คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO
ผมมองชายสองคนที่ดูดีในชุดสูทหรูราคาแพงไม่ต่างกันเดินออกมาจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดัง ‘เขา’ ที่เป็นเป้าหมายของผมหยิบบุหรี่ราคาแพงออกมาจากกระเป๋า ในขณะที่ลูกน้องอีกคนก็รีบหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดให้ ผมไม่เคยชอบคนสูบบุหรี่เลย แต่คงต้องยกเว้น ‘เขา’ คนนี้เสียแล้ว..บอกได้แค่ว่าภาพแบบนี้ ภาพที่เด็กๆไม่ควรเลียนแบบๆนี้ ‘เขา’ กลับดูดีและดูมีเสน่ห์มาก ครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกว่าคนสูบบุหรี่แล้วดูเท่ห์เป็นแบบนี้นี่เอง แต่...นี่ไม่ใช่ประเด็น ผมมาที่นี่ไม่ได้เพื่อมาชื่นชม ‘เขา’
ก่อนที่รถส่วนตัวของ ‘เขา’ จะเข้ามาจอดรับ ‘เขา’ อย่างเมื่อวาน ผมก็ตัดสินใจก้าวเดินไปหา ‘เขา’ ทันที เป้าหมายของผมพูดอะไรบางอย่างในขณะที่ลูกน้องของเขาก็ขำเบาๆพร้อมโค้งรับคำอย่างนอบน้อม
เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ในระยะที่เรียกได้ว่า...เจ้าตัวคงรู้สึกตัว สายตาคมกริบปรายตามองมาทางผมตรงๆ พอมาอยู่ระยะนี้และโดนสายตาแบบนี้จ้องตรงๆผมก็รู้สึชาไปทั่วทั้งร่าง และดูเหมือนแรงกดดันจะรุนแรงกว่าเมื่อวานด้วยซ้ำ นั่นอาจเพราะคนตรงหน้าดูดีมากและยังดูทรงอำนาจซะจนกำลังใจที่ผมรวบรวมมาตลอดหลายวันแทบพังทลาย
“สนใจไปต่อกับผมมั้ย?” ผมยิงคำถามตรงๆ สบนัยน์ตาคมที่มองมาอย่างเงียบๆ
“......” อีกคนเพียงใช้สายตาคมกริบมองผมอย่างพิจารณา
“เด็กขายหรอเนี่ย?” เสียงเบาๆอย่างประหลาดใจจากลูกน้องที่อยู่ด้วย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ผมสนใจแต่คนที่เป็นเป้าหมายเท่านั้น
“...ว่าไงครับ” ผมถามย้ำ คงไม่มีใครรู้หรอกว่าผมต้องตั้งสติมากแค่ไหนกับการเผชิญหน้ากับ ‘เขา’ คนนี้
“หึ...อายุเท่าไหร่” มุมปากยกยิ้ม เสียงทุ่มทรงอำนาจ...มากในความรู้สึกของผม แววตาคมกริบพราวระยับขึ้นมาอย่างน่าหวาดหวั่น แต่ผมไม่อาจถอยได้แล้ว และจนตอนนี้ก็ไม่มีอาการสั่นเหมือนช่วงแรกๆที่พึ่งตัดสินใจแล้ว
“19 อีกสองวัน 20” นี่ผมคิดมาดีแล้ว ดูไม่แก่เกินหน้าตาและไม่เป็นการโกหกเกินไป
“.......” อีกครั้งกับสายตาคมที่มองผมอย่างสำรวจ จนผมต้องเผลอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวแต่ก็ไม่คิดที่จะหลบสายตาของอีกฝ่าย
แต่ยังไม่ทันได้มีการพูดอะไรกันมากก็มีรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดใกล้ๆกับที่พวกเรายืนอยู่ รถยนต์ส่วนตัวพร้อมคนขับรถของ ‘เขา’ คนที่มากับ ‘เขา’ ทำหน้าที่เดินลงไปเปิดประตูรถคันหรูฝั่งที่พวกเรายืนอยู่
“เข้าไปสิ” เสียงทุ่มทรงอำนาจเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับสายตาที่มองมาที่ผม เป็นอันตกลงว่า ‘เขา’ ไปต่อกับผม ผมแอบเห็นคนเปิดประตูทำท่าประหลาดใจอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มเล็กน้อย แต่ถึงตอนนี้ใครจะยังไงผมก็ไม่สนใจแล้ว
