ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Danger รักอันตราย (yaoi) By uriuri

    ลำดับตอนที่ #1 : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 57


    INTRO

     

                    ผมมองชายสองคนที่ดูดีในชุดสูทหรูราคาแพงไม่ต่างกันเดินออกมาจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดัง เขาที่เป็นเป้าหมายของผมหยิบบุหรี่ราคาแพงออกมาจากกระเป๋า  ในขณะที่ลูกน้องอีกคนก็รีบหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดให้    ผมไม่เคยชอบคนสูบบุหรี่เลย  แต่คงต้องยกเว้นเขาคนนี้เสียแล้ว..บอกได้แค่ว่าภาพแบบนี้  ภาพที่เด็กๆไม่ควรเลียนแบบๆนี้  เขากลับดูดีและดูมีเสน่ห์มาก  ครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกว่าคนสูบบุหรี่แล้วดูเท่ห์เป็นแบบนี้นี่เอง  แต่...นี่ไม่ใช่ประเด็น  ผมมาที่นี่ไม่ได้เพื่อมาชื่นชม เขา

     

                    ก่อนที่รถส่วนตัวของเขาจะเข้ามาจอดรับเขาอย่างเมื่อวาน  ผมก็ตัดสินใจก้าวเดินไปหา เขาทันที  เป้าหมายของผมพูดอะไรบางอย่างในขณะที่ลูกน้องของเขาก็ขำเบาๆพร้อมโค้งรับคำอย่างนอบน้อม

     

                    เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น  ในระยะที่เรียกได้ว่า...เจ้าตัวคงรู้สึกตัว  สายตาคมกริบปรายตามองมาทางผมตรงๆ  พอมาอยู่ระยะนี้และโดนสายตาแบบนี้จ้องตรงๆผมก็รู้สึชาไปทั่วทั้งร่าง และดูเหมือนแรงกดดันจะรุนแรงกว่าเมื่อวานด้วยซ้ำ  นั่นอาจเพราะคนตรงหน้าดูดีมากและยังดูทรงอำนาจซะจนกำลังใจที่ผมรวบรวมมาตลอดหลายวันแทบพังทลาย

     

                    “สนใจไปต่อกับผมมั้ย?” ผมยิงคำถามตรงๆ สบนัยน์ตาคมที่มองมาอย่างเงียบๆ

     

                    “......” อีกคนเพียงใช้สายตาคมกริบมองผมอย่างพิจารณา

     

                    “เด็กขายหรอเนี่ย?”  เสียงเบาๆอย่างประหลาดใจจากลูกน้องที่อยู่ด้วย  แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ  ผมสนใจแต่คนที่เป็นเป้าหมายเท่านั้น

     

                    “...ว่าไงครับ”  ผมถามย้ำ  คงไม่มีใครรู้หรอกว่าผมต้องตั้งสติมากแค่ไหนกับการเผชิญหน้ากับ เขา คนนี้

     

                    “หึ...อายุเท่าไหร่”  มุมปากยกยิ้ม เสียงทุ่มทรงอำนาจ...มากในความรู้สึกของผม  แววตาคมกริบพราวระยับขึ้นมาอย่างน่าหวาดหวั่น  แต่ผมไม่อาจถอยได้แล้ว  และจนตอนนี้ก็ไม่มีอาการสั่นเหมือนช่วงแรกๆที่พึ่งตัดสินใจแล้ว

     

                    19 อีกสองวัน 20  นี่ผมคิดมาดีแล้ว  ดูไม่แก่เกินหน้าตาและไม่เป็นการโกหกเกินไป

     

                    “.......”  อีกครั้งกับสายตาคมที่มองผมอย่างสำรวจ  จนผมต้องเผลอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวแต่ก็ไม่คิดที่จะหลบสายตาของอีกฝ่าย

     

                    แต่ยังไม่ทันได้มีการพูดอะไรกันมากก็มีรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดใกล้ๆกับที่พวกเรายืนอยู่  รถยนต์ส่วนตัวพร้อมคนขับรถของ เขา  คนที่มากับ เขาทำหน้าที่เดินลงไปเปิดประตูรถคันหรูฝั่งที่พวกเรายืนอยู่

     

                    “เข้าไปสิ”  เสียงทุ่มทรงอำนาจเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับสายตาที่มองมาที่ผม  เป็นอันตกลงว่า เขาไปต่อกับผม ผมแอบเห็นคนเปิดประตูทำท่าประหลาดใจอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มเล็กน้อย  แต่ถึงตอนนี้ใครจะยังไงผมก็ไม่สนใจแล้ว

     

