"ฮือออ อีเงาะอีผีเปรตตตตตตตต"
"ไอ้ย้งใจเย็นๆมึง เค้าให้มาร้องเกะคลายเครียด"
"ใจเย็นเหี้ยอะไรมึงได้ไปแค่ครีมเมือกหอยทากก็พูดได้นี่"
"ไอ้เหี้ย..แล้วนี่อีคุณเงาะขายอะไรให้มึงวะ"
ฟังไอ้จอห์นพูดจบผมก็ระลึกถึงความอาฆาตที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนได้อีกครั้ง หลังจากที่อีคุณเงาะโบกกระดาษในมือไปมาราวกับอวตานเป็นเทพธิดาเฮร่าของกรุงทรอยส่วนผมจำต้องเป็นเชลยในม้าไม้ของมันไปโดยปริยาย
แน่นอนว่าเหตุการณ์วิปริตแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ากูไม่คึกคะนองวาดรูปไอ้เจย์หน้าแมวอะไรนั่น สติมีมั้ยล่ะ! ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นมึงคิดอะไรอยู่นะย้งแต่ตอนนี้กูรู้อย่างเดียวย้งว่า... พัง
พังมาก!
การที่ชีวิตต้องตกอยู่ในกำมือของอีคุณเงาะเนี่ยโคตรพัง! แล้วตอนนั้นก็ยังโดนมันขู่ด้วยไงว่าเรื่องจะถึงหูคุณแหม่มดีไม่ดีอาจเลยเถิดถึงเบื้องบนนั่นคือท่านประธานอี๊กกก
ทางเลือกของผมมีไม่มาก การ์ดที่จะหมอบก็ไม่เหลือ
สุดท้าย...
"ก็ได้แค่เซ็ตสโนไวท์กระปุกใหญ่ แผ่นมาร์กหน้าทองคำเปลว ครีมบำรุงผิวหน้าบัวหิมะพันปียกแพ็กเกตรวมๆแล้วก็ห้าพันกว่าเอ๊ง!!"
ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม!!
แต่ห้าพันกว่าคือเงินหนึ่งในสี่ส่วนของเงินเดือนกูเลยนะครับ!!!
ผมนี่ไม่มีกะจิตกะใจทำงานเลยตั้งแต่สูญเสียสิ่งที่เรียกว่าแบงค์พันไปกว่าห้าใบ! กุมขมับแน่นเลยเมื่อภาพหน้าของอีเงาะลอยเข้ามาในหัวก่อนที่มาร์คจอห์นตี๋จะทรุดลงนั่งข้างๆที่โซฟา
"อีนี่มันหน้าเลือดมากกว่าที่กูคิดไว้"
"ตี๋ขอพูดว่าโคตรหน้าเงินด้วยครับ"
"เราต้องแก้แค้นอีคุณเงาะแล้วล่ะพี่จอห์น"
ผม มาร์ค ตี๋ พยักหน้าพร้อมกันก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย โดยที่มีไอ้จอห์นลูบปลายคางอย่างใช้ความคิดเป็นแบ็คกราวข้างหลังซึ่งก่อนที่ทุกคนก็ตกลงปลงใจร่วมมือกันจัดการอีคุณเงาะ จู่ๆมนุษย์เมาเบียร์คนนึงที่หายไปจากบทสนทนาก็กำลังตะเกียกตะกายจากโซฟาขึ้นมาก่อนจะละเมอเพ้อเสียงดังฟังชัดว่า
"อีเงาะ! กูขอแช่งให้ผัวไม่รัก ครีมก็ไม่ดีเมือกหอยทากเร่งขาวเหี้ยอะไรทาแล้วหน้ากูเมือกจนหอยทากสบสันจะเรียกกูพ่ออยู่แล้ว!!"
ตอนนี้พี่โซลกำลังยืนบนโซฟาในสภาพที่มีเนคไทผูกหัว ถึงจะดูไม่มีสติสตังกับตัวแต่แววตาและการพูดกลับไม่เหมือนคนเมาแต่เหมือนนิสัยเปลี่ยนไปเป็นอีกคนเฉยๆ เอาง่ายๆก็คือจาก พี่โซลพ่อพระ --->พี่โซลวัดดาว ไปแล้ว
"...พี่โซลกินเบียร์ไปแค่สองกระป๋องเองนะ">ตี๋
"คนเหี้ยอะไรเมาแล้วปากหมาชิบหาย">จอห์น
"โคตรดุเลยครับพี่ครับ">มาร์ค
"พี่โซลมึงแย่งซีนกูแล้ว พวกมึงต้องสนใจเรื่องของกูดิวะ!"
