คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Remedy 3 : ยาเม็ดที่สาม
"นายลุกมากินอะไรก่อนสิ"
โกโก้ร้อนถูกวางบนโต๊ะกินข้าวไม้ลายสวยก่อนที่ผมจะเรียกให้ร่างบางอีกคนซึ่งนอนอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีขาวให้มากินโกโก้ร้อนที่ผมชงไว้ให้
ร่างบางขยับตัวเมื่อได้ยินเสียงเรียกของผม ผมมองแผ่นหลังของคนตรงหน้านิ่งๆเพื่อรอให้เขาลุกขึ้นมาดื่มโกโก้ร้อนที่ผมทำไว้ให้ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนตรงหน้าจะยอมลุกขึ้นมาเลย
..ตั้งแต่ผมพาเขาเข้ามาที่คอนโด
เขาก็เอาแต่เหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างอยู่อย่างนั้น
ทั้งที่ภายนอกไม่มีอะไรให้น่าดูเลยแท้ๆ
นอกเสียจาก.. เมฆดำครึ้มเต็มท้องฟ้า
ที่ยิ่งดูก็ยิ่งชวนให้น่าหดหู่ใจ..
เสียงเข็มนาฬิกาขยับเดินแข่งกับความเงียบภายในห้อง ผมเริ่มคิดหาวิธีที่จะทำให้ร่างบางหันมาสนใจผมบ้าง
“น่าแปลก ฝนพึ่งหยุดตกแท้ๆ แต่เหมือนกลับจะตกลงมาอีกรอบซะงั้น อากาศแปรปรวนนะ ..นายว่ามั้ย?”
“…”
เงียบ ไม่มีแม้แต่จะขยับตัวหันหน้ามาตอบผมเลยด้วยซ้ำ..
ผมจะทำยังไงดี ?
"ถ้าไม่กิน กระเพาะน้อยๆของนายอาจทะลุได้นะ นายคงไม่อยากจะมานั่งปวดท้องหรอก ..จริงมั้ย?"
ลองพูดออกไปอีกครั้ง ถ้าคราวนี้เขาไม่ตอบ
ผมก็คง..
“..จ้อกก~”
ไม่ต้องมามองผมเลยนะ
มันไม่ใช่เสียงท้องของผม
นู่น เสียงมันมาจากคนที่กำลังนอนอยู่ที่โซฟานั่นน่ะ
ร่างบางทำหน้างอกับเสียงดังที่เกิดขึ้น ก่อนจะขยับตัวลุกออกมาจากโซฟาและเดินตรงมายังโต๊ะกินข้าวที่ผมวางแก้วโกโก้ร้อนไว้ให้
ผมก้มหน้ายิ้มกับตัวเองนิดๆ
เกือบหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางของเขาแล้วสิ..
ผมกลับมาทำตัวเป็นปรกติอีกครั้ง แล้วยื่นแก้วโกโก้ร้อนส่งไปให้กับเขา ร่างบางรับมันไว้แต่ก็ไม่ยอมดื่มมันเข้าไปเสียทีเขากลับเอาแต่หมุนแก้วเล่นไปมาอยู่อย่างนั้น
"ถ้านายไม่ดื่มตอนมันร้อนๆ มันจะไม่อร่อยนะ"
ส่งเสียงเตือนให้คนตรงหน้ารับรู้ ร่างบางตรงหน้าเหลือบสายตาขึ้นมองผมก่อนจะยกแก้วโกโก้ร้อนแตะที่ริมฝีปากแล้วดื่มมันเข้าไป
นายนี่มัน ..เด็กน้อย จริงๆ
ชอบให้เตือน
แล้วค่อยจะทำตาม..
ผมส่ายหน้านิดๆก่อนจะนั่งมองร่างบางที่กำลังดื่มโกโก้ร้อน
ร่างบางยกแก้วโกโก้ดื่มไปได้เพียงเสี้ยววิ จู่ๆก็รีบดึงแก้วนั้นออกจากปากทันที ความร้อนกำลังเล่นงานริมฝีปากบาง คนตรงหน้าของผมหลับตาปรี๋และเป่าปากไล่ความร้อนที่ได้สัมผัสไปเมื่อครู่พร้อมกับใช้ปลายนิ้วมือแตะที่ริมฝีปากของตัวเองซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
มันพองแดง เหมือนลูกตำลึงสุกเลย
"เฮ้ย! นายเป็นอะไรมั้ย!"
