ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เข้าโรงเรียน
บารามอส
บทที่ 3 เข้าโรงเรียน
เกวียนน้อยหลังจากเดินทางไปทั่วเอเดนก็โทรมสนิท ในเกวียนยังคงคึกคักด้วยเสียงรุกฆาตเช่นเคย
"มีงานให้เจ้าทำนะ" มาดัสบอก
"งานอะไรล่ะพ่อ " เฟรินว่า
"ขโมยหัวใจเจ้าชายสักคนหนึ่ง กับหาเจ้าชายตัวจริงหนึ่ง ทำได้ไหมล่ะ"มาดัสบอก
"ไอ้หาเจ้าชายตัวจริงนี่หมายถึงเจ้าชายของสี่ประเทศที่ส่งพวกลูกออกเร่รอนใช่มั้ยพ่อ" เฟรินถาม
เรื่องประวัติศาสตร์เอเดนที่ได้ฟังจากเจ้าขอทานผู้รอบรู้ทำให้ฉลาดขึ้นเยอะเลย
"เออ"มาดัสตอบรับสั้น
"พ่อจะเอาไปทำไมล่ะ"เฟรินยังคงสงสัยอยู่
"ข่าวพวกนี้นะราคาแพงจะตาย แกไม่รู้เหรอ ไม่รู้ได้เชื้อโง่ของใคร ไม่ได้เอาความฉลาดของฉันไปบ้างเลย"มาดัสได้ทีกัดเจ้าตัวแสบทันที
"ไว้ทีผมบ้างก็แล้วกัน โอเคแปลว่าอยากทราบชื่อเท่านั้นสินะ แล้วไอ้ให้ขโมยหัวใจนี่เอาแบบสดๆ หรือแบบแช่แข็งล่ะ ความจริงพ่อน่าจะไปจ้างนักฆ่ามากกว่ามาใช้ขโมยนะพ่อ" เฟรินยวนกลับเมื่อได้ที
"ไอ้บ้าข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าหมายความว่าให้ทำให้รักและมอบหัวใจให้เอ็งต่างหาก แฟนนะเข้าใจไหม"มาดัสบอก
"ทำไมต้องให้ฉันไปจีบผู้ชายด้วยล่ะพ่อ" เฟรินถามอย่างสงสัย
"เป็นคำสั่งปะป๋าแกโว้ยงานนี้ต้องอธิบายยาว มันเริ่มมาตั้งแต่ศึกชิงแม่แก เดิมทีแม่แกเข้ารับไข่มุกแสงจันทร์ของคิงบาโรไว้แล้ว แต่ดันต้องมาแต่งกับพ่อแก ทำให้คิงบาโรโกรธมาก บอกไว้ว่าเป็นหนี้แห่งคาโนวาลที่เดมอสจะต้องชดใช้ โดยให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลแย่งคนรักของเจ้าชายแห่งเดมอสแก้แค้นไง"มาดัสอธิบายยาวก่อนหยุดพักยกจิบชาก่อน
"อ้อก็หมายความว่าถ้าผมมีคนรักเป็นผู้หญิงก็ต้องถูกแย่ง แต่ถ้าเป็นคนรักผู้ชาย ลองมาแย่งก็คงสนุกดี วาจาแห่งกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำสินะ"
เฟรินบอกเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ถึงอารมณ์ขันลึกของผู้เป็นพ่อ เล่นท้าใครไม่เล่น มาท้าราชาปีศาจ เอาเป็นว่าลูกราชาหัวขโมยจะช่วยสร้างความสนุกให้เจ้าชายน้ำแข็งนั่นก็แล้วกัน ดูยังไงไอ้น้ำแข็งเดินได้นั่นก็จีบสาวไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าให้แข่งจีบสาวคงพอแข่งไหว แต่ถ้าให้จีบหนุ่มนี่ก็น่าคิดเหมือนกัน สงสัยเขาคงต้องไปฝึกวิชาเพิ่มสักหน่อย
แถมจุดประสงค์หลักของพ่อปีศาจยังเป็นลูกของคิงบาโรเสียอีก เฟรินคิดอย่างสนุก พ่อปีศาจคงไม่ได้บอกพ่อมาดัสตรงๆว่าหมายตาลูกของคิงบาโรไว้แก้เกมต่างหาก
น่าสนุกจริงๆ
"เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าต้องทำอะไรบ้าง" มาดัสถาม
"อืมก็พอเข้าใจ เพียงแต่คิดว่าคงต้องให้พ่อสอนวิชาจีบหนุ่มซะแล้ว"เฟรินบอก
"มันจะไปยากอะไร เดี๋ยวแวะแถวบาร์สักสองสามบาร์ก่อนค่อยเดินทางต่อ" มาดัสบอกก่อนพาลูกชายตัวดีตะลุยราตรีฝึกวิทยายุทธกันต่อ
