ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` FIC HAEEUN ¦ - Scapegoat...? ' แพะรับบาป ' {yaoi}

    ลำดับตอนที่ #15 : ` ( SCAPEGOAT ) ____final chapter .

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 55


    SCAPEGOAT…?

    Couple : Donghae x Hyukjae

    Type : Drama Romance

    Author : xerxixiao’

    Warning : ฟิคชั่นเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อจินตนาการและความบันเทิง
    ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลจริงทั้งสิ้น

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------

     







    FINAL CHAPTER

     










    “...............”




    ทั้งที่อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ท้ายสุดแล้วอีฮยอกแจกลับเลือกที่จะไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ ทั้งยังรังแต่จะเดินหนี “ฮยอกแจ ได้โปรด อย่าเดินหนีฉันแบบนี้”




    “คุณพ่อขา เขาเป็นใคร ทำไมเรียกคุณพ่อใหญ่เลยคะ”




    เด็กน้อยร้องถามออกมาซื่อๆ แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อทำคือการส่งลูกน้อยเข้าไปนั่งรอภายในรถโดยที่ไม่ตอบอะไรสักคำ ร่างบางหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย แววตาแน่วแน่หากแต่ก็แฝงด้วยความอ่อนไหวอย่างที่ทงเฮคุ้นเคยมาทั้งชีวิต




    “เด็กคนนั้นเป็นลูกฉันใช่ไหม”




    เพ่งมองอีกฝ่ายราวกับวิงวอนร้องขอโอกาส ทว่าน่าผิดหวัง เมื่อสิ่งที่ได้รับคือความเฉยชาซึ่งก่อตัวขึ้นอย่างโหดร้าย ข้างหน้าเขาคืออีฮยอกแจคนเดิมอย่างนั้นหรือ...




    “เธอเป็นลูกฉัน... นายไม่มีสิทธิ์”

    ใช่... อีฮยอกแจคนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย




    ตาเรียวรีสีดำสนิทเหลือบมองไปยังดวงตากลมใสซึ่งมองเขามาจากภายในตัวรถ อย่างน้อยก็อยากมีโอกาสได้รู้จักใกล้ชิดบ้าง แม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้เลยกับความผิดที่เขาเคยทำไว้อย่างมหันต์กับเด็กคนนี้ หากทางใดเล่าที่จะช่วยไถ่โทษ ผ่อนผัน หรือสร้างโอกาสในการเป็นพ่อคนกับผู้ชายที่ชื่ออีทงเฮได้บ้าง เขามั่นใจว่าฮยอกแจคงไม่บอกอะไรจีอึนแน่ แต่ถึงอย่างนั้น...




    “ให้ฉันได้คุยกับลูกสักนิดได้ไหม”




    “จีอึนไม่ใช่ลูกนาย” ถ้อยคำนั้นช่างราบเรียบแต่กรีดใจให้เป็นแผลเหวอะหวะได้อย่างง่ายดาย นอกจากจะตัดขาดตัวเองจากเขาด้วยการไม่ไปให้เห็นหน้าตลอดห้าปีในคุกแล้ว ฮยอกแจยังจะใจแข็งไม่ให้เขาได้มีโอกาสทำความรู้สึกกับลูกตัวเองถึงเพียงนี้เชียวหรือ... แม้ว่าจะมันจะเป็นสิ่งที่สมควร แต่บัดนี้ทงเฮรู้แล้ว รู้ดียิ่งกว่าใครว่าคุณค่าของคำว่าลูกมันช่างมีผลต่อจิตใจเสียยิ่งกว่าอะไร




    ท้ายสุดแล้วก็ได้แต่ปล่อยให้ฮยอกแจเดินกลับขึ้นรถและจากออกไป บางทีเขาอาจจะต้องอดทนให้ยิ่งขึ้น... เพราะสิ่งหนึ่งที่ทงเฮมั่นใจคือเขารู้จักอีฮยอกแจดีกว่าใครแน่นอน











     












     

