คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 5 ︱ ผู้ชายกับความรัก
5
“แม่เรียกผมมาพบ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
คยูฮยอนใจไม่ดีนักที่เห็นสีหน้าของมารดามึนตึง ถึงจีฮยอนจะเป็นคนอย่างนี้แต่เธอก็รักเขามาก ทว่าเสียงราบเรียบที่เธอเอ่ยต่อมานั้นทำให้คยูฮยอนเข้าใจเป็นอย่างดีว่าตัวเขาทำอะไรลงไป
“เมื่อคืนแกไปทำอะไรที่ห้องมัน?”
“ผมไปขอบคุณพี่ทงเฮเรื่องที่บริษัทวันนี้นะครับ”
มันที่ว่าก็คืออีทงเฮนั่นเอง ชายหนุ่มคิดหาคำอธิบายอยู่ไม่นานก็ตอบกลับไปโดยเลี่ยงสบตา แต่มันคงไม่ใช่คำตอบที่มินจีฮยอนรู้สึกพอใจนัก เพราะหล่อนยังพูดจากระแทกกระทั้นเสียงแล้วจิ๊ปากไม่สบอารมณ์อย่างไม่ปิดบัง “ไปขอบคุณที่มันด่าแม่แกน่ะหรือ ช่างเป็นลูกที่กตัญญูเสียจริง”
“แม่ครับ... ถ้าเป็นเรื่องนั้นล่ะก็ แม่เป็นฝ่ายเริ่ม...”
“อ้อ... นี่แกโทษฉันหรือคยูฮยอน แล้วก็อยากจะปกป้องมันจากแม่เลว ๆ อย่างฉันงั้นสิ” คยูฮยอนไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่พูดไปก็เสียเปล่าในเมื่อทิฐิของแม่เขาตอนนี้มาเหนืออะไรอื่น “จะบอกอะไรให้นะ อีทงเฮน่ะมันอยากให้แม่ของแกอกแตกตาย มันถึงได้เอาแกมาเป็นเครื่องมือไงล่ะ”
ในตอนนั้นโจวคยูฮยอนแทบจะคิดด้วยซ้ำ ว่าแม่ของเขาแค่ใส่ร้ายทงเฮไปอย่างนั้นเพราะความเกลียดชังเท่านั้นเอง
“ซีวอน แกรู้เรื่องทงเฮแล้วใช่ไหม”
ปาร์คจองซูลงทุนเป็นพิธีกรภาคสนามเดินมาสำรวจสถานการณ์ถึงโต๊ะ แต่ดูเหมือนประเด็นในวันนี้ค่อนข้างจะขำไม่ออกสักหน่อยสำหรับชเวซีวอน หน้าคมกำลังฉายแววเคร่งเครียด ไม่ได้เปิดปากพูดกับใคร เพียงเพราะข่าวที่ได้ยินมาสด ๆ ร้อน ๆ และข้าวของบนโต๊ะของใครอีกคนที่ถูกขนย้ายออกไปจนหมดตั้งแต่เช้าตรู่
“เขาก็คงจะกลับไปทำงานบริษัทของบ้านเขามั้งครับ”
ครั้นเดินลงมาข้างล่างตอนพักกลางวันก็บังเอิญเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน อ้า... ใช่แล้ว คงจะเป็นโจวคยูฮยอนคนนั้นนั่นเอง
“อะไรนะครับ คุณอีทงเฮลาออกไปแล้ว? กะทันหันขนาดนี้เชียวหรือครับ” คยูฮยอนถามย้ำกับประชาสัมพันธ์สาวอีกครั้งคล้ายจะไม่เชื่อหู ทั้งที่เมื่อคืนเขาก็ยังเห็นพี่ทงเฮทำงานอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์อยู่หยก ๆ
คิดจะทำอะไรกันแน่...
นั่งรออยู่จนดึกดื่น กระทั่งในที่สุดคนที่รอมาค่อนคืนก็ขับรถกลับมาในตอนเกือบ ๆ เที่ยงคืนของคืนวันนั้น รู้ส่ามันไม่ใช่กงการอะไรของเขาที่จะต้องไปวุ่นวายหรือถามไถ่ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นคยูฮยอนก็เชื่อในลางสังหรณ์ของตัวเองว่าทงเฮกำลังมีอะไรในใจที่ต้องให้คิดอยู่
ร่างเล็กเดินเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคยูฮยอนยังคงรอเขาอยู่ที่กลางบ้าน ดวงหน้าขาวติดจะราบเรียบและไม่ได้เริ่มพูดอะไรออกไปก่อน
“ทำไมวันนี้กลับดึกจังครับ”
“ฉันก็กลับดึกทุกวันนั่นล่ะ นายเองก็ยังไม่ขึ้นนอนเหมือนกัน” วางสัมภาระลงบนโต๊ะรับแขกแล้วก็จัดแจงเสียใหม่ ใจยังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างที่เพิ่งได้ตัดสินใจ
“ผมรอพี่อยู่” คยูฮยอนเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลัง ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็เขาไม่กลัวใครจะมาเห็น ซุกหน้าลงกับต้นคอขาวแล้วโยกตัวน้อย ๆ แต่ทงเฮเองไม่ได้พูดอะไร
ทว่าเสียงกรี๊ดที่ดังลั่นมาจากตรงบันไดที่ทำให้คยูฮยอนต้องรีบผละออกจากอีกฝ่าย เขาจำเสียงนี้ได้ดี...
