คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ` ( SCAPEGOAT ) ____chapter ten .
SCAPEGOAT…?
Couple : Donghae x Hyukjae
Type : Drama Romance
Author : xerxixiao’
Warning : ฟิคชั่นเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อจินตนาการและความบันเทิง
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลจริงทั้งสิ้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------
CHAPTER TEN
“อึก...”
กัดฟันด้วยความรู้สึกกึ่งทรมานซึ่งกัดกันไปทั้งตัวและใจ ความเจ็บปวด... รุนแรง... เสียดสีช่องทางที่ใครต่อใครต่างเรียกว่ารักจนบอบช้ำ โลหิตสีชาดไหลเปรอะตามหว่างขา จนเปื้อนเปรอะกางเกงสีเทาซึ่งกองอยู่ที่ข้อเท้าเป็นรอยด่างดวง
อีทงเฮยังคงกระทำต่อร่างกายเขาอย่างบ้างคลั่งด้วยแรงโทสะไร้ที่มาที่ไป ทำไมหรือ?... อีฮยอกแจไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับอิสระเลยใช่ไหมในตอนนี้ ทั้งที่เมื่อจะไปกับใครหรือทำอะไรทงเฮไม่เคยสนใจ แล้วทำไมตอนนี้เพียงแค่เขาถอยห่าง ถึงได้ต้องโมโหโทโสทำอะไรไร้สติอย่างที่ฮยอกแจไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ถึงเพียงนี้
ก็แค่ที่ระบายอารมณ์... จะไปมีค่าอะไรให้สนใจมากมายกัน
ในเมื่อคำว่าเพื่อนมันก็ไม่ได้มีเหลือมานานแล้ว
เสียงโลหะกระทบกันแว่วมาไกลๆจนทั้งร่างสะดุ้งโหยง อีฮยอกแจพยายามดื้นหลุดจากการกอบกุมอันป่าเถื่อนของร่างข้างหลัง ทว่าเหมือนทงเฮจะไม่รู้สึกถึงเสียงของบุคคลที่สามเลยแม้แต่น้อย ยังคงใช้กำลังเข้าว่า เสียงหอบหายใจครางครือ อารมณ์ปะทุสูง ยิ่งแรงขึ้น... เร็วขึ้น... จนยากจะหยุดยั้งด้วยเพียงแค่การดิ้นรนของฝ่ายเดียว
เพียงแต่ถ้าประตูห้องไม่เปิดออกมาเสียก่อน เผยให้เห็นสตรีในชุดแซ็กยาวซึ่งมีใบหน้าซีดเผือด เรี่ยวแรงที่มีหายไปกระทั่งกระเป๋าถือหลุดลงกระทบพื้นไม้ปู ฮยอกแจใช้โอกาสในช่วงชะงักงันเอี้ยวตัวดันอีกร่างให้ถอนกายออกห่าง ช่องทางด้านหลังเจ็บแปลบ ทว่าเทียบไม่ได้เลยกับความตื่นตระหนกและเต็มไปด้วยยางอาย
“จีน่า...”
เป็นเสียงทงเฮที่สบถผะแผ่ว ชเวจีน่ายกมือขึ้นปิดปากอย่างไม่เชื่อสายตา ร่างหนารีบดึงกางเกงใส่เข้าแม้ว่าส่วนกลางลำตัวจะยังค้างคาด้วยอารมณ์ทางเพศ พูดอะไรไม่ออก ทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่กลับถูกถอยห่างราวรังเกียจเสียเต็มประดา
ตามตรงแล้วจีน่าไม่นึกสนใจทงเฮนัก ทว่าอีกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งนั่นเองซึ่งเธอหวังจะได้ยินอะไรจากปากบ้าง ฮยอกแจเพียงก้มหน้าก้มตาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ทั้งรู้สึกผิด ละอาย และสารพัดทุกสิ่งที่เรียกว่าแย่จะเอามารวมกัน ถึงเขาไม่ใช่คนเริ่ม แต่ก็มีส่วนก่อ... ก่อให้เกิดเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดและไม่มีใครคาดฝัน
“ทุเรศ... ทุเรศที่สุด....”
