ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ภาคคู่อลวน

    ลำดับตอนที่ #3 : เข้าโรงเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 49


    บารามอส

    บทที่ 3 เข้าโรงเรียน

    เกวียนน้อยหลังจากเดินทางไปทั่วเอเดนก็โทรมสนิท ในเกวียนยังคงคึกคักด้วยเสียงรุกฆาตเช่นเคย

    "มีงานให้เจ้าทำนะ" มาดัสบอก

    "งานอะไรล่ะพ่อ " เฟรินว่า

    "ขโมยหัวใจเจ้าชายสักคนหนึ่ง กับหาเจ้าชายตัวจริงหนึ่ง ทำได้ไหมล่ะ"มาดัสบอก

    "ไอ้หาเจ้าชายตัวจริงนี่หมายถึงเจ้าชายของสี่ประเทศที่ส่งพวกลูกออกเร่รอนใช่มั้ยพ่อ" เฟรินถาม

    เรื่องประวัติศาสตร์เอเดนที่ได้ฟังจากเจ้าขอทานผู้รอบรู้ทำให้ฉลาดขึ้นเยอะเลย

    "เออ"มาดัสตอบรับสั้น

    "พ่อจะเอาไปทำไมล่ะ"เฟรินยังคงสงสัยอยู่

    "ข่าวพวกนี้นะราคาแพงจะตาย แกไม่รู้เหรอ ไม่รู้ได้เชื้อโง่ของใคร ไม่ได้เอาความฉลาดของฉันไปบ้างเลย"มาดัสได้ทีกัดเจ้าตัวแสบทันที

    "ไว้ทีผมบ้างก็แล้วกัน โอเคแปลว่าอยากทราบชื่อเท่านั้นสินะ แล้วไอ้ให้ขโมยหัวใจนี่เอาแบบสดๆ หรือแบบแช่แข็งล่ะ ความจริงพ่อน่าจะไปจ้างนักฆ่ามากกว่ามาใช้ขโมยนะพ่อ" เฟรินยวนกลับเมื่อได้ที

    "ไอ้บ้าข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าหมายความว่าให้ทำให้รักและมอบหัวใจให้เอ็งต่างหาก  แฟนนะเข้าใจไหม"มาดัสบอก

    "ทำไมต้องให้ฉันไปจีบผู้ชายด้วยล่ะพ่อ" เฟรินถามอย่างสงสัย

    "เป็นคำสั่งปะป๋าแกโว้ยงานนี้ต้องอธิบายยาว มันเริ่มมาตั้งแต่ศึกชิงแม่แก เดิมทีแม่แกเข้ารับไข่มุกแสงจันทร์ของคิงบาโรไว้แล้ว แต่ดันต้องมาแต่งกับพ่อแก ทำให้คิงบาโรโกรธมาก บอกไว้ว่าเป็นหนี้แห่งคาโนวาลที่เดมอสจะต้องชดใช้ โดยให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลแย่งคนรักของเจ้าชายแห่งเดมอสแก้แค้นไง"มาดัสอธิบายยาวก่อนหยุดพักยกจิบชาก่อน

    "อ้อก็หมายความว่าถ้าผมมีคนรักเป็นผู้หญิงก็ต้องถูกแย่ง แต่ถ้าเป็นคนรักผู้ชาย ลองมาแย่งก็คงสนุกดี วาจาแห่งกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำสินะ"

    เฟรินบอกเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ถึงอารมณ์ขันลึกของผู้เป็นพ่อ เล่นท้าใครไม่เล่น มาท้าราชาปีศาจ เอาเป็นว่าลูกราชาหัวขโมยจะช่วยสร้างความสนุกให้เจ้าชายน้ำแข็งนั่นก็แล้วกัน ดูยังไงไอ้น้ำแข็งเดินได้นั่นก็จีบสาวไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าให้แข่งจีบสาวคงพอแข่งไหว แต่ถ้าให้จีบหนุ่มนี่ก็น่าคิดเหมือนกัน สงสัยเขาคงต้องไปฝึกวิชาเพิ่มสักหน่อย

