ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เริ่มเปิดเรียน
บารามอส
บทที่ 4 เริ่มเปิดเรียน
การเรียนเช้านี้เริ่มต้นด้วยวิชาประวัติศาสตร์เอเดน สอนโดยอาจารย์เจ้าชายชามัล ฟาโรเวล
เป็นวิชาที่ป้อมอัศวินต้องเรียนรวมกับป้อมขุนนาง ซึ่งทั้งสองป้อมไม่ถูกกัน เริ่มตั้งแง่กันตั้งแต่วันแรก ซึ่งหัวขโมยที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าชั้นปีจึงถูกหมายหัวเป็นพิเศษจากป้อมขุนนาง
ซึ่งเฟรินก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่งยิ้มมเสน่ห์จีบสาวปราสาทขุนนางเย้ยทันที อย่างช่ำชอง เรียกรอยขวยเขินจากสาวได้เป็นแถว แต่เรียกรอยเขียวได้เป็นอย่างดีกับสาวน้อยแห่งวิทช์
อาจารย์ท่านตายังคงสอนด้วยสไตล์ชวนหลับเหมือนเดิม แต่เฟรินอุตส่าห์นั่งฟัง เพราะเกรงใจที่อาจารย์มองมาทางเขาหลายครั้งอย่างจำได้
เฟรินเลยต้องจำใจจดเลคเชอร์ไม่หยุดมือเพื่อไม่ให้ง่วง มองไปเห็นพวกเพื่อนๆพร้อมใจกับหลับอย่างมีศิลปะเป็นแถว ทำให้เขาต้องอดทนไม่หลับตาม โดยเฉพาะไอ้คิลที่หลับอย่างแสนสุข
ในที่สุดกริ่งหมดชั่วโมงก็ดังขึ้น เฟรินถอนหายใจอย่างมีความสุขกับเสียงสวรรค์ หันไปปลุกไอ้เพื่อนซี้ ก่อนเดินออกจากห้องเรียน
"แกกล้าจัง หลับในชั่วโมงอาจารย์เจ้าชายซะด้วย" เฟรินบอก
"ไม่ต้องห่วงพี่ชั้นเล่าว่าชั่วโมงอาจารย์นี้ขอแค่ไม่ส่งเสียงเป็นพอ แล้วถ้าไม่จำเป็นอย่าถาม เพราะอาจารย์เกลียดการถาม เกลียดป้อมอัศวินและเกลียดเรื่องเกี่ยวกับสงครามมากที่สุด" คิลสาธยายยืดยาวถึงข้อห้ามในชั่วโมงเจ้าชาย
เฟรินถอนหายใจเฮือกที่เขายังไม่เผลอทำหนึ่งในข้อห้ามอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ วันนี้โชคคงอยู่ข้างเขา
ชั่วโมงต่อมาเป็นชั่วโมงมารยาทที่ฝึกการนั่ง ยืน เดิน แหมไม่ฝึกท่านอนอย่างมีมารยาทด้วย เขาจะได้หลับยาวอู้เสียหน่อย เมื่อยจริงๆวิชานี้
ตามด้วยวิชาใช้เงินของพระราชาที่ทำให้เฟรินปวดหัว เพราะเขาพึ่งรู้ว่าพระราชาและหัวขโมยใช้เงินไม่เหมือนกัน ขนาดไอ้ขอทานยังใช้เงินมากมายกว่าขโมย บางทีเขาน่าจะแนะนำพ่อให้เปลี่ยนอาชีพไปลองเป็นขอทานดูบ้างนะ
ตกเย็นสถานที่สังสรรค์ก็เป็นห้องนั่งเล่นรวมของชั้นปี ด้วยความมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำให้เฟรินสนิทกับเพื่อนๆอย่างรวดเร็ว
"นายมาจากไนล์ งั้นก็ต้องกินเหล้าเก่งล่ะสิ" เฟรินถาม
"แน่นอนไว้วันหลังมีของส่งมาจากบ้านฉันค่อยคิดถึงนายก็แล้วกัน" ครี้ดบอกพร้อมติดสินบนหัวหน้าชั้นปีทันที
"ฉันนะไม่ว่าหรอก แต่นายไม่ควรไปชวนเจ้าชายน้ำแข็งนั่นนะ หมอนั่นต้องตามกฎเปะแน่นอน" เฟรินกระซิบ
สองคู่หูหาเรื่องวุ่นก็กระซิบกระซาบกัน ก่อนเอนตัวหลบอย่างว่องไว กับไม้คทาอาญาสิทธิ์ของแม่มดสาว
"นี่แองจี้ ไม่ต้องฝากรักอย่างดุเดือดแบบนี้ก็ได้ แค่นี้เธอก็ทำให้หัวใจฉันเต้นไม่หยุดอยู่แล้ว" เฟรินแซวเพื่อนสาวทันที
"บ้า" แองจี้หน้าแดงก่อนเดินจากไป อย่างไม่อยากตอแย
"หัวใจเต้นไม่หยุดเลยหรือ" ครี้ดถาม
"ก็ถ้ามันหยุดเต้น ก็ต้องตายแล้วนะซี" เฟรินบอกหลิ่วตามองเพื่อนอย่างล้อเลียน
"ไว้วันหลังดูมุขฉันบ้างก็แล้วกัน"ครี้ดบอก
ในห้องเฟรินเดินไปอาบน้ำอย่างสบายใจ กลับออกมาเห็นเจ้าคิลอ่านหนังสือ เจ้าชายน้ำแข็งไปประชุมกับรุ่นพี่เพราะเป็นตัวแทนชั้นปี
เด็กหนุ่มเปิดสมุดทำการบ้านอย่างลวกๆให้เสร็จ ก่อนล้มตัวนอนอย่างเด็กดี
ผ้าห่มที่ท่านแม่เย็บให้ เฟรินสูดกลิ่นอย่างชื่นใจก่อนนอนหลับฝันดี ฝันถึงปะป๋าเอวี่กับมารดาต่อ อย่างปกติ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นเอดินเบิร์ก ที่มีคำกล่าวว่าปีศาจหมดอำนาจภายใต้แสงสว่างแห่งเอดินเบิร์ก แต่การนอนฝันถึงพ่ดก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะอาศัยพลังของเขานิดหน่อย ของพ่อนิดหน่อย พลังของเลโมธีก็ไม่มีผล
เจ้าชายคาโลเดินกลับเข้ามาในห้อง มองเจ้าหัวขโมยหลับปุ๋ยไปก่อนเพื่อนอย่างแปลกใจ ปกติอาชีพหัวขโมยน่าจะตื่นกลางคืน แต่ไหงกับนอนแต่หัวค่ำ
หันไปมองเจ้านักฆ่าที่อ่านหนังสืออยู่
