คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เลือดแค้น
เช้าวันต่อมา.....
คฤหาสน์หลังสวยที่ตระกูล ญศหวรรษ ครอบครองอยู่เป็นที่ใฝ่ฝันของผู้คนที่พบเห็นโดยทั่วไป
พฤกษ์ เดินลงมาที่ห้องโถงของชั้นล่าง ที่มาบาร์เครื่องดื่ม เขาตั้งใจว่าจะลงมาหาอะไรดื่มสักหน่อย แต่ก็ต้องชะงัก เพราะมีร่างของบิดาของเขานั่งอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะวิ่งกลับขึ้นห้องนอนแต่ก็ถูกเรียกไว้เสียก่อน
“พฤกษ์....มานี่ก่อนสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”
เสี่ยพงษ์ เอ่ยเรียก
“พ่อ มีอะไรกับผมเหรอครับ”
พฤกษ์ถามกลับพร้อมเดินเข้าหลังบาร์ หยิบน้ำจากตู้เย็นรินใส่แก้ว
“ตอนนี้ แกติดพันอยู่กับอาจารย์สอนพิเศษ....เป็นใคร?”
ดวงตาคมกริบจับจ้องมองลูกชาย เพื่อรอคำตอบ
“ใครมารายงานพ่ออีก....เรื่องแค่นี้....ก็แค่อาจารย์พิเศษ ที่ผมรู้สึกว่า ดูน่ารักดีก็เท่านั้น”
“แล้วชื่อล่ะ”
“ชื่อ สิริยา บุณญกุล เรื่องนี้พ่อน่าจะรู้แล้วจากพวกปากสว่าง ผมก็แค่รู้จากประวัติแฟ้มงานของเธอก็เท่านั้น ว่าพ่อเธอชื่อประสงค์”
“แกว่านามสกุลอะไรนะ”
“บุณญกุล มีอะไรครับ”
“ฉันไม่อยากให้แกเกี่ยวข้องกับเธอคนนี้”
“ไม่....ยิ่งห้าม ผมก็ยิ่งสน อีกอย่าง....ผมรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงโดยทั่วไป น่าสนใจ พ่อห้ามผมไม่ได้หรอก”
เมื่อพฤกษ์เดินหนีไป เสี่ยพงษ์หันไปดังการให้ลูกน้องสืบเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของสิริยา เพราะถ้าเธอคือลูกสาวของศัตรูก็คงปล่อยไว้ไม่ได้
................................................................
รถยนต์คันหรู....แต่ดูค้นตาที่จอดอยู่หน้าบ้าน ทำให้สิริยารู้สึกแปลกใจอย่างมาก....น่าแปลก เพื่อนคุณลุงไม่น่าจะขับรถสปอร์ตแบบนี้นี่นา แต่ว่ารถคันนี้เหมือนว่าเราเคยเห็น....
“ติ....ใครมากันเหรอ”
เธอหันมาถาม ติ ที่ตอนนี้แย่งเอากระเป๋าและหนังสือของเธอไปถือไว้เรียบร้อยแล้ว
“รถ....ใคร....ผมก็ไม่รู้ครับ แต่เขาบอกว่ารู้จัก คุณริ”
“รู้จักฉันเหรอ”
....รถหรูขนาดนี้ เพื่อนเราไม่มีทางมีแน่ ๆ....หญิงสาวนึก ขณะที่สายตายังคงจ้องมองรถหรูที่จอดอยู่อย่างสงสัย
“เอากระเป๋ามาสิ เดี๋ยว....ริ ถือเอง”
“ผม ถือให้ได้ หนักนะครับเนี่ย คุณริน่าจะให้ผมช่วยถือให้....ดีกว่านะ”
“ตามใจ”
สิริยาหันมาพยักหน้ากับชายหนุ่มยอมให้เขาเป็นคนถือกระเป๋าให้เธอ....ร่างสูงที่ยิ้มอยู่ก็ดีใจที่ได้รับใช้ดูแลคุณหนูของใจเขา
เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน คนที่บุกมาถึงบ้านไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคนนั้นคือ พฤกษ์ ญศหวรรษ ชายหนุ่มนั่งยกกาแฟขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์หันกลับมายิ้มให้เธอที่ตอนนี้หน้างอเป็นม้าหมากรุก
“คุณทราบบ้านดิฉันได้ยังไงค่ะ”
“ผมต้องการรู้อะไร มันก็ไม่ได้ยากอะไรสำหรับผมอยู่แล้ว คุณก็น่าจะรู้ดี”
“คุณจะเอาไงว่ามาเลยดีกว่า....อย่ามาทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ฉันยังไม่พอใจคุณอยู่นะ กับการกระทำของคุณที่วางอำนาจได้น่าขยะแขยงที่สุดในวันนั้น”