                    ผมก้าวเข้ามาในรถก่อนจะขยับมาอีกฝั่ง  ได้ยินเสียงพูดคุยระหว่างเขากับ...ลูกน้องด้วย  แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน  ก่อนที่เขาจะก้าวตามเข้ามา  สายตาคมเหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนมุมปากสวยในแบบฉบับของผู้ชายนั้นจะยกยิ้มบางๆ  ผมรีบหันหน้าไปอีกทาง  ไม่อยากมองอีกฝ่ายมากนัก

     

                    คนขับรถขับพาเรามาที่ตึกรูปทรงแปลกตาแห่งหนึ่ง  ด้านหน้าติดป้ายสวยหรูว่า ตึกช้างไทย  อืมมม...ดูๆไปมันก็เป็นตึกที่เหมือนหัวช้างแล้วมีงาสองข้างจริงๆนั่นแหละ ด้านบนของตัวตึกเชื่อมต่อกันหมด  มันดูสวยและหรูเหมือนโรงแรมเลย  แต่ดูเป็นส่วนตัวกว่านั้น  ผมมาทราบทีหลังว่านี่คือบ้านของเขา  ที่คนรวยมักเรียกว่า เซฟเฮ้าส์

     

                    เขาพาผมขึ้นลิฟต์แก้วมาที่ชั้นที่สูงที่สุดด้านบน  พอลิฟต์แก้วที่เราเข้ามาเปิดออกผมก็รู้สึกว่าตัวเองตาค้างไปเล็กน้อย  เพราะด้านบนนี้ทำหลังคาเป็นโดมกระจก  และมีบ้านหลังไม่ใหญ่มากนักอยู่หนึ่งหลังท่ามกลางสวนที่สวยมากๆ  ผมไม่เคยเห็นบ้านและสวนที่สวยงามขนาดนี้มาก่อนเลย

     

                    “ไปสิ”  เสียงทุ่มจากคนที่ยืนเคียงข้างมาตลอด  ผมเหลือบมอง เขาเล็กน้อยเห็นมุมปากสวยนั่นยกยิ้มอีกครั้ง  เล่นเอาผมรู้สึกหงุดหงิดคันหัวใจยิบๆขึ้นมา

     

                    ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำหน้าตาเหวอโอเว่อร์อะไร  เพราะผมได้สีหน้าเรียบเฉยมาจากพ่อที่มักไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรบนใบหน้าอยู่แล้ว

     

                    ผมเดินตามที่ เขาจูงมาที่บ้านสวยหลังนั้น  หรูและแพงดูสมกับ เขาตั้งแต่ด้านนอกยันด้านในเลยทีเดียว  เราสองคนเดินเข้ามาในห้อง  เขาก็ไล่ให้ผมไปอาบน้ำก่อนเลย  ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการมากๆ

     

                    ก้าวเข้ามาในห้องนอนก็ปรากฏเตียงนอนหรูกว้างใหญ่  คงมีไว้พาสาวๆหรือไม่ก็หนุ่มๆมานอนเป็นประจำล่ะสิท่า  ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางมาที่ห้องน้ำ  ช่างเป็นห้องน้ำที่กว้างใหญ่แบ่งเป็นสัดส่วนสวยงาม  มีโถแยกชายหญิง  อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่  ห้องอาบน้ำ  และเคาน์เตอร์ที่สวยหรูด้วยหินอ่อน  อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำครบครันล้วนแต่ราคาแพงๆทั้งนั้น  อีกฝั่งของเคาน์เตอร์เป็นตู้บิ้วอินกระจกที่มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าพับไว้ตามชั้น  และชุดคลุมอาบน้ำแขวนอยู่ใกล้ๆกัน  อ้อ..มีพวกของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำอีกหลายชั้นด้วย  คงเอาไว้สำรองให้กับคนที่ เขาพามาสินะ  ดูๆไปในห้องน้ำนี้ทุกอย่างล้วนแต่เป็นสีขาวดูสะอาดตา

     

