คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : กำเนิดเจ้าแห่งศาสตร์มืด
บทนำ
เมื่อทอม ริดเดิ้ลเรียนจนจากฮอกวอตส์ ได้เข้าทำงานที่ร้านบอร์เจ็นและเบริ์กส์ และเป็นคนโปรดของคุณป้ามหาภัย เฮปซิบาห์ เศรษฐีนีสาวใหญ่ที่มีสมบัติมากมาย
วันนี้ก็อีกเช่นกันที่เขาถูกเรียกไปดูของถึงบ้าน ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนที่ต้องมาประจบเอาใจคุณป้า แต่เขาต้องทน ดัมเบิลดอร์สัญญากับเขาว่าถ้าเขาออกไปหาประสบการณ์สักสองสามปีแล้วค่อยกลับไปเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนได้ เพราะฮอกวอตส์เป็นที่ที่เขาชอบที่สุด
เขามีความสุขที่ได้อยู่ที่ฮอกวอตส์
"เชิญเจ้าค่ะ เป็นเจ้านายรออยู่ในห้องนั่งเล่นเจ้าค่ะ"
เสียงเอลฟ์รับใช้ดังขึ้นก่อนเดินนำชายหนุ่มรูปหล่อที่นายเจ้าหล่อนชอบไปพบตามที่สั่ง
"รออยู่นายเลยทอม นั่งสิ"
หญิงวัยกลางคนร่างอ้วนขยับที่นั่งบนโซฟายาวให้ชายหนุ่มรูปงามนั่งเคียงข้างนาง
ทอมกวาดสายตาดูเก้าอี้อื่นก็เห็นมีของวางเต็มไปหมดทำให้เขาไม่สามารถนั่งได้ เลยจำใจต้องนั่งเคียงข้างเศรษฐีนีสาวใหญ่ อย่างไม่มีทางเลี่ยง
"พอดีผมติดงานเลยมาช้านะครับ แล้วไหนของที่ว่า อยากให้ผมดูเป็นพิเศษครับ" ชายหนุ่มรีบเข้าเรื่อง เขาอยากรีบกลับไปพักผ่อน
"แหมอย่างพึ่งใจร้อนสิจ๊ะ ดื่มน้ำชากันก่อน" มาดามสมิธบอกให้โฮกี้ เอลฟ์รับใช้เสริฟชาให้ชายหนุ่ม
ทอมดื่มน้ำชาตามมารยาท เฮปซิบาห์ก็ให้โฮกี้นำเอาสมบัติพิเศษออกมาให้ดู ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟ ทอมดูตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะคิดว่าเจ้านายของเขาต้องสนใจมันมาก แต่มาดามสมิธบอกว่าไม่ขายนางแค่นำมาให้เขาชมเป็นกรณีพิเศษ
ทอมรู้สึกง่วง และหลับไปอย่างไม่รู้สึกตัว
ยามเช้าในห้องนอนของเจ้าของคฤหาสถ์สมิธ
ชายหนุ่มในร่างเปลือยเปล่า ถูกโอบกอดจากหญิงสาวใหญ่ ทอมไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาแต่งงานกับเฮปซิบาห์อย่างจำใจ
หนึ่งปีต่อมาพวกเขาได้ให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคน ในกลางดึกพวกเขาถูกจู่โจมด้วยชายในชุดคลุมสีดำ นางเฮปซิบาห์ถูกฆ่าตาย สามีหนุ่มและลูกสาวหายสาบสูญ
พวกชายในชุดดำหายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกญาติๆต่างมาแจ้งความจำนงในมรดกของตระกูลสมิธ แต่ไม่สามารถหากุญแจตู้นิรภัยประจำตระกูลได้ จึงปรักปรัมว่าเป็นฝีมือของทอม เป็นผู้บงการและเอาสมบัติไป
ในป่าแห่งหนึ่ง
"เธอจะออกเดินทางหรือ" เสียงชายสูงวัยเปี่ยมเมตตาถาม
"ครับ ผมคงต้องขอฝากเด็กคนนี้ไว้ด้วย เมื่อเขาพร้อมท่านช่วยมอบกุญแจนี้ให้กับเขาด้วย" เสียงชายอ่อนวัยกล่าว
"เธอจะเดินทางไปไหนบ้าง" เสียงแรกถามต่อ
"ผมอยากเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะแต่มารยาหญิงผมยังเอาตัวไม่รอด แถมยังความโลภของผู้คนที่แค่หวังสมบัติถึงกับเอาชีวิตกันมันทำให้ผมเบื่อผู้คน ผมอยากเก่งขึ้นกว่านี้ เชี่ยวชาญในศาสตร์มืดจนไม่มีใครเอาชนะได้ แต่การนำเด็กคนนี้ไปด้วยจะเป็นอันตรายได้" เสียงที่สองบอกต่อ
"ฉันจะดูแลเด็กคนนี้ให้เอง ไม่ต้องห่วง" เสียงแรกบอก
"ขอบคุณมากครับ"เสียงที่สองบอกก่อนจูบลาเด็กหญิงในอ้อมแขน แล้วหายไป
ชายสูงวัยนำเด็กทารกหญิงไปทิ้งไว้หน้าบ้านสามีภรรยามักเกิ้ลคู่หนึ่งที่มีลูกสาวแล้วหนึ่งคน ทั้งสองรักเด็กหญิงคนนี้มาก ตั้งชื่อเธอว่า ลี่ลี่
สิบปีหลังจากนั้นโลกก็ได้รู้จักพ่อมดผู้เก่งกาจในศาสตร์มืด นามลอร์ดโวลเดอมอร์ ผู้ที่ไม่เคยมีใครสามารถเอาชนะได้ ทำให้มีผู้เลื่อมใสมากมาย โดยเฉพาะพวกพ่อมดแม่มดสายเลือดบริสุทธิ์
สงครามความคิดของพวกพ่อมดแม่มดเกิดขึ้นและลุกลาม บางพวกได้อ้างชื่อเจ้าแห่งศาสตร์มืดและก่อความเดือดร้อนในนามผู้เสพความตาย แต่เจ้าแห่งศาสตร์มืดตัวจริงไม่เคยปรากฏตัวร่วมกับผู้เสพความตาย เขาชอบทำงานคนเดียวและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เขาจะตอบโต้เฉพาะเมื่อมีคนมาท้าทายเท่านั้น
แต่ชื่อเสียงที่โด่งดังทำให้มีคนปรารถนาที่จะล้มเขามากมาย
ในวันเกิดครบสิบเอ็ดปี ลี่ลี่ เอฟเวนส์ ได้รับจดหมายเชิญให้ไปเรียนที่ฮอกวอตส์ ทำให้พ่อ แม่ของเธอตื่นเต้นมาก ยกเว้นก็แต่พี่สาวที่ไม่ชอบ
เธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนและได้พบรักกับหัวโจกประจำโรงเรียน เจมส์ พอตเตอร์ ความรักของพวกเขาได้รับการกล่าวขาน เพราะสาวงามกับหนุ่มตัวยุ่งของโรงเรียนเป็นคนดังทั้งคู่
ทั้งสองแต่งงานกันหลังเรียนจบ เจมส์ได้รู้ความลับที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เปิดเผยในวันแต่งงานของพวกเขาว่า ลี่ลี่ ไม่ได้เป็นมักเกิ้ล แต่เป็นสายเลือดพ่อมดแม่มดตระกูลเก่าแก่ถึงสองตระกูล
ดัมเบิลดอร์ ได้มอบกุญแจมรดกให้ลี่ลี่ บอกว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานของเธอจากพ่อของเธอ
ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีลูกชายหน้าตาน่ารักเหมือนลี่ลี่ ดวงตาสีเขียวเหมือนแม่ และผมสีดำสนิทเหมือนพ่อ พวกเขาตั้งชื่อลูกว่า แฮรี่
เด็กชายเติบโตมาท่ามกลางความรักของพ่อแม่ และพ่อทูนหัวซิเลียส แบล็ก
ในปีที่สิบเอ็ดของแฮรี่เขาได้รับจดหมายเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ เช่นกัน ทั้งเจมส์และลี่ลี่ดีใจมาก เจมส์ให้ผ้าคลุมล่องหนและแผนที่ตัวกวนเป็นของขวัญเด็กชาย
"เอาไว้หาประสบการณ์ในโรงเรียนนะแฮรี่" เจมส์บอกลูกชายเสียงใส
"คุณก็ อย่าไปสอนลูกผิดๆสิ"ลี่ลี่เอ็ดสามี