"มันนอนไปสักพักใหญ่แล้ว" คิลบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้ายุ่งอย่างนึกสงสัย เขาก็สงสัยเหมือนกัน
วันรุ่งขึ้นเฟรินตื่นแต่เช้า ออกไปเที่ยวรอบเอดินเบิร์ก
ก่อนกลับมาปลุกเพื่อนสนิทให้เข้าห้องน้ำ
"ทำไมนายนอนแต่หัวค่ำจัง" คิลถามอย่างสงสัย
"อ้อ ก็ช่วงนี้ฉันไม่ต้องออกขโมย แถมไม่ได้นอนตอนกลางวันอีก ทำให้ต้องนอนตุนตอนกลางคืนไว้สิ การนอนไม่ครบแปดชั่งโมง ทำให้ผิวหมองคล้ำเป็นอุปสรรคต่อการจีบสาว"
เฟรินสาธยายยืดยาวจนเจ้าชายแต่งองค์เสร็จปรายตามามองเย็นชาทีหนึ่ง
"นายก็สนใจวิชาจีบสาวเหมือนกันเหรอ เจ้าชายคาโล ฉันสอนให้เอาไหม" เฟรินบอกยั่ว เพิ่มอุณหภูมิยามเช้าให้เจ้าชายน้ำแข็งเล็กน้อย
"ไม่ต้อง ขอบใจ" เสียงเย็นชาก่อนออกเดินนำออกไป
"มันไม่รับมุขเลยแฮะ" เฟรินบ่น คิดในใจจีบหนุ่มนี่ต้องยากกว่าจีบสาวชัวร์ แต่ถ้าร่างนี้ใช้ไม่ได้ผล ก็ต้องเล่นร่างสาวน้อยเสียแล้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับที่มุมปาก ก่อนเผลอลูบแผลเป็นใต้ตาอย่างเคยชินเวลาใช้ความคิด
ยามเช้าที่โรงอาหารดรากอนยังครึกครื้นตามเคย
"สปีดยังไม่ตกนะเฟริน " กัสทักทายเพื่อนที่ยังคงเอกลักษณ์การกินอย่างเอร็ดอร่อย
"อรุณสวัสดิ์ เฟรี่ กัสซี่ คิลลี่ คาลี่" เสียงซาตานแห่งป้อมอัศวินทักทายพวกเด็กปีหนึ่งโดยเฉพาะตัวยุ่ง
"สวัสดีฮะพี่ลูคัส" เฟรินทักทายอย่างอารมณ์ดี
"ทานอาหารเช้ากับพวกเด็กๆไหมลอรี่"
เสียงทักทายที่ได้รับคำตอบกลับเป็นฝูงมีดบินที่เจ้าตัวหลบอย่างชำนาญ แต่สร้างความตกใจให้พวกรุ่นน้องที่ยังไม่ชิน
เฟรินมองดูนักบวชหน้าสวย ผิวสีขาวนวล ผมสีทอง ดวงตาสีม่วงอย่างทึ่ง สวยอย่างนี้ก็สมกับที่พี่ลูคัสแกล้งทุกวันอยู่หรอก แหมถ้าให้คนอื่นเข้าใกล้คงหวงแย่ เลยต้องคอยแกล้งให้หงุดหงิดเข้าไว้คนอื่นจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวฝูงมีดบินพี่ท่าน
เฟรินส่งยิ้มนำทัพไปก่อน เห็นนักบวชพยักหน้าให้นิดหนึ่งก่อนหันกลับสนใจอาหารตรงหน้าต่อ เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา
หลังทักทายรุ่นพี่สองผู้คุมกฎ ที่เฟรินพึ่งรู้ตำแหน่งจากเจ้าขอทานผู้รอบรู้เป็นผู้อธิบาย ว่าในป้อม มีตำแหน่งหัวหน้าป้อม สองเสนา สี่ผู้คุ้มกฏ และสิบสองขุนพล ใช้วิธีการประลองเข้าไปรับตำแหน่ง
อืมเป็นป้อมที่รักการต่อสู้จริงๆด้วย
วิชาที่เรียนวันนี้ค่อนข้างถูกกับป้อมอัศวิน เจ้าเริ่มด้วยวิชาฟันดาบกับอาจารย์เรมัค เวสค์ ที่เฟรินฝึกอย่างเอื่อยเฉื่อย ต่อด้วยหลับในท่ายืน
ต่อด้วยวิชาพาหนะทรงพระราชา เฟรินมองเจ้าอูฐเดินเร็วของโร อย่างทึ่งๆ แหมไอ้ขอทานมันใช้ของดีอีกแล้ว
จบวันด้วยวิชาการใช้เวทมนตร์ของอาจารย์แม่มดวิงกี้ ที่เฟรินเสกได้แต่ของกิน ทำให้อาจารย์มองอย่างเอ็นดู
"นี่เธอจะเสกอย่างอื่นไม่เป็นหรือไง" อาจารย์แม่มดถามปนเอ็นดู
"อาจารย์ชอบดอกไม้อะไรเป็นพิเศษไหมฮะ ผมจะได้พยายามเสกให้
"แหมงั้นขอดอกกุหลาบก็แล้วกัน" อาจารย์บอกอย่างเอ็นดูกับวาทะของเด็กหนุ่มหน้าหวาน
"รับทราบครับ" เฟรินบอกอย่างหนักแน่น
"ตอนเย็นพวกเรามีประชุมทั้งชั้นปีด้วย ขอให้ทุกคนไปพร้อมกันที่ห้องนั่งเล่นรวมโดยพร้อมเพรียงกัน" เฟรินตะโกนถ้อยคำที่เจ้าชายคาโลบอกมาก่อนไปหารุ่นพี่โรเวนเสียแล้ว
"แกจะพูดเองเหรอ"ครี้ดแซว
"อาจารย์โว้ย แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องอะไรก็ไปถาม โรมันก็แล้วกัน" เฟรินโบ้ยไปที่ขอทานผู้รอบรู้ทันที
" เรื่องอะไรหรือคะคุณโร " เรนอลเจ้าหญิงคนงามแห่งคาโนวาลถาม
"คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องหมากกระดานเกียรติยศ" โรบอกอย่างคาดการณ์
"ถ้านายว่าอย่างนั้นก็คงเป็นอย่างนั้นล่ะ" มาทิลด้าบอกสรุป ก่อนแยกย้ายไป ค่อยมาประชุมเมื่อถึงเวลา
"นายจะลงไหมหมากกระดานเกียรติยศนั่น" คิลถามเฟริน ขณะเดินกลับห้องด้วยกัน
"แหมฝีมือระดับชั้น ขอแค่ตัวสำรองก็พอ" เฟรินบอกอย่างถ่อมตัว
"เอ๋ หรือจะเป็นคนเสริฟน้ำข้างสนานดี นายว่าอย่างไหนดีกว่ากันคิล" เฟรินหันกลับไปถามเพื่อนซี้
"แต่ฉันว่านายน่าจะเป็นคนเดินหมากมากกว่า" โรว่า
