คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คำขอถึงพระเจ้า
~คืนก่อนจบศึกมิลฟีโอเล่~
ณ ฐานทัพวองโกเล่ แฟมิลี่
กลางดึกเงียบสงัด ยามเมื่อทุกคนได้เข้าสู่นิทรา แต่หากมีร่างบางที่ยังไม่นอน...ไม่คิดแม้แต่จะหลับตา...แสงจันทร์ส่องเข้ามายังหน้าต่างก่อนที่จะกระทบใบหน้าหวานของหญิงสาว...อัลโกบาเลโน่ที่ไม่สมประกอบ...‘รัล มิลจิ’
นัยต์ตาสีโกเมนเสมองนอกหน้าต่างด้วยสายตาว่างเปล่า...ไร้จุดหมาย...น้ำตาเริ่มปริ่มออกมาออกมาจากดวงตาคู่สวย มือเรียวกำรูปถ่ายแน่น...รูถ่ายของเธอกับเขา...โคโรเนโร่...พลันนึกถึงคนๆนั้นน้ำตาก็ไหลลงมาไม่ขาดสาย...บุคคลที่เธอรักยิ่งกว่าใคร บุคคลเพียงคนเดียวที่สามารถทำลายกำแพงหัวใจของเธอลงได้ บุคคลที่ทำให้เธอยิ้ม โกรธ ร้องไห้ได้ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่...
ยิ้ม...เมื่อนึกถึงรอยยิ้มขี้เล่นแต่กลับจริงใจและอบอุ่น
โกรธ...ที่เขาทำให้เธอคิดถึง
ร้องไห้...เมื่อไม่ได้อยู่เคียงใกล้
เขาเป็นคนเดียวที่เธอเปิดรับเข้าสู่หัวใจ แม้ตอนนี้เขาคนนั้นจะไม่มีลมหายใจ แต่เธอก็ยังรักเขาเพียงผู้เดียว... ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจเมือนึกถึงวันแห่งโชคชะตา...วันที่เขาต้องมารับคำสาปแทนเธอ...หากวันนั้นคนที่รับคำสาปเป็นเธอเขาก็คงไม่ต้องมาตายแบบนี้...
‘กำลังร้องไห้อยู่หรอเฮ้ย!?’
‘บ้าน่า...สภาพแบบนี้จะร้องก็ร้องไม่ออกหรอก’
‘ฮะๆโทษทีนะ ว่าจะทำให้มันเท่กว่านี้สักหน่อย’
‘นายน่ะทำอะไร ก็ล้มเหลวตอนจบทุกที’
‘อ้าว? ไหนพูดแบบนี้ล่ะเว้ยเฮ้ย?’
‘…’
‘เอาเถอะคำสาปของเธอดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช้พลังของมันก็จะหายไปเองนะ จากนี้ก็อย่าห้าวมากล่ะ!’
‘นายนั่นแหละจากนี้ไปจะเอายังไง!?’
‘ก็คงมีชีวิตอยู่ต่อไปล่ะมั้ง?’
‘!!!’
มือเล็กๆยื่นเข้ามาจับที่แก้มใสของหญิงสาวพร้อมๆกับประโยคที่ทำให้หัวใจเล็กเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
‘จะมาด้วยกันไหมล่ะ’
‘บ้า!ใครจะไปกับคนแบบนายกัน!?’เสียงใสๆตอบกลับดวงหน้าหวานน่ารักขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
‘ฮะๆล้อเล่นน่า จากนี้ก็ใช้ชีวิตสงบๆอย่างลูกผู้หญิงเถอะ!’ร่างเล็กของชายหนุ่มพูดขึ้นก่อนจะหยุดไปสักพักก่อนจะเอ่ยประโยคบอกลา ‘คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ...’ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่มีแม้แต่จะคิดหันกลับมามอง...
มือที่อยู่เบื้องหลังเอื้อมไปเองหมายจะคว้าร่างที่อยู่เบื้องหน้า หากแต่มันก็ไม่ทัน ร่างบางเกลียดตัวเองมาตลอดที่เอาทิฐิมาปิดกั้นความรู้สึกที่มี เกลียดตัวเองเหลือเกิน...