ผมถามด้วยความตกใจที่จู่ๆร่างบางตรงหน้าก็ดึงแก้วโกโก้ร้อนออกจากปาก ผมรีบลุกจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบกระดาษชิดชู่มาเช็ดมุมปากให้กับคนตรงหน้า
ร่างบางดูตกใจกับการกระทำของผมแต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนหรือปัดมือของผมออกแต่อย่างใด
"ระวังหน่อยสิ ถ้ามันร้อนก็เป่าก่อนก็ได้ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้นเลย"
ดุเด็กน้อยตรงหน้าไปนิดกับการกระทำที่ไม่ระวังของตัวเองแต่น้ำเสียงที่ร่างหนาส่งไปให้นั้นกลับออกแนวเป็นห่วงเสียมากกว่าที่จะดุร่างบางซะด้วยซ้ำ
ดวงตากลมโตนิ่งค้างมองการกระทำของคนตรงหน้าอยู่อย่างนั้น ด้วยระยะที่ใกล้เพียงนิดร่างหนาที่เอาแต่ตั้งใจเช็ดคราบโกโก้ร้อนออกให้ ก็ไม่ทันได้สังเกตว่าร่างบางกำลังจับจ้องใบหน้าของตนอยู่
พอเช็ดปากให้คนร่างบางตรงหน้าเสร็จ ร่างหนาก็เงยหน้าขึ้นมาทันทีโดยไม่ทันระวังระยะห่างของทั้งสอง
สองสายตาประสานกัน
ร่างหนานิ่งค้างไปกับดวงตาใสของร่างบางตรงหน้า
ผมมองดวงตาใสคู่นั้นนิ่งๆ รู้สึกเหมือนตัวเองถูกสะกดจิตจากคนตรงหน้าไม่ให้สนใจสิ่งอื่นนอกจากดวงตาใสคู่นี้
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ผมรู้เพียงแค่ว่าผมไม่อาจละสายตาออกจากคนตรงหน้าตอนนี้ได้
ทำไม..
คนตรงหน้าของผมถึงได้มีแววตาเศร้าขนาดนี้
ผมค่อยๆยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นไปสัมผัสกับใบหน้าของร่างบางอย่างแผ่วเบา
คราบน้ำตาบนใบหน้าของคนตรงหน้ายังมีอยู่ให้เห็นจางๆ ปลายนิ้วของผมค่อยๆเช็ดคราบนั้นออกให้เหมือนไม่อยากเห็นมันไหลซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง
สายตายังคงไล่มองใบหน้าของร่างบางอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่ผิวหน้าที่ขาวละเอียดดวงตากลมใสที่มีแต่แววเศร้าจมูกเล็กได้รูป จนมาถึง..
ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์เมื่อสายตาของผมมาหยุดลงที่กลีบปากบางของคนตรงหน้า
ริมฝีปากแดงระเรื่อของคนตรงหน้ากำลังเชิญชวนผมให้เข้าไปใกล้
ลิ้มรส และ สัมผัส มัน..
ผมเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของอีกคนจนปลายจมูกของเราชนกัน
ความรู้สึกอยากจู่โจมคนตรงหน้าเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยมาจากตัวของเขา ปลายนิ้วของผมเลื่อนมาจับปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้น
ชั่วเวลาเพียงแค่อึดใจริมฝีปากของเราทั้งสองก็ค่อยๆขยับเข้าหากัน
อีกแค่นิดเดียวก็จะได้สัมผัส
อีกนิดก็จะได้ลิ้มลอง
อีกแค่นิด..เดียว
.
.
.
.
ติ้ง!
!!!
เสียงไมโครเวฟดังขึ้น ร่างหนาตกใจกับเสียงที่เกิดขึ้นจนเผลอปล่อยมือหลุดออกจากปลายคางมนสวยทันที พร้อมกับทำท่าเลิกลักนิดๆเมื่อเจ้าตัวเริ่มมีสติและรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่..
ผมเหลือบมองร่างบางตรงหน้าคนที่จะถูกเขาทำอะไรบ้าๆนั่น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคนตรงหน้าจะตำหนิหรือเปิดปากว่าเขาแต่อย่างใด ยิ่งทำให้ร่างหนารู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น
เขาพยายามพูดขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ปากเจ้ากรรมดันไม่เป็นใจพอจะพูดก็รู้สึกเหมือนลิ้นตัวเองจะพันกันซะให้ได้
เขาจึงสงบสติของตัวเองก่อนจะตัดปัญหา โดยการเอ่ยคำพูดอื่นออกมาแทน
"ดะ..เดี๋ยวพี่ไปยกแอปเปิ้ลพายมาให้ มันคงจะสุกแล้ว"
ยังไม่วายก็ส่งคำพูดติดขัดออกไปจนได้ ร่างหนารีบหันหลังและเดินไปยังห้องครัวโดยที่เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าอีกคนที่นั่งรออยู่โต๊ะกินข้าวก็แอบเผลออมยิ้มออกมากับการกระทำของร่างหนาเช่นกัน
"เป็นไงอร่อยมั้ย?"
