หัวขโมยแห่งบารามอส ภาคคู่อลวน

ลำดับตอนที่ #1 : วาจาแห่งกษัตริย์

บารามอส

อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อกษัตริยบาโรบอกว่าจะให้ลูกของตนแย่งคนรักลูกของเอวิเอสเป็นการแก้แค้น

บทที่1 วาจาแห่งกษัตริย์

ที่ชายป่าโรงเรียนเอดินเบิร์ก

ชายหนุ่มร่างสูง ผิวเข้ม ผมสีทองสั้น ยืนทำหน้าตาเคร่งเครียด ประจัญหน้ากับ ชายหนุ่มผมสีดำ ดวงตาสีนิล

"จำไว้เอวิเดส วันนี้เดมอสเป็นหนี้แค้นคาโนวาล เจ้าแย่งคนรักของข้าไป วันหน้าลูกข้าจะแย่งคนรักของลูกเจ้าคืนบ้าง"

น้ำเสียงจริงจังออกมาจากโอษฐ์ของเจ้าชายแห่งเมืองนักรบ

"ข้าจะจำไว้ก็แล้วกัน แต่อย่านานนัก เพราะข้าขี้ลืม "

จ้าวปีศาจกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก

"ไม่ต้องห่วง คาโนวาลไม่ยอมให้ใครหนีหนี้"
 
เจ้าชายบาโร วาเนบบลีบอกเสียงเข้มก่อนเดินจากไป

"ก็ให้รู้ไปว่าระหว่างคาโนวาลกับเล่ห์เหลี่ยมปีศาจใครจะแน่กว่ากัน"
 
เอวิเดสยิ้มอย่างนึกสนุกกับแผนการบางอย่าง

หลังจากเรียนจบเจ้าหญิงอลิเซีย ฟาโรเวลก็ถูกส่งไปเดมอสเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี
สามสิงห์แห่งเอเดนก็กลับประเทศของแต่ละคน

เจ้าชายบาโรขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งคาโนวาลและแต่งงานกับจอมภูตน้ำแข็งแห่งสโนวแลนด์

จอมพเนจร วิลเลี่ยม กรีน ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเวนอลและแต่งงานกับภูติดอกไม้

ส่วนริชชาร์ดขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งแอเรียส และมีสนมมากมายทำลายสถิติด้วยการมีลูกคนแรกก่อนใครในสามสิงห์

ปีที่เจ้าชายรัชทายาทแห่งแอเรียสกำเนิด เจ้าชายรัชทายาทของประเทศอื่นก็กำเนิดพร้อมกันหลายประเทศทีเดียเช่น โรมัน เจมิไน ซาเรสและทริสทอร์ แต่ธรรมเนียมที่ต้องส่งรัชทายาทออกเร่รอน ทำให้ไม่มีใครเคยเห็นหน้ารัชทายาทแห่งแอเรียนสและทริสทอร์

สี่ปีต่อมา กษัตริย์บาโรก็ได้รัชทายาทสมใจ อีกไม่กี่เดือนต่อมาวิลเลี่ยมก็ได้ลูกชายเช่นกันและพร้อมกับประเทศอื่นๆ อีกเช่น กิลดิเรก อเมซอน เอเธนส์และวิทช์
ย้ายจากฝั่งเอเดนมาเดมอสบ้างก็ไม่น้อยหน้า เมื่อราชินีอลิเซียได้ให้กำเนิดบุตรเช่นกัน

ที่หน้าห้องทั้งไฮคิงและจ้าวปีศาจเอวิเดส ต่างก็นั่งไม่ติดเช่นกัน

ราชินีจันทราน้องสาวของเอวิเดสได้มาเข้าเฝ้าถวายคำทำนายอนาคตของรัชทายาทสองแผ่นดินที่จะถือกำเนิดขึ้น ทำให้สองบุรุษต้องหารือเพื่อรับมือกับคำทำนายที่ได้ฟัง

เสียงเด็กทารกร้องจ้า ประตูเปิดออก หมอผู้ทำคลอดเดินออกมา กำลังจะประกาศ

"หยุด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" เอวิเดสบอก ออกคำสั่งต่อหมอหลวงให้ลืมเรื่องในวันนี้ทั้งหมด

"พะยะค่ะ" หมอหลวงรับคำสั่ง ก่อนเดินออกมารออย่างสงบไม่พูดอะไรทั้งนั้นเมื่อเห็นสีหน้าของท่านจ้าว


