you think i'm crazy maybe i'm crazy
you think i'm devil maybe i'm devil
......
you think i hate you
but maybe....
maybe i don't hate you
T--
"เรื่องนี้มันใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก..."
บัดนี้ผู้ชายสวมเสื้อกล้ามสีดำแขนแกร่งเต็มไปด้วยหมัดกล้ามกำลังเสยผมอย่างคิดไม่ตก ดวงตาสีมรกตมองตรงไปยังทูนหัวของตนอย่างนึกเป็นห่วง เวลานี้เจคพ่นควันบุหรี่ออกมาจนฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องนอน สมองตื้อไปหมด เค้าคิดไม่ออกจริงๆว่าจะแก้ปัญหาใหญ่หลวงครั้งนี้ยังไง
"ฉันพยายามขู่ให้เค้ากลัวแล้ว ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เค้าเข้ามาวุ่นวาย แต่ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันตัวปัญหาของแท้..."
ทูนหัวพูดจบก็มีสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ฟังจากเสียงท่าทางจะไม่ชอบใจผู้ชายหน้าเอเชียคนนั้นเอามากๆ
"เค้าย้ายมาอยู่บ้านหลังข้างๆได้ยังไง ?" เจ้าของร้านสักถามพลางมองออกไปยังประตูหน้าห้องที่เปิดแง้มไว้ เค้าจึงเห็นร่างมนุษย์คนนั้นนั่งอยู่ ท่าทางตัวหมอนั่นเองก็คงจะหวาดกลัวที่นี่ไม่ใช่น้อย นั้นสิ น้อยกว่านี้ก็แปลกแล้ว....
"ฉันเองก็ไม่เข้าใจ..."
"เรื่องนี้ พี่จอห์นนี่อาจจะรู้ก็ได้"
"ใช่ เค้ารู้แน่"
ทีว่าจบก็เบือนหน้าหลบไปทางอื่น พาเอาเจคที่นั่งข้างๆถึงกับต้องเงียบลงไปบ้าง เหตุเพราะ จอห์นนี่ เอฟเวอร์บัลธ์ คือนามที่ยากจะเอ่ยถึง ผู้ชายคนนั้นหายตัวไปตั้งแต่หกเดือนก่อนโดยไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย เค้าทิ้งบ้านหลังนั้นให้ทีดูแลโดยรับช่วงต่อในการทำหน้าที่เฝ้าประตูที่เป็นทางผ่านระหว่างโลกมนุษย์กับ แดนมืด เพราะแบบนั้นเองทีจึงไม่ค่อยได้กลับลงมาหาเจคบ่อยนัก และวินาทีต่อมาเมื่อเจคหันมองอีกฝ่าย เห็นคนหน้าหวานกำลังเม้มปากอย่างวิตกเจคก็ลูบหลังปลอบทันที คงพูดได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ทีและจอห์นนี่ เอฟเวอร์บัลธ์ เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเจ็บปวดเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ....
"แล้วคุณจะเอายังไงต่อ"
เจค แกงเกอร์พูดจบก็ส่งบุหรี่ม้วนที่เค้ากำลังสูบให้แก่ที ทว่าอีกฝ่ายกลับปฏิเสธความหวังดี เจ้าของร้านสักเห็นดังนั้นจึงพ่นควันบุหรี่ใส่ทูนหัวของตนเหมือนต้องการลงโทษที่ใจร้ายกับเค้านัก
"ฉันไม่มีทางเลือก ต้องรอจนกว่าเค้าจะกลับมา" ทีพูดจบก็ปัดมือไล่ควันบุหรี่ ร่างบางมองไปทางเจคอย่างไม่สบอารมณ์ คนที่ยั่วโมโหสำเร็จจึงหัวเราะออกมาเบาๆ
"เค้าไม่กลับมาเร็วๆนี้แน่..." พูดจบดวงตาสีมรกตที่เคยฉายแววทีเล่นทีจริงก็เปลี่ยนไป เจค แกงเกอร์ทิ้งบุหรี่บอดไฟลงพื้น ร่างกำยำเอียงคอกลับมาหาทีอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้สีหน้าของเจคเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด วินาทีต่อมาเจ้าของร้านสักก็จ้องทูนหัวของตนตาไม่กระพริบ...
"ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่ไม่ได้ เค้าจะตาย..."
เจคบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อเห็นแววตาสั่นไหวของร่างบาง เจ้าของร้านสักก็เอาปลายนิ้วมือของตนเกลี่ยผมทีอย่างทะนุถนอม...
"ถ้าฉันปล่อยเค้าไป พวกเราก็ตาย..."
แววตาแน่วแน่เหมือนจะตอบคำถามทุกอย่างที่เจคมีในใจจนกระจ่าง ดูท่าว่าทีคงจะยอมเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับมนุษย์คนนั้นแน่ๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เรื่องวุ่นว่ายและปัญหามากมายก็จะตามมาอีกนับไม่ถ้วน....
"มันเป็นความผิดฉันเอง ตอนนั้นฉันจนปัญญาจริงๆ ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะกลายมาเป็นแบบนี้"
ทูนหัวพูดจบก็กำมือแน่นอย่างเจ็บใจตัวเอง ถ้าเลือกได้ทีคงไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้จริงๆนั่นแหละ เห็นดังนั้นแล้วเจคแกงเกอร์จึงคว้ามือร่างบางมากุมไว้
"ไม่เอาหน่า อย่าโทษตัวเองเลย ผมจะช่วยคุณเอง..." พูดจบเจคก็ประคองใบหน้าสวยขึ้นมา ทีแรกทูนหัวทำท่าจะเบือนหน้าหนี แต่ในที่สุดริมฝีปากของร่างบางก็ถูกเค้าครอบครองอย่างเลี่ยงไม่ได้ เจคถอดเสื้อกล้ามของตนออกก่อนจะผลักทีลงไปนอนราบกับเตียงกว้าง เจ้าของร้านสักพรมจูบที่ต้นคอทูนหัวของเค้าอย่างคลั่งไคล้ มือหนาเอื้อมไปปลดเสื้อของอีกฝ่ายอย่างคล่องแคล่ว....
"แต่ตอนนี้คุณคงต้องตอบแทนผมก่อน..."
เสียงหายใจเข้าออกหนักๆทำให้แทยงที่นั่งกอดเข่ามืดแปดด้านเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เค้าตัดสินใจเดินตามเสียงนั่นไปยังห้องที่เปิดประประตูแง้มไว้ไม่กว้างนัก คนเป็นนักเขียนเอื้อมมือไปที่ลูกบิด เค้าผลักบานประตูออกช้าๆก่อนจะแอบมองภายในห้องนั้นเพื่อหาที่มาของเสียงน่าฉงนนั่น...
"อือ เจค..."
เสียงครางที่ดังกระเส่าทำเอาคนแอบมองหูตาพล่าเบลอ ภาพที่เห็นคือเพื่อนบ้านฆาตกรกับชายที่ชื่อเจคกำลังนัวเนียกันโดยที่ร่างของคนทั้งคู่เปลือยเปล่า!! เห็นดังนั้นแทยงก็รีบหันหลังขวับทันทีเค้าส่ายหน้าแรงๆ หัวใจเต้นรัวให้กับกิจกรรมสวาทที่เกิดขึ้นอย่างร้อนแรงเบื้องหลังบานประตูนั่น คนเป็นนักเขียนรู้ตัวอีกทีก็รีบเดินจ้ำไปอีกทาง เค้าตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าตัวเองจะต้องหาทางหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด! เพียงแต่หน้าประตูร้านบัดนี้ก็ถูกล็อคปิดไว้อย่างแน่นหนา แทยงจึงตัดสินใจเดินเลียบไปตามทางเดินมืดๆที่อยู่อีกฝั่ง แน่นอนล่ะ ใต้ดินแบบนี้ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ คนพวกนี้ใช้ตะเกียงเจ้าพายุในการให้แสงสว่างดูเหมือนดำรงชีวิตอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 เสียด้วยซ้ำ เพราะของใช้ต่างๆที่ผ่านตาก็ออกแนวโบราณล้าสมัย แถมตามผนังของร้านสักแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยเขาสัตว์หน้าตาพิลึกพิลั่นที่สำคัญคือน่าขนลุกยิ่งกว่าอะไรทั้งปวงที่เคยพบเคยเจอ
แทยงไม่อาจรู้เลยว่าเค้ากำลังจะเดินไปถึงที่ใด แต่เจ้าตัวก็ทำใจดีสู้เสือเดินไปตามทางเรื่อยๆ เห็นห้องแต่ละห้องไม่กว้างมากแบ่งไว้สองข้างทาง ได้กลิ่นอับและเหม็นหืนจนคนเป็นนักเขียนต้องยกมือปิดจมูก แสงไฟจากตะเกียงที่เจ้าตัวถือวิสาสะคว้าติดตัวมาด้วยช่วยทำให้แทยงเห็นสิ่งของภายในห้องต่างๆ...