ความรู้สึกซึ่งอธิบายไม่ถูกว่าเป็นความรังเกียจ ผิดหวัง หรืออะไรที่เรียกว่าน่าแค้นใจยิ่งกว่านั้น ได้มาเห็นภาพผู้ชายสองคนมีสัมพันธ์กันเต็มตา ซ้ำคนหนึ่งคือคนที่รัก อีกคนก็พ่อของลูกในท้อง คุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลชเวเพียงสูดลมหายใจลึก น้ำตาคลอรื้น ทว่าพูดอะไรไม่ออกมากไปกว่าคำที่เอ่ยออกมาในทีแรก
“ฮยอกแจ...” ความรู้สึกในตอนนี้คือคำว่าโง่ดักดาน เหมือนเป็นแค่สัตว์เชื่องๆตัวหนึ่งซึ่งถูกส่งต่อเล่นไปมาจนชีวิตและความรู้สึกพังทลายไม่มีชิ้นดี “เพราะแบบนี้ใช่ไหม... คุณถึง...”
รักฉันไมได้
เธอไม่คิดจะพูดคำนี้เพราะรู้แก่ใจว่ามันน่าสมเพชเกินทน ยิ่งต่อหน้าอีทงเฮด้วยแล้วจีน่ายิ่งคิดว่าไม่มีวัน ไม่ต้องการได้รับการหัวเราะเยาะจากผู้ชายคนนี้ ไม่ต้องการแม้แต่คำพูดใดๆที่จะยัดเยียดให้เธอรับฟัง
“จีน่า...” อีทงเฮย้ำชื่อนี้ขึ้นมาอีกครั้งเสียงเข้ม เขาคิดว่ามันน่ารำคาญ ทั้งเปราะบาง อ่อนไหว รวมๆกันแล้วผู้หญิงคือสิ่งน่ารำคาญที่ต้องได้รับการประคบประหงมตลอดเวลา ตาเรียวรีกดมองร่างแบบบางตรงหน้าสลับไปมากับฮยอกแจ รู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ใช่ว่าจะยี่หระมันเสียเต็มประดา
“สมใจแล้วใช่ไหม... น่ารังเกียจที่สุด”
“จีน่า... ฟัง....”
“ฉันเกลียด...”
“โธ่เว้ย... จะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไมวะ!” เป็นเสียงเดิมที่แสดงอาการเหลืออด ขอให้ได้ตัดพ้อต่อว่าก็พอใช่ไหม รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูกที่ใครๆก็ทำเหมือนเขาเป็นตัวอะไรสักอย่าง เคยรักเคยเทิดทูนกันแค่ไหน ทำไมถึงไม่รู้จักย้อนกลับไปดูไปจำบ้าง “ก็บอกเขาไปสิฮยอกแจ ว่านี่มันก็เรื่องปกติของนายเหมือนกัน”
ดวงหน้าขาวเงยขึ้นมองอีกคนอย่างตระหนกในคำพูด จะว่าไม่แคร์จีน่าเลยก็ไม่ใช่ ครั้นเหลียวไปมองกลับได้เห็นว่าสีหน้าของหญิงสาวยิ่งแสดงอาการผิดหวัง แปร่งปร่า ก้ำกึ่งกับความรังเกียจเดียดฉันท์อย่างที่อีฮยอกแจกลัวว่าจะได้รับมาตลอด
มือเรียวจิกเกร็งลงกับชุดคลุมท้องที่นูนใหญ่ออกมาทั้งน้ำตา ชเวจีน่าไม่รู้จะทำอย่างไร รู้เพียงแค่อยากทำลายทุกอย่าง ทำลายข้าวของ ชีวิต ให้สมกับความรู้สึกที่โดนทำลายยับเยินไม่มีชิ้นดี ฮยอกแจทำท่าจะเข้าไปห้ามแต่ยังไม่กล้า กระทั่งแรงจิกที่หน้าท้องยิ่งหนักขึ้น มือหนาจึงตรงเข้าไปกระชากลำแขนออกมาจนทั้งร่างเซถลา
“จะทำบ้าอะไร! เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!?”
