ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์รักจัดผิดคู่

    ลำดับตอนที่ #10 : วิวาห์รักจัดผิดคู่ 10

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 51


       กันญิการีบนั่งลงเหมือนกลัวว่าพี่สาวจะเปลี่ยนใจสลับที่กับเธอ ทั้งหมดทานอาหารเช้าร่วมกัน 

       หลังจากเรียบร้อยแล้ว ภากร ภาคิน และคุณหญิงภควรรณก็ออกไปทำงานด้วยกัน ส่วนชญานิษฐ์ก็ไปกับกันญิกาสองสาวพี่น้องจัดการซื้อตึก เพื่อจะทำร้าน และชญานิษฐ์ก็มีความคิดบางอย่าง คือ

    นี...ทำไมเราไม่ทำที่พักที่นี่เลยล่ะ ดูสิตึกนี้มีตั้งหลายชั้น กว้างก็กว้าง ข้าง ๆ ก็มีเนื้อที่อีกมาก พี่ว่าถ้าเราซื้อที่เพิ่มอีกนิดหน่อยปลูกบ้านหลังโต ๆ ได้เลย ตึกข้าง ๆ พี่ว่าจะขอทำเป็นสำนักงาน

    ค่ะ นีว่าเรามาตกแต่งให้ที่นี่เป็นบ้านอีกหลังของเราก็ได้นี่ค่ะ พี่นิษฐ์ นีไม่อยากรบกวนคุณน้า

    เห็นด้วยใช่ไหม...งั้นตกลงตามนี้นะ ตึกข้าง ๆ ก็ยกให้พี่แล้วกัน ตกลงไหม

    ค่ะ...พี่นิษฐ์จะได้ทำเป็นสำนักงาน พี่นิษฐ์กับทีมงานก็ออกแบบตกแต่งภายใน ส่วนนีก็ออกแบบเครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย ยังไงเราก็ทำงานร่วมกันได้

    งั้น...ตกลงตามนี้นะ

    .......................................

    อะไรกันจ๊ะ...หนูนิษฐ์ หนูนี ทำไมถึงจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกล่ะลูก มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า หรือว่าใครทำให้ไม่พอใจ บอกน้าได้นะ

    คุณหญิงภควรรณพูดขึ้น เมื่อชญานิษฐ์บอกจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่

    เปล่าค่ะ...คุณน้าวรรณ คือว่าเราสองคนหาทางขยับขยายที่อยู่ได้พร้อมแล้ว ก็มาบอกคุณน้าวรรณไว้ก่อน

    ค่ะ...นีไม่อยากเป็นภาระรบกวนคุณน้า อีกอย่างงานของนีกับพี่นิษฐ์ควรมีพื้นที่ส่วนตัวมาก ถ้าทำที่บ้านคุณน้าคงไม่สะดวก แต่ที่ที่นีกับพี่นิษฐ์ซื้อไว้มีพร้อมทุกอย่างนะค่ะคุณน้า

    กันญิกาช่วยพี่สาวพูดอีกแรง

    ตามใจ...แต่หนูทั้งสองคนต้องบอกคุณแม่กับพ่อผู้ใหญ่ด้วยนะ

    ค่ะ...ขอบพระคุณคุณน้าวรรณมากที่คอยดูแลนิษฐ์กับน้องด้วยดีตลอดมา

    สองสาวก้มกราบที่ตักของคุณหญิงภควรรณ ซึ่งคุณหญิงก็ลูบศรีษะทั้งสองอย่างเอ็นดู

    .....................................................................

       ชญานิษฐ์กับกันญิกาแยกย้ายกัน กลับเข้าห้องส่วนตัวของตัวเอง

        กันญิกากดปิดล็อกประตูห้อง ก่อนจะว่างกระเป๋าสะพายไว้ที่โต๊ะ และต้องตกใจเมื่อไฟที่หัวเตียงติดขึ้นเอง

    ได้ยินว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น...

    เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น ก็ไม่ใช่ใครนอกจากภาคิน ที่เข้าห้องของกันญิกาเป็นว่าเล่น

    คุณเข้ามาได้ยังไง...

    ฉันถามเธอก่อน เธอก็ควรตอบมาก่อน

    ภาคินพูด 

       ชายหนุ่มหรี่ตามองหญิงสาวด้วยความหมายว่า ควรตอบคำถามของเขาเสียดีกว่าจะได้ไม่เป็นปัญหา

    ใช่...

    ทันที...ที่กันญิกาบอก ภาคินก้าวเข้าหาเธอทันที และผลักเธอให้ชิดฝาผนังของห้อง

    นี่...จะทำอะไร...ปล่อยนะ

       หญิงสาวดิ้นรนแต่จะขยับตัวไปไหนคงไม่ได้ เพราะหลังติดกำแพงและด้านหน้าก็เป็นตัวเขา

    ไม่ทำอะไรทั้งนั้น...ถ้าคุยกันรู้เรื่อง...

