คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ++Chapter 4 สำนึกผิด++
Chapter 4
สำนึกผิด
โอ๊ย!!! ใจหายใจคว่ำ ขายังสั่นไม่หายเลยนะเนี่ย เมื่อกี้นี้มันน่ากลัวมากๆ เลยล่ะค่ะ TwwT มันเป็นใครกันนะ
ฉันค่อยๆ ก้าวเท้าไปทีละก้าวด้วยความระแวดระวังอย่างที่สุด สายตายังกวาดไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นเร็วมาก แล้วในที่สุดก็มาถึงรถมอเตอร์ไซค์ข้างๆ ตึกที่เงียบสงัด
ฉันขึ้นคร่อมมันอย่างรวดเร็วแล้วสตาร์ทเครื่องบิดออกไปทันที...
อกสั่นขวัญแขวน ฟู่~
จนแล้วจนรอดฉันก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่ก็อดที่จะระแวงไม่ได้อยู่ดี ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันนะ ทำไมต้องสะกดรอยตามฉันด้วยล่ะ
ร...หรือว่าเธอจะขอฉันแต่งงาน กรี๊ดดดด!!! ฉันไม่ใช่ยูรินะ O[]O^^^ เอ่อ... สงสัยฉันจะคิดมากไปเอง -_-;
ฉันจัดแจงกวาดบ้าน ถูบ้าน และจัดเก็บข้าวของต่างๆ ที่ระเกะระกะให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวรับน้าภัทรผู้แสนจะใจดี เขาใจดีกับทุกๆ คนมากเลยค่ะ ถึงแม้เขาจะงานยุ่งแล้วกลับบ้านแค่อาทิตย์ละสามหน แต่ทุกครั้งที่กลับมาก็จะเอาของมาเซ่นฉันเรื่อยเลย -_-^^^ เขาทำงานอยู่ที่เดียวกับน้าของฉันค่ะ ท่านทั้งสองคนรู้จักและสนิทสนมกันเพราะทำงานอยู่ที่เดียวกันนี่แหละ และดูท่าจะรักกันมากซะด้วย ^^ ฉันไม่เคยเห็นท่านทะเลาะกันซักครั้ง
เอาล่ะ... ในที่สุดบ้านก็ดูเป็นบ้านซะที หลังจากที่มันรกหูรกตามาหลายวัน
ฮ่าๆๆๆ นี่ก็เพราะฝีมือลัคกี้แท้ๆ ^^
ตอนเย็นมาเยือน ไอ้เลิฟแต่งตัวซะหล่อเฟี้ยว ส่วนฉันน่ะเหรอ แต่งตัวรอตั้งนานแล้ว ต่อจากนั้นไม่นาน น้าริน น้าภัทรกับหอคอยก็กลับมาบ้าน
หอคอยกำลังขี่คอพ่อของตนอย่างสนุกสนาน หัวเราะด้วยความไร้เดียงสา ใบหน้าของหอคอยดูมอมแมมเนื่องจากเพิ่งกลับมาจากโรงเรียนและคงจะเล่นมาตามประสาเด็กกับเพื่อนๆ
อยากขี่คอพ่อของตัวเองมั่งจังเลย T^T เห็นแล้วมันคิดถึงพ่อแม่อ่ะ
ต่อจากนั้นเราก็มาเดินห้างเซ็นทรัลกัน ครอบครัวสามคนเดินกันอย่างมีความสุข ส่วนฉันก็เดินอยู่ข้างๆ เลิฟน้องชาย จากนั้นมันก็ขอตัวไปยิงกระต่ายค่ะ -_-;;;
เอ๋... O_O ความรู้สึกแบบนั้นกลับมาอีกแล้วอ่ะ ความรู้สึกที่เหมือนว่าใครตามมา ต้องเป็นนังผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ อ๊ากกกกกกกก!!! ฉันกำลังจะประสาทหลอนใช่ไหมเนี่ย /(><)\
“เอ่อ... ลัคกี้เดี๋ยวลูกเดินไปกับน้าภัทรแล้วก็หอคอยก่อนแล้วกัน เดี๋ยวน้าขอดูกระเป๋าแป๊บนึง” น้ารินเอ่ยขึ้นเมื่อเดินผ่านร้านขายกระเป๋าร้านหนึ่ง พร้อมๆ กับยื่นแขนของหอคอยให้ฉันจูง
“ค่ะ ^^” ฉันพูดพลางยิ้มให้กับเธอ ก่อนที่จะจูงมือหอคอยมา