“ใช่ ฉันบ้า! ทั้งโง่ทั้งบ้าที่ถูกพวกคุณหลอก!!”
พอได้เข้าใกล้ หล่อนก็ลงมือทุบตีดาราหนุ่มด้วยความเคียดแค้นที่มีอย่าไร้สติ ฟูมฟายน้ำตาไหลพราก ทงเฮได้แต่ยกมือขึ้นปัดป้อง โทสะเริ่มบังเกิด มากขึ้น... มากขึ้น.... แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าผู้หญิงตรงหน้านี้จะหยุดบ้าได้เสียที
อีฮยอกแจได้แต่มองภาพตรงหน้าในสถานะคนขี้ขลาด เขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปห้ามหรือแสดงออกว่ามีตัวตนอยู่ ไม่กล้าสู้หน้า ไม่กล้าออกปาก ได้แต่ยืนยึกยักทำตัวไม่ถูก กระทั่งเห็นร่างอุ้มครรภ์นั้นเซถลาเพราะแรงผลักอย่างลืมตัวที่อีทงเฮปฏิบัติออกมา
“บอกว่าให้หยุดไงเล่า!!”
ครรภ์กระแทกกับมุมโต๊ะจนได้ยินเสียงครืดยาวไปตามพื้น จีน่าค่อยๆทรุดลงพลางยกมือกุมท้องไว้แน่น กลิ่นคาวคละคลุ้ง โลหิตซึมออกมาเป็นด่างดวงอยู่บนกระโปรง กระทั่งไหลออกตามแนวขาจนเห็นได้ชัดเจนว่าตกเลือด ถึงตอนนี้อีฮยอกแจยอมละทิ้งความรู้สึกทั้งหมดให้เหลือเพียงความเป็นห่วงเป็นใย ตรงเข้าประคองอีกคนไว้แนบอก
สีหน้าของอีทงเฮมีเพียงความตื่นตระหนกอย่างที่ไม่คิดว่าจะเกิด ไม่ได้ตั้งใจ ถึงจะบอกกับตัวเองแบบนั้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตนเป็นคนผิด อย่างไรเสียจีน่าก็เคยเป็นคนรัก ซ้ำลูกในท้องนั่นยังเป็นลูกของเขา เพียงแต่แค่เอื้อมมือไปแตะบนลนลาดไหล่บาง กลับถูกฮยอกแจปัดออกไม่ไยดีพร้อมเสียงตวาดซึ่งก้องไปทั้งห้อง
“ออกไป!!”
“ฮยอกแจ...”
“ออกไปจากชีวิตของเราเถอะทงเฮ จีน่าเธอเจ็บมามากพอแล้ว”
ท้ายสุดแล้วกลับเห็นเพียงแผ่นหลังรำไรที่อุ้มร่างหญิงสาวออกไป ไม่นานนักเสียงสตาร์ทรถดังมาจากหน้าบ้าน กระทั่งเงียบหายไป... หายไป... เหลือเพียงหยาดเลือดซึ่งหยดยาวไปตามทางเดิน ที่ทิ้งไว้ให้อีทงเฮรู้สึกถึงการกระทำของตนเท่านั้นเอง
ปัญหาพากันกระหน่ำรุมเข้ามาเป็นพายุ มากเสียจนคนที่ไม่เคยคิดอะไรอย่างอีทงเฮได้แต่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้อง เอนศีรษะพิงกำแพงอย่างเหนื่อยอ่อน ทั้งกลัวว่าจีน่าจะเป็นอะไรไป กลัวอนาคตที่จะต้องดับวูบเพราะกระแสข่าว กลัวทุกสิ่งทุกอย่าง... ที่เขาเป็นคนก่อมันขึ้นมาด้วยตัวเองทั้งเพ
‘ออกไป!!’
‘ฮยอกแจ...’
‘ออกไปจากชีวิตของเราเถอะทงเฮ จีน่าเธอเจ็บมามากพอแล้ว’
คำพูดของอีฮยอกแจยังชัดก้องในหัวจนจับต้นชนปลายเรื่องอื่นไม่ถูก มีแค่สีหน้ารังเกียจที่อยากถอยห่าง มีแค่น้ำเสียงตวาดกร้าวเย็นชา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น....
