คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Remedy 2 : ยาเม็ดที่สอง
ต๊อก.. ต๊อก.. ต๊อก...
เสียงกระบอกไม้ไผ่ดังกระทบโขดหินเป็นระยะในสวนของบ้านหลังหนึ่งที่ถูกออกแบบมาในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ตัวบ้านถูกสร้างตามแบบญี่ปุ่นในสมัยก่อนแต่ภายในบ้านกลับตกแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายญี่ปุ่นแท้ๆเอาไว้
ประตูไม้แบบเลื่อนถูกเปิดออกกว้างเพื่อรับลม เสียงกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊ง ลู่ไปตามลมเมื่อถูกลมพัดและภายในห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ถูกเปิดไว้นั้น ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งเหยียดขาไปที่โต๊ะตัวเล็กที่อยู่ข้างหน้าตนอยู่
ติ๊ดๆ ๆ ๆๆ ๆ..
ปลายเท้าในถุงเท้าสีขาวสะอาดตากระดิกไปมาตามอารมณ์ นิ้วมือเรียวสวยเอาแต่กดจิ้มหน้าจอโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอยู่อย่างนั้นโดยไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างเลยสักนิด สมาธิจดจ่ออยู่กับหน้าจอตรงหน้าจนเจ้าตัวเผลอขบเม้มริมฝีปากอิ่มของตัวเองไปด้วย
“ทำไมมันไม่ตอบกลับมาสักทีวะ!!”
มือเรียวสวยโยนโทรศัพท์ลงกับโต๊ะเสียงดังโดยไม่สนใจว่ามันจะพังรึไม่ คนรอบข้างที่อยู่ใกล้ๆก็ตกใจไปกับเสียงดังที่เกิดขึ้นจนต้องหยุดภารกิจของตนแล้วหันมาสนใจคนที่ทำให้เกิดเสียงนั้นขึ้นแทน
“เอ่อ.. นายน้อยครับ”
หน่วยกล้าตายคนแรกเปิดปากถามคนหงุดหงิดที่นั่งอยู่ใกล้ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยประโยคคำถามออกไป คนที่หงุดหงิดอยู่ก็กลับบ่นเป็นหมีกินผึ้งใส่คนที่กำลังอ้าปากถามก่อนซะแล้ว
“นายดูสิจงออบ! ฉันส่งข้อความไปหาแดฮยอนเป็นร้อยรอบมันก็ไม่ตอบกลับมาสักที ไม่รู้มันไปตายห่าอยู่ที่ไหน บอกให้กลับมาก็ไม่กลับ หงุดหงิดโว้ย!!!”
ตอบออกไปทั้งที่อารมณ์ไม่ดีเท่าไรนัก ดวงตาคมสวยตะหวัดมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆจนเขาคนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่ยืนทำหน้าสลดรับคำบ่นของเจ้านายของตนอยู่อย่างนั้น
อีกคนที่มองเหตุการณ์อยู่ ถึงกับทนไม่ไหวเลยต้องปรามคนที่กำลังใจร้อนอยู่ให้เย็นลงมาบ้าง
"หงุดหงิดก็อย่าไปลงที่จงออบสิวะ เห็นมั้ยมันกลัวแกแล้วนะ ..ยองแจ"
เสียงจากคนที่นั่งที่โต๊ะทำงานดังขึ้น ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งปิดหนังสือพิมพ์ที่ตนกำลังอ่านอยู่ลง แล้วหันหน้าไปดุน้องชายแท้ๆของตนที่กำลังอาละวาดลงอารมณ์กับคนอื่นอย่างไม่เลือกหน้า
"ก็มันหงุดหงิดอ่ะ พี่ยงกุกจะให้ผมทำไง.."
ตอบพี่ชายตัวเองออกไปพร้อมกับยู่ปากเหมือนเด็กน้อยไปด้วย
พอพี่ชายที่เห็นน้องชายตัวเองทำหน้าอย่างนั้นถึงกับอมยิ้มเล็กๆกับท่าทางน่ารักของคนตรงหน้า ก่อนจะส่งประโยคขัดใจไปให้น้องชายของตนเพื่อกวนประสาทอีกครั้ง
ทำไงได้..
