ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮรี่ ภาคอลวนฮอกวอตส์

    ลำดับตอนที่ #13 : ควิชดิชเวิล์ดคัพ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      4
      29 ส.ค. 49

    บทที่ 13 ควิชดิชเวิล์ดคัพ

    ยามเช้าที่สดใสของบ้านวิสลีย์

    "สวัสดีจ๊ะแฮรี่ ตื่นเช้าจังนะจ๊ะ" นางมอลลี่ทักทายกับเด็กหนุ่มผมดำที่ตื่นลงมาที่ครัวเป็นคนแรก

    "สวัสดีฮะคุณมอลลี่"แฮรี่กล่าวอรุณสวัสดิ์ ก่อนไปช่วยเตรียมทำอาหารเช้า

    "รอนล่ะจ๊ะ"มอลลี่ถามหาบุตรชาย

    "กำลังอาบน้ำ เดี๋ยวคงลงมาฮะ" แฮรี่ตอบ ขณะจัดจานสำหรับอาหารเช้า

    "หวัดดีฮะแม่" รอนกล่าวทักทายเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัวเป็นคนที่สอง

    "เด็กๆช่วยไปปลุกคนอื่นๆหน่อยนะจ๊ะ"นางมอลลี่ใช้ เมื่อเตรียมอาหารเช้าเสร็จ

    "ครับ"สองเพื่อนซี้ตอบรับ ก่อนเดินขึ้นชันบนไป เคาะประตูห้องแรกของนายอาเทอร์

    "พ่อครับ อาหารเช้าเสร็จแล้วฮะ" รอนบอก

    "รู้แล้ว พ่อเกือบเสร็จแล้ว เดี๋ยวลงไป" นายอาเทอร์ตะโกนบอกออกมา

    "เพอร์ซี่ อาหารเช้า" รอนตะโกนบอกห้องถัดมา ก่อนเดินเลยไปห้องจินนี่ เคาะประตูเรียก

    "รู้แล้วพี่รอน เกือบเสร็จแล้วค่ะ" จินนี่บอก

    "ชาลี กับบิลไม่อยู่ตอนนี้ไปทำงานทั้งคู่เลย" รอนหันมาบอกแฮรี่

    ก่อนเดินไปสุดทางเดิน แต่ไม่ใช่ชั้นสูงสุด เพราะห้องใต้หลังคาเป็นของรอน แต่ห้องของสองฝาแฝดอยู่มุมสุดของบ้าน มีปล่องไฟในห้องที่พ่อพึ่งต่อเติมให้เป็นพิเศษ
    เพราะการทดลองประหลาดของสองฝาแฝด บางทีก็ส่งกลิ่น ไม่ก็เสียงรบกวนชาวบ้าน จึงได้ย้ายมาห้องริมสุด

    "ไม่ต้องเคาะประตู ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะตื่นแล้ว แต่กำลังทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ " รอนกระซิบบอกแฮรี่ อย่างอยากรู้อยากเห็นผลงานใหม่ของสองฝาแฝด

    เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ก่อนตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น

    เฟร็ดกำลังอยู่ด้านบนของจอร์จ โดยมีขาของจอร์จอยู่บนบ่าสองข้าง แขนของจอร์จโอบรอบคอเฟร็ดโน้มหน้าอีกฝ่ายลงมาจูบอย่างดูดดื่ม

    ทั้งรอนและแฮรี่ยืนตัวแข็งอยู่สักพัก ก่อนสองฝาแฝดจะหันมาเห็น

    "นายจะยืนดูอีกนานไหมรอน"เฟร็ดหันมาบอกอย่างขัดใจ

    "ขะ ขอโทษครับ แต่เสร็จแล้วช่วยไปทานอาหารเช้าด้วยครับ" แฮรี่ที่หน้าแดงแปร๊ด บอกก่อนลากตัวรอนที่แข็งเป็นหินออกมาจากห้องพี่ชายอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องนอนของรอนอยู่สักพัก ก่อนลงไปทานอาหารเช้า

