ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปราสาทวิตตอคาร์ค

    ลำดับตอนที่ #1 : ชั้นที่ 1 หอเกียติยศ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิวิคเตอร์มหาราช"ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ"

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 55



    สมเด็จพระมหาจักรพรรดิวิคเตอร์มหาราช"ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ"  แห่งรัชเซีย






    วันราชาภิเษก

    30 มกราคม 2549



    เครื่องราชอิสริยศสูงสุดแห่งชีวิต : พระประมุขสูงสุดแห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส - รัสเซีย และเครือรัฐเอกราช



    ข้อมูลส่วนพระองค์
    พระปรมาภิไธย นโปเลียน เดอ วิคเตอร์
    { Napoleon De Victer }
    สมเด็จพระมหาจักรพรรดิวิคเตอร์มหาราช"ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ"
    { Imperial Majesty Emperor Victer The Mangnificent }
    พระนามาภิไธย วิคเตอร์ ซี.โรมานอฟ
    { Victer C. Romanov }
    ประสูติ 30 มกราคม 1990
    เถลิงราชสมบัติ 30 มกราคม 2007
    สละราชสมบัติ 17 สิงหาคม 2011
    สมเด็จพระราชบิดา สมเด็จกรมหลวงทวีทรัพย์มหาราช
    สมเด็จพระราชมารดา สมเด็จพระนางเจ้าทองจำปา พระพันปีหลวง
    พระเชญภิคิณี-พระอนุชา-พระขณิษฐา
    -สมเด็จพระนางเจ้าอิซาเบลลาที่ 1
    -สมเด็จพระราชาธิบดีฟรองซัวที่ 1 แห่งฮังการี่
    -สมเด็จพระนางเจ้าเดลฟีน โรมานอฟ
    พระราชโอรสและพระราชธิดา
    ประสูติแด่สมเด็จพระนางเจ้าณัษฐภา พระมหาจักรพรรดินีนาถ
     - สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสลิลาพร                           
     - สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าปรีดียาธร                           
    - สมเด็จพระจักรพรรดิปีเตอร์ที่ 4 แกรนดยุกแห่งนอฟโกรอด
    - สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสุพรรณกรรณิการ์
    - สมเด็จพระเจ้าลูกยา เจ้าฟ้าชายเฮ็กเตอร์ ดมิทรี                    
    ประสูติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฟลัวน่า บรันเดนบรูกส์
    - สมเด็จพระนางเจ้าบลูโรส บรันเดนบรูกส์                           
    - สมเด็จพระนางเจ้านัวร์ บรันเดนบรูกส์                               
    ประสูติแด่สมเด็จพระมหาจักรพรรดินีนาถดอลลา เดอลาเทียร์
    -สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าเดวิล แฟนทอม เดอลาเทียร์
    -สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจอร์เจียน่า อเล็กเซ เดอลาเทียร์


    สมเด็จพระมหาจักรพรรดินโปเลียน เดอ วิคเตอร์"มหาราช" พระนามเดิมก่อนขึ้นครองราชสมบัติ 
    จอมพลเรือวิคเตอร์ คอนสแตนติน ไชยธวัช โรมานอฟ เป็นพระประมุขสูงสุดแห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส - รัสเซีย 
    ที่ทรงมีอุปนิสัยคล้ายกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส

    ประสูติ

    จักรพรรดิวิคเตอร์ประสูติที่โรงพยาบาลทหารเรือโรสแมรี่ กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในวันที่ 30 มกราคม 1990 
    ตอนทรงประสูตินั้นทหารเรือเขตทะเลบอสติกได้ทำปืนใหญ่ลั่นถึง 500 นัดอย่างพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เสมือนเป็นสัญญานการต้อนรับขององค์จักรพรรดิ


    การศึกษา

    ในวัยเยาว์ทรงได้รับการศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลจุฬาทิพย์
    จากนั้นทรงถูกย้ายไปศึกษาที่โรงเรียนบ้านป่าสักไก่
    ก่อนย้ายกลับมาสู่โรงเรียนประชานุกูล(ขำสนิทอนุเคราะ) 
    และได้ทรงย้ายไปโรงเรียนวรพิทยา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

    ในช่วงมัธยมศึกษาทรงศึกษาที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 
    การศึกษาในระยะนี้ทรงถูกกดขี่จากบรรดาครูอาจารย์หลายคน แต่ก็พยายามรอดพ้นมาได้ 
    แต่ก็ทรงได้เกรดค่อนข้างต่ำเนื่องจากทรงแข็งข้อกับบรรดาอาจารย์ที่กระทำตัวไม่สมควรเป็นอาจารย์ 
    จึงเกือบจะไม่จบการศึกษาภาคบังคับ