ดวงตาคู่สวยแหงนมองฟากฟ้าสีรัตติกาล อย่างมีความหมายฉายแววเศร้าอย่างเห็นได้ชัด โคโรเนโร่...ได้ยินฉันรึเปล่า หากเป็นไปได้ฉันอยาจะพบนาย...
มือเรียวสวยยกกุมเอาไว้ ดวงตาสีโกเมนปิดลงในใจสวดภาวนา
พระผู้เป็นเจ้าคงเห็นแล้วสินะว่าลูกนั้นโง่เขลามากเพียงใด แต่ได้โปรดฟังคำขอจากลูกผู้โง่เขลาคนนี้ด้วยเถิด...คำขอเพียงเล็กน้อย...ให้ลูกได้พบกับโคโรเนโร่ ที่ลูกได้รักหมดหัวใจ...แค่ให้ได้พบกันอีกสักครั้ง...แค่ให้ลูกบอกเขาสักคำว่า ‘รัก’...เพียงแค่นี้ก็เกินพอ
คำขอของหญิงสาวพระผู้เป็นเจ้าจะรับฟังหรือไม่เธอมิอาจรู้ แต่หากรับฟัง...คำขอบคุณอีกสักล้านครั้งคงไม่พอ
. . .
. .
.
ในที่สุดศึกก็จบลงหลังจากเกิดขึ้นเป็นเวลายาวนาน เป็นเรื่องดีที่ชัยชนะเป็นของวองโกเล่ ตอนนี้พวกซาวาดะก็กลับไปยังโลกที่พวกเขาได้ควรจะอยู่เรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องที่ดีกว่านั้นคือพระผู้เป็นเจ้ารับฟังคำขอจากเธอแล้ว!!! ไม่ใช่แค่โคโรเนโร่ที่กลับมาแต่เป็นอัลโกบาเลโน่ทุกคนแล้วท่สำคัญทุกคนหลุกพ้นจากคำสาป แต่หากต้องแลกด้วยการจากไปของบอสของพวกเขา...ยูนิ...
หลายวันผ่านไป
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าสม่ำเสมอดังขึ้น มือเรียวถือตะกร้าใส่ผลไม้เพื่อเอามาเยี่ยมคนที่พึ่งกลับมามีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่วัน เมื่อนึกถึงคนๆนั้นริมฝีปากบางก็เผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว สร้างความแปลกใจให้ให้กับคนในหน่วยอย่างมากมายมหาศาลลองคิดดูสิปกติเจ๊แกเคยยิ้มซะที่ไหนเล่า!เจอทีไรก็หน้าบึ้งหรือไม่เอาปืนมาไล่ยิงแต่นี่กลับยิ้ม อเมซิ่งวองโกเล่O_O!แม้มีสายตาที่มองตามร่างบางมาทุกฝีก้าว แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกมองจะไม่รู้สึกเลยสักนิด(เจ๊รัลคงคิดถึงแต่โคล่อนน่ะ//ไรท์เตอร์)(ปัง!//ไรท์โดนปืนปริศนาเป่าดับอนาถ)ร่างบางเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงบ้าน(เน่าๆ)หลังนึ่งซึ่งห่างจากหน่วยของรัลเกือบสิบกิโล!!!O_O บ้านเล็กๆตั้งอยู่เดี่ยวๆกลางป่าลึกที่เงียบสงบ ธรรมชาติงดงาม อากาศบริสุทธิ์แต่...คงไม่ใช่แถวนี้-_- ฝุ่นฟุ้งกระจาย สภาพรอบๆบ้านไม่ต่างจากสมรภูมิรบ! กระสอบทรายที่เน่ามากถึงมากที่สุดแขวนอยู่สี่มุมรอบบ้าน อาวุธสารพัดชนิดทิ้งขว้างระเกะระกะตั้งแต่สากกะเบือ(เอามาใช้สู้ได้เหรอ)ยันเรือรบ ร่างบางส่ายหน้าพลางยิ้มน้อยๆกับนิสัยของคุณเจ้าของบ้าน...เคยแคร์สายตาคนมาที่เยี่ยมบ้านบ้างไหมเนี่ย...เธอเดินผ่านซาก(?)อะไรต่อมิอะไรไปเคาะประตูเรียกใครบางคน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสักพักแต่กลับไม่มีใครมาเปิดประตู ไม่แน่...บางทีหมอนั่นอาจจะไม่อยู่บ้าน รัลถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกผิดหวังนิดๆที่เจ้าตัวอุตส่าห์มาเยี่ยมแต่มากลับไม่พบ อยากเจอหน้าจะตายอยู่แล้ว ร่างบางย้อนคิดครั้งสุดท้ายที่เจอกันร่างเล็กๆของอัลโกบาเลโน่ที่ช่างแตกต่างจากเธอยิ่งนัก...ชุ่มไปด้วยเลือด...แววตาที่ขี้เล่นอยู่เสมอฉายแววทรมานและเจ็บปวด...มือเล็กที่อบอุ่นทุกครั้งที่สัมผัสคราวนี้กลับเย็นยะเยือก...ลมหายใจโรยระริน...ก่อนจะจากไปด้วยคำพูดสุดท้าย...