    แถมจุดประสงค์หลักของพ่อปีศาจยังเป็นลูกของคิงบาโรเสียอีก เฟรินคิดอย่างสนุก พ่อปีศาจคงไม่ได้บอกพ่อมาดัสตรงๆว่าหมายตาลูกของคิงบาโรไว้แก้เกมต่างหาก

     น่าสนุกจริงๆ

    "เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าต้องทำอะไรบ้าง" มาดัสถาม

    "อืมก็พอเข้าใจ เพียงแต่คิดว่าคงต้องให้พ่อสอนวิชาจีบหนุ่มซะแล้ว"เฟรินบอก

    "มันจะไปยากอะไร เดี๋ยวแวะแถวบาร์สักสองสามบาร์ก่อนค่อยเดินทางต่อ" มาดัสบอกก่อนพาลูกชายตัวดีตะลุยราตรีฝึกวิทยายุทธกันต่อ
     
    หลังเสียเวลาไปพอสมควรสองพ่อลูกก็เร่งเดินทางมาให้ทันวันเปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ของโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กจนได้

    "โห เกวียนต่อเป็นแถวยาวเหยียดเลยพ่อ" เฟรินอุทาน

    "ก็ปีนี้มีพวกเจ้าชาย เจ้าหญิงมาเรียนพร้อมกันหลายคนนี่ ปีที่แกเกิดเป็นปียอดนิยมที่คนเขาฮิตเกิดกันโว้ย" มาดัสบอกก่อนผลักลูกชายให้ไปต่อแถวเรียกชื่อ เพราะเขาส่งใบสมัครล่วงหน้ามาให้แล้ว แน่นอนว่าใช้เส้นไฮคิงตามันไง

    เสียงชายร่างใหญ่เรียกชื่อผู้เข้าสอบทีละคนให้เข้าไปข้างใน

    "เจ้าชายคาโล วาเนบบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาล"

    เสียงฮือฮาดังขึ้นทุกคนจับตามองเจ้าชายคนสำคัญ ส่วนเฟรินไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเคยเห็นแล้วตอนเดินทางท่องเที่ยว

    เด็กชายร่างสูง หน้าสวยเชิดเย็นชา ผมสีเงิน ดวงตาสีฟ้าไม่บอกความรู้สึกเดินไปหาอาจารย์ผู้เรียก

    "เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส" เสียงวิจารณ์ดังขึ้นเมื่อได้ยินฉายาของเขา

    เฟรินเดินไปเข้าแถวโดยเร็วเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตานาน มันแสลงอาชีพหัวขโมยอย่างเขา

    "สวัสดี" เฟรินทักทายก่อนอย่างมีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่ถูกรอยยิ้มเหยียดหยามใส่

    "ขโมยก็คือขโมย ย่อมกลายเป็นพระราชาไปไม่ได้" เสียงเย็นชาบอกมา

    "ฉันก็ไม่ได้คิดจะเป็นพระราชาสักหน่อย แค่คิดจะขโมยหัวใจเจ้าชายสักคนก็พอ" เฟรินบอก

    พร้อมส่งรอยยิ้มและแววตาดุจนายพรานตระครุบเหยื่อไปให้ ทำให้ใบหน้าสวยหันหนีไปอีกทางทันที

    "โร เซวาเรส เดอะแบกการ์ออฟทริสทอร์"

    เฟรินหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนเบิกตากว้างอย่างจำได้ ขอทานผู้รอบรู้ที่เจอกันที่เวนอลนั่นเอง เด็กหนุ่มส่งยิ้มไปให้ทันที

