ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [S FIC] WONKYU KANGJO KYUHAE BUMHYUK HAEEUN ¦ {yaoi}

    ลำดับตอนที่ #3 : ` ( kangjo ) ____EVEN IF THERE IS NOT TOMORROW {drama romance}

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 54













    EVEN IF THERE IS NOT TOMORROW


    Couple : Kangin x Kyuhyun

    Type : Drama Romance

    Author : xerxixiao’

    Note : ช็อตฟิคสั้น ๆ.... สั้นจริง ๆ........ 5555555.





    ---------------------------------------------------------------------------------------------------








     

    ลมเอื่อยๆพัดโกรกท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของบ้านเดี่ยวแถบชานเมือง นาน... นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กลับมา นานเท่าไหร่... ที่เสียงร้องไห้นั้นยังคงติดในห้วงสำนึก นาน... แต่ก็ไม่นานมากพอที่จะทำให้ลืมบางสิ่งบางอย่างในบ้านหลังนี้ บ้านที่มีใครคนหนึ่ง... ใครคนนั้นซึ่งเฝ้ารอเขาตลอดมา ใคร... ที่มักจะกลับมาพร้อมหนังสือหัดทำอาหารและหมกตัวอยู่ในครัว... ใครที่ใช้เวลาส่วนมากไปกับการเล่นเกมส์ และใช้เวลาส่วนน้อยในการทำสิ่งที่ไม่ชอบ... อาหารที่เขาชอบบอกว่ามันไม่อร่อย และออกไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาตุนไว้ทุกทีไป




    ใครคนนั้นกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆเยื้องออกจากห้องครัว ตรงหน้านั้นคือชามจาจังมยอนสีขาวเป็นเงาวับ เส้นจาจังมยอนนั้นเป็นสีดูดำคล้ำ จากสายตาของคนที่นั่งจ้องมันอยู่บอกชัดว่าไม่เต็มใจจะกินสักเท่าไหร่




    “คยูฮยอน...”




    เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกออกไปแผ่วพร่า ดวงหน้าขาวนั้นหันมาวูบหนึ่ง คิ้วเรียวขมวดน้อยๆราวกับขัดแย้งบางอย่างในใจ แต่เพียงครู่เดียวก็เชิดรั้นขึ้นแล้วหันกลับไปตามเดิม ก้มหน้าคีบอาหารในจานเข้าปาก เหยเก แต่ก็เงียบเชียบเสียจนเหมือนว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่เป็นเพียงอากาศธาตุ




    คิมยองอุนก้าวอาดๆไปจนหยุดอยู่เบื้องหลังอีกคน ฝ่ามือหนายกขึ้นวางบนเรือนผมสีเมเปิ้ลนั้นบางเบา... ค่อยๆลูบด้วยความรู้สึกทะนุถนอม.... อ่อนโยน จนร่างกายผอมโปร่งนั้นสั่นเทา เพียงครู่ที่ยองอุนเห็นนัยน์ตาสวยนั้นคลอรื้น กระทั่งร่างทั้งร่างผุดลุกหนีไปพร้อมเทจาจังมยอนที่เหลืออยู่เต็มจานลงถังขยะ




    “นายโกรธพี่มากหรือ?”




    สองมือเกาะท้าวอ่างล้างจานพลางเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจลึก ไม่แม้แต่จะต่อคำใดๆกลับมาอย่างเช่นเคย เด็กซนๆคนหนึ่งที่มักจะถูกเขาปัดออกอย่างรำคาญ... เด็กคนหนึ่งที่เอาแต่เรียกร้องอ้อมกอดอบอุ่นซึ่งเขาไม่เคยมีให้... แค่เด็กคนหนึ่ง... เด็กที่ไม่รู้จักโต และมักจะตัดพ้อด้วยถ้อยคำซ้ำๆทุกวัน




    โจวคยูฮยอนเลือกที่จะใส่ใจกับจานชามซึ่งกองสุมเลอะอยู่ทั่วครัว อีกครั้งที่เขาตัดสินใจทำอาหาร... อาหารซึ่งไม่มีทางอร่อยขึ้นมาได้เลยแม้ว่าจะพยายามไปมากเท่าไหร่ วนซ้ำอยู่ที่เดิม... ที่ซึ่งไม่เคยถูกเห็นค่า







     

     

    ผมหัดทำคิมบับได้แล้ว เชื่อเถอะว่าอร่อยเหาะ




    คิมบับจานโตถูกยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่มร่างหนาผมสั้นซึ่งนอนเอกเขนกดูทีวีสบายอารมณ์ มักจะชอบบ่นว่าที่บ้านไม่มีอะไรกิน บ่นว่าอยากได้นู่นนี่ เป็นอยู่อย่างนั้นเสียจนคยูฮยอนทนไม่ไหว ตัดสินใจปิดเกมส์ลงแล้วเข้าเว็บสอนทำอาหาร ลองดูถูกๆผิดๆ จ่ายตลาดก็ได้มาแต่ของแพงๆเพราะซื้อของไม่เป็น เสียงดังก๊องแก๊งในครัวจนทำให้อีกคนต้องเดินมาดู และพบเพียงภาพเด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ พร้อมอาหารซึ่งไหม้เป็นตอตะโก