และเมื่อสาดแสงไฟจากตะเกียงเข้าไปพบอะไรบางอย่างแทยงก็ต้องผงะ! คนเป็นนักเขียนขนลุกตั้งทุกอณูรูขุมขน! ทั้งเตียงผ่าตัด! สมองในขวดโหล! ลูกตามนุษย์ในแก้วเหล้า! อีกทั้งยังมีเศษนิ้วมือจำนวนหนึ่งในอ่างล้างหน้าอีก!!
พระเจ้า! นี่มันเกินไปแล้ว!
ความรู้สึกพะอืดพะอมกลับมาอีกครั้ง แทยงรีบเอามือปิดปากสะกดกลั้นอาการอยากอาเจียนของตนได้ทันเวลา และก่อนที่นักเขียนหนุ่มจะทรุดลงไปตรงนั้น เค้าก็สะดุดอะไรบางอย่างจนเซเกือบจะล้มลงไป โชคดีที่ตั้งหลักได้คนเป็นนักเขียนจึงก้มลงไปมองที่พื้นก่อนจะพบกับซากหนูที่เพิ่งตายสดๆร้อนๆ! เครื่องในของหนูสกปรกตัวนั้นแตกกระจายเต็มพื้น ไม่เพียงเท่านั้นกลิ่นคาวและคราบเลือดที่เลอะรองเท้ายังเป็นภาพติดตาถึงขนาดทำเอาลีแทยงสมองพร่าเบลอไปชั่วขณะ เค้าเผลอเหยียบหนูตายจนไส้ทะลักอย่างนั้นหรือ ? นักเขียนหนุ่มคิดได้ดังนั้นก็ถอยหลังช้าๆ มวนท้องเพราะรู้สึกขยะแขยงความโสโครกที่ติดมายังรองเท้า.....
"ถึงฉันจะใจดีให้แกอยู่ที่นี่ฟรี มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะอนุญาติให้แกฆ่าสัตว์เลี้ยงของฉันแบบนั้น.."
กว่าแทยงจะรู้ตัวว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาประชิดข้างหลังเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียแล้ว วินาทีที่คนเป็นนักเขียนตระหนักได้ถึงความไม่ปลอดภัยเค้าก็รีบหันขวับก่อนจะไปพบกับร่างเปลือยท่อนบนของช่างสักคนนั้น แทยงก้าวขาถอยหลังโดยสัญชาตญาณตัดสินใจวิ่งหนีกลับเข้าไปในห้องๆเดิมโดยที่เจ้าตัวไม่อาจรู้เลยว่าชะตากรรมของตนจะซ้ำรอยเหมือนตอนที่ถูกตรึงอยู่บนเตียงผ่าตัดตอนนั้นรึไม่!!? พระเจ้าล้อเล่นกับชีวิตของเค้าเกินไปแล้วจริงๆ!!
"พวกคุณต้องการอะไรจากผมนัก จะฆ่าผมงั้นเหรอ!?"
นักเขียนหนุ่มแผดเสียงดังจนลำคอแหบแห้งเมื่อเห็นแววตาสะท้อนแสงในความมืดกำลังฉายแววอำมหิตประดุจหมาล่าเนื้อที่พร้อมจะกระโจนเข้าใส่เหยื่ออย่างเค้าทุกเมื่อ!