    ภาคินบอก

    งั้น...คุณ...ก็ปล่อย...ฉันก่อนสิ

    ได้...แต่บอกก่อนนะว่า อย่างวิ่งหนี อย่าส่งเสียงดัง...ตกลงไหม

    อืม...

    ภาคินดึงให้กันญิกามานั่งที่เดียง ส่วนเขาก็ดึงเก้าอี้ของโต๊ะเครื่องแป้งมานั่ง

    จะไปจริง ๆ ใช่ไหม

    ภาคินถาม

    กันญิกาพยักหน้า

    จะไปพักที่ใหม่...ที่ไหน

    ที่ร้าน...ตึกที่พี่นิษฐ์กับฉันซื้อไว้ คุณก็เคยไปแล้วไง

    แล้วมีใครอีก...นอกจากพี่สาวเธอกับเธอที่จะพักที่นั่น

    ก็...คงเพื่อน...

    ได้ผู้ชายวันนั้นใช่ไหม...

    ฉันยังไม่แน่ใจ...เพื่อนพี่นิษฐ์มีตั้งหลายคน...

        ภาคินจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว เขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสหรือเวลาในการสานสัมพันชิดใกล้กับเพื่อนร่วมงานของพี่สาวเธอแน่นอน เขาไม่รู้ว่าทำไมต้องรู้สึกหวงแหนเธอขนาดนี้ 

       ภาคินลุกจากเก้าอี้และเดินออกไปจากห้องของหญิงสาวทันที

       ชายหนุ่มเข้าไปในห้องส่วนตัวของมารดาเขา

    ตาคิน มีอะไรลูก ดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ ทำไมยังไม่นอน

    ผมต้องการหมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่งครับคุณแม่

    ...อะไรนะ...

    คุณแม่ ผมต้องการหมั้นหมายกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนที่เธอคนนั้นจะจากผมไป

    ...ทำไมจะมีใครมาพรากเขาไปจากเราหรือไง แล้วลูกสาวบ้านไหนล่ะ แม่รู้จักไหม

    รู้จักสิครับ รู้จักดีด้วย เพราะเป็นลูกสาวเพื่อนคุณแม่ บ้าน กรกิจโชติ

    หนุนิษฐ์หรอลูก

    ไม่ใช่ครับ...ผมไม่ได้ต้องการหมั้นกับชญานิษฐ์ ผู้หญิงที่ผมต้องการหมั้นด้วยคือกันญิกา
    ครับ

    หนูนี...อย่างนั้นหรอ

    ครับ

    ได้...แม่จะคุยกับป้ามลและผู้ใหญ่กันธรให้ แต่ว่าเราไปรักไปชอบน้องตั้งแต่เมื่อไหร่

    ผมก็ไม่รู้ครับแม่ แต่ว่าพอได้ยินว่าเขากำลังจะย้ายออกไป...บางอย่างมันบอกผมว่าให้ผมรีบตัดสินใจเดี๋ยวนี้...

    ได้...