    เช้านั้นทุกคนต้องแปลกใจกับสองหนุ่มที่ไม่พูดอะไรเลย ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว

    "หิวมากหรือจ๊ะแฮรี่ เติมอีกไหมจ๊ะ" นางมอลลี่ถาม

    "ขอบคุณครับ แต่ผมอิ่มแล้ว" แฮรี่ที่ยังหน้าแดงไม่หายตอบกลับ ก่อนก้มมองดูจานต่อ รอนก็เช่นเดียวกัน

    หลังทานอาหารเช้าเสร็จทั้งคู่จะไปรับเฮอร์ไมโอนี่โดยผ่านทางเตาผิง ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่รับปากว่าจะทำความสะอาดเตาผิงที่บ้านให้ก่อน

    "บ้านเฮอร์ไมโอนี่" รอนบอกก่อนโรงผงสีเขียวหน้าเตาผิงก่อนหายตัวไป แฮรี่ตามหลังไปติดๆ

    "รอน แฮรี่ ยินดีที่เจอพวกเธอ" เฮอร์ไมโอนี่ทักทาย ก่อนแนะนำให้รู้จักกับพ่อ แม่

    ทั้งหมดทักทายกัน ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะเก็บของเสร็จ ทั้งสามจึงเดินทางกลับบ้านโพรงกระต่ายด้วยผงฟลูที่รอนพกติดมาด้วย โดยแฮรี่เข้าไปก่อน ตามมาด้วยเฮอร์ไมโอนี่ ปิดท้ายด้วยรอนที่ขนของเฮอร์ไมโอนี่ตามมาด้วย

    "พวกนายไม่สบายหรือ" เฮอร์ไมโอนี่ถามขณะจัดของไว้ในห้องของชาลี เพราะขณะนี้เจ้าตัวไม่อยู่บ้านทำให้ห้องว่าง

    "ไม่ใช่หรอก แค่เราไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นมาเท่านั้นนะ" แฮรี่บอกสีหน้ายังเป็นสีชมพูอยู่ ส่วนรอนเมื่อพูดถึงก็ขึ้นสีแดงแจ๋ต่อเหมือนเดิม

    "พวกนายไปเห็นอะไรหรือ"เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัยกับอาการของเพื่อน

    "ก็พวกเขาเข้ามาขัดจังหวะพวกเรา กายบริหารยามเช้าไง" เฟร็ดบอก เดินมาพร้อมหูฟังยาวสีเนื้อ

    "นั่นอะไรนะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

    "หูแอบฟังไงล่ะ ทาบไว้ที่ประตู ก็จะได้ยินเสียงชัดแจ๋วราวกับอยู่ในห้องเลย" เฟร็ดบอก

    "วิเศษไปเลยค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างทึ่ง

    "นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อ กับ แม่ ล่ะ" เฟร็ดบอกสีหน้าจริงจัง

    "พวกผมไม่บอกอยู่แล้วล่ะ" รอนให้สัญญา ทำให้เฟร็ดเดินออกจากห้องของเฮอร์ไมโอนี่ไป

    "หมายความว่าพวกเขา มีความสัมพันธ์อย่างว่า กันหรือ" เฮอร์ไมโอนี่ผู้ฉลาดถามและ เข้าใจได้อย่างง่ายดาย จากการมองดูสองเพื่อนที่ทำหน้า ราวกับปลาสำลักน้ำอย่างเข้าใจ

    ก็อดดริกโฮโล่

    ซิเลียสแบกแฟ้มภาพข่าวเรื่องราวของคอร์นีเลียสและรูฟัจมาให้บาร์ตี้ที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่กับเขาเป็นการกึ่งถาวรแล้ว

    "นี่ภาพของพวกเขา นายศึกษาคำพูดให้สัมภาษณ์ และท่าทางของพวกเขาไปก่อนแล้วกัน แล้วลองแสดงให้รีมัสดูก่อนว่าผ่านหรือเปล่า" ซิเลียสบอก

