ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ภาคคู่อลวน

    ลำดับตอนที่ #7 : หมากกระดานเกียรติยศ

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 49


    บารามอส

    บทที่ 7 หมากกระดานเกียรติยศ

    ศึกกระดานหมากเกียรติยศเริ่มขึ้นด้วยสงครามของคนเดินหมาก

    "ไงไอ้หนู วันนี้การเสกของเล่นหรือดอกไม้คงช่วยให้ป้อมนายชนะไม่ได้หรอก"
     
    คนเดินหมากของป้อมขุนนางเริ่มข่มเจ้าหนูแห่งป้อมอัศวินทันที

    "นั่นสิ นายจะรับขนมหรือน้ำชาก่อนดีละ" เฟรินถามพร้อมรอยยิ้มยั่ว

    คนเดินหมากป้อมขุนนางมองอย่างโมโหที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ จึงหันไปสั่งเดินหมาก ให้เบี้ยฝ่ายตนปะทะกับเบี้ยฝ่ายตรงข้ามเปิดเกมทันที

    "ว้าวใจร้อน ดุดันจริงๆ นั่นนายคิดดีแล้วหรือที่เดินอย่างนั้น"
     
    เฟรินถามยั่วก่อนสั่งหมากตนเดินบ้าง

    ผลเบี้ยของฝ่ายป้อมอัศวินไม่ทำให้เฟรินผิดหวัง สามารถล้มเบี้ยฝั่งปราสาทขุนนางได้ และเฟรินสามารถสกัดการบุกของม้าและบิชอบฝั่งขุนนางได้ แถมยังใช้เบี้ยตรึงเรือและม้าฝั่งตรงข้ามให้เดินลำบาก

    สีหน้าของคนเดินหมากปราสาทขุนนางที่เริ่มตึงเครียด เขามีหมากที่มีฝีมือแต่ไม่สามารถให้ออกเดินได้ แถมกลโกงก็ใช้ไม่ได้ผล ทั้งสงครามประสาทกับเจ้าหนูหัวขโมย ทั้งเวทมนต์ที่ผู้เล่นของตนใช้ก็ไม่อาจทำอะไรพวกป้อมอัศวินได้ เพราะแต่ละคนแข็งแกร่งกว่าที่คิด

    สิบตาถัดมาก็รู้ผลเฟรินให้ม้ากัสประชิดคิงอีกฝ่ายทันที

    ขณะที่ศึกอีกด้านควีนคนสวยกำลังต่อสู้กับพ่อมดแห่งคาโนวาล

    เฟรินจินน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ขณะรอผลรุกฆาต

    ทางด้านอัฒจรรย์ ทั้งเจ้าชายอาเทอร์ที่วันนี้มานั่งฝั่งป้อมอัศวินเคียงข้างเจ้าชายโรเวน กำลังมองดูอย่างรู้สึกอยากกระโจนเข้ามาเล่นเอง

    "นายสอนพวกเด็กปีหนึ่งเล่นอย่างนั้นเหรอ" เจ้าชายอาเทอร์ถามคู่แข่ง

    "แล้วแต่นายจะคิด  แต่ป้อมอัศวินถึงไม่โกงก็ชนะได้" เจ้าชายแห่งเจมิไนตอบเจ้าชายประเทศเพื่อนบ้าน

    ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เล็กและเป็นคู่แข่งกันในทุกด้าน รวมทั้งเรื่องผู้หญิงด้วย แน่นอนทั้งคู่แข่งกันจีบเจ้าหญิงวิเวียนนานีย่าแห่งเวนอลอยู่ สาเหตุที่เจ้าชายอาเทอร์จีบทั้งที่ไม่ได้อยู่ในสเป็คก็เพราะโรเวนชอบถ้าแย่งได้ก็คงสนุก

    ทุกคนต่างตื่นตากับกลยุทธ์การเดินหมากของเจ้าหัวขโมยแห่งบารามอสที่สยบป้อมขุนนางได้ในที่สุด

    หลังกัสจัดการกับคิงของฝ่ายป้อมขุนนางได้ในที่สุด ไล่ๆกับคาโลที่ซัดเจ้าหญิงเอฟีน่าออกนอกเวที พร้อมสภาพตุ๊กตาหิมะน่ารัก

