คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : FOUR N.I.C.E
เวรละเฮ้ย อีกสิบนาทีรถออก เฮ้ยตื่นสายจนได้เลยเว้ยเฮ้ย แล้วกูจะอาบน้ำแต่งตัวทันมั๊ยหล่ะเฮ้ย อารายวระ ทำไมไอ่เจไดต์ถึงไม่โทรมาปลุก โธ่!! แล้วกูนั่งบ่นอยู่นี่แล้วกูจะไปทันมั๊ย - - ต้องรีบแล้ว อาบน้ำไม่ต้องถูสบู่ก็ได้ พรมน้ำหอมเอา เอาหล่ะ อ๊ากส์................................เทคนิคความเร็วสูง ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก - - คงจะไม่ไปสายเหมือนตอนไอ่เจไดต์แข่งว่ายน้ำหรอกนะ
เฮ้อ !!! เกือบมาไม่ทันแล้วน่ะสิดีนะที่ครูยังไม่มาถ้าเกิดครูมาแล้วหล่ะก็รับรองได้เลยว่า “ไม่ได้ไป ชัวร์” เอ ว่าแต่ทำไมยังไม่เห็นมีใครมาซักคนเลย นี่มันก็จะได้เวลาแล้วนะเนี่ย หรือว่ากูมาผิดวัน หรือว่าไปกันหมดแล้ว ไม่นะ ToT
“เฮ้ย! ตะวันมาสายนะเนี่ย” เจไดต์วิ่งมาจากข้างในโรงเรียน
“เจไดต์ ยังไม่ไปเหรอ นึกว่าไปกันแล้วตกใจหมดเลย” ผมดีใจมากที่เจไดต์ยังไม่ไป
“นั่นแหละ จริงๆแล้วมันควรได้เวลาไปตั้งนานแล้วหล่ะนะ แต่บังเอิญว่าเจ๊มิสหน่ะท้องเสียนิดหน่อยเลยอาจจะมาสาย แต่ป่านนี้ยังไม่เสด็จมาเลยอ่ะ”
“เป็นวันที่โชคดีจริงๆเล้ย บร๊ะ ^^” ผมยิ้มระรื่น
“เง้อ ตอนนี้ในโรงเรียนอ่ะมีเราแค่สองคนเองนะตะวัน”
“ทำไมเหรอ?”
“ก็....” เจไดต์เดินตรงเข้ามาหาผมเข้ามา เอาแขนมารวบตัวผม แล้วก็รัดตัวของผมแน่น
“นี่เจไดต์จะทำไรฟระ?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ - - ก็คนมันตกใจนี่นา อยู่ดีๆก็มีคนมากอด น่าจะบอกกันล่วงหน้าซักหน่อย จะได้กอดกลับ (เสื่อมละ - -)
“ก็มันหนาวนี่นา วันวันไม่ได้ฟังข่าวเหรอที่ว่าวันนี้อากาศจะหนาวน่ะ”
“นี่ๆ ไม่ได้ฟังวุ้ย ว่าแต่ รู้ว่าตัวเองหนาวทำไมไม่เอาเสื้อกันหนาวมาหล่ะ ห๊า!!!!!” ไอ่เจไดต์ป่วงอีกละ
“ก็นะเจไดต์ไม่ชอบเอาเสื้อกันหนาวมานี่นา อยู่ด้วยกันมาตั้งสองปีละ วันวันยังไม่รู้อีกหรา”
“รู้เดะ แต่ทีหลังก็เอาเสื้อมาด้วยนะเดี๋ยวไม่สบาย อีกอย่าง ช่วยอย่ากอดแน่นเกินไปได้มั๊ยห๊า!!!!!!!!!!!!!!”
โชคดีนะเนี่ยที่ไม่มีใครอยู่ในโรงเรียน ถ้าเกิดมีหล่ะก็ต้องเป็นข่าวแน่ๆเลย ยิ่งถ้าเป็นนักข่าวของโรงเรียนหล่ะเสร็จเลย เป็นข่าวแน่ๆ เพราะว่าที่โรงเรียนอ่ะมีนักข่าวที่จะคอยทำข่าวเกี่ยวกับโรงเรียนและนักเรียนประมาณนี้ เรื่องวิชาการพวกนางไม่ค่อยจะเท่าไร แต่ซุบซิบนินทานี่แหละนางช่างวิจารณ์แหลก(เรื่องวิจารณ์แหลกเป็นเรื่องซุบซิปประจำวันเท่านั้น ส่วนข่าวธรรมดาหน่ะ ก็พอรับได้นะ) ขนาดข่าวพวกที่ไม่เก็บจานข้าวในโรงอาหารอ่ะ คือนางพูดจนพวกนั้นแทบจะมุดแผ่นดินหนี คือเวลาพวกนางพูดอะไรๆเนี่ย นักเรียนร้อยละ 70 จะเชื่อหมดเลยโดยไม่ดูก่อนว่าข่าวนั้นจะมั่วชั่วเลวดีขนาดไหน แต่วันนั้นที่เจไดต์กับผมกอดกันที่หน้าอาคาร พวกนักข่าวได้ไปทำข่าวนักเรียนมอต้นตกท่อหน้าโรงเรียน ข่าวแบบนี่นางก็ทำ ผู้ปกครองหน่ะเหรอ ไม่ต้องถาม มีเรื่องอยู่แล้วหล่ะกับพวกนี้ แต่พักหลังพวกนางจะระวังตัวมากขึ้น จะได้เอาเรื่องไม่ได้
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มา เจ๊มิสมาละ ประธานมาละ เอาหล่ะทุกคนปรบมือให้กับประธานของเราที่มาช้าทุกงาน ไม่ว่างานช้างงานมดขนาดไหน ประธานก็จะมาช้าเสมอ ปรบมือ!!!!!!!!!!!!!!! พวกเราก็ขนของขึ้นรถกัน คุณพระนี่เจ๊มิสจะย้ายบ้านหรือไงวะนี่ เง้อ สมกับคำร่ำลือเจงๆๆกับคำว่า ครูที่เวอร์ที่สุดในโรงเรียน เอาหล่ะได้เวลาออกเดินทาง เย้!!!!!!!
อารายกานว๊าเนี่ย!!!! ทำไมนั่งไม่สบายอย่างนี้เนี่ย รถแคบจังเลยวุ้ย - - จริงๆแล้วมันคงจะกว้างกว่านี้ถ้าไม่มีของ ของเจ๊มิส ผมต้องได้นั่งเบียดกับเจไดต์ (แทบจะได้นั่งบนตักเลย ให้ตายสิ) - - เจ๊ก็ขับรถ เปิดเพลงฟังเบาๆ เง้อ เพลงน่าหลับชะมัด และถ้าเกิดนางหลับขึ้นมาหล่ะ ซวย!!!!!
“วันวัน” เจไดต์กระซิบเรียก
“มีไรเหรอเจไดต์” ผมหันไปตอบ
“นั่งสบายป่ะ?”
“ก็ดีกว่านั่งในห้องเก็บของหล่ะนะ 555+” คงจะเป็นอย่างนั้นแหละที่มันดีกว่านั่งในห้องเก็บของ เพราะว่าห้องเก็บของที่โรงเรียนของผมหน่ะผมเคยไปนั่งครั้งนึง มันรกมากเลยนะจะบอกให้ ไม่รู้ว่าจับอะไรใส่ไปข้างในบ้าง ควายเหอะ!!!