    ในช่วงหลังจากจบมัธยมศึกษาตอนต้นได้ทำงานเกี่ยวกับด้านลูกเสือของประเทศไทย จนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจตุถาภรณ์มงกุฏไทย และลูกเสือสรรเสริญ แต่ก็ต้องมีอันได้ยกเลิกทำเพื่อเข้าศึกษาต่อ

    ในช่วงการศึกษาอาชีวศึกษาได้ทรงศึกษาสาขางานคอมพิวเตอร์บริหารธุรกิจและพานิชยการใน 
    วิทยาลัยสยามบริหารธุรกิจ จากนั้นได้ลาออกมาศึกษาในสาขาวิชางานเครื่องกล 
    แผนกยานยนต์ในวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก สมุทรปราการ


    รับราชการทหาร
    ในปี 2548 ได้ทรงรับราชการทหารในกรมทหารเรือยุทธนาวาสมาพันธรัฐรัสเซียในยศเรือตรี
    จากนั้นได้บังคับการเรือรบแทนนาวาโทดมิทรี นิโคลัย 
    ในการสู้รบกับสหราชอาณาจักรอังกฤษ จึงได้เลื่อนยศเป็นนาวาโท 
    และได้รับชัยชนะในการยึดพื้นที่โปแลนด์,ฟินแลนด์ และเขตการปกครองอื่นๆจนได้รับสมญานามว่า
    "มังกรแห่งทะเลดำ" และได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นพลเรือตรี 
    จากการถล่มกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่ชายฝั่งนอร์เวย์จึงได้รับตำแหน่งพลเรือเอก
    ในงานเสนาธิการทหารเรือ และผู้บังคับการกองเรือทะเลดำ

    เดินสู่การเมือง

    พลเรือเอกวิคเตอร์ ได้เดินทางสู่การเมืองในตำแหน่งประธานสภากลาโหมแห่งสมาพันธรัฐ 
    และประธานสภาคอมมิวนิสต์แห่งชาติ และจากการรบชนะกองทัพบริทาเนียในเอเชียไมนอร์
    จึงได้รับการเลื่อนยศเป็นจอมพลเรือ 
    ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ และได้นำทหารเรือปฏิวัติล้มรัฐบาลสมาพันธรัฐ 
    และขึ้นเป็นเป็นผู้นำเผด็จการทหาร แต่ได้ใจประชาชนที่แบ่งที่ทำกินให้ประชาชน 
    และการรบชนะกองทัพสัมพันธมิตรที่โปแลนด์และปรัสเซียตะวันออก 
    และคาบสมุทรไอบิเรียน
    ก้าวสู่ตำแหน่งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
    ในปี 2549 เดือนมกราคม สภาดิไฮเนสในขณะนั้น จอมพลกรูชี่ ดูอังมือ 
    เป็นประธานสภาได้เสนอที่ประชุมให้เป็นประมุขของประเทศในฐานะจักรพรรดิ 
    ท่ามกลางการสนับสนุนของประชาชนทั่วทุกหัวระแหงในแผ่นดิน
    สภาดิไฮเนสจึงได้มีมติให้จอมพลเรือวิคเตอร์ คอนสแตนติน ไชยธวัช โรมานอฟ 
    เป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิรัสเซีย

    เปิดม่านสู่สงคราม
    ตั้งแต่สมเด็จพระจักรพรรดิวิคเตอร์มหาราชได้ขึ้นครองราชสมบัติ 
    รัสเซียต้องทำสงครามในทุกด้านและรบครั้งไม่ถ้วน 
    ตั้งแต่การรุกรานของบริทาเนียที่ทะเลดำ ยุทธการวอร์ซอต้านทัพบริทคิง 
    ประกาศเอกราชให้อังวะเป็นอิสระจากเพาโลเนีย สมรภูมิปราสาทกรุงโวลโตรกราดเพื่อต้านทัพดาร์กแลนด์ 
    การยกพลขึ้นบกที่ญี่ปุ่นเพื่อถ่วงอิทธิพลบริทคิง ยุทธการคราครอฟรวมยุโรปเป็นหนึ่ง 
    และสงครามคาบสมุทรไอบิเรียน โดยแต่ละสมรภูมิรบจะทรงบัญชาการทัพเอง
    โดยมีขุนพลแห่งจักรวรรดิที่คู่พระราชหฤทัยคอยรับพระบัญชาและพระประสงค์ในการสงคราม


