คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ชีวิตของวันนี้
“ริ....มานั่งซึมอะไรอยู่ที่นี่คนเดียว ล่ะลูก”
เสียงของผู้เป็นลุงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ
“พ่อสงค์.....นั่นเอง ริมานั่งรับลมตอนเช้าค่ะ”
สิริยาบอก
“ใช่สินะ....บ้านเราอากาศดี เดี๋ยวริไปสอนหนังสือ ก็เจอแต่มลพิษ นี่”
หญิงสาวทำหน้าสดชื่นขึ้นมาทันทีทั้ง ๆ ที่จิตใจเธอเองยังไม่เป็นปกติเลย เธอไม่สามารถลืมเรื่องราวร้าย ๆ นั้นได้เลย
“วันนี้ ยายแมว จะทำอะไรให้ ริ กับ พ่อ กันน๊า เราลองมาทายกันไหม”
“งั้น....ริทายว่า ข้าวต้มปลาค่ะ”
“ไม่ได้สิ พ่อก็ว่าจะทายข้าวต้มปลา”
ทั้งคู่พากันเดินเถียงเรื่องการทายอาหารเช้า ซึ่งทั้งคู่ต่างก็รู้ว่า เช้านี้มีอะไรจึงจะขอเป็นฝ่ายตอบก่อน
....................................................................
“ริ ไปสอนก่อนนะค่ะ พ่อสงค์”
สิริยา บอก หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปหยิบสื่อการสอนและเดินไปที่รถ หญิงสาวจัดการเอาสื่อการสอนมาไว้ที่เบาะด้านหลัง
“ริ....ขับรถระวังด้วยนะ”
“ค่ะ....คุณพ่อสงค์”
หญิงสาวหันส่งยิ้มให้ผู้เป็นลุง ก่อนจะขึ้นรถและขับออกไป
.............................................................................
สิริยาขับรถไปยังสถาบันสอนพิเศษแห่งหนึ่ง วันนี้เธอได้รับเชิญให้ไปบรรยายพิเศษที่สถาบันแห่งนี้ พอรถของเธอแล่นเข้ามา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวเข้ามาหาเธอในขณะที่กำลังจอดรถ
“สวัสดีค่ะ”
ผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามาทักทายทันทีที่สิริยาเปิดประตูลงมาจากรถ ดูแล้วผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุมากกว่า เธอจึงยกมือไหว้ทำความเคารพ
“สวัสดีค่ะ ดิฉัน สิริยา บุณญกุล อาจารย์บรรยายพิเศษวันนี้ เอ่อ....มิทราบว่า คุณ...”
“คุณสิริยานั่นเอง สวัสดีค่ะ ไม่คิดว่าอาจารย์บรรยายพิเศษจะเด็กขนาดนี้ ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ ดิฉันเป็นเลขาของท่าน ผอ.ค่ะ คือวันนี้ท่านมาเปิดการบรรยายและวิชาต่อไปเป็นของคุณ ท่านเลยให้ดิฉันมารอรับ”
น้ำเสียงที่เอ่ยถึง ผอ.นั้นบ่งบอกว่าเขาคงไม่ค่อยคิดดูอะไรบ้างเลย ก็คิดดูสิ เลขาอายุก็เยอะพอควรกับให้มารออาจารย์พิเศษคนเดียว
สิริยา ยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เลขาคนนั้น ก่อนจะขอตัวเตรียมสื่อการบรรยายของเธอ
“จ่า เขาเป็นใคร”
เสียงเข้มที่เอ่ยถามดังขึ้น เพราะเกิดความสงสัย ปกติสถาบันการสอนแห่งนี้ไม่ค่อยมีอาจารย์ใหม่ ๆ เข้ามานี่
“อะไร....ไหน ใคร เหรอครับ สารวัตร”