“ถ้านั่งไม่สบายมานั่งบนตักเจไดต์ก็ได้นะวันวัน” อารายนะ นั่งบนตักเรอะ บ้าละ!
“ไม่เป็นไรหรอกนะเจไดต์ ตะวันนั่งได้ไม่เป็นไรหรอก”
อีกนานมั๊ยเนี่ยกว่าจะถึง ผมอยากจะตะโกนบอกเจ๊มิสว่า ครูคร้าบผมปวดฉี่! อ้ากกกกก ไม่ไหวละนะ แถวนี้มีแต่ป่าอะไรจะกันดารขนาดนั้น ขอแวะปั๊มน้ำมันหน่อยเถอะ นะๆ ผมปวดจะตายอยู่แล้ว ครูคร้าบรีบๆขับหน่อยคร้าบ ง่า ท่อจะแตกแล้วคร้าบ เหอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
...อีกนานมั๊ย เธอจะหาปั๊มได้หรือเปล่า...
เย่ เจอปั๊มแล้ว!!!!!!!!!!!!!!
... ไม่จอดเหรอ!!!!...
“นี่พวกเธอครูจะไม่จอดนะ ครูกลัวไปไม่ทัน” ห๊า!!!!!!!!!!!!!! มันแข่งพรุ่งนี้นะครับครู!?!?!?!?
“อะไรนะครับ จอดบ้างก็ดีนะครับ ผมปวดฉี่อ่าครับ” ผมไม่พูดก็ไม่ได้หรอก มันปวดจะตายอยู่แล้วนะเนี่ย
“อ่ะปวดฉี่เหรอ โอเคร งั้นเราแวะก็ได้” - - เหมือนนางจะไม่ค่อยพอใจ เพราะนางกลัวว่าจะไปไม่ทัน - - มันช้าเพราะใครหล่ะ?
- -
เฮ้อออออออออออฉะบายตัวจังเล้ย หลังจากการปลดปล่อยของเสียของร่างกายในรูปปัสสาวะ(ก็จะไปแข่งชีวะนี่นา ขอวิชาการหน่อยจะไปแข่งเลี้ยว คงไม่ว่ากันนะ 555+) พายุฝนฟ้าคะนองได้ผ่านไปแล้ว ผมรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ มา! ตอนนี้จะทำอะไรก็ได้ละ
ออกเดินทางกันเล้ย ^^
เวอร์ชัน ::::::::: แอลป์
อ๋อยวันนี้ชั้นนอนไม่หลับเลยแฮะ ไม่มีอะไรทำเล้ย เล่นคอมดีกว่า เผื่อว่าอีพวกนั้นข่าวมันจะหาข่าวเหี้ยตลกๆมาให้อ่านอีก 555+ พวกนี้ก็ป่วยได้ทุกวัน มันไม่เบื่อบ้างหรือไงวระเนี่ย
น่าจะมีข่าวอ่านนะ....................เฮ้ยอะไรวระเนี่ย รูปคุ้นๆ
‘‘หนุ่มหัวใจเปลี่ยวเสียวถึงรู’ นายชื่อย่อ ต. อยู่ห้องระดับบรมสบายแห่งโครงการพิเศษ ได้ทำการยั่วสวาทของหนุ่มที่ได้รับสมยานามในห้องนั้นว่า ‘เจ๊าพ่อสุดเก็กแต่ถึงใจ’ ที่อยู่ห้องเดียวกัน ทำให้เจ๊าพ่อคนนั้นเกิดอารมณ์ เลยเข้าไปโผลกอดรัดฟัดเหวี่ยง คาดว่าเจ๊าพ่อคนนั้นคงจะเสร็จ หนุ่ม ต. ยังไม่พอ ด้วยความแรดขอนาง นางได้พาขึ้นรถไปบำเรอสวาทต่อเป็นแน่’
รูปคุ้นๆแฮะ อึม เหมือนกับ....อึม........ ....อึม........ ....อึม........ ....อึม........ ....อึม........
อ่าวเฮ้ยซวยแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!เพื่อนกู
เวอร์ชัน ::::: ตะวัน
“นี่วันวัน” เจไดต์ปลุก ผมหลับไปตอนไหนเนี่ย ผมตื่นมาตอนนี้ทุกคนในรถหลับกันหมดยกเว้นเจไดต์ - - เฮ้ย!!!!ทุกคนในรถหลับได้ไง เจ๊มิสหลับไม่ได้ นางขับรถนี่ หลับแล้วขับแล้วยังรอด มันปาฏิหาริย์มากเลยนะเฟร้ย
“มีไรเหรอเจไดต์” เสียงของผมอ่อยๆ ก็ผมเพิ่งจะตื่นนี่นา จะให้เสียงใสแจ๋วเหมือนจิ้งหรีดได้ไงเล่า
“เอิ่ม ตอนที่เรากำลังจะออกจากโรงเรียนหน่ะ เจไดต์รู้สึกว่ามีคนแอบมองพวกเรานะ”
“เหรอเจไดต์แต่ตะวันไม่เห็นมีอะไรเลยนะ อีกอย่างตี 2 นะเจไดต์จะมีใครอยู่ในโรงเรียนหล่ะนอกจากนักข่าวโรงเรียน” ก็มันจริงนิ ตี2 มันจะไปมีคนได้ไงวร๊ะ เฮ้ยเดี๋ยว นักข่าวโรงเรียนยังอยู่เหรอ?????????????????????.......เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!! ลิงใส่ที่คาดผมรูปดอกไม้จันทน์สีชมพูแล้ว แมร่งเอ้ย
“มีไรเหรอวันวัน?”
“เจไดต์ เราซวยแล้วเจไดต์ แมร่งเอ้ย คนที่เจไดต์คิดว่าแอบมองหน่ะ มันพวกนักข่าวเว้ย” ตอนนี้ผมไม่ง่วงแล้ว ตกใจมากกว่า
“เฮ้ยจริงดิ!?!?!?!?” - - แต่ทำไมทำหน้าตายอย่างนั้นวะ ไม่ตกใจหรือไง - -
“แย่ละ ถ้าเกิดพวกนั้นเห็นเราตอนนั้น เราซวยแน่เลย”
“มันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ข่าวมันคงจะออกตอนเช้า ไม่เป็นหรอกนะ” - - หรา.......แน่ใจได้ไงวะว่าไม่เป็นไร แกนะหน่ะปลอดภัย แต่ตรูเนี่ยสิจะตาย
ToT ผมต้องโดนผู้หญิงที่ตามรุมล้อมเจไดต์(ก็มันหล่อนิ)เหมือนแมลงวันตอมขรี้ฆ่าแน่ๆเลย โอยตายพวกนี้ชอบทำตัวเหมือนแมวจรจัดตามมุมตึกอีก แถมยังเสพข่าวของพวกนักข่าวโรงเรียนที่มันไม่ผ่านสำนักงานกรองข่าวบนกลุ่มดาวแมวอยู่ด้วย ตายกับตายยยยยยยยยยย
...หวังว่ามันคงจะไม่เกิดออะไรขึ้นนะ...
