ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ชมรมนักสืบ
บทที่3
ห้องประธานนักเรียนฝ่ายประถม ท่านประธานนักเรียน ทาคามิยะ เซจุ ชั้นป.6 และท่านรองประธาน อิซึมิ เคโตะชั้นป.5
กำลังขะมักเขม้นทำงานเอกสารกองโตอยู่ ก่อนเสียงเปิดประตูดังขึ้น จึงเงยหน้ามองผู้มาเยือน
"สายัณห์สวัสดิ์ เพื่อนรัก ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า" โนโครุทักทายอย่างร่าเริงเกินเหตุ พลางคิดในใจสมน้ำหน้าพวกมันที่เคี่ยวเข็นให้เขาเซ็นเอกสารมาตลอด ตอนนี้ต้องมาปั่นกันเองดูแล้วสนุกที่สุด
"ผมคิดว่ามันยังเบาเมื่อเทียบกับต้องตามตัวประธานจอมอู้ หรือค่อยแก้เรื่องยุ่งๆของใครบางคนที่ทำทิ้งไว้นะครับท่านประธาน"ทาคามิยะเหน็บอดีตประธานจอมวุ่น
ขณะที่อิซึมิ เสริฟน้ำชาและขนมให้กับแขกผู้มาเยือนทั้งสี่คน พลางถาม "ท่านประธานจะไม่แนะนำเด็กใหม่หน่อยหรือครับ"
"แฮ่ม สองฝาแฝดนี่เป็นหลานชั้น คนไม่ใส่แว่น คนพี่ชื่อคาซึกิ ชื่อเล่นชื่อเชียร์ คนน้องที่ใส่แว่นชื่อซึซึกิ ชื่อเล่น เชอร์" โนโครุแนะนำ ก่อนแซว
"ส่วนคนนี้ไม่ต้องแนะนำนะ" พลางปรายตามองคาซึยะที่อมยิ้มอยู่
"ผม ทาคามิยะ เซจุ"เด็กหนุ่มที่มีท่าทางจริงจังกล่าวอย่างสุภาพและเป็นทางการ
"ผม อิซึมิ เคโตะฮะ"เด็กหนุ่มท่าทางร่าเริง เข้ากับคนง่ายและเต็มไปด้วยมนุษยสัมพันธ์กล่าวต่อ
"แล้วเดี๋ยวท่านประธานจะไปไหนต่อฮะ"
"ว่าจะพาเชียร์ เชอร์ ไปห้องชมรม พวกนายไปด้วยกันไหม" โนโครุเอ่ยชวน
"ครับ" ทั้งสองเสียงตอบพร้อมกัน
ห้องชมรมนักสืบ
หน้าห้องเขียนชื่อชมรมด้วยลายพู่กันจีน ตามด้วยสโลแกนชมรม ยินดีรับช่วยเหลือเรื่องเดือนร้อนแก่สุภาพสตรีทุกคน
เชียร์ เชอร์ อ่านป้ายชมรมอย่างสงสัย ก่อนเดินตามท่านอา เข้าไปในห้อง
โนโครุ หยิบกรวยกระดาษ ดึงออกมีริบบิ้นกระจายออก พร้อมส่งเสียง
"ยินดีต้อนรับเข้าชมรมนักสืบแห่งโรงเรียนซี"
"ท่านอา พวกเรายังไม่ได้บอกว่าจะเข้าชมรมนี้เลยนะ แล้วชมรมนี้มีสมาชิกกี่คนฮะ" คาซึกิถามอย่างสงสัย
"แหมในเมื่ออาเป็นประธานชมรม และเป็นอาของพวกเธอมีหน้าที่ต้องดูแล ขอสั่งให้พวกเธอเป็นสมาชิกคนที่ 5 และ6 ของชมรมนักสืบ" โนโครุกล่าวตอบแกล้งทำเสียงจริงจัง
"ถือว่าช่วยท่านอาเถอะเชียร์ แถมห้องนี้ก็ลมเย็น น่าจะนอนสบายนะ" ซึซึกิเอ่ยบอกคู่แฝด
"ปกติ ชมรมนี้ทำอะไรบ้างฮะ" คาซึกิเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่ออ่านสโลแกนหน้าห้อง
