คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Good morning, Vampire :: Chapter II
Good Morning, Vampire.
Super Junior Fan Fiction (Yaoi)
Cast : Kyuhyun x Donghae x Siwon
Author : xixiao’
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
CHAPTER II
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมๆกับร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวและกางเกงสีเทาใส่สบาย นัยน์ตาคมกรายมองไปรอบๆหากแต่ไม่เจอผู้เป็นเจ้าของห้องที่ควรจะอยู่ภายในห้อง กระทั่งเห็นควันจางๆที่อวลยู่ตรงระเบียงจึงรู้ว่าอีทงเฮไม่ได้หายไปไหนอย่างที่เขาคิด
“คุณไม่ควรที่จะไว้ใจผมขนาดนี้”
ร่างเล็กพ่นควันให้ลอยออกไปในอากาศก่อนจะหันมามองคนมาใหม่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าขาวใสเหยียดยิ้มเบาๆอย่างไม่ถือสาอะไรนัก “ใครเค้าพูดกับคนที่ให้ความช่วยเหลือแบบนี้กัน”
คยูฮยอนไม่ตอบอะไรก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างตัวเขาที่ริมระเบียง ทอดมองแสงไฟในโซลยามค่ำคืนด้วยสายตาที่เหม่อลอยออกไปไกล เขารู้ตัวว่าทงเฮลอบมองเขาอยู่เป็นระยะ
“นายเป็นใครมาจากไหนกัน ?” เสียงพร่าถามขึ้นแล้วส่งมวนบุหรี่เข้าปากเพื่ออัดควันให้เต็มปอดแล้วปล่อยออกไปกับความมืดมิดของท้องฟ้า
“คุณดูเป็นคนสูบบุหรี่จัดนะครับ” ร่างสูงกว่าว่าโดยที่ไม่ได้หันมาทางเขาแม้เพียงหางตา
“ฉันไม่แน่ใจว่าเรากำลังคุยเรื่องเดียวกัน” ทงเฮบี้มวนบุหรี่ที่กำลังจะหมดมวนลงกับราวระเบียงด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเขาและคยูฮยอนกำลังพูดกันละเรื่อง
คยูฮยอนหันตัวมาสบกับร่างเล็กที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยสายตาตำหนิก่อนจะหัวเราะเบาๆในลำคอ “ผมกำลังคุยเรื่องการสูบบุหรี่ของคุณ”
ตอนนี้เองที่คยูฮยอนชักจะรู้สึกจริงๆแล้วว่าทงเฮเป็นคนที่ยิ้มได้น่ารักพอตัว ร่างเล็กหัวเราะออกมายักไหล่ใส่เขาแล้วหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาจุดไฟ
“ฉันกำลังลดมันอยู่ ต่อไปก็คงจะเลิกได้...”
บุหรี่ในมือของเขาถูกดึงไปแบบไม่มีขลุ่ยทั้งๆที่ยังพูดไม่จบประโยคดี คยูฮยอนอัดควันเข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นควันออกไปเช่นที่เขากำลังทำก่อนหน้าแล้วหันมาส่งยิ้มเล็กๆให้ “คุณบอกว่าคุณกำลังคิดจะเลิกมัน”
“ฉันพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้นายแย่งมันไปสูบซะเองหรอกนะ”
“หึ...” คยูฮยอนหัวเราะในลำคออีกครั้งทั้งๆที่ทงเฮไม่คิดว่ามันมีอะไรน่าขำ แต่ที่แปลกกว่าคือเขากำลังหัวเราะไปพร้อมกับคนแปลกหน้าคนนี้น่ะสิ
บางทีช่วงว่างงานอาจจะไม่เหงาเท่าที่คิดก็ได้....
“เสร็จแล้ว ~”
รามยอนชามโตถูกยกออกจากไมโครเวฟมาตั้งไว้ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งมีใครบางคนอยู่ ทงเฮยิ้มกว้างพร้อมทำท่าสูดกลิ่นหอมของรามยอนก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วยื่นตะเกียบให้อีกฝ่าย
“........”
ร่างเล็กพยักเพยิดใส่อีกคนเมื่อเห็นร่างสูงยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมรับตะเกียบของเขาไปถือ “นายรังเกียจที่จะกินชามเดียวกับฉันรึไง หัวสูงจริงนะ ~”
“ไม่ใช่” คยูฮยอนสวนขึ้นเสียงห้วน ทำเอาอีกคนชะงักก่อนจะลดตะเกียบในมือลง
“ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าอะไรนายจริงจังแบบนั้น”
“ผมแค่... ไม่หิวน่ะ” ร่างสูงปรับน้ำเสียงและสายตาให้อ่อนลงเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีสีหน้าที่เจื่อนลง
“ไม่หิวเนี่ยนะ ? นายยังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน นี่ก็ดึกแล้วนายน่าจะ...” ทงเฮเลือกที่จะเงียบแม้ว่าจะยังพูดไม่จบประโยค คยูฮยอนเหยียดรอยยิ้มบางให้เขาก่อนจะดึงตะเกียบไปจากมือแล้วคีบรามยอนขึ้นจ่ออยู่ที่ปากของเขา
“หยุดพูดแล้วกินเถอะครับ คุณน่าจะยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืน”
“ตั้งแต่เมื่อวานต่างหาก” ทงเฮพูดอุบอิบก่อนจะอ้าปากกินรามยอนที่อีกคนป้อนแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ มือเรียวรีบแย่งตะเกียบจากมืออีกฝ่ายคืนมาก่อนที่คยูยอนจะป้อนเขาเป็นคำที่สอง “พรุ่งนี้นายจะไปซื้อข้าวของเรื่องใช้ส่วนตัวรึเปล่า”
“ผมไม่ชอบออกไปไหนตอนกลางวัน” คยูฮยอนตอบเสียงเรียบ ทอดสายตามอีกคนที่กินไปคุยไปเหมือนกับลืมไปแล้วว่าเขาเป็นเพียงคนอื่น
“นายนี่สำอางค์จริงนะ กลัวดำล่ะสิ” ทงเฮหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมโบกมือไปมาคล้ายเป็นเรื่องตลก “รถฉันก็มี นายไม่ต้องเดินตากแดดหรอกน่าหายห่วง”
“ผมใส่เสื้อผ้าของคุณก็ได้”
“แล้วนายจะใช้แปรงสีฟันร่วมกับฉันรึไง ?”
“นั่นมันเป็นสิ่งที่มีขายในคอนวีเนี่ยนไม่ใช่รึไงครับ” ใบหน้าหล่อเหลาปั้นนิ่งส่งไปให้อีกคนที่เกาศีรษะแกรกๆ ทงเฮกำลังรู้สึกว่าเขาดื้อและทำตัวแปลกๆอย่างที่สุด !
“นายคงไม่ได้หนีคดีอะไรมาใช่ไหมถึงไม่กล้าออกไปไหนเลย” นัยน์ตาเรียวรีหรี่ลงเพ่งจับผิดเขาอย่างมีพิรุธ
“คุณไว้ใจผมเองนะ”
“เด็กนี่.... มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย !?”
“ผมเปล่า”
“นายนี่มันเลือดเย็นเหมือนตัวนายจริงๆ”
“........” คยูฮยอนนิ่งไปหลังประโยคสุดท้าย เขามองตอบทงเฮที่เพ่งมองเขาอย่างจริงจังต่างจากเมื่อครู่ เหมือนร่างเล็กจะนึกขึ้นได้ถึงที่มาที่ไปก่อนที่ทั้งคู่จะมาอยู่ที่นี่
“จะว่าไป... ตัวของนายมันเย็นมากเลยนะ”
“..........”
“แล้วนายไปทำอะไรอยู่ที่ตึกนั่นกันแน่” เหมือนเขากำลังพูดอยู่คนเดียวเมื่อคยูฮยอนเอาแต่เงียบและไม่มีทีท่าว่าจะตอบคำถามใดๆ เขาเริ่มจะรู้สึกขึ้นมาจริงจังแล้วว่าผู้ชายคนนี้มีบางอย่างที่แปลกออกไป “ตอบมาสิ.... นายเป็นใครกันแน่”
Rrrr
“ใครโทรมาป่านนี้นะ” เขาสบถออกมาเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับและเดินเลี่ยงออกไปคุยห่างจากโต๊ะกินข้าวเล็กน้อย “สวัสดีครับ”
-ผมชเวซีวอนจากหน่วยสืบสวนสอบสวนนะครับ ถ้าคุณจะจำได้-
“อา... ผมเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ จะสอบสวนอะไรผมอีกรึไงคุณตำรวจ” เขาส่งเสียงยานคางไปให้ปลายสายอย่างกวนประสาท แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก “มีธุระอะไรล่ะครับ”
-ผมจะแจ้งให้คุณทราบว่า เมื่อครู่มีคนพบศพลักษณะเดียวกับคนงานของคุณเมื่อคืนก่อนอยู่ใกล้ๆกับบริเวณตึกที่คุณรับผิดชอบ ผมอยากให้คุณและผู้เกี่ยวข้องที่เข้าออกบริเวณงานก่อสร้างให้ถอยห่างจากที่นั่น และถ้าเป็นไปได้ก็อย่าเพิ่งเข้าใกล้แถวๆนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าจะเกิดอันตราย-
คยูฮยอนอาศัยจังหวะช่วงที่ทงเฮเลี่ยงไปรับโทรศัพท์ลุกหนีหายเข้าไปในห้องนอนเพื่อไม่ให้โดนซักอะไรอีก ร่างสูงทอดมองความว่างเปล่าในกระจกขณะเดินผ่าน ก่อนจะหยุดยืนเงียบๆอยู่ริมระเบียงภายในห้อง
เขาจะอยู่ร่วมกับมนุษย์คนนี้ได้นานแค่ไหนกัน....
มือเรียวเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงแล้วถอนหายใจออกมาเมื่อได้รับรู้ข่าวใหม่จากทางตำรวจ นึกย้อนไปถึงเงาแปลกๆที่เขาพบตอนแอบขึ้นไปบนตึกที่อาจจะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
อะไรกันล่ะ... ฆาตกรต่อเนื่อง สัตว์ประหลาด หรือผีดูดเลือด
ขาเรียวหมุนตัวกลับเดินทางโต๊ะอาหารก่อนจะพบว่าคู่กรณีของเขาไม่ได้นั่งรออยู่ที่โต๊ะอย่างที่ควรจะเป็น ทงเฮถอนหายใจออกมาอีกครั้งพร้อมยิ้มให้กำลังใจตัวเอง คยูฮยอนก็ดูไม่ใช่คนมีพิษมีภัยอะไรถึงจะมีลับลมคมในมากมาย และถึงมี....ถึงตอนนั้นเขาก็พร้อมจะใช้ปืนที่ซ่อนไว้ใต้หมอนยิงอีกฝ่ายซะ
เขาคิดอะไรง่ายไปรึเปล่า ? แต่ถึงยังไงคยูฮยอนก็ช่วยเขาไว้จากเงาแปลกๆบนตึกนั่น และหมอนั่นก็กำลังบาดเจ็บ เขาทำถูกสินะที่แสดงน้ำใจเป็นการตอบแทน
เพล้ง
ร่างสูงละสายตาจากหนังสือที่หามาอ่านเล่นฆ่าเวลาก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปดูภายนอกห้อง แผ่นหลังที่คุ้นเคยกำลังยืนนิ่งอยู่ในครัวก่อนจะก้มลงเก็บเศษจชามแก้วที่หล่นแตก
“ทงเฮ...”
“อ้าวคยูฮ... อะ!” ทงเฮสบถเบาๆเมื่อเศษแก้วบาดเข้าที่นิ้ว เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจนหยดลงกับพื้น “แย่ชะมัด ทำไมซุ่มซ่ามยังงี้นะอีทงเฮ ~”
คยูฮยอนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนจะรีบหันหลังให้อีกคน ขาเรียวก้าวเดินออกไปจากครัวทื่อๆจนสร้างความงุนงงให้อีกคน “ผม... จะไปหายามาให้”
“อ่า... ตู้ยาอยู่เกือบถึงห้องรับแขกแน่ะ”
ทงเฮตะโกนบอกไล่หลังออกไปโดยที่ไม่ทันได้สังเกตถึงทีท่าแปลกๆของคนที่เดินหนีเขา หากแต่ไม่นานนักร่างสูงก็เดินกลับมาพร้อมยาฆ่าเชื้อ ยาใส่แผล พลาสเตอร์และสำลี คยูฮยอนวางมันไว้ที่เคาเตอร์ในครัวก่อนหันหลังตั้งท่าจะเดินออกไปอีกครั้งแบบเงียบๆ
“นายไม่คิดจะช่วยทำแผลให้ฉันรึไงกันเล่า” ทงเฮร้องถามหาน้ำใจเสียงขุ่น เอายามาให้ถึงที่แล้วไม่แม้แต่จะช่วยทำแผลเนี่ยนะ หมอนี่เข้าใจยากไปรึเปล่า
คยูฮยอนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ๆอย่างลำบากใจ ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับคนที่ยืนจับนิ้วรอการช่วยเหลือแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปคว้ามือข้างที่บาดเจ็บขึ้นมามองดูแผลแล้วรีบเอาสำลีชุบน้ำยาล้างแผลเช็ดเลือดออก
“อะ... เฮ้! เบาๆสิ”
ทงเฮครางออกมาเมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าของเขามือหนักเกินไปสำหรับการทำแผล แต่คยูฮยอนไม่สนใจ เขายังคงหยิบสำลีและยาใส่แผลทาลงบนนิ้วของอีกฝ่ายก่อนจะปิดพลาสเตอร์ให้เรียบร้อย
“คุณออกไปเถอะ ผมจะเก็บเศษจานนี่ให้” เขาว่าเสียงเรียบแล้วยืนรอให้ทงเฮเดินออกไปด้วยสีหน้างุนงง ก่อนจะนั่งลงยองๆเพื่อเก็บเศษแก้วใส่ถังขยะให้เสร็จๆไป
คยูฮยอนต้องกลืนน้ำลายลงคออีกครั้งเมื่อเห็นเลือดของทงเฮที่หยดลงบนเศษแก้วชิ้นใหญ่อันหนึ่งตอนที่โดนบาด มือหนาค่อยๆแตะนิ้วลงไปกับหยดเลือดแล้วแตะลงที่ปลายลิ้นช้าๆอย่างลืมตัว
“ทำอะไรน่ะ ?”
ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเอี้ยวตัวไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง เขาไม่รู้ว่าทงเฮเห็นสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่หรือไม่ หากแต่ร่างเล็กกลับเดินเข้ามาแล้วเพียงหยิบเอาขวดยากับสำลีก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ได้ว่าอะไร
คยูฮยอนรีบหยิบเศษแก้วที่แตกใส่ถังขยะแล้วเอาไม้กวาดมากวาดให้เรียบร้อยโดยที่พยายามไม่สนใจเลือดนั่นอีก โดยที่ไม่ทันรู้ตัวว่าสายตาของคนที่อยู่ตรงตู้ยากำลังมองมาทางเขานิ่งงัน
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
เสียงน้ำฝักบัวทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้าในห้องนอนรู้ว่าเจ้าของห้องกำลังอาบน้ำอยู่ นี่ก็ปาเข้าไปเกือบตีสามแล้ว แต่สำหรับเขามันก็เหมือนช่วงเย็นที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้เวลานอน เขายังคงคิดซ้ำเรื่องการอยู่ที่นี่... มันยากทุกอย่างกับการที่เขาจะอยู่ร่วมกับมนุษย์
และเขาไม่รู้จะทนต่อไปได้อีกสักเท่าไหร่...
เพียงแค่เลือดเล็กน้อยของทงเฮกลับทำให้ความอยากในร่างกายเร้าขึ้นมาตามสัญชาตญาณ เขาไม่ชอบดื่มเลือด... ถึงแม้ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตก็ตามที
ยังไงซะเขาก็คงอยู่ที่นี่อีกไม่นาน ไม่อย่างนั้นมนุษย์ที่ชื่ออีทงเฮก็คงจะมีอันตรายเพราะเขา พวกนั้นต้องหาเขาเจอแน่ถึงเขาจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก็ตามที
เสียงเปิดประตูห้องน้ำเรียกให้เขาตื่นจากภวังค์ความคิดแล้วมองคนที่เดินเช็ดผมออกมาในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว ทงเฮทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียงแล้วเช็ดผมต่ออย่างสบายๆโดยที่ไม่รู้ตัวว่าคนที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนหน้ากำลังจ้องมองแผ่นหลังของเขาด้วยความรู้สึกบางอย่าง
คยูฮยอนสะกดสายตาอยู่ยังต้นคอขาวซึ่งมีหยดน้ำเกาะพราย ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อขึ้นในตัวของเขา เขี้ยวคมภายในปากคล้ายกับกำลังร้องบอกว่าอยากฝังมันลงไปบนคอนั้น อึดใจหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองได้เขยิบมาอยู่ข้างหลังทงเฮเป็นที่เรียบร้อย นิ้วเรียวค่อยๆแตะลงบนไหล่ลาดพร้อมๆกับริมฝีปากที่โน้มลง
“คยูฮยอน...”
เสียงพร่าของคนที่ถูกสัมผัสเอ่ยขึ้นเรียกสติจนร่างสูงผงะตัวออก ทำไมเดี๋ยวนี้เขาควบคุมตัวเองแทบไม่ได้เลยนะ ทำไมเพียงแค่มองก็กระหายอยากจะฝังเขี้ยวลงไปเสียเต็มประดา
“ผม... ผมจะเช็ดผมให้” เขายกมือขึ้นวางลงบนผ้าเช็ดตัวที่ศีรษะอีกฝ่ายก่อนจะเช็ดผมให้อย่างหัวเสีย ทงเฮได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองในใจถึงท่าทีแปลกๆของผู้ชายที่ชื่อโจวคยูฮยอน ผู้ชายที่เขายินยอมให้มาอยู่ร่วมชายคาในระยะเวลาที่ไม่มีกำหนด
ทงเฮวางมือลงบนมืออีกฝ่ายที่กำลังเช็ดผมให้เขาก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับมาสบตานิ่ง มือเรียวค่อยๆเอื้อมไปที่เอวอีกฝ่ายก่อนจะสัมผัสเข้าไปภายใต้เสื้อสีขาวโปร่งช้าๆ สัมผัสผิวกายเย็นเยียบในขณะที่สองสายตายังสบกันนิ่ง
คยูฮยอนคว้าข้อมือที่กำลังสัมผัสตัวเขาแน่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “คุณจะทำอะไร ?”
“ฉันก็แค่สงสัยว่านายหายเจ็บแผลแล้วรึไง” เสียงของทงเฮนิ่งลงจนส่อแววว่ากำลังจับผิดเขาอย่างชัดเจน “แผลนายก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่ทำไมนายถึงไม่มีท่าทีเจ็บปวดอะไรเลยล่ะ”
คยูฮยอนปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมากดดันระหว่างเขาและทงเฮ เขาไม่คิดว่ามันถึงสถานการณ์จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยทุกอย่างกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักได้เพียงแค่วันเดียว แต่เขาก็รู้ว่าทงเฮไม่ใช่คนโง่และโตพอที่จะสังเกตสิ่งรอบตัวได้ดีแม้ว่าจะเชื่อใจเขาง่ายเกินไป
“นายบอกว่าฉันไม่ควรไว้ใจนาย.... และฉันก็กำลังเป็นแบบนั้น”
“.............”
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะตัดสินว่านายเป็นคนไม่ดี”
ผิดคาดที่ทงเฮส่งยิ้มบางๆให้เขาโดยที่ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อแม้ว่าแววตานั้นจะเต็มไปด้วยคำถามก็ตามที และมันทำให้เขาคลายความอึดอัดลงได้เปราะหนึ่ง
“ผมอาจจะไม่เคยบอกอะไรคุณเลย แต่มั่นใจเถอะครับ... ผมจะไม่ทำร้ายคุณหรอก”
เขาส่งยิ้มตอบให้ทงเฮอย่างเป็นมิตร มันผิดจากที่เขาคิดเมื่อทงเฮเลือกที่จะมองข้ามคำถามของตัวเองและยอมให้เขาอยู่ต่อในฐานะผู้อาศัย แน่นอนเขาคิดว่ามันแปลก แต่เขากลับหาเหตุผลรองรับความซับซ้อนนี้ไม่ได้เลย
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของทงเฮกลับทำให้เขาไม่ได้คิดแบบนั้น ทงเฮยอมให้เขาอยู่ด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ร่วมกับอันตรายที่พร้อมจะพรากชีวิตไปได้ทุกเมื่อ หรืออาจจะรู้... แต่ก็ยังยอมให้เขาอยู่ด้วย
“ทงเฮครับ...”
“หืม?” ทงเฮยังคงนั่งอยู่ที่ปลายเตียงในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวโดยมีคยูฮยอนเช็ดผมให้ เขาไม่ระแวดระวังบ้างเลยหรือ ไม่ห่วงความปลอดภัยตัวเองบ้างเลยหรือ ไม่เลย... จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกไว้ใจคยูฮยอนเต็มร้อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดมาแบบนั้นก็ตามที แต่เหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาเลือกที่จะมองข้ามมันไป เหตุผลที่ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คยูฮยอนกำลังครุ่นคิดจนหัวหมุน
“ทำไมถึงยังยอมให้ผมอยู่ที่นี่”
“เพราะฉันคิดว่านายคงกำลังเดือดร้อนไงล่ะ”
แค่เหตุผลสั้นๆที่ทำให้สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากมนุษย์อย่างเขาเหยียดรอยยิ้มบางออกมา ทำไมเขาถึงขอยืมไฟแช็คจากผู้ชายคนนี้ ทำไมเขาถึงเห็นทงเฮอยู่บนตึกนั่น และทำไมเขาต้องตัดสินใจช่วยทงเฮจากพวกนั้น
สิ่งมีชีวิตอย่างพวกเขาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่มนุษย์งมงาย เพราะอย่างนั้นสำหรับเขา ขอใช้คำว่าบังเอิญก็แล้วกัน
TBC
no.
ความคิดเห็น