คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : บทสรุปของแผนการณ์
บารามอส
ตอนที่ 36
เช้าวันนี้ของป้อมอัศวิน เปิดประเดิมด้วยวิชาของอาจารย์เจ้าชายชามัล ที่กัสรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่วันนี้ซิบิลมานั่งประกบโรแทนเขา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เพราะเขาต้องการนั่งกับโคลว์มากกว่า แต่เหมือนกันสวรรค์เป็นใจ ที่ปกติโคลว์จะนั่งกับอาชูร่า แต่วันนี้อาชูร่าย้ายไปนั่งกับทิวดอร์แทน ทำให้เขาได้นั่งกับโคลว์สมใจ
นักบวชหนุ่มเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และดูเหมือนทุกคนในป้อมจะเป็นใจเป็นอย่างมากที่วิชาฟันดาบเขาก็ได้คู่กับโคลว์อีก เพราะทุกคนล้วนแต่มีคู่กันหมดแล้ว
แต่ดูเหมือนกับจะมีอะไรสักอย่างที่กัสคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก อาจเป็นเพราะความรักทำให้ตาบอด นอกจากนั่งสบตากับโคลว์แล้ว เขาก็ไม่ได้เฉลียวใจกับพฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนร่วมป้อมที่พร้อมใจกันไม่มารบกวนเวลาของเขาอยู่กับโคลว์ ถ้าเป็นเวลาปกติเขาก็คงรู้สึกตงิดใจกับเรื่องแปลกๆนี้บ้างหรอก แต่เพราะตอนนี้เจอกับตัวเองทำให้นึกไม่ถึง
เด็กหนุ่มผมสีชาอ่อนมองดูนักบวชแห่งบารามอสที่วันนี้ดูจะทำตัวติดกับเขาเป็นพิเศษ
"ซิบิล ฉันคิดว่าเราคงต้องมีเรื่องพูดกันนิดหน่อยใช่มั้ย" ขอทานหน้าหวานส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เมทร่วมห้องรู้สึกหนาวๆเล็กน้อย
"เรื่องอะไรหรือโร" นักบวชหน้าหวานถามเสียงสั่นเล็กน้อย
"ก็เรื่องที่นายน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าฉันหมายถึงอะไร" รอยยิ้มที่เลียนแบบหวานใจมา เวลาอยากข่มขู่ใครสักคนถูกส่งให้นักบวชหนุ่ม
"ก็ได้ ไว้ฉันเล่าให้นายฟังตอนอยู่ที่ห้องก็แล้วกัน" ซิบิลตอบอย่างยอมจำนน
ตอนเย็นที่กัสยังผูกตัวติดกับว่าที่หวานใจ เอ็ดเวิร์ดก็เดินมากระซิบกระซาบข้างหูของโคลว์ ส่งผลให้กัสเริ่มหน้านิ่งคิ้วขมวด และยิ่งผูกโบว์มากขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มร่างบางขอตัวเดินออกไปกับเพื่อนร่วมเมือง
สร้างความสงสัยปนหึงเมื่อเห็นทั้งคู่เดินออกไปที่สวน ทำให้เขาต้องเดินตามออกไป
ที่สวนหลังป้อมอัศวิน ร่างสองร่างนั่งชิดกันอยู่ เอ็ดเวิร์ดดูสีหน้าเคร่งเครียด โคลว์เอื้อมมือไปกุมมือนักบวชเพื่อนสนิท ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะโผเข้าไปกอดโคลว์ ซึ่งอีกฝ่ายก็กอดตอบลูบหลังอีกฝ่ายกลับ แต่กัสไม่ได้ยินเรื่องที่ทั้งสองพูดกัน แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่อาจควบคุมตัวเองได้จนต้องเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่
