ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทเพลงแห่งเซเลน

    ลำดับตอนที่ #16 : ตำนานไม่รู้จบ 4 ( อัพเพิ่ม100% )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 75
      0
      21 ก.ค. 49

    บทที่ 16

    ตอนเช้าที่วุ่นวายเริ่มขึ้นเมื่อนายทหารหน้าด่านมารายงายว่า มีกองทัพศัตรูบุกมาจากชายแดนด้านใต้

    "มันเป็นพวกไหน" ฟาโรห์หนุ่มถาม

    "ยังไม่ทราบพะยะค่ะ แต่พวกมันมีประมาณสองหมื่นคน" นายทหารรายงานอย่างตื่นเต้น

    "เป็นกองทัพของอารูกอนและราคัชนำทัพมาเองนะ" เสียงเชอร์บอก

    "งั้นก็จัดการขั้นเด็ดขาดเสียเลยแล้วกัน" ฟาโรห์สั่งเตรียมกองทหาร และตกลงยุทธวิธีจู่โจมกับนายทหารและแม่ทัพ

    เจ้าชายอิสมิลเมื่อรู้ข่าวเลยขอไปด้วย เพราะรู้สึกอยากตอบแทนไม่อยากติดหนี้ใครโดยเฉพาะฟาโรห์เมมฟิส

    กองทหารอียิปต์ดักรอที่หุบเขา ข้างใต้เป็นช่องแคบซึ่งเป็นทางเดียวที่ต้องใช้ผ่านเพื่อบุกอียิปต์ ดินระเบิดถูกเตรียมพร้อม กองทัพนับหมื่นซุ่มเงียบตามจัดที่วางแผนไว้

    เสียงฝีเท้ากองทัพม้าดังมาจากชายแดนตามคาดหมาย วิ่งผ่านเข้ามาในหุบเขาจนหมดก่อนเมมฟิสใหสัญญาณ

    เสียงระเบิดหน้าผาดังกึกก้อง ก้อนหินจำนวนมากถล่มกลบกองทัพเบี้องล่างทันที
    เสียงระเบิดดังผสานกับเสียงร้องของผู้คนและม้า เสียงควบม้าหนีเอาตัวรอด จากกองทัพจำนวนมากเหลือรอดออกจากหน้าผาประมาณห้าพันนาย

    ม้าสองตัวหน้านำโดยกษัตริย์แขนเดียวอารูกอน อีกคนคือราคัชพี่เขยแห่งบาบิโลน
    ฟาโรห์เมมฟิสควบม้านำกองทัพส่วนหนึ่งเผชิญหน้า อารูกอนชะงักเมื่อเห็นฟาโรห์เสด็จเองก่อนทักทาย

    " คิดไม่ถึงว่าจะไม่ต้องเสียเวลาไปเด็ดหัวเจ้าถึงเมืองหลวง"

    "ข้าก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าอยากตายจนต้องถ่อมาถึงอียิปต์เหมือนกัน แถมด้วยคนที่คิดไม่ถึงอีกคนเสียด้วย เจ้าพี่ไอซิสสบายดีไหมราคัช"

    "เจ้าหญิงสบายดี เพียงแต่ข้าอยากได้ชายาผมทองเพิ่มสักคน"ราคัชตอบถึงจุดประสงค์ที่ร่วมมือกับอารูกอน

    "นั่นก็ขึ้นกับว่าพวกเจ้ามีฝีมือแค่ไหน" ฟาโรห์หนุ่มประกาศเสียงกร้าว

    อารูกอนพุ่งเข้าปะทะกับเมมฟิสก่อน ตามด้วยราคัชที่เข้าหมายรุมสอง แต่ถูกขัดด้วยดาบเจ้าชายแห่งฮิตไทต์ ในชุดสีดำสนิทปกปิดหน้าตา

    นายทหารอื่นก็ต่อสู้ตะลุมบอลกัน แต่ฝ่ายอียิปต์มีภาษีกว่าเพราะชำนาญพื้นที่และมีจำนวนมากกว่า ไม่นานทหารฝ่ายบุกรุกก็ถูกกำจัดจนหมด

    อารูกอนถูกฟันด้วยดาบพาดกลางตัว ราคัชเองก็ถูกอิสมิลฟันหัวขาด ชัยชนะเป็นของฝ่ายอียิปต์


    ตกดึกมีการฉลองชัยไปทั่วเมือง ฟาโรห์หนุ่มพาร่างของราชินีคนสวยไปที่ริมแม่น้ำที่นัดหมายไว้กับเชอร์

