คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : วิวาห์รักจัดผิดคู่ 7
ภากรขยับแว่นกรอบหรูที่ส่วมใส่อยู่ เพื่อให้ดูว่าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้ดูน่าเชื่อถือสองสามครั้ง เพื่อพิศดูภาพคนทั้งคู่
“คุณภากรครับ”
“ครับ...คุณอังเดร”
“ผมต้องขอตัวกลับก่อน...พอดีพึ่งนึกได้ว่าต้องไปธุระ”
“ครับ”
“นิษฐ์...ฉันไปรอที่รถนะ”
“อิ่มแล้วรีบเลยนะ เงินน่ะมีไหมที่จะช่วยกันออก”
“มีแต่ไม่ออก ก็เธอเลี้ยงไม่ใช่หรอ ตกลงฉันไปรอที่รถนะ รีบ ๆ เข้าจะได้ไปดูร้านให้น้องนี”
“เออ...”
หญิงสาวจัดการเช็คบิลค่าอาหารทั้งหมด ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะอาหารไปห้องน้ำ ภากรเดินตามเธอไป และยืนรอหญิงสาวอยู่สักพัก พอเธอเดินออกมา ก็พูดขึ้นว่า
“งาน...ออกแบบ ตกแต่งภายใน เขามีทีมงานแค่สองคนหรอ แล้วงานนี้อยู่ที่ร้านอาหารหรือครับ คุณชญานิษฐ์”
ชญานิษฐ์หันหลังกลับมามอง
“ฉันทำอะไร ที่ไหน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณซะหน่อยนี่ค่ะ คุณภากร”
“ก็จริง...แต่ก็ไม่ต้องทำตัวเองเป็นรีบร้อน งานยุ่ง ทำเป็นรีบมาทำงานแต่เช้าให้คนอื่นเขาเห็นนี่”
“ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายนี่ค่ะ คุณภากร และถ้าไม่พอใจ ก็เชิญคุณไปบอกคุณแม่คุณสิ ฉันอนุญาต”
ภากรไม่พูดต่อ แต่ย่างกายเข้ามาหาหญิงสาวที่ยืนจ้องมองเขาอยู่ ชายหนุ่มก้มหน้าเล็กน้อย แล้วดึงแขนหญิงสาวให้เข้ามาใกล้ตัวเขา ชญานิษฐ์รู้สึกตกใจ แต่เธอคิดว่า ชายหนุ่มไม่กล้าทำอะไรเธอแน่นอน อีกอย่างมีหรือว่าคนอย่างชญานิษฐ์จะกลัวใครง่าย ๆ ภากรจึงออกแรงบีบที่ต้นแขนของหญิงสาว
“โอ๊ย...นี่ฉันเจ็บนะ ปล่อย...”
เธอดูเขาเสียงดัง
“คุณจะทำอะไร กับใครผมไม่ว่า แต่อย่าพลาดจนทำให้แม่ผมต้องถูกแม่คุณต่อว่า ว่าดูแลลูกสาวของท่านไม่ดี”
“บ้า...คุณภาคิน ฉันพึ่งรู้ว่านี้เองว่าคุณเป็นคนที่คิดอะไรได้คับแคบมาก ๆ แล้วนี่...ปล่อยฉันนะ ถ้ายังกล้าล่วงเดิน แตะเนื้อต้องตัวฉันอีก คุณนั่งล่ะที่จะมีเรื่อง”
ชญานิษฐ์ว่า ภากรมองไปรอบ ๆ เขาปล่อยมือออกจากแขนของหญิงสาว พอดีกับอรรถวุฒิเดินกลับเข้ามา
“นิษฐ์ ทำอะไรอยู่ ฉันรอแกที่รถจะหลับแล้ว”
“เปล่า ฉันก็แค่มาเข้าห้องน้ำ”
“แล้ว...นี่ใคร!!!”