หลังเสียเวลาไปพอสมควรสองพ่อลูกก็เร่งเดินทางมาให้ทันวันเปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ของโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กจนได้
"โห เกวียนต่อเป็นแถวยาวเหยียดเลยพ่อ" เฟรินอุทาน
"ก็ปีนี้มีพวกเจ้าชาย เจ้าหญิงมาเรียนพร้อมกันหลายคนนี่ ปีที่แกเกิดเป็นปียอดนิยมที่คนเขาฮิตเกิดกันโว้ย" มาดัสบอกก่อนผลักลูกชายให้ไปต่อแถวเรียกชื่อ เพราะเขาส่งใบสมัครล่วงหน้ามาให้แล้ว แน่นอนว่าใช้เส้นไฮคิงตามันไง
เสียงชายร่างใหญ่เรียกชื่อผู้เข้าสอบทีละคนให้เข้าไปข้างใน
"เจ้าชายคาโล วาเนบบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาล"
เสียงฮือฮาดังขึ้นทุกคนจับตามองเจ้าชายคนสำคัญ ส่วนเฟรินไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเคยเห็นแล้วตอนเดินทางท่องเที่ยว
เด็กชายร่างสูง หน้าสวยเชิดเย็นชา ผมสีเงิน ดวงตาสีฟ้าไม่บอกความรู้สึกเดินไปหาอาจารย์ผู้เรียก
"เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส" เสียงวิจารณ์ดังขึ้นเมื่อได้ยินฉายาของเขา
เฟรินเดินไปเข้าแถวโดยเร็วเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตานาน มันแสลงอาชีพหัวขโมยอย่างเขา
"สวัสดี" เฟรินทักทายก่อนอย่างมีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่ถูกรอยยิ้มเหยียดหยามใส่
"ขโมยก็คือขโมย ย่อมกลายเป็นพระราชาไปไม่ได้" เสียงเย็นชาบอกมา
"ฉันก็ไม่ได้คิดจะเป็นพระราชาสักหน่อย แค่คิดจะขโมยหัวใจเจ้าชายสักคนก็พอ" เฟรินบอก
พร้อมส่งรอยยิ้มและแววตาดุจนายพรานตระครุบเหยื่อไปให้ ทำให้ใบหน้าสวยหันหนีไปอีกทางทันที
"โร เซวาเรส เดอะแบกการ์ออฟทริสทอร์"
เฟรินหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนเบิกตากว้างอย่างจำได้ ขอทานผู้รอบรู้ที่เจอกันที่เวนอลนั่นเอง เด็กหนุ่มส่งยิ้มไปให้ทันที
แต่ไม่ทันได้ทักทายก็ถูกเรียกเข้าห้องทดสอบ
การทดสอบที่พ่อมาดัสบอกไว้ว่าใช้ของวิเศษทั้งสี่อย่างทดสอบ ดูว่าอย่างไหนส่องแสง
"อย่างแกคงส่องหมด เพราะตอบรับกับพลังของเลือดในตัวแก เพราะฉะนั้นอยากอยู่ป้อมไหนก็เข้าใกล้ของนั่นหน่อยก็แล้วกัน"
มาดัสบอกอย่างไม่เดือดร้อน ก่อนสาธยายให้ฟังว่าดาบไปป้อมอัศวิน แหวนไปป้อมปราชญ์ มงกุฏไปปราสาทขุนนาง ส่วนคทาไปแผ่นดินประชา
เฟรินคิดอย่างสนุกสนานป้อมผจญภัยย่อมสนุกสุด ดีกว่าป้อมผลาญทรัพย์ ปราการลับสมอง หรือแผ่นดินใช้แรงงานแน่นอน
เมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้าไป ของวิเศษทั้งสี่พร้อมใจกันเรื่องแสงเจิดจ้า เรียกความสนใจของอาจารย์ผู้คุมสอบได้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มมองเห็นมหาปราชญ์เลโมธี คงเป็นคนที่ดูแก่สุดมั้ง
เขาส่งยิ้มให้ก่อนนั่งลง พยายามเอนตัวไปทางดาบเล็กน้อย ก่อนที่ของวิเศษชิ้นอื่นค่อยๆดับแสง เหลือแต่ดาบที่ส่องแสงนวล
"เธอสอบผ่าน ไปสอบสัมภาษณ์ที่ห้องถัดไปได้เลย" มหาปราชญ์บอก
