ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Spirit Of The Destiny ยัยเซ่อซ่า กับ เทวดาไร้ปีก

    ลำดับตอนที่ #2 : การปรากฏตัวของเทวดาน้อย

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 50


    บทที่   2   การปรากฏตัวของเทวดาน้อย

     

     

      หมู่บ้านโซลซิตี้  ในยามที่เมฆหมอกแห่งความชั่วร้ายเข้าปกคลุมหนาทึบไปทั่วทั้งฟากฟ้า  เหล่าปีศาจจากนรกกำลังสนุกสนานกับอาหารอันโอชะ  และส่งเสียงร้องอันโหยหวนวังเวงออกมา  พวกมันอยู่กันเต็มทั่วท้องถนน  ฝนที่พึ่งตกไปเมื่อไม่นาน ได้ชำระเอาเมือกใสๆ  ที่อยู่บนตัวพวกมันให้ไปเกาะอยู่ที่พื้น  ส่งกลิ่นชวนคลื่นไส้

     

    บนเนินสูงใจกลางหมู่บ้าน  แห่งเดียวที่ยังคงมีแสงไฟ  มีโบสถ์ตั้งอยู่  จำนวนขั้นบันไดจากถนนขึ้นมาสู่โบสถ์  สามารถทำเอาเด็กๆเหนื่อยได้ง่ายๆ  ประตูโบสถ์ที่เปิดเอาไว้ตอนนี้ทำด้วยไม่สักอย่างดี  แกะสลักเป็นลวดลายสวยงามอย่างบรรจงทุกระเบียดนิ้วโดยช่างฝีมือดี  แต่บัดนี้  ถูกแต่งแต้มไว้ด้วยเลือดสีแดงสด 

     

    ถัดจากประตูขึ้นมา  มีป้ายข้อความเขียนไว้ว่า  “Believe  in  your  God”   แต่ตอนนี้  ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นแล้ว 

     

    เหนือจากนั้นขึ้นมาก  มีรูปปั้นเทวดาน้อย  ยืนกางปีก ยื่นมือทั้งสองข้างออกมา  สายตาดูอ่อนโยน  บัดนี้  ปีกคู่ได้หักลง  ตาของเทวดาน้อยโดนเลือดสาดกระเซ็นเข้าใส่  แล้วไหลอาบแก้มลงมา  ประดุจดั่งจะร้องไห้เป็นสายเลือด 

     

    ภายในโบสถ์ พรมสีขาวบริสุทธิ์ที่ปูไว้  บัดนี้กลับแดงฉานไปด้วยเลือดจากร่ายกายของมนุษย์สองคน  เก้าอี้ยาวทั้งสองฟากฝั่งของโบสถ์ที่ถูดจัดไว้เป็นระเบียบ  บัดนี้  ล้มระเนระนาด 

     

    หากใครได้มาอยู่ในบรรยากาศนี้จะต้องตื่นกลัวจนตัวสั่น  หัวใจเต้นระรัวเร็ว  หรือไม่ก็เต้นไม่เป็นจังหวะ  ด้วยกลิ่นอายแห่งปีศาจ  และภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า  

     

    แต่ มีอยู่หนึ่งชีวิตที่หัวใจเต้นในจังหวะปกติ  เขาไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า  เขาพึ่งเข้ามาในโบสถ์แห่งนี้  แต่ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมทุกอย่างไว้ได้อย่างมั่นใจ

     

    เฮ้ๆๆ!!  ให้ตายสิ  เสียงหัวเราะของแกนี่มัน...  หนวกหูชะมัด เลยแฮะ  หึหึ  เสียงเล็กๆนุ่มๆพูดขึ้น  พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก  แววตาที่เขามองไปยังปีศาจ  เหมือนราชสีห์ที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ

     

    เจ้าปีศาจผงะเล็กน้อยก่อนที่จะกระโดดถอยไปด้านหลังเพื่อให้พ้นรัศมีของดาบ  ร่างของมันหยุดลงตรงข้างๆประตูโบสถ์

     

