอะแยะเลย!!


    “อยากกินเร็วๆ จัง! ขอข้ากินเลยได้ไหม?


    “ไม่ได้นะ ชิเงรุ! ขนมน่ะต้องกินกับทุกคนสิ!


    “แต่ข้าหิวนี่นา! ฮานาโกะเองก็หิวใช่มั้ยล่ะ?


    “เอาล่ะๆ เรากลับเข้าไปในบ้านกันก่อนเถอะ” พี่ชายคนโตของบ้านตัดสินใจห้ามทัพ พลางลูบศีรษะน้องๆ เชิงปลอบประโลม “ข้าได้กลิ่นอาหารโปรดของพวกเจ้าด้วย แม่กับเนซึโกะคงเตรียมอาหารเสร็จแล้วล่ะ ไว้หลังจากกินอาหารเย็นแล้วเราค่อยกินขนมกับทุกคนก็ได้นะ แบบนี้ดีมั้ย?”


    ได้ยินดังนั้นชิเงรุและฮานาโกะจึงสงบศึกกันในทันที ทั้งสองคนเอ่ยเสียงใส“ดีเลย งั้นรีบเข้าไปในบ้านกันเถอะ พี่ทันจิโร่!


    หลังจากนั้นทุกคนในบ้านก็มารวมตัวกัน ทั้งคุณแม่ เนซึโกะ ทาเคโอะ ฮาโนโกะ ชิเงรุและโรคุตะ ทุกคนร่วมกันจัดสำรับอาหารและนั่งทานอาหารพร้อมหน้ากัน พวกน้องๆ บางคนก็ขอแย่งกับข้าวในจานของทันจิโร่บ้าง เป็นความวุ่นวายเล็กๆ ที่คนในบ้านคุ้นเคยกันดี


    ทันจิโร่มองภาพตรงหน้าด้วยความคิดถึง


    ถ้าในความเป็นจริง...ข้าได้ทานอาหารพร้อมหน้ากับครอบครัวแบบนี้ก็คงจะดีสินะ...


    แต่มันเป็นไปไม่ได้ ทันจิโร่สูญเสียครอบครัวไปแล้ว น้องสาวคนเดียวที่เหนืออยู่ก็กลายเป็นอสูร ไม่อาจมานั่งทานอาหารของมนุษย์พร้อมหน้ากันแบบนี้ได้อีกแล้ว


    ทันจิโร่รู้ตัวแล้วว่าเขากำลังพบเจอกับอะไร


    เหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับสิ่งที่เขาเคยพบเจอมาแล้ว ...การที่ได้พบกับครอบครัวที่ตายไปแล้วและได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข


    เขาเคยเห็นมันมาก่อน... ใน ความฝัน


    มนต์อสูรโลหิตของอสูรข้างแรมที่หนึ่ง เอนมุ อสูรข้างแรมที่ทันจิโร่เคยสังหารตอนขึ้นรถไฟสายที่ชื่อ รถไฟแห่งฝันนิรันดร์ เป็นมนต์อสูรที่สามารถรังสรรค์ความฝันขึ้นมาเพื่อหลอกล่อเหยื่อและทำลายแก่นแห่งจิตใจ มันสามารถสร้างความฝันแบบใดขึ้นมาก็ได้ไม่ว่าจะมีความสุขหรือเป็นทุกข์


    นี่ข้าโดนมนต์อสูรนั่นเล่นงานอีกแล้วงั้นเหรอ...? ทันจิโร่คิดก่อนจะหลับตาลงแล้วใช้ประสาทสัมผัสรับรู้กลิ่นที่ลอยฟุ้งในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของอาหาร กลิ่นของคนในครอบครัว ต้นไม้ ใบหญ้า จนในที่สุดเขาก็พบกลิ่นหนึ่งที่แตกต่างไปจากปกติ


    ใช่จริงๆ ด้วย... มีกลิ่นอสูรจางๆ ปะปนอยู่ เป็นกลิ่นที่เบาบางยิ่งกว่าในความฝันบนรถไฟครั้งนั้นซะอีก ...แถมยังได้กลิ่นแค่ครู่เดียวแล้วมันก็หายไปเลย ราวกับรู้ตัวแล้วว่าถูกข้าค้นพบแล้ว อสูรตนนั้นคงเป็นผู้สร้างความฝันนี้สินะ