ก่อนที่ไอ้พวกจอห์นมาร์คตี๋จะจับเข่าคุยกันผิดประเด็นไปมากกว่านี้ผมก็แย่งไมค์พวกมันมาตะโกนเสียงดังเพราะโคตรจะไม่พอใจที่ต้องมาพูดปิดท้ายประโยคแทนพี่โซลที่ตอนนี้กำลังจ้องตาเขม็งมาทางผมแววตาหยั่งกะนักเลงหัวไม้ก็ไม่ปาน
ทันใดนั้นก่อนที่ผมจะได้โวยวายไปมากกว่านี้รองเท้าคัทชูผู้ชายก็ถูกขว้างเข้ามาอย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่มีทางหลบทัน บาทาจึงกระแทกหน้ากูไปเต็มๆตามระเบียบก่อนที่เสียงผู้กระทำจะดังตามมา
"รำคาญ!!!"
สิ้นเสียงนั้นทั้งห้องก็เงียบ...ไอ้มาร์คย่อตัวลงปิดหูกับพื้น...ไอ้ตี๋อุปโลกน์ตัวเองเป็นเสาหิน...ยิ่งไอ้จอห์นนี่กลายไปเป็นหุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซไปเรียบร้อย
ส่วนผมน่ะเหรอ...ก็นอนเป็นผักชีโดยมีคัทชูแปะหัวตัวราบกับพื้นสภาพทุเรศสิ้นดีนี่ไง...
"กูว่าไอ้โซลจะไร้สติเกินไปล่ะ จับมันมัดมือเลยมะจะได้ไม่แผลงฤทธิ์">จอห์น
"ตี๋เห็นด้วยครับ ไม่ควรมีใครในห้องนี้ต้องเจ็บตัวอีก">ตี๋
"แล้วใครจะมัดพี่มันล่ะครับ..">มาร์ค
โถ่ อีเด๋อ ถ้ามึงไม่พูดประโยคเมื่อกี้ พวกพี่ๆคงไม่หันมามองแรงใส่มาร์คพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายหรอกจ้า พลาดคือพลาดคนล้มต้องถูกเหยียบ จงไปรองมือรองตีนไอ้พี่โซลซะมรึง
"ผมคนเดียวไม่ไหวหรอกครับพี่ พวกมึงจะบร้าไปแล้วเหรอออ"
"ไม่งั้นมึงจ่ายค่าเกะคนเดียวนะมาร์ค"
"ไอ้พี่จอห์นอย่าขู่กันดิวะ"
น้องมาร์คขบฟันดังกึก ขณะที่เหล่ไปทางพี่โซลที่สภาพกึ่มๆดูพร้อมอัดใครสักคนที่ทำให้เฮียแกไม่พอใจ
"ไม่ได้ขู่เอาไงจะทำไม่ทำถ้าไม่ทำมึงอย่ามาเรียกกูว่าพี่อีก"
"โอเคครับไอ้เหี้ยจอห์น"
"ว่าไงนะไอ้ม๊าร์คคค"
"รำคาญโว้ย!!"
ผลั่ก!!
สิ้นเสียงกัมปนาท ทุกๆอย่างก็กลับมาสงบโดยที่มีพายุลูกใหม่ซัดเข้ามา...นะโมตัสสะ..พี่โซลหักนิ้วดังกร็อบ กร็อบ ก่อนจะเดินตรงดิ่งมาทาง ผม จอห์น ตี๋ มาร์ค ที่กำลังนั่งกองรวมกันอยู่ที่พื้นหลังจากที่พี่โซลแม่งคว่ำโต๊ะเหล้าเบียร์หกกระจาย
"พวกมึงจะร้องเกะดีๆหรือจะร้องด้วยน้ำตา!!"
ตะโกนไม่พอมีกระชากคอไอ้จอห์นเข้าไปแถมเงื้อมือด้วยเนี่ยสิ ไอ้โซลพี่..กูยอมใจ..เก่งลายพรางก็ต้องหลบ เต๋าสมชายก็สู้มึงไม่ได้ ส่วนไอ้จอห์นนะเหรอ...