    ใครเคยว่าไว้เกี่ยวกับสมองของเด็กเป็นสิ่งที่ขาวบางเหมือนผ้าสะอาด อีฮยอกแจยอมเชื่อคำนั้นจริงๆเมื่อเห็นเด็กหญิงจีอึนนั่งดูโทรทัศน์สบายใจเฉิบหลังทำการบ้านและอาบน้ำเสร็จ  ตั้งแต่กลับมาเขาก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของทงเฮไม่หยุด ใจหนึ่งเต็มไปด้วยทิฐิและความเจ็บช้ำในอดีต กลับกันที่อีกใจกลับยังโหยหาความรักที่เขาคิดว่าตัวเองสามารถละทิ้งมันไปได้นานแล้ว ทั้งทนใจแข็งมาตั้งเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่ให้การเริ่มต้นชีวิตใหม่นี้ต้องสูญเปล่าเขาควรจะห้ามใจตัวเองไว้แบบนี้คงดีแล้วใช่ไหม... ดีที่สุดแล้ว




    ดูเหมือนว่าจีอึนจะลืมเรื่องเมื่อเย็นไปเสียสนิท ความคิดเด็กน้อยเมื่อพ่อไม่พูดถึงก็ยอมที่จะหมดความสนใจไปง่ายๆ แม้แต่หน้าของผู้ชายคนนั้นจีอึนก็แทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำ




    เสียงพ่อเงียบไปจีอึนรู้ว่ากำลังอาบน้ำ พ่อมักจะมีงานยุ่งเสมอและมารับจีอึนช้าอยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหญิงไม่เคยน้อยใจ พ่อเป็นคนหาเงินส่งจีอึนเรียน แม่เองก็ทำงานเป็นดีไซน์เนอร์และมักจะตัดชุดน่ารักๆส่งมาให้จีอึนจากต่างประเทศเสมอ เธอไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร เว้นก็เสียบางอย่าง... บางอย่างในตัวของเธอที่ร่ำแต่จะโหยหาสิ่งนั้นลึกๆตลอดเวลา




    “อ๊ะ!?”




    เสียงเคาะประตูทำเอาอีจีอึนสะดุ้ง พ่อสั่งข้าวเย็นจากร้านอาหารใต้คอนโดมิเนียมไว้ให้ เธอหยิบเงินที่พ่อเตรียมไว้ก่อนจะลุกเดินไปที่ประตู เอื้อมแขนขึ้นสูงเพื่อที่จะเปิดประตูได้ถนัด




    “ข้าวมาส่งแล้วเหรอคะ ข้าว~” แบมือออกไปเพื่อที่จะรับกล่องข้าวจากผู้ชายสวมเสื้อยืดสีข้าวตรงหน้า ครั้นถูกตีหน้างงกลับมาก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนส่งข้าวเสียแล้ว ใช่... คนแปลกหน้า คุณพ่อสอนจีอึนว่าห้ามเปิดประตูให้คนแปลกหน้า “คนแปลกหน้า!




    รีบถอยหลังแล้วปิดประตูใส่แขกแปลกหน้าที่ว่า แต่อีกฝ่ายดันรีบเอามือมาจับรั้งประตูไว้จนโดนหนีบร้องเสียงหลง ทำเอาเด็กผู้หญิงตัวเล็กเจ้าของห้องตกใจแล้วรีบเปิดประตูออกมาอีกครั้ง เห็นคนตรงหน้าเจ็บมือจะแย่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆไม่กล้าเข้าไปใกล้




    “พ่อ...” เกือบหลุดปากฐานะที่แท้จริงออกไปแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือยิ้มให้ลูกในไส้ซึ่งไม่รู้ว่าตนมีพ่อชื่ออีทงเฮ ตากลมโตวอกแวก ไม่รู้จะเชื่อดีไหม เพราะนึกขึ้นได้ว่าคนๆนี้คือคนเมื่อเย็นที่คุยกับคุณพ่อ ก็แสดงว่าอย่างน้อยต้องรู้จักกันบ้าง “อาไม่ใช่คนแปลกหน้า อาเป็นเพื่อนพ่อหนู”




    จีอึนยังไม่เชื่อเสียทีเดียว แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักที่จะทำให้เด็กหญิงยอมอ่อนลง เขามีวิธีในหัวอยู่แล้ว




    “คุณพ่อหนูเกิดวันที่ 4 เมษา ชอบสีส้ม ทำงานอยู่บริษัทเฮซทูซี” เมื่อเห็นว่าเจ้าบ้านเริ่มใจอ่อนลง ก็ตัดสินใจนั่งลงยองๆ พินิจบางอย่างในหัวสักครู่แล้วจึงหยี่งเชิงพูดออกไปเป็นไม้ตาย “ส่วนหนู... ถ้าจำไม่ผิด เกิดวันที่ 16 พฤษภาใช่ไหม”