ฉันเดินตามหลังน้าภัทร ในขณะที่เขาก็มองดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“ลัคกี้... เรียนวันนี้เป็นไงบ้างลูก” น้าภัทรเอ่ยถามฉัน เขาเป็นอีกคนที่รักฉันเหมือนลูกคนหนึ่ง ก็จะทำไงได้ คนมันน่ารักน่ะคะ ^[]^
อ๋อ!!! การเรียนวันนี้น่ะเหรอคะ แทบไม่ได้เรียนเลยค่ะ แล้วใครที่ไหนก็ไม่รู้ แม่งชอบดักทำร้ายอยู่เรื่อย ถ้าลัคกี้เจอมันนะ ลัคกี้จะจิกหัวมัน แล้วก็ตบๆๆๆๆๆๆ ให้หน้ามันเฟะไปเลยค่ะ >..<
(นั่นเป็นความคิดในใจเท่านั้น -_-^^^)
“ก็ดีค่ะ” ฉันตอบไปอย่างนี้ -_-;;; “วันนี้หนูเรียนรู้เรื่องมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะหนูกะว่ามอปลายหนูจะตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้... แว้กกกกกกกกก OoO”
คลุ่กๆๆๆๆๆ~ แอ๊ก~
“อ๊ายๆๆๆๆ >[]< อกอีแป้นแล่นลึก อ๊ายๆๆๆๆ”
มันเกิดอะไรขึ้นรู้ไหมคะ... T^T
ในขณะที่ฉันกำลังโม้อยู่นั่นเอง ฉันก็สะดุดอะไรบางอย่างเข้า แล้วที่แน่ๆ... ตอนนี้ฉันกลิ้งไปตามพื้นห้างอย่างอุบาทว์ที่สุด
ใคร-มัน-ขัด-ขา-ฉัน-วะะะะะะ - -****
ฉันหันกลับไปมองด้วยความโมโห แต่กลับไม่เห็นใครแต่คนเดียว
“ลัคกี้เป็นอะไรหรือเปล่าลูก” น้าภัทรรีบวิ่งเข้ามาพยุงฉันขึ้น ส่วนหอคอยก็วิ่งตามมาดูเหตุการณ์ด้วยความตื่นเต้น
ตื่นเต้นมากเลยใช่ไหมเนี่ยที่เห็นฉันเกือบตายน่ะ -_-++
\ นังนั่นแน่ๆ นังนั่นแน่ๆ นังบ้านั่น นังที่มันจ้องจะฆ่าฉัน - -+* ฉันจะต้องจับแกมาชำแหละให้ได้ ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ >oo<+++
น้าภัทรพยายามที่จะยกตัวฉันขึ้น แต่ขาที่เจ็บระบมของฉันมันทำให้ฉันไม่สามารถที่จะเดินไหว น้าภัทรจึงเอาแขนของฉันขึ้นมาพาดบ่าของเขาแล้วพยุงฉันเดินมาที่ร้านเสื้อ
นังนั่นเป็นใคร มันเป็นใคร แกกำลังจะทำให้ฉันบ้านะ แกมันนังโรคจิต กรี๊ดดดดด!!! >[ ]<
เช้าวันรุ่งขึ้นฉันก็ตื่นขึ้นมาด้วยความระบม มันเจ็บปวดมากเลย ตามเนื้อตามตัวฉันตอนนี้มีแต่จ้ำสีเขียวๆ ม่วงๆ เต็มไปหมด แต่ฉันก็พยายามที่จะลุกขึ้นไปโรงเรียน เพื่อไปเจอพี่โชคดีของฉัน พี่เขาต้องช่วยฉันได้แน่ๆ ฉันมั่นใจ
เมื่อมาถึงโรงเรียนฉันกับไอ้เลิฟ (วันนี้น้องฉันมาแปลกเว้ย ปกติไม่เห็นเคยเดินด้วยกัน) ก็เจอกับปัง เธอเดินเข้ามาทักทายฉันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
“หวัดดีๆ” ฉันทำมือเป็นเชิงเข้าใจ ในขณะที่เดินเป๋ๆ ไปหามัน
“เจ๊ๆ นั่นเพื่อนเจ๊เหรอ ที่ชื่อปังใช่ไหม” ไอ้เลิฟสะกิดเสื้อถามฉันด้วยเสียงกระซิบ ฉันพยักหน้านิดนึง “โอ้ว!!! สวยสมคำร่ำลือ ผ่านมาหลายปี ได้เห็นเป็นบุญตาก็วันนี้แหละ”
“คำร่ำลืออะไรของแก” ฉันถามไอ้เลิฟอย่างงงๆ ในขณะที่ปังก็ยืนดูเราสองคนซุบซิบกันอย่างอยากรู้อยากเห็น