เฟรินเข้าไปห้องสัมภาษณ์ก่อนตอบคำถามอย่างฉาดฉาน ผสมมั่วปนโม้นิดหน่อย ตามนิสัย อาจารย์ผู้หญิงผู้คุมสอบจดกระดาษคำตอบของเขาแล้วบอกว่าเขาผ่านการทดสอบ ให้ซื้ออุปกรณ์การเรียนได้เลย
ออกมาเฟรินเห็นพ่อเขาจ่ายค่าเทอมเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปสมทบ
"ไหนรายการหนังสือกับของของแก" มาดัสถาม
"เราจะซื้อวันนี้เลยหรอกพ่อ" เฟรินถาม
"ใช่สิของมือสองนะ ตาดีได้ตาร้ายเสีย ต้องรีบ วันหลังของดีคนอื่นเขาก็เอาไปหมดแล้วนะสิ" มาดัสบอก
เฟรินจึงเดินตามออกมาอย่างว่าง่าย เขาไม่ค่อยเดือดร้อนกับข้าวของที่ใช้เท่าไร เพราะไม่อยากเป็นที่สังเกตุมาก ขี้เกียจวุ่นวาย อยู่เฉยๆสบายที่สุด
ในที่สุดเฟรินก็ได้ของครบหนังสือกลางเก่ากลางใหม่ เสื้อผ้ามือสองจริงๆเพราะมือหนึ่งพึ่งเอามาขายยังไม่เก่ามาก คทาแบตเตอร์รี่เปลี่ยนใหม่ (ใหม่เฉพาะแบต) ม้าสุดที่รักของพ่อที่ใช้มาทุกวัน และของจิปาถะ รวมถึงดาบบิ่นเล็กน้อยที่ปะป๋าเอวี่ให้มาบอกเป็นของขวัญเข้าโรงเรียนชื่อดาบผ่าปฐพี
เฟรินอ่านหนังสือเล่นจนหมดเพราะไม่มีอะไรทำจนกว่าจะเปิดเทอม กลางคืนก็ไปหางานพิเศษทำแถวบาร์ในเมืองเป็นทั้งบาร์เทนเดอร์ นักพนันและหัวขโมย อะไรที่ได้เงินเขาทำทั้งนั้นแหละ ไว้เป็นค่าอาหารช่วงเปิดเทอมนะสิ ก็เด็กกำลังกินกำลังโตอย่างเขาต้องกินเยอะ แถมยังเป็นมังสวิรัติอีก เลยต้องกินเยอะหน่อย
ในวันเปิดเทอม นายมาดัสมาส่ง
"ทำตัวดีๆล่ะแก อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้มากนัก" มาดัสสั่งลูกชาย
"ผมไม่เคยหาเรื่องเลย มีแต่เรื่องมาหาผมทุกที" เด็กหนุ่มตอบทันควัน
เฟรินไปเข้าแถวแล้วรู้สึกว่ามีคนสะกิดเมื่อหันไปมองก็พบกับขอทานผมสีทอง นัยน์ตาสีเขียว ทั้งคู่ทักทายกันอย่างถูกคอ
"นายอยากอยู่ป้อมไหน "เฟรินถามทันที
"ไม่ใช่เราจะเลือกได้หรอก เขาเลือกจากคะแนนการทดสอบนะ" โรบอก
"แหมถ้าเราได้อยู่ป้อมเดียวกันก็ดีนะสิ" เฟรินบอก คิดในใจว่าจะเริ่มงานจีบหนุ่มเลยดีไหมน่ะ
"นายอยากอยู่ป้อมไหนล่ะ"โรถามต่อ
"ป้อมอัศวินนะ น่าสนุกดี"เฟรินตอบ
"ป้อมผจญภัย คงเหมาะกับนิสัยของนาย"โรบอก
"นายล่ะ" เฟรินชวนคุยต่อ ก่อนได้ยินเสียงเรียกประกาศชื่อจึงรีบวิ่งไปหน้าแถว
"เฟริน เดอเบอโรว์ ป้อมอัศวิน"
เสียงปรบมือมาจากแถวของป้อม ก่อนที่รุ่นพี่จะพาเขาไปเข้าแถว และพาไปป้อมอัศวินต่อ
รุ่นพี่แนะนำเรื่องทั่วไปก่อนจะจัดเข้าห้อง
"ห้องแรกจะเป็นห้องของหัวหน้าชั้นปี คือผู้สอบเข้าด้วยคะแนนสูงสุดสามคนแรก มีหน้าที่ดูแลทั้งชั้นปีและรับคำท้าสู้ของผู้หวังแย่งตำแหน่ง กฏของป้อมอัศวินผู้แข็งแกร่งคือผู้กำชัย" รุ่นพี่บอก
"นายว่าใครจะได้อยู่ห้องแรก" เฟรินหันไปถามโร เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเจ้าชายคาโล
"ฉันคิดว่านายจะถามว่าเขาจะได้อยู่ไหมมากกว่า แต่ฉันว่าเขาได้ชัวร์เพราะเขาเก่งมาก" โรบอกพร้อมมองตามสายตาของเฟรินไป
ยังไม่ทันที่เฟรินจะได้พูดอะไรต่อ รุ่นพี่ก็ประกาศรายชื่อ
"เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส
คาโล วาเนบบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาล
คิลมัส ฟีมัส เดอะคิลเลอร์ออฟซาเรส"
"ฮ้าฉันต้องอยู่ห้องน่าเบื่อนั่นเหรอ รุ่นพี่ผมขอเปลี่ยนห้องได้มั้ย อยู่แล้วคงอึดอัดตาย"เฟรินรีบท้วงทันที ใครจะอยากอยู่ห้องที่ต้องสู้เมื่อมีคนมาขอท้า เหนื่อยแย่เลย
"การจัดห้องถือเป็นสิทธิขาด" รุ่นพี่บอก
"ถ้านายไม่อยากอยู่ก็แกล้งแพ้ฉันก็ได้ " โรบอกอย่างหวังดีปนท้าทาย
ทั้งหมดจึงไปรับกุญแจจากรุ่นพี่ก่อนขนของเข้าห้องไป
"แนะนำตัวกันก่อนไหม"เฟรินถาม
"ก็รู้จักชื่อแล้วไม่จำเป็นหรอก" เจ้าชายคาโลบอกอย่างเย็นชา
เฟรินเลยหันไปหาอีกคนแทน ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มคุยกันอย่างถูกคอ
"ตกลงนายมาขโมยอะไรสักอย่างจริงๆเหรอ"คิลถามอย่างตื่นเต้น
"จริงสิ แล้วนายมาฆ่าใครสักคน เช่นเจ้าชายแถวนี้ไหม" เฟรินถามต่อเรียกรอยเย็นชาจากดวงตาสีฟ้าฉายมาครู่หนึ่งทันที
กว่าที่ทั้งสามจะได้หลับก็ดึก สองคนพูดคุยกันจนดึก อีกคนนอนไม่หลับเพราะเสียงหนวกหู ถึงจะเอ็ดอย่างไรไอ้สองตัวนั้นมันก็ไม่ฟัง ทำให้ต้องนอนฟังพวกมันคุยกันแทน
ตอนเช้าทั้งสามตื่นขึ้นมาพร้อมเรื่องราวของฝันประหลาดที่มีมงกุฎมาเสนอของที่ต้องการให้ สร้างความขบขันให้เฟรินและคิลได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ยั่วเจ้าชายน้ำแข็งให้ละลายไปเล็กน้อย
ทั้งสามเดินลงมากินอาหารเช้าที่โรงอาหารดรากอน ด้วยมนุษย์สัมพันธ์อันดีและด้วยฝีปากเอกทำให้เฟรินสนิทกับคุณป้าเจ้าของร้านอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้แถมเป็นจำนวนมาก
"นายกินอย่างนี้ทุกวันเหรอ"คิลถามเมื่อเห็นปริมาณอาหารเจ้าเพื่อนตัวดี เห็นตัวเล็กไม่คิดว่าจะกินจุ แต่เมือสังเกตุดูเห็นแต่พวกผัก ไม่มีเนื้อสัตว์เลย
"อืมฉันหิวเก่งนะ"เฟรินบอก ก่อนรู้สึกถึงใครมาอยู่ข้างหลัง เมื่อหันไปมองเห็นโร กับกัสและเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่เขาไม่รู้จัก
"ดีใจจังที่ได้อยู่ป้อมเดียวกับนายจริงๆด้วย"เฟรินบอกกัสอย่างดีใจ
"ฉันก็ดีใจที่อยู่ป้อมเดียวกับนาย" กัสบอกพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจ ส่งผลให้ดวงหน้าสวยคล้ายผู้หญิงดูดียิ่งขึ้น แถมเด็กหนุ่มยังไว้ผมยาวถักเปียไว้ถึงเอวอีก
"ผมซีบิล สเวนครับ" เด็กหนุ่มอีกคนแนะนำตัวเอง
"พวกนายสามคนอยู่ห้องเดียวกันใช่มั้ย"
เฟรินถามก่อนจัดการอาหารต่ออย่างสปีดไม่ตก แม้คุยไปด้วย แต่ตกคะแนนมารยาทหลุดลุ่ย สังเกตุได้จากสีหน้าของเจ้าชายเพื่อนร่วมห้องที่เฟรินปรายตาไปเห็นแต่ก็ไม่มีอาการจะหยุดการกระทำดังกล่าวแถมยังสวาปามอาหารต่อไป อย่างไม่รู้สึกอาย
โรกับกัสเพียงแค่ยิ้มๆเพราะเคยเห็นมากแล้วกับวิธีการกินอันแสนศิวิไลซ์ของเจ้าตัวยุ่ง แต่คนอื่นคงต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะชิน โดยเฉพาะเจ้าชายจากคาโนวาล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเดินไปเรียนด้วยกันอย่างไม่มีทางเลี่ยง