"โคลว์เป็นคนรักของฉัน" เด็กหนุ่มผมสีเงินดวงตาสีฟ้าส่อแววจริงจัง
โคลว์มองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง สีหน้าแดงจัด แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำปฎิเสธอะไรออกไป นอกจากมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง
"ฉันรู้แล้ว" เอ็ดเวิร์ดบอกสีหน้ายิ้มๆ ก่อนหันไปทางโคลว์ตบไหล่อีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนเดินออกมาปล่อยให้ทั้งคู่สวีทกันต่อ
"เอ็ดเวิร์ดมาพูดอะไรกับนาย" กัสถามเสียงเข้ม กับอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจากความหึงหวงอีกฝ่าย
"เอ็ดเวิร์ดแค่มาปรึกษาเรื่องที่เจคมาบอกรักนะ" โคลว์บอกสีหน้าเข้ม
กัสอ้าปากค้างกับเรื่องที่ได้ยิน แน่นอนนี่เรื่องมันกลับตาลปัตรไปหมด
"นายจะมาเป็นคนรักของฉันได้มั้ย" กัสถามอีกฝ่ายทันที เมื่อตั้งตัวติด
"แล้วนายคิดอย่างไรกับฉัน" โคลว์ย้อนถามอีกฝ่ายกลับ
"อา ฉันลืมไป ฉันชอบนาย ตามหามาตลอดตั้งแต่เจอกันช่วงปิดเทอม แล้วนายล่ะ คิดอย่างไรกับฉัน" กัสถามอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลสีหน้าแดงจัด ก่อนพยักหน้าแทนคำตอบ ส่งผลให้เด็กหนุ่มผมสีเงินยาวกอดร่างบางตรงหน้าแน่น มือเรียกไข่มุกแสงจันทร์มา ก่อนใส่ให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
ดวงตาสีเขียวมองสบดวงตาสีฟ้าก่อนที่ภาพเบื้องหน้าจะพร่า รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นที่ริมฝีปาก
ที่ห้องนั่งเล่นรวมของชั้นปีสี่ เหล่าถ้ำมองกำลังสนุกกับเรื่องราวที่สวนหลังป้อม แน่นอนเอ็ดเวิร์ดกับผองเพื่อนต่างก็คำนวณมุมกันเรียบร้อยแล้วเพื่อความสะดวกในการจับตามอง ก่อนพาโคลว์ไปยังมุมที่เห็นชัดที่สุดจากห้องนั่งเล่นรวมของชั้นปี
"อย่างนี้ก็ต้องฉลอง" อาชูร่าบอก
"เห็นด้วย" ทิวดอร์เสริมสีหน้ารื่นเริง
"นั่นสิงานนี้พวกเราอุตส่าห์ยอมเสียชื่อเป็นป้อมไบฯกันหมดนี่" เจคว่า
ที่มุมห้องขอทานกิตติมาศักดิ์กำลังดวลหมากกับหัวขโมย ดวงตาสีเขียวมองสบดวงตาสีน้ำตาลอย่างเท่าทัน แน่นอนงานนี้คนตรงหน้ามีหรือที่จะไม่มีเอี่ยว
"พวกนั้นได้ความคิดพวกนี้มาจากไหน"ขอทานแห่งทริสทอร์เกริ่นเรื่องที่สงสัย
"ตาดู หูฟังมั้ง" หัวขโมยมากเล่ห์ตอบแบบไม่ให้เข้าตัว
ดวงตาสีเขียวมองดูอีกฝ่าย แน่นอนสายตาแบบเจ้าชายอาเทอร์ใช้ไม่ได้ผลกับหัวขโมย ที่ได้รับการฝึกฝนสายตาแบบคาโนวาลมาจนชินชา
"รุ่นพี่อาเทอร์ติดต่อมาบ้างหรือเปล่าหืมโร" รอยยิ้มหวานส่งให้หลังคำถาม
"เห็นว่ากำลังจะลงสนามประลองชิงตำแหน่งกษัตริย์ เพราะคิงกาเบรียลจะสละราชบรรลังก์แล้ว" โรขยายความ
"อืมว่าที่ราชินีแน่ซาเรสสินะ" เสียงหยอกล้ออีกฝ่าย
"คงสู้ว่าที่ราชินีแห่งคาโนวาลไม่ได้หรอก" เสียงย้อนกลับแบบเท่าทัน
"รุกฆาต" เสียงหวานของหัวขโมยตัดสินผลเกมหมากทันที
"อีกเกมน่า" เสียงต่อรองของว่าที่ราชินีแห่งซาเรสบอก ก่อนเริ่มเรียงหมากใหม่ในกระดานต่อ
"อีกแล้วเหรอ " เสียงโอดครวญดังมาเป็นระยะแต่ก็ไม่ได้ลุกหนีไปไหน เพราะตอนนี้ไอ้หัวหน้าป้อมไม่อยู่ไปธุระกับปราสาทขุนนาง แถมหนีบเอาไอ้คิลกับนิกส์ไปด้วย ทำให้เขาต้องอยู่ห้องคนเดียว ส่งผลให้ต้องมาเล่นหมากแก้เซ็งกับไอ้ขอทานตัวดี
เสียงเฮฮาดังมาเป็นระยะกับกลุ่มนักวางแผน
"จริงสิวันนี้พวกนายมานอนค้างห้องฉันไหม" เจคหันไปถามทิวดอร์กับอาชูร่า
"โอเป็นเดทสองคู่เลยเหรอ" ทิวดอร์หันไปแซวเจคกับเอ็ดเวิร์ด
"งั้นฉันเปิดทางให้พวกแกทั้งสองคู่ก็ได้ ฉันไปค้างห้องนายนะซิบิล" ซอร์โรตะโกนรับมุขทันที
"ได้อย่างนั้นก็ดี" เอ็ดเวิร์ดรับคำยิ้มๆ
เรียกเสียงฮาจากพลพรรคในชั้นปี ตามด้วยเสียงเป่าปาก ที่เจคโอบบ่าเอ็ดเวิร์ดโชว์หวิว
"พวกนายทำอะไรกันนะ" เสียงแหวจากหนึ่งในสามนางฟ้าที่พึ่งกลับมาจากห้องสมุด เคียงข้างกับหวานใจนักรบแห่งไนล์
"ก็อย่างที่เธอเห็นนั่นแหละแองจี้" ซอร์โรบอกเสียงปนหัวเราะ
"พวกนายมีปาร์ตี้ก็ไม่บอก ฉันจะได้เอาของฝากจากบ้านมาร่วมแจมด้วย" ครี้ดบอกเสียงสนุกสนาน แน่นอนสำหรับเขาตอนนี้โลกเป็นสีชมพูนี่น่า
"ปาร์ตี้คนโสดโว้ย คนมีแฟนแล้วไม่เกี่ยว" เดทตะโกนตอบเรียกเอาสีหน้าแดงจัดจากสองผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี
สามหนุ่มป้อมอัศวินที่พึ่งกลับมาจากการประชุมร่วมกับปราสาทขุนนาง ที่เฟรินส่งนิกส์ไปแทนตัวเองอ้างว่าปวดหัวแถมด้วยเหตุผลที่คาโลต้องส่ายหน้าว่าถ้าพานิกส์ไปด้วยการประชุมจะเสร็จเร็ว เพราะเสธฯฝ่ายซ้ายของปราสาทขุนนางจะไม่หาเรื่องต่อหน้านักดนตรีหนุ่มหวานใจ
ทั้งสามเดินลัดผ่านทางสวนหลังป้อม เพื่อตัดขึ้นทางด้านหลังป้อม แต่สิ่งที่สะดุดตาพวกเขาคงเป็นร่างคนสองคนที่นั่งแนบกันแบบที่โคลว์เกือบนั่งบนตักของอีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่นักบวชแห่งกิลดิเรกทั้งคู่ดูจะไม่สนใจสิ่งรอบตัวสักเท่าไร