“อ้าว!!! เจ๊ไม่รู้เหรอ พี่ปังติดท็อปเท็นสาวสวยประจำโรงเรียนเลยนะ” เลิฟเอ่ย สายตากวนๆ ของมันยังคงไม่ละออกจากใบหน้าเพื่อนของฉัน “เธออยู่ลำดับที่สองรองจากพี่ชีส”
จ... จริงเหรอ มีการจัดลำดับด้วยเหรอเนี่ย ^^
“แล้วฉันอยู่ลำดับที่เท่าไหร่” ฉันถามอย่างตื่นเต้น ที่หนึ่งร่วม หรือที่สองร่วมกับปังนะ โอ๊ย!!! ตื่นเต้ลล์
“หน้าอย่างนี้ไม่ติดหรอก -_-;;;” แล้วมันก็เดินไปก่อนที่จะยิ้มโปรยเสน่ห์ไปให้ปังที่น่าหมั่นไส้ ปังยิ้มให้กับมันด้วย พร้อมๆ กับโบกมือบ๊ายบาย
ชิๆๆๆ หมั่นไส้ >,<
“กรี๊ดดดดดดดด!!! ทำไมน้องแกหล่อขึ้นเยอะเลยล่ะ” เพื่อนฉันเกิดอาการอยากจะกินเด็กขึ้นมาทันที มันทำให้ฉันหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ
วันนี้ฉันยังไม่เจอพี่โชคดีหรอกค่ะ เพราะว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปโชว์ตัวเหมือนเมื่อวาน เนื่องจากอาจจะถูกลอบทำร้ายอีกก็เป็นได้
จนในที่สุดก็มาถึงคาบโฮมรูม... อาจารย์นิลณีย์ อาจารย์ที่ปรึกษาของฉันก็เข้ามาในห้อง ขณะที่นักเรียนก็คุยกันเสียงดังราวกับป่าช้าแตก -_-^^^
“เอ้า!!! นักเรียนคะ วันนี้อาจารย์จะมาบอกอะไรนักเรียนนิดหน่อย เงียบๆ กันหน่อยค่ะ” อาจารย์นิลณีย์ใช้วิธีใจดีสู้เสือ ส่วนนักเรียนก็ยังแหกปากโหวกเหวกโวยวาย
ไอ้พวกนี้นี่ ไม่ตั้งใจฟังอาจารย์เลย -_-;;; ไม่ไหวๆ
“นักเรียนฟังอาจารย์ก่อนสิคะ” เธอยังคงใจดีสู้เสื้อต่อไป
“เฮ้ยๆๆๆ / ไปกินขี้ไป / แก แฟนฉันทิ้งแล้วว่ะ กระซิกๆ / ดูเจ๊แกดิ บ่นอะไรวะ ฮ่าๆๆๆ” นี่คือคำพูดที่ฉันได้ยินพวกเพื่อนๆ มันพูดกัน
“โว๊ยยยยยย!!! ฉันจะมาบอกว่าให้พวกแกไปเลือกชุมนุมกันด้วย มากรอกใบ แล้วเอาไปให้ฉันเซ็นต์” แล้วอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปเลย ทิ้งไว้แต่กระดาษปึกหนึ่ง
อารมณ์ระเบิดเลย -_-;;;
“นี่... ปัง เลือกชุมนุมอะไรดีวะ” ฉันขอความคิดเห็นเมื่อไล่สายตาดูรายชื่อชุมนุมที่มีอยู่มากมาย จนทำให้ฉันตัดสินใจไม่ถูก
“แล้วแต่แกเถอะ” ปังบอกอย่างไม่สนใจ แล้วส่องกระจกพร้อมๆ กับหวีผมต่อไป “ฉันอยู่ชุมนุมอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ ขอให้มีแกอยู่ด้วย ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวเหมือนปีที่แล้ว”
ทำไมเสียงปังเศร้าอย่างนั้นล่ะ ก็ปีที่แล้วฉันไปอยู่ชุมนุมดูดวงน่ะสิ ก็เลยไม่ได้ไปกับเธอ แต่ปีนี้ฉันจะอยู่ชุมนุมเดียวกับเธอให้ได้ (^^)O
“อย่าน้อยใจไปเลยหน่า พอดีว่าตอนนั้นฉันบ้าดูดวงขนาดหนัก ตอนนี้เริ่มเพลาๆ ลงมาแล้วล่ะ อีกอย่างปีที่แล้วชุมนุมดูดวงก็ไม่ผ่าน ต้องมานั่งแก้กันอีก” ฉันพึมพำพลางมองรายชื่อชุมนุมต่อไป
