คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เป็นเรื่องแล้ว
เมื่อภูวศินขับรถพาเธอมาได้สักระยะ สิริยาก็พูดขึ้น หลังจากคิดว่าคงไม่ต้องรบกวนเขาให้ไปส่งแล้ว
“ขอโทษนะค่ะ สารวัตรภูวศิน ช่วยจอดรถด้วย”
“ทำไมครับ”
“ฉันขอบคุณที่ช่วย และก็ไม่อยากรบกวน ฉันกลับบ้านเองได้”
“.........”
เขาทำไม่สนใจ ทำให้หญิงสาวเริ่มโกรธ พอรถติดเธอก็ตัดสินใจแกะเข็มชัดนิรภัยออก และเอื้อมไปหยิบหนังสือของเธอที่เบาะด้านหลัง ภูวศินรบตะปบมือบางไว้ และเอื้อมไปหยิบเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เธอ
“นี่....สารวัตร!!”
“ผมไปส่งได้นี่”
ภูวศินดึงแขนสิริยาไว้
“ทำไมคุณไม่บอกฉันแต่แรกว่า คุณคือ....สารวัตรคนใหม่”
“ก็ผมไม่เห็นจำเป็นอะไร”
“แต่ฉันไม่อยากให้ใครหลอกฉัน คุณบอกเป็นเพื่อนจ่าสมปอง สารวัตรกับจ่า คุณเข้ามาช่วยฉัน ต้องการสืบเรื่อง บุณญกุล ใช่ไหม?”
พอเธอพูดนามสกุลนี้อีกครั้ง ทำให้เขานึกได้ว่าผู้มีพระคุณของเขานามสกุล บุณญกุล คือ สารวัตรประสิทธิ์
“สารวัตรประสิทธิ์”
ชายหนุ่ม เอ่ยชื่อนั้นเบา ๆ แต่สิริยาก็พอจะได้ยิน
“คุณ....คุณต้องการอะไรกับ....สารวัตรประสิทธิ์?”
“คุณรู้จักท่านสารวัตรด้วย”
“เอ่อ....อย่ายุ่งกับท่าน....ฉัน....ไม่....ไม่ได้รู้จัก”
“ผมควรเชื่อ”
สิริยาหน้าขาว มองเขาอย่างค้นหา ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงรู้จักพ่อของเธอ
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น....ยังไงเธอก็ไม่ควรไว้ใจเขาซะแล้ว....สิริยาถอนใจ
.................................................................
รถของสารวัตรภูวศินแล่นมาจอดที่หน้าบ้านของคุณประสงค์....
คุณประสงค์เงยหน้ามองเมื่อเห็นรถแล่นเข้ามา....
“นายติ ไม่ได้ไปรับ ริ เหรอลูก”
“ไปค่ะ แต่รถมีปัญหาเห็น ติ โทรมาว่างั้น”
“ไงก็ ขอบใจ คุณมากนะ ที่มาส่ง ลูกสาวฉันอีกครั้ง”
ประสงค์หันมาคุยกับสารวัตรภูวศิน
“ไม่เป็นไรครับ ผมผ่านมาเจอ คุณริ กำลังมีปัญหาพอดี”
“ปัญหา?....ริ เกิดอะไรขึ้น”
“คือ...พ่อสงค์ค่ะ...คือ...ไว้เราคุยกันเองดีกว่าไหมค่ะ”
คำพูดของเธอทำให้เขาต้องเลิกคิ้วสูงขึ้น....แล้วว่า
“คงจะไม่ได้ คุณริคงลืมไปว่าผมเป็นตำรวจและเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าตำรวจอย่างผม และเท่าที่เห็นก็เหมือนคุณถูกข่มขู่ ที่จริงเราควรไปที่โรงพักเพื่อให้ปากคำ”
“ใคร? ริบอกพ่อมาสิ”
“คือ คุณพฤกษ์ เขาต้องการจะให้ ริ นั่งรถเขา....และจำมาส่ง ริ แต่ว่า ริ ปฏิเสธ”