บทที่ 3 เข้าโรงเรียน
เกวียนน้อยหลังจากเดินทางไปทั่วเอเดนก็โทรมสนิท ในเกวียนยังคงคึกคักด้วยเสียงรุกฆาตเช่นเคย
"มีงานให้เจ้าทำนะ" มาดัสบอก
"งานอะไรล่ะพ่อ " เฟรินว่า
"ขโมยหัวใจเจ้าชายสักคนหนึ่ง กับหาเจ้าชายตัวจริงหนึ่ง ทำได้ไหมล่ะ"มาดัสบอก
"ไอ้หาเจ้าชายตัวจริงนี่หมายถึงเจ้าชายของสี่ประเทศที่ส่งพวกลูกออกเร่รอนใช่มั้ยพ่อ" เฟรินถาม
เรื่องประวัติศาสตร์เอเดนที่ได้ฟังจากเจ้าขอทานผู้รอบรู้ทำให้ฉลาดขึ้นเยอะเลย
"เออ"มาดัสตอบรับสั้น
"พ่อจะเอาไปทำไมล่ะ"เฟรินยังคงสงสัยอยู่
"ข่าวพวกนี้นะราคาแพงจะตาย แกไม่รู้เหรอ ไม่รู้ได้เชื้อโง่ของใคร ไม่ได้เอาความฉลาดของฉันไปบ้างเลย"มาดัสได้ทีกัดเจ้าตัวแสบทันที
"ไว้ทีผมบ้างก็แล้วกัน โอเคแปลว่าอยากทราบชื่อเท่านั้นสินะ แล้วไอ้ให้ขโมยหัวใจนี่เอาแบบสดๆ หรือแบบแช่แข็งล่ะ ความจริงพ่อน่าจะไปจ้างนักฆ่ามากกว่ามาใช้ขโมยนะพ่อ" เฟรินยวนกลับเมื่อได้ที
"ไอ้บ้าข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าหมายความว่าให้ทำให้รักและมอบหัวใจให้เอ็งต่างหาก แฟนนะเข้าใจไหม"มาดัสบอก
"ทำไมต้องให้ฉันไปจีบผู้ชายด้วยล่ะพ่อ" เฟรินถามอย่างสงสัย
"เป็นคำสั่งปะป๋าแกโว้ยงานนี้ต้องอธิบายยาว มันเริ่มมาตั้งแต่ศึกชิงแม่แก เดิมทีแม่แกเข้ารับไข่มุกแสงจันทร์ของคิงบาโรไว้แล้ว แต่ดันต้องมาแต่งกับพ่อแก ทำให้คิงบาโรโกรธมาก บอกไว้ว่าเป็นหนี้แห่งคาโนวาลที่เดมอสจะต้องชดใช้ โดยให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลแย่งคนรักของเจ้าชายแห่งเดมอสแก้แค้นไง"มาดัสอธิบายยาวก่อนหยุดพักยกจิบชาก่อน
"อ้อก็หมายความว่าถ้าผมมีคนรักเป็นผู้หญิงก็ต้องถูกแย่ง แต่ถ้าเป็นคนรักผู้ชาย ลองมาแย่งก็คงสนุกดี วาจาแห่งกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำสินะ"
เฟรินบอกเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ถึงอารมณ์ขันลึกของผู้เป็นพ่อ เล่นท้าใครไม่เล่น มาท้าราชาปีศาจ เอาเป็นว่าลูกราชาหัวขโมยจะช่วยสร้างความสนุกให้เจ้าชายน้ำแข็งนั่นก็แล้วกัน ดูยังไงไอ้น้ำแข็งเดินได้นั่นก็จีบสาวไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าให้แข่งจีบสาวคงพอแข่งไหว แต่ถ้าให้จีบหนุ่มนี่ก็น่าคิดเหมือนกัน สงสัยเขาคงต้องไปฝึกวิชาเพิ่มสักหน่อย
แถมจุดประสงค์หลักของพ่อปีศาจยังเป็นลูกของคิงบาโรเสียอีก เฟรินคิดอย่างสนุก พ่อปีศาจคงไม่ได้บอกพ่อมาดัสตรงๆว่าหมายตาลูกของคิงบาโรไว้แก้เกมต่างหาก
น่าสนุกจริงๆ
"เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าต้องทำอะไรบ้าง" มาดัสถาม
"อืมก็พอเข้าใจ เพียงแต่คิดว่าคงต้องให้พ่อสอนวิชาจีบหนุ่มซะแล้ว"เฟรินบอก
"มันจะไปยากอะไร เดี๋ยวแวะแถวบาร์สักสองสามบาร์ก่อนค่อยเดินทางต่อ" มาดัสบอกก่อนพาลูกชายตัวดีตะลุยราตรีฝึกวิทยายุทธกันต่อ
