คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วิวาห์รักจัดผิดคู่ 3
คุณชญามลไม่รอให้บุตรสาวถามต่อ รีบดันให้ถึงรถและให้ออกรถไป
............................................................................................................
“ดูสิ...พี่อุส่าห์จองโรงแรมไว้ แม่ก็มายกเลิกซะงั้น”
ชญานิษฐ์บ่น
“คุณแม่คงเป็นห่วงอ่ะค่ะ พี่นิษฐ์ก็เลยให้ไปพักบ้านคุณน้าวรรณ”
กันญิกาบอก
“ไม่ต้องห่วง ขนาดให้ไปพักบ้านผู้ชายก็ได้...นี่”
“พี่นิษฐ์ก็...ว่าไปค่ะ”
“ชั่งเถอะ...”
ชญานิษฐ์เป็นคนขับรถเร็วพอสมควร แต่ว่าวันนี้คนที่นั่งมาข้าง ๆ เธอคือ กันญิกาน้องสาวแสนน่ารัก เธอจึงขับรถอย่างระมัดระวังอย่างมาก
พอช่วงบ่ายหญิงสาวขับรถเข้าถึงเขตกรุงเทพ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“นี...รับโทรศัพท์แทนพี่ที”
“ค่ะ พี่นิษฐ์ ... สวัสดีค่ะ นีพูดค่ะ”
“หนูนีหรือจ๊ะ นี่...น้าวรรณนะ หนูนีถึงไหนแล้วล่ะ”
“ตอนนี้เข้าเขตกรุงเทพแล้วค่ะ”
“งั้น...หนูนีให้หนูนิษฐ์ขับรถไปรอที่ร้านอาหาร... นะจ๊ะ น้าจะให้พี่เขาไปรับ”
“ค่ะ หนูจะบอกพี่นิษฐ์ให้นะค่ะคุณน้า”
.
หญิงสาวทั้งสองนั่งรอการมาของภากรและภาคิน อยู่นาน ชญานิษฐ์จึงพอกันญิกา เข้าไปรอในร้านอาหารและเธอก็ปิดมือถือเพื่อเป็นการตัดความรำคาญ
“พี่นิษฐ์ เรามาอยู่ในร้านสองชั่วโมงแล้ว ออกไปรอข้างนอกเถอะค่ะ”
“อีกแป๊บไม่ได้หรอ พี่ไม่อยากออกไปร้อนข้างนอก”
“โธ่...พี่นิษฐ์คิดจะแกล้งพี่กรกับพี่คินใช่ไหมค่ะ”
“นิดนึงน่า นะ น้องนี”
กันญิกา ทำสีหน้าเป็นบึ่งตึงทำให้ชญานิษฐ์ใจอ่อน
“ตกลง ไปข้างนอกร้านก็ได้”
“ค่ะ พี่นิษฐ์”
ชญานิษฐ์ปรายตามองหนุ่มรูปหล่อสองคน ที่ยืนอยู่ท่างกลางสาว ๆ ที่ผ่านไปมาระแวงนั้น ที่ต่างส่งสายตา ยิ้มหวานให้กับสองหนุ่ม รูปร่างสูงใหญ่ของคนทั้งคู่ ส่งให้เขาดูเด่น ยิ่งรวมถึงผิวที่ขาวผิดกับคนทั่วไป ใครต่อใครที่เห็นก็คิดได้ทันทีว่าจะต้องเป็นลูกหลานคุณหนูทั้งนั้น
“พี่นิษฐ์ เห็นพี่กรกับพี่คินไหมค่ะ”
กันญิกาถาม
ชญานิษฐ์ชี้ไปทางลานจอดรถ แล้วว่า “นั่นไง...ยืนอวดความหล่อให้สาว ๆ หลงไหลอยู่นั่น”
“ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่เป็นห่วง เรื่องปัญหาการเดินทางหรือที่พัก พี่จะไม่มีวันยอมไปพักบ้านพวกนั้นเป็นอันขาด”
ชญานิษฐ์บอก
“พี่นิษฐ์ก็ ไปเถอะค่ะ”
กันญิกาดึงแขนพี่สาวให้เดินไปทางสองหนุ่ม
“สวัสดีค่ะ พี่กร พี่คิน รอนานไหมค่ะ”
“สวัสดีครับ น้องนี ไม่นานหรอกครับ”
ภากรบอก
“สวัสดีครับ น้องนิษฐ์ พี่รอตั้งนาน น้องนิษฐ์หายไปไหนมาครับ พี่รออยู่ตรงรถน้องนิษฐ์เห็นหายไปนานเป็นห่วงแทบแย่....”
ภาคินพูดขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ทันพูดจบชญานิษฐ์ก็พูดแทรกขึ้นซะก่อน
“...เชิญขึ้นรถดีกว่า แดดร้อน รีบไปไม่ดีกว่าหรอ”
“พี่นิษฐ์ค่ะ”
“ขึ้นรถเราเถอะนี เชิญขับรถนำได้เลยค่ะ คุณภากร และก็คุณภาคิน”
หญิงสาวก้าวขึ้นรถของตน ไม่สนใจกับสองหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
“ไงล่ะ น้องนิษฐ์ผู้น่ารัก โดนอีกแล้วไอ้คิน”
“ผมชอบแบบนี้ครับ”
“เออ...ตามใจ”
.........................................................................................................