    "ขอบคุณมาก" บาร์ตี้บอก ก่อนพลิกดูภาพอย่างสนใจ

    "นายบอกว่าจะไปเอาผมพวกเขาหรือ" รีมัสถามเพื่อนสนิท

    "ใช่ พรุ่งนี้ฉันรับถ่ายภาพพิธีในงานแข่งรอบตัดสินของควิชดิชเวิล์ดคัพไว้นะ รีต้าจะเป็นผู้สัมภาษณ์" ซิเลียสบอก มองดูหน้าเพื่อนที่ทำหน้าสงสัย

    "แหมนายนี่ก็ไม่รู้อะไรเล้ย ก่อนถ่ายภาพคนเราก็ต้องเก็กหล่อ จัดสูทจัดทรงผมให้ดูดีใช่ม้า" ซิเลียสทำเสียงสูง กระแดะแบบเสแสร้งชวนขนลุกให้ดู

    เล่นเอาสองหนุ่มที่เหลือทำท่าสยองเป็นปฎิกิริยาตอบรับ

    "นายอย่าไปทำให้เซเวอรัสเห็นก็แล้วกัน ฉันอายแทนนะ" รีมัสบอก ยิ้มปลงๆกับนิสัยพิลึกของเพื่อน

    "แหมฉันก็ทำเพื่องานหรอก" ซิเลียสบอก ก่อนยิ้มหวานอย่างสนุก

    "ฉันว่าจะใช้ผ้าคลุมล่องหน ไปร่วมงานด้วยเพื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง" บาร์ตี้บอก

    "นายนัดกับรีมัสให้ดีก็แล้วกัน" ซิเลียสบอกอีกฝ่าย

    ในที่สุดก็ถึงวันที่จะไปดูควิชดิช บ้านวิสลีย์ตื่นแต่เช้า

    "เราต้องไปที่กุญแจนำทาง บ้านเราใช้ร่วมกับบ้านดิกกอรี่ รู้สึกว่าจะเป็นเนินเขาหน้านะ" นายอาเทอร์บอกคณะเดินทาง

    "เฮ้ อาเทอร์หรือเปล่า" เสียงนายดิกกอรี่ดังขึ้น

    "ใช่ พวกคุณมานานแล้วหรือ" อาเทอร์ตอบไป

    ทั้งหมดมายืนรอบกุญแจนำทางที่เป็นรองเท้าเก่าๆหนึ่งข้าง

    "นับ หนึ่ง สอง สาม แล้วจับพร้อมกันนะ" นายดิกกอรี่บอก

    หลังนับเสร็จพวกเขาจับกุญแจพร้อมกัน แรงดึงอย่างมหาศาลดึงพวกเขาขึ้นสูง ก่อนลอยลงต่ำ หล่นบนพื้นหญ้า

    "เรียบร้อยอีกจุด" เสียงคนจากกระทรวงที่ยืนรอที่จุดบอก ขณะเก็บกุญแจนำทางไปรวมไว้ที่กอง นายอาเทอร์และนายดิกกอรี่ทักทายคนที่ทำงานอยู่ ก่อนพาครอบครัวไปหาที่ตั้งเต็นท์

    เซดริกทักทาย รอน แฮรี่ และเฮอร์ไมโอนี่สักพักก่อนแยกย้ายตามครอบครัวไปที่ตั้งเต็นท์อีกด้าน

    "อ้อ อยู่โน้นเต็นท์ของเรา" นายอาเทอร์บอก

    "พ่อขอยืมเต็นท์ของเพื่อนไว้ เห็นว่าหรูเชียวนะ" รอนบอก

    "ว้าว เจ๋งไปเลย " รอนบอกเมื่อเห็นเต็นท์สามชั้น มีห้องน้ำในตัว และมีห้องครัวด้วย

    "นี่ใช้เวทมนต์เสกซะเหมือนบ้านเลยนี่" เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน

    ทั้งสามคนสำรวจบ้านอย่างสนุกสนาน ตกค่ำงานถึงเริ่มขึ้น มีของขายมากมาย ทั้งกล้องส่องทางไกล ผ้าพันคอ ของที่ใช้เชียร์ทีมโปรด