ทั้งไฮคิงกับเอวิเดสเดินเข้ามาดูทั้งแม่และลูก

ทารถเพศชายอยู่ในอ้อมกอดของมารดากำลังดูดนมอย่างหิวโหย

"สร้อยนี่เป็นของรับขวัญลูกเรา" เอวิเดสคล้องคอลูกด้วยสร้อยเส้นสวย

ทันทีที่สร้อยอยู่บนคอของทารกน้อยทำให้เด็กชายกลายร่างเป็นเด็กหญิงทันที

"ท่านพี่หมายความว่าอย่างไร" อลิเซียถามอย่างงงงวยเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
"เพื่อความปลอดภัยของลูกเรา"เอวิเดสบอก

"เจ้าหญิงสองแผ่นดินย่อมปลอดภัยกว่าเจ้าชายสองแผ่นดิน" ไฮคิงให้เหตุผลกับพระธิดา

ท่านจ้าวได้ประกาศ

"ข้าขอตั้งชื่อให้ลูกสาวข้า ว่า เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล เดอะพรินเซสออฟเดมอสแอนด์บารามอส"

สิ้นเสียงของท่านจ้าวเหล่าผู้คนที่รอฟังข่าวก็ร้องตะโกนอย่างยินดี ต่อการกำเนิดของเจ้าหญิง

เนื่องจากเป็นเด็กที่เกิดหลังสุด ทำให้เหล่าเพื่อนของเจ้าหญิงอลิเซียต่างมาร่วมแสดงความยินดีในงานฉลองครบเดือนของเจ้าหญิงองค์น้อยกันอย่างพร้อมหน้า เจ้าหญิงที่มีพระเกศาสีน้ำตาลดวงตาสีน้ำตาลและดวงหน้าถอดแบบพระมารดามา
ที่มุมหนึ่งในงานเลี้ยง สี่หนุ่มกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากเจ้าหญิงอลิเซียตั้งท้องจึงไม่ได้เดินทางไปแสดงความยินดี ต่อการได้ลูกของเพื่อนๆ ได้แต่ส่งของไปแสดงความยินดี แต่เธอคลอดหลังสุด คนอื่นคลอดกันไปหมดแล้วทำให้มาที่เดมอสได้พร้อมหน้า

เอวิเดสทักทายกับบาโรอย่างสนิทสนม หลายปีที่ผ่านมาทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้น เปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตรกันแล้ว บาโรเริ่มยอมรับมารักอลิเซียอย่างน้องสาวมากกว่า

"จริงสิบาโร ข้าได้ลูกสาวล่ะ เจ้าอย่าลืมให้ลูกชายเจ้ามาแย่งคนรักลูกสาวข้าก็แล้วกัน" เอวิเดสแซวอีกฝ่ายอย่างร่าเริง

วิลเลี่ยมกับริชาร์ดหูผึ่งเมื่อได้ยินเรื่องประหลาด จึงหันไปถามอลิเซียว่าเรื่องเป็นอย่างไร เมื่อรู้เรื่องคำอาฆาตของเจ้าชายบาโรเมื่อก่อนแล้ว ทั้งหมดก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

"เจ้าบ้า ข้าหมายความว่า ถ้าเจ้าได้ลูกชายต่างหาก ถึงจะให้ลูกข้าแข่งบริหารเสน่ห์กับลูกเจ้า ถ้าเป็นแบบนี้จะให้ลูกข้าแต่งงานกับผู้ชายได้อย่างไร" คิงบาโรกล่าวแก้ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายเจตนาหยอกเขา

"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวลุงริชาร์ด จะสอนเทคนิคการจีบหนุ่มให้หลานคาโลเอง" คิงริชาร์ดรีบรับเป็นพระอาจารย์ทันที เรียกเอาสายตาเย็นชาเชือดเชือนจากคิงบาโรได้เป็นอย่างดี

"วิชานั่นเจ้าเก็บไว้สอนลูกชายเจ้าเองเถอะ" คิงบาโรตอกกลับทันที

"กษัตริย์ตรัสแล้วคืนคำได้อย่างไร" จักรพรรดิวิลเลี่ยมเหน็บปนแซวต่ออย่างอารมณ์ดี

"ตอนนั้นเป็นแค่เจ้าชายไม่ใช่กษัตริย์สักหน่อย ไม่รู้ล่ะข้าหมั้นลูกสาวเจ้าให้ลูกชายข้าไว้เลยแล้วกันนะอลิเซีย" คิงบาโรเปลี่ยนมุขทันที

"เฮ้ย อย่ามาซีซั้วขอลูกสาวคนอื่น แค่ลูกสาวคนเดียวข้าเลี้ยงเองได้ ไม่ยกให้ใครง่ายๆหรอก" เอวิเดสรีบร้องห้าม เรียกเสียงหัวเราะให้เหล่ากษัตริย์กันอย่างมาก

