คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : วิวาห์รักจัดผิดคู่ 9
ภาคินกำลังโกรธ เมื่อถูกหญิงสาวย้อนกลับคำพูดของเขา และเมื่อกันญิกาเห็นดวงตาที่ลุกเรืองของเขาที่แสดงออกถึงความโมโห ทำเอาเธอถอยหลังซะดื้อ ๆ
จนเมื่อต้นแขนถูกมือใหญ่นั้นคว้าไว้ และบีบอย่างแรง ภาคินก็ก้มลงมาหาเธออย่างรวดเร็ว กันญิกาตกใจ ดิ้น แต่ว่าภาคินรั้งเธอไว้แน่นซะเหลือเกิน
“ปล่อยนะ ถ้าคุณไม่ปล่อย ฉันจะร้องให้คนช่วย”
“ร้องได้ก็ร้องสิ”
พอพูดจบ ริมฝีปากของเขาบดลงมา บนริมฝีปากนุ่มของหญิงสาวแบบหนัก ๆ
อุ๊ย...
อุ๊ยตายแล้ว...
เสียงอุทานสองสามเสียง ทำให้ภาคินหยุดการกระทำลงทันที หน้าของกันญิกาแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้ามุดดินได้ เธอคงทำไปแล้ว หญิงสาวรีบวิ่งออกจากตึกแถวทันที
ภาคินรีบขับรถตามออกไป ทันเห็นหญิงสาวโบกแท๊กซี่คันหนึ่ง พอกันญิกาขึ้นมานั่งบนรถก็สั่งให้โชเฟอร์ขับรถหนีให้ไกลจากรถของภาคิน
“รถคันนั้นหายไปแล้วครับ คุณ”
โชเฟอร์บอก
“ค่ะ”
กันญิกาขานตอบ
...เอี๊ยด...
เสียงรถเบรคดังลั่น เมื่อมีรถปาดหน้ารถแท๊กซี่คันที่กันญิกานั่ง โชเฟอร์ขอลงไปเคลีย ส่วนหญิงสาวก็นั่งรออยู่บนรถ และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“ขอโทษทีนะครับ ที่ผมต้องปาดหน้าพี่ คือว่าคนในรถคือภรรยาผมครับ เธองอนผมอยู่”
ภาคินบอก
“อ้าว...หรอครับ”
“คือว่านี่ครับ ค่าเสียเวลา ค่าตกใจ ของพี่”
ภาคินส่งเงินให้โชเฟอร์รถแท๊กซี่สองพันบาท และเดินมาทางประตูรถด้านที่หญิงสาวนั่งอยู่
“คุณ...”
“ลงมา...แล้วอย่าโวยวาย ไม่งั้นเธอเจอดีแน่ ๆ”
ชายหนุ่มกระชากหญิงสาวให้ออกจากรถแท๊กซี่ กึ่งดึงกึ่งกระชากให้เธอไปที่รถเขา และขับออกไปทันที
.........................................................................................
“จอดรถเดี๋ยวนี้นะ...คุณภาคิน”
“........”
“ถ้าไม่จอดฉันจะโดดลงไป”
“มีปัญญาก็เชิญ”
ภาคินบอก ทำให้หญิงสาวหันหาประตูแล้วพยายามที่จะผลักให้เปิด แต่ก็เปิดไม่ออก เพราะเขาก็ล็อคประตูไว้ทุกด้านแล้ว
“จะไปไหนบอกมาสิ ฉันจะได้ไปส่งให้”
เขาพูดเหมือนยั่ว แม้เวลานี้ไม่ควรพูดก็ตามที
“กลับบ้าน...”
“บ้านไหน เธอหรือฉัน หรือไปที่บ้านนายนั้น พี่อรรถของน้องนี”
“พี่อรรถไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะ”
“ทำไมว่าไม่ได้ หลงเสียจริงนะ”
“จะดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะ...อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจำเป็นต้องมีนิสัย ความคิด เหมือน...คุณหมดสิ”
“เหมือนใคร”
“ไม่จำเป็นต้องพูดนี่ค่ะ ความคิดคุณยังไงล่ะ มันก็คงไม่ต่างจากที่ฉันพูด”
“ดี...นี่ล่ะคือความคิดของฉัน”
กันญิกาถึงกับเบิกตากว้าง เธอนั่งตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป เมื่อภาคินเลี้ยวรถเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งและเข้าจอดรถในช่องเล็ก ๆ เขาก้าวลงจากรถ แล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูด้านหญิงสาว พร้อมรั้งแขนให้เธอลงมาจากรถ
หญิงสาวพยายามดิ้นรนให้เขาปล่อยเธอ แต่เขาก็รั้งร่างเธอ และอุ้มขึ้นวงแขนและเข้าไปในห้อง
ปล่อยเธอลงบนเตียงและเดินไปปิดล็อคประตูห้องอย่างใจเย็น กันญิกาวิ่งไปที่ประตูก็ถูกเขาผลักจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้นห้อง
....โอ๊ย...