หลังเสียเวลาไปพอสมควรสองพ่อลูกก็เร่งเดินทางมาให้ทันวันเปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ของโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กจนได้
"โห เกวียนต่อเป็นแถวยาวเหยียดเลยพ่อ" เฟรินอุทาน
"ก็ปีนี้มีพวกเจ้าชาย เจ้าหญิงมาเรียนพร้อมกันหลายคนนี่ ปีที่แกเกิดเป็นปียอดนิยมที่คนเขาฮิตเกิดกันโว้ย" มาดัสบอกก่อนผลักลูกชายให้ไปต่อแถวเรียกชื่อ เพราะเขาส่งใบสมัครล่วงหน้ามาให้แล้ว แน่นอนว่าใช้เส้นไฮคิงตามันไง
เสียงชายร่างใหญ่เรียกชื่อผู้เข้าสอบทีละคนให้เข้าไปข้างใน
"เจ้าชายคาโล วาเนบบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาล"
เสียงฮือฮาดังขึ้นทุกคนจับตามองเจ้าชายคนสำคัญ ส่วนเฟรินไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเคยเห็นแล้วตอนเดินทางท่องเที่ยว
เด็กชายร่างสูง หน้าสวยเชิดเย็นชา ผมสีเงิน ดวงตาสีฟ้าไม่บอกความรู้สึกเดินไปหาอาจารย์ผู้เรียก
"เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส" เสียงวิจารณ์ดังขึ้นเมื่อได้ยินฉายาของเขา
เฟรินเดินไปเข้าแถวโดยเร็วเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตานาน มันแสลงอาชีพหัวขโมยอย่างเขา
"สวัสดี" เฟรินทักทายก่อนอย่างมีมนุษยสัมพันธ์ดี แต่ถูกรอยยิ้มเหยียดหยามใส่
"ขโมยก็คือขโมย ย่อมกลายเป็นพระราชาไปไม่ได้" เสียงเย็นชาบอกมา
"ฉันก็ไม่ได้คิดจะเป็นพระราชาสักหน่อย แค่คิดจะขโมยหัวใจเจ้าชายสักคนก็พอ" เฟรินบอก
พร้อมส่งรอยยิ้มและแววตาดุจนายพรานตระครุบเหยื่อไปให้ ทำให้ใบหน้าสวยหันหนีไปอีกทางทันที
"โร เซวาเรส เดอะแบกการ์ออฟทริสทอร์"
เฟรินหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนเบิกตากว้างอย่างจำได้ ขอทานผู้รอบรู้ที่เจอกันที่เวนอลนั่นเอง เด็กหนุ่มส่งยิ้มไปให้ทันที
แต่ไม่ทันได้ทักทายก็ถูกเรียกเข้าห้องทดสอบ
การทดสอบที่พ่อมาดัสบอกไว้ว่าใช้ของวิเศษทั้งสี่อย่างทดสอบ ดูว่าอย่างไหนส่องแสง
"อย่างแกคงส่องหมด เพราะตอบรับกับพลังของเลือดในตัวแก เพราะฉะนั้นอยากอยู่ป้อมไหนก็เข้าใกล้ของนั่นหน่อยก็แล้วกัน"
มาดัสบอกอย่างไม่เดือดร้อน ก่อนสาธยายให้ฟังว่าดาบไปป้อมอัศวิน แหวนไปป้อมปราชญ์ มงกุฏไปปราสาทขุนนาง ส่วนคทาไปแผ่นดินประชา
เฟรินคิดอย่างสนุกสนานป้อมผจญภัยย่อมสนุกสุด ดีกว่าป้อมผลาญทรัพย์ ปราการลับสมอง หรือแผ่นดินใช้แรงงานแน่นอน
เมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้าไป ของวิเศษทั้งสี่พร้อมใจกันเรื่องแสงเจิดจ้า เรียกความสนใจของอาจารย์ผู้คุมสอบได้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มมองเห็นมหาปราชญ์เลโมธี คงเป็นคนที่ดูแก่สุดมั้ง
เขาส่งยิ้มให้ก่อนนั่งลง พยายามเอนตัวไปทางดาบเล็กน้อย ก่อนที่ของวิเศษชิ้นอื่นค่อยๆดับแสง เหลือแต่ดาบที่ส่องแสงนวล
"เธอสอบผ่าน ไปสอบสัมภาษณ์ที่ห้องถัดไปได้เลย" มหาปราชญ์บอก
เฟรินเข้าไปห้องสัมภาษณ์ก่อนตอบคำถามอย่างฉาดฉาน ผสมมั่วปนโม้นิดหน่อย ตามนิสัย อาจารย์ผู้หญิงผู้คุมสอบจดกระดาษคำตอบของเขาแล้วบอกว่าเขาผ่านการทดสอบ ให้ซื้ออุปกรณ์การเรียนได้เลย