"พี่โซลครับ ผมว่าพี่ไปนั่งสบายๆที่โซฟาดีกว่านะครับพี่ เดี๋ยวพวกเราจะร้องเพลงสร้างความบันเทิงให้พี่เอง">จอห์น
"ใจเย็นๆก่อนนะพี่ เดี๋ยวตี๋จะไปนวดให้พี่ด้วย">ตี๋
"เอาเพลงไหนดีครับพี่โซลผมตามใจพี่หมดเลย">มาร์ค
"เอาบิ้กแบง"
มีความจีดีมีความแทยัง หน้าตาพวกกูดูเหมือนอยู่กังนัมตั้งแต่เกิดงี้เหรอ กูพูดภาษาไทยยังได้ไม่ครบสี่ภาคเลยมั้ยล่ะ อีกอย่างบอดี้แสลม โปเตโต้ โลโมโซนิคมีเพลงตั้งเยอะก็ไม่เลือกอีชิบหาย!
"เอาไงดีมึง กูร้องไม่เป็น"
ไอ้จอห์นหันมากระซิบกับผมเบาๆหน้าตาตื่น
"ตี๋รู้จักแต่บิ้กแบงที่เป็นทฤษฏีการขยายตัวของเอกภพน่ะครับ"
ส่วนไอ้ตี๋นี่แย่กว่ากูอีก ติ่งมากสุดถึงแค่ยุคเคโอติกใช่มั้ยตอบกูมา
"ผมเองก็ได้"
แต่ก่อนที่ลูกผู้ชายอย่างเราๆจะต้องตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปมากกว่านี้ไอ้มาร์คก็คว้าไมค์ขึ้นมา ก่อนจะกระตุกยิ้มและคีย์เพลงอย่างรวดเร็วจนผมแทบมองคีย์บอร์ดไม่ทัน
นี่มันอะไรกัน...
ท่าทางแบบนี้..ความมั่นใจเบอร์นี้...
"นันแกออนากามันบัมกวาฮัมเก hey!"
แทยัง!!
แทยังชัดๆ
นี่หรือแทยัง!!
ยัง!
ยังไม่พออีกมึง!
ตอนนี้ไอ้มาร์คกำลังแสดงความเหนือชั้นโดยหันหลังให้ซับไทยคาราโอเกะจากนั้นจึงปลดเนคไทแล้วเหวี่ยงลงพื้น ก่อนจะโยกย้ายส่ายเอวอย่างเมามันส์จนแม้แต่พี่จอห์นหรือไอ้ตี๋ก็ยังต้องลุกขึ้นมาเต้นท่าควงสวิ้งกันทั้งหมด
อะไรคือตอนนี้ไมค์ไม่พอ...และอะไรคือการที่พวกมึงร้องประสานเสียงกันเหมือนเกิดมาเพื่อเป็นวีไอพีที่จะขอแฟนแชนท์แต่บิ้กแบงวงเดียวชั่วชีวิต!
ไม่ได้การล่ะ
"...B.I.G Yea we bang like this โม ดู ทา กา ชี"
หยุดเดี๋ยวนี้นะมึง...
"ชงมาจึนกอทชอร๊อมมมม"
ท่อนจีดีต้องเป็นของกู!!!!
"BANG-BANG-BANG!"
แต่ช้าก่อน
"BANG BANG BANG"
ย้งว่าย้งตาไม่ฝาด...
"BANG-- BANG-- BANG"
การที่ตอนนี้เห็นไอ้ตี๋ทำมือเป็นปืนซึ่งเป็นท่าในตำนานของเพลงนี้โดยเฉพาะ เท่านั้นยังไม่พอตี๋ยังร้องลงทำนองแถมยังขยับไหล่ถูกต้องราวกับดู dance practice ver. mirror มาแล้วไม่ต่ำกว่าห้ารอบคืออะไรอ่ะครับ..
ตี๋หลอกพี่...
"ซาบังพัลบังโอบังกาซอพูนึนโกปี whoo"
แน่นอนว่าในบิ้กแบงจะมีจีดีสองคนไม่ได้ ในเมื่อตี๋สวมวิญญาณแล้วไม่ยอมถอดแบบนี้พี่จะเป็นคนไปเอง คิดได้อย่างนั้นผมก็ทิ้งตัวกับโซฟาที่ตอนนี้มีพี่โซลกำลังหัวเราะคิกคักชอบใจนั่งอยู่ข้างๆก่อนที่พี่แกจะหันมาหาผมแล้วพูด
"ทุกคนดูสนุกดีนะครับ..ว่ามั้ย"
"..!!"
อีดรอกนี่พี่โซลก็หลอกกูเช่นกัน!!!
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้วแต่เตนล์เพิ่งอยู่บนบีทีเอสยังไม่ถึงไหน ร่างบางปาดไอโฟนไปมาอย่างเซ็งๆก่อนที่โทรศัพท์จะสั่นเพราะมีคนโทรเข้า
เบอร์ไม่คุ้นเลย..