                    ผมถอดเสื้อผ้าพร้อมกับเอาเป้วางไว้กับเคาน์เตอร์ฝั่งหนึ่ง  ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ  ใช้แชมพูครีบอาบน้ำราคาแพงที่เขามีไว้  อาบน้ำสระผมสองรอบชดเชยกับที่ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน  แล้วผมก็ออกมาหยิบผ้าเช็คตัวเช็คตัวให้แห้ง  ก่อนจะถือวิสาสะหยิบแปรงสีฟันอันใหม่แกะออกมาใช้  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็สวมชุดคลุมอาบน้ำที่ใหญ่เกินตัวเดินออกมาข้างนอก  เขากำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่วางอยู่ริมห้อง  ในมือข้างซ้ายถือแก้วไวท์ขาว หรือ White Wine Glass ที่กำลังบรรจุน้ำสีเขียวใสอยู่ข้างใน  เขามองตรงมาที่ผมในขณะที่มือข้างนั้นก็เขย่าแก้วไวท์นั้นไปด้วย  สายตาคมกริบเหมือนจะสะกดตรึงผมให้ยืนติดอยู่กับที่  แวบหนึ่งผมเห็นเหมือนมุมปากของเขายกยิ้มเหมือนจะขำก่อนมือที่ถือแก้วไวท์จะยกขึ้นจิบโดยที่สายตาคมนั้นก็ไม่ได้ละจากผมไปไหน ผมมองสบกับดวงตาสี...แปลก คงเพราะด้วยแสงสว่างในห้องนี้มีมากกว่าด้านนอกที่เป็นเวลามืดค่ำแล้ว นัยน์ตาของเขาเป็นสี...อำพัน (Amber) มันเป็นลูกผสมของสีน้ำตาล ทองแดง และสีเหลืองทอง พบเห็นไม่มากนักและมักเรียกว่า ดวงตาหมาป่าหรือ ‘wolf eyes’ ใช่แล้วล่ะ  ดวงตาของเขาให้ความรู้สึกเหมือนดวงตาของหมาป่าที่กำลังจับจ้องเหยื่ออยู่นั่นเอง ก้ว่าอยู่ว่าตอนที่เห็นรูป เขา ในนิตยสารถึงได้รู้ว่าสีตา เขา แปลกๆ  ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะการแต่งภาพซะอีก

     

                    ถึงตอนนี้ความรู้สึกที่ทั้งกลัวทั้งลังเลได้ลดลงไปมากแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะแรงทิฐิและความเจ็บแค้นใจที่ไม่รู้จะไปลงกับใครที่ไหน  จึงทำให้การตัดสินใจในค่ำคืนนี้ง่ายขึ้น

     

                    เราสบตากันนิ่งๆ เมื่อผมไม่หลบ เขาก็ไม่หลบ  สุดท้ายจึงเป็นผมเองที่ต้องเลี่ยงสายตานั้นไปมองที่เตียงหลังใหญ่  ก่อนจะเดินตรงไปนั่งนิ่งๆที่ขอบเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และผมก็นั่งแหมะอยู่อย่างนั้น  ในขณะที่รู้ตัวอยู่ตลอดว่าทุกอากัปกิริยาตกอยู่ในสายตาคมสีแปลกนั้น  ในใจนึกเสียดายที่ไม่นำผ้าขนหนูผืนเล็กหรืออะไรก็ตามแต่ติดออกมาจากห้องน้ำด้วย อย่างน้อยก็ให้มีอะไรทำ  จะได้ไม่ต้องรู้สึกเคว้งคว้างไร้จุดหมายแบบนี้

     

                    “ชื่ออะไร?”  เสียงจากเจ้าของห้อง

     

                    ผมหันกลับไปสบตา เขาอีกครั้งก่อนจะ..“ภูมินทร์ครับ” ตอบและสบตาตาคมนั้น เห็นมุมปากเขากระตุกเหมือนจะยิ้มอีกเล็กน้อย

     

                    “ทำไมถึงมาขายตัว”  คำถามที่มาพร้อมโทนเสียงเรียบ  แต่ผมกลับสะอึกจนต้องลอบกลืนน้ำลาย  ก่อนจะกลบเกลื่อนทุกอย่างโดยไม่ให้ “เขา” ผิดสังเกต ทั้งๆที่ซ้อมมาอย่างดีแล้ว  แต่ผมถอยไม่ได้แล้ว

     

                    “เงิน...ผมอยากได้เงิน”  ผมตอบพร้อมสบตาเขาไปด้วย

     

                    “หึ...การเจรจาตกลงเสร็จสมบูรณ์” เขายิ้ม..

     

                    ..จากนั้น เขาก็ลุกและเดินตรงมาหาผมอย่างช้าๆ  ร่างกายผมสั่นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกว่ากำลังโดนคุกคามอย่างรุนแรง  เราทั้งคู่ยังคงสบตากัน เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมมองสำรวจผมอีกครั้ง

     

                    “ครั้งแรกหรือ?”

     

                    กึก!

     

                    “คะ..ครับ” ผมเริ่มควบคุมตัวเองลำบากเล็กน้อย  แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลับมาในภาวะปกติอย่างรวดเร็ว

     

                    “หึ  รับผิดชอบที่เหลือด้วย” ก่อนจะยื่นแก้วที่มีไวท์เหลืออยู่ค่อนแก้วมาตรงหน้าผม  พอผมรับแก้วนั้นมา เขาก็ส่งยิ้มอย่างถูกใจมาให้

     

                    เพียงแค่นี้ เขาก็หันหลังเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ

     

                    ปึก! เสียงประตูห้องน้ำปิดลงเบาๆผมก็...

     

     

                    “เฮ้ออออออ...”  จะไหวมั้ยเนี่ยยย?  อีกครั้งกับคำถามนี้  หากแต่พอนึกย้อนกลับไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว....



    TBC



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×