    แค่นั้นเด็กน้อยก็ตาโต ยอมพาตัวเองพ้นจากบานประตูที่บังอยู่แล้วยิ้มกว้าง อันที่จริงทงเฮก็ไม่แน่ใจนักว่าจะเป็นวันที่บอกไป แม้แต่ในนิตยาสารยังบอกว่าเป็นวันนั้นเขาจึงเข้าใจเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนในระหว่างถูกจับกุมได้พอดิบพอดี จีน่าปลอดภัย และได้คลอดนางฟ้าตัวน้อยให้ลืมตาขึ้นมาดูโลก




    “โห เป็นเพื่อนคุณพ่อจริงๆด้วย”




    “ข้าวมาส่งครับ”




    ร่างหนาลุกขึ้นยืนและรับเอาถุงข้าวกล่องพร้อมทั้งหยิบเงินส่งให้พนักงานร้านข้าว จีอึนยื่นเงินในมือเก้อ แล้วก็ทำหน้าจ๋อยจนทงเฮต้องเอื้อมมือมายีศีรษะเบาๆอย่างเอ็นดู “หนูเก็บเงินไว้กินขนมนะ เดี๋ยวอาเลี้ยงเอง”




    “เดี๋ยวคุณพ่อว่าจีอึน”




    “ก็อย่าบอกให้คุณพ่อรู้สิครับ” ขยิบตาให้ลูกสาวซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปทีหนึ่ง จีอึนวิ่งเอาเงินไปหยอดกระปุก และรีบวิ่งกลับมาแบมือรับกล่องข้าวซึ่งคนโตกว่าต้องยอมส่งให้แต่โดยดี




    “จีอึน พ่อเตรียมจานไว้ให้แล้ว ลูกกินข้าวเสร็จค่อยไปคุยกับคุณแม่...”




    ปลายประโยคต้องชะงักไปเพราะคนที่ยืนอยู่กับลูกสาว อีฮยอกแจหยุดการเช็ดผมแล้วเอาผ้าขนหนูผืนเล็กพาดไว้ที่บ่า เดินฉับๆมาจูงมือลูกออกไปจากตรงนั้นและกำชับว่าให้กินข้าวให้เรียบร้อย ก่อนจะหันมามองใครอีกคนซึ่งยังยืนทำทองไม่รู้ร้อนอยู่บริเวณประตู




    “นายมาที่นี่ได้ยังไง”




    “ฉันไปที่บ้านจีน่าแล้วเห็นว่าไม่มีคนอยู่ เลยมาที่คอนโดฯนาย... แล้วก็ใช่” สาวเท้าเข้ามาให้ใกล้อีกฝ่ายขึ้นแต่ก็ยังเว้นระยะห่าง หน้าตาฮยอกแจถมึงถึงเหมือนไม่อยากคุยกับเขาเท่าไรนัก แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดเสียจนสังเกตได้ “ฮยอกแจ...”




    “กลับไปเถอะ” สูดลมหายใจลึกเพื่อบังคับเสียงให้สงบนิ่งอย่างน่ากลัว ตานั้นเป็นประกายกร้าวขึ้นอย่างเสแสร้ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองได้ให้อภัยทงเฮไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และสิ่งที่เขาทำอยู่มันคืออะไร “แล้วอย่ามาที่นี่อีก”




    “นายจะกีดกันพ่อลูกไม่ให้เจอหน้ากันอย่างนั้นเหรอ”




    “กีดกัน?” แค่นั้นริมฝีปากบางก็กระตุกยิ้มขึ้นมาจนคนเรียกร้องพอเดาได้ว่าสิ่งที่ต้องได้ยินอาจเป็นคำใด “นายยกลูกให้ฉันแล้วจะมาเรียกร้องอะไร นายไม่มีสิทธิ์ใดๆในตัวจีอึนทั้งนั้น เธอ-เป็น-ลูก-ฉัน




    อีทงเฮสาบานว่าในเวลานี้สู้ให้ฮยอกแจต่อยหน้าเขาแรงๆสักทีสองทียังจะดีเสียกว่า พูดใส่กันแบบนี้มันไม่ต่างจากเอามีดแทงชัดๆ ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปอีก แค่สายตาวิงวอนเท่านั้นที่ส่งไปแม้จะรู้ว่ามันอาจไม่ได้อะไรกลับมา




    “............”