คาซึยะหัวเราะก่อนเอ่ยตอบ "ชมรมเราจะมีตู้รับร้องทุกข์ ผู้ที่มีความเดือดร้อนจะมาเขียนและใส่กล่อง โนโครุจะเป็นคนคัดเลือกงาน ส่วนใหญ่เจ้าทุกข์มักเป็นสาวสวยเกือบทั้งนั้น
ส่วนเรื่องที่รับทำก็เป็นเรื่องสนุกๆ เช่นรับตามหานกยูง หาบ้านให้ลูกแมว ตั้งชื่อให้ลูกสุนัข ซับน้ำตาให้หญิงสาว ฯลฯ "สิ้นเสียงเพื่อนตัวดีที่จารนัยงานชมรมซะไม่เหลือดี เสียงมะเหงกก็ประเคนใส่หัวเพื่อนตัวดีโทษฐานทำให้เสียฟอร์มต่อหน้าหลานๆ
"ท่านอานี่หัวงู มากเลยนะฮะ" คาซึกิกล่าววิจารณ์
หลังสิ้นเสียงสำลัก ไอกันทั่วหน้าจากสมาชิกหน้าเก่าของชมรม
"เป็นอะไรกันไหมครับ "เสียงถามไถ่อย่างเป็นห่วงจากซึซึกิ ผู้พูดน้อย
"สำลักอะไรกันฮะ ผมอุตสาห์ชมว่า ท่านอาบริการสาวๆเก่งต่างหาก" คาซึกิถามอย่างสงสัย
"เอ่อ คำบางคำเด็กก็ไม่ควรใช้นะ"โนโครุ พูดออกมาอย่างเหนื่อยใจหลังสำลักน้ำชา กับความคิดของเด็กสามขวบก่อนเอ่ยถาม
"ไปเอาคำนั้นมาจากไหนละ เชียร์"
"ในหนังสือนิยายของแด้ดนะสิฮะ" เจ้าตัวดีตอบพลางทำตาเจ้าเล่ห์
ทำให้โนโครุรู้ว่าถูกหลานตัวดีหลอกด่า พลางนึกถึงงานอดิเรกของพี่ชายคนรองที่เป็นนักเขียนนิยายวัยรุ่น ยอดนิยม ควบคู่กับการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของกิจการที่บ้าน
ตอนเย็นวันรุ่งขึ้นในห้องชมรม
"ยังไม่มีใครมาเลยเชอร์" เสียงใสของฝาแฝดคนพี่ดังขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องแล้วไม่เจอใคร หันมองร่างของคู่แฝดที่มองลูกแก้วในมืออย่างสนใจ
"ทำอะไรนะ" เอ่ยปากถามอย่างสงสัย
"ลูกแก้ววัดระดับพลัง พึ่งลองทำเล่นเมื่อคืนนะ ในโรงเรียนนี้มีสีสันสดใสดี มีหลายสีด้วย" เสียงตอบจากร่างแฝดผู้น้อง
"มันแน่นอนอยู่แล้ว โรงเรียนนี้เป็นที่รวมของเด็กอัจฉริยะหลายรูปแบบทั้งนักกีฬา นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์" เชียร์ร่ายยาวตามที่รู้มาจากท่านพ่ออีกที
"อีม มีผู้ใช้เวทย์ หัวขโมย นินจา มนุษย์ต่างดาวและพวกแปลกๆอีกมากมายด้วย"
แฝดผู้น้องตอบรับ ก่อนเก็บลูกแก้วใส่กระเป๋า หยิบเอาขลุ่ยไม้ที่ใช้ในชั่วโมงดนตรีออกมาเป่าเล่นเป็นท่วงทำนองไพเราะ
ทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังจะเปิดประตูชะงัก เมื่อเสียงเพลงจบลง พร้อมเสียงปรบมือ ร่างของคู่แฝดหันไปมองผู้มาเยือน ฮายามิ คาซึยะ
ร่างสูงเดินตรงเข้าไปพูดกับฝาแฝด"พวกเธอเข้าประกวดดนตรีที่ฝรั่งเศสด้วยใช่ไหม"