“นั่นไง ผู้หญิงคนนั้นที่จัดอะไรสักอย่างอยู่ที่รถ”
ชายหนุ่มชี้ไปทางรถของสิริยา เพื่อให้จ่าสมปองเห็น
“นั่น....อ๋อ....คุณหนูริ”
“ใคร!!!....คุณหนูริ”
“สารวัตรมาใหม่ คงยังไม่รู้จัก คุณหนู.....คืออย่างนี้ครับ คุณหนูริเป็นลูกสาวของ คุณประสงค์ซึ่งก็ไม่เคยเห็นมีเมียแต่ลูกมายังไงก็ไม่รู้”
“รู้มากจังนะ จ่า....แล้วพอรู้ไหมว่าเธอมาสถาบันของนายพฤกษ์ ทำไม”
เขาพูดพร้อมมองร่างบางอย่างสนใจ
“คือ คุณหนูเป็นครูครับ ก็คงมาบรรยายพิเศษ”
จ่าสมปองบอก
สารวัตรหนุ่มมองตามร่างบางที่กำลังเดินเข้าไปในตัวตึก ที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งของสถาบันแห่งหนึ่ง ที่มีผู้สนับสนุนรายใหญ่ คือ พฤกษ์ ญสวรรษ
“เอ่อ....สวัสดีค่ะ ดิฉัน สิริยา บุณญกุล อาจารย์บรรยายพิเศษ มิทราบว่าต้องไปรอที่ไหนค่ะ”
ขณะที่เธอกำลังติดต่ออยู่กับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อยู่ ก็พอดีที่ พฤกษ์ ญศวรรษ เดินเข้ามา
“สวัสดีครับ”
เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง สิริยาจึงหันมอง
“สวัสดีค่ะ”
วินาทีแรกที่เขาเห็น เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อย และเต็มไปด้วยความสงสัยว่าเธอคืออาจารย์บรรยายพิเศษที่ดูเด็กมากเลยทีเดียว แววตาที่จ้องมองนิ่งเหมือนเดิมจนสิริยาต้องพูดขึ้นก่อน
“คุณเป็น ผอ.ของที่นี่ หรือเปล่าค่ะ คือ ดิฉันเป็ฯอาจารย์บรรยายพิเศษชั่วโมงต่อไปค่ะ อยากจะทราบว่าจัดบรรยายที่ห้องอะไร”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผม ผอ.พฤกษ์ ญศวรรษ ไม่นึกว่าจะได้ผู้ร่วมงานที่สวยขนาดนี้
.”
ชายหนุ่มยื่นมือมาตรงหน้าหญิงสาว
สิริยามองและก็ยกมือไหว้ ทำความเคารพ และว่า
“ดิฉัน พร้อมบรรยายแล้ว นำทางด้วยได้ไหมค่ะ”
พฤกษ์มองเธอตรงหน้า เขารู้สึกประทับใจเธออย่างมาก เพราะอย่างน้อยเธอก็ดูถือตัวดีเยี่ยม ไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยพบมา
“นำทางให้ คุณสิริยาด้วย.....”
เขาหันไปสั่งลูกน้อง และยิ้มให้เธอก่อนจะเดินไปอีกทาง
.....................................................................
หลังจากการบรรยายเสร็จสิ้น สิริยา เดินกลับมาที่รถโดยมีเลขาคนเดิมเดินออกมาส่ง
“จ่า....คุณหนูของจ่าออกมาแล้ว”
ภูวศิน พูดขึ้น เมื่อเห็นเธอเดินออกมา
“โธ่....สารวัตร อย่าพูดแบบนั้น เดี๋ยว....ผมก็ตาย เพราะคุณประสงค์ ท่านรักท่านห่วงและหวง ผมยังต้องเลี้ยงลูกสอง เมียอีกสาม นะครับ”
“เมียสาม!!!....จ่าระวังจะหัวแตกนะ ถ้าเมียรู้”
“........”
.........................................................................