เสียงโทรศัพท์เจ๊ากรรมก็ดังขึ้น - - ตี 3 แล้วนะเฟร้ยยังไม่นอนกันหรือไงห๊า!!!!! - - มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีหล่ะนะ 555+ (เริ่มเข้าข้างตัวเอง)
“หวัดดีตะวัน นอนยังอ่ะ” เสียงปลายสายพูด - - มันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ยเนี่ยที่ผมไปแข่งชีวะเนี่ย
“ยังหรอก มีอะไรเหรอ” ผมตอบกลับ - - โหยตาขวากระตุก
“อึม นี่แอลป์นะ มีเรื่องแล้วหล่ะตะวันเอ้ย” - - อ๋อยัยหัวหน้าห้องนี่เอง นึกว่าใคร แต่นางทำไมวันนี้นอนดึกวร๊ะ
“มีอะไรเหรอ แอลป์ แล้วทำไมวันนี้นอนดึกหล่ะ เดี๋ยวไม่สวยเอานะ”
“เรื่องนอนดึกหน่ะเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้อ่ะ พวกนักข่าวมันลงข่าวเหี้ยอะไรของมันอีกละ” - -ลงข่าวงั้นหรา ห๊า
“ข่าวอะไรเหรอ มันคงจะไม่เกี่ยวกับห้องเราใช่มั๊ย?” ผมพูดเสียงสั่นๆ ดูเหมือนว่าเจไดต์จะหันมาฟังด้วย
“อึ้มห้องเราหน่ะไม่ค่อยเกี่ยวหรอก” - - เฮ้อออออ โล่ง - - “แต่มันเกี่ยวกับนายเต็มๆเลยตะวันคุงเอ้ย”
...ตายห่าละกู...
“ห๊า มันเป็นข่าวเกี่ยวกับอะไร?” ผมเริ่มจะไม่ค่อยสู้ดีละนะ มันเกี่ยวกับผมงั้นเหรอ หรือว่า........
“มันลงรูปที่เจไดต์กอดตะวันรู้สึกว่ามันถ่ายตอนประมาณตี 2 ได้นะ”
“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
แอ้กกกกกกกกกกกกกก ใครก็ได้หาเข็มกับได้มาเย็บปากผมที วิญญาณผมกำลังจะหลุดจากร่าง ระบบประสาทเริ่มรวน ผมจะขยับแขนขวาทำไมขาซ้ายมันขยับว๊า........ ลาก่อนมนุษย์โลกแอ้ก!!!!!!!!!!!!!
“นั่นมันยังเหี้ยไม่พอนะเว้ย มันพาดหัวข่าว่า @$(%)^(*%_$($+_@$(%^%@_+^()@W*@&% เนี่ยดูมันพูดเดะ”
ไม่ทันละ หาอะไรสอยวิญญาณที่ล่องลอยของผมลงมาหน่อย ลาก่อนมนุษย์โลกแอ้ก!!!!!!!!!!!!!
“เห้ย มันพูดเหี้ยอะไรของมันวะ” เจไดต์พูด และคว้าโทรศัพท์ของผมไป - - ผมตายแล้ว แอ้ก - -
เวอร์ชัน ::::: เจไดต์
“อย่างที่ได้ยินนั่นแหละเจไดต์ พวกนี้มันปากปีจอหน่ะ แต่อย่าห่วงเลยเจไดต์ โชคดีนะที่พวกนั้นเซนเซอร์หน้าเอาไว้ พวกห้องอื่นหน่ะไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร เพราะแอลป์ได้ไปถามทุกคนแล้ว พวกนั้นไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ในรูปคือใคร ถึงแม้ว่าห้องบรมสบายแห่งโครงการพิเศษมันมีอยู่ห้องเราแค่ห้องเรากับรุ่นพี่อีกสองห้อง แต่คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ”
“จริงเหรอแอลป์” ผมพูด
“อึ้ม ไม่ต้องกลัวสบายใจได้ เจไดต์กับตะวันไม่ต้องเป็นห่วง” เสียงปลายสาย เธอเยี่ยมมาก
“ขอบใจนะแอลป์ ยัยหัวหน้าห้องทองคำ”
“ย่ะ ไอ่เจไดต์ เจ๊าพ่อขี้เก๊ก” - - อ่ะโด่
“555+ จริงๆแล้วหน่ะเจไดต์ไม่เป็นไรหรอก แต่ตะวันหน่ะสิ มันสลบไปละ” ผมมองไปทางตะวัน - -ง่ะ น่ารัก แค่น่ารักเท่านั้น โด่ คิดไรวะเนี่ยกู
“โหย งั้นดูแลตะวันด้วยนะเฟร้ย ถ้าเกิดวันวันจังมีรอยขีดข่วนหล่ะก็ ทั้งห้องจะรุมทึ้งแก อ้ากส์”
“คร้าบๆ ยัยหัวหน้าห้องสุดถึกแถมสวยไม่เสร็จกับเพื่อนร่วมห้องสุดเถื่อนคร้าบ ผมจะดูแลวันวันจังของทุกคนให้ดีเองคร้าบ”
“ว่าแต่แกกอดตะวันทำไมห๊า นังเจไดต์ จะทำอะไรวันวันจังของช้านนนนห๊า บอกมาเดี๋ยวนี้!!” - - ทำอย่างกับตำรวจ บอกให้ผู้ร้ายสารภาพ
“ก็อากาศมันหนาว แอลป์ก็น่าจะรู้จักนิสัยของเจไดต์นี่นา”
“ให้เป็นจริงเหอะย่ะ ชั้นง่วงละ บาย”
“อึมบาย”
เง้อออออออออ ตะวันเอ้ย ผิดที่เจไดต์แท้ๆไม่น่าเลย ให้ตายสิ ตรูทำตะวันซวยอีกแล้ว ซวยเหมือนตอนที่แข่งว่ายน้ำเมื่อเดือนก่อนเลย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าซวยกว่าเพราะข่าวมันผ่านจากพวกนักข่าว แต่ตอนนั้นที่ผมใส่กางเกงในว่ายน้ำยืนกอดกับตะวัน เป็นแค่คนที่แข่งว่ายน้ำด้วยกัน มันไม่ค่อยเป็นข่าวมากเพราะพวกนนั้นมันไม่ค่อยสนอะไรอยู่แล้ว ก็เลยปล่อยไป มันผ่านมาแล้ว ครั้งนี้คงจะไม่จบง่ายๆแน่
==========
เวอร์ชัน ::::: ตะวัน
เท้าความถึงตอนที่แอลป์โทรมา ผมก็รู้สึกว่าเวลามันหยุด แต่หลังจากที่เจไดต์เล่าเรื่องให้ผมฟังเนี่ย ผมรู้สึกเหมือนเกิดใหม่ - - ก็นะ เอาหล่ะเอาเป็นว่ามันผ่านไปแล้วละกัน 555+ มันคงจะเป็นคราวซวยของผมล่ะมั้งนะ