    เฟรินหัวเราะกับภาพที่เห็น ชัยชนะตกเป็นของปีหนึ่งป้อมอัศวิน

    "ยังไม่ทันมันเลย" ครี้ดบ่นที่เขากำจัดเบี้ยไปได้แค่สองตัวเอง

    "เอาหน้ายังมีรอบหน้าอีก" เฟรินบอก

    "นายเดินหมากใช้ได้นี่" แองจี้บอก คงต้องมองดูเจ้าหัวขโมยกะล่อนคนนี้ใหม่แล้ว อย่างน้อยหมอนี่ก็มีดีสักอย่าง

    "นั่นเขาเรียกว่าเก่งต่างหาก เพราะฉันยังไม่เคยชนะเฟรินได้สักตา" โรบอกส่งท้าย

    " แล้วทำไมนายไม่อาสาเดินหมากตั้งแต่แรก นี่ถ้าโรไม่ป่วยพวกเราก็ไม่รู้ฝีมือนายเลยนะ ทีหลังอย่างทำอมภูมิให้มันมากนักนะเฟริน" มาทิลด้าบอกอย่างหมั่นไส้ เด็กหนุ่มจอมป่วนแห่งชั้นปี

    "แหม ฉันมันก็แค่หัวขโมยเอง ต้องให้เกียรติคนอื่นก่อนนะสิ แต่ถ้าให้สมัครขโมยของล่ะก็ ฉันสมัครคนแรกเลย "เฟรินบอก

    " คุณเฟรินล่ะก็ อย่าเอาแต่พูดเล่นสิค่ะ" เรนอนว่าบ้าง

    "ผมพูดจริงเสมอกับคนสวยนะ" เฟรินบอก ส่งสายตามีเลศนัยใส่อีกฝ่าย ก่อนเดินไปหากัสกับโร

    "ความจริงนายก็น่าจะเดินหมากมากกว่าโรจริงๆ" กัสว่าบ้าง

    "เห็นมั้ย" โรซ้ำ อย่างอารมณ์ดี เพราะถ้าเป็นอย่างนี้ คราวหน้าเฟรินก็คงเบี้ยวไม่ได้ เพราะไม่มีใครหนีการเอาจริงของสามนางฟ้าประจำป้อมไปได้
     
    "เพราะแกทีเดียวทำเอาแผนลอยชายของฉันพังไม่เป็นท่าเลย" เฟรินบอกก่อนคุยเล่นต่ออย่างไม่คิดอะไร

    ที่พระราชวังแห่งคาโนวาล

    ในห้องสมุดส่วนพระองค์

    "เวส นายบ้าหรือเปล่าที่รับงานฆ่าลูกของอลิเซีย อย่างน้อยนายก็เป็นเพื่อนสนิทของอลิเซีย จะรับงานนะหัดคิดซะมั้งสิ ไม่ใช่ดูว่าเงินดีอย่างเดียว" คิงบาโรบ่นอดีตเพื่อนร่วมป้อม

    "โธ่ ก็ตอนนั้นมันลืมไปว่าธิดาแห่งความมืดน่ะมันลูกอลิเซีย" เวส บอกก่อนย้อนถาม

    "แล้วท่านไปรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"

    "ก็มีข่าวลือว่าธิดาแห่งความมืดเข้าเรียนโรงเรียนปีนี้ แล้วถูกลูกเจ้าหาเรื่องตามฆ่าอยู่นะสิ เราจะจ้างเจ้า" คิงบาโรว่า

    "จ้างทำอะไร" เวสว่า

    "ฆ่าคนที่สั่งฆ่าธิดาแห่งความมืด ถ้าผู้ว่าจ้างตายงานก็ยกเลิกใช่มั้ย" คิงบาโรบอก

    "ก็ได้ ฉันก็ว่าจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว" เวสบอกก่อนรับงาน

    ลับหลังเพื่อนเก่า คิงบาโรหยิบกระจกออกมาส่องดู ใบหน้าในกระจกเป็นหน้าตัวเองอยู่สักพัก ก่อนเปลี่ยนเป็นใบหน้าของหญิงสาวผมสีน้ำตาล ดวงตาสีน้ำตาล

    "อลิเซียข้าจัดการให้แล้วนะ" คิงบาโรว่า

    "ขอบใจมากเลยบาโร" ราชินีคนสวยบอกเพื่อนรัก

    "ความจริงเจ้าน่าจะบอกข้าว่าลูกเจ้าเข้าเรียนเร็วกว่านี้ ข้าจะได้ให้คาโลคอยดูแลลูกสาวเจ้า" คิงบาโรบอก