“คือ คุณพฤกษ์ ญศหวรรษ จะให้คุณปฏิเสธง่าย ๆ เหรอ”
สารวัตรภูวศินพูดสวนขึ้นทันที ทำเอาคุณประสงค์สะดุดหูกับนามสกุลที่ได้ยินของคนที่ถูกเรียกว่า คุณพฤกษ์ จึงหันกลับมามองหน้าหลานสาว
“หมดเรื่องแล้ว ริ ปลอดภัยดีค่ะ คุณลุง....เอ่อ....ไม่ใช่สิต้องถามพ่อสงค์ก่อนสินะ....ทานข้าวหรือยังค่ะ เนี่ยตอนนี้ทุกอย่างก็ไม่ได้อันตราย ริก็ปลอดภัย อย่าห่วงเลยนะค่ะ”
“ผมอยากขอคุยกับคุณประสงค์....หน่อยได้ไหมครับ”
น้ำเสียงของเขาดูอ่อนทุ้ม นุ่มนวล
“ว่ามาเลย คุณสารวัตร”
ชายหนุ่มมองเหลือบไปที่หญิงสาว ทำให้เข้าใจได้ทันทีว่า เขาต้องการคุยกับลุงของเธอคนเดียวเท่านั้น
“งั้น....ริ ขอตัวไปพักผ่อนนะค่ะ”
.............................................................................
สารวัตรภูวศิน มาทรุดตัวลงบนเก้าอี้ตรงหน้าประสงค์....และบอกว่า
“ผมเป็นสารวัตรคนใหม่ของท้องที่นี้ครับ ชื่อ ภูวศิน ศิริเวช ทราบมาว่า เมื่อ 15 ปีก่อน มีสารวัตรของท้องที่นี้ เสียชีวิตยกครอบครัว”
“ใช่....สารวัตรต้องการรู้อะไรล่ะ....ไอ้ผมก็รู้แค่เท่าที่เขาบันทึกไว้เท่านั้น ลำพังจะลบคำครหาของน้องชายตัวเองจากขี้ปากคนยังยาก”
“ผมเพียงคิดว่า เราสองคนควรจะคุยกันซักหน่อย เกี่ยวกับความเป็นมาของคุณริ ว่าทำไมถึงมาอยู่กับคุณประสงค์ ตอนที่เกิดเรื่องไม่นาน พร้อมการหายตัวไปของลูกสาวคนเดียวของสารวัตรประสิทธิ์ บุณญกุล”
ประสงค์ก้มหน้าลง....และหลุบเปลือกตาลงบังประกายของแววตา เพื่อไม่ให้เขาเห็นว่ากำลังคิดอะไร....ทั้งเป็นการชั่งใจคำพูดของชายหนุ่ม
“คำถามนี้....ผมควรต้องตอบ”
“สารวัตรประสิทธิ์ เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือชีวิตครอบครัวของผม อีกทั้งยังเคยล้างมลทินให้คุณปู่เวช ผมไม่เชื่อคำพูดปากต่อปากของชาวบ้านว่าท่านโกงกิน และผมพยายามสืบแฟ้มคดีนี้แบบลับ ๆ
มานาน พอมาที่ห้องทำงานของท่าน และบวกกับที่ผมแอบเข้าไปในบ้านของท่าน จากหลักฐานบางอย่าง ทำให้ผมทราบว่า การตายของท่านมีตระกูล ญศหวรรษ ที่น่าสงสัยที่สุด”
“สารวัตรทำอะไรพวกมันไม่ได้หรอก อย่าให้ครอบครรัวตัวท่านเองเป็นเหมือนน้องชายฉันเลย”
“ผมไม่กลัว....ผมสาบานไว้แล้วว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”
“งั้น....ผมของฝากอะไรสารวัตรสักอย่าง....ได้ไหม”
“ถ้าทำได้ ผมยินดี”
ชายหนุ่มพูด....ทำให้ประสงค์ยิ้มแล้วว่า
“สารวัตรสืบเรื่องนี้ได้พวกมันก็สืบได้....สิริยามีของสำคัญมากในคดีแต่เธอยังไม่เหรอ ซึ่งมันเป็นของที่พ่อเขาให้ไว้ก่อนตาย....”