“คุณภากร ลูกชายคนโตของคุณหญิงภควรรณเพื่อนแม่ฉัน ฉันพักอยู่บ้านเขา”
ชญานิษฐ์แนะนำ
“สวัสดีครับ คุณภากร ผมอรรถวุฒินักออกแบบภายใน เพื่อนชญานิษฐ์ครับ”
“ครับ สวัสดีครับ”
“จะแนะนำกันอีกนานไหม เสียเวลา...”
หญิงสาวเดินตัดกลางวง แล้วเดินออกไปทันที
“ผมไปก่อนนะครับ คุณภากร ไอ้นิษฐ์มันขี้หงุดหงิด ผมขี้เกียจฟังมันบ่น”
“ครับ เชิญตามสบายครับคุณอรรถวุฒิ”
อรรถวุฒิรีบวิ่งตามเพื่อนสาวออกไป ทั้งให้ภากรยืนคิดอยู่คนเดียว เพื่อนกันหรอ...-
.........................................................................
กันญิกาเดินเลือกซื้อของใช้ส่วนตัว หลังจากที่หญิงสาวซื้อหนังสือที่ต้องการล้ว โดยมีภาคินเดินตามอยู่ห่าง ๆ
“นี่...คุณจะเลือกของอีกนานไหม”
ภาคินถาม
“พี่คิน...กลับบ้านไปก่อนก็ได้นี่ค่ะ นีกลับบ้านถูกค่ะแค่นี้เอง”
“ฉันจะกลับหรือไม่ มันก็เรื่องของฉัน”
“นีต้องเลือกของอีกนานนะค่ะ...พี่คินจะกลับไปก่อนก็ได้ เสียเวลางาน”
“เธอ...”
“นี...ไม่อยากรบกวนพี่คินมาก ถ้าพี่คินมีธุระก็เชิญค่ะ”
“เลือกของเธอไป ฉันจะกลับหรือไม่ก็เรื่องของฉัน”
สักพักหญิงสาวเดินไปยังเคาร์เตอร์ชำระเงิน เธอหยิบกระเป๋าเงินออกมารอที่จะจ่าย
“ทั้งหมด แปดร้อยห้าสิบบาท ค่ะ”
“นี่...”
หญิงสาวส่งเงินให้ ยังไม่ทันที่พนักงานชำระเงินจะรับไป ภาคินก็ส่งบัตรเครดิตให้กับพนักงานแทน แล้วว่า
“ใช่นี่แทนครับ”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
.............................................................................................
พอเดินมาถึงลานจอดรถ ภาคินยกของไปไว้ข้างหลังและดึงของออกจากมือของหญิงสาวออก และนำไปไว้ที่เดียวกันทั้งหมด พอชายหนุ่มเก็บของเสร็จ กันญิกาจึงพูดว่า
“พี่คิน...นี่ค่ะค่าของที่พี่คินจ่ายไปเมื่อกี้”
หญิงสาวส่งเงินให้ ภาคินมองเขาไม่สนใจอะไร ชายหนุ่มเปิดประตูฝั่งหญิงสาวออก แล้วตนเองก็เดินอ้อมไปฝั่งคนขับก่อนจะเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งของตน
“นี่...ขึ้นรถได้แล้ว”
“นี...วางเงินไว้นี่แล้วกัน ถ้าพี่คินไม่รับดี ๆ”
“เก็บไปซะ เงินแค่ไม่กี่ร้อยบาท”
“แต่ว่า...นี...”