"ชู่วว อย่าเสียงดังสิ ทูนหัวของฉันหลับอยู่"
เสียงเย็นตอบกลับมาท่าทางยียวน จากนั้นเจคก็เดินเข้ามาหาแทยงอย่างใจเย็นในขณะที่นักเขียนหนุ่มก้าวถอยหลังหนีด้วยหัวใจที่เต้นดังโครมคราม!!
"เมื่อกี้แกว่าไงนะ ฆ่าแกงั้นเหรอ? จริงๆมันก็เป็นหัวข้อที่น่าสนใจดีไม่หยอก.."
ฟังประโยคนั้นจบ กระดูกสันหลังชายหนุ่มก็ชาวาบ แทยงรู้สึกเหมือนร่างกายของตนตอนนี้อึดอัดจนหายใจแทบไม่ออกเพียงแค่สบนัยย์ตาประหนึ่งสุนัขล่าเนื้อคู่นั้นเค้าก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความบ้าคลั่งของอะไรบางอย่าง...
"แต่แกเข้าใจคำว่าฆ่าดีแค่ไหนกัน..."
พูดจบเจคก็มองร่างชายผู้โชคร้ายอย่างสมเพช แววตาสีมรกตกำลังฉายแววนักล่าเพื่อกดดันเหยื่อที่กำลังขวัญเสียทุกขณะ จู่ๆแทยงก็ก้าวขาไม่ออกเค้ารู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนแรงไปเสียดื้อๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีร่างของตนก็ถูกกระชากลงไปกระแทกเตียงผ่าตัดอย่างแรง ทุกอย่างเกิดเร็วจนน่าใจหาย นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่นักเขียนหนุ่มต้องเผชิญกับความระทึกขวัญสั่นประสาทแบบนี้!!
"แกรู้จักความทรมานรึเปล่า เข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดสักเสี้ยวนึงรึยัง"
เจคแกงเกอร์ฉีกยิ้มสะใจก่อนจะจัดการพันธนาการร่างชายโชคร้ายด้วยเข็มขัดหนัง ฝ่ายผู้ถูกกระทำอย่างแทยงจึงร้องตะโกนแหกปากเสียงดังจนสร้างความรำคาญใจให้แก่ผู้ฟังเป็นอย่างมาก ช่างสักจึงเอามือข้างซ้ายของตนอุดปากอวดดีนั่นทันที นักเขียนหนุ่มออกแรงดิ้นสุดแรงตัดสินใจกัดฝ่ามือของชายที่ชื่อเจคจนจมเขี้ยว! ทว่าคนถูกกัดทำแค่หัวเราะแล้วบีบสันกรามแทยงแรงขึ้น นอกจากใบหน้าชายผู้นั้นจะไม่ปรากฏอาการเจ็บปวดใดๆเค้ายังยิ้มสาแก่ใจกลับมาให้แทยงอีกด้วย! สุดท้ายนักเขียนหนุ่มจึงได้แต่ร้องโอดครวญในลำคอ ก่อนที่ต้นคอฝั่งซ้ายของตนจะถูกเข็มอะไรบางอย่างจ่อกระหน่ำซ้ำๆจนชายหนุ่มต้องกัดฟันระงับความเจ็บปวด มันเป็นความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด แทยงจึงลืมตาขึ้นมาจากก้นบึ้งของสติที่ใกล้หลุดลอย และแล้วแทยงก็ได้พบกับเครื่องสักคอยล์ขนาดกระทัดรัดที่ค่อยๆถอนออกจากต้นคอของตน....
"ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่าคิดหนีไปจากที่นี่เป็นอันขาด ข้างนอกนั่นมีแต่ปีศาจที่พร้อมจะฉีกกระชากร่างแกให้แหลกเป็นชิ้นๆ..." เสียงนั่นบอกทำนองเยาะเย้ยกึ่งๆจะข่มขวัญ
"แล้วพวกคุณต่างจากพวกข้างนอกนั่นตรงไหน!"