ในที่สุดก็ถึงซักทีที่แข่งขัน แต่กว่าจะได้แข่งคงจะเป็นวันพรุ่งนี้หล่ะนนะที่จะได้แข่งเพราะผมมาก่อนวันนึง แต่ทำไมผมต้องออกรถตั้งแต่เช้า(มาก)ด้วยนะ ไม่เข้าใจเจ๊มิสมากเลย โว้ะ!!! - - นางก็พาทัวร์พี่แข่งขันก่อนหล่ะนะ ตอนจริงจะได้ไม่ทำด้วยเป็นคนบ้านนอกเพิ่งเข้าเมืองกรุงครั้งแรก อย่างที่บอกว่าพาทัวร์ แต่เจ๊มิสนี่หน่ะสิทำไมกันพาทัวร์ก็บอกแบบไม่ต้องมากความก็ได้ บอกพอให้รู้ทาง แต่นางบอกเจาะลึกมาก - - นี่ครูครับ ผมไม่อยากรู้ประวัติศาสตร์ของที่นี่นะ ผมมาสอบชีวะนะครับ - -
กว่านางจะบอกหมดก็ปาไปชั่วโมงกว่า ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าละ ข้าวเช้าก็ยังไม่กิน นางบอกว่าพอถึงที่พักค่อยกินแล้วกัน แต่ทำไมตอนนี้ผมถึงเวียนหัวอย่างนี้เนี่ย ผมเมารถอย่างนั้นเหรอ ไม่นะ ปวดหัวอีกตาเริ่มพร่าแล้วสิ สงสัยคงถึงที่พักคงต้องนอนพักแล้วหล่ะ เพราะว่าก่อนที่จะมาแข่งเนี่ยผมอ่านหนังสือหนักมาก ไม่ใช่เพราะผมจะต้องมาแข่งชีวะนี่หรอก ผมต้องอ่านหนังสือสอบเข้าแพทย์ให้ได้
“นี่วันวัน อย่าอ่านหนักมากนะลูก เดี๋ยวไม่สบาย” แม่ผมพูดตอนที่แม่กำลังหั่นผักอยู่ แม่จะทำอะไรกินนะเนี่ย
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ วันออกจะแข็งแรง อีกอย่างหน่ะ มันใกล้จะสอบแล้ว วันเลยขอตั้งใจหน่อย”
“แต่วันวัน อ่านมากไปก็ไม่ดีนะรู้มั๊ย เดี๋ยวตายตอนก่อนสอบ” - - แช่งอ่ะเปล่าเนี่ย
“คร้าบไม่เป็นไรหนอก พวกเชื้อโรคมันกลัว นายตะวันคนนี้นะแม่”
“งั้นก็อย่าหักโหมหล่ะ”
สงสัยมันคงจะเป็นสิ่งที่แม่เตือนแล้วหล่ะ
============
ถึงแล้วววววววววววววววววววววว นี่เหรอ มันคงจะมีน้ำอุ่นนะ
“อ้าวนี่ พวกเธอขนของลงจากรถนะ แล้วไปรอที่ลอบบี้ เดี๋ยวฉันตามไป” พูดเสร็จผมกับเจไดต์ก็ลงจากรถ แต่ผมลงจากรถผมทรงตัวแทบจะไม่อยู่ โอยไม่ไหวละ
ฟุบ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เฮ้ตะวัน !!!” ผมได้ยินเสียงเจไดต์ก่อนที่จะสลบไป
เวอร์ชัน ::::: เจไดต์
“ตะวัน ตะวัน ตะวัน อย่าเป็นไรอะไรไปนะเว้ย ตื่นมาคุยกับเจไดต์ก่อน ตะวันน้อยเอ้ย ไม่สบายก็ไม่คิดจะบอกกันบ้างเลยหรือไง ไม่สบายก็น่าจะบอกกันบ้าง อย่างนี้หล่ะน๊า ถึงเป็นแบบแบบนี้” ผมอุ้มตะวันขึ้นห้องพัก ผมทุลักทุเลมากเวลาเดินอุ้มตะวัน จริงๆแล้วตะวันไม่ได้หนักอะไรมากหรอก แต่ผมค่อนข้างที่จะทำของอยู่ในมือตก ผมเลยกลัวที่จะทำตะวันตก
“ตะวัน นายคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ นายออกจะแข็งแรงนี่ พักผ่อนแล้วคงจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง นอนก่อนนะ เดี๋ยวเจไดต์เอาของเข้าตู้ก่อน” ตอนนี้ตะวันก็ยังหลับสนิทอยู่ คงจะดีขึ้นแล้วสินะ
“เจไดต์” เสียงของตะวันอยู่ในลำคอ แทบจะได้ค่อยได้ยิน
“มีไรเหรอ จะเอาอะไรเดี๋ยวเอาให้” ผมพูดพร้อมกับกุมมือของตะวันไว้
“หนาว...” ตะวันก็เปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ดูเหมือนจะดังกว่าครั้งก่อน
“หนาวหรอ” ผมถาม แล้วผมก็เดินไปหยิบผ้าห่มอีกผืนที่ตู้เสื้อผ้า และผืนที่อยู่ที่เตียงของผม
“หนาว” ตะวันส่งเสียงเรียกอีกครั้ง
“หือ เจไดต์ก็เอาผ้าห่มมาให้วันหมดแล้วนะ” หรือว่ามันยังหนาไม่พอ
“ได้โปรด เจไดต์อย่าไป อย่าทิ้งวันไว้ตรงนี้ อย่าปล่อยวันไว้คนเดียว อย่าทิ้งวันไป กลับมาก่อน” สงสัยเป็นเพราพิษไข้หล่ะมั้ง “ หยุดเถอะได้โปรด อย่าไป” ผมนั่งลงบนเตียง เอาผ้าห่มคลุมขา พร้อมกับกอดตะวันไว้แน่น
“ไม่ได้ไปไหน วันวัน เจไดต์ไม่ได้ทิ้งไปไหน เจไดต์อยู่ที่นี่” ผมปลอบ พร้อมกับลูบหัวของตะวันอย่างเบามือ
“อย่าไป อยู่กับตะวันนะ” ตะวันกอดผมแน่นขึ้น สงสัยจะกลัวจริง
“ไม่เป็นไรๆ เจไดต์อยู่ที่นี่กับตะวันเองนะ”
“อยู่กับตะวันนะ”
“ครับๆ”
ผมนอนกอดตะวันอยู่นานทีเดียว ผมรู้สึกว่าทำไมผมต้องนอนกอดกับผู้ชายด้วย ผมเป็นผู้ชายนะ แต่ก็ช่างมันเหอะ ตอนนี้ตะวันหน้าเป็นห่วงกว่า เรื่องอื่นก็ช่างมัน อะไรกันนะความรู้สึกนี้ ผมไม่เคยกอดกับผู้ชายมาก่อนยกเว้นพ่อของผม แต่ก็ไม่บ่อย กับตะวันคนนี้ ผมไม่อยากปล่อยเขาออกจากอ้อมอกเลย
==========
อ่ะ หลับไปตอนไหนเนี่ย กี่โมงแล้วเนี่ย ผมเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาข้อมือที่อยู่หัวเตียง “นี่มัน บ่าย 3 โมงแล้วเหรอเนี่ย” สายตาของผมกลับมามองคนไข้ที่ยังหลับอยู่ในอ้อมแขนของผม “คงจะหลับสบายสินะ”
.... อะไรกันปากสีชมพูอ่อนตรงนั้น มันช่าง...
เฮ้ยคิดไรเนี่ย - - “ได้เวลาเช็ดตัวอีกรอบแล้วหล่ะ”
ผมเอามืออีกข้างรองหัวของตะวันแล้วเอาแขนที่ตะวันนอนทับอยู่ออก แล้ววางหัวของตะวันอย่างเบามือลงบนหมอนที่นุ่มเหมือนยัดด้วยขนเป็ด
...ใบหน้านั่น มันช่าง ... น่ารัก.......