“Ti amo,Lal Mirch…”
ตึก
เสียงฝีเท้าเบาๆของใครบางคนดังขึ้นด้านหลังร่างบาง หากเป็นปกติคงจะไม่ได้ยินเป็นแน่ แต่หากเป็นผู้ดูแลนอกแก๊งอย่างรัล มิลจิแล้วล่ะก็ หึ...หึ อย่าหวังว่าจะรอดเลยลูก!!! เจ้าของนัยต์ตาสีโกเมนชักปืนพกออกมาก่อนที่จะจ่อไปยังบุคคลที่มาใหม่ แต่หากต้องชะงักไปเมื่อพบว่า ‘บุคคลที่มาใหม่’ คือใคร...
“โคโรเนโร่!?”
ว่าแล้วมือเรียวก็ลดปืนลง ดวงตาสำรวจร่างของ ‘ร่างสูง’ ใบหน้าที่อบอุ่นใจดีมีเสน่ห์ ดวงตาเรียวสวยน่าหลงใหลไม่ใช่กลมโตน่ารักเหมือนแต่ก่อน มือใหญ่อบอุ่นไม่ใช่มือเล็กที่อ่อนโยน ร่างที่ไม่ใช่เด็กทารก ร่างที่ไม่ต้องสาป ร่างที่ไม่ใช่อัลโกบาเล่โน่! แต่ที่แตกต่างริมฝีปากหนาที่มักจะคลี่ยิ้มกลับเม้มเป็นเส้นตรง ดวงตาที่มักฉายแววขี้เล่นกลับว่างเปล่า มือหนาถือไรเฟิลจ่อมาที่เธออย่างไม่ลังเล...
“เธอคือใครน่ะเว้ยเฮ้ย!?”
“!!!”
ราวกับโลกนี้ได้หยุดหมุน เสียงทุ้มนุ่มน่าหลงใหลแต่ประโยคกลับเชือดเฉือนจิตใจคนฟังอย่างเธอจนไม่หลือชิ้นดี จำไม่ได้งั้นเหรอ...ทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ต่อด้วยความเจ็บปวด ทั้งๆที่ต้องเสียน้ำตาไปมากมาย ทั้งๆที่รู้ว่าความหวังมันช่างเลือนราง แต่ก็ยังเฝ้าคอยไม่เคยท้อเชื่อว่าพระเจ้ายังมีเมตตา รอวันที่นายกลับมา กลับมามีชีวิต กลับมามีลมหายใจ กลับมาเพื่อที่ให้ฉันบอกนายว่ารัก แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่เขาไม่ใช่โคโรเนโร่คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เขาจำเธอไม่ได้ ถ้าหากเธอบอกรักเขาไปแล้ว...มันจะมีความหมายอะไร คำว่ารัก...มันจะมีค่าอะไร หากบอกไปอาจจะเสียหน้า เสียศักดิ์ศรีและที่สำคัญที่สุดคือเสียใจ...
ดวงตาคู่สวยที่เคยฉายแววเข้มแข็ง บัดนี้กลับมีน้ำตาคลอเบ้า แต่หญิงสาวเลือกที่จะเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่แสดงถึงความอ่อนแอ
“ตกลงเธอเป็นใครน่ะเว้ยฮ้ย!?”