    นายทำอะไรเนี่ยเจ้าเด็กนี่ เลอะเทอะไปหมดแล้ว ดันเจ้าตัวยุ่งออกไปให้พ้นทางแล้วจัดการเก็บกวาดครัวเสียใหม่ ในตอนนั้นไม่ทันได้มอง... ไม่ทันได้มองเลยจริงๆว่าใบหน้าเปรอะเปื้อนนั้นกำลังแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบใด ไม่ได้สนใจแม้กระทั่งว่ามันก้มลงต่ำ เพียงชั่วอึดใจ เสียงแหบพร่าก็กลั้นใจถามออกมาโดยที่ยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น




    ผมแค่... อยากจะทำอาหารอร่อยๆ




    นั่งเล่นเกมส์ต่อไปเถอะน่า อาหารสำเร็จรูปก็อร่อยดีอยู่แล้ว

     

     








    เสียงน้ำจากก๊อกไหลกระทบอ่างสแตนเลสจนเกิดเสียงดังก้องคลอไปกับสายลมหวีดหวิวของภายนอก คยูฮยอนก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ใช้ฟองน้ำถูล้างไปตามขอบจานชามแล้ววางซ้อนๆกันไว้ด้วยท่าทีซึ่งไม่ได้ดูทะมัดทะแมง  คนมองทำเพียงแค่ยืนมองห่างๆ มองไหล่ลาดที่ไหวขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของมือ โดยที่ไม่เห็นใบหน้านั้นเหมือนอย่างทุกที




     

    เพล้งงงง




     

    จานกระเบื้องตกลงกับพื้นจนร่างโปร่งต้องถอยกรูด รีบก้มลงเก็บเศษซากจานแตกกึ่งหัวเสีย อุทานออกมาผะแผ่วยามถูกบาดที่นิ้วให้เห็นเลือด ครั้นยองอุนรีบถลาเข้ามาดู กลับได้เห็นน้ำตาใสๆเอ่อล้นในดวงตาสีนิลสนิท น้ำตาที่คิดว่าเด็กคนนี้คงไม่มี...




    “เจ็บไหม...?”




    ยื่นมือเข้าไปเพื่อประคองมือเรียวแต่กลับถูกอีกฝ่ายเบี่ยงตัวหนีไปอีกทาง คยูฮยอนกุมมือตัวเองไว้ ก้าวฉับๆเข้าไปทางตัวบ้าน รื้อหายาในตู้ด้วยมือเดียว กระทั่งได้มาเพียงแค่ยาฆ่าเชื้อและผ้าพันแผล




    “ให้พี่ช่วยนะ...”




    เด็กหนุ่มพันมือตัวเองด้วยผ้าก๊อตอย่างลวกๆโดยไม่พึ่งเสียงเสนอตัวนั้น ฉายแววกราดเกรี้ยว ผิดหวัง โมโหตัวเองที่ช่างโง่เง่าเกินใคร....




    น้ำตาที่อดกลั้นไว้ค่อยๆไหลเผาะลงมาเป็นทาง พอปาดออกอย่างลวกๆแล้วลุกขึ้นจะเก็บยาบนโต๊ะกลับเข้าตู้ น้ำตานั้นก็ยิ่งไหลออกมาอีก... ซ้ำๆ... ซ้ำๆ.... จนร่างทั้งร่างหอบโยนไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืนได้ไหว




    คิมยองอุนตรงเข้าสวมกอดแผ่นหลังนั้นด้วยใจที่วูบหาย ไม่เอา... ไม่ร้องไห้....




    รับแรงสั่นไหวจนต้องรัดรึงอ้อมแขนให้แน่นขนัด อบอุ่น อ่อนโยน และปรารถนาจะให้อีกคนมีความสุขอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ร่ำคำกระซิบข้างหู ส่งผ่านให้ดังไปถึงห้วงคำนึง เพียงเพื่อจะได้หยุดร้องไห้เสียที




    “อย่าร้องไห้เลยนะ... พี่อยู่ตรงนี้แล้ว....”




    “..................”




    “อยู่กับนายไงคยูฮยอน.... จะไม่ไปไหนแล้ว...”




    “..................”




    “..................”




    “พี่มัน... คนใจร้าย...”




    เสียงนั้นสะอื้นไห้จนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ไม่ดิ้นหนี... ปล่อยให้กอด.... กอดปลอบประโลมจนเหมือนจะลืมทุกสิ่งให้มีเพียงสองคน ลืมความทรงจำเลวร้าย...




    จะยังอยู่ด้วยกัน...




    ใช่.... เรายังอยู่ด้วยกันนี่ไง







     

    เราจะอยู่ด้วยกันใช่ไหม?


    ยองอุนไม่เคยตอบ... เขาทำเพียงแค่ยิ้ม.... แค่ยิ้มเท่านั้น ยิ้มที่เป็นหลักประกันอะไรไม่ได้สักอย่าง...