    "ก็แหมกว่าข้าจะขอเอวิเดสส่งกระจกติดต่อกับท่านได้ก็ต้องเกลี้ยกล่อมตั้งนาน รายนั้นเขากลัวว่าจะมีคนคิดฆ่าข้า คนที่อยากให้มีสงครามเอเดน-เดมอสอีก"อลิเซียบอก

    "งั้นลูกเจ้าอยู่ป้อมไหนล่ะ" คิงบาโรถามอย่างติดใจ

    "ความจริงแล้วนอนอยู่ห้องเดียวกับหลานคาโลนั่นแหละ" อลิเซียอ้อมแอ้มตอบ

    "หาอยู่ใกล้กันขนาดนั้น บังเอิญจังเลยนะ" คิงบาโรตอบก่อนหัวเราะชอบใจ

    ใครที่เดินผ่านห้องสมุดตอนนั้นคงต้องทำหน้าแปลกใจเป็นอย่างมาก ที่ได้ยินเสียงหัวเราะของคิงแห่งคาโนวาล

    ตกเย็นเฟรินเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะคืนนี้เป็นคืนวันเพ็ญ

    คาโลเดินเข้ามามองร่างบางที่คลุมโป่งอยู่

    "เฟริน" เสียงเรียกเบาอย่างไม่แน่ใจ

    "หือ มีอะไรคาโล"เฟรินหันมาถาม

    ในสภาพของสาวน้อยผมยาว ร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลคู่สวยมองดูเจ้าชายแห่งคาโนวาลอย่างสงสัยที่เรียก

    "เรามีเรื่องต้องคุยกัน" คาโลว่า

    "ก็ได้ นายอยากถามอะไรล่ะ" เฟรินว่าบ้างก่อนลงมานั่งข้างเตียงรอฟังตาแป๋ว

    "ทำไมนายถึงกลายร่างในคืนวันเพ็ญ"คาโลเริ่ม

    เรื่องอื่นเขาพอรู้แล้วจากจดหมายของท่านพ่อที่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แถมไอ้เพื่อนนักฆ่าตัวดีเสือกรับงานไม่ดูตาม้าตาเรืออีก

    "นายอยากรู้ความจริงหรือเรื่องแต่งล่ะ" เฟรินถาม

    เพราะความจริงเขาก็ไม่ได้อยากโกหกใครเท่าไร แถมเก็บความลับมากๆมันแน่นอกทำให้รู้สึกอึดอัด

    "ก็ต้องเรื่องจริงสิ" คาโลบอกทันควันอย่างชักอารมณ์กรุ่น ดวงตาเริ่มฉายแววเย็นชาอีกรอบ

    "ก็ได้เรื่องจริงนะไม่ใช่อย่างที่นายรู้มาหรอก ฉันเป็นผู้ชายมาตั้งแต่เกิด แต่มีคำทำนายว่าจะมีคนลอบทำร้ายพวกเราแม่ลูก ท่านพ่อเลยคิดว่าทำให้ฉันเป็นผู้หญิงจะปลอดภัยกว่า แถมออกเร่รอนอยู่ในร่างเด็กผู้ชาย ใครๆก็คิดไม่ถึงใช่มั้ย เลยมีชีวิตรอดมาได้ไงล่ะ
    แต่ก็มีปัญหาเรื่องไอมารในคืนวันเพ็ญ ต้องอาศัยสร้อยของท่านพ่อทำให้กลายเป็นผู้หญิง เพื่อปิดบังไอปีศาจนะ แต่พวกเราชาวปีศาจนะมีสองเพศ จะเป็นเพศไหนก็ได้ขึ้นกับความต้องการ เช่นสมมติถ้าคนที่ท่านพ่อแต่งงานด้วยไม่ใช่ท่านแม่ แต่เป็นเจ้าชายแห่งบารามอสแทน คนที่คลอดฉันก็อาจเป็นท่านพ่อนะ" เฟรินร่ายยาวแถมเรื่องเพศศึกษาของชาวปีศาจให้ด้วยอีกกระทง

    "หมายความว่านายเป็นได้สองเพศ แล้วแต่จะเลือกใช่มั้ย" คาโลถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