เพื่อนน่ะ... หาได้เยอะแยะไม่ใช่หรือไง
แล้วเพื่อนคนนี้คือใคร... ถึงทำให้เขาเป็นไปได้มากมายขนาดนี้
( Rrrr )
เสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะดังต่อเนื่อง เป็นเวลานาน... หลายครั้ง... จนกระทั่งเจ้าของเครื่องตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาด้วยแรงผะแผ่ว ชื่อที่ปรากฏที่หน้าจอไม่ได้ทำให้อีทงเฮกระตือรือร้นอยากคุยนัก หากแต่ก็ยังกดรับ และกรอกเสียงหาปลายสายราบเรียบเสียจนเกินกว่าที่จะเป็นคนในครอบครัว “ว่าไงครับแม่”
( ทงเฮ..... ทงเฮ..... )
เสียงของหญิงวัยกลางคนพร่ำเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นจนฟังไม่ได้สรรพ หงุดหงิดใจเมื่อปลายสายยังไม่ยอมที่จะเริ่มพูดธุระเสียที เงียบไปพักใหญ่ ก็เอ่ยสวนขึ้นมากึ่งตัดบท “มีอะไรครับ”
( พ่อ... พ่อเข้าโรงพยาบาล.... )
ในใจนึกอยากจะสวนไปด้วยคำพูดก้าวร้าว ไม่ได้กลับมกโพนานจนแทบจำทางกลับบ้านไม่ได้ พ่อของเขาเป็นมะเร็ง สุขภาพร่างกายอ่อนแอ นิดหน่อยก็ป่วยอิดออดจนต้องโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น โทรมีอีหรอบนี้ ก็คงไม่พ้นเงินที่ส่งไปคราวก่อนคงหมดไปกับอาการป่วยของพ่อ
“แล้วผมจะโอนเงินไปให้ แค่นี้ก่อนนะครับแม่”
( เดี๋ยว! ทงเฮ... ทงเฮ! พ่ออาการทรุดหนักมาก กำลังรอลูกมาดูใจนะ )
♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣
‘ทำไมล่ะ... ทำไมถึงไม่ต้องการฉัน..... ฮยอกแจ?’
สองมือประสานกันเหนือหน้าตัก เสื้อเชิ้ตสีอ่อนเปรอะไปด้วยคราบเลือดกรังจนดูน่าตกใจ กลิ่นของโรงพยาบาลในยามนี้ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนเสียจนอยากจะอาเจียนทั้งน้ำตา ทว่านัยน์ตาสีเข้มกำลังหยุดมองที่อะไรบางอย่าง เป็นเพียงแค่ขาเก้าอี้ว่างๆ ที่วางอยู่เฉยให้จับจ้องเท่านั้นเอง
ยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้วยความรู้สึกที่ปนเปไปด้วยกันจนยุ่งเหยิง ทั้งที่จีน่าต้องเข้าห้องสูติไปพักใหญ่แล้ว แต่ทำไมในเขาจึงยังวนเวียนอยู่เพียงในรสสัมผัสและคำพูดตัดพ้อของใครอีกคน คนซึ่งพยายามหนีมาตลอด หนีไปให้ไกล... ทั้งที่รู้ใจตัวเองดีว่าไม่เคยไปรอด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่... หนึ่งชั่วโมง... สอง สาม หรือมากกว่านั้น....
