ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทเพลงแห่งเซเลน ภาคเจ้าหญิงเซร่า

    ลำดับตอนที่ #8 : แรกถึงรัสเซีย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 97
      0
      11 ก.ค. 49

    บทที่ 8

    หลังจากลงจากรถไฟข้ามประเทศมาถึงอาณาจักรรัสเซีย ยูรีอุสถามทางหาโรงแรมพัก เมื่อเดินมาถึงจตุรัสกลางเมืองต้องตกใจการผู้คนจำนวนมาก มีทั้งประชาชน และทหารม้า ผู้คนวิ่งหนีกันอลหม่านเมื่อทหารม้ายิงปืนเข้าใส่ผู้ชุมนุม
    ยูรีอุสถูกกระแทกไปกระทบฝาตึกข้างทาง  ดวงตาสีน้ำทะเล สบตาสีนิลของทหารบนหลังม้า และถูกฝูงชนเบียดปะทะ  ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะหายไปจากอนุสติ

    ยูรีอุสลืมตาตื่นอีกครั้งพบกับหญิงกลางคนที่ดูจะเป็นแม่บ้านที่ไหนสักแห่ง ที่เมื่อเห็นเขาลืมตาแล้วรีบออกไปจากห้องทันที คาดว่าคงไปแจ้งข่าวแก่ใครสักคนที่เป็นผู้ช่วยเหลือเขามาจากความวุ่นวายกลางเมือง เมื่อมองสำรวจตัวเองพบเพียงแผลถลอกตามแขน ขาเท่านั้น ทำให้ต้องถอนใจอย่างโล่งอก

    "ฟื้นแล้วรึ" ชายหนุ่มผมสีดำสั้นแบบนายทหาร ดวงตาสีดำสนิทที่สบตาที่จตุรัสกลางเมืองนั่นเอง

    "ฮะ ขอบคุณที่ช่วยฮะ ผมมาจากเยอรมัน พึ่งมาถึงก็เจอดีเลย" ยูรีอุสตอบ

    "งั้นเธอก็คงต้องตอบคำถามฉัน เธอมาที่นี่ทำไม" ชายผมดำเริ่มการสอบสวนทันทีที่ผู้ต้องสงสัยฟื้น

    "ผมมาเที่ยว" ยูรีอุสบอกจุดประสงค์

    "ในพลาสปอร์ตของเธอ เป็นผู้ชาย" นายทหารหนุ่มถามข้อสงสัยทันที

    "ก็ผมเป็นผู้ชายมาตั้งแต่จำความได้ ไม่เชื่อก็สอบถามไปทางบ้านผมก็ได้ แม่กับพี่สาวก็รับรองให้ผมเอง ผมถูกเลี้ยงมาในฐานะทายาทตระกูลโฟนแฮเรียต" ยูรีอุสเปิดเผยเรื่องยุ่งๆในบ้าน

    "งั้นฉันจะให้เธอพักอยู่ที่นี่ แต่จะออกไปไหนตามลำพังไม่ได้ "

    "เชิญจับตาดูได้เลย จริงสิผมหลับไปนานไหม ของๆผมละ เมื่อกี้คุณพูดถึงพลาสปอร์ต แล้วไวโอลินของผมล่ะ" ยูรีอุสรัวคำถามใส่ชายตรงหน้า

    "เธอหลับไปหนึ่งวัน ส่วนของๆเธอฉันพบแค่กระเป๋าเดินทาง ส่วนสุดท้ายฉันชื่อ ยูคอฟ รุยคอฟสกี้" ชายหนุ่มตอบอย่างเรียบเฉย

    "ผม ยูรีอุส แต่คุณคงเห็นจากพลาสปอร์ตแล้ว คุณช่วยตามหาไวโอลินให้ผมหน่อยได้มั้ย มันเป็นของเก่าแก่ สีขาว เป็นของดูต่างหน้าที่สำคัญของเพื่อนผม" ยูรีอุสกล่าวขอร้องสบตาสีนิลอย่างอ้อนวอน