    ในความฝันที่เอนมุสร้างขึ้นเมื่อครั้งนั้น ทันจิโร่สามารถตื่นจากความฝันที่สร้างจากมนต์อสูรได้เพราะเนซึโกะ เธอใช้มนต์อสูรโลหิตของเธอเผาร่างของพี่ชาย มันเป็นไฟที่สามารถลบล้างมนต์อสูรโลหิตของอสูรตนอื่นได้ หากเนซึโกะใช้ไฟของเธอเผาทำลายตั๋วรถไฟที่เป็นตัวการที่ทำให้ต้องมนต์อสูร จะทำให้สามารถตื่นจากฝันนั้นได้


    แต่เพราะในคราแรก เธอไม่รู้ว่าต้องทำลายสิ่งใดจึงจะทำให้ทันจิโร่ตื่นขึ้นมา จึงใช้ไฟเผากระตุ้นเพื่อเรียกพี่ชายในความฝัน แม้จะยังไม่ทำให้ตื่นขึ้นมาแต่มนต์อสูรของเนซึโกะก็ส่งผลให้ร่างกายของทันจิโร่ในความฝันเปลี่ยนแปลงไป จากเด็กชายขายถ่านกลายเป็นเด็กหนุ่มนักล่าอสูร


    และในท้ายที่สุด คำพูดของคุณพ่อในความฝันนั้น คำพูดที่ทำให้ทันจิโร่กลับสู่ความเป็นจริงได้


    ทันจิโร่ จับดาบและตัดในสิ่งที่ควรตัด


    คำพูดนั้นบอกใบ้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างความตายในฝันกับการตื่นในความเป็นจริง เขาจึงได้ใช้ดาบนิจิรินสะบั้นคอของตนเองแล้วสามารถตื่นขึ้นมาในโลกความเป็นจริงได้


    หากนี่เป็นความฝันที่สร้างจากมนต์อสูรโลหิตอีกแล้วล่ะก็ แสดงว่าข้ากำลังถูกอสูรโจมตีอยู่! ถ้าไม่รีบตื่นล่ะก็อาจเกิดเรื่องร้ายแรงได้


    ต้องรีบตื่นให้เร็วที่สุด

     

    ในฝันครั้งนี้ทันจิโร่ไม่ได้มีดาบนิจิรินอยู่เป็นอาวุธคู่กาย เขาจึงต้องมองหาอาวุธอื่นที่จะใช้ตื่นจากฝัน ของมีคมที่อยู่ในบ้านมีเพียงขวานกับมีดที่ใช้ทำครัวเท่านั้น ทันจิโร่ไม่รอช้า เขาลุกขึ้นแล้วเอ่ยบอกกับครอบครัวว่าตนเองลืมของบางอย่างเอาไว้ระหว่างทางกลับบ้าน จึงอยากจะกลับไปเอาของสิ่งนั้นกลับมา


    “เข้าใจแล้ว รีบกลับบ้านนะลูก”


    ทันทีที่คุณแม่พยักหน้ารับ ทันจิโร่ทำทีเป็นเดินไปหยิบตะกร้าในครัว พร้อมกับหยิบมีดทำครัวออกไปด้วย เขาเดินออกจากบ้านแล้วรีบวิ่งตรงเข้าไปในป่าลึก เมื่อเข้าป่ามาได้ลึกพอสมควรแล้ว เด็กชายจึงนั่งคุกเข่าลงพลางแนบคมมีดลงที่ลำคอของตนเอง เหมือนกับครั้งแรกที่เขาใช้ดาบตัดคอของตนเองเพื่อออกจากความฝันนั่น


    ต้องรีบตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้!’


    คมมีดเชือดเฉือนลำคอ เลือดสีแดงฉานไหลทะลักพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง น่าแปลกที่คราวนี้เขากลับไม่ตื่นในทันที ร่างของทันจิโร่ล้มลงบนพื้นหิมะ เจ็บปวดเกินกว่าจะขยับร่างกาย สายตาพร่ามัว หูเริ่มไม่ได้ยินเสียงอะไร ลมหายใจก็ติดขัดไปหมด


    น่าแปลก...ทำไม...คราวนี้ถึง...ยังไม่ตื่นสักทีนะ...?