"ขอบคุณครับผมจะใช้อย่างระมัดระวัง" แฮรี่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
วันรุ่งขึ้นพวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกก็ไปตรอกไดแอนกอน เพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียน
"ไปร้านตัดเสื้อกันก่อนแล้วกัน"ลี่ลี่ บอกลูกชาย ก่อนจูงมือเด็กชายไปทางร้านมาดามมักกิ้นทันที
ส่วนเจมส์แยกไปร้านหนังสือ อุปกรณ์ปรุงยา และสัตว์วิเศษ เพื่อประหยัดเวลา ก่อนนัดเจอกันที่ร้านขายไม้กายสิทธิ์
"ขอชุดนักเรียนปีหนึ่งให้เด็กคนนี้ด้วยค่ะ" ลี่ลี่บอก
มาดามหันมามองเด็กชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ก่อนเข้ามาวัดตัวแฮรี่ แล้วนำเสื้อผ้ามาให้เด็กชาย
"เดี๋ยวห้องลองชุดว่างแล้วหนูเข้าไปลองดูก่อนนะ ถ้าไม่พอดีจะได้แก้ไข" มาดามบอกแฮรี่อย่างเอ็นดู
แฮรี่เดินจะเข้าไปลองชุดเมื่อเห็นคนข้างในกำลังจะออกมา เด็กชายเดินสวนกับเด็กหนุ่มผมสีทอง ก่อนชนกันอย่างจัง
"เดินไม่ดูทางหรือไง" เสียงตวาดดังมาจากเด็กหนุ่มร่างสูงกว่า ก่อนก้มมองดูร่างเด็กชายผมสีดำที่นั่งอยู่ที่พื้น
"ใครกันแน่ที่เดินไม่ดูทาง ชนคนอื่นแล้วยังไม่ขอโทษอีก" แฮรี่บอกอย่างไม่ยอมแพ้ ดวงตาสองคู่สบกันอย่างไม่สบอารมณ์
"อ้าวเกิดอะไรขึ้นค่ะคุณชายมัลฟอย" มาดามรีบมาห้ามเพราะกลัวเด็กๆจะทะเลาะกัน ก่อนรุนหลังแฮรี่ให้เข้าไปลองชุด
หลังออกจากร้านตัดเสื้อ ลี่ลี่ก็พาลูกชายไปร้านขายไม้กายสิทธิ์ของคุณโอลิแวนเดอร์ ชายชราท่าทางใจดี มองมาที่เด็กชาย
"นานมากแล้วเมื่อตอนที่ฉันขายไม้กายสิทธิ์ให้พ่อแม่ของเธอ มันราวกับพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน" ชายชรารำพึงก่อนเลือกไม้ให้เด็กชาย ไม้จำนวนมากยังไม่มีสักอันที่เหมาะกับเด็กชาย
"ไม้เท้าเป็นผู้เลือกพ่อมด" ชายชราบอก ก่อนเดินไปหยิบไม้กายสิทธิ์อันหนึ่งมาให้แฮรี่
"ลองดูอันนี้แล้วกัน" ชายชรายื่นไม้กายสิทธิ์ให้เด็กชาย
แฮรี่รับไม้มาก็บังเกิดแสงสีสวยงามเกิดขึ้น
"แปลก แปลกมาก" ชายชรารำพึง
"แปลกยังไงหรือครับ" แฮรี่ถามอย่างสงสัย
"ฉันจำไม้ที่ฉันขายได้ทุกอัน ไม้ที่มีขนหางของนกฟินิกส์ นกฟินิกส์ได้ให้ขนหางกับฉันสองอัน อันหนึ่งเป็นไม้ของเจ้าแห่งศาสตร์มืดผู้โด่งดัง แต่น้องของมันกลับเลือกเธอ เราคงคาดหวังความยิ่งใหญ่ได้จากเธอ" ชายชราบอก
แฮรี่ขอบคุณชายชราที่ช่วยเขาเลือกไม้ ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินทางกลับบ้าน
ที่บ้านหลังแฮรี่นอนหลับไปแล้ว
เตาผิงของบ้านได้ต้อนรับแขกผู้ยิ่งใหญ่
"แฮรี่ได้ไม้จากขนนกฟินิกส์เหรอ สมเป็นหลานฉันจริงๆ " โวลเดอมอร์บอกกับลูกสาวอย่างชื่นชม
"แหมคุณพ่อก็ แล้วช่วงนี้คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างค่ะ" ลี่ลี่ถามบิดา