ถึงอย่างนั้นคนหน้าหวานก็ยังตัดสินใจกดรับสายก่อนจะกรอกเสียงราบเรียบลงไป
"สวัสดีครับ"
(ผมคิดว่าคุณเตนล์จะไม่รับซะแล้ว ผมจอห์นแผนกบัญชีเพื่อนไอ้ย้งนะครับ..คือตอนนี้ไอ้ย้งเมาเละเลยครับเอาแต่เพ้อถึงชื่อคุณแล้วก็พูดจาเละเทอะเกี่ยวกับเที่ยวเชียงใหม่ รักเธอหมดใจนะคนดีอะไรไม่รู้)
เสียงลนๆที่พร่ำพูดยาวแถมเนื้อหาสาระที่ออกจากปากยังพาดพิงถึงคนฟัง ทำเอาเตนล์ขมวดคิ้วหน้าเคร่ง
"เมาเละเลยเหรอครับ ไปทำอะไรกันมา"
เสียงเรียบที่ออกจากปากต่างจากสีหน้าที่เตนล์กำลังแสดงออกอย่างสิ้นเชิง...ไม่มีใครรู้ว่าคนพูดที่เสียงฟังดูเย็นชาจริงๆแล้วกำลังทำหน้าเครียดขรึมเพราะเป็นห่วงแฟนเก่าที่แสนซื่อบื้อและไม่เอาไหนเสมอต้นเสมอปลาย
(คือ..ไอ้ย้งมันเห็นคุณเตนล์กับท่านประธานวันนี้น่ะครับ มันก็เลยเฮิร์ต แปลกนะครับผมไม่เคยเห็นมันร้องไห้เสียใจแบบนี้มาก่อน ตัวร้อนไปหมดเลยไม่รู้เป็นไข้รึเปล่า ไอ้ผมจะรับมือคนเดียวก็ไม่ไหวเพราะเพื่อนอีกสามคนก็เมาแอ๋ไม่มีใครมีสติเลยที่สำคัญผมต้องรีบพาไอ้โซลกลับบ้านไปหาลูกเมียมันด้วยน่ะครับ...เข้าประเด็นเลยแล้วกัน...คือบ้านทุกคนอยู่คนละทางกับไอ้ย้งแถมผมไม่ได้ไปนานแล้วด้วย ไกลก็ไกล จำทางได้ลางๆเอง)
"..."
พูดแบบนี้หมายความว่าจะให้ไปช่วยงั้นสิ
(ไอ้ย้งมันบอกว่าให้โทรไปหาคุณเตนล์น่ะครับแล้วเดี๋ยวคุณจะมาช่วยผมเอง)
แล้วนี่ก็อีก...ไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนี้มาจากไหน...ตอนนี้ไม่มีอะไรเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะไอ้แฟนเก่า
(นะครับ..)
"คือว่า.."
ถึงจะมีจุดยืนและฝืนใจไม่ให้ใจอ่อนมากแค่ไหน แต่เมื่อได้ยินคำขอร้องจากปลายสายที่กำลังเงียบรอคำตอบเตนล์ก็อดหวั่นไหวไม่ได้...
ไม่ได้!จะใจอ่อนไม่ได้!
"ผมคงช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ"
แต่เราก็ใจร้ายไปรึเปล่าวะ...
(ขอร้องเถอะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณโกรธเกลียดอะไรย้งมันถึงขนาดนี้แต่แค่พามันไปส่งห้องก็พอ ถือว่าเห็นใจผมเถอะ ลูกเมียพี่โซลก็โทรถาม พ่อไอ้ตี๋ก็ด่าพ่อผม วุ่นวายกันใหญ่ คุณเตนล์คงไม่ใจร้ายเหมือนคุณเงาะหัวหน้าแผนกผมหรอกใช่มั้ยครับ)
พูดขนาดนี้ด่าออกมาเลยก็ได้นะ จริงๆ
"เห้อ ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้วล่ะครับ.."