    ทีมที่เข้าชิงชนะเลิศคือทีมบัลกาเรียกับทีมไอร์แลนด์

    ก่อนเวลาเริ่ม นายอาเทอร์พาพวกเด็กๆไปที่อัฒจรรย์

    พวกเขาเจอกับตระกูลมัลฟอย ซึ่งตอนนี้ค่อนข้างญาติดีกันเพราะแฮรี่ ทำให้เดรโกมาดูร่วมด้วยกับพวกสามสหายกริฟฟินดอร์

    การแสดงเปิดสนานดูตื่นตามาก มีพวกวีล่า คนแคระ ที่แสดงเวทมนต์ได้น่าตื่นเต้น แฮรี่ยกกล้องส่องทางไกลที่พึ่งซื้อมาให้รอนดูกับเฮอร์ไมโอนี่ ส่วนตนเองดูกับเดรโก

    ผลการแข่งขันทีมไอร์แลนด์ชนะ แต่วิกเตอร์ ครัมแห่งบัลกาเรียคว้าลูกสนิชได้ เฟร็ดกับจอร์จชนะพนัน หลังจบเกมทั้งคู่รีบไปทวงเงินรางวัล ก่อนที่เจ้ามือจะเปิดหายไป

    "พวกนายจะกลับเต็นท์เลยไหม" เดรโกถาม

    "อืม เต็นท์ของพวกเราอยู่ทางนั้น นายล่ะ"แฮรี่ถาม

    "ทางเดียวกัน และความจริงเต็นท์ของพวกเราก็อยู่ติดกันต่างหาก" เดรโกบอกอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะนายลูเซียส มัลฟอยเป็นคนให้นายอาเทอร์ ยืมเต็นท์เอง เลยให้กางติดกัน

    ทั้งสามสหายกริฟฟินดอร์ อ้าปากค้างเมื่อรู้เรื่อง ทั้งหมดแวะไปเที่ยวที่เต็นท์บ้านมัลฟอย ที่มีทั้งของเล่น สระว่ายน้ำ ฯลฯ

    "นายแค่จะมาอยู่ดูการแข่งแค่คืนเดียวเองนะ" เฮอร์ไมโอนี่บอกหลังจากดูเต็นท์บ้านมัลฟอย

    "บางทีพวกเราก็ใช้เวลาไปปิกนิคบ้างนะสิ" เดรโกอธิบาย นึกขำหน้าของพวกกริฟฟินดอร์

    ทั้งหมดนั่งเล่นเกมด้วยกัน เพราะพวกพ่อออกไปพบเพื่อนบ้าง ทำงานบ้าง

    คืนนี้เสียงอึกทึกเป็นพิเศษเพราะแฟนไอร์แลนด์ฉลองชัยกันอย่างสุดเหวี่ยง

    นักข่าวสัมภาษณ์คอร์นีเลียสถึงความสำเร็จของการจัดงานคืนนี้ โดยมีรูฟัจยืนอยู่ข้างๆ มีช่างภาพคนดังมาถ่ายรูปให้

    โดยรมต.ทำท่าหล่อ และมาดขรึมให้สัมภาษณ์แต่ก็ไม่อาจปิดร่องรอยความตื่นเต้นมิด

    เสียงกรีดร้องดังขึ้น ก่อนที่ตรามารจะปรากฏอยู่บนท้องฟ้า เหล่าผู้เสพความตายในชุดคลุมสีดำปรากฏตัว ผู้คนวิ่งหนีอย่างอลหม่าน

    เหล่าผู้เสพความตายเผาเต็นท์ ทำลายข้าวของและทำร้ายผู้คน ก่อนแฝงตัวหนีหายไปอย่างรวดเร็ว

