คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สาส์นคู่มือแห่งดินแดนแห่งความสงบ
ประวัติความเป็นมาของดินแดนแห่งความสงบ
เดิมทีแล้ว ดินแดนนี้เป็นเพียงที่ดินรกร้างที่มีแต่ป่า ป่า ป่า และป่า สิ่งมีชีวิตมากมายอยู่กันอย่างสันติ แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เมื่อความชั่วร้ายได้คืบคลานเข้ามาถึงดินแดนแห่งนี้ การฆ่าฟัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ความขัดแย้งจึงได้เกิดขึ้น เทพผู้ปกปักรักษาพลังธาตุทั้ง 7 เกิดการไม่ลงรอย สงครามจึงได้เกิดขึ้น สิ่งมีชีวิตมากมายต้องล้มหายตายจากไป จนในที่สุด เทพผู้เป็นใหญ่ที่สุด นามเซซุส (ท่านเพทซุสนั่นแหละ คนเดียวกัน แค่ดัดแปลงชื่อนิดหน่อย) ทรงลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง ท่านได้สร้างเสาธาตุแห่งความสมดุลไว้บนท้องฟ้าเหนือเทือกเขาเทรเซีย แล้วทำการผนึกเทพทั้ง 7 ไว้ภายในเสา ได้แก่ เสาธรรมชาติ(ดินและพืช) เสาน้ำ เสาความมืด เสาเพลิง เสาลม เสาสายฟ้า และเสาแสง แต่เรื่องราวไม่ได้จบแต่เพียงเท่านั้น เทพผู้ปกปักรักษาธาตุแสงได้ทรยศหักหลัง ทำลายเสานั้นทิ้งเสีย และประกาศทำสงครามกับเทพเซซุส ก่อนจะโดนเทพเซซุสสังหารทิ้งด้วยสายฟ้า แต่เสาที่ถูกทำลายไปก็ไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นแบบเดิมได้ เสาควบคุมธาตุจึงหายไปหนึ่งต้น ไม่ครบตามจำนวนจนถึงปัจจุบัน
หลังจากที่เทพสูงสุดลงมาจัดการเรื่องต่างๆเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้รังสรรค์สิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าเดิม ดินแดนที่กว้างใหญ่ สงบ และร่มรื่น เทพเซซุสได้สร้างเมืองลอยฟ้าไว้เหนือยอดเทือกเขาเทรเซีย ประกอบด้วย ดินแดนทั้ง5 ดินแดนเหมันต์ ดินแดนใบไม้โรย ดินแดนทินกร ดินแดนหยาดน้ำค้าง และดินแดนวสันต์ ท่านได้ทรงประทานเทพธิดาแห่งฤดูกาลมาดูแลที่ดินแดนทั้ง 5 เพื่อคอยควบคุมสมดุลต่างๆของดินแดนแห่งความสงบและเมืองลอยฟ้าแห่งนี้ รวมทั้งคอยควบคุมไม่ให้ธาตุทั้ง 7 เกิดความแปรปรวน และไม่ให้เสาพลังทั้ง 6 ต้นถูกทำลายไป ก่อนที่เทพเซซุสจะส่งดินแดนแห่งนี้ให้มนุษย์รับไปดูแลต่อ
ในรัฐสมัยขององค์จักรพรรดิฮิคารุ พระองค์ได้ทรงแต่งตั้งให้ข้ามาดูแลดินแดนแห่งนี้ หลังจากที่ข้าได้รับคำสั่งแต่งตั้งนั้น ข้าก็ได้ดั้นด้นเดินทางมาจากเมืองแห่งเทพนิยาย ซึ่งเป็นเมืองแม่ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อมาบุกเบิกดินแดนแห่งความสงบแห่งนี้ ข้าได้สร้างเมืองต่างๆ ดินแดนต่างๆ รวมทั้งได้สร้างวิหารกลางอยู่ในเมืองลอยฟ้า เพื่อไว้ประกอบพิธีประจำปี อย่างพิธีควบคุมธาตุ หรือไว้จัดพิธีระลึกถึงองค์เทพเซซุส หรือไว้เพื่อเป็นสื่อกลางในการเข้าพบกับเทพธิดาแห่งฤดูกาล ผู้เป็นดั่งตัวแทนของเทพพระเจ้าทั้งมวล
ที่ตั้งเเละสถานที่สำคัญ
ดินแดนแห่งความสงบตั้งอยู่ทางใต้ของโลกแห่งเทพนิยาย กินพื้นที่นับล้านตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับชายแดนดินแดนELF ทิศใต้ของดินแดนติดต่อกับทะเลไร้คลื่น ทิศตะวันตกติดต่อกับดินแดนนักรบ และทิศตะวันออกติดต่อกับดินแดนแห่งความโดดเดี่ยว