"ท่าทางพวกนายจะได้เพื่อนร่วมชมรมเพิ่มแล้วมั้ง" นิกส์บ่นยิ้มๆกับภาพที่เห็น
"เฮ้ย พวกมัน .. ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย แล้วนางไม้ของกัสมันไปอยู่ไหนแล้วเนี่ย" คิลพึมพำอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์
ดวงตาสีม่วงมองสบกับดวงตาสีฟ้าอย่างสงสัย
"ฉันคิดว่าเฟรินคงมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้แน่" คาโลบอก แน่นอนเรื่องรวดเร็วแบบนี้ ต้องมีเบื้องหลังอยู่แล้ว เพราะมันดูไม่ได้มีท่าทีอะไรมาก่อน
ตกดึกในห้องหัวหน้าชั้นปีสี่ สามสหายยังคงนอนเตียงเรียงติดกันตามปกติ (แน่นอนพวกเขานอนแบบนี้เป็นปกติ แต่ไม่ปกติสำหรับผู้อื่นที่พบเห็น และยิ่งเป็นการคอนเฟริ์มเรื่องข่าวลือให้แน่ชัดเข้าไปอีก)
"ตกลงเรื่องกัสกับนางไม้ว่าไงหือเฟริน" คาโลเริ่มเรื่องหลังจากเห็นเจ้าตัวดีออกมาจากห้องน้ำ หลังอาบน้ำเสร็จ
"ก็อย่างที่นายเห็นที่สวนหลังป้อมนั่นแหละ" เฟรินบอกสั้นๆ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคงเห็นเจ้าพวกสองคนนั่น เนื่องจากเจ้าชายตัวดีสีหน้าเข้มขึ้นมาตั้งแต่กลับมาจากปราสาทขุนนาง ยิ่งผิวขาวแบบมันเนี่ยยิ่งสังเกตุเห็นง่าย
"นายทำอะไรกับพวกนั้นนะ" คาโลซักอย่างสงสัย
"ฉันไม่ได้ทำอะไรกับพวกมันสักหน่อย พวกไอ้เจคมันจัดการกันเองต่างหาก" เฟรินออกตัวทันที
"หมายความว่าโคลว์คือนางไม้คนนั้นใช่มั้ย" คิลสรุปอย่างใจร้อน
"ก็ใช่" เฟรินพยักหน้ายอมรับ
"แล้วไอ้หัวหน้าชมรมบ้าเนี่ยมันความคิดใคร" คาโลที่ตอนนี้นัยน์ตาเย็นเฉียบมองสบดวงหน้าหวานของคนรักอย่างที่อารมณ์เริ่มปะทุ กับตำแหน่งใหม่ที่เพื่อนร่วมป้อมยกให้
"อ้อชมรมอนุรักษ์ป่าไม้นั่นนะเหรอ" เฟรินทวนเสียงปนขบขัน เมื่อนึกถึงพวกเพื่อนที่เริ่มจากการโวยวายของแองจี้ กับการยั่วของเพื่อนที่ออกมายอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าเป็นคู่รักกันของทิวดอร์กับอาชูร่า และเจคกับเอ็ดเวิร์ด แถมท้ายด้วยซอร์โรที่บอกว่าจะพ่วงเอาทั้งซิบิลและเดท โดยให้เหตุผลสุดกวนประสาทว่าเพราะป้อมอัศวินมีผู้หญิงน้อย จึงสมควรจับคู่กันเองไปก่อน ตามด้วยลงชื่อสมัครเข้าชมรมกันอย่างพร้อมเพรียง และบอกให้โรขอเจ้าชายอาเทอร์เป็นที่ปรึกษากิตติมาศักดิ์ของชมรมให้
เจ้าชายแห่งคาโนวาลไม่เคยรู้สึกปวดหัวแบบนี้มาก่อน ถ้าทำได้เขาก็อยากตัดลิ้นมันทั้งหมด โดยเฉพาะไอ้คนข้างตัวที่ขยันสร้างเรื่องเข้าใจผิดให้คนอื่นเสียเหลือเกิน ที่สำคัญมันปกปิดความลับได้มิดชิดจริงๆ จนป่านนี้แล้วคนที่รู้ว่ามันเป็นเจ้าชายแห่งบารามอสและเดมอสมีแทบนับคนได้ ผิดกับพวกเจ้าชายที่ออกเร่รอนที่พวกเพื่อนๆเริ่มจับไต๋ได้แล้วว่าตัวจริงพวกมันเป็นใคร