เขารู้สึกคุ้นเคยกับนามสกุลเดอเบอโรว์อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนท่านพ่อจะบอกว่าเคยแพ้ให้กับคนนามสกุลนี้ ทำให้เขาติดใจจนต้องไปค้นดู ถึงได้รู้ว่าเป็นตระกูลเชสมาสเตอร์ชื่อดังแห่งบารามอส และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเฟริน
"น่าเบื่อออก" เฟรินว่า สู้เอาเวลาไปจีบสาวดีกว่า หรือยั่วเจ้าชายน้ำแข็งดีนะ
ทั้งคิลและเฟรินเดินเข้ามาในห้อง เห็นเจ้าชายน้ำแข็งกำลังขีดเขียนรายงานอย่างขะมักเขม้น
ทั้งสองจึงแยกไปคุยกันเสียงเบาๆที่มุมห้อง หันไปดูเวลาเห็นใกล้ได้เวลาประชุม เจ้าชายท่านก็ยังทรงงานไม่เสร็จ
"ยังเหลืออีกเยอะไหมคาโล" เฟรินถามพลางยื่นแขนโอบไหล่อีกฝ่ายอย่างสนิทสนม ดวงหน้าก้มลงไปชิดเพื่อดูข้อความในกระดาษ
"อ้าวแผนผังเดินหมากหรือ" เฟรินคว้ามาดูก่อนจรดปากกาใส่ชื่อให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
"ไปกันได้แล้วจะได้เวลาประชุมแล้ว"คิลว่าก่อนคว้ามือเจ้าชายให้ลุกมาจากโต๊ะ
เฟรินเก็บกวาดของบนโต๊ะมาถือให้เดินตามออกมาอย่างรวดเร็ว
"พวกนาย" เจ้าชายพูดได้แค่นั้น ก็ต้องเดินตามออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในห้องประชุม
รุ่นพี่โรเวน เสนาธิการฝ่ายซ้าย รุ่นพี่ไธนอสเสนาธิการฝ่ายขวา กับสี่ผู้คุมกฎมีรุ่นพี่โซมาเนีย รุ่นพี่ชีวาสกับหนึ่งซาตานและนักบวชแห่งป้อมอัศวิน ตบท้ายด้วยอาจารย์ประจำป้อม
อาจาย์ประจำวิชาการเดินหมาก มิสแรมเซล
รุ่นพี่โรเวนพยักหน้าให้คาโล เจ้าชายน้ำแข็งจึงได้เดินออกไปพูด
"วันนี้มีเรื่องหมากกระดานเกียรติยศจะประกาศให้ทราบ แต่ละชั้นปีจะตกส่งหนึ่งทีมลงแข่ง ถ้าชนะในชั้นปีก็จะได้แข่งกับระดับสูงขึ้นไป และสามารถคว้าตราพระราชาให้กับป้อมได้ถ้าชนะ ใครไม่ลงให้ยกมือขึ้น"
เจ้าชายเว้นระยะ เมื่อไม่เห็นใครยกมือปฎิเสธ ก็ถือว่าลงทุกคน ซึ่งคนอื่นไม่ค่อยแปลกใจเพราะรู้มาจากโรก่อนแล้วทำให้วิพากษ์วิจารณ์ไปรอบแล้วทำให้การประชุมดูราบรื่นดี
แถมสองตัวกวนอย่างเฟรินและครี้ดก็นั่งฟังอย่างเรียบร้อยผิดคาด
"งั้นจะประกาศรายชื่อในตำแหน่งต่างๆให้ก่อน ถ้าไม่พอใจค่อยเปลี่ยนแปลงทีหลัง" เจ้าชายคาโลบอก
"อ้าวอย่างนี้ก็มัดมือชกสิ" ครี้ดหลุดปากบ่นจนได้
"แล้วนายอยากลงตำแหน่งไหนล่ะ"แองจี้ถามอย่างสงสัย
"ก็ต้องคิงสิ แล้วควรมีควีนสวยๆด้วย จะได้มีแรงรบ" ครี้ดบอก
เสียงโป๊กของคทาพิฆาตทรชนดังขึ้น
"บ้าสิเอาคิงบ้านนายไปรบ เดี๋ยวก็แพ้กันพอดี" แองจี้แหวขึ้นมาทันที
ครี้ดหันไปหาตัวช่วย
เฟรินจึงอธิบาย"คิงมีไว้หลบ เพราะถ้าตายเกมก็จบ"
"อ้าวงั้นก็ไม่สนุกล่ะสิ" ครี้ดว่าก่อนบ่น "ไม่เป็นก็ได้ ขอตำแหน่งที่ได้รบเป็นพอ"
"งั้นฉันจะประกาศรายชื่อ
เบี้ย ซีบิล โคลว์ อาชูร่า นิก เอ็ดเวิร์ด ทิวดอร์ เดท ซอร์โร
เรือ เจค ครี้ด
ม้า คิล กัส
บิชอบ คาโล แองจี้
ควีน เรนอล
คิง มาทิลด้า
คนเดินหมาก โร
ตัวสำรอง เฟริน
ใครมีอะไรสงสัย" คาโลถาม เมื่อไม่เห็นมีใครสงสัยก็จบการประชุม
พวกรุ่นพี่ที่เข้ามาดูก็เดินออกจากห้องอย่างไม่พูดอะไร
"ตารางการฝึกจะจัดให้พรุ่งนี้นะคะ" เรนอนบอกกับทุกคน
"ใครเป็นคนจัด" โรหันมากระซิบถามเฟริน
"เจ้าชายนั่งหลับจัดให้มั้ง" เฟรินบอกอย่างกวนๆ
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าขอทานผู้รอบรู้เล่นหมากรุกเก่งใช้ได้ เพราะเคยเห็นเล่นในวิชา แต่มันไม่เคยเล่นกับเขา เพราะเขาเล่นกับคิลตลอด บางทีก็เล่นกับคาโลบ้าง แต่ส่วนใหญ่โดดเพราะมันน่าเบื่อ
ไม่มีใครค้านการจัดตำแหน่ง เพราะส่วนใหญ่เป็นพวกชอบใช้กำลังมากกว่ามานั่งคิดวางแผน แค่ได้ลุยเป็นพอ
การฝึกมหาโหดก็เริ่มขึ้น
"นี่ยายแองจี้อย่าโหดนักเลย เดี๋ยวขายไม่ออกน้า"
เฟรินบอกอย่างกวนสาวน้อยอารมณ์บูดเหมือนทุกที ก่อนหลบก้อนหินที่แม่เจ้าคุณขว้างมาให้ราวกับห่าฝน
"นายมันอ่อนต้องฝึกเยอะๆ"
แองจี้บอกก่อนระดมโยนก้อนหินใส่เจ้าหัวขโมยที่ไวทายาด หลบได้เป็นส่วนใหญ่ เลยมีแต่รอยขีดข่วนเล็กน้อยที่เฟรินจงใจให้มี
เมื่อกลับถึงห้องโอดครวญนิดหน่อย เจ้าน้ำแข็งที่ไม่ใจดำเท่าไรก็มาร่ายเวทย์รักษาให้ทุกครั้ง
"ทำไมนายต้องไปยั่วแองจี้ให้ได้แผลมาทุกวัน" คาโลบ่นให้เจ้าคนที่ขยันหาแผล