    "มันก็ใช่ แต่ฉันรักร่างผู้ชายมากกว่า เพราะใช้มาตั้งแต่เล็กนี่" เฟรินแย้ง

    "แถมก่อนมาเรียนฉันยังเสียตังค์เพื่อซื้อไข่มุกแสงจันทร์ไว้แล้วด้วย" เฟรินบอก

    นึกถึงเงินที่อุตส่าห์เก็บที่ต้องจ่ายเป็นค่าไข่มุก ถึงจะได้ลดก็เถอะ

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไข่มุกแสงจันทร์" คาโลถามอย่างสงสัย

    "แหมก็ถ้าอยู่ในร่างผู้ชายก็จะได้มอบไข่มุกได้นะสิ" เฟรินว่า จะได้ไม่เสียของ

    "นายจะให้ไข่มุกกับผู้หญิงคนไหน" คาโลถามอย่างติดใจ รู้สึกโกรธกรุ่นขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีเหตุผล

    "อืมยังไม่ได้คิดเลย นายว่าให้ผู้หญิงหรือผู้ชายดี" เฟรินหันไปปรึกษาต่อ

    "นายได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยเหรอ" คาโลถามสีหน้าแดงเรื่อเล็กน้อย

    "อืมฉันชอบคนสวย แถมฉันก็ไม่มีปัญหาเรื่องเพศอีก เลือกลำบากจัง ถ้าเป็นนายจะเลือกยังไง" เฟรินเริ่มวกกลับมาไล่ต้อนอีกฝ่ายต่อ

    นึกสนุกที่ทำให้อีกฝ่ายเขินได้

    "ฉันคงเลือกคนที่รัก" คาโลตอบแสนสั้น ดวงหน้าสีเข้มทันทีที่พูดจบ

    "คนนั้นคงเป็นคนที่ได้จูบสาบานของนายล่ะสิ" เฟรินว่ามองสบตาอีกฝ่าย

    ทั้งคู่นิ่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรกัน ก่อนเสียงเปิดประตูเข้ามาของผู้ร่วมห้องคนสุดท้าย

    " นายพาสาวเข้าห้อง" คิลทักคาโลอย่างแปลกใจกับสาวแปลกหน้า ก่อนหันไปมองอีกครั้งอย่างคุ้นตา

    "ไอ้ตาถั่ว" เฟรินว่าเพื่อนซี้เข้าให้

    "ปากอย่างนี้ แกเฟริน" คิลอุทานอย่างไม่ต้องรอคำด่ารอบสอง

    "ค่อยฉลาดขึ้นหน่อย คิดว่าจะไม่รู้เสียอีก" เฟรินบอกอย่างไม่เดือดร้อนกับความลับที่แตก อย่างที่เขาก็ตั้งใจไว้ก่อนอยู่แล้ว

    "นายกลายเป็นผู้หญิง?" คิลถาม ยังคงงงไม่หาย ก่อนที่สิ่งหนึ่งแวบเข้ามาในหัว

    "เข้าใจได้ถูกแล้วค่ะคุณคิล" เฟรินบอก ก่อนแกล้งเลียนแบบเรนอน

    "แก ไอ้บ้าปล่อยให้ฉันกลุ้มใจอยู่หลายวัน" คิลบอก เล่นเอาเขาไม่กล้ามองหน้าเรนอนไปหลายอาทิตย์นับจากเรื่องคราวนั้น

    "แกอยากรับงานซี้ซั้วทำไมละ ดีที่ไอ้โรมันบอกฉัน ฉันก็เลยทดสอบกับแกไง" เฟรินบอก

    "ไอ้ขอทานนั่นรู้มากจริง" คิลบอกรู้สึกเคืองไม่หายที่มารู้ดีเรื่องของเขา

    "ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง พวกแกอย่าพูดเรื่องที่รู้กันสองคนได้ไหม " คาโลถามอย่างหงุดหงิดที่ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร

    "ก็ความจริงคือไอ้นักฆ่าบ้าเนี่ยมันรับงานฆ่าธิดาแห่งความมืดมานะสิ ฉันก็เลยซ้อนแผนนัดมันไปพบทำให้มันเข้าใจว่าแม่ดอกฟ้าเรนอนของมันเป็นธิดาแห่งความมืด"เฟรินอธิบาย

    "ไอ้บ้า ก็ใครจะไปรู้ว่าธิดาแห่งความมืดจะกลายเป็นคนอย่างแกไปได้" คิลว่า

    "ดีนะที่คืนนั้นรุ่นพี่ลูคัสมาขวางไว้ ไม่งั้นป่านี้ไอ้บ้านี่ได้ฆ่าฉันไปแล้ว" เฟรินตู่ว่าเพื่อนอีกรอบ

