คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [Chapter 14] My Lovely changmin - เอาคืน
ตอนที่ 14
สามวันผ่านไป
ยูฮวานก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย
ชางมินถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอน
วันนี้วันอาทิตย์ ก็ดีเหมือนกันเค้าจะได้พักผ่อนเสียที
ไปทำงานทุกวันจนหัวจะระเบิด
ไหนจะเรื่องของมินโฮ พี่ยุนโฮ และยูฮวาน
แค่นี้เค้าก็ปวดหัวพอแล้ว
“ชางมิน… คืนนี้ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อยนะ”
เสียงพี่ชายร้องบอกขึ้นทันทีที่เข้ามาในห้อง
ร่างสูงมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด
“จะไปไหนหรอฮะพี่จุนซู”
“อ…เอ่อ จะไปซื้อของหน่อยนะ”
ว่าแล้วก็เดินออกจากบ้านไปทันที
ไม่ปล่อยให้น้องชายได้ท้วงติง
.
.
‘ชางมินมันน่ากลัวชิหาย ไอ้ค่ายฝึกพิเศษที่ส่งมันไป ช่วยปลุกสันดานความน่ากลัวหรอไง?’
ร่างอ้วนกลมครุ่นคิดก่อนจะเดินไปตามทางเรื่อยๆ
จนกระทั่งมีรถตู้สีดำคันหนึ่งวิ่งโฉบเข้ามา
“เฮ้ย!! จะทำอะไร ปล่อยฉัน!!”
จุนซูร้องลั่นทันทีที่อยู่ๆก็ถูกผลักขึ้นรถไป
“สวัสดีครับ คิมจุนซู”
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทันที
คนถูกเรียกค่อยๆปรับสายตาและหันมองใครอีกคนที่อยู่บนรถคันเดียวกัน
“นาย..!! ปาร์คยูชอน!!”
“ถูกต้องนะคร๊าบ!!”
อีกฝ่ายว่าสีหน้ายียวน
จุนซูมองอีกฝ่ายอย่างงุนงงก่อนจะถามออกไป
“นายทำบ้าอะไร จับฉันมาทำไม!! แล้วมัดฉันทำไมเนี่ย!!”
“ก็เรามีนัดกันไม่ใช่หรอไง ^^”
ร่างสูงร้องบอก พลางชูโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัว
จุนซูครุ่นคิดก่อนจะนึกขึ้นมาได้
“ชิ๊กกี้!! ในทวิตคือนายหรอกหรอ?”
“ปิ๊งป๋อง~!” ยูชอนว่าสีหน้ายิ้มแย้ม
ก่อนจะบอกคนขับให้ออกรถ
“แล้วจะพาฉันไปไหน!! แก้มัดให้ฉันสักทีเซ่! มันเจ็บนะ!!”
คนที่ถูกพามาร้องโวยวายเมื่อเชือกที่มัดข้อมือของเค้าเอาไว้เริ่มทำให้เค้ารู้สึกอึดอัด
แต่คนฟังยังคงยิ้ม “อยู่นิ่งๆสิครับ เพราะถ้ากระผมทนไม่ไหว คุณอาจจะเจ็บตัวได้ ^^”
ไม่ว่าเปล่าแถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้
จนใบหน้าห่างกันไม่กี่เซ็น
จุนซูพยายามถอยห่าง
แต่ก็ได้แค่นั้นเพราะอยู่บนรถ แถมยังถูกมัดติดกับราวที่จับด้านบน
เมื่อยูชอนเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปแล้วก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
“ดีมาก ทำตัวน่ารักๆ แบบนี้จะได้ไม่เจ็บตัว”
ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปคว้าโทรศัพท์ของอีกฝ่ายขึ้นมา
แล้วกดโทรออกเข้าเบอร์บ้านของคนอื่นหน้าตาเฉย
“นายทำบ้าอะไร!!” จุนซูเริ่มเห็นลางไม่ดี
ตะโกนออกไป แต่ก็จำต้องหุบปากเงียบ
เมื่ออยู่ๆร่างสูงตรงหน้าก็ยื่นหน้าเข้าไปประกบริมฝีปากจนอีกฝ่ายไม่สามารถเล็ดรอดคำพูดใดๆได้อีก
ยูชอนผละริมฝีปากของตนออกมาอย่างเสียดายนิด ๆ
ก่อนจะหันมาสนใจกับโทรศัพท์ในมือ
เมื่อได้ยินเสียงคนรับ
“อ้าว ว่าไงจุนซู ไหนบอกจะออกไปซื้อของ?”