การจราจรติดขัดตามปกติ ชญานิษฐ์เองเธอทำงานตั้งแต่วันก่อนทั้งงานแต่งพี่สาวคนโตที่เธอต้องเตรียมงานแล้วยังงานที่บริษัท ที่เธอต้องรับผิดชอบอีก ยังจะมีงานโชว์แฟชั่นการตกแต่งที่เธอออกแบบ หญิงสาวทำงานแบบทั้งวัน และชีวิตส่วนใหญ่ของเธอจะต้องขับรถตลอดเวลา แต่พอมาเจอสภาพรถติดทำให้ชญานิษฐ์ไม่ชอบใจเอาเสียเลย หญิงสาวอยากถึงที่หมายเร็ว ๆ มากกว่าจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้างก่อนที่เธอต้องไปพบลูกค้าเพื่อรับงานต่ออีก
“พี่นิษฐ์เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”
กันญิกาถามด้วยความเป็นห่วงพี่สาว เพราะเธอเห็นพี่สาวเธอคุมขมับหลายครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอก พี่แค่มึน ๆ นิดหน่อย ช่วงนี้งานยุ่งไปนิด”
“ไม่นิดหรอกค่ะ นีเห็นพี่วิ่งเข้าวิ่งออกทำแต่งาน นีว่าพี่นิษฐ์จอดรถเข้าข้างทางดีกว่าค่ะ นีขับรถให้นะค่ะ”
“จะดีหรอ”
“ดีค่ะ นีไม่อยากให้พี่นิษฐ์ขับ เกรงว่าถ้าพี่มึนหัวมาก ๆ หรือง่วง จะหลับใน ก็ให้นีขับนะค่ะ”
“จ๊ะ...”
ชญานิษฐ์จอดรถข้างทาง
“พี่กร ทำไมคุณนิษฐ์จอดรถล่ะ”
ภาคินถามเมื่อมองทางกระจกเห็นรถของสองสาวจอด
“ไม่รู้สิ ไปดูก่อนไป”
“เป็นอะไรไปหรือเปล่าครับคุณนิษฐ์”
ภาคินถามชญานิษฐ์ หญิงสาวจึงบอกไปว่า “พอดีไม่ค่อยสบายค่ะ ก็เลยจะให้ยายนีขับรถแทน ขอโทษนะค่ะที่ทำให้ตกใจ”
ภาคินกำลังจะพูดปลอบใจหญิงสาว แต่ภากรพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ไม่ได้ห่วงหรอก แค่นึกสงสาร แรงก็จะไม่มียังอวดเก่งอีก”
“นี่นาย.........”
“น้องนีครับ ไปขึ้นรถคันนู้นดีกว่า...คินขับรถด้วย พี่จะขับรถคันนี้เอง”
“อ้าว...พี่กร ให้ผมขับคนนี้ก็ได้”
“เดี๋ยวพี่ขับเอง ไปได้แล้วไป เสียเวลา”
....................................................................................
รถคันแรกมีภาคินเป็นคนขับและคนที่นั่งเคียงคู่ด้วยคือ กันญิกา แต่ว่าภาคินต้องการให้เป็น ชญานิษฐ์ มากกว่า
ส่วนรถอีกคันเป็นภากรเป็นผู้ขับและมีชญานิษฐ์นั่งอยู่ข้าง ๆ ชญานิษฐ์คุมขมับอยู่หลายครั้ง ภากรจึงพูดขึ้นว่า
“นี่...ถ้าเพลียก็นอนพักสิคุณ พอถึงเดี๋ยวผมปลุก”
“ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“ก็จริง...อย่างคุณไม่เป็นไงหรอก ขนาดว่าคนเข้าใจผิดยังวางหมัดไปทั่ว คนแบบนี้ผมว่าคงไม่เป็นอะไรง่าย ๆ เหมือนกัน”
“
!!!!!!!!!!!”