    ทั้งนายอาเทอร์และนายลูเซียสต่างวิ่งกลับมาที่เต็นท์เพื่อดูความปลอดภัยของพวกเด็กๆ

    เหล่าผู้เสพความตายหลายคน มาที่เต็นท์บ้านวิสลีย์

    "หาตัวไอ้เด็กพอตเตอร์นั่น" หนึ่งในนั้นบอก

    "ฉันไม่ยอมให้พวกแกทำอย่างนั้นแน่" อาเทอร์และลูเซียสมาทันขัดขวาง

    ทั้งสองฝ่ายเสกคาถาใส่กันอย่างรวดเร็ว

    "แฮรี่ เดรโก เสกคาถาสะกดนิ่งพวกนั้นไว้" บาร์ตี้และลอร์ดโวลเดอมอร์บอกข้างหลังแฮรี่ เพราะทั้งคู่อยู่ในผ้าคลุมล่องหน

    "ครับ นับหนึ่ง สอง สาม" แฮรี่บอก ก่อนร่ายคาถาสะกดนิ่งจากสี่มุม

    "ได้ตัวหล่ะ" แฮรี่ว่า ก่อนที่ทั้งลอร์ดโวลเดอมอร์และบาร์ตี้ จะจัดการร่ายคาถาย้ายร่างพวกนั้นไปที่กริมโมลเพลซด้วยกุญแจนำทาง

    "จับพวกนั้นได้หมดมั้ยแฮรี่" ลูเซียสถามหลังจากถูกแก้คาถาสะกดนิ่ง

    "ครับ" แฮรี่ตอบรับสั้นๆ

    "พวกมันน่าจะเป็นพวกเดียวกับที่วิ่งไล่ตามรอนเมื่อปีที่แล้วสินะ" อาเทอร์ว่า

    "เกิดอะไรขึ้น " คนจากกระทรวงวิ่งมาทางเต็นท์

    "พวกผู้เสพความตายน่ะ แต่มันหนีไปแล้วทางโน้นนะ" อาเทอร์บอกเพื่อนร่วมงาน

    "เดี๋ยวพวกเราตามไปดูเอง นายอยู่ดูพวกเด็กๆก่อนก็ได้" เพื่อนอาเทอร์บอก เพราะรู้ว่าที่นี่เป็นเต็นท์บ้านวิสลีย์

    "ขอบใจมาก" อาเทอร์บอก รู้สึกผิดเล็กน้อยที่โกหก แต่เขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพวกผู้เสพความตายแฝงอยู่บ้าง ขอโทษทีละกันนะ

    อีกด้าน หลังความวุ่นวายทำให้คนสองคนพบกันอย่างไม่คาดฝัน

    เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง วิ่งตามแรงจูงของพ่อ ก่อนผลัดหลงกันเพราะความชุลมุน เซตามแรงกระแทกไปชนกับอกของใครสักคน

    "เป็นอะไรไหม" เจ้าของอกหนา ถามขณะที่สองมือจับไหล่บางเพื่อพยุงตัวไว้

    "ขอบคุณมาก ฉันไม่เป็นไรแล้ว" เด็กหนุ่มผู้ถูกกระแทกบอก ก่อนเงยหน้ามองดูผู้มีพระคุณ ก่อนอ้าปากค้าง วิกเตอร์ ครัม

    "มาทางนี้ก่อนดีกว่า" วิกเตอร์ ก่อนจูงมือเด็กหนุ่มร่างโปร่งหลบไปอีกทาง จะได้ไม่กีดขวางการวิ่งหนีอย่างตกใจของผู้คน

    สักพักหลังเรื่องซาลง ผู้คนค่อยกลับไปที่เต็นท์ของตัวเอง เพราะไม่ปรากฏผู้เสพความตายแล้ว คิดว่าพวกมันมาแค่ก่อความวุ่นวายก่อนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว

    "เต็นท์นายอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง เซดริก" วิกเตอร์บอก  หลังจากได้รู้จักชื่อเด็กหนุ่มร่างบาง และรู้ว่าเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ปีเจ็ดเหมือนกัน

    "ทางด้านตะวันตกนะ แต่รอบๆเป็นกองเชียร์ไอร์แลนด์นะ ฉันกลับเองได้" เซดริกรีบบอก เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายอาจถูกแฟนไอร์แลนด์จัดการได้