“เธอเป็นคนเถียงเก่งหรือไง...ฉันนึกว่าเงียบ ๆ”
“ไม่ถึงกับเงียบหรอกค่ะ แค่ไม่อยากพูดมาก แต่ว่านีไม่ชอบเป็นหนี้ใคร นี่ค่ะ เงิน”
กันญิกายื่นยันว่าตนจะคืนเงินให้กับภาคินให้ได้ ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาว คิ้วเข้ม ๆ ชิดติดกัน เขาขยับตัวเล็กน้อย กันญิกามองสักพัก ภาคินก็ขยับตัวเบียดคร่อมเข้าหาฝั่งหญิงสาว แล้ววางมือของตนให้คร่อมร่างบางไว้ไม่ให้ขยับได้ ก่อนจ้องมองสบตาเธอไว้
“พี่คิน...ถอยออกไปนะ”
“กลัวหรอ”
ภาคินเห็นกันญิกาเริ่มลั่น ในแววตาของหญิงสาวบอกให้รู้ได้เลยว่าตอนนี้เธอคงหวั่น ๆ ไม่น้อย อย่าบอกนะว่าแค่นี้ หญิงสาวก็กลัวแล้วจริง ๆ
“พี่คิน...ถอยออกไปนะค่ะ”
ภาคินไม่สนใจ เขาก้มหาหญิงสาวจนใบหน้าของเขาห่างจากหญิงสาวไม่ถึงคืบ
“เก็บเงินซะ แล้วอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าฉันให้คือให้ เข้าใจ”
“แต่...”
กันญิกาประท้วง ก็เธอไม่ชอบให้ใครมาเป็นบุญคุณนี่...แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดต่อให้จบ ภาคินก็ใช้จมูกของเขาทำให้เฉียดแก้มเนียนให้พอรู้สึก แต่ว่ายังคงค้างไว้แบบนั้นและแกล้งหายใจรดต้นคอของกันญิกาอยู่
“ถอยออกไปนะ...”
“ทำไม...ยังไม่ทันทำอะไรเลย ก็ปฏิเสธซะแล้ว รู้ไหมว่าฉันมีผู้หญิงที่รอให้ทำแบบนี้อยู่เท่าไหร่ บางทีให้มากกว่านี้...”
...เพลี้ย...
กันญิกา ผลักคนที่อยู่ชิดแก้มของเธอสุดแรง ก่อนตบหน้าชายหนุ่มอย่างจัง เพื่อให้รู้ว่าเธอไม่พอใจ ตอนนี้หญิงสาวหน้าแดง ทั้งโกรธ ทั้งอาย แต่เธอยังขยับไปไหนไม่ได้เลย เพราะภาคินยังคงยึดข้อมืออีกข้างหนึ่งของหญิงสาวไว้
“ปล่อย...นะ”
หญิงสาวพยายามแกะมือของเขาออก ภาคินก้มหาร่างบางอีกครั้ง เขาจูบหญิงสาวแบบไม่ทันตั้งตัว เคลื่อนย้ายไปทั่วใบหน้าเนียน
“ฮื้อ...ปล่อย...อย่า...อย่าทำแบบนี้”
“ฮื้อ...”
เสียงของกันญิกาเงียบไป เพราะเมื่อปากอบอุ่นเคลื่อนมาประกบที่เรียวปากนุ่ม ภาคินกดร่างบางให้ติดกับผนักพิงของที่นั่งบนรถส่วนตัวของเขา กันญิกาพยายามดิ้นให้หลุด แต่ยิ่งดิ้น ภากรก็ยิ่งจับและบิดที่ข้อมือเธอแรงขึ้น หญิงสาวกำลังหัวหมุนไปหมด คิดอะไรไม่ออก จะหนีก็ไม่ได้ จนภาคินสอดมือข้างหนึ่งเขี่ยกระดุมเสื้อเชิ้ตของหญิงสาวให้หลุดออกไปจากรังดุมได้สองเม็ด
น้ำตาของกันญิกาไหลลงอาบแก้ม ภาคินรู้สึกว่าได้ลิ้มรสน้ำตาของหญิงสาวเขาจึงหยุดการกระทำนี้ทันที
ภาคินมองหน้าหญิงสาว เธอเองก็ก้มหน้าทันที ภาคินก็ไม่พูดอะไร ชายหนุ่มขยับไปนั่งที่ตนเอง แต่ก็ยังคงหันกลับมามองที่หญิงสาว เธอยังคงนั่งชิดกับประตูรถของเขา พอเขายกมือถึงแตะที่หัวไหล่ของเธอ กันญิกาถึงกับสะดุ้ง
“อย่าค่ะ...นีขอโทษ...นีไม่ได้ตั้งใจจะตบพี่คิน นี...นี...”