    "แต่ฉันว่าถึงพี่ลูคัสไม่มา แกก็เอาตัวรอดได้อยู่ดีแหละว่ะ" คิลบอกก่อนปรายตามองอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ

    "โอเคพรุ่งนี้แกก็ส่งดอกไม้ให้เรนอนแก้ตัวที่ไม่ได้เดินหน้าจีบมาตั้งอาทิตย์สิ" เฟรินเริ่มยั่วอีกฝ่ายต่อ

    "แต่เรนอนชอบคาโล เขาไม่สนฉันหรอก" หนุ่มนักฆ่าขี้อายบอกก่อนหน้าขึ้นสีแดงแปร้ด

    "ฉันมองเรนอนแค่น้องสาว" คาโลแทรกสั้นๆ ออกตัวปฎิเสธไม่อยากมีเอี้ยวในสงครามรักด้วย

    "นายคงไม่ได้ชอบยายควีนป้อมขุนนางนั่นหรอกนะ ฉันสยองแทน" เฟรินว่า ก่อนทำท่าสยองที่ดูน่าขันมากกว่า

    "บ้าน่ะสิ" คาโลต่อความเสียงเข้ม

    คืนนั้นทั้งสามคุยกันจนดึก เฟรินรู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเก็บความลับหรือหลอกลวงเพื่อนสนิทอีกต่อไป แต่แผนกินแอบเปิ้ลฟรีที่คาโนวาลยังคงไม่เปลี่ยน ไว้ค่อยหาโอกาสหน้าจีบมันดีกว่า

    หลังจากปีหนึ่งป้อมอัศวินชนะรอบแรกมาได้ก็ต้องมาเจอกับป้อมปราชญ์ที่เอาชนะแผ่นดินประชามาได้

    รอบนี้เฟรินให้แองจี้เป็นตัวสำรอง ให้โรมาทำหน้าที่เป็นบิชอพคู่กับคาโล ให้กัสเป็นคิงคู่กับมาทิลด้าที่เป็นควีน เรนอนเป็นม้าคู่กับคิล  ให้เจคกับครี้ดเป็นเรือ ที่เหลือเป็นเบี้ย

    สามารถกำจัดคิงฝ่ายตรงข้ามได้ในเวลาไม่นานโดยฝีมือของโร

    ยิ่งทำให้ทีมรุ่นพี่อยากแข่งกับทีมมหัศจรรย์นี้มาก แน่นอนพวกเขาเป็นที่หนึ่งในสายปีหนึ่ง ต้องแข่งกับพี่ปีสูงขึ้นไปในรอบหน้า

    รุ่นพี่โรเวนมาให้กำลังใจปนขู่ "ตราพระราชาต้องเป็นของป้อมอัศวินในปีนี้"

    เล่นเอาพวกรุ่นน้องหนาวไปตามๆกัน

    "โธ่พี่ก็จะมาเอาอะไรกับพวกผมที่ผ่านมามันก็แค่โชคช่วย" เฟรินบอก

    "งั้นก็ขอให้โชคมันช่วยทุกวันก็แล้วกันนะเฟรี่" ลูคัสต่อให้ เล่นเอาเจ้าตัวหน้าดีทำหน้าจ๋อย

    หลังพวกรุ่นพี่ออกไป ทั้งชั้นปีก็ประชุมเครียดเรื่องหมากกระดานที่เหลือ ที่ต้องรับมือกับรุ่นพี่แล้ว ก่อนโยนหน้าที่วางแผนมาให้เฟริน

    "นายตัดสินใจ เพราะนายเป็นคนเดินหมาก" มาทิลด้าสั่ง

    "ครับผม จะพยายามก็แล้วกัน พวกนายก็อย่าตายให้มันง่ายนักก็แล้วกัน" เฟรินบอก

    แน่นอนในวันแข่งตัดสินจะมีพระราชาประเทศต่างๆมาดูด้วย ทำให้ต้องจัดเวรรักษาความปลอดภัย สำหรับพวกเฟรินในวันแข่งได้รับอภิสิทธิ์ไม่ต้องอยู่เวรขณะแข่ง แต่ตอนที่ไฮคิงมามอบตราต้องอยู่เวรเฝ้าปราสาทเอดินเบิร์กแทน

    "ตกลงพวกเราแบ่งกลุ่มดูแลปราสาทกลุ่มละสามคน แบ่งไปคนละชั้นเลยแล้วกัน" เจ้าแม่ป้อมอัศวินเริ่มแจกงานแกมบังคับ