    ...อะไรกันเจ้าเด็กนี่เข้ามาที่นี่โดยที่เราไม่รู้ตัว  แถมยังลากปีศาจด้านนอกที่ตัวใหญ่กว่าเข้ามาขวางวิถีดาบของเราได้  มันเป็นใครกัน...  เจ้าปีศาจคิด

     

    เฮ้ๆ  มัวแต่เหม่ออยู่น่ะ  จะดีเหรอ  จะเข้าไปละนะ  หลังจากพูดจบ  หนุ่มน้อยก็พุ่งเข้าปะทะกับปีศาจที่อยู่เบื้อหน้าทันที 

     

    เคร้ง!!!  ปีศาจไม่รอช้า  ตวัดดาบขึ้นต้าน  สายตาที่จริงจังของทั้งสองฝ่ายกำลังเชือดเฉือนกันและกัน  ตาสีฟ้านั้นแฝงด้วยความสนุกสนานที่ได้ต่อสู้  ส่วนตาสีแดงนั้นแฝงด้วยความอาฆาตแค้นที่ถูกเด็กน้อยวัยสิบสี่หยามหน้า  แต่ทั้งๆที่ตัวใหญ่กว่า  ฝ่ายที่ต้องถอยไปสองก้าวกลับเป็นชายชุดดำ

     

    ...อะไร!!  พลังมันมีถึงขนาดนี้เชียวรึ  เด็กขนาดนี้เนี่ยนะ กะ...โกหกน่า...  เจ้าปีศาจคิด

     

    เด็กหนุ่มตวัดดาบขึ้นพาดบนไหล่ขวา  ยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง 

     

    เอ้าๆ  เป็นอะไรไป  เต็มที่ซะทีสิ  แกน่ะ  ไม่ต้องออมมือก็ได้นะ  หึหึ  เด็กหนุ่มพูดเยาะเย้ยยั่วยวนเจ้าปีศาจร้ายที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่เกรงกลัว 

     

    หนอย  เจ้าเด็กบ้านี่   อย่ามาหยาม... กัน  ให้มากนักนะเฟ้ย ได้ผล  เจ้าปีศาจเริ่มเดือดดาล  ตาแดงก่ำ  มันกำดาบไว้แน่นชายผ้าคลุมสีดำเริ่มมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย  มันมองลงไปยังดาบของมัน และแสยะยิ้มที่มุมปาก

     

    ถ้าเช่นนั้นก็จงตื่นขึ้นมาสหายข้า  Fire of hell !!” มันพูดกับดาบของมัน  ตาของมันแดงฉานราวเพลิงกาฬ  ผ้าคลุมสีดำปลิวไสวขึ้นจากพื้นด้วยพลังที่กำลังลุกโชน  ดาบของมันเริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมาเรื่อๆ  มันเงยหน้าขึ้นปะทะสายตากับเด็กหนุ่มอีกครั้ง

     

    หึหึ  ไอ้หนู มันพูดพร้อมยกดาบขึ้นมาชี้หน้าเด็กหนุ่มชุดขาวที่อยู่ตรงหน้า  ดูแกจะมั่นใจซะเหลือเกินนะ  เสียงของมันดูมีพลังขึ้นมาก  แต่เด็กหนุ่มยังคงยิ้มอยู่ได้

     

    ความโอหัง และความมั่นใจของแกน่ะ....  ฉันจะ.... บดขยี้มันเอง ฮ่าๆๆ  หลังจากมันหัวเราะเสร็จ  ก็พุ่งเข้าใส่หนุ่มน้อยอย่างไม่ปราณี 

     

    เคร้งๆๆๆๆๆ  เสียงดาบกระทบกันอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง  คราวนี้  ฝ่ายที่ถอยร่นกลับเป็นหนุ่มน้อยชุดขาวและเขาก็ทำได้เพียง...  ตั้งรับ!!