    “............”




    “งั้นขอให้ฉันได้ใช้เวลากับเธอสักนิด... ได้ไหม?”




    “กลับไปเถอะ”




    “ฮยอกแจ...”




    “ฉันขอร้อง... อย่าให้จีอึนต้องรับรู้ว่าเคยมีพ่อที่ไม่เคยไยดีเธออย่างนายเลย”











     

     










    นอกจากจะไม่ไปเยี่ยมเขาในคุกแล้ว นี่ยังเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าอีฮยอกแจใจแข็งกว่าที่เขาเคยรู้จักมากนัก หรือบางทีอาจจะเป็นตัวทงเฮเองที่บีบคั้นให้มันเป็นเช่นนั้น บีบคั้นให้ทุกคนซึ่งเคยรักและหวังดีจำต้องตีตัวออกห่างและจากไปในที่สุด




    โรงเรียนประถมตั้งอยู่กลางสายตา เด็กหญิงคนเดิมเดินช้าๆลงมาจากทางอาคารจนกระทั่งชะงักหยุดลงเมื่อเห็นว่าใครยืนดักหน้า “คุณพ่อล่ะคะ”




    “วันนี้อาจะเป็นคนพาหนูไปเที่ยวค่ะ หนูจำเบอร์คุณพ่อได้ไหม?”




     

    ฉันมารับจีอึนไปเที่ยว แล้วจะพากลับไปส่งที่คอนโดฯให้แน่ๆ – Unknow Number











     












     

    “ทำไมหนูถึงอยากกินอาหารฟาสต์ฟู้ดพวกนี้ล่ะ?” ถามไปปากก็อ้างับแฮมเบอร์เกอร์คำโตเข้าปาก ตรงข้ามเขาคืออีจีอึนที่ต้องใช้เวลาหว่านล้อมแทบตายกว่าจะยอมมาด้วย แต่ตอนนี้กลับนั่งหยิบเฟรนส์ฟรายเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยเสียจนหมดคราบเด็กฉลาดที่ไม่ยอมไว้ใจเขาง่ายๆ




    “เพื่อนที่โรงเรียนบอกว่ามันอร่อยค่ะ แต่คุณพ่อไม่อยากให้จีอึนกิน คุณพ่อบอกว่ามันไม่มีประโยชน์”




    พยักหน้ารับเออออแล้วก็พอเดาได้ว่าฮยอกแจคงเลี้ยงจีอึนแบบเข้มงวดพอสมควร ต้องทำงานหนักแล้วยังเลี้ยงเด็กด้วยตัวคนเดียวแบบนี้คงจะเครียดพอดู “แล้วแม่หนูล่ะ?”




    “คุณแม่ทำงานออกแบบชุดสวยๆอยู่ที่เมืองนอกค่ะ แต่คุณแม่คุยกับจีอึนทุกวันเลยนะคะ!” เด็กน้อยหัวเราะคิกคัก ทำสายตาเหนือกว่าเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าฉายแววสงสัยเสียเต็มประดา จีอึนทำเหมือนกับมันเป็นความลับ และเป็นอะไรที่แสนวิเศษ “เราคุยกันผ่านคอมพิวเตอร์ค่ะคุณแม่สอนภาษาอังกฤษจีอึนด้วย!




    ได้ยินอย่างนั้นจึงพอเข้าใจว่าคงคุยกันผ่านเว็บแคมทุกวันอย่างไม่ต้องสงสัย คิดๆดูแล้วก็คงมีแต่เขาเองที่กล้าทิ้งลูกในไส้ได้ลงคอตั้งแต่จีอึนยังไม่คลอดออกมา มารู้สึกตัวตอนนี้ก็คงสายเหินกว่าที่ฮยอกแจจะยกโทษให้จริงๆ “แล้วใครสอนหนูเล่นเปียโนกัน? อาว่าหนูเล่นเก่งมากเลย”




    “คุณพ่อให้จีอึนเรียนค่ะ จีอึนชอบดนตรี มันทำให้จีอึนมีความสุข”




    อะไรๆก็คุณพ่อทั้งนั้นนี่นา... ทงเฮนึกเสียดายขึ้นมาเล็กๆที่เขาไม่ได้เลี้ยงดูลูกตั้งแต่เล็กๆ ไม่อย่างนั้นถ้าจีอึนติดเขาบ้างก็คงจะดี นี่มันอาการคุณพ่อเห่อลูกสาวไม่มีผิด...