เฮ้ย บ้าแล้ว โว้ววว โป๊ก!!!!! โอ๊ย จะเขกหัวตัวเองทำไมเนี่ย ตั้งสติๆๆๆ เมื่อผมรวบรวมสติได้ ผมเดินไปในห้องน้ำเพื่อเอาผ้าไปชุบน้ำอุ่น เอี๊ยก ซ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอ๊ะ เปิดน้ำแค่นี้ทำไมเสียงมันเหมือนฝนตกหล่ะเนี่ย หลังจากที่เอาผ้าชุบน้ำเสร็จก็เดินออกมา มองออกไปยังหน้าต่างริมระเบียง “จริงๆด้วยสิ ฝนตก”
“ตะวันครับ เจไดต์ขอเช็ดตัวหน่อยนะ” ไม่เสียงตอบรับของคนที่ถูกถาม ผมเลยจัดการเช็ดใบหย้าของตะวันอย่างเบามือ แล้วผมค่อยๆลูบไปตามแขนเรียวขาวของคนไข้ “เอิ่มตะวันขออนุญาตนะ” ผมพยายามปลดกระดุมบนเสื้อของตะวัน โดยไม่ให้เจ๊าของเสื้อตื่นขึ้นมา ถ้าเกิดตื่นขึ้นมาตอนนี้หล่ะมันคงจะคิดว่าผม ข่มขืน มันหล่ะมั้ง
...อะไรกันผิวขาวเนียนแบบนั้น...
...ชักจะทนไม่ไหวแล้ว ตะวัน ทำไมนายถึงน่ารักขนาดนี้...
ผมพยายามห้ามใจตัวเองไว้ ไม่ให้ไปทำอะไรตะวันเข้า ตอนนี้เค้าไม่สบายถ้าเกิดมีอะไรตอนนี้ ผมก็จะเป็นคนที่เอาเปรียบมากที่สุดเลยน่ะสิ - -ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการเช็ดตัว ผมไม่เคยเช็ดตัวให้ใครมาก่อนเลย แม่ก็ไม่เคยจริงๆนะ “โถ่ วันวันคุง หนังกำพร้าจะหลุดออกมั๊ยหล่ะเนี่ย ผมก็เช็ดอย่างเบามือที่สุดแล้วนะ.....เรื่องเมื่อตอนนั้น
... “ได้โปรด เจไดต์อย่าไป อย่าทิ้งวันไว้ตรงนี้ อย่าปล่อยวันไว้คนเดียว อย่าทิ้งวันไป กลับมาก่อน”...
... “ หยุดเถอะได้โปรด อย่าไป” ...
...“อย่าไป อยู่กับตะวันนะ” ...
...“อยู่กับตะวันนะ”...
คงจะละเมอใช่มั๊ยตะวัน ก็นะ มันคงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วหล่ะที่ตะวันจะมารักเจไดต์ ตัวนายเองเป็นผู้ชาย ส่วนตัวเจไดต์เองก็เป็นผู้ชาย แต่เจไดต์จะบอกว่า เจไดต์รัก ตะวันนะ
==========
เวอร์ชัน :::: ตะวัน
อะไรกัน ผมตายแล้วเหรอ สงสัยนี่คือสวรรค์ มันช่างว่างเปล่าและขาวโพลน และภาพก็ได้เปลี่ยนไปกลายเป็นภาพสวนสาธารณะที่ไร้ผู้คน ผมมองไปเห็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ผมจะไปถามว่าที่นี่มันที่ไหน
If there were no words
No way to speak
I would still hear you
If there were no tears
No way to feel inside
I'd still feel for you
...เสียงเพลงนั่นมาจากไหน...มาจากไหนนะ...
And even if the sun refused to shine
Even if romance ran out of rhyme
You would still have my heart until the end of time
You're all I need, my love, my Valentine
...รู้สึกว่ายิ่งเดินไปใกล้กับคนนั้น จะได้ยินเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น หรือว่าเขาคนนั้นเป็นคนร้องเพลงนี้...
All of my life
I have been waiting for
All you give to me
You've opened my eyes
And shown me how to love unselfishly
...ทำไมเพลงนี้ มันเพราะอย่างนี้เนี่ย เหมือนมีแรงดึงดูดให้ผมไปใกล้กับคนๆนั้นมากขึ้น.....อะไรกันนะ ความรู้สึกนี้ ทำไมมันช่างคุ้นเคยเหมือนกับเคยเจอมาก่อน...
I've dreamed of this a thousand times before
But in my dreams I couldn't love you more
I will give you my heart
Until the end of time
You're all I need, my love, my Valentine
...อะไรกันทำไม....เจไดต์ เสียงนี้ มันคือเสียงเจไดต์งั้นเหรอ แล้วชายคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง...
...แล้วนายร้องเพลงนี้ให้กับใคร ใครกันที่เป็น my Valentine ของนาย มันคงจะไม่ใช่วันหล่ะสินะ ทำไมต้องเป็นเขาคนนี้ด้วย...
“You would still have my heart until the end of time” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา อ่ะ....ไม่จริง....อ่ะ...ไม่ ....เจ...เจ...เจดต์ ทำไม... ทำไมกัน รอยยิ้มนั่น...
ของเหลวสีแดงข้นคล้ายกับน้ำแดงผสมกาแฟไหลออกมาจากปากของเจไดต์
“ไมนะ เจไดต์ ......ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!.............” แล้วภาพของชายที่อยู่ตรงหน้าก็ได้เลือนหายไปเหลือเพียงแต่ต้นไม้กับใบไม้ที่ร่วงโรย “เจไดต์ อย่าเป็นอะไรนะ เจไดต์ อยู่กับตะวัน วันกลัว อย่าทิ้งวันไป เจไดต์ไปแล้ววันจะอยู่กับใคร.....” แล้วภาพทั้งหมดก็ได้เลือนหายไปเหลือไว้แต่ความมืดมิดที่ไม่มีแสงใดรอดเข้ามา เปลือกตาของผมเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนปิดตาสนิท แล้วผมก็ไม่รู้สึกตัว
==========
ผมค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อเจอกับแสงสว่างผมต้องใช้เวลาซักครู่กว่าจะปรับสภาพให้เป็นปกติ “ที่นี่ที่ไหนกัน” ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาจากสมอง เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อนนี่ ผมมาโผล่ที่ไหนกันนะ แต่ทำไมไม่รู้สึกกลัวเลยนะ แต่อะไรหนักๆมาทับตัวผมอยู่หล่ะเนี่ย โอยขยับลำบากชะมัดเลยให้ตายสิ ผมหันหน้าไปทางขวา จมูกของผมไปชนกับสิ่งๆหนึ่งเข้า โอ๊ย อะไรกันนะเนี่ย แต่กลิ่นมันคุ้นๆนะ กลิ่นของน้ำหอมยี่ห้อนึง กลิ่นคุ้นๆน๊า กลิ่นน้ำหอม.....ของ...ของ...เฮ้ย เจไดต์ !! ผมพยายามเงยหน้า มันช่างลำบากอย่างนี้นะ
“เฮ้ย เจไดต์” เฮ้ย ทำไมมันนอนกอดผมอย่างนี้เนี่ย อ้าก เจไดต์ปล่อยนะ ผมผลักตัวของเจไดต์อย่างแรงแต่มันก็ไม่หลุดออกเช่นเคย ปล่อยนะเจไดต์ ปล่อย.........ปล่อยนะเจไดต์ปล่อยยยยยยยยยยย (จริงๆแล้วก็นอนต่อก็ดีนะ) ผมใช้แรงผลักอย่างแรงอยู่นานทีเดียว “ปล่อยนะเฟร้ย ปล่อย......”
