คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : วิวาห์รักจัดผิดคู่ 6
“แล้วพี่กรล่ะครับ คุณแม่”
“ตากร อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ แม่ให้คนไปตามแล้ว”
ภาคินเดินมาที่โต๊ะอาหารพร้อมกับคุณหญิงภควรรณ ชายหนุ่มมองอาหารที่น่าทานบนโต๊ะ อดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่า มารดาเขาเปลี่ยนแม่ครัวคนใหม่หรือไง ดูสิอาหารน่าทานแบบนี้ ไม่ใช่แม่ครัวคนเดิมแน่ ๆ
“คุณน้าค่ะ เรียกหานีหรือค่ะ”
“หนูนี มาทานข้าวด้วยกัน...เร็ว ดูสิอยู่แต่ในครัวน่าดำหมดกันพอดี”
“ค่ะ”
“แม่ครัวคนใหม่ของคุณแม่หรือครับ ดูสิอาหารน่าทานทุกอย่างเลย”
“ใช่...แต่ว่าไม่ใช่คนใหม่อะไรหรอก ฝีมือหนูนีเขา”
หญิงสาวยิ้มหวานกับคำพูดของคุณหญิงภควรรณ
“ถ้างั้นผมขอชิมก่อนแล้วกันครับ...ไม่รู้จะท้องเสียหรือเปล่า”
ภาคินบอก
“เป็นไงตาคิน กินได้ไหม”
คุณหญิงภควรรณแซว แต่ว่าภาคินก็ไม่ยอมแพ้หรอก เขาจึงว่า
“ก็งั้น ๆ ล่ะครับ”
“พี่กรค่ะ...รับกาแฟไหมค่ะ”
กันญิกาถามชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับน้องนี แต่ว่า...ไม่ดีกว่า พี่อิ่มแล้วครับ อาหารอร่อยมากครับ”
“ขอบคุณค่ะ พี่กร”
“ก็งั้น ๆ ล่ะครับพี่กร”
ภาคินพูดสวนขึ้นมา
“นายคิน...งั้น ๆ ของนายนะเนี่ย...”
ภากรแซวน้องชายของตน ก็เขาและทุกคนก็เห็นอยู่ว่า ชายหนุ่มตักเติมข้าวจานที่สองแล้วนี่
“คุณแม่...เดี๋ยวผมขอไปทำงานก่อน วันนี้มีเคลียร์ลูกค้าสำคัญด้วย”
“ไปเถอะตากร”
...............................................................................
คุณหญิงภควรรณและภาคินนั่งทานอาหารจนหมดเกือบซะทุกอย่าง กันญิกาจึงเดินไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมจานผลไม้สองจาน ที่หญิงสาวจัดการปลอกใส่ตู้เย็นไว้
“ขอประทานโทษค่ะ...คุณภาคินค่ะ มีคนขอพูดสายด้วยค่ะ”
“ใครครับ”
“เธอบอกว่าชื่อ จีนพัตร์ ค่ะ”
พอแม่บ้านบอก คุณหญิงภควรรณหันมองหน้าบุตรชายคนเล็กทันที ชายหนุ่มรับโทรศัพท์จากมือของแม่บ้าน แล้วเดินออกไปคุยตรงทางเดินเข้าครัว
“สวัสดีครับ จีน”
“สวัสดีค่ะ คิน”
“สบายดีหรือเปล่าครับ”
“ไม่เลยค่ะ จีนคิดถึงคินมาก ๆ แทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนเลยนะค่ะ”
“หรอครับ”
“จีนอยากเจอคินจังเลยค่ะ”
“ช่วงนี้ผมไม่ว่างหรอกครับ งานยุ่งมากต้องขอโทษด้วย”
“งั้น...หวังว่าคงได้พบกันนะค่ะ คิน”
“ครับ...แค่นี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
กันญิกาจัดแจกันดอกไม้ หญิงสาวหยิบดอกไม้แต่ละดอกอย่างเบามือดูท่าทางเธอคงจะคล่องเรื่องการทำงานบ้าน อาหาร เป็นอย่างดี ภาคินยอมรับว่ากันญิการูปร่างดี ผิวพันธุ์สวย ดูนาน ๆ เธอก็น่ารักมาก เขายืนมองหญิงสาวจนเพลิน หญิงสาวแต่งกายเสื้อผ้าแบบเรียบ ๆ กระโปรงยาวเลยหัวเข่า เสื้อเชิ๊ตพอดีตัว ลายดอกไม้เล็ก ๆ เข้ารูป
กันญิกาหันมองกลับมาทางด้านหลังเธอรู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมองเธออยู่
“พี่คิน มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”
“เอ่อ...เปล่า...แล้วนี่คุณแม่ไปไหนแล้ว”
“ไปข้างนอกแล้วค่ะ แล้วพี่คินไม่ไปทำงานหรือค่ะ”
“ทำไม...จะบังคับให้ฉันไปทำงานหรือไง”
“เปล่าค่ะ นีแค่ถามดูเท่านั้น เอง...พี่คิน นีขอถามอะไรหน่อยสิค่ะ”
“ว่ามาสิ”
“แถวนี้ มีร้านหนังสือ ที่ไหนบ้างค่ะ”
“ก็มี ร้านหนังสือในซุปเปอร์มาเก็ตเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ก็มีหนังสือเยอะ เหมือนกัน”
“ค่ะ ซุปเปอร์มาเก็ตตรงแยกหน้าปากทางหรือค่ะ”
“ใช่...”