ผมก้าวเข้ามาในรถก่อนจะขยับมาอีกฝั่ง ได้ยินเสียงพูดคุยระหว่าง ‘เขา’ กับ...ลูกน้องด้วย แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ก่อนที่ ‘เขา’ จะก้าวตามเข้ามา สายตาคมเหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนมุมปากสวยในแบบฉบับของผู้ชายนั้นจะยกยิ้มบางๆ ผมรีบหันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากมองอีกฝ่ายมากนัก
คนขับรถขับพาเรามาที่ตึกรูปทรงแปลกตาแห่งหนึ่ง ด้านหน้าติดป้ายสวยหรูว่า ‘ตึกช้างไทย’ อืมมม...ดูๆไปมันก็เป็นตึกที่เหมือนหัวช้างแล้วมีงาสองข้างจริงๆนั่นแหละ ด้านบนของตัวตึกเชื่อมต่อกันหมด มันดูสวยและหรูเหมือนโรงแรมเลย แต่ดูเป็นส่วนตัวกว่านั้น ผมมาทราบทีหลังว่านี่คือบ้านของเขา ที่คนรวยมักเรียกว่า ‘เซฟเฮ้าส์’
‘เขา’ พาผมขึ้นลิฟต์แก้วมาที่ชั้นที่สูงที่สุดด้านบน พอลิฟต์แก้วที่เราเข้ามาเปิดออกผมก็รู้สึกว่าตัวเองตาค้างไปเล็กน้อย เพราะด้านบนนี้ทำหลังคาเป็นโดมกระจก และมีบ้านหลังไม่ใหญ่มากนักอยู่หนึ่งหลังท่ามกลางสวนที่สวยมากๆ ผมไม่เคยเห็นบ้านและสวนที่สวยงามขนาดนี้มาก่อนเลย
“ไปสิ” เสียงทุ่มจากคนที่ยืนเคียงข้างมาตลอด ผมเหลือบมอง ‘เขา’ เล็กน้อยเห็นมุมปากสวยนั่นยกยิ้มอีกครั้ง เล่นเอาผมรู้สึกหงุดหงิดคันหัวใจยิบๆขึ้นมา
ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำหน้าตาเหวอโอเว่อร์อะไร เพราะผมได้สีหน้าเรียบเฉยมาจากพ่อที่มักไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรบนใบหน้าอยู่แล้ว
ผมเดินตามที่ ‘เขา’ จูงมาที่บ้านสวยหลังนั้น หรูและแพงดูสมกับ ‘เขา’ ตั้งแต่ด้านนอกยันด้านในเลยทีเดียว เราสองคนเดินเข้ามาในห้อง ‘เขา’ ก็ไล่ให้ผมไปอาบน้ำก่อนเลย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการมากๆ
ก้าวเข้ามาในห้องนอนก็ปรากฏเตียงนอนหรูกว้างใหญ่ คงมีไว้พาสาวๆหรือไม่ก็หนุ่มๆมานอนเป็นประจำล่ะสิท่า ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางมาที่ห้องน้ำ ช่างเป็นห้องน้ำที่กว้างใหญ่แบ่งเป็นสัดส่วนสวยงาม มีโถแยกชายหญิง อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ห้องอาบน้ำ และเคาน์เตอร์ที่สวยหรูด้วยหินอ่อน อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำครบครันล้วนแต่ราคาแพงๆทั้งนั้น อีกฝั่งของเคาน์เตอร์เป็นตู้บิ้วอินกระจกที่มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าพับไว้ตามชั้น และชุดคลุมอาบน้ำแขวนอยู่ใกล้ๆกัน อ้อ..มีพวกของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำอีกหลายชั้นด้วย คงเอาไว้สำรองให้กับคนที่ ‘เขา’ พามาสินะ ดูๆไปในห้องน้ำนี้ทุกอย่างล้วนแต่เป็นสีขาวดูสะอาดตา
ผมถอดเสื้อผ้าพร้อมกับเอาเป้วางไว้กับเคาน์เตอร์ฝั่งหนึ่ง ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ ใช้แชมพูครีบอาบน้ำราคาแพงที่เขามีไว้ อาบน้ำสระผมสองรอบชดเชยกับที่ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน แล้วผมก็ออกมาหยิบผ้าเช็คตัวเช็คตัวให้แห้ง ก่อนจะถือวิสาสะหยิบแปรงสีฟันอันใหม่แกะออกมาใช้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็สวมชุดคลุมอาบน้ำที่ใหญ่เกินตัวเดินออกมาข้างนอก ‘เขา’ กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่วางอยู่ริมห้อง ในมือข้างซ้ายถือแก้วไวท์ขาว หรือ White Wine Glass ที่กำลังบรรจุน้ำสีเขียวใสอยู่ข้างใน เขามองตรงมาที่ผมในขณะที่มือข้างนั้นก็เขย่าแก้วไวท์นั้นไปด้วย สายตาคมกริบเหมือนจะสะกดตรึงผมให้ยืนติดอยู่กับที่ แวบหนึ่งผมเห็นเหมือนมุมปากของเขายกยิ้มเหมือนจะขำก่อนมือที่ถือแก้วไวท์จะยกขึ้นจิบโดยที่สายตาคมนั้นก็ไม่ได้ละจากผมไปไหน ผมมองสบกับดวงตาสี...