    "ฉัน คิล เฟริน เฝ้ายอดปราสาทให้" คาโลเสนอตัว

    "งั้นห้องฉันเอาชั้นต่อลงมาแล้วกัน" โรบอก หมายรวมกัสกับซีบิลเข้าไปด้วย

    ทุกคนแบ่งตามห้อง ดูแลคนละชั้นไป ส่วนเจ้าตัวยุ่ง บ่นกระปอดกระแปด

    "อดดูพิธีการข้างล่างเลย"

    ในที่สุดรอบชิงชนะเลิศ เป็นทีมปีห้าป้อมอัศวินเจอปีหกป้อมขุนนาง ทีมปีหนึ่งป้อมอัศวินเจอปีเจ็ดป้อมปราชญ์

    "เอารีบๆแข่งให้เสร็จแล้วไปดูรุ่นพี่โรเวนปะทะเจ้าชายอาเทอร์กันดีกว่า" เฟรินว่า

    "ทุกคนทานน้ำรวมใจก่อนค่ะ" เรนอนบอกยกแก้วน้ำมาให้ทุกคน

    "นายจะกล่าวสุนทรพจน์หน่อยมั้ย" เฟรินหันไปถามเจ้าชายมาดมาก

    "สู้ตาย" คาโลบอกสั้นๆแต่น้ำเสียงหนักแน่นสมเป็นนักรบ ทุกคนเฮ้ก่อนออกเดินเข้าสนาม

    วันนี้เฟรินให้คาโลเป็นคิง คู่กับกัสเป็นควีน ให้โรกับซีบิลเป็นบิชอพ คิลกับมาทิลด้าเป็นม้า เดทกับซอร์โรเป็นเรือ ที่เหลือเป็นเบี้ย ให้เรนอนเป็นตัวสำรอง

    การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด สุดท้ายเป็นคิงปะทะคิงและคาโลคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด

    "เป็นงัยพวกแกได้เหงื่อกันทุกคนไหม" เฟรินถามอย่างอารมณ์ดี มองดูไม่มีใครบาดเจ็บร้ายแรง เพราะเขารีบบอกยอมแพ้ก่อนถ้าใครทำท่าจะไม่ไหว

    "มันเป็นบ้าเลยว่ะ" ครี้ดบอกหลังได้แสดงฝีมือกันกระหน่ำสนาม

    จนทำให้ต้องเลื่อนคู่ต่อไปออกไปก่อนเพื่อป้อมปราการปราชญ์กับแผ่นดินประชาจะได้ซ่อมสนาม ที่เจ้าตัวเองก็ช่วยทำพังจากการต่อสู้กับป้อมอัศวินปีหนึ่ง

    ในที่สุดการแข่งขันรอบสุดท้ายก็ได้เริ่มขึ้น

    ศึกเจมิไนปะทะซาเรสเป็นไปอย่างดุเดือด เชือดเฉือน

    เจ้าชายอาเทอร์และเจ้าชายโรเวนเป็นคนเดินหมาก ที่ฝีมือสูสี ต้องฝากความหวังไว้ที่ความแข็งแกร่งของตัวหมากในสนามแทน

    ในที่สุดรุ่นพี่ลูคัสก็ปราบคิงป้อมขุนนางได้

    ขณะที่รุ่นพี่ไทนอสเป็นคิงก็ต้านการบุกของบิชอพป้อมขุนนางได้

    รุ่นพี่ลอเรนซ์เป็นควีนก็กำจัดควีนป้อมขุนนางได้เช่นกัน

    ทำให้ตราพระราชาปีนี้ตกเป็นของป้อมอัศวิน

    พวกคิงในปะรำพิธีต่างก็ชื่นชมพวกลูกๆกันใหญ่

    "จะว่าไปลูกเจ้าเป็นควีนที่สวยที่สุดเลยนะ" จักรพรรดิวิลเลี่ยมหันไปแซวคิงริชาร์ด

    "แน่นอนอยู่แล้ว แม่สวย พ่อหล่อ ลูกก็ต้องออกมาดูดีเป็นธรรมดา" คิงริชาร์ด บอกอย่างอารมณ์ดีปนยกตัวตามนิสัย