สถานที่สำคัญของดินแดนแห่งความสงบคือ เมืองลอยฟ้า อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนแห่งความสงบ ถัดมาเทือกเขาเทรเซีย อันเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์และเป็นอาณาเขตของเมืองลอยฟ้า เมืองมายาเทีย เมืองมายาที่มีไว้สำหรับป้องกันผู้ที่คิดร้าย เป็นปราการแรกที่สำคัญที่สุดของดินแดน แต่ในทางเดียวกัน ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามไม่แพ้ที่ใด เมืองพรินเทเรีย เมืองทางเหนือที่มีอาณาเขตติดต่อกับดินแดนELF เมืองหลักในการค้าขายกับต่างดินแดนและอุตสาหกรรม เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของดินแดนแห่งความสงบให้ดำเนินต่อไปอย่างไม่มีติดขัด และยังมี แนวหินสโตลเลจ ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมบางอย่าง เมืองเทลโฮล เมืองที่รวมไปด้วยเหล่าผู้กล้าที่มีฝีมือมากไม่รองใคร มีทหารหาญมากมายที่พร้อมจะสละตนเพื่อปกป้องดินแดนแห่งความสงบ หากมีใครคิดร้าย ป่าพันไมล์ สถานที่เขียวชอุ่ม เป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตมากมายทั้งที่ใกล้สูญพันธุ์และที่ยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไป เป็นเขตอนุรักษ์ ที่ดินแดนเราให้ความสำคัญไม่แพ้ปราการหลัก บึงร้อยธาตุ แหล่งพลังชั้นเยี่ยมของดินแดน เป็นทั้งที่ดูแลสมดุลธาตุ เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้คนมาขอพรอธิษฐาน หรือแม้แต่ดื่มน้ำเพื่อให้หายจากโรคร้าย ธาราเหมันต์ ลำน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลลงมาจากเมืองลอยฟ้า มีความพิเศษคือ จะใสอยู่ตลอดเวลา และจะมีเสียงบทเพลงแห่งผืนน้ำดังคลอเบาๆ ช่วยขับกล่อม ขัดเกลาความเครียดให้จางหายไป และสุดท้าย ทะเลไร้คลื่น ทะเลพิศวงที่หนึ่งปีจะมีคลื่นเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น แม้ว่าพายุจะเข้า โหมกระหม่ำมากมายอะไรขนาดไหน แต่น้ำทะเลก็ยังนิ่งสงบอยู่ดี เชื่อกันว่า เป็นไปตามตำนานที่เล่าขานกล่าวต่อๆกันมาว่า
เมื่อก่อนที่ท้องทะเลแห่งนี้ยังมีคลื่นปกติดี ได้มีหญิงสาวนางหนึ่งพลัดจมลงไป และได้รับการช่วยเหลือจากพรายน้ำหนุ่ม หญิงสาวคนนั้นสำนึกบุญคุณ นางจึงคอยมาดูแลปกป้องท้องทะเลแห่งนี้ไม่เคยขาด นานวันเข้า พรายน้ำตกหลุมรักหญิงสาวคนนั้น แต่หญิงคนนั้นไม่รู้ และได้ไปพบรักกับชายอีกเมือง หลังจากนั้น หญิงสาวก็มาที่ทะเลน้อยลง นานๆมาที จนกระทั่งไม่มาอีกเลย พรายหนุ่มตนนั้นที่เฝ้ามารอคอยทุกวัน จึงได้ลั่นวาจาคำสาปเอาไว้ว่า ‘ทะเลแห่งนี้จะไร้คลื่น ตราบจนกว่า ทะเลแห่งนี้จะเจอลม’ ลมในความหมายของเขาไม่ใช่สายลม หากแต่เป็นหญิงสาวที่เขารัก ดังนั้น ทะเลแห่งนี้จึงไร้คลื่น แต่จะมีคลื่นปีละครั้ง คือวันที่พรายหนุ่มตนนี้พบพานได้รู้จักและได้ช่วยเหลือหญิงสาวขึ้นมาจากท้องทะเล
กฎข้อระเบียบของดินแดน
1.ไม่ใช้คำหยาบคาย คำพูดรุนแรง หรือคำแสลงที่อาจจะไปทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่น
2.ไม่หาเรื่องใครก่อน
3.ศึกษาข้อมูลของดินแดนอย่างละเอียด
4.ประสงค์ดีต่อดินแดน
5.ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาดินแดน
6.ช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่ดินแดน
7.ให้เกียรติผู้ที่ทรงคุณวุฒกว่า
สินค้าส่งออก
สินค้า ส่งออกส่วนมากของเรานั้นจะเป็น ผ้าลินิน ทอง แร่ธาติต่างๆ ที่มีซึ่งสามารถผลิตเป็นเครื่องประดับได้ ไวน์องุ่น ข้าวบาร์เลย์ ผ้าฝ้าย ผ้าทอ ต้นสนซีดาร์ หรืออื่นๆ ดินแดนหลักที่ทำการค้าด้วย คือดินแดนELF หรือดินแดนอื่นๆที่ทางเรายังไม่ได้ไปทำเรื่องขอเป็นคู่ค้า