"แหมก็การฝึกมันเครียดก็ต้องหารายการสันธนาการไงล่ะ" เฟรินบอก
"ขอบใจ " เฟรินบอกก่อนก้มไปจุ๊บแก้มขอบคุณทีหนึ่ง
"แกทำอะไร" รอยแดงเรื่อที่โหนกแก้มสองข้าง ก่อนพูดอะไรไม่ออก
"หรืออยากให้ฉันจูบขอบคุณที่ปาก" เฟรินถามยั่ว
"ไม่ต้อง" รอยแดงหายไปทันที เหลือแต่รอยเย็นชาในดวงตาสีฟ้าคู่สวย
"กับพ่อฉันก็จุ๊บบ่อยๆ เวลาอยากขอบคุณ เห็นพวกพี่สาวก็ชอบ นายเป็นผู้ชายไม่เห็นเสียหายตรงไหน ไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย"
เฟรินว่าไปเรื่อยๆโม้ใส่สีตีไข่เล็กน้อย แถมด้วยสีหน้าดูซื่อบริสุทธิ์ ใส่หน้ากากนักแสดงเต็มที่ ทำให้เจ้าชายคาโลเชื่อสนิทใจ
"ฉันแค่ไม่ชิน" คาโลว่าเบาๆ ก็ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยทำอย่างที่เฟรินว่ากับเสด็จพ่อเลยนี่นา
การสอบกลางภาคก็มาถึง
ช่วงเช้าธงชัยตกเป็นของป้อมอื่นๆอย่างละป้อม แต่ป้อมอัศวินยังไม่ได้เลยสักอัน
"ว้าเหลือวิชาแข่งสัตว์พาหนะ ฟันดาบ เสกของเล่น สงสัยคงต้องหวังพึ่งพวกผู้หญิงเสียแล้ว" เฟรินว่า
"เสียศักดิ์ศรีป้อมหมด ธงชัยแรกวิชาสัตว์พาหนะ นายใช้วิชาขโมย ขโมยธงมาสักอันสิ" เจ้าชายคาโลว่า
"แหมถ้าได้ นายจะให้รางวัลฉันไหม" เฟรินถามส่งยิ้มมีเลศนัยไปให้
"นายอยากได้อะไร"เจ้าชายคาโลถาม
"รอให้ชนะก่อนค่อยบอกก็ได้ ฉันใจดี" เฟรินว่า
ก่อนเดินไปลูบไล้เจ้าโรซี่ พูดคุยที่ข้างหูแม่ม้าแก่ตัวดี
"มีคนเขาว่าม้านะวิ่งช้ากว่าอูฐอีกโรซี่ แกทนให้เขาดูถูกศักดิ์ศรีของม้าได้อย่างไร"
แน่นอนคำสบประมาทดูเหมือนได้ผล เจ้าโรซี่วิ่งนำแบบม้วนเดียวจบ เฉือนม้าจากคาโนวาลแค่จมูกกับปาก คว้าธงชัยแรกให้ป้อม
ทำให้เจ้าหนูหัวขโมยโด่งดัง
รอบต่อมาเป็นแข่งฟันดาบ เฟรินเรียกผ่าปฐพี ใส่พลังไปแค่เล็กน้อยก็ฟันดาบคู่ต่อสู้หักหมด เรียกชัยชนะไปได้อย่างง่ายดาย คนอื่นในป้อมก็ชนะเช่นกัน แต่คนดูจะให้ความสนใจไอ้หนูหัวขโมยมากกว่า
วิชาสุดท้ายเป็นของอาจารย์แม่มด
ในเสกของชอบที่สุด แน่นอนเฟรินเสกแอปเปิ้ล ของไม่ชอบกลายเป็นสายฟ้า แถมเสกไปใกล้คู่แข่งขันเสียอีก ทำเอาคนจากป้อมขุนนางหน้าซีดที่มีสายฟ้ามาเฉียดๆห่างจากรองเท้าแค่สองเซน
แน่นอนสุดท้ายก็เป็นช่อดอกไม้สีแดงให้อาจารย์แม่มด เรียกคะแนนพิศวาสได้เป็นอย่างดี ทำให้ธงชัยสุดท้ายของวันเป็นของป้อมอัศวิน และทุกคนดูจะชอบสายฟ้าของเฟรินเป็นพิเศษ เขาเลยได้สมญาใหม่เป็นเจ้าหนูสายฟ้า
วันนี้คิลถูกเรนอนเรียกตัวไปปรึกษาเรื่องตารางการซ้อม แน่นอนเพราะเจ้านั่นก็เป็นหนึ่งในสองหัวหน้าชั้นปีจอมอู้ ซึ่งพวกสามนางฟ้าแก้ลำโดยของปรึกษาโดยตรงอยู่ตลอดทำให้คิลต้องทำงาน ผิดกับเฟรินที่กระล่อนเอาตัวรอดอู้มาได้เรื่อยๆ ก็เจ้านั่นมันขี้อายไม่การจีบพวกผู้หญิง เลยโดนพวกนั้นใช้งานน่าดู แต่ดูท่าเจ้าคิลน่าจะชอบหนึ่งในสามนางฟ้า ที่น่าสงสัยคงเป็นเรนอน
เพราะเห็นเรียกทีไรก็หน้าแดง แต่ก็เดินตามต้อยๆ เหมือนหมาตามเจ้าของไม่ผิด
"สัญญา" เฟรินทวงทันทีที่เข้าห้อง
"นายจะเอาอะไร" คาโลถาม
"ริมฝีปากนายไง สีเหมือนแอปเปิ้ลที่ฉันชอบกิน"เฟรินว่า
"แต่"
เจ้าชายคาโลพูดไม่ออกว่าจุมพิตแห่งเจ้าชาย ของคาโนวาลคือสัญญารักชั่วนิรันดร์ จะมาให้เล่นๆไม่ได้
"เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม" เจ้าชายคาโลถาม
"งั้นก็อธิบายเหตุผลที่จูบไม่ได้มาก่อนสิ" เฟรินว่า
"จูบเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ในคาโนวาล จูบจากหญิงบริสุทธิ์เรียกนักรบปีศาจ จูบจากเจ้าหญิงรักษาแผลได้ "คาโลว่าก่อนเงียบไป กระตุ้นต่อมความอยากรู้ของเฟริน
"จูบของเจ้าชายล่ะ" เฟรินถาม
"จูบของเจ้าชายเป็นการสาบานรัก จะมอบให้ผู้เป็นชายาเท่านั้น" เจ้าชายแห่งคาโนวาลรีบบอกรวดเร็ว ก่อนสีหน้าร้อนผ่าว
"อืมก็ได้ ไว้ถ้านายอยากมอบให้ฉันเมื่อไร ฉันค่อยรับไปก็แล้วกัน จูบแห่งสัญญา"เฟรินว่า
"ไอ้บ้า แกเข้าใจว่ายังไงกันแน่" คาโลว่า
"ก็นายติดหนี้จูบของฉัน แต่ตอนนี้นายยังไม่พร้อม ฉันก็รอให้นายพร้อมก่อนก็ได้ เพราะยังไงกษัตริย์ตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำจริงไหม"
เฟรินหยอกต่อ แน่นอนเขาเข้าใจ แต่ก็แกล้งตู่ให้เข้ากับประโยชน์ของตน ไอ้เข้าใจแล้วขาดทุนไม่ใช่วิสัยของหัวขโมยอย่างเขาอยู่แล้ว
บทที่ 4 เริ่มเปิดเรียน
การเรียนเช้านี้เริ่มต้นด้วยวิชาประวัติศาสตร์เอเดน สอนโดยอาจารย์เจ้าชายชามัล ฟาโรเวล
เป็นวิชาที่ป้อมอัศวินต้องเรียนรวมกับป้อมขุนนาง ซึ่งทั้งสองป้อมไม่ถูกกัน เริ่มตั้งแง่กันตั้งแต่วันแรก ซึ่งหัวขโมยที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าชั้นปีจึงถูกหมายหัวเป็นพิเศษจากป้อมขุนนาง
ซึ่งเฟรินก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่งยิ้มมเสน่ห์จีบสาวปราสาทขุนนางเย้ยทันที อย่างช่ำชอง เรียกรอยขวยเขินจากสาวได้เป็นแถว แต่เรียกรอยเขียวได้เป็นอย่างดีกับสาวน้อยแห่งวิทช์
อาจารย์ท่านตายังคงสอนด้วยสไตล์ชวนหลับเหมือนเดิม แต่เฟรินอุตส่าห์นั่งฟัง เพราะเกรงใจที่อาจารย์มองมาทางเขาหลายครั้งอย่างจำได้
เฟรินเลยต้องจำใจจดเลคเชอร์ไม่หยุดมือเพื่อไม่ให้ง่วง มองไปเห็นพวกเพื่อนๆพร้อมใจกับหลับอย่างมีศิลปะเป็นแถว ทำให้เขาต้องอดทนไม่หลับตาม โดยเฉพาะไอ้คิลที่หลับอย่างแสนสุข
ในที่สุดกริ่งหมดชั่วโมงก็ดังขึ้น เฟรินถอนหายใจอย่างมีความสุขกับเสียงสวรรค์ หันไปปลุกไอ้เพื่อนซี้ ก่อนเดินออกจากห้องเรียน
"แกกล้าจัง หลับในชั่วโมงอาจารย์เจ้าชายซะด้วย" เฟรินบอก
"ไม่ต้องห่วงพี่ชั้นเล่าว่าชั่วโมงอาจารย์นี้ขอแค่ไม่ส่งเสียงเป็นพอ แล้วถ้าไม่จำเป็นอย่าถาม เพราะอาจารย์เกลียดการถาม เกลียดป้อมอัศวินและเกลียดเรื่องเกี่ยวกับสงครามมากที่สุด" คิลสาธยายยืดยาวถึงข้อห้ามในชั่วโมงเจ้าชาย
เฟรินถอนหายใจเฮือกที่เขายังไม่เผลอทำหนึ่งในข้อห้ามอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ วันนี้โชคคงอยู่ข้างเขา
ชั่วโมงต่อมาเป็นชั่วโมงมารยาทที่ฝึกการนั่ง ยืน เดิน แหมไม่ฝึกท่านอนอย่างมีมารยาทด้วย เขาจะได้หลับยาวอู้เสียหน่อย เมื่อยจริงๆวิชานี้
ตามด้วยวิชาใช้เงินของพระราชาที่ทำให้เฟรินปวดหัว เพราะเขาพึ่งรู้ว่าพระราชาและหัวขโมยใช้เงินไม่เหมือนกัน ขนาดไอ้ขอทานยังใช้เงินมากมายกว่าขโมย บางทีเขาน่าจะแนะนำพ่อให้เปลี่ยนอาชีพไปลองเป็นขอทานดูบ้างนะ
ตกเย็นสถานที่สังสรรค์ก็เป็นห้องนั่งเล่นรวมของชั้นปี ด้วยความมนุษย์สัมพันธ์ดี ทำให้เฟรินสนิทกับเพื่อนๆอย่างรวดเร็ว
"นายมาจากไนล์ งั้นก็ต้องกินเหล้าเก่งล่ะสิ" เฟรินถาม
"แน่นอนไว้วันหลังมีของส่งมาจากบ้านฉันค่อยคิดถึงนายก็แล้วกัน" ครี้ดบอกพร้อมติดสินบนหัวหน้าชั้นปีทันที
"ฉันนะไม่ว่าหรอก แต่นายไม่ควรไปชวนเจ้าชายน้ำแข็งนั่นนะ หมอนั่นต้องตามกฎเปะแน่นอน" เฟรินกระซิบ
สองคู่หูหาเรื่องวุ่นก็กระซิบกระซาบกัน ก่อนเอนตัวหลบอย่างว่องไว กับไม้คทาอาญาสิทธิ์ของแม่มดสาว
"นี่แองจี้ ไม่ต้องฝากรักอย่างดุเดือดแบบนี้ก็ได้ แค่นี้เธอก็ทำให้หัวใจฉันเต้นไม่หยุดอยู่แล้ว" เฟรินแซวเพื่อนสาวทันที
"บ้า" แองจี้หน้าแดงก่อนเดินจากไป อย่างไม่อยากตอแย
"หัวใจเต้นไม่หยุดเลยหรือ" ครี้ดถาม
"ก็ถ้ามันหยุดเต้น ก็ต้องตายแล้วนะซี" เฟรินบอกหลิ่วตามองเพื่อนอย่างล้อเลียน
"ไว้วันหลังดูมุขฉันบ้างก็แล้วกัน"ครี้ดบอก
ในห้องเฟรินเดินไปอาบน้ำอย่างสบายใจ กลับออกมาเห็นเจ้าคิลอ่านหนังสือ เจ้าชายน้ำแข็งไปประชุมกับรุ่นพี่เพราะเป็นตัวแทนชั้นปี
เด็กหนุ่มเปิดสมุดทำการบ้านอย่างลวกๆให้เสร็จ ก่อนล้มตัวนอนอย่างเด็กดี
ผ้าห่มที่ท่านแม่เย็บให้ เฟรินสูดกลิ่นอย่างชื่นใจก่อนนอนหลับฝันดี ฝันถึงปะป๋าเอวี่กับมารดาต่อ อย่างปกติ ถึงแม้ที่นี่จะเป็นเอดินเบิร์ก ที่มีคำกล่าวว่าปีศาจหมดอำนาจภายใต้แสงสว่างแห่งเอดินเบิร์ก แต่การนอนฝันถึงพ่ดก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะอาศัยพลังของเขานิดหน่อย ของพ่อนิดหน่อย พลังของเลโมธีก็ไม่มีผล
เจ้าชายคาโลเดินกลับเข้ามาในห้อง มองเจ้าหัวขโมยหลับปุ๋ยไปก่อนเพื่อนอย่างแปลกใจ ปกติอาชีพหัวขโมยน่าจะตื่นกลางคืน แต่ไหงกับนอนแต่หัวค่ำ
หันไปมองเจ้านักฆ่าที่อ่านหนังสืออยู่
"มันนอนไปสักพักใหญ่แล้ว" คิลบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้ายุ่งอย่างนึกสงสัย เขาก็สงสัยเหมือนกัน