ราชินีอลิเซียหันมาถามพี่สาวสุดที่รัก ราชินีอเมซอน

"จริงสิลูกกสาวท่านพี่ ก็อายุมากกว่าเฟลิโอน่าไม่กี่เดือน อย่างนี้ตอนเข้าโรงเรียนต้องได้อยู่ชั้นปีเดียวกันแน่ ถ้าได้อยู่ป้อมเดียวกันจะยิ่งดีมากเลยนะเพคะ"

"จริงด้วย "ราชินีอเมซอนรับคำอย่างเห็นด้วย

"น่าเสียดายที่ข้ายังไม่ได้เห็นหลานสักคน" ราชินีแห่งเดมอสบ่น เพราะช่วงนั้นเธอกำลังท้องไม่มีใครให้เธอออกเดินทางไปไหนเลย

"ก็ตอนที่คนอื่นเขาคลอดกัน เจ้าพึ่งต้องท้องอ่อนๆ ต้องห้ามเดินทางไกล ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ แต่เจ้าก็ส่งจดหมายไปแสดงความยินดีทุกคนนี่น้า ไม่เป็นไรหรอก" กษัตริย์เฮลด้าปลอบ

"ก็ข้ารู้สึกเอาเปรียบอย่างไรชอบกล งานคนอื่นไม่ได้ไป แต่ทีงานข้าทุกคนมากันอย่างพร้อมเพรียงขนาดนี้" ราชินีสาวบ่น

"ไว้วันหลังเจ้าค่อยพาลูกสาวไปเที่ยวฝั่งเอเดนบ้างก็ได้นี่" กษัตริย์เฮลด้าแนะนำ

"จริงด้วยเพคะ งั้นน้องจองไว้เลย ถ้าไปอเมซอนท่านพี่อย่างลืมพาน้องเที่ยวนะเพคะ" อลิเซียอ้อนทันที

แสงไฟในงานดับมืดในทันที ตามด้วยเสียงของการต่อสู้ เมื่อแสงไฟปรากฏขึ้น ร่างของราชินีจมกองเลือดอยู่ ร่างของเจ้าหญิงน้อยหายไปอย่างไร้ร่องรอย

"อลิเซีย ไม่นะ" กษัตริย์เฮลด้าเรียกน้องสาวสุดที่รัก

กษัตริย์ทั้งสี่รีบเข้ามาดู ทหารจับผู้บุกรุกได้เป็นพวกทหารรับจ้าง เมื่อซักก็ไม่ได้ให้การซัดทอดถึงผู้ว่าจ้างได้

"ใครกันเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง" เอวิเดสพึมพำเสียงเครียด ไอมารมืดดำและหดหู่ลอยครุ้งไปทั่วบริเวณ

"เป็นความผิดของข้า ทั้งที่ข้าอยู่ใกล้นางที่สุด แต่ก็ไม่อาจปกป้องนางได้" กษัตริย์เฮลด้าบอกอย่างเสียใจ

"ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอก เป็นความไร้สามารถของเรามากกว่าที่ไม่อาจปกป้องราชินีได้"เอวิเดสบอก

"ไม่ใช่ความผิดของใครหรอก พวกมันลงมือตอนเผลอนะ" สามสิงห์แห่งเอเดนพร้อมใจกันบอกพร้อมกัน

งานเลี้ยงจบลงด้วยความเศร้า เพราะต่อด้วยงานพระศพของราชินีแห่งเดมอสแทน
เหล่ากษัตริย์รับปากจะช่วยสืบหาเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งเดมอสให้

หลายปีผ่านไป

ในเกวียนน้อยมีเสียงรุกฆาตดังมาเป็นระยะ สลับกับเสียงขอเริ่มใหม่อีกตาอยู่เรื่อยๆ

"พ่อ นี่เราจะไปไหนต่อดี" ลูกชายตัวดีผมสีน้ำตาลยาวปะบ่า ดวงตาสีน้ำตาลส่อแววซุกซนเจ้าเล่ห์ถาม

"ก็ท่องเที่ยว ฝึกฝีมือขโมยไปทั่วเอเดนนะสิ"ผู้เป็นพ่อ ฉายา มาดัสเดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอสบอกบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน

"ทำไมเราไม่ไปอาละวาดแถวเดมอสบ้างล่ะพ่อ" ลูกชายตัวดีเจ้าของนาน เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟออฟบารามอสเช่นกันถามอย่างคึกคะนอง