อะไรเนี่ย!!! ชุมนุมนั่งเล่น -_-;;; กะว่าว่างเลยล่ะสินั่น ฉันล่ะเบื่อจริงๆ เลย ไอ้พวกที่ชอบเอาคาบชุมนุมมาเป็นคาบว่างเนี่ย
“เอาชุมนุมนี่ดีกว่าผู้ชายเยอะดี” ฉันเอ่ยขึ้นมา
“ชุมนุมอะไรอ่ะ” ปังถามอย่างไม่สนใจเท่าไหร่ ก่อนจะเก็บอุปกรณ์เสริมสวยเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
“ชุมนุมบาส”
“ฮะ!!! OoO” ปังตกใจแล้วกระเด้งตัวขึ้นมายืน ฉันก็ตกใจเหมือนกันว่ามันเป็นบ้าอะไร -_-;;; ทำไมถึงต้องทำท่าตกใจขนาดนั้น
“อ... อะไรเหรอ ทำไมอ่ะ ชุมนุมบาสก็ดีนะ หุ่นของเราสองคนจะได้สูงเพรียวลม สเลนเดอร์” ฉันพยายามที่จะบอกข้อดีของชุมนุมบาส
ที่สำคัญมีผู้ชายเยอะดี -.,-
“ไม่เอาหรอก ฉันไม่อยากอยู่ชุมนุมบาส” ปังปฏิเสธการเข้าชุมนุมบาสแล้วนั่งลงตามเดิม “เข้าชุมนุมอื่นเถอะ ปีที่แล้วฉันก็อยู่ชุมนุมนี้ เบื่อตายชัก”
“อะไรวะ” ฉันบ่นอย่างหัวเสียแล้วไล่สายตาดูใหม่ว่าควรจะเลือกชุมนุมอะไรดี “ไหนบอกจะตามใจฉันไง โกหกนี่หว่า”
“เอ๊ะ!!! ชุมนุมนี้พี่โชคดีเป็นประธานชุมนุมล่ะ” ฉันพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นชื่อเขาโชว์หลาอยู่บนกระดาษ “งั้นเข้าชุมนุมนี่ล่ะ”
“ชุมนุมอะไรอ่ะ” ปังถามคำถามเดิม ฉันมองชื่อชุมนุมที่ต่อท้ายชื่อพี่โชคดีทันที
“สบายๆ”
ง่ะ!!! -[]-^^^ นี่พี่โชคดีสุดหล่อก็ใช้คาบชุมนุมเป็นคาบว่างเหรอเนี่ย โฮะๆๆๆๆ ^O^ ไม่เป็นไรๆ มันท่าทางจะเป็นชุมนุมที่ดีมากเลยล่ะจอร์จ
“งั้นเข้าชุมนุมนี้นะ” ฉันบอกแล้วสะบัดหน้าไปถาม เพื่อนสาวพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ก่อนที่เราสองคนจะพากันไปยังดาดฟ้าของอาคารเรียนที่เราเรียนอยู่เพื่อไปสมัครชุมนุม
มันช่างเป็นที่ที่โรแมนติกมากเลยนะคะฉันว่า ^^
แต่ทางขึ้นไปเนี่ยสิ หลอนๆ ยังไงก็ไม่รู้ ทางเดินมันดูเปลี่ยวๆ อย่างไรบอกไม่ถูก แล้วอีกอย่างมันไม่ค่อยมีใครขึ้นมาบนนี้ซักเท่าไหร่ด้วย
เมื่อฉันและปังเปิดประตูดาดฟ้าออกมาก็เจอกับเพิงหลังหนึ่งที่ดูทนแดดทนฝน และมีผู้หญิงหลายคนยืนต่อแถวกันยาวเหยียด
ฉันและปังเดินไปต่อแถวนั้น แดดเปรี้ยงๆ ส่องลงมาบนผิวที่ดำทะมึน -_-;;; นี่กะจะให้ฉันดำเป็นตอตะโกเลยใช่ไหมเนี่ย แต่ยังดีที่สายลมอ่อนๆ โชยมาระงับความร้อนในร่างกายได้บ้าง
จนในที่สุดก็ถึงตอนที่ฉันจะต้องเข้าไปโดนสัมภาษณ์ในห้อง ปังรอฉันอยู่ข้างนอก
ตื่นเต้นๆ ^^ พี่โชคดีจะต้องให้ฉันเข้าชุมนุมนี้โดยไม่ต้องสัมภาษณ์เลยซักคำเดียวแน่ๆ เชื่อไหมคะ เอิ๊กๆๆๆๆ ^[]^
ฉันเดินเข้าไปในเพิงนั่นแล้วก็เห็นพี่โชคดีนั่งอยู่ ที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่เขาก็คือพี่ผู้หญิงคนสวยคนหนึ่ง จากนั้นฉันก็เข้าไปนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเขา โดยมีแค่โต๊ะกั้นกลาง ฉันวางใบสมัครบนโต๊ะนั้น