     

    เฮอะๆ  เอาจริงเข้าหน่อย  ถึงกับหงอยเลยรึไง  ไอ้หนู มันบุกกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งพร้อมรอยยิ้มที่สะใจ  ฮ่าๆๆ  เอ้า... เอาไปอีก  เอาไปอีก  ฮะฮ่า เคร้งๆๆๆๆ มันพูดพร้อมกับบุกเข้าใส่เด็กหนุ่มอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม  และบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ  แรงกดดันจากพลังของมัน  แผ่กระจายไปทั่วโบสถ์   สีหน้าของหนุ่มน้อยเริ่มตรึงเครียด   

     

    ...ไม่ได้การ  ขืนให้มันปลดปล่อยพลังมากกว่านี้  เธอคนนั้นต้องโดนลูกหลงไปด้วยแน่  ไม่สิ  โบสถ์อาจจะถล่มลงมาเลยก็ได้...  หนุ่มน้อยคิดไปพร้อมกับตั้งสมาธิรับดาบปีศาจร้ายอย่างเข้มแข็ง

     

    ชัวะ!!   แต่กระนั้น  ก็ยังไม่วายที่จะต้องได้แผลที่แขนซ้าย  เลือดเริ่มไหลซึมผ่านเนื้อผ้าชั้นดีออกมา แขนเสื้อด้านซ้ายกลายเป็นสีแดงไปครึ่งหนึ่ง  หนุ่มน้อยถอยร่นไปเรื่อยๆ   เลือดหยดลงเป็นทางตามทางที่เขาถอยมา

     

    เคร้ง!!  เพล้ง!!  เสียงปะทะครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นในโบสถ์ดังขึ้น  เงาร่างสีขาวสายหนึ่งพุ่งออกมาจากทางหน้าต่าง  เขาอาศัยยืมแรงกระแทกจากฝ่ายตรงข้าม  พุ่งออกไปทางหน้าต่างของโบสถ์นั่นเอง  เจ้าปีศาจตามออกมาซ้ำอย่างรวดเร็ว   หนุ่มน้อยต้านไว้ได้พลิกตัวกลับลงพื้นได้อย่างปลอดภัย  แต่  เหมือนโชคชะตาจะเล่นงาน  ปีศาจที่อยู่ด้านนอก  ต่างกรูกันเข้ามาทำร้ายเขา  และยิ่งได้กลิ่นเลือดของเขา  เหล่าปีศาจนรกที่บุกเข้ามาก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 

     

    ในความมืดที่มองไม่เห็นอะไรเลย  เขาย่อมเสียเปรียบ  แม้จะป้องกันและฟาดฟันพวกมันไปได้หลายตัว    แต่เขาเองก็ยังมิวายต้องโดนเข้าไปอีกหลายแผลเนื่องจากเหล่าปีศาจที่บุกเข้ามานั้นราวกับจะไม่มีวันหมด  และในที่สุด... หนุ่มน้อยต้องคุกเข่า

     

    เขาโดนปีศาจซัดจนต้องยอมรับชะตากรรมด้วยการคุกเข่าอย่างนั้นรึ  เปล่าหรอก  เขาดาบปักลงกับพื้น ก้มหน้าลง  หลับตา  แล้ว.....

     

    ตอนนี้ล่ะ   ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้

     

    จงเปล่งประกายท่ามกลางความมืดมิด   Holy...  sword...!!!”  หลังจากที่เขาเปล่งวาจานั้น  แสงสีชาวอันเจิดจ้าได้พุ่งออกจากดาบของเขา  เส้นผมของเขาสะบัดไปตามกระแสพลังอย่างแรง  ผ้าคลุมสีขาวก็สะบัดขึ้นจากน้ำที่ปนไปด้วยเมือก  เหล่าปีศาจต่างถูกพลังกระแทกใส่  พวกปีศาจลิ่วล้อที่อยู่ใกล้เขามากๆต่างโดนลำแสงนั้นพุ่งเข้าใส่  ตัวขาดครึ่ง  หัวขาด  แขนขาด  ขาขาด  กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจาย  ส่วนพวกที่อยู่หลังๆก็ต้องถอยร่น ตอนนี้พลังสงบลงแล้ว  แต่กลับไม่มีปีศาจตนใดกล้าบุกเข้ามาอีก  

     