    "มีอะไรหรือเมมฟิส "แคโรลถามคนรัก

    "เชอร์บอกว่าจะพาข้ามประตูมิติไปสู่ขอเธอที่บ้านของเธอนะ" โนโครุตอบ

    ร่างหนึ่งส่องประกายอยู่กลางแม่น้ำไนล์ ฟาโรห์หนุ่มและราชินีเดินตรงไปหา มือทั้งสามสัมผัสกัน ก่อนที่ภาพเบื้องหน้าจะเปลี่ยนไป

    ห้องรับแขกในคฤหาสถ์หรู หญิงวัยกลางคนที่ยังคงความงามอยู่นั่งที่เก้าอี้ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย เคียงคู่ด้วยชายหนุ่มอีกสองคนผมสีดำคน และผมสีน้ำตาลอีกคน

    "ท่านแม่ พี่ไรอัน พี่รอยด์" แคโรลเรียกคนทั้งหมดอย่างคิดถึง

    "แคโรลลูก...เกิดอะไรขึ้น" มารดาถามอย่างดีใจปนไม่คาดคิด แต่เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสกลับไม่สามารถจับต้องร่างบุตรสาวได้

    "หนูมาลา หนูพาคนรักมาด้วย นี่เมมฟิส "แคโรลหันไปแนะนำตัวคนรักให้มารดารู้จัก ก่อนแนะนำ ญาติให้คนรักรู้จักด้วย

    "นี่แม่ นั่นพี่ไรอัน กับพี่รอยด์พี่ชาย" หญิงสาวยิ้มพลางแนะนำคนในครอบครัว

    "หนูมีความสุขอยู่ในอียิปต์เมื่อ 3000ปีก่อน และคงไม่ได้กลับมาแล้ว แต่หนูมีความสุขดี แม่กับพี่ๆ ไม่ต้องห่วงนะคะ"

    "เราสัญญาว่าจะปกป้องเธออย่างสุดชีวิต" ฟาโรห์ให้สัญญาต่อคนทั้งสาม

    "ฉันของฝากลูกสาวให้ท่านช่วยดูแลด้วยนะคะ" มารดาของแคโรลก้มศีรษะให้คนรักของบุตรสาวกึ่งขอร้อง

    ก่อนที่ร่างทั้งสองจะจางหายไป เหลือเพียงความคิดถึงที่ส่งผ่านกาลเวลาอันยาวนาน

    เมมฟิสกับแคโรลลืมตาขึ้น เห็นร่างส่องประกายของเชอร์เริ่มจางหายไป

    "น้องใช้พลังแห่งวิญญาณจนหมดแล้ว ไม่สามารถอยู่ในโลกนี้ได้แล้ว ขออวยพรให้ท่านพี่ทั้งสองมีความสุขนะเพคะ"

    ร่างโปร่งงาถอนสายบัวให้อย่างงดงามก่อนหายไป

    ดวงดาวซิริอุสส่องประกายที่ฟากฟ้า ชาวเมืองต่างโห่ร้องอย่างยินดีกับนิมิตรหมายที่ดี

    หลังส่งแคโรลกลับเข้างานเลี้ยง เมมฟิสก็เดินมาริมแม่น้ำตามลำพัง เขาอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ เหมือนความรู้สึกสูยเสียในใจ

    ร่างหนึ่งทรุดตัวลงนั่งข้าง เมมฟิสหันไปมองเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ไม่ได้ว่าอะไร ทั้งคู่นั่งเงียบสักพัก

    "เรื่องเมื่อกลางวันข้าขอบคุณท่านมาก เจ้าชายอิสมิล ส่วนเรื่องน้องสาวท่านข้าเสียใจด้วย"

    "เรื่องตอนกลางวันถือว่าข้าชดใช้บุญคุณคืน ส่วนเรื่องน้องสาวข้าอียิปต์ยังต้องชดใช้ต่อการตายของนาง" เจ้าชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ

    "จะให้อียิปต์ชดใช้ยังไง"ฟาโรห์หนุ่มถาม ถ้าเลี่ยงสงครามได้เขาก็อยากเลี่ยงโดยสันติวิธี

    "ข้าขอธิดาแห่งไนล์แทนดีไหม"

    เจ้าชายหนุ่มถามอย่างลองเชิง แววตาส่องประกายเจ้าเล่ห์ อยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะตกหลุมพลางของตนหรือไม่

    "นั่นคงไม่ได้ นางเป็นราชินีแห่งอียิปต์ ท่านลองขออย่างอื่นแทนดีได้ไหม" ฟาโรห์หนุ่มต่อรอง