แปลก คงเพราะด้วยแสงสว่างในห้องนี้มีมากกว่าด้านนอกที่เป็นเวลามืดค่ำแล้ว นัยน์ตาของเขาเป็นสี...อำพัน (Amber) มันเป็นลูกผสมของสีน้ำตาล ทองแดง และสีเหลืองทอง พบเห็นไม่มากนักและมักเรียกว่า ‘ดวงตาหมาป่า’ หรือ ‘wolf eyes’ ใช่แล้วล่ะ ดวงตาของเขาให้ความรู้สึกเหมือนดวงตาของหมาป่าที่กำลังจับจ้องเหยื่ออยู่นั่นเอง ก้ว่าอยู่ว่าตอนที่เห็นรูป ‘เขา’ ในนิตยสารถึงได้รู้ว่าสีตา ‘เขา’ แปลกๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นเพราะการแต่งภาพซะอีก
ถึงตอนนี้ความรู้สึกที่ทั้งกลัวทั้งลังเลได้ลดลงไปมากแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะแรงทิฐิและความเจ็บแค้นใจที่ไม่รู้จะไปลงกับใครที่ไหน จึงทำให้การตัดสินใจในค่ำคืนนี้ง่ายขึ้น
เราสบตากันนิ่งๆ เมื่อผมไม่หลบ ‘เขา’ ก็ไม่หลบ สุดท้ายจึงเป็นผมเองที่ต้องเลี่ยงสายตานั้นไปมองที่เตียงหลังใหญ่ ก่อนจะเดินตรงไปนั่งนิ่งๆที่ขอบเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และผมก็นั่งแหมะอยู่อย่างนั้น ในขณะที่รู้ตัวอยู่ตลอดว่าทุกอากัปกิริยาตกอยู่ในสายตาคมสีแปลกนั้น ในใจนึกเสียดายที่ไม่นำผ้าขนหนูผืนเล็กหรืออะไรก็ตามแต่ติดออกมาจากห้องน้ำด้วย อย่างน้อยก็ให้มีอะไรทำ จะได้ไม่ต้องรู้สึกเคว้งคว้างไร้จุดหมายแบบนี้
“ชื่ออะไร?” เสียงจากเจ้าของห้อง
ผมหันกลับไปสบตา ‘เขา’ อีกครั้งก่อนจะ..“ภูมินทร์ครับ” ตอบและสบตาตาคมนั้น เห็นมุมปากเขากระตุกเหมือนจะยิ้มอีกเล็กน้อย
“ทำไมถึงมาขายตัว” คำถามที่มาพร้อมโทนเสียงเรียบ แต่ผมกลับสะอึกจนต้องลอบกลืนน้ำลาย ก่อนจะกลบเกลื่อนทุกอย่างโดยไม่ให้ “เขา” ผิดสังเกต ทั้งๆที่ซ้อมมาอย่างดีแล้ว แต่ผมถอยไม่ได้แล้ว
“เงิน...ผมอยากได้เงิน” ผมตอบพร้อมสบตาเขาไปด้วย
“หึ...การเจรจาตกลงเสร็จสมบูรณ์” เขายิ้ม..
..จากนั้น ‘เขา’ ก็ลุกและเดินตรงมาหาผมอย่างช้าๆ ร่างกายผมสั่นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกว่ากำลังโดนคุกคามอย่างรุนแรง เราทั้งคู่ยังคงสบตากัน ‘เขา’ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมมองสำรวจผมอีกครั้ง
“ครั้งแรกหรือ?”
กึก!
“คะ..ครับ” ผมเริ่มควบคุมตัวเองลำบากเล็กน้อย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลับมาในภาวะปกติอย่างรวดเร็ว
“หึ รับผิดชอบที่เหลือด้วย” ก่อนจะยื่นแก้วที่มีไวท์เหลืออยู่ค่อนแก้วมาตรงหน้าผม พอผมรับแก้วนั้นมา ‘เขา’ ก็ส่งยิ้มอย่างถูกใจมาให้
เพียงแค่นี้ ‘เขา’ ก็หันหลังเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ
ปึก! เสียงประตูห้องน้ำปิดลงเบาๆผมก็...
“เฮ้ออออออ...” จะไหวมั้ยเนี่ยยย? อีกครั้งกับคำถามนี้ หากแต่พอนึกย้อนกลับไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว....
TBC
ความคิดเห็น