    ...อะไรกัน  นะ...นี่หรือ  พลังของมัน  มนุษย์สามารถมีพลังแบบนี้ด้วยเรอะ  อ๊ะ  มะ...ไม่จริง  วงแหวนแสงสีขาวบนหัวของมัน  ทะ...เทวดาอย่างนั้นหรือ  แต่ทำไมเลือดมันเป็นสีแดงล่ะ  ปะ...ปีกก็ไม่มี...  เจ้าปีศาจดูเหมือนจะตื่นตระหนกกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า 

     

    เด็กหนุ่มยืนขึ้น  ผ้าคลุมสีขาวปลิวไสว  ผมปลิวลู่ไปตามกระแสพลัง  แสงที่เปล่งออกมาจากดาบตอนนี้  ทำให้พอมองเห็นได้ในความมืด  และตาของเขาก็เริ่มปรับสภาพได้แล้ว  ทำให้เขาเห็นเป้าหมายได้อย่างลางๆ  และเพียงพอที่จะเล็งดาบไปหาเป้าหมายได้อย่างมั่นใจ

     

     

    เขาหันหน้าไปหาเจ้าปีศาจหัวหน้าที่ยืนอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่งไม่ไกลจากเขาเท่าไหร่  ตาสีฟ้าลืมขึ้นจ้องตาสีแดงด้วยสายตาที่เยียบเย็น ไร้ความรู้สึก  สีหน้าปกติเรียบเฉย  นิ่งสุดๆ

     

    ชิ้ง!!!  เส้นผมสีขาวหนึ่งปอย  ร่วงหล่นผ่านดวงตาสีแดงที่เบิกกว้าง  ผ่านดาบที่เรืองแสงสีแดง  ผ่านชายผ้าคลุมสีดำ  ผ่านหน้าบ้านหลังนั้น  ลงไปทอดตัวราบกับพื้นที่ชื้นแฉะ  พร้อมๆกับที่ ร่างของหนุ่มน้อยหายไป

     

     ฟุ้บ!!!  เงาร่างสีขาวกลับลงมาสัมผัสกับพื้นดินอีกครั้ง  หน้าบันได้ขึ้นโบสถ์นั่นเอง  เจ้าปีศาจ  ตระหนกอย่างสุดขีด 

     

    ...ดูไม่ทัน  ระ... เร็วขนาดนี่เลยรึ...ยังกับคนละคน... ปีศาจชุดดำครุ่นคิด

     

    เฮ้ๆๆ  เหม่ออีกแล้วนะ  แกน่ะ  ทำไมไม่บุกเข้ามาเหมือนเมื่อกี้ล่ะ  มาเรียกเลือดฉันอีกสิ  แค่นี้น่ะยังไม่พอไม่ใช่รึ  หึหึหึ  แต่ฉันบอกไว้ก่อนนะว่า  อย่าเดินหน้ามาจะดีกว่า รีบพาลูกน้องแกหนีไปซะ  เพราะแกอาจจะตายได้ง่ายๆ  สถานการณ์ตอนนี้  แกก็รู้อยู่แกใจแล้วนี่  บอกตามตรง  ตอนนี้ ฉันไม่คิดว่าจะแพ้แกเลยล่ะ  หึหึ  หนุ่มน้อย ยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง  พร้อมกับ หันหลังจะ เดินกลับเข้าไปในโบสถ์

     

    หนอย   บอกแล้วไงฟะ  ว่าอย่ามาหยามกันให้มากนักน่ะ  ย่า......  เจ้าปีศาจพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มอีกครั้ง  แต่.....

     

    อ๊ะ!!  ชัวะ!!  อั๊ก  ทันทีที่เจ้าปีศาจนั้นขยับร่างกาย  มันก็รู้สึกเจ็บปวดจนกระอักเลือด เลือดซึมออกมาที่มุมปาก  และได้รับแผลที่ต้นขาซ้าย  หนุ่มน้อยเริ่มก้าวขึ้นบันไดไป

     

    ...อะไรกัน  เกิดอะไรขึ้น  ไม่จริงน่า  เจ้าเด็กนั่น  ถึงกับใช้วิชาชั้นสูงแบบนี้ได้เชียวรึ ไม่จริง  ไม่มีใครทำได้ตอนอายุเท่านี้หรอก  มันต้องยังไม่สมบูรณ์...  แน่ๆเลย...  เจ้าปีศาจคิด และยังคง จะก้าวออกไปข้างหน้าอีก