“อ่ะ ตะวัน ตื่นแล้วเหรอ” - - กว่าจะรู้สึกตัวนะนาย - - “โอยยย ง่วงจริงไรจริงเลย” เจไดต์ปล่อยมือจากตัวผม พร้อมกับทำท่าบิดขี้เกียจ “สงสัยจะสบายตัวขึ้นละมั้งเนี่ย เสียงใสขนาดนี้หนะ ชิมิ นายตะวัน”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เจไดต์ นายนอนกอดช้านทามมาย ห๊า!!!!” ผมลุกขึ้น แล้วรีบดึงผ้าห่มมาห่มตัว “จะทำอะไร” ผมเริ่มจะกลัวแล้วนะ TOT
“ห๊า!!!!! นายตะวันจำไม่ได้ใช่มั๊ยว่านายทำอะไรตอนหลับหน่ะ” เจไดต์ทำตาโต - - ไม่รู้ไงถึงถามหน่ะ
“ทำอะไร วันทำอะไร” ผมเกร็งตัวจนตัวสั่นหมดละตอนนี้
เจไดต์ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “นี่ ฟังเจไดต์พูดนะ มันไม่ได้เป็อย่างที่ตะวันคิดหรือเห็น” - - ไม่ให้คิดก็บ้าแล้วสิเฮ้ย ตื่นมามีผู้ชายนอนกอดเนี่ย มันคงจะเป็นเรื่องตลกหรอกนะ ไม่คิดสิแปลก - - “จริงๆแล้วหนะ ช่วงที่เราลงรถ จู่ๆวันก็ล้มลงและสลบไป ดีนะที่รถไม่เหยียบหัวเละกลางถนนหนะ” นี่จะเล่าให้ฟังหรือว่าจะแช่งให้ตายหน่ะ ผมเริ่มจะลดผ้าห่มจากออกลงมาที่เอว “แล้วเจไดต์ก็อุ้มตะวันขึ้นมาบนห้อง วันตัวร้อน เจไดต์ต้องได้เช็ดตัวให้หลายครั้ง ไม่นานนักหรอกตัววันก็หลับไป” อึมแล้วทำไมไม่ไปส่งที่โรงบาลหล่ะเนี่ย “ซักพักตะวันก็ละเมอขึ้นมา”
... “หนาว”...
... “ได้โปรด เจไดต์อย่าไป อย่าทิ้งวันไว้ตรงนี้ อย่าปล่อยวันไว้คนเดียว อย่าทิ้งวันไป กลับมาก่อน”....
... “ หยุดเถอะได้โปรด อย่าไป” ...
...“อย่าไป อยู่กับตะวันนะ” ...
...“อยู่กับตะวันนะ”...
“เจไดต์ก็เลยกอดตะวันไว้” แล้วเจไดต์ก็เล่าเรื่องที่เหลือ เรื่องค่อนข้างยาวนะเนี่ย ผมทำขนาดนั้นเลยเหรอ ผมไม่น่าจะทำอย่างนั้นได้น๊า ไอ่เจไดต์มันแต่งเรื่องป่ะเนี่ย - - - (เจไดต์ไม่ได้แต่งเรื่องนะเมี๊ยวววววว เมี๊ยวววเนี่ยคนแต่ง - - ) - - - “แล้ววันก็ตื่นมาเห็นสภาพที่เจไดต์นอนกอดอยู่เงี้ย คนเค้าอุตส่าห์ช่วยแล้วยังมาว่ากันอีก ไม่ช่วยก็ดีหรอก ปล่อยให้หนาวตายก็ดีหรอก เชอะ” เจไดต์ทำเสียงออกแนวน้อยใจ
...แก้มป่องแล้วน่ารักจัง....
“โอ๋ อย่าน้อยใจนะคร้าบบบบบบบ” ผมรีบเดินออกมาจับมือเจไดต์ไว้ พร้อมกับยิ้มขอบคุณปนกลบเกลื่อน “ขอบใจนะเจไดต์ ที่เป็นห่วง แล้วก็ขอบใจอีกอย่างนะ ที่ไม่ปล่อยให้วันโดนรถเหยียบหน่ะ”
“เชอะ”
“ยังไม่หายงอลอีกเหรอง้าบเพ่เจไดต์”
“ถ้าให้หายงอลหน่ะเลี้ยงข้าวเย็นเลย” เย้อ ตอนนี้ตะวันกระเป๋าแฟบนะครับ แล้วจะให้ไปเลี้ยงใครหล่ะทีนี้ขนาดตัวเองยังเอาไม่รอดเลยเฮ้ย “เอาแบบอร่อยๆนะวันวันคุง” - - บอกแล้วไงว่าวันวันหน่ะ แม่เรียกได้คนเดียวเท่านั้น (คนเค้าเรียกกันทั้งห้องหน่ะนายตะวันเอ้ย)
“โอเคร ได้เดี๋ยวตะวันเลี้ยง วันพอจะรู้จักร้านแถวนี้อยู่นะ เดี๋ยวจะทำให้เข็ด เอ้ย พอใจเลยหล่ะ 555+” - - คิดอะไรดีๆออกแล้วหล่ะสิ
“ได้เลย เจไดต์จะรอนะ”
“ล้างท้องรอเลย เจไดต์” เจไดต์นายโดนวันแกล้งแน่ 555+
==========
“ซี๊ดอ้า โอ๊ยยยยยย”
“ทนหน่อยหน่าวันวัน ทนหน่อย”
“โอ๊ย เจไดต์ มาเป็นตะวันดูสิ”
“ทนหน่อยหน่าอีกนิดเดียว ซี๊ดดดด”
“โอ๊ยยยยยยยยย”
“อ๊า......”
.
.
.
.
“เจไดต์มันเผ็ดนะ มาเป็นวันดูสิ วันกินเผ็ดไม่ได้น่ะ เจไดต์ยังบังคับให้กินอีก แกล้งกันชัดๆ”
“ก็ตะวันอยากมาแกล้งเจไดต์ก่อนนี่นา ต้องเอาคืนสิ อิอิ อีกอย่าง บอกว่าจะพามาเลี้ยงนะ ผ่านมา 2 วันเพิ่งจะมาเลี้ยงเนี่ยหราห๊า เลยเอาคืนเล็กน้อย เชอะ คนเค้าอุตส่าห์รอ”
“โอ๋อย่าโกรธตะวันเลยนะ ก็มันจะแข่งแล้ว ก็ต้องอ่านหังสือ อย่าน้อยเราก็ได้ที่ 9 หล่ะนะ มายินดีกันดีกว่าเนอะ”
“อึมๆ เรื่องนั้นไม่ค่อยสนหรอก แต่อนนี้เจไดต์สนุกที่ได้แกล้งวันวันมากกว่า” รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฎบนใบหน้าของเจไดต์
“โถ่ อุตสาห์จะแกล้ง ดันโดนแกล้งเองซะงั้น”
“555+”
ToT ช่วยด้วย ผมโดนแกล้ง ตอนแรกคิดแผนว่าจะแกล้งเจไดต์โดยการพามากินหมูกระทะ แต่สุดท้ายมันก็เอาคือแงๆๆๆๆๆ นึกว่าจะสนุก สรุปคือไอ่เจไดต์สนุกแทน...
