คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : วิวาห์รักจัดผิดคู่ 13
กันญิกาหันกลับมาถามชายหนุ่มโดยไม่ได้สบตาหรือมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย
ภาคินนึกถึงคำพูดของภากรพี่ชายเขาที่ว่า
"นายคิน...มานั่งซึมอะไรอยู่ตรงนี้"
"พี่กร ผม..."
"เป็นอะไรไป ไอ้น้องชาย..."
"ผมไม่รู้ว่าจะลืมยังไงดี ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง รู้สึกไม่มั่นใจ มันบอกไม่ถูก"
ภากรยิ้ม เขาเข้าใจความคิดของน้องชายในตอนนี้ดี จึงหาวิธีให้น้องชายเขาได้รู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเอง
"นายคิน...พี่ถามนายตรง ๆ นะ นายชอบน้องนีใช่ไหม?"
"ผม...เอ่อ...ไม่...แน่ใจ"
"ไม่แน่ใจ นายคิน การที่นายขอหมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่พอมาอีกวันกับบอกว่าไม่แน่ใจเนี่ยนะ...มันไม่ตลกไปหน่อยหรอ"
"ผม..."
"ถ้านายไม่รู้สึกอะไรกับเขา...งั้น...ก็ดี"
ภากรบอกและทำเป็นลอยหน้าลอยตา ทำเอาภาคินนึกสงสัยจึงถามว่า
"ดี ยังไง"
"ก็ดี ตรงที่ถ้านายไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง พี่จะได้รับดูแล และทำให้เขามารักพี่น่ะสิ"
"พี่กรสนใจเขาอย่างนั้นหรอครับ"
"นีเขาก็น่ารักดี เป็นแม่บ้าน และเขาก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย อีกอย่างนายบอกว่าไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นใคร ๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปให้เขาเลือก"
ภากรบอก
ภาคินได้ยินดังนั้น จึงลืมตัวและพูดว่า
"พี่กร ผมรักนี ผมรักเขา พี่..."
ภากรยิ้ม และหัวเราะออกมา ในระหว่างที่ภาคินพูดอยู่ พอชายหนุ่มคิดได้ ก็หยุดและยืนนิ่งเฉย
"ยังเฉยอยู่อีก นายรู้ความรู้สึกตัวเองแล้ว ก็รีบไปตามที่หัวใจของตัวเองมันบอกสิ"
"ครับ ครับพี่กร ขอบคุณครับ"
............................................
"คุณ คุณ คุณภาคิน..."
กันญิกาเรียกภาคิน เมื่อชายหนุ่มเงียบไป
"เอ่อ..."
"ตกลง ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไรจะพูดคุยกับฉัน ฉันขอตัวนะค่ะ"
หญิงสาวหันหลังทำท่าจะเดินหนีออกไป
ภาคินจึงตะโกนบอกไปว่า
"พี่รักนี รัก...ได้ยินไหมครับ"
กันญิกาชะงักนิ่งกับที่
"นี...พี่"
"คุณพูดแบบนี้ทำไมกัน?"
"เพราะพี่พบความรู้สึก รับรู้แล้วว่ารู้สึกยังไง ว่าตัวเองอยากวางเป้าหมายชีวิต วางหัวใจไว้กับใครแล้วไงครับ และคน ๆ นั้น ก็อยู่ตรงหน้าพี่แล้ว"
กันญิกาหันมามองภาคิน
ภาคินเองก็มองหญิงสาวด้วยแววตาหวานซึ้ง จนกันญิกาเริ่มรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาเลยเบือนหน้าหนี ไปทางอื่น
..............................................................................
"ซึ้งนะคุณ..."