ฮือ...ๆ...ๆ...ๆ....ๆ...
ภาคินชักมือกลับ ความรู้สึกเขาบอกให้รู้ว่า หญิงสาวคงตกใจมาก จึงหันกลับไปที่ของตนแล้วว่า
“ติดกระดุมเสื้อซะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
หญิงสาวทำตามที่เขาบอก และภาคินก็ออกรถไป มุ่งหน้ากลับบ้าน เขาและเธอไม่ได้พูดอะไรกันเลย พอมาถึงบ้าน กันญิการีบลงจากรถและเข้าบ้านแบบกึ่งวิ่งกึ่งเดิน
....................................................
กันญิกาเก็บตัวอยู่แต่ในห้องส่วนตัวของเธอหลังจากเหตุการณ์เมื่อเย็นที่ผ่านมา ตอนนี้เธอยอมรับว่าตกใจ เสียใจ และไม่เข้าใจว่าทำไม ภาคินจึงทำกับเธอแบบนี้ หญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้อง เพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าตอนนี้เธอกำลังร้องไห้
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“นี...พี่เองนะ พี่ขอเข้าไปได้ไหม”
เสียงเคาะประตูห้อง กันญิการีบเช็ดน้ำตา และรีบเปิดประตูห้องให้พี่สาวของเธอ
“พี่นิษฐ์ พึ่งเลิกงานหรือค่ะ มีอะไร....เอ่อ...เข้ามาก่อนสิค่ะ”
“ทำไมนี มาเก็บตัวอยู่ในห้องล่ะ...เวลานี้ เราต้องอยู่ในครัวนี่”
“คือว่านีไปข้างนอกมาค่ะ พอกลับมานีรู้สึกเพลีย ๆ เลยอยากพักผ่อน”
“จ๊ะ...นีพรุ่งนี้ไปดูร้านเสื้อกันนะ พี่ดูมาแล้ว ทำเลดี ถ้านีชอบ พี่ก็จะซื้อไว้ นายอรรถเพื่อนพี่เขาจะจัดการให้ ถ้านีสนใจเราจะเข้าไปทำต่อทันที”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงลงไปทานข้าวเย็นกัน เดี๋ยว...พี่ไปอาบน้ำก่อน”
“ค่ะ...พี่นิษฐ์”
พอชญานิษฐ์ออกไปจากห้อง กันญิกาก็ปิดประตู หญิงสาวเข้าไปในห้องน้ำ ล้างไม้ล้างมือ แล้วออกมา
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
“พี่นิษฐ์ เข้ามาได้เลยค่ะ ประตูไม่ได้ล๊อก
พี่นิษฐ์ลืมอะไรไว้หรือค่ะ”
หญิงสาวคิดว่าเป็นพี่สาว จึงบอกออกไป แต่พอเธอไม่ได้ยินเสียงตอบรับจึงหันกลับไปดู คนที่ยืนอยู่ไม่ใช่ชญานิษฐ์แต่ว่ากับเป็นภาคิน
“ฉันเอง...ภาคิน”
กันญิกาลุกจากเก้าอี้ตัวเล็ก และยืนให้ห่างจากเขาให้มากที่สุด
“คุณภาคิน...”
“ฉันคิด ๆ ดูแล้ว เลยจะมาขอโทษเธอ เรื่องเมื่อตอนเย็น”
“...........”
กันญิกาไม่ตอบ หญิงสาวไม่มองหน้าเขาเสียด้วยซ้ำ
“นี่...ฉันมาขอโทษเธอนะ”
เสียงทุ้ม ๆ ของภาคินทำให้กันญิกาสะดุ้งโหยง
“เออ...ค่ะ...นี...นีว่า...ว่า...ลง ไปทานข้าวเถอะค่ะ”
หญิงสาวหันซ้ายหันขวา ทำท่าจะวิ่งหนีชายหนุ่มเสียด้วยซ้ำ น่าขำชะมัด นี่เจ้าหล่อนกลัวเขาขนาดนี้เชียว-
“เรายังคุยกันไม่จบ...”