วันรุ่งขึ้นเฟรินตื่นแต่เช้า ออกไปเที่ยวรอบเอดินเบิร์ก
ก่อนกลับมาปลุกเพื่อนสนิทให้เข้าห้องน้ำ
"ทำไมนายนอนแต่หัวค่ำจัง" คิลถามอย่างสงสัย
"อ้อ ก็ช่วงนี้ฉันไม่ต้องออกขโมย แถมไม่ได้นอนตอนกลางวันอีก ทำให้ต้องนอนตุนตอนกลางคืนไว้สิ การนอนไม่ครบแปดชั่งโมง ทำให้ผิวหมองคล้ำเป็นอุปสรรคต่อการจีบสาว"
เฟรินสาธยายยืดยาวจนเจ้าชายแต่งองค์เสร็จปรายตามามองเย็นชาทีหนึ่ง
"นายก็สนใจวิชาจีบสาวเหมือนกันเหรอ เจ้าชายคาโล ฉันสอนให้เอาไหม" เฟรินบอกยั่ว เพิ่มอุณหภูมิยามเช้าให้เจ้าชายน้ำแข็งเล็กน้อย
"ไม่ต้อง ขอบใจ" เสียงเย็นชาก่อนออกเดินนำออกไป
"มันไม่รับมุขเลยแฮะ" เฟรินบ่น คิดในใจจีบหนุ่มนี่ต้องยากกว่าจีบสาวชัวร์ แต่ถ้าร่างนี้ใช้ไม่ได้ผล ก็ต้องเล่นร่างสาวน้อยเสียแล้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับที่มุมปาก ก่อนเผลอลูบแผลเป็นใต้ตาอย่างเคยชินเวลาใช้ความคิด
ยามเช้าที่โรงอาหารดรากอนยังครึกครื้นตามเคย
"สปีดยังไม่ตกนะเฟริน " กัสทักทายเพื่อนที่ยังคงเอกลักษณ์การกินอย่างเอร็ดอร่อย
"อรุณสวัสดิ์ เฟรี่ กัสซี่ คิลลี่ คาลี่" เสียงซาตานแห่งป้อมอัศวินทักทายพวกเด็กปีหนึ่งโดยเฉพาะตัวยุ่ง
"สวัสดีฮะพี่ลูคัส" เฟรินทักทายอย่างอารมณ์ดี
"ทานอาหารเช้ากับพวกเด็กๆไหมลอรี่"
เสียงทักทายที่ได้รับคำตอบกลับเป็นฝูงมีดบินที่เจ้าตัวหลบอย่างชำนาญ แต่สร้างความตกใจให้พวกรุ่นน้องที่ยังไม่ชิน
เฟรินมองดูนักบวชหน้าสวย ผิวสีขาวนวล ผมสีทอง ดวงตาสีม่วงอย่างทึ่ง สวยอย่างนี้ก็สมกับที่พี่ลูคัสแกล้งทุกวันอยู่หรอก แหมถ้าให้คนอื่นเข้าใกล้คงหวงแย่ เลยต้องคอยแกล้งให้หงุดหงิดเข้าไว้คนอื่นจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวฝูงมีดบินพี่ท่าน
เฟรินส่งยิ้มนำทัพไปก่อน เห็นนักบวชพยักหน้าให้นิดหนึ่งก่อนหันกลับสนใจอาหารตรงหน้าต่อ เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา
หลังทักทายรุ่นพี่สองผู้คุมกฎ ที่เฟรินพึ่งรู้ตำแหน่งจากเจ้าขอทานผู้รอบรู้เป็นผู้อธิบาย ว่าในป้อม มีตำแหน่งหัวหน้าป้อม สองเสนา สี่ผู้คุ้มกฏ และสิบสองขุนพล ใช้วิธีการประลองเข้าไปรับตำแหน่ง
อืมเป็นป้อมที่รักการต่อสู้จริงๆด้วย
วิชาที่เรียนวันนี้ค่อนข้างถูกกับป้อมอัศวิน เจ้าเริ่มด้วยวิชาฟันดาบกับอาจารย์เรมัค เวสค์ ที่เฟรินฝึกอย่างเอื่อยเฉื่อย ต่อด้วยหลับในท่ายืน
ต่อด้วยวิชาพาหนะทรงพระราชา เฟรินมองเจ้าอูฐเดินเร็วของโร อย่างทึ่งๆ แหมไอ้ขอทานมันใช้ของดีอีกแล้ว
จบวันด้วยวิชาการใช้เวทมนตร์ของอาจารย์แม่มดวิงกี้ ที่เฟรินเสกได้แต่ของกิน ทำให้อาจารย์มองอย่างเอ็นดู
"นี่เธอจะเสกอย่างอื่นไม่เป็นหรือไง" อาจารย์แม่มดถามปนเอ็นดู
"อาจารย์ชอบดอกไม้อะไรเป็นพิเศษไหมฮะ ผมจะได้พยายามเสกให้
"แหมงั้นขอดอกกุหลาบก็แล้วกัน" อาจารย์บอกอย่างเอ็นดูกับวาทะของเด็กหนุ่มหน้าหวาน
"รับทราบครับ" เฟรินบอกอย่างหนักแน่น
"ตอนเย็นพวกเรามีประชุมทั้งชั้นปีด้วย ขอให้ทุกคนไปพร้อมกันที่ห้องนั่งเล่นรวมโดยพร้อมเพรียงกัน" เฟรินตะโกนถ้อยคำที่เจ้าชายคาโลบอกมาก่อนไปหารุ่นพี่โรเวนเสียแล้ว
"แกจะพูดเองเหรอ"ครี้ดแซว
"อาจารย์โว้ย แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องอะไรก็ไปถาม โรมันก็แล้วกัน" เฟรินโบ้ยไปที่ขอทานผู้รอบรู้ทันที
" เรื่องอะไรหรือคะคุณโร " เรนอลเจ้าหญิงคนงามแห่งคาโนวาลถาม
"คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องหมากกระดานเกียรติยศ" โรบอกอย่างคาดการณ์
"ถ้านายว่าอย่างนั้นก็คงเป็นอย่างนั้นล่ะ" มาทิลด้าบอกสรุป ก่อนแยกย้ายไป ค่อยมาประชุมเมื่อถึงเวลา
"นายจะลงไหมหมากกระดานเกียรติยศนั่น" คิลถามเฟริน ขณะเดินกลับห้องด้วยกัน
"แหมฝีมือระดับชั้น ขอแค่ตัวสำรองก็พอ" เฟรินบอกอย่างถ่อมตัว
"เอ๋ หรือจะเป็นคนเสริฟน้ำข้างสนานดี นายว่าอย่างไหนดีกว่ากันคิล" เฟรินหันกลับไปถามเพื่อนซี้
"แต่ฉันว่านายน่าจะเป็นคนเดินหมากมากกว่า" โรว่า
เขารู้สึกคุ้นเคยกับนามสกุลเดอเบอโรว์อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนท่านพ่อจะบอกว่าเคยแพ้ให้กับคนนามสกุลนี้ ทำให้เขาติดใจจนต้องไปค้นดู ถึงได้รู้ว่าเป็นตระกูลเชสมาสเตอร์ชื่อดังแห่งบารามอส และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเฟริน
"น่าเบื่อออก" เฟรินว่า สู้เอาเวลาไปจีบสาวดีกว่า หรือยั่วเจ้าชายน้ำแข็งดีนะ
ทั้งคิลและเฟรินเดินเข้ามาในห้อง เห็นเจ้าชายน้ำแข็งกำลังขีดเขียนรายงานอย่างขะมักเขม้น
ทั้งสองจึงแยกไปคุยกันเสียงเบาๆที่มุมห้อง หันไปดูเวลาเห็นใกล้ได้เวลาประชุม เจ้าชายท่านก็ยังทรงงานไม่เสร็จ
"ยังเหลืออีกเยอะไหมคาโล" เฟรินถามพลางยื่นแขนโอบไหล่อีกฝ่ายอย่างสนิทสนม ดวงหน้าก้มลงไปชิดเพื่อดูข้อความในกระดาษ
"อ้าวแผนผังเดินหมากหรือ" เฟรินคว้ามาดูก่อนจรดปากกาใส่ชื่อให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
"ไปกันได้แล้วจะได้เวลาประชุมแล้ว"คิลว่าก่อนคว้ามือเจ้าชายให้ลุกมาจากโต๊ะ
เฟรินเก็บกวาดของบนโต๊ะมาถือให้เดินตามออกมาอย่างรวดเร็ว
"พวกนาย" เจ้าชายพูดได้แค่นั้น ก็ต้องเดินตามออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในห้องประชุม
รุ่นพี่โรเวน เสนาธิการฝ่ายซ้าย รุ่นพี่ไธนอสเสนาธิการฝ่ายขวา กับสี่ผู้คุมกฎมีรุ่นพี่โซมาเนีย รุ่นพี่ชีวาสกับหนึ่งซาตานและนักบวชแห่งป้อมอัศวิน ตบท้ายด้วยอาจารย์ประจำป้อม
อาจาย์ประจำวิชาการเดินหมาก มิสแรมเซล
รุ่นพี่โรเวนพยักหน้าให้คาโล เจ้าชายน้ำแข็งจึงได้เดินออกไปพูด
"วันนี้มีเรื่องหมากกระดานเกียรติยศจะประกาศให้ทราบ แต่ละชั้นปีจะตกส่งหนึ่งทีมลงแข่ง ถ้าชนะในชั้นปีก็จะได้แข่งกับระดับสูงขึ้นไป และสามารถคว้าตราพระราชาให้กับป้อมได้ถ้าชนะ ใครไม่ลงให้ยกมือขึ้น"
เจ้าชายเว้นระยะ เมื่อไม่เห็นใครยกมือปฎิเสธ ก็ถือว่าลงทุกคน ซึ่งคนอื่นไม่ค่อยแปลกใจเพราะรู้มาจากโรก่อนแล้วทำให้วิพากษ์วิจารณ์ไปรอบแล้วทำให้การประชุมดูราบรื่นดี
แถมสองตัวกวนอย่างเฟรินและครี้ดก็นั่งฟังอย่างเรียบร้อยผิดคาด
"งั้นจะประกาศรายชื่อในตำแหน่งต่างๆให้ก่อน ถ้าไม่พอใจค่อยเปลี่ยนแปลงทีหลัง" เจ้าชายคาโลบอก
"อ้าวอย่างนี้ก็มัดมือชกสิ" ครี้ดหลุดปากบ่นจนได้
"แล้วนายอยากลงตำแหน่งไหนล่ะ"แองจี้ถามอย่างสงสัย
"ก็ต้องคิงสิ แล้วควรมีควีนสวยๆด้วย จะได้มีแรงรบ" ครี้ดบอก
เสียงโป๊กของคทาพิฆาตทรชนดังขึ้น
"บ้าสิเอาคิงบ้านนายไปรบ เดี๋ยวก็แพ้กันพอดี" แองจี้แหวขึ้นมาทันที
ครี้ดหันไปหาตัวช่วย
เฟรินจึงอธิบาย"คิงมีไว้หลบ เพราะถ้าตายเกมก็จบ"
"อ้าวงั้นก็ไม่สนุกล่ะสิ" ครี้ดว่าก่อนบ่น "ไม่เป็นก็ได้ ขอตำแหน่งที่ได้รบเป็นพอ"
"งั้นฉันจะประกาศรายชื่อ
เบี้ย ซีบิล โคลว์ อาชูร่า นิก เอ็ดเวิร์ด ทิวดอร์ เดท ซอร์โร
เรือ เจค ครี้ด
ม้า คิล กัส
บิชอบ คาโล แองจี้
ควีน เรนอล
คิง มาทิลด้า
คนเดินหมาก โร
ตัวสำรอง เฟริน
ใครมีอะไรสงสัย" คาโลถาม เมื่อไม่เห็นมีใครสงสัยก็จบการประชุม
พวกรุ่นพี่ที่เข้ามาดูก็เดินออกจากห้องอย่างไม่พูดอะไร
"ตารางการฝึกจะจัดให้พรุ่งนี้นะคะ" เรนอนบอกกับทุกคน
"ใครเป็นคนจัด" โรหันมากระซิบถามเฟริน
"เจ้าชายนั่งหลับจัดให้มั้ง" เฟรินบอกอย่างกวนๆ
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าขอทานผู้รอบรู้เล่นหมากรุกเก่งใช้ได้ เพราะเคยเห็นเล่นในวิชา แต่มันไม่เคยเล่นกับเขา เพราะเขาเล่นกับคิลตลอด บางทีก็เล่นกับคาโลบ้าง แต่ส่วนใหญ่โดดเพราะมันน่าเบื่อ
ไม่มีใครค้านการจัดตำแหน่ง เพราะส่วนใหญ่เป็นพวกชอบใช้กำลังมากกว่ามานั่งคิดวางแผน แค่ได้ลุยเป็นพอ
การฝึกมหาโหดก็เริ่มขึ้น
"นี่ยายแองจี้อย่าโหดนักเลย เดี๋ยวขายไม่ออกน้า"
เฟรินบอกอย่างกวนสาวน้อยอารมณ์บูดเหมือนทุกที ก่อนหลบก้อนหินที่แม่เจ้าคุณขว้างมาให้ราวกับห่าฝน
"นายมันอ่อนต้องฝึกเยอะๆ"
แองจี้บอกก่อนระดมโยนก้อนหินใส่เจ้าหัวขโมยที่ไวทายาด หลบได้เป็นส่วนใหญ่ เลยมีแต่รอยขีดข่วนเล็กน้อยที่เฟรินจงใจให้มี
เมื่อกลับถึงห้องโอดครวญนิดหน่อย เจ้าน้ำแข็งที่ไม่ใจดำเท่าไรก็มาร่ายเวทย์รักษาให้ทุกครั้ง
"ทำไมนายต้องไปยั่วแองจี้ให้ได้แผลมาทุกวัน" คาโลบ่นให้เจ้าคนที่ขยันหาแผล
"แหมก็การฝึกมันเครียดก็ต้องหารายการสันธนาการไงล่ะ" เฟรินบอก
"ขอบใจ " เฟรินบอกก่อนก้มไปจุ๊บแก้มขอบคุณทีหนึ่ง