เสียงของใครคนหนึ่ง ทำให้ชญานิษฐ์หันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียง
"คุณภากร"
"ไงบ้างเห็นน้องสาวมีความสุข คุณสนใจมากไหม ผมว่างนะ ผมให้คุณยืมไหล่แสนอบอุ่นของผมไว้แอบอิงได้นะคุณ"
"ตลกแล้ว คุณภากร"
ชญานิษฐ์เดินออกมา ภาคินว่างตามไปขวางไว้
"เดินหนีทำไมคุณ กลัวหวั่นไหวรึไง....หรือว่ากลัวแฟนคุณเข้าใจผิด"
ภากรบอก
"นี่...ฉันไม่เคยพิสวาทคุณสักนิด อีกอย่าง...ฉันว่าคุณก็อายุมากแล้วนะ ลำพังที่น้องชายคุณเป็นมันก็พอดูได้ แต่นี่เป็นคุณมันทุเรศ"
ชญานิษฐ์พูดจบ ก็เดินหนี แต่ภากรคว้าแขนเธอไว้
"ผมนึกว่าคุณชอบแบบนี้ซะอีก เหมือน..."
"ฉันไม่สนใจอะไรบ้า ๆ แบบนี้ หรือแบบไหนทั้งนั้น"
หญิงสาวสบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของภากร เธอผลักเขาให้หลับ
ภากาจึงตัดสินใจดึงหญิงสาวเขามากอด
"นี่...คุณภากร ...ปล่อย!!!"
"คุณนี่มัน...ดื้อชะมัดยาก"
ภากรบอก
ชญานิษฐ์จ้องใบหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เธอดิ้นแต่ยิ่งดิ้น ภากรก็ยิ่งรัดตัวเธอแน่นยิ่งขึ้น
"คุณมากอดฉันทำไม ปล่อยนะ"
คำพูดของชญานิษฐ์ ทำให้ภากรได้คิด - จริงสิ แล้วเรามากอดยายนี่ทำไม -
"ผมขอโทษ งั้น...ผมจะปล่อย แต่เราทั้งหมด ต้องไปทานข้าวกลางวันที่บ้านคุณแม่ผม"
"รู้แล้ว...ปล่อย"
ภากรปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ
..............................................
ตลอดทางชญานิษฐ์เป็นคนเดียวที่นั่งหน้าหงิก หน้างอ ไม่พูดไม่จา
"นี...เมื่อยไหม"
ภาคินหันมาถามคู่หมั้นสาว
ชายหนุ่มนั่งประจำตำแหน่งข้างหน้า ข้าง ๆ กับภากร ที่ประจำตำแหน่งคนขับ ส่วนสองสาวนั่งเบาะหลัง
"เกินไป นายคิน...เวอร์เชียว"
ภากรแซวน้องชาย
กันญิกายิ้มอย่างเอียงอาย
"คุณพี่สาว นั่งเงียบ ๆ เป็นอะไรหรือครับ"
ภากรกระเซ้าแย่หญิงสาว
"ช่างฉัน...
ชญานิษฐ์สะบัดหน้าหนี มองออกไปนอกหน้าต่างรถ เธอมองวิวข้างทางอย่างเงียบ ๆ และนึกโมโหภากรไม่หาย
คุณหญิงภควรรณเดินออกมรับลูกชายและหลานสาวอย่างตื่นเต้นอย่างน้อย แม้ว่าสองสาวจะขอย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ต้องกลับมาบ้านของคุณหญิงเป็นประจำอย่างขัดไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างกันญิกากับภาคิน ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
"คุณแม่ครับ...นียอมเป็นคู่หมั้นผมด้วยใจจริงแล้วครับ"
ภาคินกระซิบบอกมารดา
ประโยคนี้ทำเอาคุณหญิงภควรรณยิ้มแก้มปริ แม้ว่ามันดูผิดคู่กับพี่วางไว้ก็เถอะ
"เข้าบ้านกันเถอะลูก"
คุณหญิงบอก
ขณะที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน ภากรหันไปมองที่รถ ชายหนุ่มเห็นชญานิษฐ์ยืนกอดอกพิงประตูรถของเขาอยู่ เขาจึงหันกลับและเดินเข้าไปหาเธอ
"นี่...คุณชญานิษฐ์ จะไม่เข้าบ้านหรือไง"
"..."
ชญานิษฐ์ไม่ตอบ หญิงสาวแบมือข้างขวาและยื่นมาที่เขา ทำไมภากรอดที่จะถามไม่ได้ว่า
"อะไรของคุณ"
"ฉันขอกุญแจรถหน่อยสิ อยากออกไปขับรถเล่นซะหน่อย"
"คุณจะออกไปทำไมกัน"
"นี่...คุณภากรที่ฉันจะขอยื่นรถนะ ไม่ได้เอารถไปขาย"
"แล้วคุณจะเอาไปทำไมกัน"
"ฉันขอกุญแจรถ ก็แสดงว่าต้องการใช้รถ ถามอะไรของคุณ ไม่ฉลาดเลย..."