ร่างบางพูดจบก็ได้ยินเสียงเฮจากปลายสายก่อนที่อีกฝ่ายจะบอกที่อยู่และตัดสายไป...เตนล์ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิด แต่ให้ไปส่งเฉยๆก็พอฝืนใจได้อยู่
เพราะถ้าต้องถูกเปรียบเทียบว่าใจร้ายเหมือนคุณเงาะนั่นก็ไม่ไหวเหมือนกัน
"จอดข้างหน้านี่แหละครับ"
เตนล์บอกพี่คนขับแท็กซี่ก่อนจะจัดการพยุงร่างของผมออกจากรถอย่างยากลำบาก เพราะผมทำตัวเลื้อยไปมาราวกับตัวไม่มีกระดูกเลยต้องซบอกซบไหล่ยัยแฟนเก่าอย่างช่วยไม่ได้...ช่วยไม่ได้จริงจริ๊งง
"เตนนนนล์จ๊าาาา"
"เงียบไปเลย รำคาญ"
"ทามมายย เธอพูดจาแบบน้านกับลาวล่ะคนสวยย"
พูดอย่างเดียวก็ไม่ใช่ยอดชายสิครับ ว่าแล้วผมจึงเอาจมูกซุกไซ้คอขาวๆของยัยหมวย กลิ่นแบบนี้แหละที่คิดถึง ต้องขอบคุณจอห์นแอนด์เดอะแก็งค์จริงๆที่ผลักดันพาผมมาถึงจุดจุดนี้
"ไอ้ย้ง!"
อั่ก!
ที่เค้าว่ากันว่าความสุขมักไม่อยู่กับเรานานเป็นเรื่องจริงครับ ยังไม่ทันที่ผมจะสูดกลิ่นหอมๆจากตัวยัยเตนล์ ศอกของยัยแฟนเก่าก็กระทุ้งใส่ท้องผมจนจุก แต่ไม่เจ็บหรอกครับ เพราะนี่อาจจะเป็นโอกาสทองสุดท้ายที่จะปรับความเข้าใจกับเตนล์ก็ได้ ดังนั้นผมต้องหน้าทน อดทน ทนมือทนเท้า ทนยิ่งกว่ากระบองเพชรในซาฮ่ารา
"เราคิดถึงเธอทู้กวานเลยน้าเตนน"
"เอากุญแจห้องมา"
"อืมม อยู่ในกระเป๋ากางเกงงงง"
"หยิบออกมาสิ"
ไม่บ่นเปล่ายังจะมาทำสายตากดดันคนเมาอย่างเราอีกนะหมวย...ยังอีก ขมวดคิ้วเข้าไปอีก อย่ามากดดันกันให้มากถ้าเราอยากกดและดันกับเธอบ้างจะรู้สึก
"ล้วงเอาเองงง"
พอผมพูดจบก็ฟุบเอาคางเกยไหล่ของเตนล์ทันที นี่แหละครับสายแหลที่แท้จริง ตอนนี้ยัยแฟนเก่าจึงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากเอามือนุ่มนิ่มล้วงเข้าไปในกางเกงผมก่อนจะคว้านหากุญแจที่ไม่มีตั้งแต่แรก คิคิ อุ้ย จั้กจี้ เตนล์จะล้วงมือลึกไปไหนเนี่ย
"ไม่เห็นมีเลย"
ก็ไม่มีนะสิจ๊ะคนสวย
"อ๋อ อยู่นี่นี่หน่าาา"
ว่าแล้วก็หยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้เตนล์ไป คนรับทำหน้าหมวยโกรธใส่ผม ก่อนจะต้องถอนหายใจออกมาเพราะคงคิดได้ในใจว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา..
เตนล์แบกผมเข้ามาในห้องก่อนจะใช้เท้าถีบประตูให้ปิดลงอย่างแรงราวกับว่าประตูอันนั้นคือหน้าผมเอง คนตัวเล็กรีบพยุงร่างของผมไปที่เตียงก่อนจะทิ้งผมลงไปอย่างไม่ใยดี
"..."
เงียบ...ผมแกล้งหลับตาเนียนเป็นคนเมาไม่ได้สติแต่ที่จริงกำลังตั้งใจเงี่ยหูฟังบรรยากาศรอบๆหากแต่ไม่ได้ยินเสียงบ่นหรือแม้แต่เสียงถอนหายใจที่ยัยหมวยชอบทำ
ตุบ
ที่ได้ยินตอนนี้กลับเป็นเสียงคนนั่งลงบนฟูกที่นอน
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่ติดตรงที่กลัวเล่นละครไม่เนียนผมเลยปรือตามองก่อนจะพบว่าเตนล์กำลังนั่งอยู่ข้างๆตัวผมโดยที่มีกะละมังและผ้าเช็ดตัวอยู่ตรงลิ้นชักข้างเตียง...
"ทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้ขี้เมา"
แน่ะ บ่นเราแต่ก็ปลดกระดุมแถมยังเช็ดตัวให้อีกนี่เธอ ยัยคนปากแข็งควรมาทำให้อย่างอื่นของเราแข็งจะดีกว่ามั้ย แล้วไอ้การที่มืออุ่นๆของเตนล์แตะลากโดนแผงอกของผมมันก็ยิ่งชวนให้เคลิบเคลิ้มเข้าไปใหญ่
"อืมม เตนล์"
เสียงครางในลำคอของผมชวน 18+ ไปอีกแต่มันฟินจริงๆนะท่านผู้ชม นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รับสัมผัสอุ่นๆแบบนี้ เตนล์ยังคงเช็ดตัวให้ผมอย่างเบามือต่อไป ชั่งไม่รู้อะไรเลยว่าเสืออย่างเรากำลังรอโอกาสตะครุบเหยื่ออย่างเธออยู่ทุกจังหวะ
"วันนั้นเราไม่น่าพูดแบบนั้นกับเธอเลย"
"..!!"
ด้วยความที่สำเนียงขี้เมาของผมเปลี่ยนไปเป็นเสียงเดิมเพิ่มเติมคือทำสายตาเจ้าชู้เยิ้มๆแบบที่ชอบทำเวลาอ้อนจะนอนตักยัยแฟนเก่า ตอนนี้เตนล์เลยสะดุ้งทำท่าจะลุกหนี
"พลาดแล้วล่ะเธอ.."
กว่ายัยหมวยจะตั้งตัวได้ก็ถูกผมพลิกตัวพร้อมจับร่างนุ่มนิ่มกดลงไปกับเตียงซะแล้ว
"นี่ ไม่ได้เมาเหรอ!"
"เราคอแข็งจะตายตอนที่เลิกกับเธอน้ำตามันขมกว่าเหล้าเยอะ"
"เหรอ แล้วรวมหัวกับเพื่อนมาหลอกเราแบบนี้ สนุกมากเหรอย้ง.."
พูดจบเตนล์ก็มองผมด้วยสายตาผิดหวัง จริงอยู่ว่าผมเล่นไม่ซื่อแต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ชาตินี้เราคงไม่ได้ปรับความเข้าใจกันแน่ๆ ยิ่งตอนนี้คดีผมเพิ่มทบเข้าไปอีกถ้าง้อเตนล์วันนี้ไม่สำเร็จพรุ่งนี้ผมคงถูกเกลียดตลอดชีวิตแน่นอนซาร่า
"เราแค่อยากคุยกับเธอแบบเมื่อก่อน"
"อย่าใช้คำว่าเมื่อก่อนมาตัดสินว่าตอนนี้ย้งจะทำแบบนั้นได้อีก"
รังสีความเย็นชายังคงแผ่มาใส่ผมอย่างต่อเนื่อง ใครหน้าไหนจะทนได้ถ้าได้ยินประโยคเมื่อกี้ นอกจากหน้าจะชาแล้วแขนยังชาตามไป ผมปล่อยมือที่ล็อคแขนทั้งสองของเตนล์ก่อนจะทรุดตัวนอนคว่ำข้างๆเตนล์โดยที่แขนยังพาดทับคนตัวเล็กไว้อย่างนั้น
"โกรธเกลียดเราขนาดนี้เลยเหรอ"
"..."
"แต่ถ้าเธอเกลียดเราแล้วจริงๆทำไมถึงยังมาส่งแถมยังเช็ดตัวให้เราแบบนี้ล่ะเตนล์.."
"อย่าเข้าใจผิดนะเพราะเพื่อนย้งขอร้องหรอก"
เตนล์กำลังโกหก...
ผมรู้จักยัยหมวยดีกว่าใครและอาจจะดีกว่าที่เตนล์รู้จักตัวเอง...แค่มองตาก็รู้แล้วว่าเตนล์กำลังสับสนกับคำพูดของผม
"เหรอ..จะปฏิเสธว่าไม่ได้รักเราแล้วเหรอเตนล์.."
ในขณะที่พูดประโยคนั้นผมก็ใช้ปลายจมูกไล้ที่เปลือกตาของเตนล์ลากผ่านมาที่แก้มแดงปลั่งช้าๆ ลมหายใจอุ่นๆของเตนล์ที่อยู่ข้างใต้ทำให้ใจผมสั่นแต่ต้องหยุดตัวเองไว้ก่อนและเก็บความคิดสกปรกที่อยากทำกับเตนล์ทิ้งไป ตอนนี้เตนล์กำลังหวั่นไหวกับผม...ร่างกายของเตนล์มักจะตอบสนองได้ดีทรยศเจ้าของเสมอและสัมผัสเหล่านี้นี่เองที่ทลายกำแพงสูงลิ่วที่เตนล์สร้างเอาไว้
ผมรู้จักเตนล์ดีที่สุด..รู้ว่าทำอะไรหรือทำตรงไหนเตนล์จะรู้สึกดี
"มองตาเราสิแล้วตอบว่าเธอไม่ได้รักเราแล้ว.."