“พ่อ????”
“ริ คือ แก้วตาดวงใจของ บุณญกุล เมื่อความลับมันไม่สามารถปิดบังได้ ถ้าพวกมันรู้....ผมก็ไม่รู้ว่าจะปกป้องหลานได้นานแค่ไหน ยิ่งไอ้ลูกชายมันคงเข้ามาสนใจ....เฮ้ออออ ไม่ต้องห่วงว่าหลานฉันจะสร้างภาระ....เขาคงมากพอไม่ได้อ่อนแอ...แล้วคุณจะเห็นเอง อีกไม่นานริคงต้องพ้นจากลุงแก่ ๆ คนนี้...”
ทั้งสองนิ่งไปชั่วอึดใจ ต่างฝ่ายต่างพูดไม่ออก และคอยมองปฏิกิริยาของกันและกัน
สิริยานั่งสางผมที่กระจายไปครึ่งหลังด้วยอาการครุ่นคิด....เธอไม่เข้าใจว่าทำไมภูวศินจึงต้องการคุยกับลุงของเธอ
“รอยังอยู่นี่....”
หญิงสาวเดินออกมาที่ระเบียงและก้มมองที่หน้าบ้านก็เห็นรถของเขายังคงจอดอยู่ จึงตัดสินใจเดินลงมาชั้นล่าง
“พ่อสงค์ค่ะ....”
เสียงเรียก ทำให้ทั้งสองหันไปมองเจ้าของเสียง
“ว่าไงจ๊ะ”
“คือ....ริเห็นว่าคุยกันนานเลยลงมาดูว่า....ทำไมสารวัตรยังไม่กลับเสียที”
คำพูดของเธอ ทำให้เขาเข้าใจ....
“งั้น....ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อืม....หวังว่าสารวัตรคงไม่ลืมที่เราคุยกัน เก็บรักษาสิ่งสำคัญที่ผมฝากไว้ให้ดี”
“เท่าชีวิตครับ....ผมรับปาก....เพราะรู้สึกดีตั้งแต่เห็น และ เป็นทุก ๆ อย่าง เลยที่ผมต้องรักษาและปกป้อง”
“งั้นก็ดี”
คำพูดของทั้งคู่ ทำให้คนฟังอย่างหญิงสาว ถึงกับมึนงง....
“ริ เดินไปส่ง สารวัตรภูวศินทีลูก”
“ค่ะ....เชิญ”
เธอเดินนำเขามาที่รถ สิริยาปรายตามองร่างสูงที่เดินตามหลัง
- เขาคุยอะไรกับคุณลุงกันนะ? -
ว๊ายยยย....
มือใหญ่อุ่น ๆ ที่จับอยู่บนเอวและโอบเธอไว้ทำให้เธอใจหาย....รู้สึกเหมือนเลือดฉีดแรงจนร้อนไปทั้งหน้า....มือไม้เย็นเฉียบ....แต่เพราะมือใหญ่ของเขาที่กึ่ง ๆ กอดเธอไว้ ทำให้เธอไม่ล้มหัวทิ่มกับพื้นพอดิบพอดี
“เดินระวังด้วยสิ ขนาดบ้านคุณเองนะ”
เขาบอก
“ขอบคุณ....ปล่อยได้แล้ว....ฉันเดินได้”
เธอบอกเขา เพราะใจมันเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อร่ายกายติดแนบอยู่กับเขา ชายหนุ่มคลายมือทั้งสองข้างออกช้า ๆ ก่อนลากลับ....
ความคิดเห็น