"ใช่ แต่ฉันไม่คิดที่จะคบกับคนที่มองแต่ผลประโยชน์หรอกนะ" คาซึกิตอบอย่างเย็นชา
"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันชื่นชมฝีมือการเล่นดนตรีของพวกเธอ โดยเฉพาะเสียงไวโอลินของเชอร์ มากจนอยากลองเล่นคู่ดูสักครั้งเท่านั้นเอง" คาซึยะกล่าวแก้ความเข้าใจผิด
"ฉันไม่ขอโทษนายหรอกนะ ถึงอย่างไรฉันก็คิดว่านายต้องหวังผลชัวร์" คาซึกิยังคงยืนยันความคิดเดิม
"ใช่ตอนแรกฉันคิดนิดหน่อย เพราะชั้นมีสัญญากับท่านพ่อไว้ว่าจะได้รับอนุญาตให้เล่นดนตรีได้ก็ต่อเมื่อต้องได้แชมป์เท่านั้น มิฉะนั้นท่านพ่อจะไม่ให้ฉันเล่นดนตรี ท่านตั้งใจให้ฉันสืบทอดกิจการ เพราะเป็นลูกคนเดียว" คาซึยะอธิบายเหตุผลอย่างยืดยาว
"อยากเล่นเพลงอะไรล่ะครับ" เชอร์เอ่ยขัด หลังจากฟังคนทั้งสองทะเลาะกันมาสักครู่ ใหญ่
คาซึยะเดินไปเปิดเปียโน เชอร์เอาขลุ่ยแนบริมฝีปาก ก่อนเล่นดนตรีคลอกันไป ทำให้สามหนุ่มที่มาทีหลังฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม
"เพราะจัง คุณคาซึยะ กับคุณเชอร์น่าจะเล่นบ่อยๆนะฮะ" เคโตะเอ่ยชม
พวกเขาจิบน้ำชาและขนม คุยถึงงานใหม่ของชมรมแน่นอนบำบัดทุกข์ให้เหล่าสาวๆ
ห้องประธานนักเรียนฝ่ายประถม ท่านประธานนักเรียน ทาคามิยะ เซจุ ชั้นป.6 และท่านรองประธาน อิซึมิ เคโตะชั้นป.5
กำลังขะมักเขม้นทำงานเอกสารกองโตอยู่ ก่อนเสียงเปิดประตูดังขึ้น จึงเงยหน้ามองผู้มาเยือน
"สายัณห์สวัสดิ์ เพื่อนรัก ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า" โนโครุทักทายอย่างร่าเริงเกินเหตุ พลางคิดในใจสมน้ำหน้าพวกมันที่เคี่ยวเข็นให้เขาเซ็นเอกสารมาตลอด ตอนนี้ต้องมาปั่นกันเองดูแล้วสนุกที่สุด
"ผมคิดว่ามันยังเบาเมื่อเทียบกับต้องตามตัวประธานจอมอู้ หรือค่อยแก้เรื่องยุ่งๆของใครบางคนที่ทำทิ้งไว้นะครับท่านประธาน"ทาคามิยะเหน็บอดีตประธานจอมวุ่น
ขณะที่อิซึมิ เสริฟน้ำชาและขนมให้กับแขกผู้มาเยือนทั้งสี่คน พลางถาม "ท่านประธานจะไม่แนะนำเด็กใหม่หน่อยหรือครับ"
"แฮ่ม สองฝาแฝดนี่เป็นหลานชั้น คนไม่ใส่แว่น คนพี่ชื่อคาซึกิ ชื่อเล่นชื่อเชียร์ คนน้องที่ใส่แว่นชื่อซึซึกิ ชื่อเล่น เชอร์" โนโครุแนะนำ ก่อนแซว
"ส่วนคนนี้ไม่ต้องแนะนำนะ" พลางปรายตามองคาซึยะที่อมยิ้มอยู่
"ผม ทาคามิยะ เซจุ"เด็กหนุ่มที่มีท่าทางจริงจังกล่าวอย่างสุภาพและเป็นทางการ