“ยังจะหัวเราะอีก ปากพองไปหมดแล้วน่ะ” ผมพูดพร้อมกับดื่มน้ำข้าไปด้วย ก็มันเผ็ดนี่ฝ่า คนบ้าอะไรกินเผ็ดขนาดนี้ เอาเนื้อจุ่มน้ำจิ้มเยอะขนาดนั้นน่ะ - - ทำไมไม่ซดเขาไปเลยหล่ะ
“ปากพองหน่ะเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ยังได้กำไรละนะ อิอิ” - - จะฆ่ากันหรือไงเนี่ย - - “ก็ตัวเองแกล้งเค้าก่อนทำไมหล่ะ เอาของร้อนมายัดปากเนี่ย 555+”
“ไอ่บ้าเอ๊ย” - - อยากจับหน่าไอ่เจไดต์นาบกับเตาซะเหลิอเกิน
“อีกอย่างเรื่องปากพองหน่ะเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ เพราะบางที คงจะหาปากคนแถวนี้มารักษาอาการปากพองหล่ะ” - - อ่านมาจากตำราไหนมาเนี่ย - - เจไดต์ลุกขึ้นแล้วโน้มตัวหาผม มือของมันก็มาจับที่ใบหน้าอันบอบบางคล้ายพื้นถนน ผมพยายามเบี่ยงออก
“555+ กลัวหราจร๊า ที่ร๊ากกกกก” เจไดต์ก็กลับไปนั่งที่เดิม แล้วก็เริ่มกินต่อ ผมเส้นขนพร้อมใจกันลุกพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเลยทีเดียว ตัวสั่นเล็กน้อยขนาด 2 ริกเตอร์ - - อะไรจะละเอียดปานนั้น
“เมื่อกี้....” ผมไม่กล้าสบตาเจไดต์กลัวคนข้างหน้านี้จะทำอะไรผมต่อ - -ชายคนนี้แปลกไปแล้ว หรือว่าเนื้อพวกนี้ใส่เหล้าทำให้ผมเมาหล่ะเนี่ย
“เป็นอะไรไป เขินเหรอไง เป็นการเอาคืนแบบแถมให้ ไม่คิดตังค์น๊า...” ผมหันไปมองหน้าเจไดต์ ผมเห็นรอยยิ้มที่มีความทะเล้นแฝงอยู่ ไม่เคยเห็นใบหน้าแบบนี้มาก่อน ปกติแล้วมันทำหน้าเป็นเจ้าชายน้ำแข็งทำหน้าบุญไม่รับ แต่ทำไมวันนี้ถึงทำหน้าแบบนี้ มันลืมกินยาหรือเป่าเนี่ย = =
“จะบ้าเหรอ ใครเขินมิทราบ”
“จ้ะๆ ไม่เขินก็ไม่เขิน ว่าแต่ทำไมต้องพามากินหมูกระทะตอนอากาศร้อนด้วยเนี่ย ทั้งที่ตอนนี้ฤดูหนาวแล้วเถอะ”
“ก็นะ ก็กินช่วงนี้มันอร่อยนะ ไม่กินก็ไม่เป็นไรนะ” - - บ่นอยู่ได้ เห็นกินเอาๆเนี่ย
“ไม่เป็นไรหนอก ไม่อยากขัดศรัทธาอันแรงกล้า อีกอย่าง ไม่อยากขัดใจที่ร๊ากกกกกกกกด้วย”
“...อะไรฟระ...ใคร”
“น่าจะรู้ตัวนะตะวันคุง”
“...ไรฟระ...หมายความว่าอะไร” - - วันนี้แปลกเกินไปแล้ว คนที่อยู่ตรงข้างหน้านี้ ทำไมกัน... - - เชื้อโรคที่นี่ไปรบกวนระบบประสาทของเจไดต์หรือไงกัน
==========
เวอร์ชัน :::: เจไดต์
คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าตรงนี้ เป็นคนที่ผมรักสุดหัวใจ ผมอยากจะบอกคำว่า “รัก” กับคนๆนี้ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะบอกเค้าได้ ผมมันก็แค่ผู้ชายหนึ่งที่ไปรักเค้าคนนี้ อีกอย่างเค้าเป็นผู้ชาย แล้วจะมารักคนอย่างผมได้อย่างไร กลัวจะบอกไปแล้วเค้าจะรังเกียจ ผ่านมาแล้ว 2 วันแต่ผมรู้สึกว่า มันผ่านไปเพียงแค่ 2 นาที เวลาที่ได้อยู่กับเค้าคนนี้ มันช่างเป็นเวลาที่มีความสุข
มาที่นี่เค้าคงจะมีความสุข เพราะได้เจอเพื่อนใหม่ กับประสบการณ์ใหม่ ผมก็เหมือนกัน และคนที่รู้จักกัน ก็มีบ้างที่จะมีคนแอบชายตามองตะวัน ก็เค้าน่ารักนี่ ย่อมเป็นของธรรมดาสามัญชนอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเราจะกลับโรงเรียน ก็ยังมีรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว คอยตามติดชีวิตของตะวันอยู่ไม่ห่าง ผมก็หวังว่าซักวันหนึ่งดวงอาทิตย์ดวงนี้คงจะหันมามองต้นหญ้าต้นนี้บ้าง แต่เพียงความรู้สึกที่ดีต่อกนอย่างนี้ต่อไปผมก็พอใจแล้ว ผมต้องขอบคุณที่เค้ายังปล่อยแสงที่ทำให้ผมยังมีชีวิตอยู่
.
.