ออกมาเฟรินเห็นพ่อเขาจ่ายค่าเทอมเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปสมทบ
"ไหนรายการหนังสือกับของของแก" มาดัสถาม
"เราจะซื้อวันนี้เลยหรอกพ่อ" เฟรินถาม
"ใช่สิของมือสองนะ ตาดีได้ตาร้ายเสีย ต้องรีบ วันหลังของดีคนอื่นเขาก็เอาไปหมดแล้วนะสิ" มาดัสบอก
เฟรินจึงเดินตามออกมาอย่างว่าง่าย เขาไม่ค่อยเดือดร้อนกับข้าวของที่ใช้เท่าไร เพราะไม่อยากเป็นที่สังเกตุมาก ขี้เกียจวุ่นวาย อยู่เฉยๆสบายที่สุด
ในที่สุดเฟรินก็ได้ของครบหนังสือกลางเก่ากลางใหม่ เสื้อผ้ามือสองจริงๆเพราะมือหนึ่งพึ่งเอามาขายยังไม่เก่ามาก คทาแบตเตอร์รี่เปลี่ยนใหม่ (ใหม่เฉพาะแบต) ม้าสุดที่รักของพ่อที่ใช้มาทุกวัน และของจิปาถะ รวมถึงดาบบิ่นเล็กน้อยที่ปะป๋าเอวี่ให้มาบอกเป็นของขวัญเข้าโรงเรียนชื่อดาบผ่าปฐพี
เฟรินอ่านหนังสือเล่นจนหมดเพราะไม่มีอะไรทำจนกว่าจะเปิดเทอม กลางคืนก็ไปหางานพิเศษทำแถวบาร์ในเมืองเป็นทั้งบาร์เทนเดอร์ นักพนันและหัวขโมย อะไรที่ได้เงินเขาทำทั้งนั้นแหละ ไว้เป็นค่าอาหารช่วงเปิดเทอมนะสิ ก็เด็กกำลังกินกำลังโตอย่างเขาต้องกินเยอะ แถมยังเป็นมังสวิรัติอีก เลยต้องกินเยอะหน่อย
ในวันเปิดเทอม นายมาดัสมาส่ง
"ทำตัวดีๆล่ะแก อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้มากนัก" มาดัสสั่งลูกชาย
"ผมไม่เคยหาเรื่องเลย มีแต่เรื่องมาหาผมทุกที" เด็กหนุ่มตอบทันควัน
เฟรินไปเข้าแถวแล้วรู้สึกว่ามีคนสะกิดเมื่อหันไปมองก็พบกับขอทานผมสีทอง นัยน์ตาสีเขียว ทั้งคู่ทักทายกันอย่างถูกคอ
"นายอยากอยู่ป้อมไหน "เฟรินถามทันที
"ไม่ใช่เราจะเลือกได้หรอก เขาเลือกจากคะแนนการทดสอบนะ" โรบอก
"แหมถ้าเราได้อยู่ป้อมเดียวกันก็ดีนะสิ" เฟรินบอก คิดในใจว่าจะเริ่มงานจีบหนุ่มเลยดีไหมน่ะ
"นายอยากอยู่ป้อมไหนล่ะ"โรถามต่อ
"ป้อมอัศวินนะ น่าสนุกดี"เฟรินตอบ
"ป้อมผจญภัย คงเหมาะกับนิสัยของนาย"โรบอก
"นายล่ะ" เฟรินชวนคุยต่อ ก่อนได้ยินเสียงเรียกประกาศชื่อจึงรีบวิ่งไปหน้าแถว
"เฟริน เดอเบอโรว์ ป้อมอัศวิน"
เสียงปรบมือมาจากแถวของป้อม ก่อนที่รุ่นพี่จะพาเขาไปเข้าแถว และพาไปป้อมอัศวินต่อ
รุ่นพี่แนะนำเรื่องทั่วไปก่อนจะจัดเข้าห้อง
"ห้องแรกจะเป็นห้องของหัวหน้าชั้นปี คือผู้สอบเข้าด้วยคะแนนสูงสุดสามคนแรก มีหน้าที่ดูแลทั้งชั้นปีและรับคำท้าสู้ของผู้หวังแย่งตำแหน่ง กฏของป้อมอัศวินผู้แข็งแกร่งคือผู้กำชัย" รุ่นพี่บอก
"นายว่าใครจะได้อยู่ห้องแรก" เฟรินหันไปถามโร เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเจ้าชายคาโล
"ฉันคิดว่านายจะถามว่าเขาจะได้อยู่ไหมมากกว่า แต่ฉันว่าเขาได้ชัวร์เพราะเขาเก่งมาก" โรบอกพร้อมมองตามสายตาของเฟรินไป
ยังไม่ทันที่เฟรินจะได้พูดอะไรต่อ รุ่นพี่ก็ประกาศรายชื่อ
"เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอส
คาโล วาเนบบลี เดอะปรินซ์ออฟคาโนวาล