“คุณแม่!!!”
ถลาเข้าไปประคองร่างที่เป็นลมล้มพับลงไปคาบันไดแล้วก็แทบลนลานทำอะไรต่อไม่ถูก ครั้นมองไปที่อีกคนในที่นั้น กลับพบว่าอีทงเฮยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมีสายตาเฉยชาจนเกินกว่าจะเป็นอีทงเฮที่เขาเคยรู้จักคนเดิม
“พี่ทงเฮ...”
เป็นคนรับใช้ที่พากันวิ่งเข้ามาช่วยประคองคุณผู้หญิงของบ้านอย่างตกอกตกใจ และจนถึงตอนนี้คยูฮยอนก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าทงเฮทำแบบนั้นได้ยังไง...
“ผู้ป่วยไม่เป็นอะไรมากนะครับ แค่ตกใจจนหมดสติไปเท่านั้น เดี๋ยวหมอจะให้น้ำเกลือไว้ก่อนแล้วรอดูอาการอีกที”
นายแพทย์เดินออกไปทิ้งไว้เพียงสองแม่ลูกที่ตกอยู่ในภวังค์ความเงียบ ก่อนหน้านี้จีฮยอนโกรธจนตัวสั่น แต่ถึงตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงเชิดสายตาขึ้นด้วยแรงโทสะ ทำเหมือนคยูฮยอนไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ก็ไม่ปาน
“แม่เป็นไงบ้างครับ”
“แกก็ได้ยินแล้วนี่ หมอบอกว่าฉันยังไม่ตาย” เอ่ยคำประชดประชันให้ลูกชายรู้สึกผิดจนหน้าชา แล้วก็ว่า “นี่ถ้าฉันไม่คอยจับตาดูแกไว้ก็คงต้องโง่ดักดานถูกลูกชายหลอกจนตัวตาย แล้วจะได้ไปเสพสมกับเกย์พวกนั้น!”
คำปรามาสใดที่เธอเคยใช้ด่าอีทงเฮไว้ไม่คิดว่าจะได้มาใช้กับลูกตัวเอง ในฐานะของคนเป็นแม่ที่ฟูมฟักลูกอย่างสมบูรณ์แบบมาตลอด คยูฮยอนแทบจะคุกเข่ากับพื้นเมื่อต้องทนเห็นภาพแม่น้ำตาคลอเบ้า
“สมใจแกกับมันหรือยังที่อยากให้ฉันอกแตกตาย!”
สู้แม่ทุบตีตบหน้าเขาเสียยังจะดีกว่าที่มาพูดพร้อมน้ำตาอย่างนี้ คยูฮยอนจะไม่รู้สึกคล้อยตามคำพูดมารดาในครั้งนี้ได้อย่างไร ในเมื่อภาพสายตาเย็นชาของทงเฮยังคงติดตรึงอยู่ในความคิด ยากที่จะเชื่อเสียจนเขาคิดว่าเขาคงมองผิดไป แต่ไม่ใช่เลย...