ย้อนไปในวันที่เรากำลังแข่งกันอยู่ มีชายคนหนึ่งมาทักตะวัน ดูเหมือนจะคุยกันถูกคอเลยทีเดียว แต่ผมรู้สึกไม่ถูกชะตาเอาซะเลย หลังจากแข่งวันนั้นเสร็จชายคนนั้นเลยพาไปเลี้ยงข้าว พวกเรากินอยู่นานทีเดียว ตะวันดื่มน้ำเยอะไปหน่อย เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“นี่เจไดต์ ขอถามอะไรหน่อยดิ” ชายคนนั้นเปิดประเด็นทำลายความเงียบ หลังจากที่ตะวันไปเข้าห้องน้ำ
“มีอะไรเหรอเอิร์ธ”
“ขอถามไรเกี่ยวกับตะวันหน่อยดิ” - - จะถามเรื่องตะวัน แล้วมาถามตรูทำไมฟระ
“มีอะไรพูดมาสิ”
“ตะวันมีแฟนหรือยัง?” อ่าวเฮ้ย ถามไรแบบนี้ จะจีบเพื่อนตรูหรา ห๊า ไม่สบอารมณ์เลย
“ยัง” ผมพยายามตอบในดูไพเราะที่สุด แต่ใบหน้ากับไปซะแล้ว จมูกย่นอย่างไม่พอใจที่สุด
“งั้นเหรอ แล้วมีใครที่ชอบหรือเปล่า”
“ไม่รู้” ความอดทนกำลังจะถึงขีดสุด แค่เอาปลายเข็มทู่มาจิ้มก็ระเบิดได้ เสียงเริ่มห้วนเข้าไปทุกที
“งั้นขอจีบหน่อยนะ กูชอบเพื่อนมึงเว้ย”
“ไม่ได้เว้ย กูไม่ให้จีบ” โทสะพุ่ง ไม่ไหวละมึง จะมากเกินไปแล้วนะเว้ย ผมรีบลุกขึ้นจากก้าวอี้ทำให้เก้าอี้ล้ม คนเกือบทั้งร้านเริ่มหันมามองพวกผม และพากันซุบซิบนินทาตามภาษาคน
“ทำไมกูจะจีบไม่ได้ หรือว่ามึงจะหวงเพื่อนมึง ไม่ต้องห่วงหรอก กูจะรักษาอย่างดีที่สุด ดีกว่ามึงแล้วกัน” มันลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยเหมือนกันจะได้พูด(เหรอ)ได้สะดวก - - เออกูหวงพอใจป่ะ- -
“มึงจะมากไปแล้วนะเว้ย ไม่ก็คือไม่”
“ที่ปฏิเสธไม่ให้กูจีบเพื่อนมึงเนี่ย หรือว่า มึงจะชอบตะวัน” เป็นคำถามที่ตรงจุดมากเลยว่ะ ตอนนี่ผมไม่สนความสุภาพละ คนมันโมโหเว้ย มึงกล้าถามกูก็กล้าตอบเว้ย มึงทำให้กูเป็นอย่างนี้เอง มึงคอยดูละกันเวลากูโกรธ
“เออ กูชอบ ถึงแม้มันจะไม่หันมามองกู แต่กูก็รักมันเว้ย” บร๊ะ เสียงที่ผมสองคนคุยกันทำให้คนในร้านทุกคนหันมามองพวกผมเป็นจุดโฟกัส เหมือนพวกเค้ากำลังดูคนที่ถ่ายละครกันอยู่ - - พวกนางคงจะติดละคร
“เหอะรักข้างเดียวงั้นเหรอ แล้วไง เคยบอกรักมันปะ”
“ไม่เคยเว้ย” กูไม่เคยบอกแล้วมันหนักส่วนไหนของมึง กูไม่ได้เอาไปยัดปากมึงเวลาเกิดซักหน่อย
“หึ คนชั้นต่ำอย่างมึง ไม่คู่ควรกับตะวันหรอก อย่างมึงหน่ะ แค่เศษฝุ่นยังของตะวัน ยังสูงกว่ามึง” ท่าทางหยิ่ง จองหองขนาดนี้ เพิ่งจะเคยเห็น มาแรกๆดูเรียบร้อย พูดจาไพเราะ แต่พอรู้จักกันนิสัยแม่กวนส้นteenกูจริง
“มึงเอาอะไรเป็นตัววัด มึงมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหรอวะ”
“เอาตัวกูนี่ไงวัด กูหน่ะไม่เหมือนมึงเว้ย บ้านกูก็ทำธุรกิจส่งออก กูมีเงิน กูเก่งกว่ามึง และกูก็ดีกว่ามึงทุกอย่าง ท่านี้คงจะพอนะว่าทำไมมึงถึงชั้นต่ำ”
“ขอโทษนะ อีดอกไม้เชื้อราเจาะ มึงคิดว่าของแค่นั้นหน่ะ จะมาวัดได้นะ มึงไปให้แม่สอนมึงดีกว่าว่ะ”
“ถ้าเกิดกูเป็นดวงตะวันที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า กูไม่มีทางที่จะมาสนใจหรอก พืชชั้นต่ำอย่างมึงใครจะไปสนใจว”
“กูนี่ไงที่สนใจพืชชั้นต่ำ” เสียงอันคุ้นเคยตะโกนมาจากซักที่ในร้าน ผมกับไอ่เอิร์ธหันไปหาต้นตอของเสียง
“ตะวัน!!!!!” ผมกับไอ่เอิร์ธพูดพร้อมกันโดยอัติโนมัติ
“ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นพืชชั้นต่ำ แต่เค้าก็ทำให้เกิดพืชชั้นสูงได้ พืชชั้นต่ำอย่างนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้พื้นดินของมึงหน่ะ มีสีเขียว ถ้าเกิดว่าไม่มีพวกกู มึงก็แค่ก้อนดินที่ไร้ชีวิตเท่านั้น ถึงแม้กูจะเป็นดวงอาทิตย์ แต่กูก็ยังเห็นคุณค่า และจะคอยปกป้องและดูแลพวกเค้าเว้ย ยังดีกว่าคนที่นับวันยิ่งทำตัวต่ำทรามยิ่งกว่าอะไรอย่างมึง!!! ไปกันเหอะเจไดต์ เราไปอยู่ที่ที่เราอยู่ดีกว่า ปล่อยให้เค้าอยู่ในพวกที่เหมือนเค้าดีกว่า” พูดเสร็จ ตะวันจับมือออกไปจากร้าน เสียงขอตะวันยังก้องอยู่ในโสตประสาท
...ถึงแม้กูจะเป็นดวงอาทิตย์ แต่กูก็ยังเห็นคุณค่า และจะคอยปกป้องและดูแลพวกเค้า...
...เค้ายังคงเห็นคุณค่าของเราสินะ...
ตะวันจับมือผมแน่นมาก สงสัยจะโกรธจัด
“ทำไมเจไดต์ไม่ซัดมันให้หมอบเลยหล่ะ” ตะวันโกรธจริงด้วย ไม่เคยเห็นชายที่อยู่ข้างหน้าโกรธขนาดนี้มาก่อน
“เปลืองมือหน่ะ ช่างมันเหอะ เราคงจะไม่เจอมันอีกแล้วหล่ะนะ” ผมพยายามทำให้อารมณ์ของตะวันเย็นลง ถ้ามันยังร้อนแบบนี้ มันคงจะคุยไม่รู้เรื่องหรอก
“อึม”
.
.
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผมรักตะวันเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก เค้าไม่รังเกียจพืชชั้นต่ำอย่างผมใช่มั๊ย อย่างน้อยผมก็ยังมีที่ให้งอกงาม ซักวันหนึ่ง ผมจะวิวัฒนาการให้เท่าเทียมเค้าคนนั้นให้ได้
“ตะวัน อิ่มยังอ่ะ” ผมเริ่มถามเมื่อเรากินไปได้ซักพักหนึ่ง
“อิ่มแล้วหล่ะนะ แล้วเจไดต์อิ่มยัง ถ้าไม่อิ่มก็ไปตักเพิ่มก็ได้นะ วันเลี้ยงเอง 555+” พูดเหมือนรวย มันเป็นบุฟเฟต์นะนาย กินเท่าไรก็ได้ - -
“โอเคร จะกินให้กระเพาะปริไปเลย” ผมไม่ได้กินจุนะ ผมแค่เสียดายของเท่านั้นเอง
“อย่านะ มันจะระเบิดเดี๋ยวประเทศก็หายไปหรอกวุ้ย” - - อะไรจะเวอร์ขนาดนั้น
“ถึงแม้จะระเบิดแล้วตาย ขอแค่ให้ได้อยู่กับคนที่เจไดต์รักก็พอ”
“โหย เลี่ยนว่ะนาย”
อย่าน้อยก่อนตายก็ขอให้ได้อยู่ ได้เห็นหน้า คนตรงหน้า คนที่เจไดต์รัก คนที่ครอบครองหัวใจของเจไดต์ไว้ คนที่ไม่รังเกียจเจไดต์ เข้าใจมั๊ย ตะวัน...
ความคิดเห็น