คิลมัส ฟีมัส เดอะคิลเลอร์ออฟซาเรส"
"ฮ้าฉันต้องอยู่ห้องน่าเบื่อนั่นเหรอ รุ่นพี่ผมขอเปลี่ยนห้องได้มั้ย อยู่แล้วคงอึดอัดตาย"เฟรินรีบท้วงทันที ใครจะอยากอยู่ห้องที่ต้องสู้เมื่อมีคนมาขอท้า เหนื่อยแย่เลย
"การจัดห้องถือเป็นสิทธิขาด" รุ่นพี่บอก
"ถ้านายไม่อยากอยู่ก็แกล้งแพ้ฉันก็ได้ " โรบอกอย่างหวังดีปนท้าทาย
ทั้งหมดจึงไปรับกุญแจจากรุ่นพี่ก่อนขนของเข้าห้องไป
"แนะนำตัวกันก่อนไหม"เฟรินถาม
"ก็รู้จักชื่อแล้วไม่จำเป็นหรอก" เจ้าชายคาโลบอกอย่างเย็นชา
เฟรินเลยหันไปหาอีกคนแทน ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มคุยกันอย่างถูกคอ
"ตกลงนายมาขโมยอะไรสักอย่างจริงๆเหรอ"คิลถามอย่างตื่นเต้น
"จริงสิ แล้วนายมาฆ่าใครสักคน เช่นเจ้าชายแถวนี้ไหม" เฟรินถามต่อเรียกรอยเย็นชาจากดวงตาสีฟ้าฉายมาครู่หนึ่งทันที
กว่าที่ทั้งสามจะได้หลับก็ดึก สองคนพูดคุยกันจนดึก อีกคนนอนไม่หลับเพราะเสียงหนวกหู ถึงจะเอ็ดอย่างไรไอ้สองตัวนั้นมันก็ไม่ฟัง ทำให้ต้องนอนฟังพวกมันคุยกันแทน
ตอนเช้าทั้งสามตื่นขึ้นมาพร้อมเรื่องราวของฝันประหลาดที่มีมงกุฎมาเสนอของที่ต้องการให้ สร้างความขบขันให้เฟรินและคิลได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ยั่วเจ้าชายน้ำแข็งให้ละลายไปเล็กน้อย
ทั้งสามเดินลงมากินอาหารเช้าที่โรงอาหารดรากอน ด้วยมนุษย์สัมพันธ์อันดีและด้วยฝีปากเอกทำให้เฟรินสนิทกับคุณป้าเจ้าของร้านอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้แถมเป็นจำนวนมาก
"นายกินอย่างนี้ทุกวันเหรอ"คิลถามเมื่อเห็นปริมาณอาหารเจ้าเพื่อนตัวดี เห็นตัวเล็กไม่คิดว่าจะกินจุ แต่เมือสังเกตุดูเห็นแต่พวกผัก ไม่มีเนื้อสัตว์เลย
"อืมฉันหิวเก่งนะ"เฟรินบอก ก่อนรู้สึกถึงใครมาอยู่ข้างหลัง เมื่อหันไปมองเห็นโร กับกัสและเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่เขาไม่รู้จัก
"ดีใจจังที่ได้อยู่ป้อมเดียวกับนายจริงๆด้วย"เฟรินบอกกัสอย่างดีใจ
"ฉันก็ดีใจที่อยู่ป้อมเดียวกับนาย" กัสบอกพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจ ส่งผลให้ดวงหน้าสวยคล้ายผู้หญิงดูดียิ่งขึ้น แถมเด็กหนุ่มยังไว้ผมยาวถักเปียไว้ถึงเอวอีก
"ผมซีบิล สเวนครับ" เด็กหนุ่มอีกคนแนะนำตัวเอง
"พวกนายสามคนอยู่ห้องเดียวกันใช่มั้ย"
เฟรินถามก่อนจัดการอาหารต่ออย่างสปีดไม่ตก แม้คุยไปด้วย แต่ตกคะแนนมารยาทหลุดลุ่ย สังเกตุได้จากสีหน้าของเจ้าชายเพื่อนร่วมห้องที่เฟรินปรายตาไปเห็นแต่ก็ไม่มีอาการจะหยุดการกระทำดังกล่าวแถมยังสวาปามอาหารต่อไป อย่างไม่รู้สึกอาย
โรกับกัสเพียงแค่ยิ้มๆเพราะเคยเห็นมากแล้วกับวิธีการกินอันแสนศิวิไลซ์ของเจ้าตัวยุ่ง แต่คนอื่นคงต้องใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะชิน โดยเฉพาะเจ้าชายจากคาโนวาล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเดินไปเรียนด้วยกันอย่างไม่มีทางเลี่ยง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น