    โดยมีผู้บัญชาการที่ทรงแต่งตั้งหลังจากครองราชสมบัติ ดังนี้
    กองทหารม้า
    - จอมพลมาร์มอง ไอ.วิลาดินอฟ ผู้บัญชาการทหารม้าคอสแซกและทหารม้าหอกอูราล(ถือหอกเยอรมัน)
    - จอมพลกรูเช่ มังอือเซ่ ผู้บัญชาการทหารม้าฮุซาร์และทหารม้าดรากูล
    กองทหารราบ
    - จอมพลดมิทรี วิลาดินอฟ ผู้บัญชาการกองพลที่ 10 รักษาการณ์แห่งจักรวรรดิ
    กองทหารปืนใหญ่
    - พลโทโอเปร่า บี.ปิลาดิโด ผู้บัญชาการกองทหารปืนใหญ่
    กองทหารรักษาพระองค์
    - จอมพลเปรโตรนาส บี.ปิลาดิโด
    - จอมพลเมอร์ซีแยร์ เดอ โกรแรนกรู
    กองทหารเรือ
    - จอมพลออร์ตอง ออร์ริรังต์

    หายนะแห่งชีวิต
    การประทะกันระหว่างจักรวรรดิรัสเซีย บริทคิง บริทาเนีย 
    ในเขตเอเชียกลางอย่างรุนแรงส่งผลให้พระเนตรขวาพระองค์บอด 
    ถึงแม้ว่าบริทคิงจะพยายามใช้เทคโนโลยีในการรบแต่ก็ไม่อาจสู่กองพลกระดูกเหล็กของจักรวรรดิรัสเซียได้
    แต่ก็ส่งผลให้ทหารประจำการลดลงอย่างมาก

    ในวันที่ 1 ธันวาคม ปี 2009 พระองค์ได้หย่าขาดกับสมเด็จพระนางเจ้าจารุวรรณ พระมหาจักรพรรดินีนาถ 
    ทำให้ทรงตรอมพระราชหฤทัยอย่างรุนแรงจนประชวร จากนั้นก็ทรงมิได้อภิเสกใครอยู่ได้นาน 
    แม้กระทั่งสมเด็จพระนางเจ้าฟลัวน่า บรันเดนบรูกส์ ที่ให้กำเนิดพระราชธิดาสองพระองค์นั้นก็ยังทรงหย่าร้าง
    ทำให้พระองค์ทุกข์ทนกับพระหทัยที่ไม่แข็งแรงดั่งที่พระองค์ปราถนา 
    และเมื่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดินีนาถดอลลาหายไปพร้อมเครื่องบินพระที่นั่ง 
    ทำให้พระองค์ตัดสินใจสละราชบัลลังค์จักรวรรดิฝรั่งเศส - รัสเซีย และทรงเสด็จขึ้นเรือรบหลวงแพนดอร่า
    เพื่อตามหาจักรพรรดินีนาถผู้หายไปกลางมหาสมุทรแอตแลนติก

    หลังจากนั้นหนึ่งเดือน สมเด็จพระมหาจักรพรรดิวิคเตอร์มหาราชทรงลงพระนามสละราชสมบัติ
    พร้อมกับที่สุสานภายในพระราชวังฤดูหนาวกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กสร้างเสร็จ พระองค์อภิเสกกับเลดี้คาร่า
    แต่ก็อยู่ใด้มินานก็ทรงหย่าร้าง หลังจากนั้น ในฐานะจอมทัพแห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส - รัสเซีย
    จอมพลเรือวิคเตอร์ก่อสร้างปราการ"ฟอร์นอร์ธ"แห่งน๊อกแลนด์ และป้อมปราการ"บารัดดูร์"แห่งกอร์โกรอธ

    ระหว่างนั้นภายใต้การปกครองของสมเด็จพระนางเจ้าณัษฐภา พระมหาจักรพรรดินีนาถ"ผู้สุนทรีย์"
    กองทัพจักรวรรดิฝรั่งเศส - รัสเซีย ถูกกองทัพแคสซาเดียของคา่ร่าท้าทายด้วยการลอกระบบและฐานันดรศักดิ์
    ทำให้ประมุขสูงสุดพิโรธถึงกับสั่งการให้จอมทัพวิคเตอร์เตรียมกองทัพทั้งหมดที่มีในการรบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×