พิธีสำคัญของดินแดน
พิธี ที่สำคัญก็จะเป็นพิธีระลึกถึงเทพเซซุส พิธีควบคุมธาตุ โดยทางเราให้ความสำคัญกับ 2 พิธีนี้มาก ไม่ลบหลู่ ดูหมิ่น เพราะองค์เซซุสถือเป็นเทพผู้เปลี่ยนแปลงดินแดนและส่งต่อให้องค์จักรพรรดิ นอกจากนี้ยังมีงานรื่นเริงต่างๆ อย่าง งานฉลองทะเลไร้คลื่นในวันที่ทะเลไร้คลื่นมีคลื่น งานฉลอง 5 ฤดู เป็นการเฉลิมฉลองในช่วงที่จะมีครบทั้ง 5 ฤดู ในช่วงเวลาเดียวกัน หรือแม้แต่พิธีปัจฉิมฤดู คือวันสุดท้ายของฤดูนั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นฤดูอื่น อื่นๆอีกมากมาย
ปรัชญา
ดินแดนแห่งความสงบไม่ใช่เพียงดินแดนเล็กๆที่ต้องไปพึ่งพาใคร
ดินแดนแห่งความสงบ เป็นที่รวมของเหล่าผู้ทรงอำนาจ ไม่กดขี่ข่มเหงผู้อื่น แต่ดูเเลให้เขามีที่อยู่สืบไปชั่วกาลปาวสาน
ดินแดนแห่งความสงบไม่ขึ้นตรงกับใคร แต่อยู่ในความดูแลช่วยเหลือจากองค์จักรพรรดิ และจากโลกแห่งเทพนิยาย
ดินแดนแห่งความสงบคือความสงบในส่วนของตนที่ไม่ไปเบียดเบียนหรือทำให้ผู้อื่นลำบากใจ
ความสงบไม่ใช่ความเงียบ ไม่ใช่ความวังเวง แต่เป็นการที่เราอยู่ด้วยกันอย่างสันติ ไม่แบ่งพรรค์แบ่งพวก ไม่ทำร้ายใครก่อน
ดินแดนแห่งความสงบคือดินแดนแห่งรอยยิ้ม ความปรารถนาดี และความซื่อสัตว์ที่มีให้กัน
ความสงบย่อมสามารถสยบทุกอย่างได้ เพราะเมื่อมีความสงบ เราจะมีสติ เมื่อเรามีสติ เราจะมีปัญญา เมื่อเรามีปัญญา จะมีพละกำลัง
สังคมเเละวัฒนธรรม
ชนชั้นของดินแดนเรานั้นแบ่งออกเป็น 4 ชนชั้น ด้วยกันคือ
1. ชนชั้นเชื้อพระวงศ์
2. ชนชั้นสูง
3. ชนชั้นกลาง
4. ชนชั้นพันธมิตร (ชนชั้นพิเศษ)
โดยรวมของดินแดนแห่งความสงบนั้น สังคม และวัฒนธรรม เราถือเป็นดินแดนที่มีการบริหารร่วมกันที่ดี ประชาชนอยู่ในระดับชนชั้นสูงและชนชั้นกลางที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้สบายโดยไม่ต้องไปขอพึ่งพิงใคร ส่วนระดับชนชั้นล่างนั้น ต่อให้หาแบบพลิกดินแดนก็คงจะเจอเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เพราะดินแดนของเราเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เงินตราแทบไม่ได้ใช้สอย ถ้าหากไม่ได้อยู่ในตัวเมืองใหญ่ที่มีการซื้อขายคฤหาสน์ เพราะสามารถเก็บผลไม้ หรืออาหารป่ามารับประทานได้โดยไม่ต้องไปซื้อ หรือหากต้องการใช้เงิน ก็สามารถเก็บสมุนไพรป่าไปขายในราคาสูงได้
ระบบธนาคาร
ระบบธนาคารของดินแดนแห่งความสงบนี้มีอยู่ระบบเดียว คือการกู้ยืม สำหรับคนที่มีทุนทรัพย์รากฐานไม่แข็งแรงพอ สามารถมากู้ยืมเงินของธนาคารไปใช้ได้ก่อนโดยไม่คิดดอกเบี้ย แต่ต้องชำระคืนภายในหนึ่งเดือน ทุกการกู้ยืมจะมีการลงบันทึกไว้ ท่านไม่สามารถโกงได้
การซื้อขายบ้าน-ที่ดิน
ระดับการซื้อขายของดินแดนแห่งนี้มีด้วยกันทั้งสิ้น 4 ระดับ คือ
1.คฤหาสน์ ขายในราคา 150
2.บ้าน ขายในราคา 100
3.โรงแรมหรือหอพัก สามารถเช่าห้องได้ในราคา ห้องละ 50
4.ที่ดินเปล่า ขายในราคา 30
การจะขอซื้อนั้น เพียงแค่ท่านยื่นบัตรประจำตัว พร้อมกับชำระเงินครบตามที่กำหนด ทุกการชำระเงินเรามีการตรวจสอบก่อนอนุมัติ เมื่อเราอนุมัติแล้ว จะแจ้งทันทีที่ไอดีของท่าน ท่านสามารถมาขนของ ต่อเติม ตกแต่งได้ตามสะดวก หากท่านไม่มาขนของเข้าภายในเวลาที่กำหนด จะเกิดการเวนคืนที่ดินไปเป็นของหลวง
ความคิดเห็น