คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : นายคือใคร
“จะไปที่ไหนครับ”
เขาหันมาถาม
“ไปสุขุมวิทค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่จะไปส่ง”
“.......”
ติ๊ด....ติ๊ด
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวมองเบอร์อย่างสงสัย
ภูวศินเห็ฯเธอไม่รับสายเสียทีจึงพูดว่า
“รับเถอะ....ผมไม่ว่าหรอก”
สิริยามองเขาเล็กน้อย
- ใครจะไม่คิดว่านายจะมาว่ากันล่ะ-
“สวัสดีค่ะ สิริยา บุณญกุล พูดค่ะ”
“ผอ.?”
“คุณทราบเบอร์ฉันได้ยังไง?”
“คือดิฉันมีสอนขอวางสายก่อน สวัสดีค่ะ”
ภูวศินเงียบหูฟังตลอด ผอ.เดาได้ไม่ยาก คงจะเป็น ผอ.พฤกษ์ เจ้านั้นคงสนใจแม่ครูสาวนี่แน่ เขาคิดจนเผลอยิ้มออกมา
“ยิ้มทำไมค่ะ”
สิริยาเอ่ยถาม
“ทำไมครับ หรือว่าเขาห้ามยิ้มขณะขับรถกันด้วย”
ภูวศินถามกลับแบบกวนนิด ๆ
“เปล่าค่ะ....แต่คนเรายิ้มก็ต้องมีสาเหตุ ไม่ใช่รึค่ะ”
“ครับ....ผมไม่เถียง แต่ผมของตอบว่า ผมยิ้มเฉย ๆ ไม่มีคำตอบอย่างอื่น”
สิริยาสบัดหน้าหสีไปมองอีกทางกับคำตอบของเขา
“โกรธ เหรอครับ”
“เปล่าค่ะ แต่ฉันกลัวคุณจะเสียเวลานะค่ะ”
สิริยา บอก
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้รีบอะไร ผมได้ยินว่าคุณนามสกุลว่า บุณญกุล”
“ค่ะ คุณเป็นเพื่อนลุงจ่า ลุงจ่าไม่ได้บอกหรือค่ะ”
“ผมไม่ได้ถามน่ะ ก็....จ่า.....ไม่เคยเล่าให้ฟัง”
“ฉันนามสกุล บุณญกุล เป็นลูก คุณประสิทธิ์”
เอี๊ยด!!!!
รถเบรคกระทันหันพอดี เพราะมีรถอีกคันขับปาดหน้า ทำให้ภูวศินไม่ทันได้ยินชื่อของสารวัตรประสิทธิ์
“อะไรนะครับ เมื่อกี้ผมไม่ทันได้ยิน”
“เอ่อ....ฉันเป็นลูกของ พ่อประสงค์ค่ะ”
สิริยารีบตอบชื่อของประสงค์ หญิงสาวถอนหายใจดีนะที่เขาไม่ได้ยิน เธอลืมไปว่าไม่ควรพูดความจริงกับใครทั้งนั้น ยิ่งคนแปลกหน้าอย่างเขา
“แต่นามสกุลคุณ คล้าย ๆ กับ ผู้มีพระคุณของ......ชั่งเถอะครับ”
ภูวศิน หยุดพูดอยู่แค่นั้น.....
ส่วนสิริยาเองก็ไม่ได้ซักไซร้ ดีแล้วที่เขาไม่ได้สงสัย และไม่ได้ยินว่าเธอพูดชื่อพ่อที่แท้จริงของเธอออกมา
รถแล่นมาจอดบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่สิริยาเป็นอาจารย์ประจำอยู่
“ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ คุณ....เอ่อ...”
“ภูวศิน เรียกว่า ศิน แล้วกันนะครับ”
“ค่ะ....คุณศิน ขอบคุณมากที่มาส่ง”
“คุณหนูสอนเสร็จกี่โมงครับ”
เขาเอ่ยขึ้น
“ทำไม ?....คุณเรียกฉันว่าคุณหนู”
“พอดีได้ยินจ่าเรียก.....อีกอย่าง ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกคุณว่าอะไร”
“งั้น เรียกว่า ริ ก็ได้ค่ะ พอดีวันนี้มีสอนบ่ายคงจะประมาณบ่ายสามได้”
“งั้น ผมจะแวะมารับนะ เพราะรถคุณริ คงยังไม่เสร็จ”
“เอ่อ”
เธอยังไม่ทันพูดอะไรต่อ หรือว่าตอบรับเขา ชายหนุ่มก็ขับรถไปเสียแล้ว
.............................................................
“จ่า คุณหนูของจ่านามสกุลอะไร”
สารวัตรภูวศิน เรียกจ่าสมปองมาคุยในห้องทำงาน เมื่อกลับมาถึงสถานีตำรวจ
“แล้ว สารวัตร ขับรถพาคุณหนูริไปส่ง ไม่ถามล่ะครับ”
“จ่า...”