    "ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้มันมืดไม่มีใครสนใจหรอก" วิกเตอร์บอกก่อนจูงมือร่างบางไป เซดริกหน้าขึ้นสีเล็กน้อย เพราะตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนที่เจอกันวิกเตอร์จับมือเขาไม่ปล่อยมาตลอด

    ขณะเดินกลับเต็นท์ แฟนบอลไอร์แลนด์ที่เริ่มเมาได้ที่เห็นเด็กหนุ่ม ก็ตะโกนขึ้น

    "นั่นวิกเตอร์ " ทำให้พวกแฟนบอลที่เหลือ ลุกขึ้นมาดูด้วย เซดริกเห็นท่าไม่ดี รีบฉุดอีกฝ่ายหนีเข้าเต็นท์ไปอย่างรวดเร็ว

    "เข้ามาหลบในนี้ก่อน" เซดริกบอก พาวิกเตอร์เข้ามาในห้องนอนของเขา

    "นายเป็นแฟนคลับของฉันเหมือนกันหรือ"วิกเตอร์ถามเมื่อเห็นรูปของเขาที่ฝาผนังห้อง

    "ก็นายเล่นเก่ง" เซดริกบอกขณะหน้าแดง

    วิกเตอร์คว้าปากกามาเซ็นต์ชื่อใส่โปสเตอร์ในห้องอีกฝ่าย

    "ขอบใจ" เซดริกเอ่ยขณะที่สีหน้ายังแดงไม่หาย ที่ถูกจับได้ว่าเป็นหนึ่งในแฟนคลับ

    "ไม่เป็นไร ฉันยินดีบริการแฟนอยู่แล้ว" วิกเตอร์บอก ก้มหน้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

    เสียงบิดาเรียกหาลูกชายดังที่หน้าเต็นท์ เซดริกขานรับ ก่อนที่บิดาจะเดินเข้ามาในห้องนอนลูกชาย ก่อนอ้าปากค้างกับคนที่เห็น

    "เขาช่วยผมไว้นะฮะ" เซดริกแนะนำอีกฝ่ายกับบิดา

    "ขอบคุณมากเลย ผมเป็นห่วงเซดริกแทบแย่ ดีจริงที่ได้คุณช่วยไว้" นายดิกกอรี่บอก ก่อนชวนอีกฝ่ายทานกาแฟร่วมกัน

    "คืนนี้ คุณครัมพักอยู่กับพวกเราก่อนเถอะครับ ไว้พรุ่งนี้ค่อยออกไปตอนเช้า จะได้ไม่เจอแฟนควิชดิชอันธพาล" นายดิกกอรี่บอก ก่อนหันไปหาลูกชาย

    "พ่อฝากให้นอนห้องลูกไปก่อนแล้วกันนะ"

    "ครับ" เซดริกรับคำ แต่ไม่สบตาวิกเตอร์

    ทั้งสองเดินเข้าห้องนอน เพื่อพักผ่อนต่อไป

    "นายเอาผ้าห่มไหม" เซดริกถาม เพราะเขามีผ้าห่มผืนเดียว

    "ไม่เป็นไร พวกเราห่มผ้าพื้นเดียวกันก็ได้ นายก็ตัวไม่ใหญ่นี่" ครัมบอก ก่อนเขยิบเข้าใกล้ร่างบาง

    เซดริกห่มผ้าก่อนเขยิบไปชิดฝาผนัง เหลือที่ให้อีกฝ่ายเยอะ เพราะไม่อยากนอนใกล้เกินไปนัก และอีกฝ่ายก็ตัวใหญ่

    ตอนเช้าที่อากาศเย็นร่างที่หลับสนิทสองร่างนอนเบียดชิดกัน โดยร่างบางที่ขี้หนาวซุกเข้าหาไออุ่น แขนเรียวพาดไปที่ผ้าห่มอุ่นๆ ปลุกให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ก้มมองดูร่างบางที่ซุกหน้าที่ซอกแขนเขาอย่างสบายใจ ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ก่อนกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×