    "ลูกชายท่านพี่ก็ฝีมือไม่เลวนะพะยะค่ะ" คิงกาเบรียลหันไปคุยกับคิงบาโร

    "อืมก็พอใช้ได้ คงต้องชมคนเดินหมาก " คิงบาโรว่า ปรายตาไปมองไฮคิง

    "ปีนี้งานสนุกใช้ได้เลยท่านอาจารย์" ไฮคิงว่า ขณะคุยกับมหาปราชญ์เลโมธี

    "พวกคลื่นลูกใหม่มักแรงกว่าลูกเก่า เป็นเรื่องที่น่าจับตามองนะ" มหาปราชญ์บอก

    "ท่านพี่ได้เวลา มอบตราพระราชา เชิญข้างในพะยะค่ะ "  เจ้าชายชามัลทูลเชิญไฮคิงเสด็จที่ปราสาทด้านใน

    พิธีการเริ่มขึ้น ขณะที่อ.กิบบอนเชิญตราพระราชามาให้ผู้รับ

    เจ้าชายโรเวนเป็นตัวแทนป้อมอัศวิน

    ขณะส่งมอบตรา กิบบอนชักมีดออกมาแทงใส่ไฮคิง ไฟดับ ทำให้ความสับสนอลหม่านเกิดขึ้น

    เมื่อเหตุการณ์สงบ กิบบอนหายไป ไฮคิงได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย เพราะมีดแค่บาดมือ และลาเวนองครักษ์เข้ามากันทัน

    "มันต้องใช้เลือดท่านไปคลายอาคมของมงกุฎแห่งใจแน่" มหาปราชญ์บอก 

    ก่อนรีบไปที่ยอดปราสาทที่เก็บสมบัติวิเศษทั้งสี่ทันที พร้อมกับเจ้าชายอาเทอร์ เจ้าชายโรเวน เจ้าชายโรม และเจ้าหญิงวีชา

    " ไอมาร ระวัง" คาโลบอก เมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติ

    ร่างในชุดเต็มยศของอ.กิบบอนปรากฏตัวพร้อมมีดเปื้อนเลือด เขารีบหยดเลือดใส่มงกุฏแห่งใจทันที

    เมื่อมันได้รับเลือดมันก็ลอยมาสวมอยู่บนหัวของกิบบอนทันที

    "คทาแห่งพลัง" เสียงกิบบอนเรียกอาวุธ

    "ผนึกคทาแห่งพลัง" คาโลว่าก่อนปักคทาของตนลงพื้นตรึงเขตอาคมทันที

    " แหวนแห่งปราชญ์" กิบบอนเรียกของวิเศษชิ้นต่อไปทันที

    "ผนึกแหวนแห่งปราชญ์" คิลเองก็ตรึงเขตเวทมนต์ทันที

    "ดาบแห่งกษัตริย์" กิบบอนเรียกดาบมาใส่มือ

    "ดาบผ่าปฐพี" เฟรินเรียกดาบก่อนพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายทันที

    ทั้งคู่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ

    มหาปราชญ์เปิดประตูเข้ามาเห็นเหตุการณ์ รีบให้พวกเขาช่วยกันผนึกสมบัติที่เหลืออีกสองชิ้นก่อน

    "ผนึกไว้ก่อนเท่าที่ได้เถอะ" มหาปราชญ์ออกคำสั่ง

    เจ้าชายโรมกับเจ้าหญิงวีชาและมหาปราชญ์ก็มาช่วยผนึกแหวน

    ส่วนเจ้าชายอาเทอร์และเจ้าชายโรเวนก็มาช่วยผนึกคทาร่วมกับคาโล

    เมื่อเห็นคนมาช่วย คิลเลยละจากเขตอาคมไปช่วยเฟรินแทน

    ส่วนคาโลไม่อาจละได้เพราะเขาเป็นกำลังสำคัญของเขตอาคม

    คิลจู่โจมควักหัวใจอีกฝ่ายมาได้ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อหัวใจนั้นกลับเข้าไปในทรวงอกใหม่ เหมือนในฝัน

    "ปีศาจ" คิลว่า

    "ขายวิญญาณให้ความมืดไปหมดแล้วต่างหาก" เฟรินบอก เด็กหนุ่มเริ่มหอบเหนื่อยเช่นกัน เพราะแรงคนก็ไม่อาจสู้แรงปีศาจเต็มร้อยของมงกุฏใจได้

    " พวกแกมีพลังแค่นี้ไม่อาจหยุดข้าได้หรอก แถมเจ้านักฆ่าสั่งงานก็ไม่ได้เรื่อง" มงกุฏแห่งใจในร่างกิบบอนหัวเราะอย่างเยาะเย้ย