ซึ่งหลังจากรู้ความจริงจากศ.ดัมเบิลดอร์แล้วทั้งสองก็ได้พบกันบ่อยๆ โดยปิดเรื่องทั้งหมดเป็นความลับ รู้กันแค่ลี่ลี่ เจมส์และโวลเดอมอร์เท่านั้น เพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีมาทำร้ายพวกเขา
"พ่อก็ได้งานสอนเป็นอาจารย์สอนการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่ฮอกวอตส์ปีนี้นะสิ" โวลเดอมอร์บอก
"คุณพ่อใช้ชื่อว่าอะไรนะครับ" เจมส์ถามขึ้นอย่างสงสัย ว่าพ่อตาเขาคงไม่ได้ใช้ชื่อจริง
"ยังไม่ได้คิดเลย แต่คงไม่ปรึกษาดัมเบิลดอร์แน่ เพราะคงได้แต่ชื่อติงต๊อง"โวลเดอมอร์บอก
ทั้งสามจึงระดมความคิดกันว่าชื่ออะไรดีที่สุด
ในวันเปิดเทอม พวกพ่อแม่ไปส่งเด็กๆขึ้นรถด่วนสายฮอกวอตส์
"ไปถึงแล้วอย่าลืมเขียนจดหมายมาบอกแม่ด้วยนะลูก" ลี่ลี่กำชับบุตรชาย
แฮรี่รับคำอย่างนึกปลงในใจ พ่อกับแม่เขาทะเลาะกันเรื่องบ้านที่จะได้อยู่ พ่ออยากให้เขาอยู่กริฟฟินดอร์ ส่วนแม่อยากให้เขาอยู่เรเวนคลอ แหมถ้าเขาหลุดไปสลิธีริน สงสัยพ่อแม่เป็นลมแน่เลย
เด็กหนุ่มขึ้นไปนั่งบนรถไฟก่อนโบกมือมาจากหน้าต่างให้พ่อแม่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องออกจากบ้าน เด็กหนุ่มรู้สึกกลัวและเหงา แต่ที่โรงเรียนเขาคงหาเพื่อนได้ และอาจสนุกเหมือนสมัยพ่อแม่เรียนอยู่ก็ได้
"ตรงนี้ว่างไหม ห้องอื่นเต็มหมดแล้ว" เด็กหนุ่มผมสีแดงถาม
"ว่างเชิญสิ ฉันแฮรี่ พอตเตอร์ นายล่ะ" แฮรี่แนะนำตัวกับเพื่อนใหม่
"ฉันรอน วิสลีย์ ยินดีที่ได้รู้จัก" รอนกล่าวอย่างรู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มหน้าหวาน
ทั้งสองพูดคุยกันสักพัก ก่อนประตูห้องจะถูกเปิด คราวนี้ผู้เปิดเป็นเด็กสาวผมสีน้ำตาลหยิกฟู
"ฉันเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก" เด็กสาวแนะนำตัว ก่อนทำความรู้จักเพื่อนใหม่ เธอเป็นมักเกิ้ล
รถไฟจอดสถานีฮอกวอตส์ เด็กปีหนึ่งถูกต้อนไปลงเรือ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับพวกเด็กๆเป็นอย่างมาก
พิธีคัดสรรถูกจัดขึ้นที่โถงกลาง
หมวกคัดสรรพูดได้ เป็นผู้เลือก
แฮรี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์ และไอ้เด็กหัวทองไม่มีมารยาทนั่นได้อยู่บ้านสลิธีริน แต่อย่างน้อยเพื่อนที่เขาถูกใจก็ได้อยู่บ้านเดียวกัน แถมไม่ต้องรำคาญคนบ้าด้วยดีจัง แต่แม่คงไม่ชอบเท่าไรที่เขาไม่ได้อยู่บ้านเรเวนคลอ
อาจารย์ใหญ่ผมสีขาว เคราสีขาว หน้าตาใจดี ลุกขึ้นกล่าวต้อนรับ นักเรียนและอาจารย์สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่
ซัลลา สลาเธเรน
ชายผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีเขียวสด หน้าตาดูเงียบขรึม
หลังกลับหอนอนแฮรี่ได้เขียนจดหมายเล่าเรื่องราวให้พ่อแม่รับทราบ ก่อนจะเริ่มเรียนในวันพรุ่งนี้
ความคิดเห็น