"ผม อิซึมิ เคโตะฮะ"เด็กหนุ่มท่าทางร่าเริง เข้ากับคนง่ายและเต็มไปด้วยมนุษยสัมพันธ์กล่าวต่อ
"แล้วเดี๋ยวท่านประธานจะไปไหนต่อฮะ"
"ว่าจะพาเชียร์ เชอร์ ไปห้องชมรม พวกนายไปด้วยกันไหม" โนโครุเอ่ยชวน
"ครับ" ทั้งสองเสียงตอบพร้อมกัน
ห้องชมรมนักสืบ
หน้าห้องเขียนชื่อชมรมด้วยลายพู่กันจีน ตามด้วยสโลแกนชมรม ยินดีรับช่วยเหลือเรื่องเดือนร้อนแก่สุภาพสตรีทุกคน
เชียร์ เชอร์ อ่านป้ายชมรมอย่างสงสัย ก่อนเดินตามท่านอา เข้าไปในห้อง
โนโครุ หยิบกรวยกระดาษ ดึงออกมีริบบิ้นกระจายออก พร้อมส่งเสียง
"ยินดีต้อนรับเข้าชมรมนักสืบแห่งโรงเรียนซี"
"ท่านอา พวกเรายังไม่ได้บอกว่าจะเข้าชมรมนี้เลยนะ แล้วชมรมนี้มีสมาชิกกี่คนฮะ" คาซึกิถามอย่างสงสัย
"แหมในเมื่ออาเป็นประธานชมรม และเป็นอาของพวกเธอมีหน้าที่ต้องดูแล ขอสั่งให้พวกเธอเป็นสมาชิกคนที่ 5 และ6 ของชมรมนักสืบ" โนโครุกล่าวตอบแกล้งทำเสียงจริงจัง
"ถือว่าช่วยท่านอาเถอะเชียร์ แถมห้องนี้ก็ลมเย็น น่าจะนอนสบายนะ" ซึซึกิเอ่ยบอกคู่แฝด
"ปกติ ชมรมนี้ทำอะไรบ้างฮะ" คาซึกิเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่ออ่านสโลแกนหน้าห้อง
คาซึยะหัวเราะก่อนเอ่ยตอบ "ชมรมเราจะมีตู้รับร้องทุกข์ ผู้ที่มีความเดือดร้อนจะมาเขียนและใส่กล่อง โนโครุจะเป็นคนคัดเลือกงาน ส่วนใหญ่เจ้าทุกข์มักเป็นสาวสวยเกือบทั้งนั้น
ส่วนเรื่องที่รับทำก็เป็นเรื่องสนุกๆ เช่นรับตามหานกยูง หาบ้านให้ลูกแมว ตั้งชื่อให้ลูกสุนัข ซับน้ำตาให้หญิงสาว ฯลฯ "สิ้นเสียงเพื่อนตัวดีที่จารนัยงานชมรมซะไม่เหลือดี เสียงมะเหงกก็ประเคนใส่หัวเพื่อนตัวดีโทษฐานทำให้เสียฟอร์มต่อหน้าหลานๆ
"ท่านอานี่หัวงู มากเลยนะฮะ" คาซึกิกล่าววิจารณ์
หลังสิ้นเสียงสำลัก ไอกันทั่วหน้าจากสมาชิกหน้าเก่าของชมรม
"เป็นอะไรกันไหมครับ "เสียงถามไถ่อย่างเป็นห่วงจากซึซึกิ ผู้พูดน้อย
"สำลักอะไรกันฮะ ผมอุตสาห์ชมว่า ท่านอาบริการสาวๆเก่งต่างหาก" คาซึกิถามอย่างสงสัย
"เอ่อ คำบางคำเด็กก็ไม่ควรใช้นะ"โนโครุ พูดออกมาอย่างเหนื่อยใจหลังสำลักน้ำชา กับความคิดของเด็กสามขวบก่อนเอ่ยถาม
"ไปเอาคำนั้นมาจากไหนละ เชียร์"
"ในหนังสือนิยายของแด้ดนะสิฮะ" เจ้าตัวดีตอบพลางทำตาเจ้าเล่ห์
ทำให้โนโครุรู้ว่าถูกหลานตัวดีหลอกด่า พลางนึกถึงงานอดิเรกของพี่ชายคนรองที่เป็นนักเขียนนิยายวัยรุ่น ยอดนิยม ควบคู่กับการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของกิจการที่บ้าน