เสียงนี้จำได้ดีพี่ชายคนโตของเค้าไม่ผิดแน่
จุนซูคิดในใจไม่กล้าพูดออกไป
“จุนซูไม่อยู่ฝากโทรมาบอกว่าคืนนี้คงไม่กลับ ไม่ต้องรอ”
“อ้าวนั้นเสียงยูชอนไม่ใช่หรอ? พูดบ้าอะไรของนาย?”
แจจุงร้องถามอย่างงุนงง
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบแล้วกดตัดสายทิ้งทันที
“นายทำบ้าอะไร! ไปพูดอย่างนั้นพี่แจจุงก็เป็นห่วงฉันพอดี”
“เป็นห่วงหรอ? นี้มันพึ่งจะเริ่มต้นเองนะจุนซู~”
ว่าแล้วร่างสูงก็ไม่รอช้า
โน้มตัวลงไปอีกครั้งก่อนจะมอบจูบเร่าร้อนให้ทันทีอย่างไม่รอคำเชิญ
บนรถตู้สีดำที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความรวดเร็ว
ร่างหนึ่งพยายามขัดขืนแต่อีกคนกลับไม่สนใจ
“ป..ปล่อย! นายทำบ้าอะไร!!”
“ทำอะไรหรอ? ทำแบบที่น้องชายสุดที่รักของนาย ทำกับน้องชายของฉันไง!!”
ยูชอนว่าด้วยแรงอารมณ์
ความหงุดหงิดค่อยๆเข้ามาในจิตใจเมื่อรู้เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับน้องชายตัวเอง
ไม่คิดว่ารักก็ส่งผลร้ายได้เหมือนกัน
ตอนนี้ร่างสูงไม่มีสติพอที่จะยั้งใจได้อีกต่อไป
เรือนร่างของน้องชายสุดรักสุดหวงที่เต็มไปด้วยร่องรอยจากไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้
ยอมตอนที่ไปรับมาจากโรงพยาบาล
แทบทำให้คนเป็นพี่สติหลุด
“นายมันผิดเองที่เกิดเป็นคิมจุนซู เกิดอยู่ในครอบครัวอัปยศ!”
คำพูดร้ายกาจจากผู้ชายตรงหน้าทำให้คนฟังหัวเสีย
กล้าดียังไงมากล่าวหาครอบครัวของเค้า
จุนซูไม่รอช้าชกลงไปบนหน้าเนียนนั้นไม่ยั้ง ทันทีที่เชือกมันหล่นตกลงพื้น
จนใบหน้าขาวๆหันไปตามทาง
ร่างสูงปาดเลือดออกที่มุมปากก่อนจะหันมายิ้มเยาะ
“คงไม่เคยรู้สินะ ว่าครอบครัวสุดแสนเพอร์เฟคของนาย มันก็แค่ภาพมายา!!”
“นายพูดบ้าอะไร!! นายไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาครอบครัวของฉัน”
จุนซูขึ้นเสียงใส่ พยายามจะกระโดดลงจากรถ
แต่ยูชอนเร็วกว่ากดร่างตรงหน้าลงกับเบาะรถทันที
ก่อนจะหยิบเชือกอันที่แล้วมามัดไว้ที่ข้อมือของอีกฝ่ายแน่นขึ้นกว่าเดิมจนขยับไม่ได้
“ป..ปล่อยฉัน นะ อื้ออ!” พูดยังไม่ทันจบ ยูชอนก็ตรงเข้าไปปิดปากอีกฝ่ายด้วยริมฝีปากหยักของตนทันที
ช่วงชิงจูบของอีกฝ่ายไม่ยั้ง จนมันแดงช้ำไปหมด
แต่เค้าก็หาได้สนใจ
มือหนาปลดเปลื้องเสื้อตัวบางของอีกฝ่ายออกทันที
จนคนที่รู้สึกถึงลางร้ายได้แต่ดิ้นไปมา พลางร้องโอดครวญ
“ปล่อย! ปล่อยฉัน! จะทำอะไร อื้ออ!”
แต่เมื่อส่งเสียงออกไปเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็จะจูบลงมาไม่ยั้ง
จนหายใจไม่ออก
มือหนาก็ไม่อยู่เฉย ลูบไล้ไปมาตามผิวเนียนใสอย่างนึกสนุก
ริมฝีปากหยักเลื่อนต่ำลงมาจนถึงต้นคอ เนินอก แต่งแต้มรอยไปตามส่วนต่างๆ
จนคนที่นอนดิ้นรนได้แต่ร้องครางออกมาไม่เป็นภาษา
“อื้อออ~! ไม่..ม..อย่า!”