“เอ่อ...จบแล้วค่ะ พี่คินออกจากห้องส่วนตัวของนี เถอะค่ะ”
“เธอลืมไปแล้วหรือไงบ้านหลังนี้เป็นบ้านฉัน”
ภาคินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ หญิงสาวแล้วพูดต่ออีกว่า
“ฉันนายภาคินเป็นลูกคนเล็กของเพื่อนแม่เธอ เจ้าของบ้านที่เธอมาอาศัพอยู่”
กันญิกาเอียงหน้าหนี
“งั้น...นี ก็ต้องขอตัว”
“เธอจะไปไหนไม่ได้”
“พี่คิน ปล่อยนีเถอะค่ะ”
หญิงสาวผลักอกชายหนุ่มไว้
“ไม่ เพราะเธอยังไม่รับคำขอโทษจากฉันเลย”
หญิงสาวพยายยามผลักอกชายหนุ่ม แต่ไม่สำเร็จดูเหมือนว่ายิ่งผลังมากเท่าไหร่ มือที่โอบรัดเธออยู่ก็ยิ่งแน่น ขึ้นทุกๆที
“ค่ะ นีรับคำขอโทษ ปล่อยเถอะค่ะ”
ภาคินปล่อยมือจากหญิงสาวทันที
“แล้วกำลังจะไปไหน”
“ไปทานข้าวค่ะ”
“ดี...งั้นไปด้วยกัน”
ภาคินจูงมือหญิงสาวเดินออกจากห้องไป กันญิกาขืนตัวเล็กน้อย แต่สู้แรงของชายหนุ่มไม่ไหวจริง ๆ จึงเดินตามเข้าไป
“คุณแม่ครับ ผมพาน้อยมาทานอาหารแล้วครับ”
ภาคินพูดขึ้น พร้อมกับปล่อยมือจากหญิงสาว
“หนูนี มานั่งข้าง ๆ พี่กร ตาคินนั่งตรงข้ามพี่กรเข้าไป”
“ครับคุณแม่ คุณนิษฐ์ เชิญนั่งครับ”
ภาคินเห็นชญานิษฐ์เดินมาพอดี จึงจัดการเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาว
“คุณนิษฐ์ ผัดเปรี้ยวหวาน อร่อยนะครัว”
ภาคิน จัดการอาหารใส่จานให้ชญานิษฐ์ พลางเหลือบมองกันญิกาเล็กน้อย ซึ่งหญิงสาวก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าที่จะมองภาคินเสียด้วยซ้ำ
“กร ตัดปลาให้น้องนีสิลูก น้องยั่งทานน้อยอยู่ ให้น้องกินเยอะ”
“ครับ นี่ครับ”
“ขอโทษนะค่ะ นีรู้สึกปวดหัว ขอตัวนะค่ะ”
หญิงสาวลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที และรีบเดินกึ่งวิ่งขึ้นชั้นสอง
“นิษฐ์ขอตัวไปดูน้องก่อนนะค่ะ”
ชญานิษฐ์รีบวิ่งตามหน้าสาวไป
“เชิญค่ะ...”
“บอกว่าไม่สบาย เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
“ไม่สบายนิดหน่อย นั่งพักก็คงหาย”
“งั้นพักผ่อนนะ...แล้วพร่งนี้ถ้าไม่ไหวบอกพี่นะ จะได้ไปดูร้านวันอื่นแทน”
“ไม่ค่ะ ไปดูพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”
“งั้น...วันนี้นีพักผ่อนนะพี่ไม่รบกวนแล้ว”
ชญานิษฐ์ออกมาจากห้องของน้องสาว
“ห่วงน้องสาวจังนะคุณ”
ความคิดเห็น