ว่าจบนักเขียนหนุ่มก็กุมต้นคอของตนที่เพิ่งถูกสักไปหมาดๆ เลือดที่ไหลซิบๆบนต้นคอทำให้แทยงนิ่วหน้าบอกบุญไม่รับ แววตาสับสันจ้องมองไปทางเจคแกงเกอร์อย่างไม่เข้าใจ และหลังจากนั้นไม่นานช่างสักคนนั้นก็จัดการปลดเข็มขัดเพื่อปล่อยตัวชายนักเขียนให้เป็นอิสระ เจคแค่นหัวเราะใส่ชายที่กำลังลุกขึ้นมาจากเตียงผ่าตัด เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกสงสัยเค้าก็ยักคิ้วก่อนจะตอบ
"ต่างสิ"
เจคแกงเกอร์พูดจบก็จุดบุหรี่ขึ้นสูบต่อหน้าต่อตาชายนักเขียน จากนั้นเค้าก็พ่นควันเหม็นๆใส่หน้าแทยงอย่างไม่ยี่หระ "แกคิดว่าที่แกรอดมาได้จนถึงตอนนี้เป็นเพราะอะไรกันล่ะ..."
ช่างสักกระซิบเสียงแหบพร่า เมื่อพูดจบเค้าก็เดินไปยังอีกฝั่งของมุมห้องเพื่อหยิบอะไรบางอย่างส่งกลับมาให้แทยง พอคนเป็นนักเขียนรับสิ่งนั้นมาก็พบว่ามันเป็นกระจกแตกๆบานนึง...
"ถึงพวกฉันจะเลวทรามในสายตาแกแค่ไหน แต่พวกฉันก็ไม่เคยมีความคิดฆ่ามนุษย์..."
เสียงหนักแน่นที่เอ่ยประโยคดังกล่าวออกมาทำให้แทยงเบิกตากว้าง แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นออกมาจากปากบุคคลตรงหน้า..
บุคคลที่เต็มไปด้วยความวิปริตวิปลาสพวกนี้น่ะหรือจะไม่ฆ่าคน ?
"แกก็ลองเลือกเอาเองแล้วกันว่าจะอยู่กับสัตว์ร้ายหรือว่าออกไปหาปีศาจที่ร้ายกว่า..."
เสียงเรียบว่าจบก็กลั้วหัวเราะก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ชายนักเขียนสับสนกับคำพูดที่ถูกทิ้งไว้ให้เลือกตัดสินใจเอาเอง และก่อนที่แทยงจะเลือกชั่งใจในคำตอบใดๆจู่ๆสายตาของเค้าก็เหลือบไปพบกับรอยสักที่ปรากฎเด่นหราบนต้นคอของตน...
หรือที่แปลว่ายังมีชีวิตอยู่....
50%
..............................................................
warning 1 :
ที่เคยบอกว่าดาร์คในที่นี่คือทุกอย่าง
ไม่ว่า เพศ อาชญากรรม
ศีลธรรม อบายมุก บลาๆ นะจ้ะ
ไรท์คิดไว้แล้วว่าฟีลต้องถึงมากๆ
ต้องดาร์คประมาณนี้ น้อยกว่านี้ไม่ได้
(อันนี้ยังเพิ่งเกริ่นๆเอ๊งง)
5555555555
จะสงสารคนอ่านหรือใครเด
(เอ้ะ หรือควรสงสารแทยง พ่อกระดาษขาวของแม่
เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว โถ่)
เอ่อ ส่วนอะไรที่สงสัยมีเหตุมีผลหมดแต่ยัง
ไม่พูดถึงแค่นั้นเอ๊ง แล้วก็แทยงไม่ได้ฝันไปนะคะ
ถ้าพล็อตจะจบห้วนแบบนั้น ก็จะน่าวงวารเกินไป
ฮือออ
คอมเม้นหายไปเยอะเลย
แบบนั้นเค้าไปแต่งเรื่องอื่นก่อนดีมั้ยน้าา
55555555555
#ฟิคหมึกสีดำ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย