คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : 7 ︱ บทส่งท้าย
Final
นิทานของผมมันคงจะนอกลู่นอกทางไปสักหน่อย แต่ก็คงได้เวลาสมควรแล้วที่ผมจะเล่าตอนจบให้คุณฟัง
ผมตัดสินใจกลับมาทำงานที่บริษัทชางจินเฟอร์นิเจอร์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความจะมีแม่มดที่ไหนมาซื้อหุ้นผมไปหรอกนะ (มันเป็นหลักประกันว่าผมจะได้ถือไพ่เหนือหล่อนตลอดไป) นางเมลิฟิเซนต์ค่อนแคะผมน้อยลงนับจากวันที่ผมบอกหล่อนว่าผมจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริหารของมุนยอง แน่ล่ะว่าหล่อนดีใจจนเนื้อเต้นและนั่งเลือกแคตาล็อกชุดใหม่เพื่อเตรียมกลับสู่สังเวียนนักธุรกิจสาวแก่ไฮโซ และที่ผมจะเล่าต่อจากนั้นก็คือ
วันแรกที่ผมกลับไปชางจิน ทั้งพี่จองซู พี่โฮดง และคนอื่น ๆ ต่างเข้ามารุมล้อมผมและตัดพ้อเสียจนผมรู้สึกเหมือนตัวเองได้ตายไปแล้ว (โชคดีที่เสื้อสีแดงสดของพี่โฮดงมันช่วยเตือนไว้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่) ซีวอนกับผมเองก็ตกลงกันว่าจะหยุดทุกอย่างและกลับมาเริ่มนับศูนย์กันอีกครั้ง บางทีเราควรจะต้องเปลี่ยนทิศทางของความรู้สึกกันใหม่ เผื่อว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นกว่าที่มันเคยเป็น
ผมจะต่อยคุณจริง ๆ นะ ถ้าคุณยังเรียกผมว่าซินเดอเรลล่าอยู่อีก ผมไม่มีนางฟ้า ไม่มีรองเท้าแก้ว แต่ อ้า... ผมรู้สึกเหมือนตัวเองมีราชรถส่วนตัวน่ะสิครับ
“ฉันบอกแล้วไงว่าชอบขับรถเอง”
คนที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับเป็นผู้ชายร่างสูงโปร่งและมีผมหยักศกสีเปลือกไม้ ผิวขาว ปากอิ่ม อายุอ่อนกว่าผมไม่กี่ปี แต่ที่แน่ ๆ คือป่วยแล้วซ่าส์ไม่มีเกิน
“ยังไงเราก็ต้องไปทานข้าวแล้วกลับบ้านด้วยกันอยู่ดี ผมว่าแบบนี้สะดวกกว่านะครับ” หมอนี่เป็นผู้ชายที่ชอบยิ้มหน้าซื่อและอ้อล้อผมที่สุด จนถึงตอนนี้ผมก็ยังแยกไม่ออกว่าหมอนี่ไปได้เชื้อแม่มาตรงไหน
“อย่าพูดเองเออเองนักเลย แล้วก็อย่าขับรถให้มันเหมือนคลานนัก ฉันเกรงว่าจะต้องไปทำงานสาย” เป็นคนที่ขับรถช้ามาก จนคนชอบเหยียบอย่างผมรู้สึกหงุดหงิดทุกทีที่ทำหน้าที่เป็นได้แค่คนนั่งหน้ารถ
“กลางวันนี้พี่อยากทานอะไรครับ”
“ไม่ไปกินกับแม่นายแล้วหรือ”
เขาชื่อโจวคยูฮยอน และเขากำลังกลั้วหัวเราะประกอบคำพูดที่อย่าให้มินจีฮยอนมาได้ยินเชียว ไม่อย่างนั้นหล่อนคงด่ากราดผมเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณแม่น่ะง้อหน่อยก็หายแล้วครับ ท่านโกรธผมได้ไม่นานหรอก”
“ทำไมขับขึ้นมาจอดส่งถึงบนนี้?”
เหลียวมองไปรอบลานจอดรถ พอหันกลับมาอีกทีก็เห็นอีกคนทำท่ายิ้มเก้อแปลก ๆ จนเดาได้ไม่ยากว่าต้องมีอะไรในใจแน่ แต่คงไม่ใช่เรื่องที่น่าถามนักหรอก
“ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ก็ยังไม่มีโอกาสได้อยู่กับพี่สักที” ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันเสียทีหนึ่ง แล้วก็เปิดปากพูดต่อ “ผมคิดถึงพี่”
“แล้ว?”
คงความเย็นชาไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา ต้องขอบคุณความไม่ขี้ใจน้อยและช่างพยายามของคยูฮยอนที่ทำให้อีทงเฮใจอ่อนลงได้ในที่สุด (หรือจะเรียกว่าอ่อนใจก็คงไม่ผิด)
โน้มตัวเข้าประกบริมฝีปากด้วยความคิดถึง ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นหลังจากผ่านเรื่องราวทั้งหมดมา บางทีเวลานับจากนี้ โจวคยูฮยอนคงจะต้องเอาไปอุทิศให้กับการหาวิธีเอาใจพี่ชายคนนี้ก็เป็นได้
ความคิดเห็น