"เราไม่ได้..อ้ะ"
ไม่อยากฟังให้จบประโยคเพราะจริงๆผมก็กลัวคำตอบนั้นเหมือนกัน เสียงของเตนล์กลืนหายไปในลำคอทันทีที่ผมประกบริมฝีปากลงไปอย่างรวดเร็วและวู่วาม...ลิ้นร้อนของเตนล์เคลื่อนไปมาในโพรงปากของผมอย่างไร้เดียงสา ทุกครั้งที่ผมจูบ..เตนล์จะทำตัวไม่ถูกแบบนี้ ผมชอบที่จูบทุกครั้งของเราเป็นเหมือนจูบแรกของเตนล์เสมอ
"โกหก"
"..."
ถ้าเธอไม่รู้ก็จงรู้ไว้นะหมวยว่าการเงียบคือการยอมรับโดยไม่ออกเสียง...ตอนนี้เป็นโอกาสของผมแล้ว..เตนล์กำลังใจอ่อนแล้วก็หวั่นไหวทั้งจากสัมผัสและคำพูดของผม..
"ย้งขอโทษนะครับ.."
ผมพูดเสียงแผ่วก่อนจะประคองร่างของเตนล์ให้นอนพิงหัวเตียง...เรามองตากันอย่างลึกซึ้ง...ขอบคุณที่เตนล์ไม่ได้ใช้แววตาเย็นชากับผมอีกแล้ว ผมยกมือนุ่มของยัยแฟนเก่าขึ้นมาก่อนจะบรรจงจูบลงไปที่หลังมืออย่างแผ่วเบา
"วันนั้นทุกอย่างที่เตนล์พูดน่ะมันถูกหมดทุกอย่างเลย..เราแค่กลัวว่าตัวเองจะแพ้เธอถึงได้ตั้งใจพูดทำร้ายจิตใจเธอหวังว่าเธอจะเสียใจแล้วเราจะได้เป็นคนชนะ"
"..."
"คำพูดพล่อยๆของเราวันนั้นมันกลับมาทำร้ายเราทุกครั้งที่คิดถึงเธอ..รู้อะไรมั้ยเตนล์จริงๆแล้วเราแพ้เธอมาตลอด.."
เสียงของผมขาดหายไปในขณะที่น้ำตากำลังเอ่อล้นขอบตาร้อนผ่าว...เพราะในใจรู้สึกผิดจริงๆคำขอโทษเลยมีความหมายในทุกคำที่ผมพูดออกไป ผมเคลื่อนตัวเข้าไปกอดเตนล์แน่นแล้วซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของคนตัวเล็ก
"ไม่ต้องรีบให้อภัยเราหรอกนะ ไม่ต้องกลับมาคบกับเราเพราะความสงสาร แต่ให้โอกาสเราพิสูจน์ตัวเองได้มั้ย..เราเปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่ไอ้ย้งคนเดิมที่ชอบทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว.."
"..."
เตนล์เงียบไม่ตอบคำถาม...ผมยกเนคไทเช็ดน้ำตาของตัวเองแบบผู้ชายปอนๆ ตอนนี้สิ่งที่อยากจะพูดทุกอย่างก็ได้พูดออกไปหมดแล้วหลังจากที่เก็บความรู้สึกไว้ไม่มีโอกาสขอโทษเตนล์อีกเลยตั้งแต่วันนั้น...
ซึ่งสิ่งที่ไม่อยากพูดก็มีแต่พระเอกจำเป็นต้องพูดครับแม้ว่าสุดท้ายตัวเองจะเจ็บแค่ไหน
"แต่ถ้าเตนล์มั่นใจแน่ๆว่ายังไงๆก็จะไม่กลับมาคบกับเราอีก..เราจะเป็นคนไปจากชีวิตเธอเอง"
ต้องหล่อและใจกว้างขนาดไหนถึงจะพูดประโยคแบบนี้ออกไปได้..ใครจะว่าพระเอกที่ชอบเสียสละนั้นโง่ก็ตามใจแต่ผมไม่ได้โง่ครับแค่อยากดูดีในสายตาเตนล์ขึ้นมาบ้างก็เท่านั้น
"..."