    ยูคอฟ และทหารคนสนิท พายูรีอุสนั่งรถม้า มาแถวจตุรัสที่เกิดเรื่อง เมื่อหาไวโอลินไม่เจอ ก็เริ่มเดินถามหาคนแถวนั้น แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น

    "พ่อหนูตามหาของเหรอ ลองไปดูตามร้านขายของเก่าไหมล่ะ เผื่อใครเจอแล้วนำมันไปขาย" ชายชราท่าทางใจดีแนะนำอย่างมีน้ำใจ

    ยูคอฟ พายูรีอุสตระเวณตามร้านขายของเก่าใกล้ๆแถวนั้น  จนมาถึงร้านสุดท้าย
    เด็กสาวรีบส้าวเท้าเข้าไปเอื้อมมือหยิบไวโอลินสีขาวที่ตั้งอยู่ พร้อมกับมือของชายคนหนึ่ง ที่ถึงไวโอลินนั้นพร้อมๆกับเธอ

    เมื่อเจ้าของร้านมองเห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาเสนอขายของทันที

    "ไวโอลินนี้เป็นของผม มันตกตอนจราจลเมื่อวาน" ยูรีอุสรีบบอกเจ้าของร้าน

    "ฉันขอซื้อไวโอลินนี้ จะให้ราคาอย่างงาม" ชายหนวดสีดำเรียวงามที่ริมฝีปากเอ่ยต่อ

    "แต่มันเป็นของผม" ยูรีอุสรีบค้าน

    "ไวโอลินควรอยู่ในมือที่รู้ค่า ถ้าพวกคุณสามารถบรรเลงเพลงได้ไพเราะถูกใจผม ผมจะยกไวโอลินนี้ให้"

    ชายเจ้าของร้านบอก เขาไม่กล้าขายไวโอลินที่รับซื้อมาเพราะกลัวว่าจะถูกนายทหารที่มาด้วยกับเด็กหนุ่มจับข้อหาซื้อของโจร จึงหาข้ออ้างหลบเลี่ยง

    "งั้นฉันเริ่มก่อน"
     
    ชายหนวดเรียวบอกพลางเอื้อมมือมาหยิบไวโอลินไป พลางนึกกระหยิ่มในใจ ไม่รู้จักซะแล้วว่าท้าทายกับใครเด็กน้อยเอ่ย ฉันศาสตราจารย์มิยาน ไชคอฟ แห่งวิทยาลัยการดนตรีรัสเซีย มีหรือจะแพ้เด็กคนนี้ และเจ้าของร้านขายของเก่าก็รู้จักเขาดี รีบส่งข่าวมาบอกเขาเมื่อได้ของตามที่สั่ง
    ไวโอลินเก่าแก่ที่เหมือนกับไวโอลินบ้านโบโรฮอฟ เพื่อไปกำนัล เคานท์เตสคนงามที่หลงใหล เคานท์โบโรฮอฟ ซึ่งเขาพยายามเอาชนะใจเธออยู่

    เสียงไวโอลินบรรเลงอย่างเชื่อมั่น บ่งบอกนิสัยหยิ่งทะนงของผู้บรรเลง เมื่อเล่นเพลงจบ เขามองหน้าเด็กหนุ่มคู่กรณี

    เด็กหนุ่มรับไวโอลินมาถือ ก่อนเริ่มบรรเลงเพลงเสียงเพลงพริ้วไหว อ่อนหวาน กังวาล สะกดผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้หยุดนิ่งราวต้องมนต์

    เมื่อเด็กหนุ่มเล่นเพลงจบ เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว

    ยูคอฟจ้องหน้าเจ้าของร้าน "บอกรูปพรรณคนที่นำไวโอลินมาขายให้เจ้ามา"