ประโยคหลังหญิงสาวพูดเบา ๆ แต่ว่าภากรได้ยินอย่างชัดเจน
"ขอโทษที่ผมถามโง่ ๆ แต่คุณจะเอารถออกไปไหนอีก ใกล้เวลาอาหารแล้ว"
ภากรบอก
"ตกลงคุณจะให้กุญแจฉัน หรือเปล่า"
"ไม่"
ภากรและชญานิษฐ์ต่างจ้องมองกันอย่างเอาเรื่องชญานิษฐ์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดเบอร์อรรถวุฒิ
"....อรรถหรอ"
"นายว่างมา...."
...........................................................
"นี่...เอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ"
ชญานิษฐ์ร้องโวยวาย เมื่อถูกภากรดึงโทรศัพท์ไปจากมือ และตัดสายของเธอทิ้ง ก่อนที่จะเอาโทรศัพท์ของเธอใส่กระเป๋าเสื้อไว้
"เสียเวลา...ไม่ต้องโทรให้กิ๊กของคุณมารับหรอก ไปทานข้าวด้วยกันกับคนในบ้านดีกว่า...เชิญ"
เขาผายมือให้หญิงสาวเดินนำ
ชญานิษฐ์มองมือเขานิดนึง ก่อนจะหันหลังให้และกลับไปยืนพิงรถ กอดอกอยู่ที่เดิม
ภากรรู้สึกหมั่นไส้ ชายหนุ่มคว้าข้อมือของหญิงสาวก่อนจะกระชากให้เดินตามแรงของเขามา
"นายภากร ปล่อยมือฉันนะ"
"เดินตามมาดี ๆ จะได้ไม่เจ็บ ถ้ายังฝืนเจ็บตัวไปฉันไม่รับผิดชอบนะ"
"ปล่อย"
ชญานิษฐ์ยังคงดื้อพยายามขืนตัวไว้
"ปล่อยสิ"
"ไม่"
...โอ๊ย...
เสียงร้องของชญานิษฐ์ และประกอบกับหญิงสาวทิ้งตัวลงนั่ง ทำเอาภากรต้องหันกลับมามองเจ้าของข้อมือที่เขาจับอยู่
"คุณ...เป็นอะไร"
"ออกไปเลย...นายคิดแกล้งฉันใช่ไหม...โอ๊ย"
"อะไรของคุณ..."
ภาคินมองที่มือหญิงสาว ชญานิษฐ์ใช้อีกมือกดที่ฝ่ามือที่เขาจับในตอนแรก
"ขอผมดูหน่อยสิ"
เขาพยายามดึงมืออีกข้างของเธอออก พอดึงได้สำเร็จ ก็พบว่าที่ฝ่ามือของหญิงสาวมีรอยบาดลึกพอสมควร และมีเลือดไหลออกมาทันทีที่ไม่ได้กดปากแผลไว้
"เอ่อ.."
"ไงล่ะ...นายทำฉันเลือดออก ซะใจแล้วใช่ไหม"
ชญานิษฐ์โวยวาย
"ผมขอโทษ..."
ภากรมองที่ข้อมือเขา ที่ข้อมือของเขามีนาฬิกายี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเขาสั่งทำเป็นพิเศษให้มีหน้าปัดนาฬิกาที่เป็นเหลื่ยมคมพอสมควร ถ้าปาดหรือขูดแรง ๆ ก็มีโอกาสได้เลือดอย่างหญิงสาว
"นายมาดึงฉันทำไมอีก...จะไปไหนอีกล่ะ"
"ไม่ดึงก็ได้ งั้นจะประคองคุณไป ผมจะพาไปทำแผล"
"ไม่ต้อง...ฉันเดินไปเองได้"
ภากรหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงและจับมือของหญิงสาวมา ชายหนุ่มใช้ผ้าเช็ดหน้าพันไปที่ฝ่ามือของเธอ
"มีอะไรกันรึเปล่า ตากร"
ความคิดเห็น