ซึ่งเตนล์ก็ยังคงเงียบตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้นั่นทำให้ผมไม่อาจรู้เลยว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมจะมาแสดงออกว่าตัวเองกำลังไม่มั่นใจก็ไม่ได้ ผมจึงจ้องตากลับไปยังแววตาสั่นไหวของเตนล์อย่างแน่วแน่ก่อนจะลั่นวาจาอย่างทรนงเยี่ยงลูกผู้ชายอกสามศอกว่า
"อย่าเพิ่งตัดเราออกจากตัวเลือกของเตนล์เลยนะ..แม้ว่าเราจะเทียบคุณเจย์ไม่ได้สักอย่างแต่เราก็จะสู้เพื่อเอาเธอกลับมาต่อให้ต้องพยายามทำให้เธอตกหลุมรักเราอีกกี่ครั้งเราก็จะทำ.."
แววตาที่แน่วแน่ของผม...เสียงที่เต็มไปด้วยเจตนารมณ์ของผม...มืออุ่นๆที่กุมมือเตนล์เอาไว้ของผม...
ผมยกทุกอย่างให้เตนล์และได้แต่หวังว่าเตนล์จะรับ..
"อืม"
เสียงอืมดังขึ้นเบาๆฟังคำนั้นจบผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองแต่ก็โผล่เข้ากอดเตนล์อย่างรวดเร็วเท่าความคิด เค้าจะรู้มั้ยว่าไอ้คำตอบสั้นๆนี่มีค่าแค่ไหน ถ้าตอบตกลงแบบนี้เราจะขุดหลุมพรางดักตัวเธอเอาไว้ตลอดไปจะกักตัวไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น
และไม่ว่าสุดท้ายคนที่ต้องตกลงไปในหลุมนั่นอาจจะจะเป็นตัวผมผมก็ยินดี...
แต่ผมจะไม่ปล่อยเตนล์ไปไหนอีกแล้ว...
TBC
............................................................................
talk : ง่า ขอเปิดใจ
กลัวมีคนลำไยแอร์ไทม์ของแก๊งหนุ่มออฟฟิศ 555555555555
พวกนางป่วงและสดใสขนาดนี้อย่าลำไยนางเลยน้า เพราะว่าเป็นฟิคที่มีนิยามมาตั้งแต่ต้นว่าป่วง
อารมณ์ดี และเน้นการทวงคืนเตนล์จากคุณเจย์โดยแก๊งหนุ่มออฟฟิศนี่ไง
ดังนั้นตัวละครทุกตัวสำคัญพอๆกัน ไม่ว่าจะคุณเงาะ คุณแหม่ม หรือแม้แต่ยาม (เดี๋ยวยามมา)
เอาล่ะสำหรับบทนี้ยาวมากและอีพระเอก
ไม่นกแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา (?)
ฮือ ดีใจด้วยนะย้ง สู้ต่อไปเพราะยังมีอุปสรรคมากมายที่เจ้คิดไว้
หนักกว่าคุณเงาะและคุณแหม่มรวมกันอีก สู้เข้านะเราแช่งอยู่ 55555555
#ออฟฟิศพี่ย้ง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ตอนนี้เตนล์ใจอ่อนแล้วมช่ไหม พี่ย้งไในกแล้วใช่ไหม55555 แต่อุปสรรครอพี่อยู่นะตะ
น่ารัก ป่วงๆดี
บทจะน่าสงสารก็ทำเอาหวั่นไหว
โถ่พ่อย้งของน้องเตนล์
กากต่อเถอะ ไม่กวนร่ะ
ซีนนี้ย้งโคตรหล่อบอกเลย ยิ่งตอนขอโทษเตนล์นี่หล่อมาก เตนล์ก็ใจอ่อนแล้ว สู้ๆย้งเอ้ยย ศึกหนักยังอีกมาก เราขอให้นายสู้!
ปล. อยากรู้เรื่องอดีตเขาจัง ย้งพูดอะไรไป
มีความเป๊ะประดุจดั่ง วีไอพีตัวเเม่ขั้นสุด มีม้าไม้เมืองทรอยที่เคยช่วยเพื่อนทำรายงานด้วย *-* ส่วนเตนล์นี่เรายังงงความรู้สึกนางอยู่นะ ตกลงคือชอบเเต่ปากแข็งใช่มะๆ สู้ๆนะย้ง เค้ายอมเเกเเล้วในวันนี้เเต่พรุ่งนี้แกอาจจะนกต่อ ไปทำคะแนนมาเยอะๆ เหตุการณ์จะเป็นยังไงโปรดติดตามตอนต่อไป ฮื่อออออออออออออออ