    "งั้นเปลี่ยนเป็นตัวของท่านแทนแล้วกัน ว่าไง"

    เจ้าชายถามพลางยื่นมือเชยคางฟาโรห์หนุ่มรูปงาม ดวงหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายแห่งฮิตไทต์ ฉายประกายเจ้าเล่ห์

    "หรือท่านปรารถนาสงครามมากกว่า"

    เจ้าชายยื่นข้อเสนอไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ปฎิเสธ เมื่อปิดปากอีกฝ่ายด้วยริมฝีปากของตน จุมพิตแห่งสัญญาที่เนิ่นนานและทวีความเร่าร้อนขึ้นทุกขณะ ร่างสูงของเจ้าชายเจ้าเล่ห์ ทาบทับร่างเพรียวบางกว่าของฟาโรห์คู่กรณี

    แทรกเรียวลิ้นเข้าไปชิมรสชาติของอีกฝ่าย ลิ้นเรียวรุกล้ำในโพรงปากอุ่นของอีกฝ่าย เรียกเสียงครางอย่างลืมตัวของร่างข้างใต้ ฝ่ามือหยาบลากไล้ไปทั่วผิวเนียนเรียบอย่างหลงใหล จูบซุกไซ้ที่ซอกคอไวความรู้สึกของฟาโรห์หนุ่ม

    เมมฟิสกัดริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้นกับความรู้สึกที่ปะทุขึ้นมา ก่อนหลุดเสียงครางที่ไม่อาจระงับกับการถูกจู่โจมด้วยปลายลิ้นและริมฝีปากที่หน้าอกทั้งสองข้าง เรียวแรงที่จะขัดขืนหายไปหมด ไม่อาจทัดทานร่างหนาได้  ในหัวคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยร่างกายให้คนตรงหน้าปลุกเล้าตามใจชอบ

    ดวงหน้าเร้าอารมณ์ของเมมฟิส ฉุดอารมณ์ของอิสมิลขึ้นสูงอย่างไม่อาจระงับได้ แต่แรกคิดแค่ว่าจะแกล้งฟาโรห์หนุ่มศัตรูหัวใจเล็กน้อย แต่ก็เผลอเอาจริงเข้าแถมรู้สึกว่าจะถอนตัวไม่ได้ง่ายๆ หลังจากเล้าโลมจนอีกฝ่ายปลดปล่อยออกมา เจ้าชายหนุ่มก็กระตุ้นช่องทางด้านหลัง ร่างข้างใต้เกร็งอย่างเห็นได้ชัด

    เสียงปลอบอ่อนโยนดังขึ้นข้างหู ก่อนสอดใส่ความรู้สึกที่แข็งขึ้งเข้าไปในร่างบาง พายุอารมณ์พัดพาทั้งคู่ให้ไปสู่จุดสูงสุดของอารมณ์

    ร่างสองร่างหอบเหนื่อยระคนวาบหวามกับอารมณ์ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ร่างสูงเริ่มขยับเข้าเล้าโลมอีกฝ่ายอีกรอบ

    "ไม่ไหวแล้ว พอก่อน" เมมฟิสบอกปนหอบเหนื่อย แต่ไม่อาจทัดทานร่างหนากว่าที่ทำตามอารมณ์อีกรอบ

    หลังว่าราชการเสร็จ ฟาโรห์หนุ่มรู้สึกไม่อยากเจอราชินีคนสวย เขารู้สึกผิดในใจ พอๆกับไม่รู้จะเรียกว่าความรู้สึกต่อไอ้เจ้าชายเอาแต่ใจคนนั้นว่าอะไรดี แต่ขาเจ้ากรรมก็พาเขาไปตำหนักด้านหลังอยู่ดี
     
    เจ้าชายอิสมิลก็ไม่ต่างกัน ชายหนุ่มไม่เข้าใจเหตุผลของตัวเองเหมือนกันที่กอดอีกฝ่าย แถมกอดไม่ปล่อยทั้งคืนยันเช้าอีก ดีที่ตื่นเช้าอีกฝ่ายก็หายตัวไปแล้ว เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไรเวลาเจอกันอยู่ดี ความคิดของเจ้าชายหวนคิดถึงคำพูดของน้องสาวที่รัก

    "ถ้าธิดาแห่งไนล์มิใช่ชายาแห่งฟาโรห์เมมฟิส พี่ชายยังสนใจเธออีกหรือเปล่า"

    มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่


    เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาสองคู่สบกัน ก่อนถอนสายตาอย่างเก้อเขิน
    สีเรื่อปรากฏที่โหนกแก้มของฟาโรห์หนุ่ม เรียกรอยยิ้มที่มุมปากของเจ้าชายต่างแดน
    ก่อนที่หัวสมองจะสั่งการ ขาสองข้างก็พาร่างเจ้าชายเดินเข้าใกล้เป้าหมายของหัวใจทันที

    วงแขนโอบกอดร่างโปร่งบาง โดยปราศจากการขัดขืนของอีกฝ่าย เสียงนุ้มกระซิบข้างหู

    "คิดถึงข้าหรือ"

    โดยไม่รอคำตอบ ริมฝีปากประกบเป้าหมายแสนหวาน แสวงหาความพึงพอใจกับร่างกายตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน ปล่อยปัญหาที่หาคำตอบไม่ได้ไว้ทีหลัง

    "พวกเอเธนส์จะเดินทางกลับเย็นนี้ ส่วนมาเซลกี้จะกลับแอฟริกาพรุ่งนี้ ท่านล่ะจะกลับฮิตไทต์เมื่อไร"

    ฟาโรห์หนุ่มถามหลังปล่อยให้อีกฝ่ายหาความสุขกับร่างกายของตนจนพอใจ ไม่อยากคิดว่าตัวเองก็พอใจเช่นกัน

    "ข้าได้ข่าวว่าเสด็จพ่อประชวร คงอยู่นานไม่ได้ อีกสามวันค่อยเดินทางกลับ"

    เจ้าชายตอบเสียงเรียบ ถึงอย่างไรหน้าที่ก็ต้องมาก่อนความสุขส่วนตัว แอบสังเกตเห็นหน้างอเล็กน้อยของฟาโรห์หนุ่ม ที่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ ท่าทีของคนตรงหน้าอยู่ในความสนใจของเขามากเสียจนไม่อยากละสายตา

    "เรื่องประชวรคงเป็เพราะตอนข้าแอบเข้าไปในตำหนักพาเจ้าหญิงคาสซานดร้ามา เชอร์ใช้ยาทำให้พ่อนายผมขาวหมดเท่านั้นเอง คงตกใจจนช็อคนะ"

    เมมฟิสอธิบายสาเหตุที่นึกได้

    "อย่างนั้นเหรอ" อิสมิลกล่าวปนกลั้วหัวเราะ เมื่อนึกถึงหน้าซีดของท่านพ่อ ที่เห็นผมขาวในชั่วข้ามคืน แถมอีหนูคนใหม่ยังหายอย่างไร้ร่องรอยอีก

    ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ราชินีคนสวยส่งแขกของตนกลับบ้าน พร้อมสัมพันธไมตรีอันดี

    ฟาโรห์หนุ่มเองก็ร่ำลากับว่าที่กษัตริย์แห่งฮิตไทต์เช่นกัน

    "ข้าสัญญาว่าตลอดสมัยของข้า ฮิตไทต์จะไม่มีวันรุกรานอียิปต์ ฟาโรห์ของข้า"

    เสียงอ่อนโยนสัญญาอย่างหนักแน่น ก่อนมอบจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มเนินนาน

    หลังจากเจ้าชายแห่งฮิตไทต์เดินทางกลับ โนโครุก็ยังไม่รู้ว่าจะออกจากเกมนี้อย่างไรดี แถมหลานตัวดีก็ไม่อยู่ให้ถามอีก เบื่อแล้วด้วย เปลี่ยนเกมเถอะ

    โนโครุรู้สึกตัวอีกทีในห้องทำงาน บนเก้าอี้เบาะหนังนุ่ม เขาหลับตาลำดับความคิดสักพัก เรื่องราวต่างๆก็ไหลเข้ามาในหัว โนโครุหยิบกระจกมาส่องหน้า เขาเคยเห็นหน้าตานี้ที่ไหมมาก่อน มันคล้ายฟาโรห์เมมฟิส แต่การแต่งตัวเป็นเสื้อสูท

    อ๋อ ใช่แล้ว เราคือ ไรอัน ลิสตัน พี่ชายของแคโรล

    เฮ้ แล้วเมื่อไหร่จะได้ออกจากเกม แต่เดี๋ยวก่อน เราบอกว่าอยากเปลี่ยนเกม เพราะงั้นถึงได้มาในยุคนี้นะสิ แล้วต้องทำอะไรบ้างน้า

    แต่อยากน้อยก็ไม่มีหมอนั่น ไม่อยากเจอหน้ามันเลย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×