แล้วเธอก็ได้เลือก...
โป๊ก!
“โอ๊ย!มันเจ็บนะเฮ้ย!”
เลือกที่จะเป็นอาจารย์จอมโหดสั่งสอน(ไอ้)ลูกศิษย์งี่เง่าที่บังอาจลืมอาจารย์อย่างไปได้ ฉันอุตส่าห์ลดตัวลงไปเป็นครูของแกเลยนะเฟ้ย!!!-_-+++ ไหงมาลืมกันแบบนี้ล่ะ จังซี่มันต้องตาย-O-+++
“นี่นายกล้ามากนะที่ลืมอาจารย์ต้องเองงั้นเหรอ^^+++”จากเสียงหวานน่าฟังกลับกลายเป็นเสียงเย็นยะเยือก ไม่รอช้ามือซ้ายขว้างแอปเปิ้ลลูกที่สองใสหัวโคโรเนโร่อีกครั้ง (แล้วลูกแรกหายไปไหนน่ะ///รีดเดอร์)(อ๋อ มะกี้เจ๊แกเล็งแม่นเต็มหน้าเลยจ้า^^//ไรท์เตอร์)ณ บัด NOW โคล่อนผู้น่าสงสารก็ได้ลงไปนอนแอ้งแม้งสำรวจพื้นเรียบร้อย ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนอาชีพจากมาเฟียเป็นนักธรณีวิทยาก็ได้ใครจะไปรู้~ ส่วนไรเฟิลก็กระเด็นมาอยู่แทบเท้ารัลเหมือนว่า ‘ไว้ชีวิตหนูด้วย หนูกลัวแล้วT-T’ แปรพรรคทันที เพียงเห็นแรงขว้างแอปเปิ้ล!
“อาจารย์งั้นเหรอ...”
ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิดที่เธอมาเป็นอาจารย์ให้กับเขา แม้จะเป็นผู้หญิง(ที่หน้าตาดี)แต่แรงประหนึ่งช้างสารของคุณเธอ เขาก็เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ต้องยอมสดุดี-_-^^^
“ก็ใช่น่ะสิ-^-“
หน้าหวานของอาจารย์สาวเชิดขึ้นเล็กน้อย เหมือนกำลังไม่พอใจอย่างมากที่เขาลืมเธอแต่ว่าอาการแบบนี้มัน...น่ารัก...ร่างสูงของลูกศิษย์ลุกขึ้นปัดฝุ่นที่กางเกงก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้านพร้อมกลับหันมายิ้มให้อาจารย์สุดสวยของเขา เหมือนเชื้อเชิญให้เข้ามาในบ้าน ร่างบางจึงเดินตามร่างสูงเข้ามา รองเท้าผ้าใบสีดำสนิทถูกวางไปอย่างเรียบร้อย เท้าก้าวเข้าไปในบ้านของชายหนุ่ม สภาพบ้านไม่ต่างจากรังหนู! ให้ตาย นี่ เขาเคยทำความสะอาดบ้างไหมเนี่ย!
“นี่ เคยหัดทำความสะอาดเองบ้างไหมเนี่ย”
รัลบ่นพลางเดินไปหยิบไม้กวาด มากวาดบ้าน ร่างสูงมองตามร่างบางอย่างสงสัยก่อนตัดสินใจพูดออกมา
“ปกติเธอทำอย่างนี้ให้ฉันเหรอเว้ยเฮ้ย”
“ก็นายไม่ทำเองสักทีน่ะสิ”
เสียงหวานตอบส่งๆ มือถือไม้กวาดกวาดไปเก็บขยะไป ผมสีไพลินยาวประบ่าคลอเคลียใบหน้ายามเมื่อใบหน้าเรียวไข่ก้มลงกวาดพื้น อ่า...น่ารัก*O*
“ให้ฉันช่วยไหมเว้ยเฮ้ย!?”