    หรือเพราะว่า... มีดทำครัวนั้นแตกต่างจากดาบนิจิริน มีดไม่ได้คมถึงขั้นที่ทำให้ตายทันทีเหมือนดาบ


    คิดได้ดังนั้น ทันจิโร่จึงรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายยกมีดขึ้นสูงโดยที่ชี้ปลายมีดมาที่คอของตนเอง หวังจะแทงซ้ำอีกครั้งให้ถึงตายในทันที ทว่าคมมีดนั้นกลับถูกหยุดเอาไว้ได้ซะก่อน


    ภาพที่ปรากฏบนสายตาเลือนรางคือเด็กสาวในชุดกิโมโนลายอาสะโนฮะ เธอเป็นคนรั้งแขนของพี่ชายเอาไว้เต็มแรง เนซึโกะพูดอะไรบางอย่างด้วยท่าทีกระวนกระวาย แต่ด้วยตาที่พร่ามัวกับหูที่ไม่ได้ยินเสียงใด ทำให้ทันจิโร่ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่


    แต่เขายังรู้สึกได้ถึงกลิ่นความเศร้า เสียใจ กับน้ำตาของคนตรงหน้าที่หยดลงบนใบหน้าของเขา


    ทันจิโร่ใช้ความพยายามสุดท้ายเอื้อมมือขึ้น ลูบศีรษะของน้องสาวเบาๆ ใบหน้าระบายรอยยิ้มบางเบา เด็กชายอยากจะพูดบอกกับเธอแต่กลับมีเพียงเสียงหอบหายใจที่หลุดพ้นริมฝีปากออกไป


    ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ เนซึโกะ พี่ไม่ได้ตายจากไปไหน... พี่แค่ต้องลืมตาตื่นและกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้นเอง เพื่อช่วยให้เธอได้กลับมาเป็นมนุษย์ ได้ใช้ชีวิตภายใต้แสงอาทิตย์ไงล่ะ เพราะฉะนั้น... อย่าร้องไห้เลยนะ...


    ทันจิโร่คิดก่อนจะหลับตาลง แล้วทุกอย่างก็ดำมืดไป    

     

     




    เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือเพดานไม้ของห้องพักฟื้นในคฤหาสน์ผีเสื้อ ทันจิโร่กะพริบตาเพื่อปรับสายตาก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง ในห้องนี้เป็นห้องพักเตียงเดี่ยวต่างกับห้องที่เคยมาพักฟื้นคราวก่อน ข้างเตียงมีสายท่อระโยงระยางต่อเข้ากับแขนทั้งสองข้าง


    “ในที่สุดก็ลืมตาสักทีนะคะ ทันจิโร่คุง”


    เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากบริเวณข้างประตูห้อง เด็กสาวร่างเล็กผู้สวมฮาโอริลายผีเสื้อและมีผมรวบตึงประดับด้วยเครื่องประดับผมลายผีเสื้อกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้กับโต๊ะตรวจร่างกาย เสาหลักแมลง โคโจ ชิโนบุ ยังคงมีรอยยิ้มงดงามประดับบนใบหน้าอยู่เสมอ


    “คุณชิโนบุ...?”


    ทันจิโร่เอ่ยเรียกคนตรงหน้า ชิโนบุพยักหน้ารับก่อนจะเดินมานั่งใกล้ๆ เตียงของทันจิโร่


    “หลังการต่อสู้ที่ย่านโคมแดง เธอหลับไปตั้งหนึ่งเดือนเลยนะคะ บาดแผลของเธอยังไม่หายดีเลยค่ะ ทันจิโร่คุงต้องทานยาแล้วพักผ่อนให้เยอะๆ นะคะ”


    “ขอบคุณมากเลยครับ... คุณชิโนบุ”


    เด็กหนุ่มผู้สวมต่างหูลายไพ่ดอกไม้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ก่อนจะถามถึงสหายร่วมศึกด้วยความเป็นห่วง “แล้ว... คนอื่น... เป็นยังไงบ้างครับ..?”