"นายก็อย่าสร้างเรื่องให้มันมากนักสิ" คาโลบ่นเบาๆ
"แล้วเรื่องแบบนี้ไม่ดีตรงไหนเหรอ" เสียงหวานถามเขยิบตัวเข้ามาใกล้อีกฝ่ายอย่างยั่วยวน ช้อนตาขึ้นมองสบอีกฝ่าย นัยน์ตาสีน้ำตาลวาวหวาน หลอมละลายน้ำแข็งในชั่วพริบตา
เจอลูกอ้อนของลูกจ้าวปีศาจข้างกายทำเอาเจ้าชายน้ำแข็งใจอ่อนอีกวาระ กำลังก้มลงจุมพิตหวานใจตัวจริงก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงเปิดประตู
"คาโล เอ่อ " กัสหน้าแดงทันทีเมื่อเห็นภาพในห้อง ส่วนคิลที่นั่งอ่านหนังสือที่มุมโปรดของตัวเองนะชินแล้วกับภาพไอ้สองตัวดีที่เห็นมาสี่ปีแถมไม่เว้นช่วงปิดเทอม
"มีเรื่องอะไรเหรอกัส" คาโลถามเสียงเข้มเล็กน้อยเพราะความเขิน
"ฉันจะมาขอเปลี่ยนห้องนะ" กัสเข้าเรื่องที่ธุระทันที
"นายจะเปลี่ยนเองหรือให้โคลว์เปลี่ยนล่ะ" เฟรินเข้าประเด็น แววตาสีน้ำตาลเป็นประกายสนุก นึกขำไอ้นักบวชขี้หึง
"ฉันอยากให้โคลว์มาอยู่ห้องฉันนะ" กัสบอกเสียงอ้อมแอ้ม ถึงแม้จะรู้เรื่องว่าอาชูร่ากับทิวดอร์คบกันมั้ง (รู้จากโคลว์ปรึกษา) แต่ก็ไม่มั่นใจว่าพวกนั้นจะไม่จับนางไม้ของเขากด เพราะอดใจต่อความน่ารักของนางไม้เขาไม่ได้
"แต่ฉันว่าโคลว์อยู่กับนายจะอันตรายมากกว่าอยู่กับคนอื่นนะ" เฟรินออกความเห็น
"แล้วนายจะเอายังไง" กัสถามเสียงเริ่มไม่สบอารมณ์
"ก็ให้นายสองคนสลับห้องกันสิ เพราะอย่างไรโรกับซิบิลก็ไม่เข้าหาโคลว์อยู่แล้ว" เฟรินบอกอย่างตัดสินใจเด็ดขาด
"ก็ดีเหมือนกัน" กัสยอมรับอย่างเห็นด้วย
ลับหลังเจ้าชายหนุ่มแห่งกิลดิเรก สองหัวหน้าชั้นปีก็เริ่มหันมองหัวขโมยตัวดีทันที
"มีอะไร" เฟรินถามอย่างสงสัย
"ก็เรื่องไอ้โรฉันก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่ามันไม่ยุ่งกับโคลว์แน่นอน แต่ซิบิลนี่มีคนรักแล้วเหรอ" คิลเรื่องถามอย่างสนใจเต็มที่ คาโลก็หันมองอย่างสนใจไม่แพ้กัน
"อืมก็มีแล้วหรอกนะ แต่พวกนายไม่รู้เอง" เฟรินว่า
"ใครเหรอ" คิลถามเสียงกระตือรือร้นเต็มที่
"ก็ไดแอน เพื่อนสนิทของวิเวียนไง" เฟรินเฉลยเมื่อได้กระตุ้นต่อมความอยากรู้ของเพื่อนร่วมห้องสักพัก
"ตั้งแต่เมื่อไหร่" เจ้าชายพูดน้อยแห่งคาโนวาลเผลอซักต่ออย่างสนใจ
"ก็ตั้งแต่งานเต้นรำปราสาทขุนนางเมื่อปีที่แล้วไง" เฟรินบอกปนหัวเราะกับท่าทีของนักบวชแห่งบารามอสกับสาวสวยรุ่นน้อง
สามหนุ่มแห่งป้อมก็เริ่มล้อมวงสนทนากันทันที เพื่ออัพเดทข่าวสารกันต่อ
ความคิดเห็น