ทันทีที่ร่างสูงถามคิ้วเรียวก็เลิกขึ้นสูง พลางหันมามองใบหน้าคมคายริมฝีปากเผยยิ้มกว้างมือยื่นไม้กวาดให้แทนคำตอบก่อนจะเดินไปหยิบไม้กวาดอีกอัน
“ไม่น่าเชื่อว่านายจะมาช่วยฉันทำนะ”
“ก็...อย่างน้อยฉันก็เป็นเจ้าของนะเว้ยเฮ้ย!”
“^^”
“ยิ้มอะไรของเธอเนี่ย”
“คิกๆ”
ร่างบางไม่ตอบได้แต่หัวเราะ ส่วนโคโรเนโร่ก็เอ๋อรับประทานไปเรียบร้อยยิ่งทำให้รัลขำไปมากกว่าเดิมเสียอีก ไม่ว่านายจะจำฉันได้หรือไม่ได้ก็ตาม นายก็ยังคงทำให้ฉันยิ้มได้เสมอเพราะนายคือคนที่ฉันรักและจะรักนายตลอดดไป...
“ตกลงเธอหัวเราะอะไรล่ะเว้ยเฮ้ย!?”
“หึหึ ก็ปกติฉันก็จะเป็นคนทำแค่คนเดียวนี่นา”
“เอ๋?”
“ไม่ต้องมาเอ๋เลยย่ะ คนอย่างนายไม่เคยคิดจะมาช่วยฉันเลยสักนิดแถมยัง...เอ่อ...”
“แถมยังอะไรเหรอ”
“ช่างมันเถอะน่า!”
ร่างบางบอกปัดไปเฉยๆ ทำให้เขามั่นใจได้เลยว่าต้องมีอะไรอยู่แน่ๆแต่ก็ไม่คิดจะถามต่อเพราะอยู่ดีไม่ว่าดีก็รู้สึกว่าโรคกลัวอาจารย์กำเริบกะทันหันทำให้เขาต้องกวาดพื้นต่ออย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกบรรยากาศในบ้านแม้จะไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีเสียงทะเลาะกันเหมือนแต่ก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่คือ...ความอบอุ่นใจระหว่างคนสองคน...
สามชั่วโมงผ่านไปจากบ้านรกๆก็กลายเป็นบ้านที่มองดูแล้วสะอาดตาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มันก็ทำให้เจ้าของเรือนผมสีทองหมดแรงไปเสียแล้ว ทีตอนฝึกน่ะจิ๊บๆแต่เรื่องแบบนี้โคล่อนขอบายล่ะนะ-A-;;; หลังทำเสร็จร่างสูงก็ขอจรลีหนีมานอนบนต้นไม้ให้หายเหนื่อยส่วนครูสุดสวย(แต่โหด)บอกว่าจะไปปอกผลไม้มาให้
...เฮ้อ หน้าตาก็สวยแต่ถ้าไม่ติดว่าโหดไปนิด(ไม่นิดแล้วมั้ง//ไรท์เตอร์)ฉันน่ะจะจีบเธอคนแรกเลยนะเว้ยเฮ้ย...
ร่างสูงคิดพึมพำในใจถึงอาจารย์สุดโหดของเขาแต่ดูๆไปก็มีส่วนน่ารักนี่หว่า...แล้วตอนนั้นก็ยัง...
‘ไม่ต้องมาเอ๋เลยย่ะ คนอย่างนายไม่เคยคิดจะมาช่วยฉันเลยสักนิดแถมยัง...เอ่อ...’
แต่ไอ้แถมยังของคุณเธอนี่มันอะไร(ฟะ)ต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ไอ้ที่แน่นี่มันอะไรเล่า!คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ดังนั้นเลยตัดสินใจที่จะ...นอน! ก็คิดไม่ออกแล้วจะคิดไปทำไมกัน นอนดีกว่าว่าแล้วแผ่นหลังก็เอนพงกับกิ่งไม้ดวงตาคู่สวยปิดลงหวังจะพักสักงีบแต่รู้สึกว่าอะไรๆก็จะไม่เป็นใจ...
พลั่ก!
ฉับพลักร่างหนาก็รู้สำกว่ามีหมัดเล็กๆ(แต่หนักโคตร)มากระแทกกับใบหน้าขาวเนียนเข้าอย่างจังจนร่างสูงถึงกับเซไปนิดนึง(ถ้าเซอีกนิดก็ได้ตกต้นไม้//ไรท์เตอร์)
“นี่ ปลุกดีๆไม่เป็นเลยสินะเว้ยเฮ้ย!”