ในเมื่อเขาเป็นพวกขี้แกล้ง
เป็นพวกที่ชอบแกล้ง
..น้องชายตัวเอง
"นายเป็นเมียมันรึไง ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนั้น มันไม่กลับก็ช่างมันสิ"
"ไม่ใช่ซักหน่อย!"
"..."
"ผะ.. ผมไม่ได้เป็น ใคร ใครเป็นเมียมัน! พี่ยงกุกอย่าพูดอะไรบ้าๆแบบนั้นสิ! ผมเป็นผู้ชาย..แมนทั้งแท่งเหอะ"
"หึ ประโยคหลังเสียงเบาจังนะ"
"บะ เบาอะไร ผมเจ็บคอ ..จงออบนายดูพี่ยงกุกสิแกล้งฉันอีกแล้วอ่าา"
ยองแจจับชายเสื้อของมุนจงออบแล้วส่ายไปมาเบาๆพร้อมกับชอนตาขึ้นมอง เพื่อเรียกความสงสารจากคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
เอาอีกแล้ว.. บ้านนี้
มีพี่ชายขี้แกล้งก็ต้องมีน้องชายขี้ฟ้อง..
สภาวะครอบครัวมันถึงจะสมดุลกันสินะ
จงออบส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับอมยิ้มนิดๆให้กับพี่น้องคู่นี้ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าตนมีงานที่จะต้องรายงานให้ยองแจทราบเลยก้มหน้าลงไปกระซิบที่ข้างใบหูของยองแจเพื่อบอกงานกับเจ้านายของตน
"อ่อ พี่ยงกุกพรุ่งนี้ช่วยเตรียมเอกสารขึ้นทะเบียนเวชภัณฑ์ให้ผมด้วยนะครับ"
ยองแจหันหน้าไปบอกพี่ชายของตนที่กำลังนั่งหัวเราะค้างอยู่อย่างนั้น สะใจน้องมากเลยสิ งกเหงือกไม่คิดจะเก็บเลยนะพี่ชาย
"เอกสารอะไร?"
"ก็ยาผมไง ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท 'ยูคิบาระ' ที่จะวางขายเร็วๆนี้ พี่เอาไปขึ้นทะเบียนให้ผมหน่อยสิ"
"งานแค่นี้ต้องถึงมือฉันเลยหรอ ?"
ร่างสูงหยุดหัวเราะ ก่อนจะส่งสายตานิ่งๆกลับไปให้ยองแจ บรรยากาศที่ดูร่าเริงเมื่อครู่กลับดูมาคุขึ้นนิดๆแต่ยูยองแจก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังส่งยิ้มหวานกลับไปให้พี่ชายตัวเองซะงั้น
"ขอความกรุณาด้วยนะครับ ท่านอัยการ.."
"เหอะ คราวที่แล้วฉันก็เกือบซวยเพราะแกแล้วนะ"
"ซวยอะไรกันครับ ก็เห็นราบรื่นดีออก"
"ราบรื่นมันก็ใช่.. แต่แกรู้มั้ยว่าถ้ากรมอาหารและยาตรวจเจอสารต้องห้ามในเวชภัณฑ์ของแก ฉันนี่แหละจะซวยไปด้วย!"
"สารต้องห้ามอะไร ยาของผมปลอดภัยไร้สารอันตราย"
"แกอย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่ายาของแกมีส่วนผสมอะไรบ้าง"
"โถ่ ก็แค่วัตถุดิบจากสัตว์สงวนนิดๆหน่อยๆ รับรองได้ว่ามีผลดีต่อสุขภาพ นี่พี่ไม่เชื่อผมที่เป็นเภสัชกรเกียรตินิยมอันดับหนึ่งรึไง"
"..."