“เรื่องวันนั้น....ผมขอโทษ....เอาอย่างงี้ดีไหม คุณริก็ยอมให้ผมชวนไปทานข้าวสักมื้อเป็นการไถ่โทษ รับรองว่าผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบวันนั้นอีก”
“ไม่”
“อย่าพึ่งรีบปฏิเสธ...ผมมีข้อแลกเปลี่ยนมาเสนอนะ”
พฤกษ์บอก สายตาของเขาดูมีเลศนัยแปลก ๆ
“แลก กับอะไรเหรอ คุณพฤกษ์”
คุณประสงค์เอ่ยถาม หลังจากเงียบอยู่นาน
“ก็ ไม่ทราบนะครับ ว่าจะพูดยังไงดี แต่คิดว่าคงมีความสำคัญมาก ขนาดพ่อของผมให้ความสนใจกับนามสกุล บุณญกุล เอาเสียมาก ๆ อีกอย่าง....ตอนมาถึงที่นี่ผมก็เห็นคนของพ่อวนเวียนอยู่บริเวณนี้ จะต้องบอกเพิ่มอะไรอีกไหมครับ”
คงเป็นเพราะคำพูดของพฤกษ์ทำให้คุณประสงค์ถึงกับพูดไม่ออก เพราะเหตุการณ์ที่เขากลัวมันคงใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
“คุณพ่อ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”
สิริยาถามคุณประสงค์ที่นิ่งเงียบไป
.....เราต้องทำอะไรซักอย่าง....แกล้ง....แกล้งปวดหัวใจ....ใช่สิ
“.....โอ้ย....ริ....ลูก...พ่อ...โ---ร---ค---กำ----เริบ....ริ”
“พ่อค่ะ....พ่อ”
“พา...พ่อ....ขึ้นข้าง....บนที....โอ๊ย”
หญิงสาวเข้าไปประคองผู้เป็นลุง ก่อนจะหันมาบอกกับพฤกษ์ว่า
“กลับไปก่อนเถอะ....แล้วฉันไม่ได้จะตกลงอะไรกับคุณด้วย....เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอะไรเลย คนของพ่อคุณหรือแม้แต่พ่อคุณก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันอีกด้วย”
พอพูดจบเธอก็พาลุงของเธอขึ้นไปด้านบนโดยมี ติ ช่วยหิ้วปีกอีกข้าง
“เลิกแกล้งเถอะค่ะ....ริทราบนะค่ะ ว่าคุณลุงไม่ได้เป็นอะไรน่ะ”
ประสงค์เหลือบมองหน้าหลานสาวของตนที่รู้ทัน
“หนูริ รู้หรอกเหรอลูก”
“ค่ะ....ก็ ถึงยังไง ริก็ขอขอบคุณนะค่ะ”
คุณประสงค์ปล่อยหัวเราะออกมา จะกลั้นก็ไม่ไหว
“เลิกหัวเราะเลยค่ะ....ริอยากถามอะไรคุณลุงสักเรื่อง....”
“หนูจะถามอะไร...ถ้าลุงเดาไม่ผิด หนูจะถามว่า ทำไมพ่อของคุณพฤกษ์ถึงสนใจในนามสกุลของเราใช่ไหม”
“ค่ะ”
“พ่อหนูก็สงสัย ญหศวรรษ อันดับหนึ่งในคดีสุดท้ายของพ่อหนู ที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หนูเสียท่านไป”
“งั้น!!!”
“ริ ต้องระวังตัวนะ ไปไหนมาไหนคนเดียวมันจะอันตราย....จำคำลุงไว้ว่าหนูต้องเข้มแข็ง จะมีคนเข้ามาดูแลหนูแทนลุงในไม่ช้า ลุงแน่ใจว่าเขาจะทำหน้าที่นี้ต่อจากลุงได้”
...........................................................
ตอนเย็นสิริยาชวน ติ ออกมาหาของกินปากซอยบ้าน เพราะวันนี้พี่แมว แม่ครัวประจำบ้านลาหยุดที่บ้านไม่มีกับข้าวอะไรบวกกับที่หญิงสาวไม่มีอารมณ์ทำอะไรด้วย
“คุณริ คิดอะไรอยู่เหรอ”
ติ ถาม
“คิดว่า....ญศหวรรษ...จะเป็นพวกทำร้ายคุณพ่อจริงหรือเปล่า”
“ผมก็ไม่รู้นะครับ แต่ว่าคุณหนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไอ้ติคนนี้จะปกป้อง ดูแล คุณหนูเอง”
....มีอะไรบางอย่างแทรกซึมปนมากับความห่วงใยของติ ที่ต้องการส่งให้สิริยารับรู้....เป็นอาการที่เขาพยายามซ่อนมันไว้....ให้อยู่ลึกสุดของหัวใจ
ร้านก๋วยเตี๋ยว....
สิริยานั่งมองคนฝั่งตรงข้าวที่จัดแจงหยิบนู้นจัดนี้ให้เธอ....