“O_Oขอโทษครับ....คือ เธอ นามสกุล บุณญกุล ครับ ที่จริงตอนคนแถบนี้เจอคุณหนูเห็ฯตอนแรกจำได้ว่าอายุแค่ 6 7 ขวบ เท่าที่จำได้คุณประสงค์ท่านมีน้องชายชื่อ....”
ติ๊ด....ติ๊ด.....
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้จ่าสมปองต้องหยุดพูด....
“จ่าออกไปก่อนแล้วกัน แล้วบ่ายสองเข้ามาเตือนผมที”
“ทำไมเหรอครับ?”
“บอกให้เข้ามาเตือนก็มาสิ”
“ครับผม”
จ่าสมปองทำความเคารพและเดินออกไปทันที
“สวัสดีครับ คุณปู่ มีอะไรหรือครับ”
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากให้ศินกลับบ้านแต่หัวค่ำน่ะ เพราะมากิเขาว่าจะเข้ามาหาเรา”
“ครับ”
เขาเงียบไป......
“มีอะไรหรือเปล่านายศิน”
“คือ ถ้างานเสร็จผมจะรีบไปนะครับ คุณปู่”
ชายหนุ่มบอก และวางสายอย่างเบื่อหน่าย
.........................................................................
ภูวศินขับรถออกจากสถานีตำรวจด้วยความรีบเร่ง พอขับรถมาถึงมหาวิทยาลับที่สิริยาเป็นอาจารย์อยู่ เขาก็ขับรถไปที่หน้าอาคารที่มาส่งหญิงสาว....แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นเธอเดินออกมาพอดี....ภูวศินปราดรถมาจอดแล้วเลื่อนกระจกด้านนั้นลง
“ขอโทษนะครับที่มาช้า ขึ้นรถเร็ว....เถอะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
สิริยา เข้ามานั่งในรถ
“ที่จริง ริ กลับเองก็ได้ คุณศินจะได้ไม่ต้องลำบาก”
เธอหันมาพูดกับเขาขณะติดไปแดงอยู่
“ไม่นี่ครับ....อีกอย่างบ้างคุณก็เป็นทางผ่านบ้านของคุณปู่ผม”
“^_^”
คุณประสงค์นั่งรอหลานสาวอยู่หน้าบ้านอย่างเป็นห่วง เพราะนี่ก็ค่ำมืดแล้ว ทำไมหลานสาวยังไม่กลับเสียที
จนมีเสียงรถแล่นเข้ามา พอมองดูก็ไม่ใช่รถของหลานสาวตนก็แปลกใจว่ารถคันนี้ผู้ขับคือใคร จนต้องเดินมาดูที่รถ
“คุณพ่อสงค์ค่ะ”
“....อ้าว หนูริ....แล้วนี่....”
“คือ ริ ไปบรรยายที่สถาบันการสอนพฤกษ์ พอจะกลับมหาวิทยาลัย รถเกิดเสียพอดีเจอจ่าสมปองกับเพื่อนเข้า....”
“สวัสดีครับ....-_-”
“ขอบใจมากนะที่ช่วยมาส่ง เข้าบ้านไปกินน้ำกินท่าก่อนสิ”
คุณประสงค์เอ่ยชวน
ภูวศินมองนาฬิกาข้อมือแล้วว่า
“ไว้โอกาสหน้านะครับ คือคุณปู่ผมอยากให้ผมกลับไปหาท่านไวไว สักวัน”
“อืม....ก็ดี งั้น....ก็ตามสบาย....ไงก็ขอบใจนะ พ่อหนุ่ม”
“ไม่เป็นไรครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ....สวัสดีครับ”
ภูวศินไหว้คุณประสงค์ และมองไปทางสิริยาพร้อมส่งยิ้มให้เธอ
ก่อนเดินกลับไปที่รถและขับออกไป
“ดูพ่อหนุ่มคนนี้ ยังไง....ยังไง อยู่นะ”
คุณประสงค์หันมาบอกหลานสาว
“ยังไง อะไรค่ะ เข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ พ่อสงค์”
สิริยาบอก
“แล้ว ริ เจอเขามาก่อนหน้านี้รึเปล่าลูก”
“ไม่ค่ะ.....แต่วันนี้เขาว่านามสกุล ริ คุ้นหู แล้ว ริ ก็....ก็ เกือบหลุดว่าเป็นลูกของคุณพ่อ....”
“แล้วเขา”
“เขาไม่ได้ยินค่ะ....”
“โล่งอกไปที....เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะให้ นายติ ไปส่งแล้วกัน”
“ค่ะ....งั้น ริ ขอไปพักผ่อนก่อนนะค่ะ”
“อืม”
- หวังว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นคงไม่ได้คิดร้ายกับสิริยา หรอกนะ
ประสงค์คิดหนักนึกห่วงความปลอดภัยของหลานสาว เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เธอระวังตัวมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น