ผมนั่งมองร่างบางตรงหน้าค่อยๆกินแอปเปิ้ลพายที่ผมเป็นคนอบเองกับมือ ก่อนจะเอ่ยถามออกไปถึงขนมนั้นว่าถูกใจคนตรงหน้ารึเปล่า
"..."
แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากร่างบางเลยสักนิด คนตรงหน้ายังคงละเมียดละไมกับการกินแอปเปิ้ลพายในมือของตัวเองอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถามของผมเลย
เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมา จึงเอ่ยคำพูดที่คิดว่าน่าจะได้คำตอบจากร่างบางตรงหน้ามาบ้าง
"..อย่างน้อยขนมนั่น พี่ก็เป็นคนทำให้นายนะ นายควรจะตอบคำถามของพี่บ้าง"
รู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองนิ่งจนน่ากลัวผิดปกติ ผมพึ่งรู้สึกตัวเมื่อเห็นสายตาหวั่นๆที่มองมาของคนตรงหน้า
เขาหยุดกินขนมในมือ ก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำแล้วตอบผมออกมา
"อืม"
" ? "
แต่ก็เป็นเพียงคำสั้นๆที่หลุดออกมาจากลำคอเท่านั้น ผมแสร้งทำหน้าเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เขาจึงเอ่ยคำที่คิดว่าผมจะต้องเข้าใจออกมาอีกครั้ง
"อร่อย"
ผมยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ฟังคำตอบจากปากของคนตรงหน้า ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่คำสั้นๆแต่มันก็ยังดีกว่าแค่ส่งเสียงในลำคอตอบเขา
"แล้วนายชื่ออะไร?"
นั่งกินไปได้สักพักก็เริ่มหาเรื่องชวนคุยอีกครั้งเพื่อให้คนตรงหน้าได้โต้ตอบกับตัวเองมากขึ้น
เพราะตั้งแต่กลับมา
ก็มีแต่เขาที่พูดอยู่คนเดียว
จนเริ่มจะคิดแล้วว่าตนนั้นเป็นคนบ้าไปแล้วรึเปล่า ?
"..."
ไม่ตอบ ร่างบางตรงหน้าไม่ตอบผมอีกแล้ว
"นายจะไม่ตอบพี่แบบนี้ไม่ได้นะ เพราะต่อจากนี้นายก็ต้องอยู่ร่วมกันกับพี่ นายเข้าใจที่พี่พูดใช่มั้ย?"
"..."
"เอาเถอะ พี่เข้าใจว่าตอนนี้นายไม่อยากพูด พี่จะไม่บังคับนาย"
"..."
"แต่โปรดรับรู้ชื่อของพี่ไว้ด้วย พี่ชื่อแดฮยอน ..จองแดฮยอน"
ผมประสานมือตัวเองไว้บนโต๊ะกินข้าวแล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะเน้นย้ำชื่อของตัวเองทีละคำอย่างชัดเจนไม่ให้ผิดเพี้ยนพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ด้วย
สิ้นสุดคำพูด ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมบริเวณนี้อีกครั้ง เสียงเข็มนาฬิกายังคงเดินเป็นจังหวะวินาที
ริมฝีปากบางยังคงแนบสนิทและไม่มีทีท่าจะหลุดคำพูดๆใดๆออกมา ดวงตาใสยังคงมองเขากลับมานิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนผม..
วันนี้คงต้องหยุดซักไซร้เด็กน้อยตรงหน้าแค่เท่านี้
และ รอจนกว่าเขา
..จะยอมเปิดใจให้กับผม
----------------------------------------------------------
น้องโล่ไม่พูด.. พี่แด้เลยงอเลยค่ะงานนี้ ฮ่าาาา
หายไปนานเนอะ - -' อย่าเพิ่งทิ้งกันนะตัวเอง
เป็นกำลังใจให้นุ่งโล่กะพี่แด้ด้วยน้า #แดโลเหลือน้อยโปรดอนุรักษ์ไว้ที ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ติดตามด้วยนะคะ :)
ps. Thank you for read, Luv u all Chu :)))
@SQWEEZ
ความคิดเห็น