“พอแล้ว....ริทำเองได้”
เธอบอกเสียงหวาน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ....คุณริทานน้ำอะไรดี”
“เหมือน ติ ก็ได้ ริชวนมากินนะ ไม่ได้ชวนมาเพื่อให้ดูแล บริการ ริ แบบนี้”
ท้ายประโยค เธอบ่นเบา ๆ ก่อนเรียกแม่ค้ามาเพื่อสั่งก๋วยเตี๋ยวและน้ำเปล่า....หลังจากทั้งหมดอิ่มแล้ว สิริยาก็เรียกแม่ค้ามาเก็บเงิน....
“สามขาม แปดสิบบาท น้ำแข็งเปล่าสองแก้ว สองบาท จ้า”
แม่ค้าบอก
สิริยาวางเงินลงที่มือให้แม่ค้า หนึ่งร้อยบาท....เธอหยิบขนมหวานถุงละ ห้าบาทสองถุง และบอกว่าไม่ต้องทอน
........................................................................
.....เอาไปกินนะ ติ ริกินคนเดียวไม่หมดหรอก แบ่งกันคนละถุงนะ....
เธอส่งถึงขนมให้ ติ ที่เดินอยู่เคียงข้าง
“ขอบคุณครับ”
อย่างน้อยวันนี้หัวใจของ ไอ้ติ ก็ได้เบิกบาน และรู้สึกอบอุ่นอีกครั้ง เพียงแค่ได้ใกล้เธอ....
.............................................................................
“พ่อสงค์ค่ะ....พ่อ....เกิดอะไรขึ้น?”
สิริยาเดินเข้ามาในบ้านก็เรียกหาลุง แต่พอเดินหาก็พบว่าข้าวของถูกรื้อค้น กระจัดกระจาย เธอรีบวิ่งหาผู้เป็นลุงจนมาถึงชั้นบน ก็พบว่าลุงนอนสลบอยู่กับพื้น
“คุณลุงค่ะ....ติ....ช่วยด้วย....ติ”
ติ และ สิริยา พาคุณประสงค์ส่งโรงพยาบาลทันที แม้ว่าอาการจะไม่ได้มีอะไรน่ากลัว แต่คุณประสงค์ก็ต้องรีบหาวิธีปกป้องหลานสาวให้ได้ ดีนะที่ตอนเกิดเรื่องหญิงสาวไม่ได้อยู่บ้าน ไม่งั้นคงแย่....พวกมนต้องการตัวเธอ ทั้งขู่ ทั้งบังคับ และทำร้ายเขา บอกให้เขาพูดว่าเธออยู่ไหน ให้ปฏิเสธยังไง มันก็ไม่เชื่อ
“ริ อยู่ที่นี่กับลุงนะ จนกว่าจะมีคนมารับหนูไป”
“ใครค่ะ....ริไม่ไปไหนทั้งนั้น คุณลุงจะไล่หนูอย่างนั้นหรือค่ะ หนูไม่เหลือใครแล้ว ไม่เอา หนูไม่ต้องการไปไหน หนูไม่อยากหนี”
หญิงสาวจับมือผู้เป็นลุงไว้....
“ริ....จะไว้อย่างนะ....อย่าไว้ใจไอ้พวก ญศหวรรษ เด็ดขาด แม้...ว่าลุงจะไม่ได้แน่ใจเรื่องบางเรื่องมากนัก แต่ว่าพ่อเราบอกลุงว่าแบบนั้น....เสี่ยพงษ์ มันอันตรายมาก”
....เสี่ยพงษ์
..
“พ่อ นายพฤกษ์ ไงครับ”
เสียงของสารวัตรภูวศินดังแทรกขึ้นทันที
“พ่อ ของ......ลุงค่ะ งั้นก็”
หญิงสาวพูดไม่ออก....นี่มันอะไรกัน....พ่อของพฤกษ์ แล้วนายพฤกษ์รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับครอบครัวที่แท้จริงของเราบ้าง....ถ้าพ่อเขาเป็นคนร้ายจริง
....ฮือ....ๆ....ๆ.....
“ริ ร้องไห้ทำไมลูก”
คุณประสงค์ถามหลานสาวอย่างตกใจ เมื่อเห็นเธอร้องไห้
“หนูมันตัวซวยจริง ๆ พ่อแม่ก็ตาย อยู่กับลุง ก็พลางจะทำให้ ลุงต้องเดือดร้อนอีก....ฮือ ๆ”
“หนูริ อย่าพูดแบบนี้อีกนะ อีกอย่างลุงว่า....หนูเปิดเผยความลับของตัวหนูแล้วนะ”
ลุงพูดเตือนสติ.....หญิงสาวรีบหันไปทางสารวัตรภูวศิน....ที่ยืนยิ้มแช่งอยู่ตรงปลายเตียง
“หวังว่าคุณคง”
“ผมพอรู้ว่าคุณไม่ใช่ลูกคุณประสงค์ และผมก็ไว้ใจได้สำหรับคุณ”
“....อย่ามาใกล้ฉันเลย”
ความคิดเห็น