    แต่ไม่ทันได้ทักทายก็ถูกเรียกเข้าห้องทดสอบ

    การทดสอบที่พ่อมาดัสบอกไว้ว่าใช้ของวิเศษทั้งสี่อย่างทดสอบ ดูว่าอย่างไหนส่องแสง

    "อย่างแกคงส่องหมด เพราะตอบรับกับพลังของเลือดในตัวแก เพราะฉะนั้นอยากอยู่ป้อมไหนก็เข้าใกล้ของนั่นหน่อยก็แล้วกัน"

    มาดัสบอกอย่างไม่เดือดร้อน ก่อนสาธยายให้ฟังว่าดาบไปป้อมอัศวิน แหวนไปป้อมปราชญ์ มงกุฏไปปราสาทขุนนาง ส่วนคทาไปแผ่นดินประชา

    เฟรินคิดอย่างสนุกสนานป้อมผจญภัยย่อมสนุกสุด ดีกว่าป้อมผลาญทรัพย์ ปราการลับสมอง หรือแผ่นดินใช้แรงงานแน่นอน

    เมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้าไป ของวิเศษทั้งสี่พร้อมใจกันเรื่องแสงเจิดจ้า เรียกความสนใจของอาจารย์ผู้คุมสอบได้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มมองเห็นมหาปราชญ์เลโมธี คงเป็นคนที่ดูแก่สุดมั้ง

    เขาส่งยิ้มให้ก่อนนั่งลง พยายามเอนตัวไปทางดาบเล็กน้อย ก่อนที่ของวิเศษชิ้นอื่นค่อยๆดับแสง เหลือแต่ดาบที่ส่องแสงนวล

    "เธอสอบผ่าน ไปสอบสัมภาษณ์ที่ห้องถัดไปได้เลย" มหาปราชญ์บอก

    เฟรินเข้าไปห้องสัมภาษณ์ก่อนตอบคำถามอย่างฉาดฉาน ผสมมั่วปนโม้นิดหน่อย ตามนิสัย อาจารย์ผู้หญิงผู้คุมสอบจดกระดาษคำตอบของเขาแล้วบอกว่าเขาผ่านการทดสอบ ให้ซื้ออุปกรณ์การเรียนได้เลย

    ออกมาเฟรินเห็นพ่อเขาจ่ายค่าเทอมเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปสมทบ

    "ไหนรายการหนังสือกับของของแก" มาดัสถาม

    "เราจะซื้อวันนี้เลยหรอกพ่อ" เฟรินถาม

    "ใช่สิของมือสองนะ ตาดีได้ตาร้ายเสีย ต้องรีบ วันหลังของดีคนอื่นเขาก็เอาไปหมดแล้วนะสิ" มาดัสบอก

    เฟรินจึงเดินตามออกมาอย่างว่าง่าย เขาไม่ค่อยเดือดร้อนกับข้าวของที่ใช้เท่าไร เพราะไม่อยากเป็นที่สังเกตุมาก ขี้เกียจวุ่นวาย อยู่เฉยๆสบายที่สุด

    ในที่สุดเฟรินก็ได้ของครบหนังสือกลางเก่ากลางใหม่ เสื้อผ้ามือสองจริงๆเพราะมือหนึ่งพึ่งเอามาขายยังไม่เก่ามาก คทาแบตเตอร์รี่เปลี่ยนใหม่ (ใหม่เฉพาะแบต) ม้าสุดที่รักของพ่อที่ใช้มาทุกวัน และของจิปาถะ รวมถึงดาบบิ่นเล็กน้อยที่ปะป๋าเอวี่ให้มาบอกเป็นของขวัญเข้าโรงเรียนชื่อดาบผ่าปฐพี

    เฟรินอ่านหนังสือเล่นจนหมดเพราะไม่มีอะไรทำจนกว่าจะเปิดเทอม กลางคืนก็ไปหางานพิเศษทำแถวบาร์ในเมืองเป็นทั้งบาร์เทนเดอร์ นักพนันและหัวขโมย อะไรที่ได้เงินเขาทำทั้งนั้นแหละ ไว้เป็นค่าอาหารช่วงเปิดเทอมนะสิ ก็เด็กกำลังกินกำลังโตอย่างเขาต้องกินเยอะ แถมยังเป็นมังสวิรัติอีก เลยต้องกินเยอะหน่อย