"คนอย่างผมไม่เคยมีคำว่า 'พลาด' หรอกนะครับ พี่ยงกุก"
ยองแจพูดจบก็เหยียดยิ้มให้กับพี่ชายตัวเอง สายตาและท่าทางที่ดูต่างไปเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ทำให้ยงกุกผู้เป็นพี่ชายถึงกับอึ้งไปนิด
เพราะโดยปกติแล้วยูยองแจคนนี้เป็นคนอารมณ์ดีและขี้เล่น บางครั้งเขาถึงจะหลุดภาพจริงจังแบบนี้ออกมาให้เห็น
ยงกุกรู้ว่าน้องชายของเขาเป็นคนเก่ง ไม่งั้นคงไม่สามารถที่จะบริหารบริษัทเวชภัณฑ์ยาที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้านี้ได้หรอก..
ไม่ใช่สิ
ต้องบอกว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยถึงจะถูก
"ขอโทษนะ แต่ฉันมีงาน"
"งานอะไรอีกล่ะ ไหนพี่บอกว่าอาทิตย์นี้พี่ว่าง!"
"ไม่ว่างแล้ว มีคดีที่โตเกียวต้องขึ้นไปดู"
"พี่ก็ส่งคนอื่นไปสิ"
"งานสำคัญ ฉันไม่อยากปล่อยให้คนอื่นทำ"
"งานของผมก็สำคัญนะ!"
“…”
เกิดความเงียบขึ้นมาทันที ไอ้เด็กดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง มันต้องการให้ผมเป็นคนจัดการเรื่องเอกสารยาให้เพื่อที่จะได้ผ่านได้ง่ายๆโดยที่ไม่มีการตรวจสอบ
แล้วพวกคุณคิดว่าผมจะยอมเสี่ยงมั้ยครับ ?
ผมบอกคำตอบเลยว่า ..ไม่
"ฉันไม่อยากเอาอาชีพรับราชการของฉันไปเสี่ยงกับงานของนาย ..ลืมเรื่องนี้ไปเถอะยองแจ"
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมานิ่งๆเป็นคำตอบที่หนักแน่นมากพอให้คนตรงหน้าเชื่อได้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น
ยองแจเมื่อได้ยินแบบนั้น ก็ทำหน้างอใส่ผู้เป็นพี่ ก่อนจะเอ่ยคำตัดพ้อและกระทืบเท้าเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นโดยทันที
“พี่ยงกุก พี่โครตใจร้ายเลย!!! เชอะ!”
“…”
"เอ่อ.. รอเดี๋ยวครับนายน้อย รอผมด้วย!"
จงออบรีบวิ่งตามเจ้านายของตนออกไปทันที ยงกุกเมื่อเห็นจงออบรีบจนตาลีตาเหลือกขนาดนั้นก็ส่ายหัวให้กับท่าทางรีบร้อนของเขาที่ต้องรีบตามน้องชายของตนออกไป
ทนๆเอาหน่อยนะจงออบ
เพราะนอกจากแดฮยอนแล้ว
ก็มีแต่นายนี่แหละที่จะอยู่กับน้องชายฉันได้..
ร่างสูงถอดหายใจก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์ที่อ่านค้างไว้มาอ่านต่อโดยไม่สนใจเสียงเล็กๆที่เล็ดลอดมาตามทางเดินว่าจะโวยวายดังมากมายขนาดไหน
นี่ขนาดเป็นถึงผู้บริหารนะ
ทำไมถึงได้ขี้โวยวายแบบนี้
น่าเหนื่อยใจนะครับ
น้องใครก็ไม่รู้.. น่าปวดหัวแทนจริงๆ -_-
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพลียยยยยยยยยยยย แทนพี่บังจริงๆค่ะ ฮ่าๆ
อย่าสงสัยว่าทำไมคาเรคเตอร์ยองแจถึงเป็นแบบนี้ เรื่องนี้นางจะเป็นแบบนี้แหละค่ะ
นางจะขี้วีน ขี้เหวี่ยง เหมือนคนประจำเดือนมาไม่ปกติ -_-
แต่! นางขี้อ้อนน้าา น่ารักมุ้งมิ้งกันไป แอร๊ยย -///-
ตัวละครเริ่มออกมาเรื่อยๆแล้ว ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
อย่าพึ่งทิ้งนุ้งโล่กับพี่แด้เราเลยน้าา T^T
ปล. Thank you for read and Luv you all chu chu~ >.<
ความคิดเห็น