"แกทำอะไร" รอยแดงเรื่อที่โหนกแก้มสองข้าง ก่อนพูดอะไรไม่ออก
"หรืออยากให้ฉันจูบขอบคุณที่ปาก" เฟรินถามยั่ว
"ไม่ต้อง" รอยแดงหายไปทันที เหลือแต่รอยเย็นชาในดวงตาสีฟ้าคู่สวย
"กับพ่อฉันก็จุ๊บบ่อยๆ เวลาอยากขอบคุณ เห็นพวกพี่สาวก็ชอบ นายเป็นผู้ชายไม่เห็นเสียหายตรงไหน ไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย"
เฟรินว่าไปเรื่อยๆโม้ใส่สีตีไข่เล็กน้อย แถมด้วยสีหน้าดูซื่อบริสุทธิ์ ใส่หน้ากากนักแสดงเต็มที่ ทำให้เจ้าชายคาโลเชื่อสนิทใจ
"ฉันแค่ไม่ชิน" คาโลว่าเบาๆ ก็ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยทำอย่างที่เฟรินว่ากับเสด็จพ่อเลยนี่นา
การสอบกลางภาคก็มาถึง
ช่วงเช้าธงชัยตกเป็นของป้อมอื่นๆอย่างละป้อม แต่ป้อมอัศวินยังไม่ได้เลยสักอัน
"ว้าเหลือวิชาแข่งสัตว์พาหนะ ฟันดาบ เสกของเล่น สงสัยคงต้องหวังพึ่งพวกผู้หญิงเสียแล้ว" เฟรินว่า
"เสียศักดิ์ศรีป้อมหมด ธงชัยแรกวิชาสัตว์พาหนะ นายใช้วิชาขโมย ขโมยธงมาสักอันสิ" เจ้าชายคาโลว่า
"แหมถ้าได้ นายจะให้รางวัลฉันไหม" เฟรินถามส่งยิ้มมีเลศนัยไปให้
"นายอยากได้อะไร"เจ้าชายคาโลถาม
"รอให้ชนะก่อนค่อยบอกก็ได้ ฉันใจดี" เฟรินว่า
ก่อนเดินไปลูบไล้เจ้าโรซี่ พูดคุยที่ข้างหูแม่ม้าแก่ตัวดี
"มีคนเขาว่าม้านะวิ่งช้ากว่าอูฐอีกโรซี่ แกทนให้เขาดูถูกศักดิ์ศรีของม้าได้อย่างไร"
แน่นอนคำสบประมาทดูเหมือนได้ผล เจ้าโรซี่วิ่งนำแบบม้วนเดียวจบ เฉือนม้าจากคาโนวาลแค่จมูกกับปาก คว้าธงชัยแรกให้ป้อม
ทำให้เจ้าหนูหัวขโมยโด่งดัง
รอบต่อมาเป็นแข่งฟันดาบ เฟรินเรียกผ่าปฐพี ใส่พลังไปแค่เล็กน้อยก็ฟันดาบคู่ต่อสู้หักหมด เรียกชัยชนะไปได้อย่างง่ายดาย คนอื่นในป้อมก็ชนะเช่นกัน แต่คนดูจะให้ความสนใจไอ้หนูหัวขโมยมากกว่า
วิชาสุดท้ายเป็นของอาจารย์แม่มด
ในเสกของชอบที่สุด แน่นอนเฟรินเสกแอปเปิ้ล ของไม่ชอบกลายเป็นสายฟ้า แถมเสกไปใกล้คู่แข่งขันเสียอีก ทำเอาคนจากป้อมขุนนางหน้าซีดที่มีสายฟ้ามาเฉียดๆห่างจากรองเท้าแค่สองเซน
แน่นอนสุดท้ายก็เป็นช่อดอกไม้สีแดงให้อาจารย์แม่มด เรียกคะแนนพิศวาสได้เป็นอย่างดี ทำให้ธงชัยสุดท้ายของวันเป็นของป้อมอัศวิน และทุกคนดูจะชอบสายฟ้าของเฟรินเป็นพิเศษ เขาเลยได้สมญาใหม่เป็นเจ้าหนูสายฟ้า
วันนี้คิลถูกเรนอนเรียกตัวไปปรึกษาเรื่องตารางการซ้อม แน่นอนเพราะเจ้านั่นก็เป็นหนึ่งในสองหัวหน้าชั้นปีจอมอู้ ซึ่งพวกสามนางฟ้าแก้ลำโดยของปรึกษาโดยตรงอยู่ตลอดทำให้คิลต้องทำงาน ผิดกับเฟรินที่กระล่อนเอาตัวรอดอู้มาได้เรื่อยๆ ก็เจ้านั่นมันขี้อายไม่การจีบพวกผู้หญิง เลยโดนพวกนั้นใช้งานน่าดู แต่ดูท่าเจ้าคิลน่าจะชอบหนึ่งในสามนางฟ้า ที่น่าสงสัยคงเป็นเรนอน
เพราะเห็นเรียกทีไรก็หน้าแดง แต่ก็เดินตามต้อยๆ เหมือนหมาตามเจ้าของไม่ผิด
"สัญญา" เฟรินทวงทันทีที่เข้าห้อง
"นายจะเอาอะไร" คาโลถาม
"ริมฝีปากนายไง สีเหมือนแอปเปิ้ลที่ฉันชอบกิน"เฟรินว่า
"แต่"
เจ้าชายคาโลพูดไม่ออกว่าจุมพิตแห่งเจ้าชาย ของคาโนวาลคือสัญญารักชั่วนิรันดร์ จะมาให้เล่นๆไม่ได้
"เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม" เจ้าชายคาโลถาม
"งั้นก็อธิบายเหตุผลที่จูบไม่ได้มาก่อนสิ" เฟรินว่า
"จูบเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ในคาโนวาล จูบจากหญิงบริสุทธิ์เรียกนักรบปีศาจ จูบจากเจ้าหญิงรักษาแผลได้ "คาโลว่าก่อนเงียบไป กระตุ้นต่อมความอยากรู้ของเฟริน
"จูบของเจ้าชายล่ะ" เฟรินถาม
"จูบของเจ้าชายเป็นการสาบานรัก จะมอบให้ผู้เป็นชายาเท่านั้น" เจ้าชายแห่งคาโนวาลรีบบอกรวดเร็ว ก่อนสีหน้าร้อนผ่าว
"อืมก็ได้ ไว้ถ้านายอยากมอบให้ฉันเมื่อไร ฉันค่อยรับไปก็แล้วกัน จูบแห่งสัญญา"เฟรินว่า
"ไอ้บ้า แกเข้าใจว่ายังไงกันแน่" คาโลว่า
"ก็นายติดหนี้จูบของฉัน แต่ตอนนี้นายยังไม่พร้อม ฉันก็รอให้นายพร้อมก่อนก็ได้ เพราะยังไงกษัตริย์ตรัสแล้วย่อมไม่คืนคำจริงไหม"
เฟรินหยอกต่อ แน่นอนเขาเข้าใจ แต่ก็แกล้งตู่ให้เข้ากับประโยชน์ของตน ไอ้เข้าใจแล้วขาดทุนไม่ใช่วิสัยของหัวขโมยอย่างเขาอยู่แล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น