    "ก็แกไม่รู้จักบอกจุดหมายให้แน่นอน รูปสักใบก็ไม่มีใครจะไปหาเจอ"คิลโต้

    ก่อนพุ่งหลบแสงสีดำที่ส่งมา เมื่อพลาดเป้าก็กระทบกำแพงเป็นรูใหญ่ทันที

    เฟรินมองไปทางคิลเป็นทำนองถ่วงเวลาให้ที ก่อนเรียกคทาแบตเตอรี่ออกมา คิลพุ่งโจมตีกิบบอนต่อ

    "งั้นคงต้องเอาจริงแล้วสินะ" เฟรินว่า

    ก่อนร่ายคาถาสยบตะวันคืนจันทรา ท้องฟ้ามืดสนิทเห็นเพียงแสงจันทร์เพ็ญที่ส่องทะลุกำแพงที่เป็นรูโหว่ ไอพลังคลุ้งออกมาจากร่างเด็กหนุ่ม ดวงตาสีน้ำตาลกลายเป็นสีทอง ดาบในมือเรืองแสงราวกับอยู่ในมือของจ้าวปีศาจ

    ทั้งห้องมืดสนิท เฟรินคิดในใจแย่แล้วเผลอปล่อยพลังออกมามากเกินจนควบคุมลำบาก มีหวังทำลายข้าวของหมด เดี่ยวเสียเงินค่าเสียหายอาน เขาเรียกสร้อยออกสวมทันทีเพื่อช่วยลดพลังให้พอควบคุมอยู่เวลาเร่งพลัง

    มหาปราชญ์ร่ายคาถา ทำให้โคมไฟบนผนังสว่าง ทุกคนตกตะลึงกับร่างสาวน้อยตรงหน้า

    "ธิดาแห่งความมืด ดีจริงที่ไม่ต้องเสียเวลาหา อุตส่าห์จ้างนักฆ่าก็ไม่ได้เรื่อง" กิบบอนว่าก่อนหันไปเรียกคทาแห่งพลังทันที

    "คทาแห่งพลัง"

    แสงสีดำพุ่งไปดึงคทาทันที เกิดการต่อสู้กันระหว่างพลังผนึกของสามเจ้าชายกับพลังปีศาจของกิบบอนทำให้คทาแตกออก พลังกระจายมาเข้าร่างของเฟริน

    " หายไปซะ" เฟรินว่าก่อนพุ่งเข้าหา ตวัดดาบในมือใส่กิบบอนอย่างรวดเร็ว

    ดาบเดียวที่ทำให้ทุกอย่างหายไปอย่างไม่เหลือซาก ผ่ายอดปราสาทเอดินเบิร์กแถมไปด้วย ดีที่พลังขึ้นฟ้าไป ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมาก นอกจากยอดปราสาทเอดินเบิร์กอย่างเดียว

    ทำให้มหาปราชญ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะเคยเห็นฤทธิ์ของผ่าปฐพีมากแล้ว ในการแบ่งดินแดนแยกเป็นสองส่วนในอดีต

    เจ้าชายอาเทอร์แอบกลืนน้ำลาย ไม่คิดว่าไอ้เด็กหัวขโมยจะมีดีเก็บไว้ถึงขนาดนี้

    ส่วนเจ้าชายโรมกับเจ้าหญิงวีชารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เฟรินไม่ได้ลงสนาม มิฉะนั้นพวกเขาคงต้องซ่อมพื้นสนามมากกว่านี้

    ส่วนเจ้าชายโรเวนก็ตัวแข็งไปเหมือนกัน หวังว่ามหาปราชญ์คงไม่เรียกค่าเสียหายของยอดปราสาทกับป้อมอัศวินนะ ไม่งั้นงบดุลขาดสะบั้นกันพอดี ยิ่งกรอบๆอยู่เพราะต้องอุดรูรั่วของป้อมจากฝีมือของคู่หูซาตานนักบวชที่ขยันซ้อมปาเป้าเหลือเกิน ทำให้ป้อมอัศวินจนอยู่ทุกวัน

    บ้าจริง พลังจากคทามาเสริมทำให้พลังเกินควบคุม ดีนะที่อยู่ในร่างผู้หญิงไม่งั้นสงสัยพังโรงเรียนชนิดที่ไม่ต้องเรียนต่อแล้วละ เฟรินคิดในใจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×