    ในวันเปิดเทอม นายมาดัสมาส่ง

    "ทำตัวดีๆล่ะแก อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้มากนัก" มาดัสสั่งลูกชาย

    "ผมไม่เคยหาเรื่องเลย มีแต่เรื่องมาหาผมทุกที" เด็กหนุ่มตอบทันควัน

    เฟรินไปเข้าแถวแล้วรู้สึกว่ามีคนสะกิดเมื่อหันไปมองก็พบกับขอทานผมสีทอง นัยน์ตาสีเขียว ทั้งคู่ทักทายกันอย่างถูกคอ

    "นายอยากอยู่ป้อมไหน "เฟรินถามทันที

    "ไม่ใช่เราจะเลือกได้หรอก เขาเลือกจากคะแนนการทดสอบนะ" โรบอก

    "แหมถ้าเราได้อยู่ป้อมเดียวกันก็ดีนะสิ" เฟรินบอก คิดในใจว่าจะเริ่มงานจีบหนุ่มเลยดีไหมน่ะ

    "นายอยากอยู่ป้อมไหนล่ะ"โรถามต่อ

    "ป้อมอัศวินนะ น่าสนุกดี"เฟรินตอบ

    "ป้อมผจญภัย คงเหมาะกับนิสัยของนาย"โรบอก

    "นายล่ะ" เฟรินชวนคุยต่อ ก่อนได้ยินเสียงเรียกประกาศชื่อจึงรีบวิ่งไปหน้าแถว

    "เฟริน เดอเบอโรว์ ป้อมอัศวิน"

    เสียงปรบมือมาจากแถวของป้อม ก่อนที่รุ่นพี่จะพาเขาไปเข้าแถว และพาไปป้อมอัศวินต่อ

    รุ่นพี่แนะนำเรื่องทั่วไปก่อนจะจัดเข้าห้อง

    "ห้องแรกจะเป็นห้องของหัวหน้าชั้นปี คือผู้สอบเข้าด้วยคะแนนสูงสุดสามคนแรก มีหน้าที่ดูแลทั้งชั้นปีและรับคำท้าสู้ของผู้หวังแย่งตำแหน่ง กฏของป้อมอัศวินผู้แข็งแกร่งคือผู้กำชัย" รุ่นพี่บอก

    "นายว่าใครจะได้อยู่ห้องแรก" เฟรินหันไปถามโร เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเจ้าชายคาโล

    "ฉันคิดว่านายจะถามว่าเขาจะได้อยู่ไหมมากกว่า แต่ฉันว่าเขาได้ชัวร์เพราะเขาเก่งมาก" โรบอกพร้อมมองตามสายตาของเฟรินไป

    ยังไม่ทันที่เฟรินจะได้พูดอะไรต่อ รุ่นพี่ก็ประกาศรายชื่อ

    "เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส
    คาโล วาเนบบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาล
    คิลมัส ฟีมัส เดอะคิลเลอร์ออฟซาเรส"

    "ฮ้าฉันต้องอยู่ห้องน่าเบื่อนั่นเหรอ รุ่นพี่ผมขอเปลี่ยนห้องได้มั้ย อยู่แล้วคงอึดอัดตาย"เฟรินรีบท้วงทันที ใครจะอยากอยู่ห้องที่ต้องสู้เมื่อมีคนมาขอท้า เหนื่อยแย่เลย

    "การจัดห้องถือเป็นสิทธิขาด" รุ่นพี่บอก

    "ถ้านายไม่อยากอยู่ก็แกล้งแพ้ฉันก็ได้ " โรบอกอย่างหวังดีปนท้าทาย

    ทั้งหมดจึงไปรับกุญแจจากรุ่นพี่ก่อนขนของเข้าห้องไป

    "แนะนำตัวกันก่อนไหม"เฟรินถาม

    "ก็รู้จักชื่อแล้วไม่จำเป็นหรอก" เจ้าชายคาโลบอกอย่างเย็นชา

    เฟรินเลยหันไปหาอีกคนแทน ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มคุยกันอย่างถูกคอ

    "ตกลงนายมาขโมยอะไรสักอย่างจริงๆเหรอ"คิลถามอย่างตื่นเต้น

    "จริงสิ แล้วนายมาฆ่าใครสักคน เช่นเจ้าชายแถวนี้ไหม" เฟรินถามต่อเรียกรอยเย็นชาจากดวงตาสีฟ้าฉายมาครู่หนึ่งทันที

    กว่าที่ทั้งสามจะได้หลับก็ดึก สองคนพูดคุยกันจนดึก อีกคนนอนไม่หลับเพราะเสียงหนวกหู ถึงจะเอ็ดอย่างไรไอ้สองตัวนั้นมันก็ไม่ฟัง ทำให้ต้องนอนฟังพวกมันคุยกันแทน

    ตอนเช้าทั้งสามตื่นขึ้นมาพร้อมเรื่องราวของฝันประหลาดที่มีมงกุฎมาเสนอของที่ต้องการให้ สร้างความขบขันให้เฟรินและคิลได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ยั่วเจ้าชายน้ำแข็งให้ละลายไปเล็กน้อย

    ทั้งสามเดินลงมากินอาหารเช้าที่โรงอาหารดรากอน ด้วยมนุษย์สัมพันธ์อันดีและด้วยฝีปากเอกทำให้เฟรินสนิทกับคุณป้าเจ้าของร้านอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้แถมเป็นจำนวนมาก

    "นายกินอย่างนี้ทุกวันเหรอ"คิลถามเมื่อเห็นปริมาณอาหารเจ้าเพื่อนตัวดี เห็นตัวเล็กไม่คิดว่าจะกินจุ แต่เมือสังเกตุดูเห็นแต่พวกผัก ไม่มีเนื้อสัตว์เลย

    "อืมฉันหิวเก่งนะ"เฟรินบอก ก่อนรู้สึกถึงใครมาอยู่ข้างหลัง เมื่อหันไปมองเห็นโร กับกัสและเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่เขาไม่รู้จัก

    "ดีใจจังที่ได้อยู่ป้อมเดียวกับนายจริงๆด้วย"เฟรินบอกกัสอย่างดีใจ

    "ฉันก็ดีใจที่อยู่ป้อมเดียวกับนาย" กัสบอกพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจ ส่งผลให้ดวงหน้าสวยคล้ายผู้หญิงดูดียิ่งขึ้น แถมเด็กหนุ่มยังไว้ผมยาวถักเปียไว้ถึงเอวอีก

    "ผมซีบิล สเวนครับ" เด็กหนุ่มอีกคนแนะนำตัวเอง

    "พวกนายสามคนอยู่ห้องเดียวกันใช่มั้ย"

    เฟรินถามก่อนจัดการอาหารต่ออย่างสปีดไม่ตก แม้คุยไปด้วย แต่ตกคะแนนมารยาทหลุดลุ่ย สังเกตุได้จากสีหน้าของเจ้าชายเพื่อนร่วมห้องที่เฟรินปรายตาไปเห็นแต่ก็ไม่มีอาการจะหยุดการกระทำดังกล่าวแถมยังสวาปามอาหารต่อไป อย่างไม่รู้สึกอาย

    โรกับกัสเพียงแค่ยิ้มๆเพราะเคยเห็นมากแล้วกับวิธีการกินอันแสนศิวิไลซ์ของเจ้าตัวยุ่ง แต่คนอื่นคงต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะชิน โดยเฉพาะเจ้าชายจากคาโนวาล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเดินไปเรียนด้วยกันอย่างไม่มีทางเลี่ยง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×