    “จีอึนอยากเล่นกีต้าร์ไหม?”











     












     

    “คุณอาทงเฮ~ จีอึนนิ้วไม่ถึง จีอึนจับไม่ได้~”




    “นี่ไงๆ อาช่วยจีอึนจับ เห็นไหมเป็นเพลงแล้ว!” เสียงหัวเราะคิกคักภายในห้องคอนโดมิเนียมกว้างสร้างความอบอุ่นอย่างประหลาด มันอาจเป็นแรงผูกพันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จีอึนรู้สึกชอบคุณอาทงเฮไม่น้อยเลย เธอไม่รู้ว่าสายสัมพันธ์บางอย่างนั้นคืออะไร แต่ทงเฮใจดี ทำให้จีอึนหัวเราะได้ จีอึนสนุกและมีความสุขเวลาอยู่กับคุณอาคนนี้




    พากันเล่นกีต้าร์อยู่พักใหญ่จีอึนก็หัวเราะจนเหนื่อย ครั้นพอเหลียวมองนาฬิกาทงเฮกลับต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อปาเข้าไปหนึ่งทุ่มโดยไม่ทันรู้ตัว ตอนนี้ฮยอกแจจะวิ่งวุ่นหัวหมุน หรือถอนหายใจแค่รอเขาพาลูกกลับไปส่งกัน...




    คิดไม่ทันขาดเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นรัวเสมือนการเร่งให้เดินไปเปิด ไม่ต้องเสียเวลาเดาเลยว่าใคร ฮยอกแจนั่นเอง... จีอึนดูจะตกใจไม่น้อยที่หน้าตาคุณพ่อของเธอบูดบึ้ง เขาคงจะรีบบึ่งมาที่นี่เมื่อรู้ว่าลูกอยู่กับคนที่ไม่ต้องการให้เข้าใกล้มากที่สุด ฮยอกแจมองผ่านไหล่คนตรงหน้าเลยไปยังเด็กน้อยที่ยืนมองตาแป๋ว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อถูกเขาเรียกชื่อเสียงแข็ง







    “จีอึน!




    “คุณพ่อ...”




    “ทำไมไม่รอพ่อที่โรงเรียน พ่อกำชับแล้วใช่ไหม”




    “ฉันพาลูกมาเอง” เป็นเสียงของคนซึ่งควรจะเป็นคู่สนทนาที่ค้านขึ้น สีหน้าทงเฮติดจะจริงจังไม่น้อยในยามนี้ ทั้งที่มีคำพูดมากมายในหัวซึ่งคิดว่าฮยอกแจอาจจะไม่ยอมรับฟัง แต่ถึงอย่างไรวันนี้เขาก็ต้องพูด ไม่ใช่การเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ แต่แค่ขอโอกาส... ในเมื่อจีอึนก็รู้สึกดีกับเขาไม่น้อยไปกว่ากันไม่ใช่หรือ




    “นายกำลังทำบ้าอะไร... ฉันสามารถแจ้งความจับนายได้ที่นี่ เดี๋ยวนี้เลย!” นอกจากเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายซึ่งได้พบหน้ากันแล้วทงเฮจำไม่ได้ว่ามีครั้งไหนที่ฮยอกแจจะใช้เสียงดังกับเขาอีก สายตานั้นกำลังต่อต้าน แต่ไม่เสียทั้งหมด




    “เอาสิ...” ส่งความแน่วแน่กลับไปอย่างมั่นใจว่าอดีตเพื่อนรักไม่มีทางทำเช่นนั้น บางทีวันนี้อาจได้รู้แน่ไปเลยว่าร่างบางคิดยังไงกับเขา ยังมีหนทางให้พออภัย หรือโกรธแค้นจนกระทั่งไม่เผาผีกันอีก




    “จีอึน กลับบ้าน” เลือกจะเบี่ยงประเด็นไปอย่างนั้น เพราะสุดท้ายแล้วอีฮยอกก็ยังแพ้... แพ้อีทงเฮอยู่วันยังค่ำ ยิ่งกว่าโดนอ่านใจออก กี่ครั้งแล้วที่คนตรงหน้านี้ใช้ความรู้สึกของเขาเป็นเครื่องมือ จะสิบจะร้อยครั้งมันก็สำเร็จ โง่เง่าขี้แพ้ซ้ำๆซากๆ ถ้าสู้ไม่ได้ก็จะหนี... ฮยอกแจคิดแบบนั้น