    ขอบคุณ ครับ ... คุณแม่

    ภาคินกราบขอบพระคุณมารดาของเขา

    "สวัสดึค่ะ คุณพี่มล"
    คุณหญิงภควรรณโทรหาคุณชญามลกลางดึก หลังจากคุยกับลูกชายคนเล็กเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
    "สวัสดีค่ะ คุณวรรณมีอะไรรึเปล่าค่ะ ถึงได้โทรมาตอนดึกดื่นขนาดนี้"
    คุณชญามลถามด้วยความแปลกใจ
    "คือว่า ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี เหมือนกันค่ะ"
    "ยังไงก็ได้ค่ะ ว่ามาเถอะ"
    "คือว่า อย่างนี่นะค่ะคุณพี่ คือตาภาคินหลงรักลูกสาวคุณพี่แล้วค่ะ"
    "ยายนิษฐ์หรือค่ะ...งั้น...ก็แสดงว่าแผนเราสำเร็จสิค่ะ"
    "ไม่ใช่ค่ะ...คนที่ตาภาคินหลงรัก เป็นหนูนีค่ะ ไม่ใช่หนูนิษฐ์"
    "ว่าไงนะค่ะ ตาคินหรือค่ะ หลงรักยายนี"
    "ค่ะ...เขาพึ่งมาคุยกับดิฉันเมื่อครู่นี้เอง เขาอยากจะขอหมั้นไว้ก่อนก็ได้ เขากลัวว่าต้องเสียหนูนีไป ถ้ามัวแต่ชักช้าอยู่"
    "งั้น...ดิฉันจะคุยกับพ่อผู้ใหญ่กันธรก่อนแล้วกันนะค่ะ คุณวรรณ..."
    "ค่ะ คุณพี่"
    .................
         ภาคินถือถ้วยกาแฟออกมานอกตัวบ้าน และเดินเข้ามาในสวยที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามตรงหน้าบาน ชายหนุ่มได้แต่หงุดหงิดคิดวนกลับไปกลับมา เขามานั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่
    "ยังไม่นอน อีกหรอนายคิน"
    ภากรถามน้องชาย
    "ครับ...แล้วนี่พี่กรล่ะครับ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน"
    "วันนี้มีประชุมทั้งวัน ฉันเลยเคลียร์เอกสาร เนี่ยก็พึ่งจะเสร็จ...กะว่าออกมารับน้ำค้างสักหน่อยแล้วจะไปนอน"
    "พักนี้พี่คงงานยุ่งมาก ผมขอโทษครับพี่ที่ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระพี่เลย"
    "ไม่เป็นไร...เมื่อรู้ตัวก็ปรับตัวเองเสียใหม่แล้วกันนะ"
    "ครับ..."
    ภากรยืนมองท้องฟ้าที่มืดสนิทสักพัก ก็จะกลับเข้าไปในบ้าน แต่ว่าภาคินเรียกไว้เสียก่อนแล้วว่า
    "พี่กร..."
    ภาคินหันมาทางภาคินนิดนึ่ง
    "มีอะไร...วามาสิ"
    "พี่รู้สึกยังไงกับกันญิกา บ้างครับ"
    "น้องนีน่ะหรอ ก็เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย น่ารักดี"
    "เอ่อ...พี่กร ชอ...ชอบกันญิกา หรือเปล่า"
    "ถ้าให้ชอบเชิงหญิงชายคงไม่ใช่ พี่เห็นนีเป็นแค่น้องสาวที่น่ารักคนหนึ่งเท่านั้น"
    "ผมชอบเขา"
    "งั้น...เรื่องนี้ นายก็ต้องคุยกับเธอเอง"
    "ครับพี่กร"
    ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
       ภาคินเดินกลับเข้ามาในบ้าน เขาเห็นแสงไฟรอดออกมาทางช่องประตูห้องของกันญิกา แสดงว่าหญิงสาวยังไม่นอน เขาจึงลองเคาะประตูดู
    "ใครค่ะ"
    "ฉันภาคิน...ขอคุยด้วยสักครู่...ได้ไหม"
    "แต่ว่านี่มันดึกแล้วนะ"
    "ครู่เดียว"
    หญิงสาวเปิดประตูออกมา
    "เข้าไปได้ไหม"

    กันญิกามองหน้าเขา ทำไมอยู่ดี ๆ เขาถึงดูแปลกไป สุภาพขึ้นมาก ปกติ...ถ้าภาคินต้องการเข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอ ก็มักจะเข้ามาโดยพลการเสมอ
       ภาคินก้าวเข้ามาในห้อง เมื่อกันญิกาเบี่ยงตัวหลบให้เขาเข้ามา เขามองไปที่เตียงมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่วางอยู่ เขาหันกลับมามองหญิงสาว ผมยาวสลวยถูกปล่อย ภาคินชอบเวลาที่หญิงสาวปล่อยผมแบบนี้ เธอดูน่ารักและสวยมากสำหรับเขา
    "มานั่งคุยกันหน่อยซิ"
    ชายหนุ่มบอก และพยักหน้าเรียกหญิงสาว
    "เอ่อ..."
    กันญิกา มอง เหมือนจะอ่านความคิดของเขาว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่
    "รู้ไหมว่า ฉันรู้สึกยังไงกับเธอ..."
    "ไม่..."
    หญิงสาวส่ายศรีษะไปมา
    "เธอคงคิดว่าฉัน มันพวกคนเจ้าชู้เสเพไปวัน ๆ ไปเป็นรั้วเป็นพาย ใช่ไหม..."
    ภาคินพูด
       กันญิกาเริ่มไม่เข้าใจในคำพูดของเขา
    "คุณเป็นอะไรหรือเปล่า..."
    "เปล่า...ไม่ได้เมาด้วย ไม่ได้ดื่ม แต่ถ้าจะเมาก็คงเมากาแฟมั้ง"
    "แล้วคุณอยากบอกอะไรก็บอกมาสิค่ะ"
    ร่างสูงยืนขึ้น เขาก้าวเข้ามาหาร่างบางก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาว
    กันญิกาตกใจ และรู้สึกงงอย่างมาก
    "คุณ จะทำอะไร"
    "กันญิกา เรามาลองคบกันได้ไหม..."
    "เอ่อ..."
    "ฉันสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินเธอ"
    "คุณ พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า"
    "รู้...รู้ดีทุกอย่าง เธอตอบฉันมาดีกว่า จะคบหรือว่าไม่คบ...เท่านั้น"
    "คุณจะมาคบกับฉันเพื่ออะไร ในเมื่อคุณเคยบอกว่าไม่มีทางสนใจผู้หญิงอย่างฉัน"
    "แต่วันนี้...ฉันขอบอกกับเธอใหม่ ว่าต้องการเธอ"
    มือใหญ่ของภาคินจับมือบางของเธอไว้ และบอกต่อว่า
    "ฉันยังไม่แน่ใจว่ารักหรือยัง แต่ไม่อยากให้เธอห่างไป ไม่อยากห่างจากเธอ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×