ตอนเย็นวันรุ่งขึ้นในห้องชมรม
"ยังไม่มีใครมาเลยเชอร์" เสียงใสของฝาแฝดคนพี่ดังขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องแล้วไม่เจอใคร หันมองร่างของคู่แฝดที่มองลูกแก้วในมืออย่างสนใจ
"ทำอะไรนะ" เอ่ยปากถามอย่างสงสัย
"ลูกแก้ววัดระดับพลัง พึ่งลองทำเล่นเมื่อคืนนะ ในโรงเรียนนี้มีสีสันสดใสดี มีหลายสีด้วย" เสียงตอบจากร่างแฝดผู้น้อง
"มันแน่นอนอยู่แล้ว โรงเรียนนี้เป็นที่รวมของเด็กอัจฉริยะหลายรูปแบบทั้งนักกีฬา นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์" เชียร์ร่ายยาวตามที่รู้มาจากท่านพ่ออีกที
"อีม มีผู้ใช้เวทย์ หัวขโมย นินจา มนุษย์ต่างดาวและพวกแปลกๆอีกมากมายด้วย"
แฝดผู้น้องตอบรับ ก่อนเก็บลูกแก้วใส่กระเป๋า หยิบเอาขลุ่ยไม้ที่ใช้ในชั่วโมงดนตรีออกมาเป่าเล่นเป็นท่วงทำนองไพเราะ
ทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังจะเปิดประตูชะงัก เมื่อเสียงเพลงจบลง พร้อมเสียงปรบมือ ร่างของคู่แฝดหันไปมองผู้มาเยือน ฮายามิ คาซึยะ
ร่างสูงเดินตรงเข้าไปพูดกับฝาแฝด"พวกเธอเข้าประกวดดนตรีที่ฝรั่งเศสด้วยใช่ไหม"
"ใช่ แต่ฉันไม่คิดที่จะคบกับคนที่มองแต่ผลประโยชน์หรอกนะ" คาซึกิตอบอย่างเย็นชา
"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันชื่นชมฝีมือการเล่นดนตรีของพวกเธอ โดยเฉพาะเสียงไวโอลินของเชอร์ มากจนอยากลองเล่นคู่ดูสักครั้งเท่านั้นเอง" คาซึยะกล่าวแก้ความเข้าใจผิด
"ฉันไม่ขอโทษนายหรอกนะ ถึงอย่างไรฉันก็คิดว่านายต้องหวังผลชัวร์" คาซึกิยังคงยืนยันความคิดเดิม
"ใช่ตอนแรกฉันคิดนิดหน่อย เพราะชั้นมีสัญญากับท่านพ่อไว้ว่าจะได้รับอนุญาตให้เล่นดนตรีได้ก็ต่อเมื่อต้องได้แชมป์เท่านั้น มิฉะนั้นท่านพ่อจะไม่ให้ฉันเล่นดนตรี ท่านตั้งใจให้ฉันสืบทอดกิจการ เพราะเป็นลูกคนเดียว" คาซึยะอธิบายเหตุผลอย่างยืดยาว
"อยากเล่นเพลงอะไรล่ะครับ" เชอร์เอ่ยขัด หลังจากฟังคนทั้งสองทะเลาะกันมาสักครู่ ใหญ่
คาซึยะเดินไปเปิดเปียโน เชอร์เอาขลุ่ยแนบริมฝีปาก ก่อนเล่นดนตรีคลอกันไป ทำให้สามหนุ่มที่มาทีหลังฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม
"เพราะจัง คุณคาซึยะ กับคุณเชอร์น่าจะเล่นบ่อยๆนะฮะ" เคโตะเอ่ยชม
พวกเขาจิบน้ำชาและขนม คุยถึงงานใหม่ของชมรมแน่นอนบำบัดทุกข์ให้เหล่าสาวๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น