“คุณ ทำแบบนี้ทำไมกัน ไม่ให้เกียรติกันเลย คุณเห็นฉันเป็นอะไร”
“ก็ผู้หญิงไง และฉันก็จะยืนยันให้เธอรู้ความคิดของฉันว่ามีต่อผู้หญิงที่ฉันต้องการยังไง และต่อไปเธอต้องจำไว้ว่า เธอไม่สมควรจะยุ่งกับใครน่าไหนทั้งนั้น...”
ภาคินพูดพร้อมกับถอดเสื้อนอกออก แล้วโยนไปที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องนั้นก่อนจะก้าวหาหญิงสาว ที่ล้มอยู่ที่พื้น และกำลังถอยหนีอย่างรนราน เขาเข้ามากระชากข้อมือของหญิงสาวอย่างแรง กันญิกาเจ็บจนน้ำตาแทบจะไหล เธออยากจะสงบไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
....โอ๊ย...
เขาช้อนร่างของเธอขึ้นมาอุ้มโดยง่าย
“ปล่อยนะ...”
กันญิกาดิ้นรน หญิงสาวพยายามผลักไส ทุบที่อกของเขา
“ถ้าเธอไม่หยุดทุบฉัน และทำร้ายให้ฉันเจ็บมากกว่านี้ล่ะก็ เธอเจ็บตัวแน่ กันญิกา”
ภาคินขู่
“คุณภาคิน...ฉันขอร้องอย่าทำแบบนี พาฉันกลับบ้านเถอะนะ”
หญิงสาวอ้อนวอน
“ก็ได้....”
ภาคินบอก เขาวางเธอลงพากันญิกาทรงตัวยืนได้ หญิงสาวทำท่าจะวิ่งหนี แต่ก็ถูกภาคินตะครุบไว้ และเหวี่ยงเธอไปที่เตียงแล้วโถมทับเธอไว้ทันที
ริมฝีปากร้อนของเขา
ทาบทับริมฝีปากบางของเธอทันที ก่อนจะบดขยี้อย่างแรง กันญิกาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย เพราะมือทั้งสองข้างก็ถูกภาคินตรึงเอาไว้เหนือหัว
“ช่วยด้วย...ช่วย....”
หญิงสาวพยายามส่งเสียงร้อง
ภาคินใช้มืออีกข้างจัดการกับเสื้อของกันญิกา และโยนไปรวมกับเสื้อนอกของเขา
ตอนนี้ร่างของภาคินท่อนบนไร้เสื้อสวมใส่แต่กันญิกายังมียกทรงตัวสวยสวมใส่อยู่ ภาคินใช้แผงอกแข็งแรงบดเบียดร่างบางอย่างจงใจ
“ปล่อยฉันนะ...”
กันญิการ้องเมื่อภาคินเริ่มเปลี่ยนจุดสนใจจากใบหน้า เป็นซอกคอขาว และเลื่อนมาเป็นหน้าอกของเธอ เขาใช้จมูกฟอนเฟ้นอกอวบ ๆ ซ้อนรูปของกันญิกา เขาซุกไซ้อย่างพอใจก็เลื่อนกับไปที่ซอกคอตามเดิมและใช้มือบีบคลึงอกทั้งสองข้างของหญิงสาวสลับไปมาอย่างหนำใจ
“ปอ...ปล่อย...นะ
ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ”
ภาคินรู้สึกรำคาญที่หญิงสาวร้องไห้จึงใช้มือปิดปากเธอไว้ และยังคงให้ความสนใจกับลำตัวขาวเนียนของหญิงสาวต่อ กันญิกาดิ้นรนจนหมดกำลัง
ภาคินจ้องหน้าหญิงสาว ที่ตอนนี้ผมยาวสลวยกับยุ่งเหยิง ใบหน้าสดใสที่มีแต่รอยยิ้มกับมีแต่คราบน้ำตา และยังคงรินไหลอาบแก้ม เขาตัดสินใจปล่อยมือของเธอ และขยับออกจากลำตัวของเธอ ก่อนจะลุกไปนั่งตรงขอบเตียง โดยหันหลังให้
“ใส่เสื้อซะ...จะพากลับบ้าน”
เขาบอก
กันญิกาดึงผ้าห่มคลุมกายท่อนบน ก่อนจะหยิบเสื้อของเธอแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป
ตลอดทางกลับบ้านกันญิกานั่งเงียบเธอไม่กล้าที่จะพูดจะมองภาคินเลย เวรกรรมอะไรถึงได้เป้นอย่างนี้ คนเห็นแก่ตัว เธอไม่เคยทำอะไรเขาเลย แต่เพราะสิ่งใดที่ทำให้เธอต้องมาเจอกับผู้ชายคนนี้ด้วย-
“หนูนี...”
คุณหญิงภควรรณเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นหลานเดินเข้ามาในบ้าน
“คุณน้า”
“กลับมาแล้วหรอลูก เป็นไง ร้านที่ไปดูถูกใจไหม”
กันญิกาพยับหน้าน้อย ๆ ก่อนตอบว่า
“ค่ะ...”
“นี่ตาคิน...ร้านที่ไปดูเข้าท่าไหมลูก”
“ครับ ดีมาก”
ภาคินย้ำ คำว่าดีมากจนกันญิการู้สึกกลัว และสั่นเอาซะดื้อ ๆ
“นี เป็นอะไรลูกทำไมอยู่ดี ๆ สั่นแบบนี้ ไม่สบายหรือป่าวลูก หน้าซีด ๆ ตาคินอากาศร้อนหรือไงหรือว่าพาน้องไปเที่ยวไหนมาทำไมน้องดูเหมือนไม่ค่อยสบาย”
“คุณน้าค่ะ นีขออนุญาตขึ้นข้างบนนะค่ะ....”
หญิงสาวไหว้และรีบลุกวิ่งขึ้นห้อง เธอล็อกประตูทันที ก่อนจะล้มตัวลงนอนน้ำตาไหลออกมาอย่างพรั่งพรู เขาจะรู้ไหมว่าเขาหยามศักดิ์ศรีของเธอ และกำลังทำตราบาปไว้ให้กับชีวิตของเธอ
ภาคินเดินกลับขึ้นมาบนห้อง พลางนึกไปถึงกันญิกา ป่านนี้ไม่ร้องไห้ น้ำตาท่วมห้องไปแล้วหรอ ทำอะไรทำไมไม่คิดก่อนว่ะไอ้คิน แกมันบ้าจริง ๆ เลย แล้วเราไปทำแบบนั้นกับยายจืดชืดนั้นได้ยังไงว่ะ โอ้ย...ยังไงดีว่ะเนี่ย-
ภาคินด่าตัวเอง
ส่วนกันญิกาเอง หญิงสาวก็คงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่นอน
กันญิกาตื่นแต่เช้าตามปกติ เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเรียบง่าย สีสันดูอ่อนหวานแบบสบาย ๆ แต่ค่อนข้างมิดชิดตามสไตล์ของเธอ แต่สิ่งหนึ่งทีไม่เหมือนทุกวันคือใบหน้าของหญิงสาวที่ดูจะไม่สดใสนัก เธอนั่งมองดูตัวเองอยู่หน้ากระจกอยู่นาน
วันนี้สำหรับกันญิกา สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ความมั่นใจในตัวเอง ยิ่งนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอก็ยิ่งรู้สึกอยากจะร้องไห้
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“นี...ตื่นหรือยัง”
ชญานิษฐ์เอ่ยถามน้องสาว
กันญิกาผ่อนลมหายใจยาว ๆ ดังออกมาเบา ๆ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งมาเปิดประตูให้พี่สาว
“เป็นไรหรือเปล่า น่าซีด ๆ ไม่ได้นอนหรอ หรือว่าไม่สบาย”
“ไม่ได้เป็นอะไรนี่ค่ะ พี่นิษฐ์”
“อ๋อ...จ๊ะ งั้นลงไปข้างล่างกัน จะได้ทานข้าวเช้า เดี๋ยว...จะได้ไปจัดการเรื่องร้านให้เรียบร้อย”
“ค่ะ”
ชญานิษฐ์พูดกับกันญิกาอย่างยิ้มแย้มสบายใจที่อย่างน้อยตอนนี้เธอกำลังจะจัดงานของน้องสำเร็จเสียที ส่วนกันญิกาไม่กล้าจะพูดอะไรมาก เพราะกลัวว่าจะหลุดร้องไห้ให้พี่สาวสงสัยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับเธอ
สองสาวเดินย่างก้าวเข้ามาในห้องอาหารด้วยกันและที่โต๊ะอาหารนั้นมีคุณหญิงภควรรณ ภากร และภาคินนั่งอยู่ก่อนแล้ว
กันญิกาไม่มองหน้าภาคินแม้แต่น้อย ผิดกับภาคินที่มองกันญิกาไม่วางตา
“พี่นิษฐ์...”
กันญิกาเขย่าข้อมือพี่สาว
“มีอะไร...หรอนี”
“วันนี้...นีนั่งฝั่งพี่กรนะค่ะ พี่นิษฐ์นั่งตรงนี้นะค่ะ”
หญิงสาวจัดการเลื่อนเก้าอี้ให้พี่สาว แล้วตัวเองก็เดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ กับภากร
“ทำไมล่ะ...”
“นั่งเถอะค่ะ นะค่ะ”
“ตามใจ นั่งนี่ก็ได้”
ความคิดเห็น