“ยังจะพูดว่าอย่าอยู่อีกหรอ หืม?” สีหน้ายียวนกวนประสาทมาพร้อมกับมือหนาที่ค่อยๆ ปลดเปลื้องกางเกงตัวโคร่งของเค้าลงช้าๆ
หัวใจเต้นรัวเหมือนกำลังจะระเบิดออกมาเมื่อมือหนาเคลื่อนต่ำลงไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของตน
มือบางเหยียดตรง ร้องครางเสียงหวาน
ร่างสูงส่งยิ้มยินดีเมื่อได้ยิน
ก่อนจะโน้มตัวลงไปกอบกุมส่วนนั้นด้วยเรียวปากอิ่มของตน
“อื้อออ~! ม..ไม่!”
ศีรษะของคนตรงหน้าขึ้นลงตามจังหวะ ไปพร้อมๆกับความต้องการของอีกฝ่ายที่ถูกจุดขึ้นมา
และเมื่อเห็นว่าเป็นไปตามที่ตนต้องการ
ยูชอนก็ขบเม้มลงไปตรงส่วนปลายไม่ยั้ง
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นก่อนจะครางออกมา
“อื้อออ ม..ไม่ไหวแล้ว อื้ออ ช่วยที”
คำพูดแต่ละคำ เจ้าตัวคงไม่รู้สักนิดว่าตนเผลอพร่ำบอกอะไรน่าอายออกมา
ยูชอนยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะถอยห่างออกมาอย่างกับต้องการจะแกล้งยั่วอีกฝ่าย
“จุนซูนายรู้ไหม…นายไม่มีสิทธิมาสั่งฉันหรอกนะ”
ร่างสูงถอยกลับมานั่งลงที่เดิม เฝ้ามองอาการของคนที่สติกระเจิงอย่างรู้สึกสนุก
เมื่อเห็นอีกฝ่ายดิ้นรนหาทางปลดปล่อยให้กับตัวเอง
แต่ก็ไร้ความหมายเมื่อมือทั้งสองข้างยังคงถูกรัดแน่นไว้กับราวที่จับด้านบน
ขาเนียนใสค่อยๆเคลื่อนตัวไปมาบิดเร่าอย่างกับต้องการจะบรรเทาอาการวูวหวาม
แต่มันกลับไม่ได้ผลเอาเสียเลย
ยูชอนมองอย่างนึกสนุก แต่แล้วอยู่ๆเหมือนส่วนนั้นของเค้าจะถูกปลุกขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“อื้ออ!” ร่างสูงเผลอครางออกมา
เพียงแค่เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย
ก็ทำให้เค้ามีอารมณ์ได้แล้วหรือ?
‘งานของเราไม่ควรเอาหัวใจเข้ามามีเอี่ยว’
คำพูดที่เคยสอนน้อง บัดนี้ฉายชัดอยู่ในสมอง
แต่ส่วนนั้นมันก็ปวดหนึบๆ จนเค้าเองก็แทบทนไม่ไหว
เดินตรงเข้าไปใกล้อีกฝ่ายปลดกางเกงของตนลงมา
ก่อนจะค่อยๆแทรกแกนกายของตนยังช่องทางหลังของคนตรงหน้าอย่างไม่มีการเบิกทาง
ส่วนนั้นที่คับแน่นอยู่ด้านหลังกำลังทำให้คนถูกกระทำอึดอัด
“ฮึก! เจ็…บ”
“นายไม่มีสิทธิร้อง นี่ฉันใจดีช่วยปลดปล่อยให้นายแล้ว อย่าเรื่องมาก”
ร่างสูงกระซิบบอก ก่อนจะค่อยๆ ชักขึ้นลงตามแรงอารมณ์
โดยไม่สนสักนิดว่ากำลังทำให้อีกฝ่ายเจ็บแค่ไหน
ช่องทางหลังที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำเข้าไป
ตอนนี้ มันฉีกขาดจนเลือดไหลซิบลงมาตามน้ำกามแห่งอารมณ์
“อื้ออ~! เร็วอีก” เสียงครางหวานดังไม่ได้สรรพ
เมื่อมือหนาเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ช่วยปลดปล่อยให้กับคนข้างกายอีกแรง
“ไปพร้อมกันนะ …”
เนิ่นนานที่สองร่างกอดรัดกันจนเป็นเนื้อเดียว
ก่อนที่คนในอ้อมกอดจะหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า
ยูชอนค่อยๆถอนแกนกายของตนออกช้าๆ
เมื่อเห็นเลือดที่ไหลซึมลงมาจากช่องทางหลัง
“คงเจ็บสินะ” เค้าว่าก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบหน้าผากคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา
.
.
.
TBC
ความคิดเห็น