หญิงสาวรับรู้ เธอยกแจกันดอกไม้ ไปวางไว้ตรงโต๊ะมุมห้อง และเดินออกจากบ้าน ภาคินเดินตามออกไป ก่อนถามว่า
“จะไปไหน...”
“ถามนีหรือค่ะ”
“แล้วคิดว่าฉันคุยกับใครล่ะ ในเมื่อตรงนี้ก็มีแค่ฉันกับเธอ”
“ไปร้านหนังสือไงค่ะ ขอตัวค่ะ”
หญิงสาวเดินออกมารอรถรับจ้างอยู่หน้าบ้าน เธอเลือกเดินไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่ต้องยืนรออยู่กับที่ ภาคินขับรถออกจากบ้าน และปราดรถมาจอดแล้วเลื่อนกระจกด้านหนึ่งลง
“ขึ้นรถสิ...ถ้าจะไปร้านหนังสือ”
กันญิกาหันซ้านหันขวา ทำท่าลังเล ทำให้ชายหนุ่มพูดต่ออีกว่า
“ฉันไม่ได้พาเธอไปขายหรอก เร็วขึ้นมา”
หญิงสาวเปิดประตูรถ แล้วก้าวเข้ามานั่งข้าง ๆ คนขับ
................................................................................................................
ทางด้านชญานิษฐ์ หญิงสาวกำลังจะเข้าประชุมเพื่อเสนองานของเธอให้กับลูกค้าดู
“ไงว่ะ...นิษฐ์ ตื่นเต้นหรือแก เหงื่อแตกเชียว”
อรรถวุฒิ เพื่อนร่วมงานเอ่ยถาม
“ตื่นเต้นบ้าบออะไร ฉันรีบมาสิ ร้อนก็ร้อนเหนื่อยก็เหนื่อยเป็นบ้า รถก็ติดทำงานแถบต่างจังหวัดไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
ชญานิษฐ์บอก
“โวยวายจัง ถ้าแกอ่อนหวานน่ารักเหมือนน้องนี น้องสาวแกหน่อย ฉันจีบแกไปแล้ว นี่อะไรว่ะ บ่นจัง”
“เดี๋ยวเถอะ นายอรรถไม่ต้องมาทำน้องสาวฉันเสียคนเลยนะ”
“น้องเพื่อน ฉันไม่ทำให้เสียใจหรอก รักจริงนะ”
“ตลกแล้ว เดี๋ยวก็ฟาดด้วยกระเป๋าเอกสารซะหรอก”
ทั้งสองยื่นเถียงกันสักพัก ก็มีพนักงานของบริษัทเจ้าของตึกที่หญิงสาวและชายหนุ่มนัดหมายกับลูกค้าก็มารายงานว่า
“เชิญ...เข้าห้องประชุมค่ะ บ๊อสพร้อมแล้วค่ะ”
“ขอบคุณ ค่ะ”
“ขอบคุณ ครับ”
ทั้งสองเดินตามพนักงานสาวเข้าไปในห้องประชุม
“บ๊อสค่ะ คุณอรรถวุฒิ และคุณชญานิษฐ์ มาแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมาก เชิญทุกคนนั่ง...”
ทั้งหมดร่วมประชุมกันนาน ถึงสองชั่วโมง กว่าจะตกลงงานเสร็จเรียบร้อยได้
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ”
“เช่นกันครับ”
“งั้น...เราลากลับก่อนนะครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
.....................................................................
“นิษฐ์....เดี๋ยว...........”
อรรถวุฒิทำเสียงตื่นเต้น
“อะไร...เป็นอะไรของนาย”
“ฉันหิวแล้วว่ะ”
“อะไรว่ะ...นี่พึ่ง...”
หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูแล้วก็ต้องเงียบไป ก็นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว เธอและเพื่อนยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า
“ไงล่ะ...เถียงต่อดิ”
“เอ่อ...ขอโทษ ฉันเป็นเจ้ามือก็ได้ พอใจยัง”
“O.K. ไปโลด”
.............................................................................
“โห...ร้านนี้เลยหรอ”
ชญานิษฐ์ ร้องลั่น เมื่ออรรถวุฒิพาหญิงสาวมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“อะไรว่ะ...แค่นี้เอง ระดับลูกสาวผู้ใหญ่กันธรในจังหวัดอุบลฯ แค่นี้ขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอก”
“ไม่ร่วง ตลกแล้วไอ้คุณเพื่อนอรรถ”
“ไปเถอะ...ร้านนี้ใกล้ที่สุดแล้ว และฉันก็หิวแล้วด้วย”
อรรถวุฒิเดินไปด้านหลังหญิงสาว และดันให้เดินนำหน้า พอดีกับที่ภากรกำลังเดินเข้ามาและเห็นการกระทำของคนทั้งคู่ทันที แต่เขาอยู่ห่างออกไปเลยไม่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวกับชายหนุ่มคนนั้น วันนี้ภากรต้องพาลูกค้าสำคัญมาเลี้ยงต้อนรับการมาเมืองไทยและจำเป็นต้องเทคแคร์เป็นพิเศษ
-ไงล่ะ...คนดีของคุณแม่ ทำงาน...น่าขำชะมัด ที่แท้ก็มาหยอกล้อ กินข้าว กับหนุ่มที่นัดไว้มากกว่ามั้ง-
....................................................................
อรรถวุฒิ และ ชญานิษฐ์ เข้าไปนั่งในร้านอาหารหรู บรรยากาศดี และคนที่อยู่ในร้าน ต่างนั่งคุยกันอย่างเงียบ ๆ ด้านภากรเองเขาเลือกที่นั่งไม่ห่างจากโต๊ะของหญิงสาวสักเท่าใดนัก
“สั่งอาหารครับ”
อรรถวุฒิเรียกหารายการอาหารจากพนักงานของร้าน
“รับอะไรดีค่ะ”
พนักงานเดินเข้ามาถาม
“สั่งอะไร ก็สั่งสินายอรรถ น้องเขามารอ”
“แป๊บนึงก็ได้...ใช่ไหมครับคุณพนักงาน”
“ค่ะ”
“เอา..........”
อรรถวุฒิสั่งอาหารสามสี่อย่างและสั่งข้าวเผื่อเพื่อนสาว ที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ตรงกันข้าม
“อรรถ...นายไปจัดการข้อมูลลูกค้าให้ฉันด้วยนะ”
“อืม...ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ว่า พรุ่งนี้...ฉันจะนัดทีมงาน ประชุมช่วงเช้า เธอก็ต้องเข้าประชุมด้วยนะ”
“แล้ว...ประชุมที่ไหนล่ะ”
ชายหนุ่มบอกชื่อโรงแรมย่านวิภาวดีรังสิต และห้องที่จัดเป็นสถานที่ประชุมชั่วคราวสำหรับทีมงานของชญานิษฐ์และอรรถวุฒิ
“อิ่ม...เป็นบ้าเลย”
“ถ้านายไม่อิ่ม...ฉันก็จะให้นายไปล้างจาน”
“นิษฐ์...ไปเดินดูสถานที่ทำห้องเสื้อให้น้องนีไหม ฉันจำได้ว่าเธอจะเปิดร้านเสื้อให้น้องนี”
อรรถวุฒิพูดขึ้น
ชญานิษฐ์มองหน้าเพื่อนแล้วว่า
“จำได้ด้วย...ทำไม...มีที่ดี ๆ แนะนำให้หรอ”
“มีสิ...เมื่อก่อนฉันก็จะเปิดร้านให้ญาติผู้พี่ของฉัน แต่ว่าทำได้ไม่นาน เพราะว่าเขากำลังจะแต่งงานและก็คงไม่มีใครดูแลร้านต่อ เพราะไม่มีใครถนัดด้านออกแบบผ้าลายใหม่ ๆ เอาไหมญาติฉันเข้าโอนให้ในราคาถูก สนไหมล่ะ”
“วันนี้...ไม่ไปเที่ยวกับสาว ๆ หรือไง”
“ไม่...ขี้เกียจ ขืนไป งานไม่เสร็จ ฉันหูชาเพราะเธอพอดี”
“ดี รู้ก็ดี”
หญิงสาวหัวเราะ เมื่อเห็นเพื่อนสนิททำสีหน้าบ่งบอกถึงความขยาด กลัว
ความคิดเห็น