     

    อ๊ะ!!”  แปะ แปะ!!  เสียงเลือดหยดลงสู่พื้น  มันยังฝืนขยับต่อไป  รอยแผลเริ่มปริออก ฉูด!! เลือดพุ่งออกมาจากไหล่ขวาของมัน  หนุ่มน้อยยังคงก้าวขึ้นบันได้ไปเรื่อยๆ

     

     ...สองจุดแล้วสินะ   วิชาที่ไม่สมบูรณ์น่ะ  ไม่มีทางทำได้ถึงสามจุดหรอก  หึหึ  คิดว่าสองจุดแค่นี้จะหยุดฉันได้  ประมาทไปหน่อยแล้ว  ไอ้หนู... เจ้าปีศาจคิดพร้อมกับมั่นใจว่า  แม้ตนจะเคลื่อนไหวต่อไป  ก็จะไม่เป็นปัญหา  มันเปลี่ยนมาถือดาบด้วยมือซ้าย  เตรียมบุกเข้าหา  หนุ่มน้อยชุดขาว  อีกครั้ง

     

    ทำได้!!  มันพุ่งออกมาจากตรงนั้นได้  และดาบก็กำลังจะปลิดชีวิตของหนุ่มน้อย

     

    ไม่มีจุดที่สามจริงๆด้วย ฮ่าๆๆ  เจ้าปีศาจหัวเราะออกมาอย่างพอใจ   มันเข้าใกล้หนุ่มน้อยขึ้นทุกที

     

    เสร็จฉันล่ะ!!!”  เป็นเสียงสองเสียงที่พูดขึ้นพร้อมกัน  เสียงหนึ่งนั้นคือเสียงของเจ้าปีศาจ  และ อีกเสียงหนึ่งนั้นก็คือ  หนุ่มน้อยชุดขาว

     

    ชั๊วะ!!   อ๊ากกกกกกก  จุดที่สามนั้นพุ่งเข้าใส่ท้อง  ทะลุกระดูกสันหลัง อะไรกัน  ยังมีจุดที่สามอย่างนั้นรึ  แกเป็นใครถึงฝึกจุดที่สามสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ ยี่สิบ  ละ...แล้วแก...  แกวางจุดที่สามไว้ให้ตรงกับจุดที่ฉันจะพุ่งมาสินะ  ให้ตายสิ  ระ...ร้ายกาจ...ชะ...มัด  เลือดไหลออกมาจากมุมปากของมัน

     

    เฮ้อ  แกนี่นะ  ฉันอุตส่าห์เตือนแล้วแท้ๆ  แล้วหนุ่มน้อยชุดขาวพูดกับมันโดยไม่หันหลังกลับมามองแม้แต่น้อย 

     

    รีบไปซะ  เขาพูดแล้วก็เดินขึ้นมาถึงหน้าโบสถ์  โดยที่มีฉากหลังเป็นการล้มลงของปีศาจร้าย  เขารู้ดีว่า  มันไม่ถึงกับตาย  แต่ก็ต้องพิการไปตลอดกาล  และยิ่งไปกว่านั้นเขาย่อมรู้ดีว่า  นั่นมัน....  ทรมาน.....  ยิ่งกว่าตาย....

     

                    มันใช้แรงเฮือกสุดท้าย  เปิดประตูมิติ  เพื่อกลับลงนรก  เหล่าสมุนของมัน  แบกมันแล้วหายเข้าไปในประตูมิติ  ทันทีที่ประตูมิตินั้นปิดลง  เหล่าปีศาจก็อันตรธานหายไป  แสงจันทร์อันนุ่มนวลกลับลงมาปลอบประโลมเมืองนี้อีกครั้ง ด้วยความอ่อนโยน

     

    นี่  เธอๆ  เป็นอะไรมากรึเปล่า  หนุ่มน้อยสะกิดเบาๆที่ไหล่ของ  อาริน

    หะ...หือ...สาวน้อยเริ่มรู้สึกตัว .........

     

    TO BE CONTINUE…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×