ชญานิษฐ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ ตอนนี้เธออย่างพักสายตามากกว่า ไม่อยากเถียงกับใคร
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด
“สวัสดีค่ะ ชญานิษฐ์พูดค่ะ”
“นิษฐ์ นี่เราอรรถนะ”
“นายอรรถว่าไง มีอะไรหรือเปล่า”
“เธอมาถึงกรุงเทพแล้วหรือยังเนี่ย”
“ถึงแล้ว ทำไมหรอ”
“งานลูกค้าขอเลื่อนไปอีกสามวันนะ พอดีเขาไปฮันนีมูนกับแฟนพอดี”
“อะไรนะ นี่ฉันอุส่าห์รีบมานะ...จะให้ฉันอยู่กรุงเทพรออีกกี่วัน”
“น๊า...คิดว่าถือว่ามาพักผ่อน แล้วฉันจะไปรับนะ จะได้ไปเที่ยวกัน คืนนี้เป็นไง”
“ตามใจ ... แต่ฉันขอพักผ่อนก่อนแล้วกัน พายายนีมาด้วยกะว่าจะดูทำเลร้านตัดเสื้อพอดี”
“อืม...งั้นไว้เจอกันนะ”
“ตกลง”
หญิงสาวกดดับโทรศัพท์ทันที แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง สักพักก็หลับตาพักผ่อนแล้วเผลอหลับไป
ภากรขับรถอยู่เขาได้ยินหญิงสาวคุยโทรศัพท์อยู่ตลอดแล้วก็ได้ยินเสียงที่ดังรอดออกมา เขาก็ฟังได้ว่าเป็นเสียงผู้ชายจึงคิดไปว่า
ทำงานที่ไหน คงนัดแฟนไปเที่ยวมากกว่า-
ภากรเหลือบมองคนที่นั่งข้างตัว หญิงสาวเอนอิงพิงผนัก ยกมือกุมขมับเหมือนจะให้รับรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังปวดศรีษะอยู่
“คุณนิษฐ์ ปวดหัวหรือเปล่า นอนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวถึงบ้านผมจะปลุก”
ชญานิษฐ์ชยับตัวให้นั่งหลังตรง
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
ภากรหัวเราะในลำคอ เขารู้ดีว่าชญานิษฐ์เป็นผู้หญิงรั้น ผิดกับกันทินันท์ และ กันญิกาที่เรียบร้อย อ่อนหวาน ส่วนเธอคงจะเหมือนบิดาของเธอ คือผู้ใหญ่กันธร ทำให้ได้ความดื้อ ความรั้นมาแบบเต็ม ๆ แต่ถ้ามองดี ๆ หญิงสาวก็มีความเก่ง ฉลาด ขยัน และเป็นคนมุ่งมั่นอย่างมาก ว่าไปหญิงสาวก็เป็นคนสวย ขนาดไม่ค่อยแต่งหน้า ทำผม เธอก็ยังดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล อย่างเช่น ภาคิน ที่ดูเหมือนว่าชอบเธออย่างมาก
“ถ้าคุณไม่นอน ไม่ง่วง คุณจะกุมขมับอยู่ทำไมบ่อย ๆ”
ชญานิษฐ์ปล่อยมือจากศรีษะทันควัน
“หรือว่าอยากให้ผมเห็นใจ สงสาร คุณ เพราะว่าคุณไม่ส่บาย เสียใจ พอดีผมไม่ใช่คนชั่งสงสารใครมั่ว ๆ”
“นี่...ช่วยเงียบที ได้ไหม แล้วช่วยขับรถให้เร็วหน่อย คุณภากร”
“คุณ...แค่นี้มันก็เร็วแล้วนะ คุณอยากให้เร็วกว่านี้ก็มาขับเองไหมล่ะ”
“งั้น...จอด....”
“ไม่จอด...ผมยังไม่อยากตาย เพราะให้คนป่วยมาขับรถ เกิดคุณวูบไป ผมก็ซวยอ่ะสิ”
“เมื่อไหร่จะถึงสักทีนะ”
หญิงสาวบ่นออกมาเบา ๆ
“คุณนี่...ขี้หงุดหงิดจัง...ถึงว่า”
“ว่าอะไร มิทราบ”
“ไม่มีคนมาจีบ”
ภากรยิ้มเยาะ เขายังคงขับรถต่อไป ส่วนชญานิษฐ์นั้นหมั่นไส้เขาอย่างเต็มที่ แต่เธอก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เลยสะบัดหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง
-ทระนงในตัวซะเหลือเกินนะแม่คุณ เห็นแล้วมันน่าจับมาตีก้นสักทีสองที จะได้รู้จักเข็ด- ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าไปในคฤหาสน์หลังหนึ่ง
“ถึงแล้วครับ...คุณผู้หญิง”
..................................................................................
“อุ๊ย...หนูนิษฐ์ มาถึงแล้วหรือลูก อ้าว...ทำไมมากับตากรซะล่ะ แล้วหนูนีล่ะจ๊ะ”
“สวัสดีค่ะคุณน้า ยายนีมารถคุณ...เอ่อ...พี่คินค่ะ พอดีนิษฐ์ปวดหัว ขับรถไม่ไหว”
“เป็นอะไรมากหรือป่าวเนี่ย”
“ไม่ค่ะ นิษฐ์ขอไปพักก่อนได้ไหมค่ะ คือนิษฐ์นอนน้อยมาหลายวันแล้วค่ะ”
“จ๊ะ...จ๊ะ”
“เดี๋ยวค่ะ...คุณน้าค่ะ...พี่กรค่ะ น้องนิษฐ์รบกวนให้พี่ ช่วยถือกระเป๋าของน้องนิษฐ์กับยายนีให้ทีนะค่ะ ช่วยเก็บรถให้นิษฐ์ด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะพี่กร...”
“เธอ...”
ภากรกำลังจะชี้หน้าว่าชญานิษฐ์ คุณหญิงภควรรณถึงใช้สายตาเป็นการปรามเขาไว้ ทำให้ภากรจำต้องลงมือลง ก่อนว่า
“ครับ...น้องนิษฐ์”
ความคิดเห็น