คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คนตาบอดขี่ม้าตาบอด
คนตาบอดขี่ม้าตาบอด
ในยามกลางคืนที่มืดสนิท ไม่มีแม้แต่แสงใด ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวออดมาเดินกลางถนน
ชายตาบอดคนหนึ่ง กำลังขี่ม้าตาบอดเดินไปตามทางนั้น
ในขณะที่ทางข้างหน้ามีบ่อน้ำลึกขวางทางอยู่
ทั้งคนและม้า ต่างก็ต้องมีชะตากรรมเดียวกัน นั่นก็คือ อาจจะต้องตกบ่อน้ำตายโดยไม่รู้ตัว
แม้จะเป็นเวลากลางวัน
แต่คนที่ยังตาบอด ม้าเองก็ยังตาบอด
คงไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่รออยู่ข้างหน้าได้
ในช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังมีแต่ความทุกข์และความผิดหวัง หนทางข้างหน้าก็ดูมืดมนและมืดมิด จนแทบมองไม่เห็นทางเดินชีวิตและอนาคตข้างหน้า
และยิ่งปล่อยให้จิตใจของเรามืดมน ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์และความเศร้าหมองต่อไปอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่ยอมที่จะลุกขึ้นสู้ ชะตากรรมของเราก็คงไม่ต่างไปจากคนตาบอดที่กำลังขี่ม้าตาบอด
เพราะถึงแม้จะรู้ว่ามีบ่อน้ำลึกขวางอยู่ข้างหน้า แต่ยังปล่อยให้ตัวเองเดินต่อไปอย่างสะเปะสะปะ ก็เท่ากับยิ่งซ้ำเติมตัวเองให้ยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
หากเรากำลังตกอยู่ในความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม นั่นเพราะเราอาจจะคาดหวังกับอะไรมากเกินไป จนปล่อยเวลาให้ดำเนินผ่านไป
ยิ่งเราพร่ำ เราคร่ำครวญถึงความทุกข์มากเท่าไร ก็มีแต่จะจมลงไปในห่วงแห่งความทุกข์ที่ลึกลงไปมากขึ้นเท่านั้น
ปล่อยวางเสียบ้าง จะได้มองเห็นอะไรๆ ชัดเจนขึ้น...
ชายตาบอด ไม่อาจเปลี่ยนตัวเองให้กลับมามีตาที่มองเห็นเหมือนเดิมได้
เช่นเดียวกับม้าที่ตาบอดตัวนั้น ก็ไม่อาจเปลี่ยนตาตัวเองให้มองเห็นเหมือนเดิมได้
แต่คุณโชคดีกว่านั้น
เพราะคุณสามารถเปลี่ยนความคิดและจิตใจที่มืดมนของคุณใหม่ได้ เพียงแค่คุณลุกขึ้นสู้เท่านั้น
ความคิดเห็น