โจวคยูฮยอนต้องมาทำงานในวันรุ่งขึ้นเพียงลำพังเพราะผู้เป็นแม่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีใครสนใจไถ่ถามอาการทว่าตั้งแต่เข้าบริษัทมาทุกคนกลับเอาแต่ซุบซิบกันเสียงดังจอแจ ชวนให้คิดไปว่าอาจมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้จนกระทั่งได้เดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องประธานฝ่ายบริหารของตัวเอง
ข้าวของของเขาถูกเก็บใส่กล่องอย่างลวก ๆ แล้วกองไว้อยู่หน้าห้อง แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความน่าตระหนกด่านแรกเท่านั้น หากแต่เมื่อเข้าไปภายในห้องถึงได้รู้ว่าไม่ใช่ใครอื่นเลยที่ทำเรื่องแบบนี้
อีทงเฮกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ซีอีโอที่เป็นของเขามาจนถึงเมื่อวานนี้ ส่วนที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะก็คือคิมซังฮุนที่กำลังยิ้มกระหยิ่มพึงใจอย่างน่ารังเกียจ ทงเฮไม่ได้พูดอะไร สีหน้าราบเรียบ แต่คิมซังฮุนต่างหากที่เอ่ยทักทายเขาขึ้นมาก่อน
“อ้าว นึกว่าใคร ท่านประธานโจวที่กลายเป็นอดีตไปแล้วนั่นเอง เข้ามาเอาอะไรหรือครับ? หรือว่าเราจัดของไปให้ไม่ครบ”
คยูฮยอนแทบล้มทั้งยืนในขณะที่กำลังถูกหัวเราะเยาะสะใจ พี่ทงเฮคนนี้ไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ ตานั้นจับจ้องอยู่กับแผนภูมิปรับเปลี่ยนบอร์ดบริหารชุดใหม่ที่คิมซังฮุนนำมาเสนอ
“ถ้าหมดธุระแล้ว รบกวนเชิญข้างนอกครับ เลขาฮองจะนำคุณไปยังโต๊ะทำงานใหม่ในสาขาที่เหมาะกับคุณเอง” ไล่ทั้งที่ไม่แม้จะปรายตามองด้วยซ้ำ แม่เขาพูดถูก... พูดถูกทุกอย่างว่าอีทงเฮคงไม่มีทางทำดีกับเขาได้จริง ๆ หรอก ในเมื่อเกลียดกับแม่ ก็ต้องต่อเนื่องมาถึงลูก
โต๊ะทำงานใหม่ของคยูฮยอนเป็นแค่โต๊ะพนักงานบริษัทฝ่ายบัญชีธรรมดาเท่านั้นเอง ตำแหน่งงานต่ำกว่าผู้จัดการฝ่ายที่ยืนทำท่าทีเกรงอกเกรงใจเขาอยู่ด้วยซ้ำ
รู้สึกพลาดที่เชื่อใจคน ๆ หนึ่งมากไป รู้สึกผิดที่กลายเป็นเครื่องมือกลับมาทำร้ายแม่ตัวเองอย่างร้ายกาจ นี่เองคือสิ่งที่อีทงเฮกำลังทำ... ทำลายมินจีฮยอนและโจวคยูฮยอนให้ย่อยยับ!
แต่ถึงอย่างนั้น...
ร่างทั้งร่างถูกดึงเข้ามาในห้องเก็บของขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลจากห้องประธานบริหาร ครั้นเปิดไฟขึ้นมอง ก็พบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือคยูฮยอนนั่นเอง
“ทำแบบนี้ แม่นายไม่เคยสอนหรือว่ามันเสียมารยาท”
แต่สิ่งที่คยูฮยอนตอบกลับมาคือนัยน์ตาสั่นไหวและการถลาเข้ากอดโดยที่ไม่พูดอะไร กอดอยู่อย่างนั้น เนิ่นนานจนกว่าจะได้มั่นใจว่าอีทงเฮคนนี้ยังเป็นพี่ทงเฮคนเดิมที่ไม่ได้เปลี่ยนไป
“โจวคยูฮยอน... ปล่อย...”
“ผมเชื่อพี่ทุกอย่าง... แค่พี่บอกผมมาก็พอ” ถึงจะรู้ว่ามันดูโง่เง่าขนาดไหนก็ตามแต่ร่างสูงก็มั่นใจว่าความรู้สึกที่ร่ำบอกเขาอยู่ในอกนี่มันไม่ผิดแน่ “บอกผม... ว่าพี่ไม่ได้เป็นอย่างที่แม่ผมว่า”
มือที่กระชับต้นแขนทั้งสองข้างถูกทงเฮแกะออกอย่างใจเย็น เบื้องหน้าคยูฮยอน ใบหน้าของทงเฮนั้นยังคงราบเรียบไม่ต่างกับน้ำเสียง หากแต่เมื่อคล้อยหลังไป ความรู้สึกอื่นกลับขึ้นมาแทนที่ โดยที่ไม่สามารถเอาชนะการยับยั้งชั่งใจด้วยความทะนงตนได้เลย
“พี่ทงเฮ!”
ทงเฮรู้สึกว่าใจของตัวเองกำลังจะอ่อนยวบลงเสียเดี๋ยวนั้น กลั้นใจครั้งสุดท้ายแล้วเหลียวตัวกลับไปสบตากับอีกคน ระบายรอยยิ้มอ่อน ๆ แต่กลับเฉือนใจของคยูฮยอนจนพูดอะไรไม่ออก
“แล้วนายจะเข้าใจเอง เร็ว ๆ นี้แหละ”
แล้วหันหลังกลับเดินออกมาจากห้องนั้นด้วยสีหน้าแน่วแน่ มีแค่เขาเท่านั้นที่จะทำได้ อีกไม่นานคิมซังฮุนก็จะเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว เขาจะทำมันพังไม่ได้เป็นอันขาด
ความคิดเห็น