“ส่งแค่นี้ก็พอค่ะ”
สิริยาหันมาบอกเลขาสาวใหญ่วัยกลางคน
“ค่ะ.....เดินทางกลับปลอดภัยนะค่ะ นี่ค่ะค่าบรรยาย คุณบรรยายได้ดีมาก คงคิวบรรยายแน่น”
“ก็มีบ้างค่ะ ปกติรับสอนชั่วโมงเรียน ถ้ามีเวลาถึงจะรับบรรยาย งั้นขอตัวก่อนนะค่ะ”
“ค่ะ”
เลขาพูดขึ้นแล้วยิ้มให้กับสิริยา
สิริยาขึ้นรถก่อนที่จะสตาร์ทรถ แต่เธอก็เสียเวลาอยู่นาน เพราะรถสตาร์ทไม่ติด สีหน้าของเธอเริ่มที่จะกังวลใจ เพราะไม่เคยรู้เรื่องรถเสียด้วย เธอตัดสินใจลงจากรถก่อนมาเปิดกระโปรงหน้ารถขึ้น
“เป็นอะไรนะ เมื่อเช้ายังดี ๆ อยู่เลย นี่นา”
ด้านสารวัตรภูวศินที่ยืนสังเกตการดูความเคลื่อนไหวของ พฤกษ์ อยู่นั้น เห็นว่าสิริยากำลังมีปัญหาจึงหันมาหาจ่าสมปอง
“จ่า....”
“ครับ สารวัตร”
“คุณหนูของจ่า ถ้าจะมีปัญหานะ”
จ่ามองไปยังร่างบางที่กำลังโทรศัพท์อยู่ คงจะเรียกช่าง
“สารวัตร เราเข้าไปดูรถให้คุณหนูริ กันไหมครับ”
“ได้สิ....ผมก็ขี้เกียจตามนายพฤกษ์ รู้ ๆ กันอยู่ว่า คนผิดคือ พ่อ แต่กับให้มาเฝ้าลูก ช่วยกันเห็น ๆ”
“เข้าไปเลยนะครับ”
“เดี๋ยวจ่า......ผมเป็นคนธรรมดานะ จ่านะ ห้ามเรียกสารวัตร เด็ดขาด”
“ครับผม......อุ๊ย.....ครับคุณเพื่อน”
ทั้งสองเดินเข้าไปหารถที่จอดเสียและเจ้าของรถ
“รถเป็นอะไรครับ คุณริ”
จ่าสมปองเอ่ยขึ้น
“สวัสดีค่ะ ลุงจ่า....คือว่า อยู่ดี ๆ ก็สตาร์ทไม่ติด นี่....ริก็โทรเรียกช่างแล้ว และก็เรียก TAXI แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะนานหรือเปล่า”
“เดี๋ยวจ่าจะดูให้”
“ขอบคุณค่ะ แต่วันนี้จ่าแต่งตัวหล่อขนาดนี้ไม่ต้องดีกว่า เดี๋ยวเสื้อผ้าจะเปอะเปรื้อนไป ริเรียกช่างแล้ว เดี๋ยวคงมา”
หญิงสาวสังเกตว่าขณะที่คุยอยู่กับจ่าสมปอง ทำไมผู้ชายคนนี้ต้องมาเดินวนดูรอบ ๆ รถของเธอด้วย
จ่าสมปองสังเกตเห็นสายตาของหญิงสาว จึงพูดแนะนำว่า
“คือ.....นี่เพื่อนจ่าเอง มาอยู่ที่นี่กับจ่าน่ะครับ”
“ค่ะ.....”
สิริยามองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง
“คุณหนู จะไปไหนต่อหรือครับ”
“คือ....ริ มีสอนต่ออ่ะค่ะ คงต้องงดสอน”
“เดี๋ยวผมไปส่งให้ก็ได้ จ่าเฝ้ารถ O_O...!!....ไม่ใช่....ผม หมายถึง เพื่อนเดี๋ยวฉันขับรถไปส่งคุณผู้หญิงให้ ฝากดูรถด้วย”
“คือ....อย่าลำบากเลยค่ะ”
“หนังสือนี่หรือเปล่าครับ ที่ต้องใช้”
ภูวศินเปิดประตูและก้มหยิบหนังสือเล่มหนาสองเล่มขึ้นมา แล้วถาม
สิริยาพยักหน้าแทนคำตอบว่า ใช่ แล้วเธอก็ต้องงง เมื่อเขาถือหนังสือของเธอเดินริ่วไปที่รถคันใหญ่ที่จอดอยู่
“จ่าค่ะ....คือ.....เอ่อ”
“ไปเถอะครับ....เดี๋ยวสอนไม่ทัน เพื่อนจ่าไว้ใจได้”
สิริยารีบเดินตามเขาไปที่รถอย่างเร็ว เมื่อเขาเตรียมจะออกรถแล้วจะปฏิเสธก็คงไม่ได้
ความคิดเห็น