    “เซ็นอิทสึคุงกับอิโนะสุเกะคุงยังไม่ได้สติเลยค่ะ คงนอนหลับไปอีกสักพักใหญ่ๆ ส่วนเสาหลักเสียง คุณอุซุยเขาได้ภรรยาดูแลดีค่ะ พักไม่นานก็กลับมาแข็งแรงดีแล้วล่ะค่ะ”


    ทันจิโร่นึกทึ่งในความแข็งแกร่งของเสาหลักเสียงคนนั้นจริงๆ


    “ก่อนหน้านี้ ฉันบอกพวกอาโออิกับเด็กคนอื่นๆ ให้แล้วล่ะค่ะ ว่าอย่ารบกวนทันจิโร่คุงมากนักเพราะแผลยังไม่หายดี” ชิโนบุเอ่ยด้วยรอยยิ้มสบายๆ “อีกสักเดี๋ยวฉันจะไปแจ้งพวกเธอให้นะคะ ว่าทันจิโร่คุงฟื้นแล้ว เด็กพวกนั้นเป็นห่วงทันจิโร่มากๆ เลยนะคะ ถ้ารู้ว่าทันจิโร่คุงฟื้นแล้วจะคงดีใจมากเลยค่ะ”


    “ต้องขอบคุณจริงๆ... เลยนะครับคุณชิโนบุ...”


    “ค่ะ พักผ่อนเยอะๆ นะคะ” เสาหลักแมลงกล่าวก่อนจะลุกขึ้นยืนตั้งใจจะให้คนเจ็บได้นอนพักผ่อนอย่างสงบ แต่เธอกลับรู้สึกได้ว่าเด็กหนุ่มกำลังมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้กังวลใจอยู่


    ชิโนบุจึงเอ่ยถามขึ้น “มีเรื่องอะไรกังวลใจอยู่รึเปล่าคะ? ทันจิโร่คุง”


    “เปล่าหรอกครับ... ข้าแค่ฝันแปลกๆ” ทันจิโร่บอกพลางนึกถึงฝันเมื่อครู่ ความรู้สึกของคมมีดยังคงติดอยู่ที่คอของเขา “เป็นฝันที่สมจริงมากจนนึกว่าข้าต้องมนต์อสูรโลหิตแบบเดียวกับเหตุการณ์บนรถไฟครั้งนั้นเข้าซะแล้ว... แต่ดูเหมือนว่าข้าคงเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ”


    ชิโนบุนิ่งอึ้งไปในทันทีก่อนจะพยายามทำสีหน้าให้กลับมามีรอยยิ้มนิ่งสงบเหมือนเคย


    “...ทันจิโร่คุงช่วยเล่าเกี่ยวกับความฝันนั่นให้ฉันฟังทีได้มั้ยคะ?” เสาหลักแมลงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้น “บางที...ฉันคิดว่านั่นอาจจะไม่ใช่ความฝันธรรมดาก็ได้ค่ะ”

     


    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = (100%)= = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

    24 / 12 / 62 (100%)

    สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่า KazeRi นะคะ

    เขียนฟิคนี้ด้วยแรงติ่งคิเมทสึ และความเมนทันจิโร่ล้วนๆ ค่ะ เนื้อเรื่องหลักของอาจารย์เข้ช่วงนี้กำลังปวดตับได้ที่ เลยมาแต่งฟิคเยียวยาใจนี่ล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะเยียวยาหรือปวดตับมากกว่าเดิมกันแน่ 555  

    ฟิคนี้ปรับเปลี่ยนบางอย่างจากเนื้อเรื่องหลักนิดหน่อย แต่จะพยายามคงคาแร็กเตอร์ตัวละครเอาไว้ให้เหมือนของดั้งเดิมมากที่สุดนะคะ เพราะเราชอบทันจิโร่ที่สดใสเป็นดวงตะวันของทุกคนในเรื่องคิเมทสึมากๆ เลยค่ะ

    ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้นต์หรือกดปุ่มให้กำลังใจได้นะคะ!

    แล้วเจอกันใหม่ค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×