    "ผมคิดว่าไวโอลินนี้คงเป็นของเจ้าหนูแน่ๆ ผมคืนให้เลยล่ะกัน "

    เจ้าของร่างรีบพูดบอกเอาใจ ใบหน้าขาวซีดเหงื่อแตกชุ่ม ใครบ้างจะไม่รู้จัก มาร์ควิส รุยคอฟสกี้ ฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง ผู้น่ากลัว

    มิยาน มองเหตุการณ์อย่างเจ็บใจ

    หลายวันที่ยูรีอุสพักอยู่ที่คฤหาสถ์รุยคอฟสกี้ เด็กหนุ่มทำให้คฤหาสถ์มีเสียงหัวเราะ และเสียงดนตรี และทำให้เจ้าบ้านที่แสนเย็นชาอารมณ์ดีจนคนในบ้านรู้สึกได้

    "เธอเล่นดนตรีได้ทุกประเภทเหรอ" ยูคอฟถามหลังได้ฟังเสียงเปียโนจากเด็กหนุ่ม

    "ผมจบโรงเรียนดนตรีมานะฮะ" ยูรีอุสตอบ

    "จริงสิอาทิตย์หน้ามีงานแสดงละครเพลงที่โรงละครแห่งชาติ เธอสนใจไปดูไหม"ยูคอฟถาม

    "ดูสิฮะ ผมอยากดู" ร่างบางร้องอ้อนทันที เขารู้สึกราวคนตรงหน้าเหมือนพี่ชาย

    "จริงสิ ผมอยากส่งจดหมายไปหาแม่กับพี่สาวที่เยอรมัน เพื่อบอกว่าผมสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง ยูคอฟช่วยส่งให้ผมหน่อยได้มั้ย" ร่างบางขอร้อง

    "เอาจดหมายกับที่อยู่มาสิ" ยูคอฟรับคำ


    ตกดึกยูคอฟ คลี่จดหมายของยูรีอุสออกอ่าน พบข้อความเล่าเรื่องสนุกสนานในรัสเซีย ถึงแม่และพี่สาว ไม่มีข้อความน่าสงสัยอื่น

    ร่างของคนสนิท อัลรอซ เอกิซ ปรากฏตัว

    ยูคอฟมองหน้าคนสนิทเป็นเชิงให้รายงานได้

    "จากที่ท่านให้สืบประวัติ คุณยูรีอุสไม่มีอะไรน่าสงสัย จากรายงานเด็กนั่นเป็นทายาทตระกูลโฟนแฮเรียตจริง แต่มีเรื่องอีกสองเรื่องที่ท่านควรรู้ คุณยูรีอุสจบมากจากโรงเรียนดนตรีแฟรงเฟริต เคยรู้จักกับเคานท์โบโรฮอฟ คนน้องที่เราตามล่าขณะหนีไปกบดานที่เยอรมัน และไวโอลินนั่นเป็นของโบโรฮอฟ"

    "อีกเรื่องล่ะ" ยูคอฟถามเสียงเรียบ

    "ตระกูลโฟนแฮเรียตเป็นตระกูลหนึ่งในสามที่เก็บรักษาสมบัติลับของพระเจ้าซาร์ และเด็กนั่นจะมีสิทธิครอบครองกุญแจสมบัติเมื่ออายุครบยี่สิบ" อัลรอซตอบข้อมูลทั้งหมดของยูรีอุสที่ได้ไปสืบมาให้เจ้านายฟัง

    "คิดว่าเด็กนั่นมีเกี่ยวข้องกับคณะปฎิวัติของเลนินไหม"

    "คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันครับ"

    "จับตาดูเด็กนั่นเอาไว้อย่างให้คลาดสายตาละ" กำชับคนสนิท

    "อ้อแล้วก็ฝากส่งจดหมายนี้ให้ด้วย ถึงบ้านตระกูลโฟนแฮเรียตนะ"


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×