โบราณคดี, อารยธรรมโบราณ

ลำดับตอนที่ #6 : หลุมฝังพระศพของกษัตริย์ Antiochus (1)

หลุมฝังพระศพของกษัตริย์ Antiochus (1)

ภูเขา Anti - Taurus ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี มีความสูงประมาณ 2,500 เมตร และมียอดชื่อ Nemrud Dagh ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์ Antiochus ผู้เคยปกครองอาณาจักร Komagenes ในระหว่างปี พ.ศ. 465 - 500 หลุมฝังศพนี้มีอนุสาวรีย์ของ 7 เทพ วางเรียงรายประดับประดาอย่างสง่าและโอ่อ่า
      
       ประวัติศาสตร์ได้จารึกว่า Antiochus ทรงประสูติเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม แต่ไม่ปรากฏปีที่ประสูติ บิดาคือ Mithradates Kallinikos ผู้เคยปกครองอาณาจักรเปอร์เซีย และมารดาคือ Thea Phildelphia ผู้สืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิ Alexander มหาราช ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ Antiochus คิดว่าตนเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ดังนั้น จึงทรงคิดต่อไปว่า หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พระสุสานจะต้องมีรูปปั้นของเทพเจ้าอยู่รายรอบ เพื่อพิทักษ์ปกป้องพระองค์ และในขณะเดียวกัน สำหรับคนที่เดินทางมาเยือน Nemrud Dagh ไม่ได้ ทุกคนก็มีสิทธิ์จะรับรู้ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ถ้าได้อ่านบันทึกประวัติและความนึกคิดทุกเรื่องของพระองค์ในหนังสือจารึก
      
       ในสมัยที่ Antiochus ยังทรงพระเยาว์นั้น Kommagene เป็นเพียงอาณาจักรที่มีขนาดเล็ก นักภูมิศาสตร์กรีกที่ชื่อ Straba ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 100 ปีก่อนศริสตกาล ได้เคยกล่าวถึงอาณาจักรนี้ว่าอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และตั้งอยู่ทางใต้ของตุรกี โดยมีแม่น้ำ Euphrates ไหลผ่าน และมีพรมแดนทางทิศใต้ติด Syria ส่วนพรมแดนตะวันตกนั้นติด Mesopotamia และอาณาจักร Persia การมีทำเลที่ตั้งดี เช่นนี้ทำให้ชาวโรมันต้องการเมือง Kommagene มาก เพราะจะได้ใช้เมืองนี้เป็นทางผ่านในการบุกประเทศที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก อีกทั้งใช้เป็นเมืองต้นทางเวลาต้องต่อสู้กับชาว Parthian ด้วย
      
       ในปี พ.ศ. 481 Antiochus I ซึ่งเรียกพระองค์เองว่า Philromanios ที่แปลว่า คนที่รักทั้งกรีกและโรมัน ได้ทรงผูกมิตรกับนายพล Pompey แห่งอาณาจักรโรมัน ผู้ตั้งใจจะบุกตุรกี เพื่อเปิดโอกาสให้พระองค์ทรงครองราชบัลลังก์ต่อไปได้ แทนที่จะทรงถูกจับเป็นเชลย การทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับโรมเช่นนี้ทำให้ Kommagenes ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมต่างชาติมาก ด้วยเหตุนี้เทพเจ้าที่ชาวเมืองเคารพและนับถือในอาณาจักรจึงมีทั้งที่เป็นเทพเจ้ากรีก โรมัน และเปอร์เซียน
      
       ในเวลาต่อมาเมื่อถึงปี พ.ศ. 615 กษัตริย์ Antiochus IV ทรงถูกจักรพรรดิโรมันผู้มีพระนามว่า Vesparian ปลงพระชนม์ เพราะทรงถูกกล่าวหาว่า วางแผนสมคบกับชาว Parthian เป็นศัตรูกับโรม Kommagenes จึงตกเป็นเมืองขึ้นของโรม และถูกลืมหายไปจากโลกจนกระทั่งถึง พ.ศ. 2424 เมื่อ Carl Sester วิศวกรชาวโรมันได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลตุรกีให้สำรวจบริเวณภูเขา Anti - Taurus และเขาได้รายงานการเห็นอนุสาวรีย์หินรูปร่างประหลาดในบริเวณ Nemrud Dagh ข้อมูลนี้ทำให้นักวิชาการเยอรมันชื่อ Karl Humann กับ Otto Puchstein รู้สึกสนใจมาก และเมื่อถึงเดือนพฤษภาคม 2426 Osman Hamdy Bey นักโบราณคดีชาวตุรกีก็ได้ไปสำรวจบริเวณ Nemrud Dagh บ้าง และแม้จะมีหิมะปกคลุมยอดหนาถึง 4 เมตร แต่ Bey ก็ยังเห็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่หลายอนุสาวรีย์นอนระเกะระกะอยู่ในบริเวณยอดเขา
      
       การค้นพบนี้ทำให้โลกเริ่มรู้จักอาณาจักรของ Antiochus ที่ได้สาบสูญไปเมื่อ 2000 ปี ก่อนอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจจริงจัง เพราะในสายตาของนักโบราณคดีตะวันตก อนุสาวรีย์ที่ Antiochus ทรงสร้างดูไม่สวยและป่าเถื่อน และนักโบราณคดีตะวันออกเองก็เห็นว่า อนุสาวรีย์เหล่านี้มีรูปลักษณ์เหมือนถูกทำขี้นด้วยช่างตะวันตก
       
       เมื่อถึงปี 2496 สถาบัน American Schools of Oriental Research ได้เริ่มสนใจ Nemrud Dagh บ้างจึงได้มอบให้ Theresa Goell กับ Frieduch Karl Doerner ขุดหาหลุมฝังพระศพของ Antiochus ที่ Nemrud Dagh
 
เครติด:ผู้จัดการออนไลน์