“ชีสไปก่อนนะ” พี่ผู้หญิงคนนั้นบอกแล้วเหลือบมามองฉันนิดนึง ก่อนที่เธอจะเดินออกไป ทำให้ฉันและพี่โชคดีอยู่กันสองต่อสอง หัวใจฉันเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำอีกแล้ว
พี่โชคดียิ้มให้ฉันแล้วลุกขึ้นมาเดินอ้อมไปข้างหลัง
“เธอรู้ไหมว่าเธอทำอะไรลงไป” พี่เขาเอาแขนมาล็อคคอฉัน ฉันตกใจไม่น้อย แต่ใจก็คิดว่านี่คงเป็นการทดสอบการเข้าชุมนุมแน่ๆ
“ไม่รู้ค่ะ ^^” ฉันยิ้มตอบ พร้อมๆ กับสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มาจากกายของพี่โชคดี -.,-
ฮิๆๆๆๆ วิธีสัมภาษณ์นี้แปลกๆ เนอะ ^_^
“นี่เธอยังพูดออกมาได้อย่างสบายๆ อย่างนี้แสดงว่าเธอไม่สำนึกผิดเลยใช่มะ” พี่โชคดีแสดงได้เนียนมาก เขาเกือบทำให้ฉันกลัว แต่ฉันได้ยินคำว่าสบายๆ แสดงว่าฉันทำตัวได้เหมาะสมกับชุมนุมนี้สินะ ^^
อิอิอิ จั๊กจี้ง่ะ
“อย่าสิคะ มันจั๊กจี้” ฉันพูดออกไปแล้วพยายามที่จะแกะแขนพี่โชคดีออกจากคอ แต่เขากลับล็อคคอแน่นขึ้นจนฉันหายใจแทบไม่ออก
แควก~
เขาดึงเทปกาวออกจากม้วนก่อนที่จะเอามาปิดปากฉัน
อ๊ายๆๆๆๆ ตื่นเต้นๆ ^^
ต่อจากนั้นพี่โชคดีก็เอาเชือกมามัดฉันติดไว้กับเก้าอี้ ที่สำคัญมัดแน่นมากๆ จนส่วนต่างๆ ของร่างกายถูกรัด และฉันก็หายใจไม่ออก
มันชักแปลกๆ แล้วนะ Q-Q
เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉัน สีหน้าของเขาโรคจิตมาก ตาเขาแดง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังเมายาบ้าอยู่เลยล่ะ
“เธอทำลายชีวิตฉัน นังตัวดี” ไอ้บ้านั่นพูด ตาเขาแดงมาก เขาเป็นอะไรไปเนี่ย
ฉ... ฉันกลัวแล้วนะ T T ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับฉันล่ะ ฉันไปทำอะไรเขาตอนไหน ฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ
ฉันอยากจะพูดเหลือเกินแต่ก็พูดไม่ได้ เนื่องจากเขาปิดปากฉันอยู่ ฉันได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเท่านั้น
“จะพูดเหรอ” เขาถาม ทำไมเวลาแค่วันเดียวเขาถึงเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ฉันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว น้ำตาคลอ
แควก~
แว้กกกกกกก!!! T[]T ขนหลุดหมดเลย
“ฉันไปทำอะไรนายตอนไหน ฮะ!!! ไอ้เลว” ฉันตวาดใส่หน้ามันน้ำลายสาดกระเซ็นกระเด็นเป็นฝอย คงจะเป็นเหมือนที่ฉันทำนายให้ตัวเองที่ว่าจะมีเคราะห์จากคนที่ตัวเองคาดไม่ถึง เพราะความเข้าใจผิด
แต่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรนี่นา T^T
“หึ !!! เธอไม่รู้หรือไงว่าเธอทำอะไรลงไป!!! ถ้าอยากให้ฉันปล่อยเธอ เธอจะต้องสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ”
ฝากเม้นต์กันด้วยนะครับ
บะบาย
ความคิดเห็น