"ไม่สนุกหรอก ข้าเคยไปมาแล้ว ที่นั่นกฏเคร่งครัดกว่าทางเอเดน ไม่เหมาะกับนิสัยข้าไม่สนุกโว้ย" มาดัสบอกปัดทันที

"โธ่น่าเสียดาย" เฟรินบ่น เขาเคยไปแต่ในฝันเวลาท่านพ่อปีศาจมาสอนวิชาในความฝัน แต่ไม่เคยได้ไปเหยียบจริงๆสักที เพราะพ่อมาดัสไม่ชอบที่ต้องอยู่ตามกฏ

"อย่าบ่นนักเลยเอาเป็นว่าในเอเดนตรงไหนที่แกยังไม่เคยไปบ้าง ข้าจะพาไปก็แล้วกัน" มาดัสยอมตามใจไอ้ตัวดี

"งั้นไปงานฉลองของเจมิไนก่อน ต่อด้วยเวนอล คาโนวาล บารามอส กิลดิเรก และลงเกาะทางใต้ ก่อนวกขึ้นเหนือไปโรมัน ฟรานส์ ไนล์ เอเธนส์ ทริสทอร์ ออกซาเรสจบที่สโนวแลนด์แล้วกันฮะ"เจ้าตัวดีวางแผนเที่ยวทั้งเอเดนอย่างสนุกสนาน

"อ้าวไม่แวะอเมซอนด้วยเหรอ"บิดาถามอย่างสงสัย

"ไม่เอาหรอกผมไม่ชอบเมืองผู้หญิงบ้าเลือดเท่าไร" เฟรินปฏิเสธด้วยเหตุผลบ็องๆ

"เออ ถ้าเที่ยวทั่วเอ็งคงอายุสิบห้าพอดีเข้าโรงเรียนได้" มาดัสบอก

"พ่อจะให้หัวขโมยเข้าโรงเรียนพระราชาเหรอฮะ ทำไมไม่ส่งเข้าโรงเรียนหัวขโมยล่ะฮะ" "เฟรินยังกวนไม่เลิก

"ถ้ามีโรงเรียนนั่นข้าก็ส่งแกไปแล้ว" มาดัสบอก

"อย่าบอกว่าพ่อก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้เหมือนกัน" เฟรินถามอย่างสงสัย

"เออ ไม่งั้นข้าจะเป็นเพื่อนกับตาเอ็งได้ยังไงฟะ"มาดัสย้อนถาม

"โอ หัวขโมยก็เรียนคู่กับพระราชาได้ เรียกลมได้ลมเรียนฝนได้ฝนเลยนะนี่" เฟรินร้องวลีติดปากของพ่ออย่างล้อเลียน

"เออเรียกแต่ละทีมีแต่งานยุ่งให้ข้าต้องเหนื่อยต่างหาก จำไว้ถ้าไม่อยากเหนื่อยฟรี อย่ามีเพื่อนให้มาก มันทำให้ยุ่งโว้ย"มาดัสบอกหลังขันติที่อดทนมาตั้งแต่ประโยคแรกยังเริ่มหร่อยหรอ

"แต่พ่อก็ไม่เคยปฏิเสธเพื่อนเลยนี่ครับ ดูพ่อสนุกออก" เจ้าตัวดีถามอย่างสงสัย

"ไว้ถึงคราวของเอ็งเดียวก็รู้เอง" มาดัสบอกพลางส่ายหัวอย่างปลงๆ

ในตอนกลางวันเฟรินอยู่ฝึกสารพัดวิชาก้นกรุของตระกูลเดอเบอโรว์ กลางคืนก็ออกแสดงฝีมือ ตอนนอนหลับ พ่อปีศาจก็จะมาสอนทั้งเวทมนต์และเพลงดาบให้เขาในฝัน บอกไว้ป้องกันตัวในอนาคตแต่เก็บใส่ฝักไว้ก่อนไว้ใช้เวลาจำเป็นจริงๆเท่านั้น
พ่อมาดัสก็คมในฝักเหมือนกัน เพลงดาบแห่งบารามอสก็ไม่แพ้ใครทีเดียว ไม่งั้นคงไม่พาเขาหลบหนีออกมาจากเดมอสอย่างปลอดภัย ต้องขอบคุณท่านตา ท่านพ่อเอวิเดสที่ออกแผนหลอกคนอื่นให้คิดว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิงมาตั้งแต่แรกทำให้ไม่มีใครสงสัยเด็กผู้ชายหัวขโมย

เขาเลยอยู่อย่างปลอดภัยมาตลอด แถมยังมีอิสระเที่ยวได้ทั่วเอเดนซะอีก