    จีอึนเดินคอตกผ่านทงเฮไปจับมือกับฮยอกแจ สายตาอาวรณ์ของเด็กน้อยกำลังสื่อไปถึงคนเป็นพ่อแม้ๆอย่างประหลาดแม้ว่าไม่รู้อะไรเลยก็ตาม จีอึนยังอยากเจอ ยังอยากใช้เวลาร่วมกับคุณอาทงเฮอีกสักหน่อย




    “ดีแล้วเหรอที่เป็นแบบนี้ ความผิดฉันมันคงไม่น่าให้อภัยขนาดที่แม้แต่นายเองยังผลักไสเลยสินะ” อาจฟังดูเหมือนคำตัดพ้อหรืออะไรก็ตามแต่ เพียงแต่สิ่งนั้นไม่สามารถรั้งฮยอกแจไว้ได้ กลับกันที่จีอึนยังอยากฟัง ราวกับจะมีบางสิ่งต่อจากนี้ที่เธอต้องรู้ “และลูกของฉัน... แค่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกนิด นายก็ให้ไม่ได้เชียวหรือ?”




    ทั้งที่เคยรู้สึกเกลียด... เกลียดเหลือเกินเวลาที่ทงเฮพูดว่าจีอึนเป็นลูกของตน ถึงรู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นความจริงก็ตามที เขาควรจะต้องไม่ใจอ่อนและให้ลูกรับรู้ถึงความเจ็บปวดแบบนั้นไม่ได้ แต่ทำไม... ทำไมกัน....




    “จีอึน...?”




    มือเล็กกระตุกมือใหญ่กว่าหมายให้หันมาสนใจเธอบ้าง สายตาจีอึนเต็มไปด้วยคำถาม เธอฉลาดพอที่จะใส่ใจต่อคำพูดต่างๆของผู้เป็นพ่อและอีกคนที่บอกว่าเป็นพ่อ อยากรู้ความจริง... เธอจะมีพ่อสองคนได้ยังไง?




    “ให้ตายเถอะ...”




    “คุณอาเขาอยากอยู่กับจีอึนเหรอคะ? แล้วลูกที่คุณอาว่าหมายถึงจีอึนหรือเปล่า?” ได้แต่นั่งยองๆลองประคองบ่าลูกรักไว้ เลยจีอึนไปคือสายตาของใครอีกคนที่มุ่งมั่นตัดพ้อไม่ต่างจากเมื่อสิบกว่าปีก่อน ลูกก็ควรจะต้องอยู่กับพ่อแท้ๆ จีอึนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้อดีตของตัวเอง อาจไม่ใช่ตอนนี้... แต่คงไม่ใช่วันหนึ่งที่เธอลืมตัวตนของคุณอาทงเฮไป




    ฮยอกแจกำลังสับสนระหว่างคำว่าลูกและทิฐิส่วนตัว







    “ถ้าพ่อของลูกเคยทำไม่ดีกับลูกมากๆ ลูกจะยังโกรธอยู่ไหม?”




    เด็กน้อยส่ายศีรษะระริก ตอบคำถามชัดถ้อยชัดขำเสียจนหาความลังเลในน้ำเสียงไม่เจอ “คุณพ่อไม่เคยทำไม่ดีกับจีอึน จีอึนเห็นแต่คุณพ่อทำความดี”




    แค่นั้นทงเฮก็พอจะยิ้มออกเมื่อรู้สึกได้ว่าคำถามของฮยอกแจมันสื่อมาถึงเขา โตขึ้นไปถ้าจีอึนได้รู้ความจริงอาจจะรู้สึกเกลียดเขาก็ได้ แต่แค่ตอนนี้ที่ยังไม่ถึงวันนั้น เขาจะทำทุกอย่างเพื่อลบล้างความผิดทั้งหมดให้จงได้




    และอาจเป็นสายสัมพันธ์บางอย่างที่เรียกให้อีจีอึนเหลียวกลับมามองคุณอาทงเฮอีกครั้ง จีอึนคิดว่ายังไม่ใช่เวลานี้หรอก ไม่ใช่... ที่คุณอาทงเฮจะหายไปจากจีอึน




    “ถ้าคุณพ่อโกรธคุณอาทงเฮอยู่ คุณพ่อจะหายโกรธได้ไหมคะ?”