     







    “เราจะอยู่ด้วยกัน... พี่สัญญา.... เรา... จะอยู่ด้วยกัน”




     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ที่เพิ่งเดินจากมา ร่างโปร่งสะดุ้งน้อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดซึ่งลดหลวม เดินสะโหลสะเหลไปคว้าเอาโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบ จ้องมองชื่อบนหน้าจออยู่เพียงครู่ จึงกดรับด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าในนาทีต่อมา “ครับ... ผมจะไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้ล่ะ”





    คุยกันแค่เพียงประโยคสั้นๆก็กดตัดสายไป ได้สบตากันเพียงครู่ คยูฮยอนก็ผละเดินเข้าไปในห้องนอน จนยองอุนต้องเดินตามไปติดๆ และเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังเปลี่ยนจากชุดลำลองเป็นชุดโทนเข้มแล้วทับด้วยเสื้อโค้ทอีกตัวหนึ่ง




    ค่อยๆหันกลับมา พรายยิ้มให้อ่อนๆ... จนคิมยองอุนรู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ




    “ผมกำลังจะออกไปข้างนอกนะครับ จะแวะซื้อของมาทำบิบิมบับเย็นนี้ด้วย... ผมจำได้ว่าพี่บ่นอยากกิน”




    “..............”




    “ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ ฝีมือผมดีขึ้นเยอะ อย่างน้อย... ก็พอกินได้”




    ร่างสูงใหญ่คลี่ยิ้มกว้างรับคำพูดคำจาน่าฟังของอีกคน วางมือลงบนแพรผมนุ่ม ชอบทำแบบนี้... แม้ว่าเด็กนี่จะเอาแต่โวยวายหาว่าผมยุ่งก็ตามที “พี่จะรอกินนะ”




    “ผมน่ะ... โตขึ้นมากแล้ว แต่พี่ก็ยังชอบลูบหัวผมเหมือนผมเป็นเด็ก”




    “...............”




    “มันทำให้ผม... คิดถึงพี่....”




    หน้าหวานหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินสวนออกไปเมื่อเห็นว่าคนที่นัดแนะกันไว้ได้มาถึง เจ้าของร่างสูงโปร่งดูดี ผู้ชายซึ่งคิมยองอุนคุ้นหน้าคุ้นตา เพื่อนของเขานั่นเอง ชเวซีวอน...




    “จะไปกันหรือยัง?”




    “ครับผม ขากลับแวะมาร์ทซื้อของด้วย ผมจะทำบิบิมบับ” พอตั้งท่าจะเดินออกไป ร่างโปร่งก็จำต้องเอี้ยวตัวกลับมา หน้าประตูห้องที่มีใครอีกคนยืนอยู่... ยืนยิ้มคอยอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้เดินตามออกไป “รอแป๊บหนึ่งนะครับ”







    โจวคยูฮยอนก้าวเดินกลับมา หยุดอยู่ตรงหน้าร่างหนา... จับจ้องอยู่เพียงครู่......










    ....แล้วค่อยๆเดินทะลุผ่านไป










    มือเรียวคว้าเอาล็อกเกตเงินอันเล็กที่มีรูปของใครบางคนขึ้นมอง ดวงหน้ารูปไข่อวบอูม ผมเกรียนสั้น และสายตาอบอุ่นซึ่งจับจ้องมองเขาเพียงคนเดียว... เก็บสร้อยล็อกเกตลงกระเป๋าเสื้อโค้ท แล้วจึงเดินกลับออกไปหาคนที่รออยู่




    “ผมลืมของน่ะครับ”




    ค่อยๆเดินออกไป... เหลือเพียงคนผู้มีใบหน้าเฉกคนในล็อกเกต ร่างสูงใหญ่ของคิมยองอุนที่ค่อยๆโปร่งแสง... และหายล่องไปตามกระแสลมอ่อนๆของฤดูใบไม้ผลิ....







    และแรงลมนั้นเอง... ที่พัดอวลอยู่รอบตัวโจวคยูฮยอนจนต้องละมือจากประตูรถ เบนสายตามองไปรอบๆ ทว่าไม่พบสิ่งใด มีเพียงเสียงที่แว่วหวานนั้นกระมัง...




     



    “เราจะอยู่ด้วยกัน... พี่สัญญา.... เรา... จะอยู่ด้วยกัน”

     







    คยูฮยอนไม่รู้ว่าน้ำตานี้ไหลมาจากที่ใด... ไหลมาตั้งแต่เมื่อไหร่...




    อบอุ่น... ราวกับว่าสายลมนั้นกำลังโอบกอดทั้งร่างไว้ เพื่อให้คำมั่นในสัตย์สัญญา







     

    “ครับ... ผมรู้...”








     

    ล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวยาว บีบกุมล็อกเก็ตสีเงินไว้แน่น...




    ...ร้อนวาบ... คล้ายกับมีอีกมือกุมอยู่ด้วยกันก็ไม่ปาน







     

    “...พี่สัญญา...”

     

















     

    END














    ชั่ววูบอีกแล้ว.... ช็อตฟิคสั้น ๆ...... แบบว่าสั้นมาก 5555555.
    หวังว่าจะชอบกันนะคะ แม้มันจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม ._ .











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×