“ขอโทษที ฉันไม่ใช่พวกที่โอ๋ลูกศิษย์”ใบหน้าหวานเอ่ยเรียบพร้อมกับยื่นถาดแอปเปิ้ลให้ร่างสูง
“แหะๆ งั้นเหรอ”
“ก็เออน่ะสิ ถึงจะเป็นลูกศิษย์เฮงซวยที่จำอาจารย์ตัวเองไม่ได้ฉันก็ไม่ไม่เว้นหรอกนะ”น้ำเสียงหวานเอ่ยเรียบๆก่อนกัดแอปเปิ้ลในมือ ทำให้ร่างสูงได้เพียงหัวเราะแห้งๆกับความโหดของอาจารย์ตัวเอง
“นี่ โคโรเนโร่”
“ครับอาจาย์^^”
ร่างสูงรับคำก่อนจะยิ้มให้แก่อาจารย์ตัวเองตามแบบฉบับนิสัยแตรู้ไหมว่าคนมองน่ะใจจะละลายอยู่แล้ว ร่างบางหลบตาเพื่อซ่อนใบหน้าแดงก่ำเอาไว้
“ตั้งแต่นายกลับมา นายจำใครได้บ้าง”
“หืม ก็มีรีบอร์น มาม่อน ฟง เวลเด้ สคัล แล้วก็ยูนิแต่ว่าเธอตายไปแล้ว”
มีแต่พวกอัลโกบาเลทั้งนั้นเลยนี่นา...แต่คงจะจำเธอไม่ได้งั้นแหละเพราะว่าฉันน่ะเป็นอัลโกบาเลโน่ไม่สมประกอบนี่นา เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน...
“ทำไมนายถึงความจำเสื่อมล่ะโคโรเนโร่”
“ก็เพราะว่าฉันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งไงล่ะ”
“โกหก! ทีพวกมาม่อนยังจำฉันได้เลยนี่!”
“ก็เพราะก่อนที่ฉันจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รู้สึกจะมีอะไรผิดพลาดไปทำให้ความทรงจำขาดหายไป จะจำได้ก็แต่พวกอัลโกบาเล่โน่ด้วยกันเอง”
คำพูดของร่างสูงทำให้ตาสีโกเมนทองประกายแววเศร้าเธอเชื่อเขาทั้งหมดแม้ในตอนแรกจะสงสัยว่าเขาจะโกหกเธอรึเปล่า แต่ตอนนี้เธอกลับเชื่อจนหมดใจกับสิ่งที่เขาพูดออกมาเพราะว่าเธอเชื่อใจ...
“นี่ เรามาเล่นเกมกันไหม”
“หืม”
“ฉันจะให้ตัวอักษรวันละ1ตัวให้นายเรียงออกมาเป็นประโยคให้ได้ ถ้านายเรียงถูกนายก็ชนะถ้าไม่ถูกก็แพ้”
“แล้วคนชนะจะได้อะไรล่ะเว้ยเฮ้ย!?”
“ขออะไรก็ได้จากผู้แพ้หนึ่งอย่าง”ร่างสูงเพียงยิ้มก่อนจะพยักหน้า
“ตัวอักษรของวันนี้คือ ‘C’ ”
เจ้าของเรือนผมสีไพลินว่าก่อนจะกระโดดลงจากต้นไม้ไปทำงานต่อทิ้งให้ร่าสูงครุ่นคิดต่อไป
“C งั้นหรอ รู้อะไรไหมรัลเกมคราวนี้ฉันจะต้องชนะแล้วสิ่งที่ฉันจะขอคือหัวใจของเธอ”ร่างสูงทิ้งท้ายก่อนจะกระโดดลงจากต้นไม้ลงมาพร้อมกับ...รอยยิ้ม
เป็นไงบ้างอ่ะกับฟิคเรื่องแรกของเดียร์ ชอบไม่ชอบยังไงก็ขอให้เม้นท์ให้ด้วยละกันนะT^T
หากอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็ขอให้บอกเดียร์ได้เลย^_^v
ความคิดเห็น