    สิ้นคำถามใบหน้าขาวกลับขึ้นสีแดงอ่อนๆขึ้นมาอย่างหาดูได้ยากเมื่ออ้อมกอดกว้างกำลังโอบรัดจีอึนและผ่านมาทางเขาอย่างถือวิสาสะ รอยยิ้มกึ่งทะเล้นที่เขาจำได้ดีว่าทงเฮเคยมีเพื่อมัดใจใครมานักต่อนัก รวมถึงเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถึงจะไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นมันหมดไปหรือยังแล้วก็ตามเถอะ




    “ได้สิ... คุณพ่อของจีอึนต้องหายโกรธอาได้แน่ๆ ก็เขาไม่เคยโกรธอาได้นานสักครั้งเลยนี่นา”




    ถึงแม้จะไม่ใช่วันนี้... แค่สักวันก็พอ... ถ้ามันยากนักอีทงเฮก็ขอสร้างหนทางขึ้นมาให้ตัวเองเลยก็แล้วกัน เรื่องรวบรัดบังคับใจฮยอกแจเขาเองถนัดนัก!




    “อย่าพูดเองเออเอง...”




    หัวเราะทำลายบรรยากาศตึงเครียดที่ฮยอกแจเพียรสร้างมันขึ้นมาใหม่อย่างไม่เป็นท่า แกล้งสะกิดจีอึนเบาๆให้ช่วยกันสักหน่อย ที่เขาว่าพ่อลูกถ่ายทอดนิสัยกันทางสายเลือดอาจจะจริง เพราะเพียงแค่นั้นเด็กหญิงก็รู้งานแล้วหอมแก้มคุณพ่อฮยอกแจฟอดใหญ่เป็นการออดอ้อน (คาดว่าภายหลังจีอึนคงจะต้องใช้มันเป็นท่าไม้ตายพิชิตใจคุณพ่อ)




    “คุณพ่อขา...ให้คุณอาทงเฮไปค้างกับเราได้ไหมคะ? จีอึนอยากหัดเล่นกีต้าร์ต่อ”




    ก็เพราะรู้ดีว่าฮยอกแจขี้ใจอ่อนยิ่งกว่าอะไร ยิ่งใช้ลูกเป็นตัวชนยิ่งทำได้ง่ายๆ แต่ที่สำคัญกว่านั้นมันเพราะอะไรกันล่ะ... เพราะอีทงเฮที่มีแววตาเป็นประกายอย่างจริงใจคนเดิมไม่ใช่หรือไง? อีทงเฮคนที่หายตัวไปกว่าสิบปี แล้วก็กลับมาเอาแต่ใจใส่เขาได้อย่างเกินทนอีกครั้ง!







    “เห็นว่าเป็นคืนวันศุกร์หรอกนะ คราวหลังอย่าเอาแต่ใจแบบนี้อีก”







    ประโยคแรกตามองลูก แต่ประโยคหลังกลับเหลือบไปมองคนซึ่งอมยิ้มอย่างอ่อนใจ ทำได้อย่างดีที่สุดคือเขาจะพยายามลดทิฐิในใจลงและให้โอกาสอดีตเพื่อนคนนี้อีกครั้ง ส่วนนอกจากนั้นคงไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไปจริงๆ




    “ฮยอกแจ”




    “............”




    “เดี๋ยวจะเขียนเรียงความสำนึกผิดให้ทีหลังนะ...”







    สาบานได้ว่าตอนนี้อีฮยอกแจกำลังจะบ้าตาย... ถ้าจีน่าได้เห็นอีทงเฮโผล่มาในเว็บแคมของลูกคืนนี้!




    แต่เอาไว้ก่อนแล้วกัน ยังมีเวลาอย่างน้อยๆอีกตั้งสองชั่วโมงครึ่ง.











































    มีสเปอีกสองตอนนะคะ :D

    ฟิคทยอยส่งไปเยอะแล้วนะคะ คงจะได้รับกันบ้างแล้ว
    ที่ยังไม่ได้รับรออีกนิดนึงนะคะ กำลังทยอยจัดการให้ค่า :D








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×