นาน... จนกระทั่งฟ้าเริ่มสาง ประตูที่ติดป้ายไว้ว่าเฉพาะผู้ป่วยถึงได้เปิดออก พร้อมๆกับนายแพทย์ในชุดผ่าตัดสีเขียวอ่อนของโรงพยาบาลที่ส่งยิ้มให้เขาบางเบา
“แม่และเด็กปลอดภัยดีนะครับ ถุงน้ำคร่ำแตก เราจึงต้องทำคลอดก่อนกำหนด” รู้สึกเป็นห่วงคนข้างในจับใจ ชะเง้อคอมองหวังว่าจะสามารถเข้าไปเยี่ยมและเจอหน้าเด็กได้บ้าง หากแต่แพทย์ยื่นมือออกมาห้ามไว้ พร้อมเอ่ยเหตุผลด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ไม่ได้ช่วยให้เบาใจขึ้นเลย “ยังเข้าไปข้างในไม่ได้นะครับ ภาวะคลอดก่อนกำหนดอันตรายมาก เราจำเป็นจะต้องเฝ้าดูการติดเชื้อและอาการข้างเคียงอย่างเข้มงวด เด็กกำลังถูกส่งตัวไปห้องอบ ตอนนี้ควรปล่อยให้คุณแม่พักก่อนครับ”
ฮยอกแจยอมปล่อยให้แพทย์วัยกลางคนเดินสวนไปโดยที่ยังคงยืนรอยู่หน้าห้อง ทว่าเสียงทุ้มกลับดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อลืมไปว่าได้ลืมบอกสิ่งที่สำคัญที่สุดแก่คุณพ่อมือใหม่
“อ้อ... ยินดีด้วยนะครับ ลูกคุณเป็นผู้หญิง”
♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣ ♣
ปลายเท้าเหยียบคันเร่งบึ่งรถสีดำคู่ใจออกไปตามเส้นถนนเพื่อแวะเอาเอกสารสำคัญที่คอนโดมิเนียมก่อนจะเร่งกลับไปมกโพ ไม่มีเวลาแล้ว... ในใจของอีทงเฮตอนนี้ร้อนรนไปด้วยความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้านี่ต้องเป็นช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป ก็ขอเวลาสักหน่อย... ขอเวลาอีกนิด.... แค่ไปให้ทันดูใจพ่อเพียงคนเดียวเท่านั้น
ประตูรถถูกปิดกระแทกจนส่งเสียงดังก้องลานจอด สาวเท้ารีบเร่งเข้าไปสู่ภายในที่พัก กดลิฟท์รัวๆทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางเร็วขึ้น ได้โปรด... เร็วเข้า...
ทั้งที่ประตูห้องอยู่ตรงหน้าแต่อีทงเฮกลับรู้สึกว่ามันยิ่งไกลเหลือเกิน เกือบจะกลายเป็นวิ่ง หยิบกุญแจห้องออกมาจากกระเป๋า เสียบผิดเสียบถูก กระทั่งเปิดประตูเข้าไปได้ ตาเรียวรีสีดำสนิทกลับยิ่งต้องเบิกโพลงจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้นเสียตรงนั้น
นายตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมของกลางเป็นบ้องเสพยาและสารเสพติดที่เขาซ่อนเอาไว้ถูกรื้นค้นออกมาจนหมด แสงแฟลชรัวจากทัพนักข่าวซึ่งอัดแน่นอยู่ภายในห้อง เพียงแค่หายใจ สองแขนก็ถูกจับไขว้ไว้ข้างหลังพร้อมพันธนาการโลหะส่งเสียงดังกริ๊ก ค่อยๆถูกคุมตัวออกไป ฝ่าแสงแฟลช เสียงกล้อง และเสียงจอแจหนาหู
ทว่าอีทงเฮไม่ได้ยินอะไรเลย...
ไม่ใช่ตอนนี้....
ไม่ใช่ตอนนี้สิ.... ไม่ใช่......
หยาดน้ำตาไหลออกมาจนคลอหน่วงไม่เหลือคราบนักแสดงหนุ่มผู้มีชื่อเสียง ทุกอย่างรอบตัวเหมือนกลายเป็นสีเทา แสงที่มีดับวูบ ได้ยินเพียงเสียงเครื่องช่วยหายใจซึ่งไม่รู้ว่าดังมาจากที่ใดนั่นเอง....
TBC
ขอโทษที่ให้รอนะคะ ;_ ;
ตอนนี้พอจะหาเวลากลับมาแต่งฟิคได้บ้างแล้ว
ยังไงก็จะพยายามนะคะ Tv T'
หวังว่าแฟน ๆแพะรับบาปจะยังไม่หายไปไหนน๊า ._____ .
ความคิดเห็น